ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Sengoku Basara -หากเราจะเป็นคู่กัน- Maybe

    ลำดับตอนที่ #6 : ความน่าจะเป็นที่ 4 คมมีดคือคิเซย์นะ โล่คือโคโตรุ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 56


    ความน่าจะเป็นที่ 4 คมมีดคือคิเซย์นะ โล่คือโคโตรุ

     

                เสียงหยดน้ำเกลือเรียกให้ดวงเนตรที่เหลือเพียงข้างเดียวค่อยๆ ปรือขึ้น มองเห็นเพดานสีขาวแบบเดียวกับเมื่อ 4 ปีก่อนที่เขาโดนแม่ของตัวเองวางยาในอาหาร เพียงแต่คราวก่อนเขาวางใจเกินไปกินเข้าไปเอง

                และนั่นเป็นสาเหตุที่น้าของเขาอย่างเคนชินยอมเสียสละตัวเองให้เป็นเป้าส่งเขาไปอยู่อังกฤษ

                ขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่จะรู้สึกว่ามีใครบางคนจับมือของเขาเอาไว้แน่น ดวงเนตรข้างเดียวเสมองไปยังอยู่ที่หลับอยู่โดยการฟุ่บหน้าลงกับเตียงที่เขานอน

                ซานาดะยูคิมูระ…? … ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่? … ไม่ทันจะขยับมือออกเด็กสาวก็ตื่นเสียก่อน เธอยืดตัวขึ้นโดยไม่ปล่อยมือของเขา แล้วก็สังเกตเห็นว่าคู่หมั้นหนุ่มรู้สึกตัวแล้วจึงรีบโพลงออกมา

                “คุณรู้สึกตัวแล้ว?!ฉันจะไปตามหมอให้คะ!!” แต่ไม่ทันจะได้ไปไหนก็ต้องหันกลับมาเมื่อกลายเป็นมาซามุเนะที่ไม่ปล่อยมือเธอ เขามองเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก่อนที่ไปที่มุมห้องข้างประตู แล้วเอ่ยออกมาเป็นประโยคแรกตั้งแต่รู้สึกตัว

                “ถ้าหมอละก็ยืนเป็นผีสิงมุมห้องอยู่นั่น

     

     

                “เพราะว่าล้างท้องทันเลยรอดมาได้นะครับ เป็นถึงคุณชายก็เถอะแต่อย่าไปกินอะไรที่ตัวเองไม่รู้ว่าเป็นอะไรสิครับ ถึงตายเลยนะครับ!” คุณหมอตำหนิเสียงแข็ง นอกจากคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องภายในของตระกูลดาเตะที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะไม่มีใครรู้ความจริงที่เกิดขึ้น เพราะหากมีคนรู้นายหญิงดาเตะจะไม่มีทางปล่อยไว้ เมื่อนั้นจะมีคนตายอย่างเช่นแพะรับบาปอย่างครอบครัว 'ไอซาว่า  ที่ต้องตายทั้งครอบครัวเพราะผู้หญิงคนนั้น

                Sorry…” ยักไหล่ตอบไปอย่างไม่สนใจในรายละเอียดที่หมอพูด ชายหนุ่มผู้เป็นหมอจะพูดออกมาอย่างสงสัย “จะว่าไป ใครเป็นคนโทรเรียกรถพยาบาลเหรอครับแบบว่าเสียงเขานิ่งมากจนผมคิดว่าแกล้งกันเลยละครับ ถ้าหมอยามาเดระไม่บอกให้ลองไปดูก็ไม่รู้ว่าคุณชายจะเป็นยังไงนะครับ”

     

    เสียงที่นิ่งราวกับแกล้งกัน

     

     

     

                หมอก้าวออกไปจากห้องเรียกให้มาซามุเนะหันมองเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างกายไม่ขยับไปไหนมาตั้งแต่เมื่อครู่ เธอจับมือของเขาไม่ยอมปล่อยเลยทีเดียว

                “เธอไม่เป็นอะไรนะ?

                “คุณมันบ้าที่สุด” หะ? คุณชายถึงกับงง เมื่อคำพูดที่ออกมาจากปากของยูคิมูระหาใช่คำตอบที่เขาต้องการไม่ “คุณมันบ้าที่สุดเลย! ทำไมถึงต้องยอมกินยาพิษนั่นเข้าไปเองด้วย!!

                แล้วก็ร้องไห้ออกมาเฉยเลย ทำเอาคนตาเดียวสะดุ้งเฮือกอย่างลุกลี้ลุกลน รวบมือที่เอาแต่ทุบเขาเอาไว้ก่อนจะเจ็บตัวไปมากกว่านี้

                “เธอเป็นอะไรเนี่ย!

