คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : the last of lover รักสุดท้ายของเธอเเละเค้า -*- ความรักจะอยู่กับเราตลอดไป -*-003
วันพุธ
+ + ห้องอัดเสียง + +
โฮรินรีบพาคังอินเดินไปที่ห้องอัดก่อนเวลาซ้อมที่เธอจะได้มาซ้อมแต่แล้วความคิดของเธอก็ต้องผิดหวังไปเพราะ
คนโฮรินเห็นนั้นไม่ใช้นักร้องในค่ายของค่าย the
apt premiem project เลย แต่เค้าเป็นผู้หญิงที่น่ารักดูแล้วสดใส
ส่วนอายุก็คงเท่าๆกันกับโฮริน แต่งตัวนำแฟชั่นมากๆ ซึ่งเสื้อผ้าที่ผู้หญิงคนนั้นใส่โฮรินเห็นแล้วยังต้องอิจฉาเพราะเธอดูเป็นลูกคนไฮโซแน่ๆเลย
* ว๊า ! ใครก็ไม่รู้
พี่คังอินเค้าเป็นนักร้องด้วยหรอ ทำไมสวยจัง *
* อ๋อ ผู้หญิงคนนั้นหรอ
เค้าก็เป็นคล้ายๆเธอนั้นล่ะโฮริน ทั้งสวยทั้งมีความสามารถ ใครเห็นก็ชอบทั้งนั้น
แต่เธอก็ยังไม่ใช้ทุกอย่างของคนที่เธอรักนิ
เธอเข้ามาเป็นนักร้องเพราะมีเหตุผลส่วนตัว แล้วเธอต้องทำให้สำเร็จ ฉันรู้ว่าเธอเข้ามาเพื่ออะไร
แต่เธอก็ไม่น่าจะทำถึงขนาดนี้เลย
* แล้วเพื่ออะไร ?
พี่พูดเหมือนเธอเป็นตำรวจสายลับอะไรประมาณนั้น *
* โฮรินเธอดูหนังมากไปหรือป่าว คิดได้ไง
ผู้หญิงคนนั้นเค้าชื่อ เยินเซง
เป็นนักร้องที่เพิ่งเค้ามา เธอมีแผนจะออกอัลบั้มในปีหน้า เยินเซงก็เหมือนเธอล่ะโฮริน
เข้ามาด้วยความสามารถ เธอเป็นลูกของ บัวเงิน ที่เป็นเจ้าของร้านเพชร
ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี แล้วยังเป็น 1 ใน 20 คนรวยที่สุดของเกาหลีอีกด้วย
รู้สึกว่าบัวทองจะเรียนที่เดียวกับเธอนะโฮริน แต่ไม่ต้องห่วงหรอก
ไม่ใช้ที่เดียวกับ ฮีจินหรอกนา เอ๊ะ วันนี้ไม่ใช้คิวเธอนิ เธอมาทำไมกัน *
* พี่นิรู้เยอะจัง รู้จักแต่ลูกคนรวย
เป็นปาปารัสซี่หรือไง แต่ดู เยินเซงแล้วก็น่ารักดีนะ
แต่พี่คังอินฉันว่าฉันเคยเห็นหน้าเธอที่ไหนก็ไม่รู้ มันคุ้นๆนะนิ *
* โฮรินเดี๋ยวเยินเซงเดินมาเธอก็รู้เองว่าเคยเห็นที่ไหน
*
คังอินพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้
ทั้งสองคนยืนอยู่ข้างนอกห้องอัดที่เป็นกระจกใสขนาดใหญ่ที่สามารถมองเข้าไปข้างในอย่างเห็นได้ชัด
แล้วเยินเซงก็เลยหันมาเจอคังอินกับโฮริน เยินเซงโบกมือให้คังอินเหมือนคนรู้จักกันมานานแล้วซะงั้น
โฮรินคิดว่า เยินเซงคงเป็นคนที่น่ารัก นิสัยเป็นกันเอง ไม่หยิ่ง
ถึงว่าล่ะใครๆก็อยากรู้จัก เพราะแม้แต่คังอินยังรู้จักเธอ
แสดงว่าเอก็คงมีอะไรพิเศษแน่ะเลย แล้ว เยินเซงก็เดินออกมาทักคังอิน
* โฮริน ระวังตัวไว้แล้วกัน *
คังอินกระซิบโฮรินแต่เธอก็ยังไม่เค้าใจอะไรเลยแล้ว
เยินเซงก็เดินออกมา
* สวัสดีคะพี่คังอิน
แหมไม่เจอกันนานเลยนะ แล้วเทซุนล่ะไม่มาด้วยหรอ *
* ไม่หรอเค้าไม่ได้มาด้วย *
* แล้วคนนี้แฟนพี่หรอคะ
น่ารักจังเลยเนาะ *
โฮรินคิดในใจว่า หุหุ
เธอชมฉันด้วยล่ะ แบบนี้ล่ะคนหน้าตาดีใครๆก็ไม่มองข้ามแล้วคังอินก็พูดว่า
* ไม่ใช้หรอก อย่างยัยนี่หรอจะเป็นแฟนฉันได้
*
เยินเซงเลยหันไปหาโฮรินแล้วยื่นมือมาแล้วบอกว่า
* สวัสดีคะ ฉันเยินเซง
จะมาเป็นนักร้องใหม่ในค่าย the apt premiem project คะ *
โฮรินยื่นไปจับมือเธอแล้วบอกว่า
* สวัสดีคะ ฉันฮีจิน ฉันก็จะเป็นนักร้องใหม่ของค่าย the
apt premiem project เช่นกันคะ *
สีหน้าของเยินเซงเปลี่ยนไปทันทีหลังจากที่โฮรินบอกชื่อไป
เยินเซงปล่อยมือเธอ แล้วยิ้มให้โฮรินแล้วบอกว่า
