ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซีรี่ย์ ความปรารถนา [Akugare]

    ลำดับตอนที่ #4 : Part 3 ปะทะ และ คู่หู

    • อัปเดตล่าสุด 7 ม.ค. 56


    Neteiru Seven Day

     

    Title : ความปรารถนา

    Author : FesenyAReseT [Feat. Sentei Ten]

    Rating : PG-13

    Author Note : นิยายเรื่องนี้มาจากละครสดของกลุ่ม

    คำเตือน : มันมั่วที่สุด

     

     

    Part 3 ปะทะ และ คู่หู

     

     

       เสียงมีดแหวกอากาศพร้อมทั้งเสียงโลหะกระทบกันดังต่อเนื่อง เรือนผมสีทองสว่างส่องประกายท่ามกลางความมืด ดวงเนตรสีฟ้ากระจ่างของเขาจับจ้องคมมีดสีเงินของอีกฝ่ายที่พุ่งเข้าหาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง ขาขวาของตัวตลกหนุ่มตวัดขัดขาของจอมโจรผมสีน้ำเงินที่ไม่ทันตั้งตัว เทสเสียหลักหงายหลังลงเป็นจังหวะที่เนียตวัดขาขึ้นหมายจะเสยคางอีกฝ่าย แต่ก็พลาดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทำให้เจ้าของผมสีทองรีบตีลังกากลับหลังออกห่างจากจอมโจรหนุ่ม

    ว่าแต่ว่าฝีมือเจ้าไม่เลวเลยเป็นโจรมากี่ปีแล้วละ?” เนียเอ่ยถามเพื่อเป็นการรบกวนสมาธิ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่รับมุขเขาเลยเพราะอีกฝ่ายยังคงเงียบเสียเหลือเกิน

    อ่างั้นเปลี่ยนเรื่องใหม่นะอะไรคือเหตุจูงใจให้มาเป็นโจรละ?” เรื่องเก่าไม่สำเร็จ เรื่องใหม่ก็มาแทน เทสยังคงเงียบเช่นเดิม แต่ว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

    ปีศาจอย่างเจ้าคงไม่จำเป็นต้องรู้จริงไหม?”

    ข้ามิใช่ปีศาจเสียหน่อยท่านจอมโจรแต่ดูเหมือนว่าโชว์นี้คงต้องจบกันเท่านี้แหละ!!...” ร่างของเนียพุ่งเข้าหาเทสอย่างรวดเร็ว สายน้ำสาดกระเซ็นอย่างแรงด้วยการขยับกายของตัวตลกหนุ่ม

    เทสตวัดมีดสั้นในมือฟันคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว หากแต่ช้าไป ตัวตลกหนุ่มย่อตัวลงหลบรัศมีของมีดได้และยังมีสีหน้ามั่นใจอีกต่างหาก เนียตะแคงมีดสีดำในมือของตัวเองขึ้น เสยจากคางของเทสขึ้นไปแต่

    จอมโจรหนุ่มเงยหน้าหลบ ดวงเนตรสีฟ้าของเทสมองเห็นกุหลาบสีนิลซึ่งห้อยอยู่กับสายสร้อยติดมีดของเนีย และรอยยิ้มเรียบเย็นของตัวตลกหนุ่มได้อย่างชัดเจน เจ้าของผมสีทองเตะเข้าที่ท้องของเทสอย่างแรงจนกระเด็น

             เอาละ เจ้าจะตอบข้าได้รึยังว่าต้องการน้ำตาซาตานไปเพื่ออะไร

             การต่อสู้ยังไม่จบ! อ๊ะ!” ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่าสิ่งที่เนียทำเมื่อครู่มันคืออะไรเพราะตอนนี้ร่างกายของเขาไม่สามารถขยับได้

             มีดสั้นของข้าเรียกว่า มีดสั้นกุหลาบสีนิล ใครที่สูดเกสรของกุหลาบนี้เข้าไปจะไม่สามารถขยับตัวได้ แล้วก็หมดสติ…”

     

             เป็นอย่างที่คนตรงหน้าพูด ตอนนี้ดวงเนตรของเขาเบลอไปหมด มองภาพรอบกายไม่ชัดเช่นเดิมแล้วสติของเขากำลังหลุดลอยไป แต่ก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลงและสติดับวูบไป เขาได้ยินคำพูดของเนียอย่างชัดเจน

