ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic นอกรอบ (รวมฟิคที่แต่งเอง)

    ลำดับตอนที่ #1 : Fic Vocaloid The Lost Memory [1/3]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.23K
      2
      15 ก.ย. 55


    Fic นอกรอบ

     

    Fic Vocaloid Gakupo x Kaito

     

    By : Fesenya Reset.

     

                ~The Lost Memory~

     

     

    ยามที่จ้องมองใบหน้าของตนเองในกระจกตัวข้าก็คอยถามตนเองอยู่ทุกคราว่าตัวข้านั้นขาดสิ่งใดไปหรือ? ความรัก? ความชอบ? ความสุข? หรือ ความรู้สึก ตัวข้าขาดสิ่งใดไปกันแน่…? และสิ่งนั้นทำให้ข้าต้องสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตไปหากตัวข้านั้นไร้ความรู้สึกแล้วทำไมกันนะข้าถึงรู้สึกราวกับว่าดวงใจนี้ได้แตกสลายไปพร้อมกับร่างของเธอคนนั้นที่ถูกเผาแต่ว่าตัวข้าคงจะไร้ความรู้สึกจริงๆก็เป็นได้เพราะถึงขนาดสูญเสียคนสำคัญเท่าชีวิตไปแล้วข้ากลับไม่หลั่งน้ำตาเลยแม้แต่นิด

     

                ยามที่ผมหันกลับมามองตนเองเพื่อหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมสูญเสียเธอคนนั้นไป สิ่งที่ผมพบคือ ความอ่อนแอ ของตัวผมเอง แต่ผมกลับมามองเห็นมันยามที่เห็นร่างของเธอคนนั้นที่ถูกแผดเผาด้วยเปลวเพลิงสีแดงสด หยาดน้ำตาของผมหลั่งรินออกมาอย่างไม่มีทีท่าจะหยุด ตัวผมไม่อาจแก้อะไรได้อีกแล้วถ้าอย่างงั้นผมจะเป็นตัวผมเช่นนี้ตลอดไปเพราะมันไม่จำเป็นอีกแล้วที่จะเปลี่ยนแปลง

     

     

                เพราะความรักที่ฉันมีให้พวกเขามากมายทำให้ฉันตัดสินใจทำแบบนี้การสูญเสียฉันไปคงเจ็บปวดไม่น้อย แต่ตัวฉันไม่กล้าที่จะเอ่ยออกไปถึงความลับที่เก็บไว้ในใจ ไม่ว่ายังไงก็ไม่กล้าฉันเลือกที่จะปลิดชีวิตตัวเองแทนที่จะรอเวลาที่มาถึง เพื่อปลดปล่อยพวกเขาจากฉัน อย่าได้ทำบาปเพราะตัวฉันอีกเลยให้พวกเขาได้เริ่มชีวิตใหม่ที่ดีกว่าอย่ามายึดติดกับปีศาจร้ายที่พรากความสุขของพวกเขาไปอย่างฉันเลยผิดไหมที่อยากบอกพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย

    ‘Remember’

    จดจำฉันไว้ในหัวใจของพวกนาย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    พวกเราต่างสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไปทั้งคู่

     

    … ‘เขา

     

    เป็นคนที่สำคัญกับเราทั้งคู่

     

    แต่ เขา

     

    กลับทิ้งเราทั้งคู่ไป

     

    เราสูญเสียแรงบันดาลใจที่จะดำรงชีวิตไปแล้ว

     

    เช่นนั้นแล้ว

     

    เราทั้งคู่ที่ต่างก็ราวกับไม่มีชีวิตและวิญญาณ

     

    จะทำบาปร่วมกัน




     

    ดวงตาสีม่วงเข้มมองไปรอบตัวราวกับหาอะไรบางงอย่างท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก เขาคนนั้นที่ผมเจอกันในงานศพของคนสำคัญ รู้อยู่แล้วว่ามันไม่อาจเปลี่ยนอะไรได้แต่ว่า

     

    หากไม่ได้เป็นเพราะเจ้า เธอคนนั้นคงไม่ตัดสินใจอะไรโง่ๆแบบนั้น

     

     

    ตามที่คาดร่างโปร่งบางของเด็กหนุ่มผมสีฟ้าออกน้ำเงินลู่ลงเพราะเปียกปอนฝนเดินเข้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆด้วยใบหน้าหมอง ดวงตาสีฟ้ากระจ่างคู่นั้นฉายแววแน่วแน่ราวกับว่าสิ่งที่ตัดสินในไว้นั้นถูกต้องที่สุดแล้ว

     

    หากไม่มีเขาสักคนแล้วละก็...ตัวผมคงไม่เสียเธอไป....