* นี่หรอเองหรอที่คนอื่นชมว่าสวย
น่ารักมากๆ ฉันก็เพิ่งเคยเห็นตัวจิงนะคะ สมควรที่เทซุงจะคลั่งเธออยู่หรอก
ก็เธอน่ารักซะแบบนี้ *
โฮรินงงกันคำพูดของเยินเซงมาก โฮรินเองก็พยายามคิดตาม
* นิรู้ไหม
วันนั้นนะถ้าฉันไม่ถูกรถชนนะฉันก็จะได้ไปออกรายการ
เธอคงไม่ได้ออกรายการแล้วดังได้หรอกนะ *
เยินเซงหัวเราะโฮรินแล้วก็ร่ายเรื่องของเธอกับเทซุนให้ฟัง
แต่โฮรินก็ไม่ได้ฟังอย่างจิงจังมากนัก เธอหันไปมองหน้าคังอินแล้วคังอินก็เลยพยักหน้า
ซึ่งนั้นแปลว่า เธอคนนั้นที่โฮรินกับคังอินคันรถตัดหน้า
โฮรินก็เลยหัวเราะกับเหตุการณทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างโดยบังเอิญมากๆ
แล้วอีตาเทซุนมาเกี่ยวไรด้วยนะ แต่โฮรินก็ไม่สนเธอเลยตอบออกไปว่า
* เยินเซงเธอพูดถึงอะไรหรอ
ฉันไม่เข้าใจที่เธอพูดเลย *
โฮรินแกล้งทำเป็นอินโนเซ้น
แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่เยินเซงพูดมาซึ่งทำให้เยินเซง ยิ่งเพิ่มทวีความโกรธ
ทั้งๆที่เธอก็ยังยิ้มอยู่เยินเซงเลยบอกว่า
*
แหมก็คนบ้านๆอย่างเธอจะไปเข้าใจอะไรล่ะจ๊ะ ฉันคงใช้คำพูดที่เธอไม่เค้าใจ
อื้ม...โทษนะคะแบบว่าหน้าตาฉันไม่บ้านนอกจ๊ะเลยพูดแบบบ้านๆไม่เป็น *
โฮรินขึ้นเหมือนกับโดนของทางศัยยาศาสตร์เข้าตัว
เธอโกธรเหมือนจะกลายร่างเป็น เดอะฮันตัวเขียวไปซะอย่างนั้น แต่ด้วยนิสัยเธอ เธอไม่ชอบใช้กำลังตัดสินหรอก
ศึกนี้ต้องบุกก่อนด้วยวาจาถึงจะได้เปรียบ
* นิ เยินเซง เธอนิก็เป็นลูกผู้ดี๊ผู้ดีนะนิ
ดูซิ แต่งเนื้อแต่งตัวออกจะดี หน้าตาเธอก็ดีนะเนี๊ย แต่ทำไม๊ทำไม
ใจเธอไม่ดีเหมือนน่าตาเธอเอาซะเลย *
โฮรินพูดพร้อมเดินดูรอบๆตัวเยินเซง
แล้วเธอเลยหยุดตรงหน้าเยินเซง เธอมองเค้าไปที่หน้าเยินเซงทำท่ามองอะไรซักอย่าง
*อะไรหรอจ๊ะ ฮีจิน
ไม่เคยเห็นคนสวยอย่างฉันมาก่อนล่ะซิดูซิมองใหญ่เลย หุหุ*
* เยินเซงหน้าเธอเป็นจุดด้วยหรอ
ไม่น่าเชื่อนะนิ ว่าคนอย่างเธอจะปล่อยให้ตัวองเป็นแบบนี้ *
โฮรินพูดแล้วก็หัวเราะเชิงยั่วให้เยิงเซิงโกธรแล้วเยินเซงก็เลยหยิบกระจกที่อยู่ในกระเป๋าออกมาส่องไปทั่วหน้าแล้วเธอก็ไม่เห็นจุดอะไรแม้แต่จุดเดียว
* นิโฮรินเธอโกหกฉันหรอ *
*ไม่นะจิงๆดูซิเริ่มขึ้นเต็มน่าแล้ว
อ๊ายรับไม่ได้ ทำไมเธอเป็นแบบนี้อ่ะ น่ากลัวมากๆเลย เธออยากรู้ไหมว่าจุดอะไรขึ้นอยู่ที่หน้าเธอ
เยินเซงพูดด้วยความตกใจพร้องกับส่องกระจกไปด้วย
* แล้วมันจุดอะไรล่ะ *
* จุด ดับ ของชีวิตเธอไง
ดูแล้วมันเหลือน้อยแล้วนะ ฉันว่าเธอต้องรีบไป สะเดาะเคราะห์ได้แล้วนะ
ก่อนที่มันจะขึ้นมาอีก
เยินเซงโกธรทั้งที่ยิ้ม
เธอเริ่มจะมีอากาศอยากกระโดดเตะโฮรินเหมือนจาพนมมากแต่ด้วยความเป็นลูกผู้ดีเธอก็ได้แค่
* แหมโฮริน ขอบใจที่เป็นห่วงนะคะ
แต่เอ๊ะฉันว่าน่าของเธอโฮริน น่าเธอก็เริ่มเกิดจุดแล้วนะ *
โฮรินเริ่มคิดว่า โอ๊ย
ทำไมถึงยังไม่ไปอีกนะอย่างนี้ต้องให้แผนBซะแล้ว
ไม่จัดการให้เสร็จมีหวังศึกนี้ไม่จบแน่
* หะจริงหรอเยินเซง
ไม่น่าเป็นไปได้เลยนะ *
โฮรินทำเป็นตกใจเหมือนจุดนั้นมันจุดใหญมากๆซะอย่างั้น
เธอเอามือจับหน้าแล้วบิดไปบิดมาทำเป็นเหมือนคนที่ต้องหมดสวยในบัดนั้นแล้วโฮรินก็หยุดทำไปเฉยๆ
* เอ๊ะ แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้งเยินเซน เพราะฉันไม่ไฮโซเหมือเธอนิ
จุดที่เกิดมันเลยต่างกัน *