                “คุณรู้บ้างไหมว่าฉันกลัวขนาดไหน!!” ด้วยประโยคนั้นทำเอาคุณชายชะงัก ใบหน้าสวยของเด็กสาวอาบด้วยน้ำตา เธอได้ฟังเรื่องราวระหว่างผู้หญิงคนนั้นกับคู่หมั้นของตัวเองหมดแล้ว และรู้ด้วยว่าทำไมคุณชายถึงยอมกินยาพิษเข้าไปแบบนี้ “รู้บ้างไหมว่าฉันกลัวแค่ไหนว่าคุณจะตายเพราะฉัน

                มือเรียวของยูคิมูระกำเสื้อผู้ป่วยของเขาแน่นจนยับ การให้เมินเฉยต่อคนที่ยอมเสี่ยงชีวิตช่วยตัวเองเอาไว้เธอทำไมได้หรอก!

                I’m sorry” รอบร่างบางเข้าไปกอดหลวมๆ เป็นการปลอบไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ใจของเขากลับเรียกร้องให้ทำแบบนี้

     

                ราวกับไม่อยากให้คนตรงหน้าเจ็บปวดอีกแล้ว

     

                “เธอเห็นแล้วใช่ไหมว่าแม่ของฉันเลวขนาดไหน” เอ่ยปากออกไปทำให้ใบหน้าหวานเงยมองอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไรกับเธอ

     

     

    “ถอนหมั้นกับฉันซะ ก่อนที่คมมีดจะหันมาหาเธอ”

     

     

     

               

     

               

                “ยูคิโระ!!เสียงเรียกที่ทำให้เด็กหนุ่มผมสีฟ้าซึ่งกำลังจะถอยมอเตอไซต์คู่ใจออกจากช่องจอดรถโรงพยาบาลชะงักแล้วหันไปมอง

                “ว่าไง อายุมุ ไม่ได้เจอกันนานเลย” ยามาเดระ อายุมุ เป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกับเขามาก่อนและเจ้าตัวก็มาเป็นหมอ ทำให้เขาไว้ใจคนๆ นี้ค่อนข้างมาก และเจ้าตัวก็เป็นคนรักษาคุณชายเมื่อ 4 ปีก่อนด้วย

                “ฉันสงสัยมากเลยนะ กับเรื่องของคุณชาย” หมอวัยอ่อนเอ่ยกับเพื่อนเก่าอย่างค่อนข้างกังวล เรียกให้โคโตรุขมวดคิ้ว “ทำไม?

                “ก็นี้ไงละ” ยื่นเอกสารบางอย่างให้แก้พ่อบ้านหนุ่มที่รับไปอ่านอย่างไม่เข้าใจในจุดประสงค์ ก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากเม้มแน่นก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

     

                นั่นนายจะเอาไปไหนตั้งเยอะแยะกัน คิเซย์?’

                ก็เอาไปแกล้งคุณชายไงละ โคโตะ

     

    คิเซย์นี่นาย

     

     

     

     

     

                ดวงเนตรสีฟ้ากระจ่างมองหนูตัวน้อยในกรงที่กำลังดิ้นทุลนทุลายเพราะอาหารปนยาพิษแบบเดียวกับที่คุณชายถูกบังคับให้กินมันทรมานอยู่ครู่หนึ่งก่อนแน่นิ่งไป

                “ยาก็ออกฤทธิ์ดี ทำไมเจ้าเด็กนั่นถึงไม่ตายกันนะ?” หญิงสาวที่มองหนูดิ้นทุลนทุลายอยู่เมื่อกี้เช่นเดียวกับเขาเอ่ยเงยหน้าถามเด็กหนุ่มที่สงบนิ่ง

                “เธอรู้อะไรรึเปล่า คิเซย์นะ”

                “ผมไม่ทราบครับ” น้ำเสียงนิ่งเรียกให้หญิงสาวขยับเข้ามาใกล้เด็กหนุ่มผมทอง จับเข้าที่คางของเขาอย่างแรง “แล้วใครเป็นคนเรียกรถพยาบาลมาช่วยมัน”

                เล็บยาวจิกเข้าไปในเนื้อที่แก้มขวาจนเลือดไหลออกมา หากแต่ใบหน้าและดวงเนตรของเด็กหนุ่มก็ยังคงสงบนิ่งเช่นเดิม

                “ผมไม่ทราบครับ”

     

                มือเรียวที่บีบคางของเขาอยู่ถูกปล่อยก่อนที่มันจะง้างเข้ามาตบหน้าของเขาอย่างแรง!

                            เพียะ!!