     

     

    มือข้างที่ถนัดดึงบางสิ่งที่ตนเองซ่อนเอาไว้ออกมา เขาทั้งคู่...ช่างเหมือนกัน... ปืนสีนิลถูกเล็งไปที่หน้าผากของอีกฝ่าย เลือกที่จะทำให้สิ่งเดียวกัน หากกำจัดคนตรงหน้าไปได้แล้วละก็..เธอคนนั้นจักต้องห้วนกลับมา...

     

    แต่มันก็เป็นเพียงความหวังลมๆแล้งๆ

    เธอคนนั้นไม่มีวันห้วนกลับมา

     

     

                เป็นปืนของชายหนุ่มผมสีม่วงที่ลั่นก่อน แต่ลูกกระสุนนั้นกลับเบนออกไปด้วยความจงใจราวกับจะบอกว่า

     

    อย่าทำใบหน้าที่ขมขื่นแบบนั้น หากตัดสินใจแล้วก็จงลั่นปืนนั้นซะ

     

    ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นฉายแววหวาดกลัวออกมา นิ้วเรียวที่จ่ออยู่ที่ไกปืนสั่น เรือนร่างบางนั้นสั่นเทา

    ราวกับว่าหากแตะต้องเพียงนิดเดียว มันจะแตกสลาย...หยาดน้ำตาร่วงหล่นจากดวงตาคู่นั้น ดวงตาสีม่วงมองร่างบอบบางตรงหน้าอย่างเย็นชา อ่อนแอ...มืออีกข้างของเด็กหนุ่มถูกยกขึ้นมากุมปืนในมือเพื่อไม่ให้สั่น แต่มันกลับสั่นยิ่งกว่าเดิม

                “ผม...ผมทำไม่ได้...”ลดปืนลงหยาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาไหลไปกลับสายฝนยามที่นึกถึงรอยยิ้มของใครคนนั้นก็รู้สึกปวดร้าว ยิ่งคิดถึงคำพูดที่ได้ยินแล้ว...มันปวดร้าวยิ่งกว่า...

     

    -ไคโตะน่ะใจดีเกินไป มันทำให้นายดูอ่อนแอ-

     

    ผมรู้ว่าตัวเองอ่อนแอ..แต่จะให้ผมทำยังไงละ...

     

    ตอบผมทีสิ เลน

     

     

     

                ดวงตาสีม่วงเข้มฉายแววสงสัยออกมาวูบหนึ่ง ทำไมเขาถึงไม่เหนี่ยวไกปืน ในเมื่อตัดสินใจมาแล้ว หากไม่เป็นผู้ฆ่า ก็ต้องกลายเป็นผู้ถูกฆ่าแทน ยามที่นึกถึงคำพูดของใครคนนั้นก็เข้าใจ

     

    -กาคุโปนะ เย็นชาเกินไปจนไร้ความรู้สึกเลย-

     

    นั้นสินะ ข้าอาจจะเป็นแบบนั้นจริงก็ได้ ขนาดจะฆ่าคนข้ายังไม่รู้สึกอะไรเลย

     

    ข้าจะทำยังไงละ เลน

     

     

                ปืนในมือของ คามุอิ กาคุโปลั่นดังสนั่น กระสุนตะกั่วพุ่งเข้าหาหน้าผากมนของเด็กหนุ่มที่อายุต่างกันเพียงไม่กี่ปี ชิอง ไคโตะ เพียงแต่ผิดคาดไปเมื่อกระสุนที่ควรจะทะลุหน้าผากมนนั้นกลับพุ่งไปโดนต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังแทน เป็นเพราะร่างสีแดงราวกับเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามาผลักร่างโปร่งบางจนล้มลงไปทั้งคู่ ร่างสีแดงนั้นคือน้องชายฝาแฝดที่ดูไม่เหมือนกันเลยของไคโตะ ชิอง อไคโตะ

