ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซีรี่ย์ ความปรารถนา [Akugare]

    ลำดับตอนที่ #5 : Part 4 นักสืบหนุ่ม

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 56


    Neteiru Seven Day

     

    Title : ความปรารถนา

    Author : FesenyAReseT

    Rating : PG-13

    Author Note : นิยายเรื่องนี้มาจากละครสดของกลุ่ม

    คำเตือน : มันมั่วที่สุด

     

    Part 4 นักสืบหนุ่ม

     

     

                    "ดินแดนต่อไปที่เราจะไปคือ เรสเทียร์ อาณาจักรแห่งมนตรา"

     

             “เรสเทียร์?” เจสเตอร์หนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงสัยกับเป้าหมายต่อไปของพวกเขา เรสเทียร์...อาณาจักรแห่งมนตรา

             “ใช่ เรสเทียร์ อาณาจักรแห่งมนตรา ข้าว่าจะไปหาเวทย์ใหม่ๆ ที่นั่นดู” โครอสว่าพลางม้วนเส้น

    สปาเก็ตตี้เข้าปากตนเอง

             “นอกจากนั้นอาณาจักรเรสเทียร์ยังเก็บตำนานต่างๆ เอาไว้มากมายด้วยละครับ ไม่แน่ว่าอาจจะมีวิธีช่วยให้เนียซังกลับเป็นคนธรรมดาได้ก็ได้นะครับ” อาลาดินว่าด้วยน้ำเสียงร่าเริงเกินบรรยายหากแต่ตรงข้ามกับสองหนุ่มอายุมาก(?)ทั้งสอง พวกเขาต่างครุ่นคิดไม่ตกกับชื่อของอาณาจักรนี้

     

     

             ...อาณาจักรที่พวกเขาไม่ควรก้าวเข้าไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามที

     

     

    "ข้ากับเนียจะไปรอที่อาณาจักรถัดไป แบบนั้นจะดีกับเนียและตัวข้ามากกว่า" เทสสรุปสั้นๆ ด้วยโชคดีของเขาที่คู่หูผมทองทำหน้ากังวลราวกับว่ามันเป็นสถานที่ๆ เจสเตอร์หนุ่มไม่ควรเข้าไป ...เช่นเดียวกับเขา
    “เอ๋? ทำไมละเทส” นาเทียร่าถามอย่างผิดหวัง หากแต่โจรหนุ่มทำเพียงยิ้มบางๆ ให้โดยไม่ตอบอะไร เนียลุกขึ้นเดินไปจ่ายค้าอาหารก่อนเดินออกไปจากร้านอย่างเงียบงันจนเทสเกือบตามไม่ทัน
     
    “ไว้เจอกันนะ!

     

     

     

             ใบหน้าของแม่มดสาวดูหงุดหงิดเหลือเกิน ตั้งแต่ที่เบ๊สองคนมันไม่ยอมมาด้วย ทั้งๆ ที่เป็นอาณาจักรใหญ่หากให้พวกมันแสดงกายกรรมคงหาเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

             ปึก! ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งชนเข้ากับโครอสอย่างแรงจนล้มไปทั้งคู่

             พี่สาว!” ทั้งนาเทียร่าและอาลาดินรีบถลาเข้ามาดูหญิงสาวในขณะที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากการล้มหน้าทิ่ม(ได้ยังไงไม่รู้)

             ขออภัยนะขอรับ พอดีข้ารีบไปหน่อย.... ไม่คุ้นหน้าเลย พวกท่านเป็นนักเดินทางหรือขอรับ ชายหนุ่มผมสีดำชี้ไม่เป็นทรงส่งยิ้มให้ทั้งสามชวนให้ไว้ใจแบบแปลกๆ

             อะ เอ่อ ใช่ โครอสถึงกับสะอึกกับความแปลกของชายตรงหน้า ชายคนนั้นยิ่งยิ้มออกมามากกว่าเดิมก่อนจะคว้ามือหญิงสาวเอาไว้แน่น

     

     

             ผู้ช่วยให้รอดมาแล้ว!!!”

     

             หา?” ทั้งสามส่งเสียงอุทานพร้อมกันด้วยความงุนงงกับคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า เขาทำตาแวววับมากกว่าเดิมจนถ้าเบ๊สองคนมาเห็นคงตะโดนรุมกระทืบด้วยความหมั่นไส้ไปนานแล้ว

             ข้า ข้าชื่อ ฟู ซาคาโมโตะ ขอรับ มาจากดินแดนทางตะวันออก ข้ากำลังมีปัญหากับการเข้าไปในเมืองอยู่พอดีขอรับ ได้โปรดช่วยข้าด้วยนะขอรับ!” ร่ายมาเป็นชุด หาได้ใจความไม่ สรุปมันต้องการอะไรกันแน่? แต่ที่รู้ๆ คือ....อย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหมเห็นแล้วแม้แต่แม่มดยังสงสาร!

