ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Sengoku Basara -หากเราจะเป็นคู่กัน- Maybe

    ลำดับตอนที่ #5 : ความน่าจะเป็นที่ 3 นายหญิงดาเตะเคลื่อนไหว

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 56


    ความน่าจะเป็นที่ 3 นายหญิงดาเตะเคลื่อนไหว

               

               

                วันวานที่แสนน่าเบื่อย้อนกลับมาอีกครั้ง เมื่อคุณชายดาเตะต้องมานั่งตรวจเอกสารของบริษัทอีกแล้ว เขาอุส่าห์หนีไปอยู่อังกฤษได้ตั้ง 4 ปี แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวหรอก

    เงยหน้ามองเอกสารที่วางอยู่ท่วมห้องอย่างเซ็งชีวิต

     

                เขาตายแล้วเกิดใหม่หนึ่งรอบมันจะหายไปไหมนะ?

     

                ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูที่เรียกให้ความคิดของเขาขาดช่วงและเสียงที่ดังมาจากด้านหลังประตูทำให้ต้องลุกขึ้นผูกผ้าม่านเป็นเชือกเตรียมหนี!

                “ผมโคจูโร่ครับ ผมกับโคโตรุเอาเอกสารมาเพิ่มให้ครับ”

     

                ไม่เอาแล้วโว้ย!!

     

                หากแต่ยังไม่ทันได้โหนตัวลงไปบานประตูก็ถูกเปิดออกเสียก่อน ร่างของคนสองคนก้าวเข้ามาในห้องก่อนที่คนอายุมากที่สุดจะขมวดคิ้วอย่างสงสัยทำไมคุณชายไปนั่งอยู่บนขอบหน้าต่างละนั่น?

                “คุณชายจะทำอะไรหรือครับ?

                มาซามุเนะสะดุ้งเฮือกก่อนจะเสตามองไปรอบๆ ที่ไหนก็ได้นอกหน้าต่าง ท้องฟ้า ต้นไม้ หมาแมวไก่(?)หรืออะไรก็ได้ทั้งสิ้น!

                “แค่นั่งมองนอกหน้าต่างคลายเครียดเท่านั้นแหละ enjoy enjoy Ha-ha!!” แถสีข้างลงอีกครั้งคราวนี้มันเจ็บจนน้ำตาไหลเลย เลือดอาบแหงๆ!

                “หมดเวลาพักแล้วครับ ช่วยมานั่งทำงานต่อด้วยครับ” แม้จะยังไม่เข้าใจว่าคุณชายอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่แต่โคจูโร่ก็ต้องบังคับให้คุณชายทำงานให้เสร็จให้ได้ละ และเมื่อมาซามุเนะเดินกลับมานั่งอย่างจนใจโคโตรุก็เดินไปที่หน้าต่างบานนั้นแทนทำเอาเสียววาบ!

                “วันนี้อากาศดีนะครับ คุณชาย” แล้วก็หันมายิ้มให้เขาอย่างร่าเริงผิดปกติ! ไม่นานพวกพ่อบ้านก็ออกไปจากห้องทำงานของเขา คุณชายมาซามุเนะจึงรีบถลาไปที่หน้าต่างเพื่อปีนลงไปให้สำเร็จ หากแต่ผ้าม่านที่พ้นขอบหน้าต่างลงไปถูกปลดออก!

                ดวงเนตรสีมหาสมุทรเบิกกว้างมองซากผ้าที่นอนนิ่งอยู่เบื้องล่างอย่างงุนงง และเมื่อเห็นว่าโคโตรุเดินออกมาเก็บกองผ้าก็ยิ่งตกใจใหญ่ เด็กหนุ่มเรือนผมสีฟ้าเก็บกองผ้าขึ้นก่อนจะเงยหน้ามองคุณชายของตน ฉีกยิ้มแล้วชูสองนิ้ว

                คิดว่าเขาไปดูสภาพอากาศนอกหน้าต่างอย่างเดียวรึไง?

                และเมื่อเดินกลับเข้าคฤหาสน์หมายจะเอาผ้าไปซักเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังมาด้วยความโกรธจากตัวแสบประจำบ้าน

                “แค้นนี้ต้องชำระแน่ ไอ้โคโตรุ!!!

     

    ไม่รู้ครับ ผมไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้นครับ มันทะลุหูขวาผมไปแล้วครับ

     

     

     

                กัดฟันกรอดๆ อย่างเจ็บใจกับพ่อบ้านประจำตัวคนใหม่ไอ้เด็กเวรนั่นมันแสมาก!

    ถ้ามันไม่ได้คอยช่วยเขาต่อกรกับผู้หญิงคนนั้นละก็เขาไล่ออกไปนานแล้ว!