                “ไคโตะ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม!?” อไคโตะถามด้วยน้ำเสียงตื่นๆพร้อมๆกับสำรวจร่างกายของผู้เป็นพี่ชาย เมื่อสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายหมดสติไปโดยมีเลือดหลั่งออกมาจากศีรษะก็ตวัดดวงตามองชายผมสีม่วงเข้มด้วยความโกรธเคือง ราวกับจะหยิบปืนมือของพี่ชายมายิงคนตรงหน้าแทนให้รู้แล้วรู้รอด

                “นายจะฆ่าไคโตะรึไง! ฉันจะเอาแกเข้าตารางแน่ คามุอิ กาคุโป!” ตะคอกอย่างเดือดดาน ซึ่งชายผมสีม่วงกระตุกยิ้มราวกับถือไพ่เหนือกว่า

                “ข้าว่าคงเป็นพวกเจ้ามากกว่าที่จะถูกจับ เพราะปืนนั้น” เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง อไคโตะขบกรามอย่างเจ็บใจจริงของอีกฝ่ายพวกเขาไม่ใช่ขุนนางที่จะสามารถพกอาวุธติดตัวได้แทนทีอีกฝ่ายจะถูกจับจะเป็นพวกเขามากกว่าที่จะถูกจับ

                “อย่าให้ฉันเจอแกอีกนะ!” ตะคอกอีกครั้งก่อนที่จะอุ้มร่างของพี่ชายที่ล้มลงไปนอนนิ่งอยู่กับพื้นเพราะหัวกระแทกพื้นอย่างแรง ต้องรีบพาไปหาหมอก่อนนั้นสำคัญที่สุด ดวงตาสีเข้มมองร่างของเด็กหนุ่มสองคนที่เดินจากไปท่ามกลางสายฝน มองร่างของเด็กหนุ่มที่อยู่ในอ้อมกอดของน้องชาย แม้จะสลบไปแล้วแต่ริมฝีปากบางซีดนั้นยังคงเม้มติดกันจนแดงเปราะบางจนราวกับจะแตกสลาย

     

     

     

     

                นิ้วเรียวของเด็กหนุ่มผมสีแดงเพลิงเกลี่ยเรือนผมสีฟ้าของพี่ชายอย่างแผ่วเบา แตะนิ้วลงบนผ้าพันแผลสีขาวที่พันอยู่รอบศีรษะของพี่ชาย จังหวะที่เขาผลักพี่ชายเพื่อให้หลบกระสุนหัวของอีกฝ่ายก็กระแทกกับอะไรบางอย่างอย่างแรงจนหัวแตก นึกภาวนาอยู่ในใจว่าอย่าให้คนตรงหน้าเป็นอะไร เพราะหากคนตรงหน้าเป็นอะไรไปก็เป็นเพราะตัวเขาสังเกตเห็นหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาที่ยังปิดอยู่ปาดมันออกอย่างแผ่วเบา

     

     

    ไม่ว่าจะพยายามยังไงนายก็ลืมเจ้าเด็กนั้นไม่ได้งั้นหรือ

     

     

     

                ย้อนกลับไปนึกถึงตอนที่ร่างของเด็กสีเหลืองคนนั้นมาพบกับเขาด้วยใบหน้าอิดโรย เขารู้อยู่แล้วว่าเด็กคนนี้ปกปิดอะไรไว้ด้วยสายข่าวส่วนตัวเขาไม่ได้อยู่แบบกร่างไปวันๆนี้นาแต่ในตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไรมากด้วยความไม่ชอบเด็กคนนี้เป็นทุนเดิมด้วยแล้ว เขาไม่อยากให้เด็กคนนี้มายุ่งกับพี่ชายของเขา แต่ฝ่ายพี่ชายของเขานี้สิ! ไม่ว่าจะหลอกล่อยังไงก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะไม่เลิกยุ่ง!  เอากับมันสิ!!!  ในขณะที่กำลังหงุดหงิดทั้งพี่ชายแสนโง่ซื่อและตัวเองที่สอนพี่ออกมายังไงถึงได้ซื่อบริสุทธิ์แบบนี้ เด็กชายสีเหลืองคนนั้นก็พูดขึ้น

                ฝากสิ่งนี้ให้ไคโตะด้วย…” ยื่นกระดาษสีดำให้เขาด้วยใบหน้าเศร้า เมื่อเขารับกระดาษมาอย่างเสียไม่ได้ร่างนั้นก็หันหลังวิ่งออกไปโดยที่สวนกับร่างโปร่งผมสีฟ้าที่กำลังจะเปิดประตู แต่ไม่ทันทีไคโตะจะร้องทักร่างนั้นก็กระโดดขึ้นรถหรูของตนไปแล้ว