โฮรินพูดไปส่องกระจกไป เยินเซงทำหน้างง
เพราะโฮรินมีท่าทีเปลี่ยนไป
* อ๋อหรอ แล้วไง *
* เธอก็ลองดูดีๆซะ เนี่ย ๆๆๆ ที่หน้าฉันเนี่ย
*
โฮรินชี้ไปที่หน้าของเธอเองแล้วยื่นเข้าไปให้เยินเซนดูใกล้ๆ
* เนี่ยไง จุดประกายความสวย ของฉัน *
เยินเซนได้ยินอย่างงั้นแล้วเธอก็พูดไม่ออกเธออึ้งกับคำพูดของโฮรินา
เธอได้แต่ยืนยิ้มอย่าไร้ความรู้สึกไม่มีความสดใสอะไรเหลือแล้ว
แล้วโฮรินก็เลยบอกเธอว่า
* ทีหลังอย่าลองของจะดีกว่านะคะเยินเซน
อุ๊ย ! ฉันไปก่อนนะสายแล้ว บ๊ายบาย
ยินดีที่ได้รู้จักนะ แล้วเจอกันใหม่ *
* ฉันว่าเราอย่าเจอกันเลยจะเป็นการดีที่สุดนะ
*
ทั้งสองคนโบยมือลากันประสาผู้หญิง
แล้วเดินไปคนละทางโดยหลังหลังให้กับอีกฝ่าย เยินเซน เดินกลับไปด้วยน่าตาที่สวยแต่น่ากลัวสุด
เธอดูเหมือนคนที่แพ้จากการเดินตัวหมากรุกพลาด เธอถูกรุกคาด โดยโฮรินซะแล้ว
ส่วนทางโฮริน หลังจากเดินเข้าห้องแล้วเธอก็หัวเราะแบบเก็บเสียงสุดลิด
เพราะเธอดีใจเหมือนถูก ล็อตเตอรี่ รางวัลที่1 เลย เธอยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนคนเป็นบ้าซะอย่างงั้น
แล้วเธอก็หันมาที่คังอิน โฮรินกอดคอเดินข้างคังอิน แล้วบอกว่า
* เรื่องที่
เยินเซนพูดเกี่ยวกับเทซุนพี่คงมีคำอธิบายนะ เดี๋ยวเราจะไปเคลียกันที่บ้านแล้วกัน ถ้าถึงบ้านเมื่อไหร่พี่จะรู้ว่านรกมีจริง
*
แล้วเธอก็เดินเข้าไปฝึกร้องเพลงจนเย็นโฮรินกับคังอินขับรถกลับบ้านด้วยกัน
บ้านของโฮริน
โฮรินได้ถามเรื่องเกี่ยวกับที่เยินเซนพูดวันนี้ทั้งหมด
คังอินก็มีท่าทีไม่อยากจะบอกซักเท่าไหร่
แต่คังอินเห็นแก่ความเป็นพี่น้องกันเลยบอกเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
* โฮริน เธฮจำที่ฉันบอกได้ป่ะที่ว่า
เทซุนกับเยินเซน เป็นลูกขอม 1ใน20คนรวยของเกาหลีน่ะ *
* พี่บอกตอนไหน ฉันลืมแล้วล่ะ *
* นิ !
ถึงเธอจะจำไม่ได้ก็ทำท่าเป็นจำได้หน่อยไม่ได้หรือไง เล่าให้ฟังแล้วไม่เคยจำ
ต่อเลยแล้วกัน ทั้ง 2 ครอบครัวนี้เค้าอยากให้ ลูกของเค้าแต่งงานกัน ก็เลยต้องบังคับให้อยู่ด้วยกันมาตลอด
โดยที่เยินเซนเค้าก็ชอบเทซุนอยู่แล้ว แต่เทซุนกลับไม่ชอบอะไรในตัวเธอเลย
ถึงเยินเซนจะเป็นคนที่น่ารักก็เหอะ เทซุนก็ไม่ชอบเธออยู่ดี
ตัวเยินเซนเองก็รู้อยู่แก่ใจแต่ก็ยังจะตามจีบเทซุนอยู่ตลอดเวลา *
* อ๋อหรอ แล้วเยินเซนมาเป็นนักร้องที่ค่าย the
apt premiem project ได้ไงอ่ะ *
*โอ๊ยเธอนิ ฟังไปเลื่อยๆอย่าแทรกได้ไหม
เดี๋ยวมันก็ถึงแล้ว อดใจรอหน่อยไม่เป็นหรอ *
* ขอโทษคะพี่ชาย ข้าน้อยสมควรตาย
เชิญเล่าต่อเลยคะ *
* เทซุนเลยคิดวิธีที่จะหนีจากเยินเซน
กับเรื่องแต่งงานที่พ่อกับแม่เค้าบังคับ
สุดท้ายแล้วเค้าก็เลยหนีมาออกรายการสดของสถานีABS
เมื่อปีก่อน
แล้วเยินเซนเลยตามเค้ามาจนได้ แต่ความพยายามของเธอก็หลุดไป
เพราะเราไปทำให้เยินเซนไม่ได้ไปออกลายการ โฮรินเธอเลยได้ออกแทนเธอไง
เธอรู้ว่าวันนั้นมีคนไปออกรายการแทนฮีจิน เธอเลยโกธรมาก แล้วหนำซ้ำ
เทซุนยังมาชอบฮีจินอีก ยิ่งเพิ่มทวีให้เยินเซนไม่ชอบฮีจินไปอีก
เยินเซนเลยพยายามที่จะทำให้เทซุนชอบเธอก่อนที่เทซุนจะชอบฮีจินไปมากกว่านี้ แต่เทซุนก็เค้าก็พยายามระวังตัวให้มากที่สุดจากเยินเซน
เพราะเยินเซนเธอก็ร้ายไม่เบาเลย *
* เดี๋ยวก่อนนะ ที่พูดมาเนี่ย คือ
อีตาเทซุนนั้นน่ะ ชอบฉันหรอ *
* ใช้ !
