ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic นอกรอบ (รวมฟิคที่แต่งเอง)

    ลำดับตอนที่ #4 : fanfiction rise of the guardians Snow 2

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 56


    fanfiction Risse of the guardians

    Title : Blu Fiocchi di. [เกล็ดหิมะสีคราม]

    Author : FesenyAReseT

    Rating : PG-13

    Author Note : เขียนจากการสนองนีทตัวเองที่ทำยังไงก็ลืมแจ็ค ฟรอสต์ไม่ลง และเรื่องนี้มีตัวละครใหม่เพิ่มมาด้วย ระวังงงนะครับ

     

    Snow 2

     

                ยามมืดมาเยือนอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะโมโหจนอยากจะฆ่าทุกคนทิ้งแต่เอเธนก็มีเหตุผลมากพอที่จะไม่ละทิ้งหน้าที่ที่ทำมานานแสนนาน แจ็ค ฟรอสต์เดินไปตามสายไฟที่คั่นระหว่างสองตึก ทุกครั้งที่ก้าวเดินมันก็ถูกเคลือบเป็นน้ำแข็ง

                “จะกลับแล้วหรือ แจ็ค ฟรอสต์”เสียงหวานของหญิงสาวเรียกให้เขาหันไปมองอย่างไม่อยากเชื่อหูตนเอง อะไรทำให้นางมาที่นี่?

                “วันนี้ลมอะไรพัดเจ้ามาหรือ เอเธน”

                “ไม่ใช่ลมของเอโอรัสก็แล้วกัน ฟรอสต์” ร่างของหญิงสาวเรือนผมสีเขียวเข้มโรยตัวลงมาข้างกายของผู้พิทักษ์แห่งความหนาวเย็น ปีกผีเสื้อกลางคืนที่หลังของนางกระพือน้อยๆ เพื่อให้ยังลอยตัวอยู่ได้

                “ดูเจ้าจะอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย เอเธน” กระโดดลงบนหลังคาที่เชื่อมสายไฟไว้ด้วยกันก่อนจะหันไปส่งรอยยิ้มให้แก่เทพีแห่งราตรีและจันทรา

                “แน่แท้ฟรอสต์ ข้ากำลังโกรธพวกมนุษย์” รองเท้าส้นสูงของเอเธนแตะลงบนหลังคาอย่างแผ่วเบาปีกที่หลังค่อยๆ สลายหายไปกับความมืด ในโลกแห่งความมืดและความหวาดกลัวเองก็มีผู้คอยควบคุมอยู่เหมือนกัน แล้วจะเป็นใครได้นอกจากเอเธนกันเล่า

                “โกรธพวกเขาเรื่องอะไรเล่า เอเธน” คงจะไม่ใช่ว่าไปได้ยินเรื่องที่เขาว่าร้ายตัวเองหรอกนะ?

                “ก็ขนมไหว้จันทร์ปีนี้ไงละ!!

     

                หา?

     

                “ไม่ใช่ของดีเลยสักอย่าง เหล้าก็ไม่อร่อย!! ข้าถึงมาหาเจ้าไงละฟรอสต์! ข้าเอาน้ำหวานมาแล้วเอาน้ำแข็งเจ้ามาเดี๋ยวนี้เลย!!

     

                เยี่ยมยอด เขารู้แล้วว่าลมอะไรพัดหล่อนมา

     

                ลมน้ำแข็งไสของเขาไง!!

     

                “แล้วเป็นอย่างไรบ้างเล่า?” เอเธนเอ่ยขึ้นพลางงับช้อนน้ำแข็งไสเข้าปากเรียกให้เครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นมาบนหัวของเทพแห่งเหมันต์ “เจ้าหมายความว่ายังไง?

                “...เปล่า ข้าแค่พูดกับเอโอรัสน่ะ” เอโอรัส? เอโอรัสไม่ได้อยู่ที่นี่ในตอนนี้เสียหน่อย? แล้วสรุปว่าเธอคุยกับใครกันแน่? ...เอเธนไม่ปล่อยให้เขางุนงงนานไปกว่านี้ เธอยืนขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับที่ช้อนและถ้วยว่างเปล่าที่เคยมีน้ำแข็งไสรสหวานบรรจุอยู่สลายหายไปกับความมืด

                ไม่ไปเที่ยวบ้านข้าบ้างหรือ? บุรุษในดวงจันทร์ถามหาเจ้าอยู่เหมือนกันนะ เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่ใครๆ ก็ยากจะมองเห็น เรียกให้แจ็ค ฟรอสต์แอบเหงื่อตกอยู่ในใจ ไม่ใช่ว่าที่เอเธนทำดีกับเขามากกว่าคนอื่นเพื่อจะฉุดเขาไปเป็นเคะให้ใครหรอกนะ (ตรงประเด็น)

                ไม่ดีกว่า ข้าไม่อยากรบกวนเขา

                แต่หากว่าตอนนี้ เจ้าจำเป็นต้องไปละ ฟรอสต์ เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเรียกให้ความงุนงงฉายชัดบนใบหน้าของแจ็ค ฟรอสต์อีกครั้ง

                เจ้าหมายความว่าอย่างไร เอเธน?”