                อไคเลนเขามาทำไมเหรอ เอ่ยถามด้วยใบหน้าเศร้ากำลังโทษตัวเองอยู่เป็นแน่ อไคโตะซึ่งแข็งแรงกว่าพี่ชายของตนเองมากดีดหน้าผากอีกฝ่ายดัง เพียะ

                งือT<>T กุมหน้าผากที่ถูกดีดอย่างเจ็บแสบ รู้ก็รู้ว่าพี่ชายตัวเองเปราะบางแค่ไหนยังแกล้งกันได้ลงคอ! อไคโตะถอนหายใจก่อนประทับริมฝีปากลงบนรอยแดงนั้น

                หายรึยัง?

                อือ! อไคใช้คาถาที่สอนด้วยอะ งิ้ว~ >w<” กระโดดกอดน้องชายก่อนอ้อนให้น้องชายฝาแฝดซื้อไอศกรีมให้กินอีกด้วย พี่ชายตัวแสบต้องลืมเรื่องเลนเมื่อกี้ไปแล้วแน่นอน อไคฟันธง! มือที่ค่อนข้างสากที่เกิดจากการชกต่อยของอไคโตะแอบเก็บกระดาษสีดำใบนั้นลงในกระเป๋าของตนเองกระดาษสีดำที่เขียนด้วยอักษรสีแดงราวกับเลือด

     

     

    ‘Remember’

     

     

     

     

     

     

                ดวงตาสีแดงสดมองตัวอักษรสีแดงราวกับเลือดก่อนขย่ากระดาษแผ่นนั้นทิ้งลงในถังขยะข้างเตียงคนไข้อย่างโกธรเคือง คิดจะให้ไคโตะทรมานเพราะนายไปจนตายเลยรึไว คากามิเนะ เลน’!

    กุมขมับอย่างโกรธเคืองละเจ็บปวด คิดหรือว่าเขาไม่เห็นว่าพี่ชายของเขาเปลี่ยนไปเพราะเด็กคนนี้มากแค่ไหน ไคโตะเปลี่ยนไปมาก แม้แต่รอยยิ้มก็ยังคงเป็นรอยยิ้มที่เป็นของปลอม แค่นี้ยังทำให้ไคโตะทรมานไม่พออีกเหรอ ยังทำให้ไคโตะโศกเศร้าไม่พออีกเหรอ ยังทำให้พี่ชายของเขาร่วงหล่นลงสู่ความมืดไม่พออีกเหรอ!! พอกันที! ‘Remember’ งั้นเหรอ อยากให้จดจำตัวเองเอาไว้งั้นเหรอ! เหลวไหลสิ้นดี! ปีศาจร้ายในคราบเทวดาตัวน้อยอย่างนายน่ะ! ถ้าอยากให้ใครสักคนจดจำตัวเองเอาไว้ละก็ไม่ต้องให้ไคโตะเป็นคนจดจำนายหรอก

     

    ฉันคนนี้แหละจะจดจำให้เองจดจำใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นของนาย

     

    จดจำตัวนายที่เป็นปีศาจร้ายที่พรากความสุข

     

    ฉันจะจดจำนายให้เอง จดจำนาย

     

    ในฐานะปีศาจร้ายที่ฉันรังเกียจที่สุด

     

     

    เสียงครางอื้อเรียกให้อไคโตะหลุดจากผวัง กระเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้จ้องมองคนที่เริ่มรู้สึกตัว ไคโตะค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนมองไปรอบๆตัว พบกับใบหน้าของเด็กหนุ่มผมสีแดง

                ไคโตะ! นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?!” เอ่ยถามอย่างร้อนใจ ทำไมคนตรงหน้าถึงดูเฉยชาแบบนี้ปกติต้องกระโดดโลดเต้นให้หัวโขกกันสักรอบหนึ่งแล้วโดนเขกหัวถึงจะหยุดแปลกจนเกินไป

    แต่แล้วสิ่งที่พี่ชายฝาแฝดเอ่ยออกมาทำให้เขาเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง

     

    คุณเป็นใครครับ?