ก็ตั้งแต่วันที่เธอออกรายการครั้งแรกไง วันนั้นเทซุนเค้าก็อยู่ที่นั้นด้วย เค้าพยายามหาเธอแต่เธอก็กลับก่อนที่เค้าจะเข้ามาที่ห้องแต่งตัว
*
* โอ๊ยตายล่ะ !!! อะไรมันจะซับซ้อนแบบนี้ ยุ้งยากจิงๆ
ปัญหาตอนนี้มันเกิดเพราะอีตาเทซุนคนเดียวเลยนะนิถ้าเป็นแฟนกัน
แล้วบอกเลิกก็ได้จะได้จบๆกันไป *
* เธอจะว่าอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกนะ
ถ้าเธอถูกบังคับให้แต่งกับคนที่ไม่รักจะเป็นไงล่ะ เป็นใคร ก็ต้องหนี กันทั้งนั้นล่ะ
*
* เหอะ ฉันไม่สนหรอก ฉันก็มีคนที่รักฉันเหมือนกันล่ะนา *
โฮรินพูดไปเพราะปลอบใจตัวเองเฉยๆ
ที่จริงแล้วเธอไม่ได้มีใครที่เธอชอบเลยซักคน
* ดึกแล้วพี่คังอิน ฉันว่าเราไปนอนกันเทอะ *
* อืมฉันก็กำลังจะพูดเหมือนกัน *
แล้วทั้งสองก็เข้านอนทั้งที่ยังมีปัญหาต้องคิด
แล้วยังมีหลายอบ่างที่รอพวกเค้าอยู่ในวันพรุ่งนี้
วันพฤหัสบดี
วันนี้เป็นวันที่โฮรินว่าง
เพราะคังอินให้เธอพักแค่วันนี้กับพรุ่งนี้เพื่อจะได้ไปลุยต่ออีก2วันสุดท้าย โฮรินเลยออกจากบ้าน ด้วยชุดที่สุดธรรมาดาของเธอ
โดยทักผมเปียสองข้าง เสื้อสีชมพูค่อนข้างลัดรูปแล้วใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวสีขาวสะอาดตาที่ยาวเพียงครึ้งตัว
กับกระเป๋าพายข้างเล็กๆ เป็นกระเป๋าที่ทำจากผ้ายีนปักรวดลายเป็นเทรนเด็กแนวนิดนึง รับกับกระโปรงสีขาวตกแต่งด้วยลายลูกไม้ยาวถึงเข่าที่เข้ากับรองเท้าผ้าใบสีชมพูพื้นรองเท้าสีขาวตกแต่งด้วยตัวกาตูนน่ารักๆ
เพื่อไปที่ร้านหนังสือที่เธอไปเป็นประจำ เพราะร้านหนังสือที่โฮรินไปนั้นถึงจะเป็นร้านเล็กๆ
ไม่ค่อยมีคนมากจนแออัด แต่ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างไฮโซมาก
เพราะร้านนี้ส่วนมากจะมีแต่หนังสือที่ใหม่ทุกวันแถมบางครั้งก็ยังให้อ่านฟรี
ไม่ต้องซื้อกลับบ้านอีก แล้วก็มีค็อฟฟี่ช็อป กับร้านขายขนมอีกหลายอย่าง
เรียกได้ว่ามาแล้วคุ้ม แล้วที่เธอชอบมากก็คงเป็นมุมฟังเพลงใหม่ของร้าน
ซึ่งจะให้ลูกค้าฟังฟรี แถมมีแต่เพลงใหม่ให้ฟังทุกวันอีกด้วย
+ + ร้านหนังสือ + +
โฮรินเดินเข้าไปในร้านพร้อมกันเสียงกะดิ่งที่ประตูและเสียงของพนักงานที่เค้าเตอร์หน้าร้านยิ้มให้โฮรินแล้วบอกว่า
* สวัสดีคะ เชิญด้านในเลยคะ *
โฮรินยิ้มเพื่อทักกับพนักงานที่ร้านเธอเดินเข้าไปที่ชั้นหนังสือที่ว่างเป็นแถวประมาณอยู่8-9แถวแล้วแต่ละชั้นก็ยาวจนเกิบสุดร้านและมีป้ายแบ่งโหมดหนังสือของแต่ละชั้นแล้วก็มีหนังสือว่างอยู่เต็มทุกชั้นเลย
สวนแถวข้างๆลร้าก็จะเป็นโต๊กลางจ้างที่มีร้มจะต้นไม้สูงบังอยู่ ทำให้อากาศเย็นมากๆ
โฮรินเดินไปที่ชั้นหนังสือนิยาย
โฮรินเลือกดูอยู่นานก่อนจะเดินไปที่ชั้นหนังสือที่เกี่ยวกับวงการบันเทิงที่มีผู้ชาย