     

    หวังว่าเมื่อเจ้าตื่นขึ้นมา เราคงได้ตั้งวงคุยกันดีๆ โดยที่เจ้าไม่เอามีดไล่ฟันข้าอีกนะ…”

     

     

     

             เจ้าชื่อนาเทียร่าสินะ โครอสเอ่ยท่ามกลางความเงียบ ไอ้คนหุงข้าวทำอาหารมันหายหัวไปนานเหลือเกิน ตอนนี้เสบียงอาหารในกระเป๋ามันก็เลยลงท้องพวกเธอไปหมดแล้ว

             คะ นาเทียร่าคะ…”

             งั้นข้าขอถามเจ้านะ เจ้ากำลังหาตัวจอมโจรที่รับเจ้ามาดูแลใช่ไหม?”

             คะ เทสหายตัวไปตรงต้นน้ำฝั่งนู้นคะ นาเทียร่าว่าพลางใช่นิ้วเรียวเล็กของตนเองชี้ไปทางที่ตนบอก โครอสและอาลาดินมองตามก่อนจะเกิดคำถาม

     

     

             ตรงนั้นมันที่ๆ เบ๊มันไปซาวข้าวนี่หว่า…?

     

             ปกติเทสจะไปไหนจะบอกหนูก่อน แต่คราวนี้กลับไปเงียบๆ ฮึก…” เบ้ปากเตรียมร้องไห้อีกครั้ง แต่ก็ถูกโครอสดักเอาไว้ก่อน เทส นี่ผมสีน้ำเงินใช่ไหม?”

             คะ…”

             แล้วก็ใส่ชุดสีดำรัดรูป…” คราวนี้เป็นอาลาดิน

             ใช่คะ! รู้ได้ไงคะ?!” เอ่ยเสียงหลงก่อนที่จะสังเกตท่าทีแปลกๆ ของทั้งสอง โครอสชี้ไปด้านหลังของเด็กหญิงผมสีโกเมน เอ่ยเสียงเบา “…นั่นใช่ไหม…?”

            

             นาเทียร่าหันมองตามนิ้วของโครอสก็จะเห็นร่างของชายหนุ่มผมสีทองสว่างในเครื่องแต่งกายสีแดงดำเดินออกมาจากความมืด เขาอุ้มร่างซึ่งหมดสติของชายผมสีน้ำเงินมาด้วย

             ขอโทษที่ช้านะ โครอส อาลาดิน ข้าวมันตามกระแสน้ำไปแล้วละ…” เนียยิ้มแห้งๆ ก่อนที่จะปูผ้าคลุมสีน้ำตาลเก่าๆ ของตนเองลงพื้นด้วยมือขวา ส่วนแขนซ้ายยังคงพยุงร่างของโจรหนุ่มไว้ เมื่อปูเรียบร้อยเขาก็ค่อยๆ วางร่างของเทสลงบนนั้น

             แค่ให้ไปซาวข้าวได้หนุ่มหล่อมาด้วยรึนี่ เสน่ห์แรงดีเหมือนกันนะ เนีย โครอสเอ่ยอย่างขบขันในขณะที่เนียดึงกลีบกุหลายสีนิลซึ่งอยู่ปลายสายสร้อยห้อยมีดออกมาหนึ่งกลีบ ขบฟันลงบนนิ้วโป้งขวาก่อนที่จะป้ายลงบนกลีบกุหลาบ ชั่วครู่กุหลาบก็กลายเป็นสีแดงสด เนียกดกลีบกุหลาบลงที่ปากของเทส ไอสีแดงปรากฏขึ้นรอบๆ นิ้วและดอกกุหลาบ

             เสน่ห์แรงบ้าบอสิ เจ้าหมอนี่อยู่ๆ ก็พุ่งมาทำร้ายข้าต้องใช้พิษกุหลาบดำถึงได้ยุติการต่อสู้ได้…” เนียบ่นอุบอิบ กุหลาบที่ปลายนิ้วของเขาสลายหายไปหมดสิ้น

             หมายความว่า เขาต้องการอะไรจากเจ้ารึไม่ก็เหมือนกับตอนข้า…”