                “คุณชายครับ ผมสึคิโยมิครับ ผมเอาของว่างมาเสริฟครับ” หลังจากเสือก็จระเข้เรอะ? ด่าเสือเจอจระเข้เรอะ? เด็กหนุ่มผมสีทองเดินเข้ามาในห้องพร้อมรถเข็นอาหาร เขายิ้มออกมาทันทีที่เห็นหน้ามาซามุเนะ “ผมทำต้มถั่วเขียวครับ แต่มันเยอะไปหน่อย ขอให้คุณชายกินให้หมดด้วยนะครับ”

                ก่อนมันจะวางถ้วยถั่วเขียวต้มน้ำตาลจำนวนสิบถ้วยลงบนโต๊ะของเขา ดวงเนตรที่เหลือข้างเดียวเบิกกว้างจนแทบถลนออกจากเบ้า!

    สรุปจะให้กินหรือให้กรอก??!

     

                “เยอะขนาดนี้จะกินหมดได้ยังไง?” เงยหน้ามองพ่อบ้านผมสีทองที่ยังคงยิ้มอยู่เช่นเดิม “ถือว่าผมขอแล้วกันนะครับ ช่วยกินให้หมดด้วยนะครับ”

                “หะ? เมื่อกี้ฉันหูแว่วรึเปล่าฟะ?” อย่างไอ้เด็กนี่เนี่ยนะขอเขาวันนี้กินยาไม่เขย่าขวดรึไง? คิเซย์นะยิ้มออกมาอีกเล็กน้อย “ไม่แว่วหรอกครับ คนทำอาหารก็ต้องอยากให้คนกินกินเยอะๆ เท่านั้นแหละครับ”

                จะก้าวออกไปจากห้องแต่ก็ถูกคนที่เริ่มกินถั่วเขียวของเขาพูดรั้งไว้เสียก่อน

                “นายคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่?

                “ผมไม่คิดอะไรนอกจากการจะกัดคุณทางคำพูดหรอกครับ” ยิ้มสนุกสนานเรียกให้มาซามุเนะขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเขาถามอย่างเคร่งเครียดแต่มันดันตอบแบบกวนส้น

                คุณชายสูดลมหายใจสงบสติอารมณ์ที่จะเอาถ้วยปาใส่หน้าอีกฝ่ายก่อนเอ่ยถามอีกครั้ง คราวนี้ดวงเนตรสีฟ้ากระจ่างกระตุกเล็กน้อยก่อนจะกลับไปเรียบนิ่งเหมือนเดิม

                “นายเป็นลูกมือให้ผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม?

                รอยยิ้มฉายชัดบนใบหน้าอ่อนวัยอย่างไม่สื่อความหมาย เขาเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนราวกับท้อแท้ในอะไรบางอย่าง

    “ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรหรอกนะครับ ผมแค่ทำงานตามที่เจ้านายสั่งเท่านั้นครับ”

     

     

     

     

     

     

                เขาใช้เวลาเกินครึ่งชั่วโมงในการกินต้มถั่วเขียวให้หมดตอนนี้ถ้าต้องกินมันอีกเขาต้องปฏิเสธแน่ เพราะมันเอียนมาก! ต้มถั่วแบบเน้นๆ เลยนะแก!

                ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้เป็นคนสนิทของเขาเองแต่ว่าข่าวที่อีกฝ่ายเอามาส่งเขาทำให้ปากกาหมึกซึมในมือถูกกดอย่างแรงจนปากแตก หมึกซึมออกมานองเต็มกระดาษ

                “คุณชายครับท่านหญิงดาเตะเรียกให้คุณและว่าที่ภรรยาไปร่วมโต๊ะอาหารเพื่อฉลองการกลับมาของเธอครับ” เขายังจำได้ดีสาเหตุที่เขาต้องหนีไปอยู่อังกฤษเมื่อ4ปีก่อน เธอจะใช้วิธีเดิมอีกหรือเปล่า?!

                “ให้ผมไปบอกปฏิเสธให้ไหมครับ?” ว่าอย่างกังวลเขาไม่อยากให้เจ้านายของตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพแบบนั้นอีกแล้ว

                “ไม่ได้ถ้าฉันไม่ไปคนที่จะโดนจะกลายเป็นยูคิมูระ” เขาสังหรณ์ใจมาตั้งแต่ท่าทางแปลกๆ ของคิเซย์นะแล้ว รวมไปถึงการกลับมาของเธอด้วย!