     

    นี้เป็นคำสาปของนายรึไง ปีศาจที่ฉันจงเกลียดจงชัง

     

    คำสาปแห่ง

     

    ‘Remember’

     

     

     

                มือสากของชายหนุ่มผมสีม่วงเข้มวางกระดาษสีดำบนโต๊ะ มันมีอักษรซึ่งเขียนด้วยอักษรสีแดงราวกับเลือดลงบนโต๊ะ ‘Remember’

     

    เจ้าต้องการจะบอกอะไรกันแน่?

               

     

                ท่านกาคุโป!”เสียงของเลขาสาวดังสนั่นทำเอาเขากระตุกคิ้ว อยู่ๆบานประตูก็เปิดผัวะออกอย่างแรงคาดว่าเลขาสาวนาม ลูกะต้องกระโดดถีบมันแน่ๆ ซึ่งเป็นการระทำที่กาคุโปคุ้นเคยเขาต้องเปลี่ยนประตูเพราะเธอคนนี้มาไม่ต่ำกว่ายี่สิบแปดครั้ง แต่สิ่งที่ไม่เคยชินก็คือเวลาคุณเธอกระโดดถีบแล้วไม่ยอมเอาขาลงนั้นต่างหากที่ทำเอาเขาหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศเป็นประจำซึ่งวันนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิมคุณเธอยังยกขาให้เห็นกางเกงในสีขาวเด่นหลา

                ลู-กะ!” เบนหน้าหนีชี้ไปที่ขาของเลาขาสาว ให้ตาย! ฝึกคนทั้งคฤหาสน์ได้แต่แก้นิสัยตัวเองไม่ได้ กาคุโปเหนื่อยใจ! ลูกะมองตามนิ้วก่อนจะหยุดที่ขาของตัวเองเธอรีบเอาขาลงในทันใด

                -ขออภัยคะ!”

                เอาเถอะ ที่รีบร้อนมานี้มีอะไรละ เอ่ยพร้อมรอยยิ้มแสร้ง

                เอ่อสายของเราส่งข้อมูลล่าสุดของคู่แข่งท่านมาแล้วคะ คู่แข่งของเขาคือเด็กหนุ่มผมสีฟ้าที่หนีรอดไปเพราะได้น้องชายฝาแฝดชองตนเองช่วยคู่แข่งที่ต้องกำจัด มือบางของหญิงสาววางเอกสารลงบนโต๊ะของชายหนุ่ม สิ่งที่ดวงตาสีเข้มคู่นั้นเห็นก่อนคือรูปของคู่แข่งซึ่งแนบอยู่หน้าสุด ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างงดงาม ดวงตาที่ฉายแววสนุกสนาน ริมฝีปากบางอมชมพูสวย ผิวขาวราวหิมะขับให้ร่างนั้นบอบบางเข้ากับชุดแบบโกธิคสีดำ ลองนึกย้อนกลับไปตอนที่เจอกันครั้งล่าสุด เด็กคนนี้ไม่ได้เป็นเช่นในรูปถ่ายใบหน้านั้นอาบด้วยหยาดน้ำตา ดวงตาคู่นั้นวางเปล่าราวกับไร้วิญญาณ ริมฝีปากบางนั้นขาวซีดจนน่ากลัว ร่างกายนั้นราวกับจะแตกสลายไล่ดวงตาของตนเองลงบนเอกสารนั้น ซึ่งเป็นรายการที่เคยผ่านตามาแล้ว พลิกไปถึงเอกสารแผ่นล่าสุด

     

    ผลการตรวจของทางโรงพยาบาล?

     

                กรอกดวงตาอ่านสิ่งที่อยู่ในผลการตรวจนั้นอย่างรวดเร็วก่อนเบิกตากว้าง

    เนื่องด้วยหัวกระแทกอย่างแรงมีความเป็นไปได้สูงที่จะความจำเสื่อม กระแทกเอกสารลงบนโต๊ะดังใบหน้าซีดเหงื่อแตกพลั่ก เป็นเพราะเขายิงปืนออกไปทำให้อไคโตะต้องผลักร่างของพี่ชายเพื่อให้หลบกระสุนหากเขาไม่ยิงปืนออกไปแล้วละก็

                ลูกะ! เจ้ารีบไปบอกฮิโยเทรุให้เอารถออกเดี๋ยวนี้!!”ตะคอกเสียงดังจนหญิงสาวผงะ เธอไม่เคยเห็นเจ้านายตนเองเป็นเช่นนี้มาก่อนแม้กระทั้งเรื่องของเลน

                รีบไปสิ!!”