             ข้าไม่ได้เป่าขลุ่ยเสียหน่อยโครอส เขาอยากได้น้ำตาซาตานที่อยู่กับข้า…” เนียถอยห่างออกไป ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางมือขวาคีบสายสร้อยมีดซึ่งซ่อนไว้ในปลอกแขนสีดำ ดึงมีดสีนิลออกมาเตรียม เพราะดูท่าว่า

     

     

             เคร้ง!!!  เสียงมีดกระทบกันดังก้อง เนียทำหน้าเหม็นเบื่อออกมาชั่วขณะ กะแล้วว่าตื่นขึ้นมาเห็นหน้าเขาปุ๊บมันต้องเล่นแบบนี้ปั๊บ เทสเม้มปากแน่น เพราะพึ่งฟื้นแรงกายของเขาจึงน้อยกว่าตัวตลกหนุ่ม

    แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ฟัดกันอีกรอบ เสียงตบมือจากแม่มดสาวดังขึ้นจากด้านหลัง เธอกรีดยิ้มพร้อมปล่อยรังสีอำมหิตที่คนทั้งหมดเห็นแล้วเหงื่อตก

     

     

    เห็นหัวข้าบ้างรึเปล่า หืม?”

     

     

     

     

     

     

     

    นี่มันอะไรกัน ทำไมเขาตรงมาซื้อของกับเจ้าจอมโจรหัวฟ้านี่ด้วยวะ?

     

     

             มีปัญหาอะไรรึไง…” เทสหันมาทำหน้าเหม็นบูดให้เนีย ตอนนี้ใบหน้าของคนทั้งสองไม่เป็นมิตรกันเสียเลย ราวกับว่า แค่ยืนข้างๆ มันตรูก็จะขาดใจตายแล้ว ขอร้องละเอาไอ้คนหน้ากวนฝ่าพระบาทานี่ไปเก็บตรงไหนก็ได้ที อะไรประมาณนั่น

             เทส สินะ…”

             ใช่ เจ้าก็ เนีย ใช่ไหม เป็นคำถามที่ปัญญาอ่อนที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เดินทางด้วยกันมาร่วมสิบวัน ไม่รู้ชื่อกันก็แปลกแล้ว!

     

             เจ้าอยากได้น้ำตาซาตานไปทำไม?” เป็นอีกครั้งที่เนียเป็นผู้เปิดประเด็น เทสยังคงเงียบ เพียงครู่เขาก็ดึงข้อมือของเนียกระโดดขึ้นไปบนหลังคาคฤหาสน์หลังหนึ่งซึ่งสูงใหญ่เป็นสง่า

             ข้าขอถามเจ้านะ เนีย จากมุมนี้ เมืองที่อยู่ตรงหน้าเจ้าเป็นยังไง?” เทสเอ่ยถามตัวตลกหนุ่มที่ยังคงงุนงง เขาหันมองทางเมืองที่เทสเอ่ยบอก บ้านเก่าๆ ซึ่งเรียงรายติดกันดูเก่าแก่และทรุดโทรม

             ดูเหมือนว่าจะเกิดสงครามบ่อยครั้งสินะ เขาอยู่มาเป็นหมื่นปี รับรู้เรื่องภายนอกผ่านทางนักเดินทางผู้มาพักแรม แต่ดูเหมือนว่าสงครามของยุคนี้จะรุนแรงกว่ายุคอื่นนัก

             ใช่แล้วละ สงครามเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แย่งชิงดินแดน แย่งชิงอำนาจ ละโมบ พวกขุนนางน่ะเห็นประชากรเป็นเพียงของเล่น! ใช้แล้วทิ้ง กดขี่พวกเขาอย่างไม่คิดว่าผู้ที่ตนกระทำไปก็เป็นมนุษย์!”

     

     

             ด้วยคำพูดของโจรหนุ่ม เนียรับรู้ได้ถึงความขุ่นเคือง ไม่ว่ายุคสมัยไหน เรื่องแบบนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

             อย่างเช่นเจ้าของเรือนที่เรายืนอยู่ เขาเป็นขุนนางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแถบนี้ ชอบทำสงครามกับเขตข้างเคียง ใช้คนอย่างกดขี่ และยังขูดรีดเงินจากชาวบ้านที่ยากไร้ไปเพื่อซื้อความสุขให้ตนเอง หากว่ามีน้ำตาซาตานที่ทำให้ความปรารถนาทุกอย่างเป็นจริงแล้วละก็! ข้าจะข้าจะ…!”