             ด ได้สิ ความเป็นคนดีเกินกว่าจะเป็นแม่มดของโครอสทำพิษอีกแล้ว......

     

     

     

     

             นักสืบ?” นาเทียร่าส่งเสียงถามอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินชายหนุ่มบอกอาชีพของตนเอง ฟูหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะพยักหน้าตอบรับ

             แต่ก็ยังเป็นพวกอ่อนหัดอยู่ขอรับ....เท่าที่ดู พวกท่านคงมิได้เดินทางกันแค่สามคนสินะขอรับ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม หากแต่ตอนนี้แววตาของเขากลับมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่

             เจ้ารู้ได้ไง?” โครอสถาม

             เอาเป็นว่าข้ารู้ก็แล้วกันนะขอรับ... รอยยิ้มมีเล่ห์ชวนให้สยองขวัญเรียกสัญชาตญาณของแม่มดสาวทำงานทันทีเช่นเดียวกับอาลาดินที่คว้าข้อมือของนาเทียร่าเอาไว้แน่น

             หมดธุระกับเจ้าแล้ว พวกข้าขอตัว รีบลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไปจากร้านเหล้าที่มีเหล่าพวกขี้เมามาดื่มกินสุรากันตั้งแต่กลางวันแสกๆ

             หากแต่ว่า....ชายฉกรรจ์เหล่านั้นกลับลุกขึ้นมาล้อมทั้งสามเอาไว้

             ข้ายังไม่ได้บอกให้ท่านลุก จะลุกได้อย่างไรเล่าขอรับ

             ฟู ซาคาโมโตะ เจ้า!” แม่มดสาวหันไปส่งสายตาอาฆาตให้แก่นักสืบหนุ่มที่ยังคงยิ้มพลายไม่เปลี่ยนแปลง เธอจึงเริ่มร่ายเวทย์มนต์เพื่อหนีไปจากเงื้อมมือของชายคนนี้....หากแต่.....

             เวทย์มนต์ ใช้ไม่ได้?!” อาลาดินร้องเสียงหลงเมื่อเวทย์ของตนเองไม่ยอมสัมฤทธิ์ผล เช่นเดียวกับโครอส ฟูหัวเราะร่าก่อนที่จะเฉลยออกมา

             พื้นที่ภายใต้การดูแลของตระกูลเรสเทียร์ จะไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้

             ลูกพี่ อีกสองคนมันอยู่ที่เมืองข้างๆ ครับ ชายร่างใหญ่รายงานในสิ่งที่เจ้านายหนุ่มได้สั่งเอาไว้ ฟูพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยสั่ง

             ไปจับพวกมันมา แล้วไปขังในคุกมืด ส่วนสามคนนี้....ไปที่คุกสี่เหลี่ยม

     

     

           ตอนนี้เองที่โครอสรู้สึกเจ็บใจที่ไม่ยอมเรียนวิธีสื่อสารผ่านสายลมมาจากเนีย เพราะวิธีนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้เวทย์มนต์ หากระยะทางหากกันเพียงเมืองเดียว

     

     

    เนีย เทส รีบหนีเร็วเข้า!!!

     

     



     

             ดวงเนตรสีฟ้ากระจ่างของเจสเตอร์หนุ่มจับจ้องรูปวาดในมือของตนเองด้วยใบหน้ายากจะเข้าใจ โหยหา รักใคร่ หรือ เศร้าโศก

             รูปอะไรหรือ เนีย

             รูปวาดเหมือนน่ะ....มีข้า น้องสาว แล้วก็เพื่อนสนิท เนียตอบด้วยใบหน้าเช่นเดิมจนเทสรู้สึกลำบากใจ

             น้องสาวข้า เซเรเฟีย เป็นคนดีมากเลยละ นางจักช่วยเหลือทุกคนไม่ว่าจะดีหรือเลว ไม่ว่าผู้ใดก็ต่างรักนางกันทั้งนั้น วางรูปวาดลงบนโต๊ะเพื่อให้โจรหนุ่มได้เห็น ภาพเหมือนที่ทำให้เห็นว่าชายผมทองตรงหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่จะสักนิด เปลี่ยนไปเพียงรอยยิ้มที่ฉายบนใบหน้า เพราะในรูปรอยยิ้มที่ออกมาเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริง หากแต่บัดนี้มีพียงความเศร้า

             ชุดเจ้าดูเก่ากว่าคนอื่นเลยนะ เนีย ....แล้วคนที่ใส่เกราะเหมือนอัศวินคนนี้ละ?” ชี้ไปที่คนข้างๆ เด็กสาวในรูปวาด เขาดูเป็นคนที่ดูดีไม่เลวเลย หากชายหนุ่มหน้าตาไม่ดีเห็นเข้าคงสาปแช่งให้เขาไปตายแบบไม่มีวันเกิดใหม่

             เพื่อนข้าเอง เขาชื่อ เรเฟล ทาร์ค  เขาเป็นคนที่นิสัยต่างจากเจ้าคนละขั้วเลยละ....แต่ก็เหมือนกันตรงหน้ามุ่งมั่นละมั้ง? เพราะเขาไม่ไร้สาระแบบเจ้า

             สรุปว่านี่ชมหรือด่า?”