                คนที่ตอบคำถามเจ้าไม่ใช่ข้า ฟรอสต์ แต่เป็นเขา ชี้ไปที่ดวงจันทราด้วยใบหน้าเรียบนิ่งราวกับว่าเธอกำลังสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ...แจ็ค ฟรอสต์มองใบหน้าครึ่งเสี้ยวของหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ ทันใดนั้นเธอก็หันมายิ้มให้กับเขา

                ไม่นานรุ่งสางก็จะมาถึงแล้ว ...ข้าคงต้องไปแล้วละ ฟรอสต์ ....กลับไปควบคุมการทำงานของสรรพสิ่งในความมืด

                เจ้าคงเหนื่อยแย่ แจ็ค ฟรอสต์ยิ้มออกมาบางๆ เรียกให้เอเธนที่กำลังรวบผมใหม่ทำแก้มป่อง ยุ่งมากจนกินของหวานไม่อร่อยเลย ...ข้าเองก็กำลังคิดไม่ตกว่าจะปล่อยพิทซ์ แบล็คออกมาจากรูใต้เตียงนั่นดีไหม เพราะที่เรายังสะกดให้เขาสร้างฝันร้ายให้เด็กๆ ในบางคืนได้ก็เพราะขังเขาไว้ในนั้น

     

                ...ไม่หรอกเอเธน เท่าที่ข้าดู ดูเหมือนว่าเขาจะไม่กล้าออกมาเพราะเจ้ากับน้องชายที่ต่างกันคนละขั้วมากกว่า

     

                เอาเถอะ! ไว้ข้าจะเรียกประชุมเทพไร้ดวงตา มาคุยกันเรื่องนี้ก็แล้วกัน ข้าไปละนะ ฟรอสต์ ปีกผีเสื้อกลางคืนปรากฏขึ้นบนหลังของเธออีกครั้ง ก่อนที่เท้าซึ่งคลุมด้วยรองเท้าส้นสูงจะค่อยๆ ลอยขึ้นจากพื้น เธอออกบินไปโดยไม่ลืมหันมาส่งยิ้มและโบกมือลาเพื่อนสนิทที่จับตามองมาตั้งแต่เกิด

                ฝ่ายแจ็ค ฟรอสต์เองก็โบกมือลาตอบไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆ เขาเองก็เข้าใจว่าพวก เทพไร้ดวงตา จะรู้สึกอย่างไรอยู่หรอก ...เพราะว่าหากว่าเขาไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์เขาก็คงจะไปอยู่กับพวกเอเธนที่เป็นเทพที่มนุษย์มองไม่เห็นแน่

                เอเธน เทพีแห่งราตรีและจันทรา หัวหน้าใหญ่ของเทพไร้ดวงตา ต้องจับตามองเทพไร้ดวงตาตนอื่นๆ ไม่ให้ทำร้ายมนุษย์

                ทอว์ เทพแห่งสายฟ้าและสายฝน รองหัวหน้าของเทพไร้ดวงตา เป็นศาสตราที่ไม่อาจหยุดพักแม้กายจะแหลกสลาย

                เอโอรัส เทพแห่งสายลม ผู้ส่งสารของเทพไร้ดวงตา นำสารออกรบและสารการต่างๆ ไปส่งแก่เทพทุกทิศบนโลก

                เฮฟเฟตัส เทพแห่งเปลวเพลิง ผู้ควบคุมกฎของเหล่าเทพไร้ดวงตา ต้องตะเวนมองดูเทพไร้ดวงตาที่ทำผิดกฏ

                เมอร์คิส เทพแห่งการค้าและความว่องไว ผู้ออกกฎของเหล่าเทพไร้ดวงตา แสวงหาการควบคุมเทพไร้ดวงตาไม่ให้เกินเลยส่วนของมนุษย์

                มิเนอร์ส เทพแห่งปัญญาและความเข้าใจ ผู้เป็นมันสมองของเหล่าเทพไร้ดวงตา รับแรงกดดันจากรอบด้านนึกคิดการรับมือในเรื่องต่างๆ

                โฟเซส เทพแห่งวารีธารา ผู้ปรับสมดุลในโลกของเหล่าเทพไร้ดวงตา เป็นเหมือนสื่อกลางที่ต้องประสานงานกับทุกฝ่ายอย่างชอบธรรม

     

     

                แม้จะไม่มีใครมองเห็น แต่ก็ต้องรับภาระอันหนักอึ้งจนไม่อาจจะคาดเดาได้ว่ามันจะหนักหนาเพียงใด เขาไม่มั่นใจเลยว่าถ้าเป็นตัวเองจะรับได้ถึงขนาดนั้นหรือไม่...

    เลื่อนฮู้ดขึ้นมาคลุมเรือนผมสีเงินสว่างก่อนที่ลอยตัวขึ้นสู่ท้องฟ้ายามเช้า

     

    TBC

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×