             นั่นคือคำตอบของเจ้าสินะ เทสข้ารู้คำตอบของเจ้าแล้วละ เจ้าไม่ได้เป็นอย่างที่ข้ากะเอาไว้ตอนแรก…” รอยยิ้มปรากฏออกมาจากริมฝีปากของตัวตลกหนุ่ม เรียกความงุนงงให้แก่เทสเป็นอย่างมาก

             เรามา ขโมยกันเถอะ

             หา?”

             ทำอย่างที่เจ้าเคยทำไงละ ขโมยของของขุนนางที่คดโกงบ้านเมือง ช่วยเหลือชาวบ้านยากไร้  จริงไหมละ จอมโจร เทส!”

     

             กล่าวจบเนียโหนตัวลงไปที่หน้าต่างประดับกระจกบานใหญ่ราคาแพง ถีบเข้าไปอย่างแรงจนกระจกแตกกระจาย เทสมองท่าทีที่เปลี่ยนไปของเนียอย่างตกตะลึงก่อนที่จะกรีดยิ้มออกมา เขาดึงหน้ากากผ้าสีดำขึ้นมาปิดใบหน้าครึ่งล่างของเขาก่อนโหนตัวตามไป

             ข้าว่าเจ้าเปลี่ยนจากอาชีพเจสเตอร์ เป็นจอมโจรเถอะ!”

     

     

     

     

     

     

             ร่างของคนทั้งสองวิ่งไปตามทางในคฤหาสน์ด้วยความเร็วเฉพาะตัวของตนเอง เนียสร้างผ้าพันคอสีดำขึ้นมาจากไอความมืดปกปิดใบหน้าครึ่งล่างของตนเอง ดวงเนตรสีฟ้าของทั้งสองกวาดไปรอบๆ

             อะไรที่เจ้าคิดว่าน่าจะขโมยละ เทส

             ชั้นใต้ดินมีเหมืองทอง ข้าคิดว่าเขาคงเก็บทองแท่งไว้ที่นั่นแหละ

             ข้อมูลแม่นดีนิ…”

             หึเจ้ากำลังพูดกับใครอยู่เล่า…” เทสกระตุกยิ้มออกมาอย่างมั่นใจในตนเอง เนียแสยะยิ้มร้ายออกมาก่อนที่จะเอ่ย “ชั้นใต้ดินสินะงั้นก็ดีเลย…”

             “มันจะไปดีได้ไงเล่าเนีย! ข้าได้ยินมาว่าที่นี่มีกลไกกับดักมากมายเลยนะ เจ้าคิดว่าจะไปถึงทองก่อนที่จะโดนกับดักรึไงกัน!” เทสแหยงขึ้นมาอย่างวิตก ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่านต้องการอะไรกันแน่ เนียกรีดยิ้มชวนสยองออกมาให้จอมโจรหนุ่มประจัก เขากำหมัดขวาแน่นจนเทสรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ยิ่งเห็นการตั้งท่าของอีกฝ่ายด้วยแล้ว รู้สึกถึงลางร้ายมาเยือนอย่างแรง!!

     

     

             “ดีสิเพราะมันทำลายง่ายกว่าด้านบนไงเล่า!!!!”

     

     

             ตูม!!!  เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวเรียกให้ผู้คนในคฤหาสน์มองหาที่มาของเสียง บัดนี้ร่างของผู้บุกรุกทั้งสองร่วงหล่นลงมาถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

             ฝุ่นควันลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ ซากเพดานทำจากปูนลงไปนอนกองอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเจสเตอร์แห่งลานแสดงอมตะ และ จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

             แรงใช้ได้นะเนี่ย ขนาดลองเป็นครั้งแรก เนียว่าพลางเลียปากอย่างมีความสุข ในขณะที่เทสหน้าซีดเผือด ถ้าเขาไม่ใช่จอมโจรละก็คงจบชีวิตไปเพราะไอ้ปีศาจตัวนี้แล้วแหงๆ!