             ก็คิดเอาเองสิ

          

             จอมโจรหนุ่มตวัดดวงเนตรสีเดียวกับเรือนผมมองเจสเตอร์หนุ่มตรงหน้าอย่างเคืองๆ ก่อนที่จะถอนหายใจ ...เขาคงแก้นิสัยกวนๆ แบบนี้ของคนตรงหน้าไม่ได้หรอก ทำได้แค่ทำใจยอมรับต่อไปเท่านั้นแหละ ...แต่แล้วเสียงที่ทำให้พวกเขาหลุดออกจากการสนทนาที่เหมือนกับจะทะเลาะกันให้รู้แล้วรู้รอด คือเสียงของเจ้าของร้านหญิงที่กรีดร้องด้วยความตกใจและเจ็บปวด

     

             “ตัวตลกผมสีทองอยู่ที่นี่ใช่ไหม!!”

     

             เสียงที่ตะโกนถามเรียกให้เจสเตอร์หนุ่มและจอมโจรหนุ่มหันมองหน้ากัน ตัวตลกผมสีทอง...ตรงนี้ก็มีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นแหละ...

             “รีบไปดูกันเถอะ”

     

     

     

     

     

     

     

     

             ชายฉกรรจ์ร่างยักษ์กว่าสิบคนช่วยกันทำลายข้าวของในร้านอย่างไม่เกรงกลัวใครพร้อมทั้งตะโกนด้วยเสียงกร้าว

             ตัวตลกผมสีทองอยู่ที่ไหน!!”

     

             ข้าอยู่ตรงนี้!”

     

             เสียงนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกเสียจาก เจสเตอร์หนุ่มแห่งลานแสดงอมตะ เขาไม่รู้หรอกว่าชายพวกนี้ต้องการอะไรจากเขาแล้วทำไมถึงรู้จักเขาทั้งๆ ที่ตัวเขาในตอนนี้ถูกบันทึกว่าตายไปแล้ว!

             ทำอะไรของเจ้ากัน!” เทสที่ตามมาที่หลังเข้ามารั้งตัวตลกหนุ่มเอาไว้ แต่ก็ถูกสะบัดออกอย่างแรงจนเกือบกระเด็น

             พวกเจ้าเป็นพวกของเจ้าคนที่ตามพวกข้ามาตลอดสินะ!” จริงอยู่ที่เขาไม่รู้ว่าพวกนี้รู้จักเขาได้อย่างไรแต่ที่แน่ใจคือมีใครคนหนึ่งตามพวกเขามาตลอด!

             เจ้าหมายความว่าอะไรกัน?” เทสกระซิบถามพร้อมๆ  กับหนึ่งในสิบในกลุ่มชายฉกรรจ์จะหัวเราะ ร่วน

             รู้สึกตัวด้วยหรือ!”

             เจ้านั้นเองก็ดูเป็นคนดีไม่น้อยเลย ผมสีน้ำตาล แถมดวงตายังสีน้ำตาล ดูจากเหรียญข้าราชการแล้ว เป็นนักสืบชื่อ ฟู ซาคาโมโตะ สินะ?” ว่าด้วยรอยยิ้ม เห็นเขาแบบนี้แต่ก็ผ่านสนามรบมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

             สายตาดีนี่ขนาดเพื่อนของพวกเจ้ายังไม่รู้สึกตัวเลย

     

             พวกโครอส?” เทสขมวดคิ้วมองชายคนนั้น ก่อนที่จะเบิกตากว้าง หรือว่าพวกเจ้าทำอะไรพวกเขา!!”

             สมกับเป็นหัวขโมย สมองเฉียบแหลมไม่เลวเลย

            

           ตึง! หมัดของเนียกระแทกลงบนพื้นอย่างแรงจนเศษดินกระจายใส่เหล่าชายฉกรรจ์ ดวงเนตรสีฟ้ากระจ่างเครือด้วยสีเลือด!

             เอาพวกเขาไปไว้ที่ไหน!!”

           “ห่วงตัวเองก่อนเถอะ!!” อัญมณีสีแดงเลือดในมือของชายคนเดิมถูกปาลงบนพื้นก่อเกิดเป็นแรงระเบิดรุนแรง!

     

             ตูม!!!