                “ไปรายงานยัยป้านั่นเลยว่าฉันจะไปแล้วก็บอกยูคิมูระด้วยว่าจนกว่าฉันจะกินอาหารได้ถึงสามคำ ห้ามกินอะไรทั้งสิ้น”

     

    เขาจะไม่ยอมให้แม่ของตัวเองทำร้ายยูคิมูระได้เด็ดขาด!

     

                “คุณหนูซานาดะ” เสียงเรียกที่ทำให้ยูคิมูระหันกลับไปมองคือเสียงของผู้ดูแลประจำตัวเธอ วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสสบายๆ ที่ใส่ในบ้านแต่เด็กสาวก็ยังงดงามเช่นเคย

                “คะ? มีอะไรรึเปล่าคะ คุณคิเซย์”

                “คุณกำลังจะไปร่วมโต๊ะอาหารกับท่านหญิงดาเตะใช่ไหมครับ?” เมื่อได้คำตอบคือการพยักหน้า เขาก็ต้องถามต่ออย่างกลุ้มใจ “แล้วคุณชายได้ฝากใครมาพูดอะไรรึเปล่าครับ?

                “คุณโคจูโร่คะเขามาบอกว่า ห้ามกินอะไรจนกว่าคุณชายจะกินอาหารได้สามคำ คะ จะว่าไป มันเพราะอะไรเหรอคะ?กลายเป็นว่าเขาถูกถามเสียเอง

                “ก็ทำตามที่เขาบอกแล้วกันนะครับ”เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง และเนื่องด้วยยูคิมูระเป็นคนเชื่อคนง่ายและไม่คิดอะไรจึงได้แต่พยักหน้ารับอย่างงงๆ “จริงสิ! ผมซื้อมาให้แล้วนะครับ”

                ไอโฟนถูกส่งให้เด็กสาวที่พอเห็นมันแล้วก็ดูดีใจมาก! มันคือสิ่งที่เธอขอเขาไปเมื่อวาน เธอไม่มีโทรศัพท์! ตอนอยู่ที่นางาโนะคนสนิทของเธอมีโทรศัพท์และไปไหนมาไหนด้วยกันกับเธอเสมอจึงไม่จำเป็นต้องมี แต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่กับคนสนิทนี่นาก็ต้องมีโทรศัพท์ส่วนตัวละ

                “ขอบคุณมากคะ! เดี๋ยวฉันไปเอาเงิน

                “ไม่ต้องหรอกครับ ผมซื้อให้คุณถือว่าเป็นของขวัญที่ได้พบกันแล้วกันนะครับ” ว่าด้วยรอยยิ้มหากแต่อีกฝ่ายก็ยังคงเกรงใจอยู่ดี เขาจึงต้องบอกปัดก่อนเดินหนีออกมา จริงๆ แล้วไอโฟนเครื่องนั้นน่ะ

     

     

     

     

     

     

     

                “ไม่ได้กินข้าวพร้อมกับลูกมานานแล้วนะ มาซามุเนะ” หญิงสาวผู้มียศสูงสุดในบ้านเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาน แต่ก็ไม่ทำให้คิ้วที่ขมวดกันมุ่นของมาซามุเนะคลายออกจากกันได้เลย

                “ไม่ได้อยากกินพร้อมคุณนิ”

                “พูดจาได้น่ารักเหมือนเดิมเลยนะ” ริมฝีปากแต้มลิปสติกสีแดงกรีดรอยยิ้มออกมาอย่างไม่สื่อความหมายก่อนจะหันไปทางยูคิมูระ “เราเพิ่งพบกันสินะจ๊ะ ฉันเป็นแม่ของมาซามุเนะจ๊ะ”

                “เอ่อคะ ซานาดะ ยูคิมูระคะ ยินดีที่ได้พบคุณแม่นะคะ” ถึงเธอจะบ้านนอก แต่เรื่องการเคารพผู้ใหญ่เธอมีพร้อม แม้ว่าการกระทำแบบนี้จะไม่คู่ควรกับผู้หญิงคนนี้ก็ตาม

                “ทำไมไม่กินอะไรกันเลยละจ๊ะ หรือกลัวว่าฉันจะวางยาพิษ?” ด้วยประโยคนั้นทำเอายูคิมูระเสียวสันหลังวาบ แม่ที่พูดแบบนี้ต่อหน้าลูกชายก็มีด้วย มาซามุเนะถีบโต๊ะอย่างแรงก่อนคว้าแขนของคู่หมั้นสาวให้ลุกขึ้น แต่ก็ต้องชะงักเมื่อกำลังจะเดินออกไปกลับโดนบอดี้การ์ดของมารดาขวางไว้