             นี่! เจ้ามันปีศาจชัดๆ ไม่ใช่คนแล้ว!” ตะโกนด่าอย่างหัวเสียแต่ไอ้คนโดนด่านี่สิ มันดันฉีกยิ้มออกมาอย่างเริงร่าและน่าถีบเป็นที่สุด

             เป็นผนึกของลูซิเฟอร์ มีชีวิตอยู่มาหมื่นกว่าปี เป็นเจสเตอร์ที่ใช้เวทย์มนต์ได้ ยิ่งกว่านั้นคือ ข้าสามารถทนพิษได้เกือบทุกประเภทและยังควบคุมไอความมืดได้ดั่งใจ แบบนี้ยังเรียกคนได้อีกไหม?”

             “…เจ้ามันหน้าด้านที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมาเลยนะ…”

             ข้าจะถือว่ามันคือคำชมก็แล้วกันนะ…”

     

     

             พวกมันอยู่นั่น!!!”

     

             เสียงตะโกนกู่ร้องเรียกให้ทั้งสองหันไปมองต้นเสียงหนึ่งคือด้านบน และอีกหนึ่งคือประตูทางเข้าชั้นใต้ดิน

             ดูเหมือนเขาจะมารับแขกแล้วละ…” เนียเอ่ยอย่างสบายๆ ดูเหมือนว่าลักษณะทางบุคลิกภาพของชายคนนี้จะอยู่ในจำพวกที่เรียกกันว่าหลายบุคลิก เพราะอยู่กับพวกโครอสเป็นอย่าง อยู่กับเทสเป็นอย่าง อยู่คนเดียวเป็นอย่าง สรุปว่าแบบไหนคือเนียตัวจริง?

             รีบไปกันเถอะ ข้าจะนำทางเอง เทสตัดเรื่องไร้สาระออกไปจากสมองก่อน ตอนนี้เรื่องงานสำคัญสุดแล้ว เนียพยักหน้ารับก่อนที่ทั้งสองจะมุ่งหน้าไปที่เป้าหมายพร้อมกัน

     

     

     

             สิ่งที่สะท้อนในดวงเนตรสีเดียวกันของทั้งสองคือกองแท่งทองจำนวนมากมายจนนับไม่ทวนประกายส่องแสงแสบตา

             ไม่น่าเชื่อเยอะขนาดนี้เชียวหรือ…” เทสเอ่ยออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาของตนเอง ในขณะที่เนียเองก็จ้องมองแท่งทองคำเหล่านั้นแล้วครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่คนเดียว เทสหันมาพูดกับเนียอีกครั้ง ปัญหาคือเราจะขนมันออกไปยังไงสินะ…”

             นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอกปัญหาคือ เราจะจัดการกับพวกนั้นยังไงดีต่างหากละ เนียหันหลังไปทางที่ตนวิ่งมา ก็พบกับเหล่าชายฉกรรจ์ที่ดูแล้วฝีมือดีแต่ก็ยังน้อยกว่าเขาและเทสมากนัก

             เจ้าพวกโง่!! คิดจะมาขโมยสมบัติของข้าอย่างนั้นหรือ อย่าคิดว่าทำกันง่ายๆ นะ!!!”  เสียงของขุนนางเจ้าของเรือนดังสนั่น แต่แล้วก็ผิดคาดเมื่อเนียโยนกระเป๋าผ้าใบเท่าฝ่ามือทารกให้จอมโจรหนุ่ม

             กระตุกเชือกเส้นยาวแล้วหันไปทางแท่งทองถุงจะขยายแล้วดูดของเข้ามาเอง เมื่อเรียบร้อยแล้วให้กระตุกเชือกเส้นสั้นถุงจะกลับสู่สภาพตอนแรก เนียว่าพลางเดินออกไปประชันหน้ากับกลุ่มชายฉกรรจ์ ในมือของเขามีลูกบอลเดินแถบสีขาวขนาดเท่าเม็ดลูกอมอยู่ประมาณยี่สิบลูก ส่วนข้าจะต้านพวกเขาไว้ให้เอง…. บอลระเบิด!!!!

           ทันทีที่ขว้างออกไปลูกบอลก็ระเบิดตัวเองเป็นควันและสะเก็ดไฟขวางกั้นเหล่าลูกน้องของเจ้าของเรือนได้เป็นอย่างดี
    เทสรีบไปทำหน้าที่ของตนอย่างรวดเร็ว

             “เสร็จรึยัง เทส!!” เมื่อเห็นว่าพวกลูกน้องของเจ้าของเรือนเริ่มหาที่กำบังรอจังหวะที่พวกเขาหนีจะได้ออกมาจัดการให้สิ้นซาก เทสซึ่งทำหน้าที่ของตนเสร็จเรียบร้อยวิ่งเข้ามายืนข้างๆ เนียซึ่งกวาดสายตาไปรอบๆ ราวกับหาอะไรบางอย่าง

             “แล้วจะออกไปยังไงละทีนี้!”