     

             เนีย!!!!” เทสกำลังจะสปริงตัวเข้าไปช่วยเหลือตัวตลกหนุ่มที่กระเด็นออกมาจากกลุ่มควัน ร่างของเขาสะบักสะบอมไปหมด ด้วยถูกแรงระเบิดเข้าโดยตรง เลือดไหลนองออกมาจนน่าหวาดกลัว หากแต่ในเสี้ยววินาที ผ้าสีขาวก็มาปิดปากและจมูกของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว แล้วสติก็ค่อยๆ เลือนรางลง

     

             พาพวกมันไป เหล่าชายฉกรรจ์ช่วยกันแบกทั้งสองขึ้นบ่า หากแต่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเมื่อร่างของเจสเตอร์หนุ่มลุกขึ้นมาทั้งที่เลือดยังคงไหลออกมาไม่หยด ดวงเนตรคู่นั้นไร้แววสติและเจือด้วยสีแดง

             ห้ามแตะต้องเขา…” ก้าวเดินออกไปแม้ขาจะสั่นจนยากจะก้าวเดิน หากแต่ร่างกายก็ยังคงขยับตามความต้องการ ...เพื่อปกป้อง เพื่อน ของเขา...

            

             ...ภาพในอดีตซ้อนทับเข้ามาในดวงตาของเขา

             ...เฝ้าหลอกหลอนจนแทบบ้า

     

     

             “อย่าแตะต้องเพื่อนข้าของเป็นอันขาด!!!!” เสียงตะโกนดังก้องพร้อมกับที่เขาที่ดูราวกับคนไร้สติพุ่งเข้าหาชายทั้งสิบก่อนที่เหล่าชายฉกรรจ์ที่ดูจะเก่งกาจเมื่อครู่จะโดนซัดลงไปนอนกองกับพื้น

             ดวงเนตรสีฟ้าเจือสีเลือดยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างของโจรหนุ่มที่โดนจับขึ้นพาดบ่าหัวหน้ากลุ่ม แม้เจสเตอร์หนุ่มจะขยับกายจัดการเหล่าชานฉกรรจ์แต่ดวงตาก็ไม่ได้ละออกไปเลย

     

             ...หากแต่มันดูล่องลอย

     

             ...ราวกับว่าโจรหนุ่มคือเป้าหมายที่ต้องจัดการของเขา

     

     

             “คืนมานะ...” พึมพำออกมาโดยไม่หลบขวดแก้วที่ฟาดเข้าที่หัวอย่างแรง ยังคงก้าวเดินต่อไป มือยื่นไปราวกับจะไขว้คว้าอะไรบางอย่างที่...ไม่ใช่เทส

             “...คืนมา...”

     

     

             ...ภาพที่อยู่ภายในดวงตาของเขาไม่ใช่เหล่าคนเบื้องหน้าอีกแล้ว ...หากแต่เป็นภาพอดีตที่อยากลืมที่สุด

     

     

     

     

     

    ‘-เนีย!!!-’

     

     

     

     

     

     

             ผัวะ!! เก้าอี้ไม้ฟาดเข้าที่หัวของเจสเตอร์หนุ่มอย่างแรงจนมันหักคามือ ร่างสีทองล้มลงไปบนพื้นด้วยไม่อาจขยับกายได้อีกต่อไป ก่อนสติของเขาจะถูกกระชากไปได้เอ่ยชื่อหนึ่งออกมาอย่างแผ่วเบา...ไม่มีใครได้ยิน

     

     

    “....เร...เฟล...”

     

     

     

             “ไอ้บ้านี้มันเป็นปีศาจรึไงกันวะ? โดนเข้าไปขนาดนี้แล้วยังลุกขึ้นมาอัดคนได้” หัวหน้ากลุ่มเอ่ยอย่างติดหงุดหงิด มองร่างสีทองที่ถูกหนึ่งในกลุ่มจิกผมขึ้นมาก่อนโยนลงในเกวียนไม้ที่ลากมา เขาจึงส่งโจรหนุ่มไปให้ด้วย ผิดกันที่เทสถูกวางลงเบากว่า อาจเพราะเขาดูไม่มีพิษสงอะไรละมั้ง?

             “ลูกพี่ ไปเลยไหม?

             “เออๆ ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวก็ถูกเจ้านายหักเงินหรอก” ว่าด้วยท่าทางเบื่อหน่าย ก่อนที่เกวียนจะถูกลากออกไป

     

     

    แสงสีแดงสว่างขึ้นในพริบตาที่พวกเขาเลื่อนเกวียนเรียกให้หัวหน้ากลุ่มที่ดูจะรู้เรื่องที่สุดจะเอ่ยออกมา

     

     

     

     

    “ดูเหมือนเขาจะเริ่มงานฉลองแล้วสินะ”

     

     

     

    -+-+-+- FIN. Part 4 And TBC to Part 5 -+-+-+-

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×