                “นี่คุณ…!” เจ้าของดวงเนตรข้างเดียวตวัดไปหามารดาตนเองอย่างโกรธเคือง แต่หญิงสาวก็ยังคงยิ้ม เธอผายมือไปที่อาหารในส่วนของพวกเขาที่อยู่บนโต๊ะ “กินซะ”

                ยูคิมูระรู้สึกได้เลยว่ามือของคู่หมั้นหนุ่มกุมแขนเธอแน่นจนทำให้เจ็บ แต่ก็ไม่ทันได้บอกอีกฝ่ายร่างของเธอก็ถูกบอดี้การ์ดคนหนึ่งกระชากไปด้านหลังอย่างแรงเรียกให้ดวงเนตรของมาซามุเนะกระตุกอย่างตกใจอีกครั้งตอนนี้เขารู้แล้วว่ามารดาของตัวเองต้องการอะไร

                Basely mother” กระแทกตัวเองลงกับเก้าอี้ก่อนตักอาหารในจานเข้าปากตนเองหากเขาไม่กิน คนที่จะเป็นอันตรายจะกลายเป็นยูคิมูระ!

     

                “อ่อก!” อาการที่ลูกชายแสดงออกมาทำให้หญิงสาวผู้เป็นมารดากรีดยิ้มอย่างพึ่งพอใจเธอสั่งให้บอดี้การ์ดของเธอปล่อยเด็กสาวที่แตกตื่นเพราะอาการผิดปกติของคู่หมั้นตนเอง

    มือของมาซามุเนะปัดจานบนโต๊ะร่วงลงพื้นทำให้มันแตกกระจายเต็มพื้น เขาดิ้นทุลนทุลายอยู่บนเก้าอี้หรู สองมือกุมคอตัวเองอย่างทรมาน ยูคิมูระที่เข้ามาดูอาการก็แตกตื่นแต่ก็พอจะคุมสติตัวเองเอาไว้ได้ เธอกอดเด็กหนุ่มที่กำลังดิ้นทรมานไว้ ตะโกนเรียกพ่อบ้านที่ตนรู้จักออกมาสุดเสียง

                “คุณโคจูโร่! คุณโคโตรุ! คุณคิเซย์!!!

     

                “คุณชาย!! เป็นโคจูโร่ที่พุ่งเข้ามาก่อน กว่าเขาจะฝ่ายพวกบอดี้การ์ดของนายหญิงดาเตะเข้ามาได้ก็แทบแย่ “โคโตะ! เอาน้ำสะอาดมา!!

                สิ้นคำสั่ง พ่อบ้านหนุ่มผมฟ้าก็พุ่งเข้ามาพร้อมแก้วน้ำทรงสูงบรรจุน้ำที่เอามาใช้ล้างพิษที่หลงเหลืออยู่ในปากเพื่อลดความเสี่ยงลง!

                หากแต่ท่ามกลางความชุลมุน คุณนายดาเตะกับไม่แม้แต่จะขยับ เธอยังคงจิบน้ำชาอย่างสบายๆ ราวกับว่าเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเพียงละคร ถึงจะซื่อหรือเป็นคนมองโลกแง่บวกแค่ไหนแต่มีหรือที่ยูคิมูระจะไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้เลวร้ายที่สุด!

     

     

                มาซามุเนะหมดสติไปในอ้อมแขนของคู่หมั้นสาว โดยที่ไม่กี่นาทีต่อมารถพยาบาลก็มาจอดที่หน้าคฤหาสถ์

     

    โดยไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เรียกมา

     

     

     

     

     

    *

     

    *มองงงๆ* นี่ตอน 3 ไม่ใช่เหรอฟะ? แล้วไหงตูวางยาพระเอกตั้งแต่ต้นเรื่องเลยฟะเนี่ย? แล้วต่อไปเขาจะรอดไหมเนี่ย =[]=

    ขอบคุณคนอ่านมากเลยนะครับ แต่ผมจะบอกว่า วันนี้ไม่ตอบเม้นครับ” *โดนเสย* ไว้มีเวลามากกว่านี้แล้วจะตอบให้นะครับ แค่ตอนนี้ก็ปั่นให้แบบน้ำไหลไฟดับกันทีเดียวละครับ  ใครสังเกตตอนนี้ จะมีใครบางคนทำตัวน่าสงสัยโพ้ดๆ อยู่ครับ! (เขารู้กันแล้วละแก) เอาละครับ คุณชายจะรอดไหม? (ถามคนอ่านเฉยเลยนะไอ้คนเขียน)

    ติดตามกันต่อไปนะคร้าบ!!! =w= (เราจะมาดูกันว่าคุณนายดาเตะจะเลวได้ขนาดไหน)

     

    03/07/2556

    FesenyAReseT
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×