             “คิดว่ามากับใครกันเล่า!” เนียตะคอกก่อนที่ไอความมืดจะรวมตัวกันที่มือขวาของเขา อัดแน่นใหญ่ขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง ก่อนที่สิ่งที่ปรากฏอยู่ในมือของเขาจะทำให้ทุกคนแทบหงายหลัง

     

     

             สมอเรือขนาดสิบคนยก!

     

     

             “เอาละนะเทส เกาะข้าให้แน่นแล้วก้มหัวให้ต่ำเข้าไว้” ว่าพลางควงสมอเรือขนาดยักษ์ในมือตนเองอย่างสนุกสนาน ตอนนี้เองที่เทสรู้ว่า เขาได้มาจับคู่กับคนอันตรายแห่งยุคเสียแล้ว!

             “ไปเลย!!!!!” สมอเรือถูกขว้างออกไปอย่างแรงทะลุผนังเรือนออกไป ตรงดิ่งออกไปจากเรือนอย่างรวดเร็วตามแรงที่เหวี่ยงออกไปในตอนแรก ซึ่งตรงหน้าของพวกเขาคือภูเขาเขียวยิ่งไปกว่านั้นคือ จุดหมายปลายทางของสมอเรือคือพสุธาสีน้ำตาล!!

     

     

     

    ตูม!!!!

     

     

     

     

     

     

    หลายวันต่อมา

     

             หลังจากที่เกือบจะได้ไปเยี่ยมท่านยมบาลกันวันละหลายๆ รอบของเทสและเนีย วันนี้คุณแม่มดจอมโหดก็ให้พวกเขามาเที่ยวเล่นได้ตามใจอยาก ในขณะที่ตน อาลาดินและนาเทียร่าไปงานรื่นเริงในเมืองที่แวะอาศัย

             สายลมอ่อนๆ พัดผ่านร่างของชายสองคนชวนให้รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก พวกเขาไม่ได้ไปร่วมงานรื่นเริงด้วยสาเหตุบางประการของแต่ละคน ดวงเนตรสีเดียวกันสองคู่ทอดมองจากแนวผาลงไปที่งานรื่นเริงที่มีเสียงดนตรีคลอมากับสายลม

             “เจ้านี่เป็นพวกสนุกใช้ได้นะ” เทสเปิดประเด็นออกมาพร้อมรอยยิ้ม ขณะที่เนียหงายหลังลงไปนอนกับพื้นทอดมองดวงดาราบนท้องฟ้า “ขอคืนคำนั้นให้เจ้าด้วย”

             “จะว่าไปแล้ว ข้าว่าเจ้าไม่ค่อยเหมือนคนอื่นเท่าไรนะ”

             “หา?” เนียขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เทสจึงเฉลยออกมาในจังหวะที่หงายหลังไปนอนท่าเดียวกับตัวตลกหนุ่ม

             “ไม่มีใครเคยปฏิบัติกับข้าในแบบที่เจ้าทำ ไม่ว่าใครๆ ก็ต่างเกรงกลัวเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า รอยยิ้มของพวกเขาไม่เคยปรากฏกับข้า ยิ่งกับเรื่องที่พาข้าไปเสี่ยงตายแบบเจ้ายิ่งไม่มีทางเป็นไปได้”

             “เจ้าพูดราวกับเป็นลูกคุณหนูเลยนะ เทส เอาเถอะเรื่องนี้ข้าเข้าใจเจ้าดีข้าเองก็ไม่ได้ต่างจากเจ้าหรอกแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมาเป็นเจสเตอร์เป็นผนึกของลูซิเฟอร์ก็ตาม” เนียพูดด้วยรอยยิ้ม หลับตาลงเมื่อระลึกได้ถึงอดีตที่ทั้งโหยหาและเกลียดชัง ต่างฝ่ายต่างก็เข้าใจ