                ” ใบหน้าที่ถูกตบหันของเด็กหนุ่มหันกลับมาหาผู้เป็นนายอีกครั้งอย่างเรียบนิ่งเช่นเดิม รอยแดงปรากฏบนแก้มของเขา เป็นข้างเดียวกับที่เลือดไหลจากแผล

                “หัดรู้อะไรบ้างก็ดีนะ ไอ้ขี้ข้า”

                ขอโทษครับ” ว่าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอีกครั้ง ครานี้ทำให้เอกสารบนโต๊ะของหญิงสาวถูกปาใส่เขาอย่างโกรธาเด็กหนุ่มก้มลงเก็บเอกสารเหล่านั้นอย่างรู้หน้าที่

                รองเท้าส้นสูงแหลมก็เหยียบลงบนมือของเขา ออกแรงขยี้ให้ปลายแหลมแทงลงไปในมือของเขาที่เกร็งอย่างเจ็บปวด แต่เจ้าของก็ไม่แม้จะร้องออกมา

                “เจ้าเด็กนั่นมันห่วงนังเด็กนั่นมากสินะ” ริมฝีปากแดงกรีดยิ้มออกมางดงามหากแต่แผงไปด้วยความน่าขยะแขยงกับความคิดของเธอ “คราวนี้ฉันจะเล่นงานยัยเด็กบ้านนอกนั่น”

    ครับ

     

     

    คมมีดหันเข้าหายูคิมูระเสียแล้ว

     

     

     

     

                เด็กหนุ่มผมสีทองก้าวออกมาจากห้องของหญิงสาวผู้มียศสูงที่สุดในบ้านหลังนี้ เขาก้าวไปตามทางเดินอย่างเรียบนิ่งจนพ้นเขตของหญิงสาว ผู้หญิงคนนั้นจะต้องสืบหาเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่โทรไปที่โรงพยาบาลแน่

                โทรศัพท์แบบพับสีดำถูกหยิบออกมาดึงซิมออกก่อนที่จะเก็บโทรศัพท์เข้าไปที่เดิม มือเรียวประดับแหวนสีม่วงหนึ่งวงหักซิมนั้นทิ้งอย่างไม่เสียดาย

                “คิเซย์!” เสียงเรียกอันคุ้นเคยจากด้านหลังเรียกให้เขาซุกมือขวาที่กำซิมและมีรอยแผลถูกรองเท้าส้นสูงแทงลงในกระเป๋ากางเกง แล้วหันมายิ้มให้คู่หูของตน

                “มีอะไรรึเปล่าโคโตะ พอดีฉันกำลังยุ่ง”

                “เรามีเรื่องต้องคุยกันเรื่องของคุณชาย” ดวงเนตรสีเดียวกันกับเรือนผมของอีกฝ่ายทอประกายแปลกกว่าปกติทำให้คิเซย์นะเลี่ยงที่จะคุย “ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแหละ”

                “นายจะบอกว่าตัวเองที่มีความรู้เรื่องสมุนไพรมาจากแม่ ไม่รู้เรื่องที่ว่าถั่วเขียวมีสรรพคุณในการล้างพิษรึไง!!!มือที่กำซิมของคิเซย์นะกำแน่น ใบหน้าของเขากลับมาไร้อารมณ์อีกครั้ง

                “ยามาเดระ อายุมุบอกนายมาสินะ?

                “นายรู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางยาคุณชายเลยเอาถั่วเขียวให้เขากินเพื่อลดฤทธิ์ของพิษสินะ?” โคโตรุว่าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพอกัน คิเซย์นะยักไหล่ก่อนจะก้าวเดินต่อ “สบายใจได้ ตอนนี้คมมีดของเธอหันไปหาคุณหนูซานาดะแล้ว”

                เจ้าของผมสีฟ้ากัดฟันแน่นอย่างเจ็บใจพันธะของคิเซย์นะกับผู้หญิงคนนั้นในตอนนี้มันเป็นความผิดของเขาเอง คิเซย์นะยอมเป็นคมมีดให้เธอก็เพราะเขา และเขาก็มีวิธีเดียวที่จะสามารถช่วยเหลืออีกฝ่ายได้!

     

    เขาตัดสินใจแล้ว!

     

     

    “ถ้าอย่างนั้นฉันจะเป็นโล่ให้คุณหนูซานาดะ!!

     

     

    *

     

    ไม่ต้องมีอะไรมากมายครับวันนี้ นิ้วเป็นแผล พิมพ์มากไม่ได้ต้องขอโทษคร้าบ

    ปล.ตอนนี้รีบพิมพ์เพื่อต้อนรับใครบ้างคนจากการสอบคร้าบ

     

    10/07/2556

    FesenyAReseT.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×