ผิวขาว ใส่หมวกแก๊ป ใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนซีดๆดูแล้วของแพงแน่เลย
เค้าใส่รองเท้าผ้าใบสีขาวadidas ของแท้แน่นอน
เธอรู้เลยอีตาคนนี้รวยไม่เบาแน่เลย แล้วโฮรินเลยเดินเข้าไปไกล้ๆเธอดูจากด้านหลังและมองจากเงาจากกระจกใสตรงหน้าร้านที่สะท้อนหน้าเค้า
* อุ๊ยเป็นผู้ชายที่ดูดีมากๆเลย ทั้งหล่อ กล้ามก็มี สูงก็สูง ขาวอีกต่างหาก *
ด้วยองค์ประกอบหลัก
และย่อยเหล่านี้เธอเลยสวมลอยเดินเข้าไปเลือกหนังสือทางด้นขวาของเค้าเพื่อที่จะดูหน้าของเค้าชัด
ให้เห็นเต็มๆตากันไปแล้วโฮรินเลยหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดอ่าน และด้วยความสามารถพิเศษตอนโฮรินกำลังก้มลงนั้นเองสายตาเธอก็ได้ไปมองผู้ชายคนนั้น
อย่างเต็มๆหน้าเลย เธอเกิดการ ช็อกไปชั่วขณะก่อนที่โฮรินจะเปิดอ่านหนังสือที่หยิบขึ้นมาอ่าน
ผู้ชายคนนั้นคือ เทซุนนั้นเอง
เธอแปลกใจมากเพราะทุกครั้งที่มาเธอก็จะไม่เคยเห็นเค้าเลยซักครั้ง แต่ที่จิงเธอไม่เคยสังเกตเลยด้วยซ้ำ
แต่ด้วยการแต่งตัวและสะภาพของโฮรินที่ยังไม่ได้ตรียมตัวออกบ้านมากนัก
เลยทำให้ไม่เป็นที่สังเกตของเทซุน ซึ้งเธอแล้งยืนอ่านจนแน่ใจว่าเค้าจำเธอไม่ได้
เธอเลยคิดแผนสนุกออกมาได้
เธอเลยเอามือล้วงลงไปที่กระเป๋ากางเกงแล้วกดโทรออกไปที่เบอร์ของคังอินแล้วว่าสาย
เธอรู้เลยว่าคังอินต้องโทรกลับมาแน่เลยสักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ติ๊ด !!! ๆๆๆ
โฮรินแกล้งหยิงขึ้นมาดูแล้วก็กดวางสายคังอินแทนกดรับ
แล้วเธอก็
* ฮัลโห ว่าไง อุนโซ ...... อ้าว
นั้นไงฉันบอกเธอแล้ว ว่าอย่างไปบ้า เทซุงมากนักแล้วเป็นไงล่ะตอนนี้ *
โฮรินหัวเราะเบา
แต่ทำให้เทซุนตั้งใจฟังเธอพูดอย่าตั้งใจ
เค้ารู้สึกแปลกใจทำไมผู้หญิงคนนี้ต้องมายืนให้เค้า
แต่เทซุนก็ไม่อยากจะเดินหนีไปเพราะ เธอพูดเรื่องเกี่ยวกับเค้าเหมือนมีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นและเค้าก็อยากรู้เรื่องว่าจะเป็นยังไงต่อแล้วโฮรินก็แกล้งพูดต่อไปว่า
* ฉันอยู่ที่ร้านหนังสือ
กำลังอ่านเรื่อเทซุงอยู่พอดีเลย .... ดูซิข่าวเพิ่งออกมาวันนี้เองว่า ...
นักร้องดังเทซุนเป็นกิ๊กกับนักร้องสาวลูกเศรษฐีชื่อดัง ดูซิมีภาพด้วยอุนโซคนนี้ก็น่ารักดีนะ สงสัยเป็นนักร้องใหม่แน่เลย
ปาปารัสซี่ไปถ่ายมาได้ไงไม่รู้ *
เทซุนได้ยินอย่างนั้นก็เลยรีบหยิบหนังสือที่โฮรินเปิดอยู่ขึ้นมาดูทันที
โฮรินเห็นเลยหัวเราะเบา และขณะที่เทซุนกำลังหาข่าวของเค้าในหนังสือเล่นนั้นอยู่นั้นเอง โฮรินก็เลยว่าหนังสือเล่มนั้นลง
แล้วหยิบอีกเล่มขึ้นมา
* เอ๊ะ อุนโซ เล่นนี้ก็มีอีกแล้ว ...