             “ว่าไปแล้วก่อนหน้าที่เจ้าจะเป็นเจสเตอร์ เจ้าเป็นอะไรมาก่อนบ้างละ เห็นจากการต่อสู้เจ้าดูจะถนัดมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแค่เจสเตอร์ธรรมดานะ” เขาสงสัยข้อนี้มานานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมเจสเตอร์ถึงพกอาวุธเดินไปเดินมาเล่า

             “ก่อนจะเป็นเจสเตอร์รึก็เยอะอยู่เหมือนกันนะมือลอบสังหาร นักฆ่ารับจ้าง พ่อค้า ทหารยาม อัศวินของราชวงศ์ คนรับใช้ แล้วก็อะไรอีกนะใช่ๆ นักล่าปีศาจ”

     

     

             ไม่เยอะไปหน่อยเหรอคุณพี่

     

            

             “แต่ว่านะ ในสิ่งที่ทำมาทั้งหมด ข้าชอบที่จะเป็นเจสเตอร์ที่สุด การได้เห็นรอยยิ้มของผู้คนทำให้ข้ารู้สึกมีความสุขมากกว่าสิ่งอื่นใด ไฟสงครามพลัดพรากผู้คนที่รักยิ่ง แต่หากยังหัวเราะออกมาจากใจจริงได้อยู่ละก็ ไม่ว่าวันวานหรือวันพรุ่ง ยอมจะมีสีสันที่งดงามตลอดไป…” รอยยิ้มที่แต้มอยู่นั้นคือความสุขที่เขาเคยได้รับจากรอยยิ้มของคนเหล่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะดับสลายไปแล้วก็ตาม เทสนิ่งเงียบเพียงคู่ก่อนที่จะเปิดประเด็นออกมาอีกครั้ง

             “คนอย่างเจ้าเหมาะที่จะเปลี่ยนแปลงโลกจริงๆ นะ…”

             “เจ้าหมายความว่ายังไง?” ตัวตลกหนุ่มลุกขึ้นนั่งก่อนหันกลับมามองจอมโจรสีฟ้าที่ลุกขึ้นนั่งเช่นเดียวกัน “ข้าอยากที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้อยากจะทำให้พวกขุนนางที่ร่ำรวยรู้จักเผื่อแผ่ อยากจะทำให้ไฟสงครามที่ยืดเยื้อนี้ดับลงเสียที”

             ลุกยืนขึ้นมองไปยังเมืองด้านหน้าที่แม้ว่าจะมีงานรื่นเริงแต่ก็มีพื้นที่รกร้างเนื่องจากสงคราม และอาจที่จะซ่อมแซ่มให้กลับมาเป็นเช่นเดิม เนียลุกยืนขึ้นตาม ดวงเนตรจ้องมองจอมโจรหนุ่มอย่างจริงจังเพราะบทสนทนาพาไป

             “แต่แค่ข้าคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้ เนีย ข้าจะขอยืมพลังของเจ้าได้หรือไม่? เจ้าจะมาเป็นคู่หูที่จะไม่มีวันทรยศข้าได้หรือไม่?”

             ด้วยคำถามนั้นทำเอาคนผมทองสะท้านไปชั่วครู่ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา ทำเอาคนถามทำอะไรไม่ถูก

             “เจ้าคนโลกสวยได้สิ ข้าจะเป็นคู่หูให้เจ้า จะให้เจ้ายืมพลังที่ข้ามีและจะไม่ทรยศเจ้าเป็นอันขาด” ดึงมีดสีขาวโยงสายสร้อยห้อยกุหลาบสีขาวออกมา ยื่นให้แก่โจรหนุ่ม

             “มีดเล่มนี้คือมีดสั้นกุหลาบสีขาว เป็นมีดที่น้องสาวข้าพกติดตัวตลอดเวลา ข้าขอมอบให้เจ้า แทนคำสัญญา” น้ำเสียงเรียบเย็นแผงด้วยความจริงใจเรียกให้เทสรับมีดไปอย่างไม่อิดออด เจ้าของเรือนผมสีฟ้าฉีกยิ้มออกมาก่อนที่จะเอ่ย ซึ่งเนียก็ได้ฉีกยิ้มแล้วตอบกลับไปเช่นกัน

     

     

    “จากนี้ไปข้าขอฝากด้านหลังของข้าด้วยนะ คู่หู”

     

    “เช่นกัน”

     

     

    -+-+-+- FIN. Part 3 And TBC to Part 4 -+-+-+-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×