                อ๊ะ! คะ!” ลูกะรีบวิ่งออกไปทันที กาคุโปกุมขมับมองรูปถ่ายด้วยดวงตาที่ไม่สื่อความหมาย เขาไม่ทันสังเกตเห็นกระดาษสีดำที่ร่วงลงพื้นในตอนที่เขากระแทกเอกสารลงบนโต๊ะ มันนอนนิ่งอยู่กลางห้อง เมื่อคิดทบทวนสิ่งต่างๆได้ชายหนุ่มก็คว้าเสื้อคลุมสีดำของตนมาใส่ก่อนวิ่งออกไปจากห้อง ไม่ทันรู้ตัวว่าเท้าของตนเองเหยียบลงกระดาษสีดำแผ่นนั้น

     

     

     

                วิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิตทันทีที่ถึงห้องรักษาตัวของเป้าหมายเขาก็กระแทกประตูเข้าไปทันทีส่วนเรื่องความแรงราวกับจะให้ประตูหลุดไปทั้งยวง เมื่อเห็นร่างของเด็กหนุ่มที่ตนเห็นนั่งอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดก็รู้สึกโล่งอก เขาหอบหายใจหนักแม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแรงแค่ไหนแต่การวิ่งขึ้นบันไดมาชั้น 20 นี้ก็ไม่แปลกเลยที่จะเหนื่อย อย่างน้อยสิ่งที่เขาหวาดกลัวก็คงไม่เกิดขึ้นจริง แต่แล้วดวงตาของเด็กหนุ่มก็ตวัดมามองเขา เราคงต้องฉะกันอีกสักรอบละมั่ง? ทว่าสิ่งที่เด็กหนุ่มเอ่ยออกมานั้นกลับทำให้กาคุโปถึงกับผงะ

     

                เอ่อไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ?

     

    นี้เจ้ากำลังเล่นตลกกับข้าอยู่รึอย่างไรกัน?

     

                ทิ้งเสื้อคลุมของตนเองลงบนโซฟาก่อนเดินเข้าไปหาร่างของคนป่วยที่อยู่ในชุดคนไข้สีฟ้าอ่อน ใบหน้านั้นแย้มยิ้มแต่ดวงตากลับโศกเศร้า ดวงเนตรสีม่วงมองร่างของอีกฝ่ายที่ดูไม่มีอะไรแปลกไป ยกเว้นเพียงผ้าพันแผลบนศีรษะนั้น

                เจ้าจำข้าไม่ได้จริงๆหรือ?  เป็นครั้งแรกที่อยากให้มีคนโกหกเขา มีคนแกล้งเขาเล่นโดยเฉพาะคนตรงหน้าในตอนนี้ คิ้วเรียวของไคโตะขมวดเข้าหากันเหมือนพยายามนึก แต่แล้วเขาก็ต้องเอ่ยออกมาด้วยใบหน้ารู้สึกผิด

                ผมนึกอะไรไม่ออกเลย…”เมื่อกาคุโปได้ยินคำนั้นเขาก็กดร่างของเด็กหนุ่มกระแทกผนังด้านหลังอย่างแรง! น้ำเสียงที่เอ่ยออกไปนั้นแข็งกร้าวละขุ่นเคือง

                เจ้าจำข้าไม่ได้จริงๆหรือ!”บีบกรามของอีกฝ่ายอย่างแรงเป็นครั้งแรกที่เขาขุ่นเคืองได้ขนาดนี้ ทำไมเขาต้องเป็นเดือดเป็นร้อนด้วยก็ได้เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลยดีเสียด้วยซ้ำที่อีกฝ่ายลืมเขา

     

    นี้ข้าเป็นอะไรไป?

     

                ไม่รู้ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นนึกนึกไม่ออกเลย…”เอ่ยออกมาพร้อมน้ำตาที่เอ่อล้นออกมานั้นเรียกสติของกาตุโปกลับมา เขารีบปล่อยมือของตนออกจากคางของอีกฝ่ายผงะถอยหลังไป ไคโตะยกมือทั้งสองข้างของตนขึ้นมาปิดหน้าของตนเพื่อไม่ให้ใครเห็นน้ำตา เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสะอื้น ที่รวมๆแล้วความหมายคือคำว่า ไม่รู้

     

     

    ข้าเผลอทำอะไรลงไปอีกแล้ว

     