ทำไมช่วงนี้มีแต่ข่าวของเทซุนในแง่แบบนี้อ่ะ
...เป็นดาราแต่ก็กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ไงก็ไม่รู้ ... เธอรู้ไหมว่าเรื่องอะไร ... เรื่องที่เค้ามีประวัติเสียๆไง
เธอก็ลองไปอ่านดู นิไง เล่นนี้ก็มี อุ๊ย!เล่นนี้ก็มี
เอ๊ะทำไมมีหลายเล่มจัง *
เทซุนตกใจอย่างช็อกสุดๆ เค้าพยายามมองหาหนังสือที่โฮริบบอกชื่อทั้งหมด
เทซุนมองตามมือโฮรินทุกเล่มจนโฮรินแน่ใจว่าเทซุนรู้หมดแล้วว่าเล่มไหนที่เธอหยิบและโกหกว่ามีข่าวอันชั่วร้ายของเทซุน
โฮรินเลยเริ่มแผนต่อไป
ติ๊ด !!! ๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันดังคาหูของโฮรินเลย
คังอินโทรกลับมาเพื่อถามโฮรินว่ามีอะไรหรือป่าว
แล้วเทซุนเห็นก็เลยหันหน้ามองไปที่โฮริน
ด้วยความที่งงว่าทำไมเสียงโทรศัพท์ของโฮรินทำไมถึงดังขึ้นมาอีกครั้งทั้งๆที่เมื่อกี๊เธอยังคุยอยู่
ด้วยความตกใจโฮรินยกโทรศัพท์ออกจากหูทันที แล้วดูเบอร์ เธอเลยกดวางสายคังอินไป แทนที่จะกดรับอีกครั้ง
แล้วก็อุทานออกมาก่อนยกใส่หูว่า
* แปปนึงนะ อุนโซ มีสายเรียกซ้อนเข้ามา
*
โฮรินแก้หน้าไปอย่างหน้าตาเฉยแบบไม่อายฟ้าอายดินเลย
* ว่าไง มิจู ฉันกำลังจะซื้อหนังสือไปให้จะ
จะเอาหมดเลยไหมล่ะ .. อ๋อจะเอาแต่เล่มที่มีข่าวเทซุนหรอ อืมดูก่อนนะ
ก็มีเกือบ10เล่มนะเท่าที่ฉันเห็น แต่ละเล่มก็มีข่าวต่างกัน
แล้วมันเหลือแค่อย่างละเล่มเองจะเอาหมดไหมล่ะ
ถ้าเอาเดี๋ยวฉันไปเอาหนังสือนิยายที่ชั้นทางโน้นก่อนแล้วกัน *
หลังโฮรินพูดจบเธอก็แกล้งถือโทรศัพท์มือถือแล้วเดินไปที่อีกชั้นนึง
ซึ่งเธอคิดว่าเทซุนคงจะเหมาหนังสือทั้งหมดชันนั้นไปด้วยความอยากรู้ว่าข้างในหนังสือนั้นมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับตัวเค้าบ้างแน่นอน
แล้วแล้วเวลาก็ผ่านไปซักพักโฮรินก็เลยเดินมาที่ชั้นเดิมที่เธอเจอเทซุน
หนังสือที่เธอชี้กลับหายไปทั้งหมดตามที่เธอได้คิดไว้
โฮรินก็เดินออกมาจากร้านขายหนังสือด้วยความสุขจนเธอเดินยิ้มมาตลอดทางกลับบ้านแต่เวลาก็เกือบเที่ยงแล้ว
เธอเลยแวะซื้อ ทักคาลบี หรือไก่บาบีคิวผัดซอสเกาหลี ที่ร้านที่อยู่แถวปากซอยบ้านเธอ
ซึ่งห่างไปประมาณ500เมตร
เป็นอาหารเลื่องชื่อของเมืองชุนชอน โดยเค้าจะนำไก่บาบีคิว ต้อก
(ข้าวเหนียวปั้นเกาหลี) มันหวาน ผักต่าง ๆ ลงผัดกับซอสพริกเกาหลีในกระทะแบน
วิธีการทานแบบเมี่ยงคำไทย โดยห่อกับผักกาดแก้ว หรือเพื่อจะให้เกิดอาหารชนิดใหม่ โดยการนำข้าวสวยและสาหร่ายแห้งมาผัดรวมกับทักคาลบี
คือ ทักคาลบีบกคึม หรือข้าวผัดพริกไก่ ที่ทั้งหอม
ทั้งน่ากินเป็นอย่างมากๆ แต่เท่านี้ก็ยังไม่พอเพียงกับท้องของโฮรินเลย เธอยังซื้อ บาบีคิว
หรือบุลโกกีเกาหลี นั้นคือการเอาเนื้อหมูสไลด์ หมักกับซอสและเครื่องเคียงต่าง
ๆ ให้ออกรสหวาน นุ่ม เวลาทานนำมาย่างขลุกขลิกกับซุปบนกระทะแบนหรือครึ่งวงกลม
พร้อมผักกระหล่ำ กินพร้อมข้าวสวยร้อนจะยิ่งอร่อยมาก และ โอซัมหรือหมูปลาหมึกย่างบาร์บีคิวหมักสไตล์สมัยใหม่เกาหลี
เป็นอาหารที่เหมาะกับตอนเที่ยงของโฮรินที่สุดเพราะมีรสชาติออกหวานเผ็ดเล็กน้อย
โดยนำบาร์บีคิวหมูปลาหมึกลงในกระทะครึ่งวงกลมพร้อมน้ำซุปปรุงรส เมื่อสุกรับประทานพร้อมเครื่องเคียงและข้าวสวย
แต่หากต้องการแบบรสชาติ เกาหลี แท้ๆ ก็สามารถใส่กิมจิหมักลงต้มด้วย ก็จะได้รสชาติอีกแบบหนึ่ง
ที่อร่อยไม่แพ้กันเลย
ที่บ้านโฮริน
หลังจากที่เธอกลับมาจากร้านหนังสือแล้วก็ซื้ออาหารมาเธอได้จัดเตรียมอาหารที่จะกินอย่างเรียบร้อย