                ดึงมือของอีกฝ่ายออกก่อนดึงร่างบอบบางนั้นมากอดเอาไว้แน่นขบกรามอย่างเดือดดาน เขาทำผิดอีกแล้วสินะ กดให้ศีรษะที่ปกคลุมด้วนเรือนผมสีฟ้านั้นซบลงกับไหล่กว้างของตนเอง

                ข้าขอโทษข้าขอโทษกระซิบคำเดิมด้วยความรู้สึกผิดที่ก่อตัวขึ้น

                คุณไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษขอโทษนะครับที่ทำยังไงผมก็นึกเรื่องของคุณไม่ออกเลยว่าคุณเป็นใคร…”ละออกจากอ้อมกอของชายหนุ่ม มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นแนบแก้มของชายหนุ่ม น้ำตายังคงเอ่อล้นออกมาไม่ขาดสาย ตอนนี้เด็กหนุ่มอ่อนแอและเปราะบางเกินกว่าจะนึกเรื่องทั้งหมดออก ก้มลงจูบซับน้ำตาให้แก่อีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงที่เอ่ยออกไปนั้นอ่อนโยนและนุ่มนวล

                ไม่เป็นไรเวลายังมีอีกมากเจ้าค่อยๆนึกให้ออกก็ยังไม่สาย…”เรียกรอยยิ้มของไคโตะออกมาได้เป็นอย่างดี รอยยิ้มที่เป็นเช่นแต่ก่อน

               

    ครับ!”

     

                กาคุโปยิ้มตอบอีกฝ่ายนี้เป็นนิสัยเดิมของคนตรงหน้าที่เขาไม่เคยเห็น นับว่าอไคโตะน้องชายของอีกฝ่ายสอนที่ออกมาได้โง่มาก! ถึงจะไม่มีความทรงจำร่างกายก็ต้องจำได้บ้างละว่าไม่ให้คนแปลกหน้ามา กอด จูบ ลูบ คลำ แบบนี้! โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน!! ไคโตะสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปจึงส่งเสียงเรียกแต่เพราะไม่รู้ชื่อจึงมีแต่คำว่า คุณ กับเอ่อ ที่หลุดออกมา กาคุโปกระตุกยิ้ม

     

    จะผิดไหม?

     

     

    ถ้าข้าอยากที่ขอ

     

     

    ให้มันแบบนี้ตลอดไป

     

     

    ข้าชื่อ คามุอิ กาคุโป ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะ ชิอง ไคโตะ

     

     

     

               

                ดวงตาสีฟ้าอมเขียวมองห้องพักรักษาตัวนั้นจากดาดฟ้าของตึกตรงข้าม อาภรณ์สีขาวบางพลิ้วไหวตามสายลมเรือนผมสีเหลืองถูกรวบเอาไว้เป็นหางม้าสูง แต่ก็ยังหลงเหลือไว้ปิดบังดวงตาขวา ริมฝีปากบางยกยิ้มไม่สื่อความหมายและน่าแปลกที่ร่างนั้นสามารถยืนอยู่บนรั้วดาดฟ้าได้โดยไม่เอนล้ม เป็นเช่นเดียวกับคนสำคัญของคนทั้งสองที่กำลังจับตามอง

                ดูท่าว่าต้องกลับไปเก็บของขวัญชิ้นสุดท้ายคืนแล้วละมั่ง? เสียงหวานถูกเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ก่อนสังเกตเห็นร่างของหญิงสาวผมสีดำแซมฟ้าที่จอนด้านหน้า

                พร้อมรึยังคะ ท่าน…”

                อืม ได้เวลาไปแล้วสินะ รุกโกะพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มกระโดดลงจากรั้วดาดฟ้า เดินตรงไปหาคนรับใช้สาว หันไปมองห้องพักอีกครั้งด้วยแสยะรอยยิ้ม

     

    แล้วฉันจะไปรับของขวัญชิ้นสุดท้ายนั้นคืนนะ เตรียมตัวไว้ละ คามุอิ กาคุโป ชิอง ไคโตะ

     

    ---TBC.---


    สวัสดีคร้าบ~~ รีเซ็ทเจ้าเก่าครับ ในที่สุดก็จบช่วง1/3เสียที แต่ไม่มีเม้น T__T  แต่ผมจะสู้อัพต่อไปครับ!

    เอาไงดีละ....หมดมุขซะแล้ว(โดนเสย) คากามิเนะ รีเทิร์น!!! [เป็นคู่กาคุโปไคโตะนะครับ]


     


     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×