แล้วโฮรินก็ขึ้นไปอาบน้ำประมาณ20นาทีแล้วเธอก็แต่งตัวใหม่ลงมาด้วยความหิวสุด
แบบว่ากินอะไรก็ได้ที่ขวางหน้า แต่เมื่อเธอเดินลงมาเธอก็คิดว่าคังอินกลับมาแล้วเพราะเธอเห็นถุงหนังสือที่ว่างอยู่บนโซฟาเธอหยิบมาอ่านเล่มนึงก่อนจะเดินไปทางห้องครัวแล้วก็ต้องตกใจอย่างหนักเพราะเห็นคังอินกำลังทำลายอาหารมื้อที่วิเศษที่สุดของเธอ
คือ อาหารที่แสนจะน่ากินของโฮริน คังอินกับใครก็ไม่รู้ที่เธอจำได้คุ้นๆ
ว่าเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ได้กินอาหารของเธอหมดเลย ไม่เหลือแม้แต่น้ำหรือเศษอาหารที่ติดจาน
20นาทีก่อนที่โฮรินจะรู้ความจิง
คังอินขับรถมากับเทซุนที่มีหนังสือเป็น10เล่มที่ถืออยู่ในมือและกำลังอารมณ์เสียกับการถูกหลอกของผู้หญิงปริศนาที่เค้าเจอที่ร้านหนังสือ
เทซุนได้แต่บ่นมาตามทางระหว่างไปบ้านโฮริน
* รู้ไหมพี่คังอิน
ผมเชื่อเธอซะสะนิดใจเลยว่าหนังสือพวกนี้มันมีข่าวผมจิงๆ ไม่นึกเลยว่าเธอจะจำผมได้
แล้วทำไมเธอถึงจะหลอกผม หรือว่าเธอจะรู้จักผม แต่เธอจะทำอย่างงั้นไปเพื่ออะไรล่ะ
ผมล่ะงงกับเธอสุดๆเลย *
คังอินฟังเทซุนมามากแล้วเค้าเลยถามกลับว่า
* แล้วนายจำหน้าผู้หญิงคนนั้นกับการแต่งตัวได้ไหมล่ะ
*
* โหพี่จำได้ติดตาเลย ทักผมเปียสองข้าง เสื้อสีชมพูด้านใน
ใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวสีขาวที่ยาวแค่ครึ่งตัว
กับกระเป๋าพายข้างผ้ายีนปักรวดลายเป็นเทรนเด็กแนวนิดนึงมั้ง
แล้วก็กระโปรงสีขาวตกแต่งด้วยลายลูกไม้ยาวถึงเข่าที่เธอใส่กับรองเท้าผ้าใบสีชมพูแล้วก็มีลายกาตูนหลายตัวเลย *
คังอินฟังแล้วก็จิตนาการตามแล้วรู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูกแล้วคังอินก็มาถึงบ้านที่เค้าไม่รู้ว่าโฮรินกลับมาแล้วพร้อมกับเทซุนที่ถือถุงหนังสืออย่างสุดเซ็ง
ทั้งสองเดินเข้าบ้านแล้วก็ตรงดิ่งไปที่ครัวทันที
คังอินเห็นกับข้าวเตรีมไว้หลายอย่าง เค้าคิดว่าแม่คงเตรียมไว้ว่าเค้าอาจกลับมา
เค้าเลย
* เทซุนมากินด้วยกันเร็ว กำลังร้อนเลย
น่าอร่อยจัง *
* โหแม่พี่นิใจดีเนาะ เตรียมเอาไว้ซะเยอะเลย
งั้นผมไม่เกรงใจล่ะนะ *
* เอาเลยน้องชาย *
คังอินตอบรับเทซุนที่กำลังกิน โอซัม ทั้งที่ ทักคาลบี
ของโฮรินยังอยู่ในปากของ คังอินแล้วทั้งสองก็กินต่ออย่างอร่อย
เวลาปัจจุบัน
แต่แล้วความสุขของคังอินกับเทซุนก็หมดลงเมื่อเสียงกรี๊ดที่ดังรั้นจากข้างหลังของคังอินกับเทซุน
* อ๊าย!!!!!!!!! พี่คังอิน
พี่ทำแบบนี้ได้ยังไปหะ พี่รู้ไหมฉันต้องหมดเงินไปเท่าไหร่กับอาหารพวกนี้
พี่นิมันแย่จิงๆเลย *
โฮรินตะโกนโว๊ยวายว่าคังอินด้วยความโกธรพร้อมกันม้วนหนังสือที่อยู่ในมือตีที่คังอิน
ก่อนเธอจะหันไปมองหน้าของชายเสื้อดำว่าเค้าเป็นใคร
* โอะ ตายล่ะฉัน *
โฮรินคิดในใจ
แล้วลากคังอินออกมาจากโต๊ะอาหารของบ้าน เทซุนนั่งดูด้วยความงง
แล้วรู้สึกผิดที่ได้ทำเค้าลุกขึ้นไป ขณะที่โฮรินเลยถามคังอินว่า
* พี่จะพาเค้ามาบ้านทำไม
ไม่รู้หรือไงว่าวันนี้ฉันอยู่บ้านหะ *
* ไม่รู้เลย *
คังอินตอบอย่างหน้าตาเฉย
ก่อนที่โฮรินจะบ้าคลั่งขึ้นมาอีกครั้งเพราะเรื่องที่คังอินกินอาหารของเธอจนหมด
และขณะที่โฮรินจะฟาดหนังสือลงที่หัวของคังอินอีกครั้ง
* ใจเย็นๆนะครับ ค่อยๆคุยกันก็ได้ *
เทซุนจับมือของโฮรินที่กำลังจะฟาดหัวของคังอิน
โฮรินหันมามองหน้าของเทซุน อย่างช้าๆแล้วตอบไปว่า
* ใจเย็นหรอ *
โฮรินพูดพร้อมเดินเข้าหาเทซุน และด้วยหน้าตาที่โกธรของโฮรินทำให้เทซุนต้องเดินถอยหลังออกจากเธอ
*
นายคิดว่าการที่คนๆนึงเตรียมการมาทั้งวันเพื่อจะได้กินอาหารที่ชีวิตนี่จะได้มีโอกาสกินอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
แล้วก็ถูกคนมากินตัดหน้าไป ตัวนายเองจะรู้ซึกยังไง *
* ตุ้บ!!! *
เสียงของเทซุนสะดุดโซฟาที่อยู่ด้านหลังแล้วเค้าก็นั่งฟังโฮรินขณะที่โฮรินเดินเข้ามาหยุดต่อหน้าเทซุน
โฮรินหันไปมองหน้าคังอินแล้วบอกว่า
* คังอินเรื่องนี้นายต้องรับผิดชอบ *
โฮรินหันกลับมามองหน้าเทซุน เทซุนสดุ้งเมื่อโฮรินชี้มาที่เค้าแล้วบอกว่า
* นายคงรู้ตัวดีนะว่าทำอะไรลงไป
แล้งฉันหวังว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก *
แล้วเทซุนกับคังอินก็มองตามโฮรินที่เดินไปที่บันไดเธอหยุดแล้วหันมาบอกว่า
* ถ้าใน 30 นาทีพวกนายยังไม่ซื้อมาคืนฉัน
เรื่องนี้มันไม่จบแน่ *
โฮรินเดินขึ้นไปด้านบน
แล้วคังอินกับเทซุนก็มองหน้ากันก่อนตัดสินใจจะออกไปซื้ออาหารที่เค้าทั้งสองกินมาคืนโฮริน
แต่โฮรินก็ค่อยๆเดินลงมาดูว่าทั้งสองไปจิงๆหรือป่าว
โฮรินไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าเธอจะหลอกพวกเค้าให้เชื่อได้ขนาดนั้น
เธอเลยลองจับเวลาดูว่า 30 นาที คังอินกับเทซุนจะกลับมาทันหรือป่าว
แต่เหตุผลหลักที่เธอทำไปนั้นก็เพื่อที่จะไม่ให้เทซุน กล้ามาบ้านเธออีกนั้นเอง
แต่ทั้งหมดเป็นแค่ความคิดชั่ววูบของโฮรินเท่านั้นเพราะเธอโกธรที่คังอินมากินอาหารเที่ยวสุดวิเศษของเธอของเธอ
แต่ด้วยที่เทซุนก็อยู่ด้วยเธอก็เลยเดินเข้าไปนั่งข้างๆคังอินแล้วยิ้มให้กับเทซุน
* พี่คังอิน พี่ชายสุดที่รัก
ที่พี่กินอร่อยมากไหมคะ *
* อร่อยซิ เธอจะกินกับพวกฉันไหมล่ะ *
คังอินชวนโฮรินมากินด้วยกัน
เค้ามองไปที่โฮรินแล้วก็ต้องพบความจิงที่น่ากลัวคังอินอุทานออกมาว่า
* ตายล่ะฉัน
อย่าบอกนะว่าทั้งหมดนี่ของเธอซื้อมา *
โฮรินยิ้มพร้อมพะยักหน้า เพราะเทซุนก็ยังฟังคังอินกับโฮรินพูดกัน
คังอินเลยถามโฮรินว่า
* เธอไปซื้อของพวกนี้มาจากร้านไหน *
* อ้าว รู้ตัวเร็วจังว่าต้องทำอะไร
เดี๋ยวนี้เริ่มคิดได้แล้วนิ เก่งจัง ร้านแถวๆปากซอยบ้านเรานิเอง รีบไปเลย *
โฮรินพูดแล้วชี้มือไล่ให้คังอินไปซื้อมาคืน
เพราะ ทั้งบ้านไม่เคยมีใครกล้าที่จะกินของๆโฮรินที่ซื้อมาโดยไม่ได้รับอนุญาต
เพราะเธอจะวีนแตกทุกทีแล้วยังจะอาฆาตนานเป็นเดือนเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นเหตุที่คังอินต้องรีบออกไปซื้อมาเพราะเค้าเคยโดนโฮรินวีนแตกใส่มาแล้ว
สองครั้งเลยทีเดียว หลังคังอินวิ่งออกไปก็เหลือแค่ โฮรินกับเทซุนและถ้วยอาหารที่ว่างป่าว
เทซุนเลยถามโฮรินด้วยความสงสัย
* พี่คังอินเค้าออกไปไหนล่ะคับ *
* อ๋อพี่เค้ากลับมาก็รู้เองล่ะคะ *
เทซุนมองโฮรินอย่างชัดๆ
และตั้งใจนึกสุดๆว่าเธอคนนี้เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
เพื่อความแน่ใจเทซุนเลยถามโฮรินว่า
* คุณคือน้องคังอินหรอคับ *
* อ๋อ ฉันลืมไปเลย ฉัน มิน โฮรินคะ
เป็นน้องของคังอิน อ๋อเราอายุไล่ๆกันเรียกเป็นเพื่อนเลยดีกว่าเนาะ *
* อืมงั้นก็ดี ฉัน คิม เทซุน เป็นนักร้อง
พี่คังอินเค้าเป็นผู้จัดการส่วนตัวฉันเอง*
* อ๋อคะ รู้แล้วคะพี่เค้าเลยเล่าให้ฟังแล้ว *
เทซุนแปลกใจสุดๆว่าทำไมโฮรินถึงไม่มีท่าทีดีใจหรือตื่นเต้นอะไรเลยเมื่อเจอเค้า เพราะเค้ารู้ว่าสาวๆที่เค้าเจอมาทุกคนเห็นเค้าแล้วเป็นต้องกรี๊ดทั้งนั้น
เทซุนก็เลยถามอีกครั้ง
* โฮริน
วันนี้เธอได้ไปที่ร้านหนังสือที่ไหนหรือป่าว *
โฮรินตกใจนึกว่าเค้าจำเธอได้
แล้วโฮรินเลยถามกลับว่า
* อ๋อไม่ได้ไปไหนนิคะ ไม่ได้ไปเลย
ตัวฉันก็ไม่ได้เคยไปร้านหนังสือเลยสักครั้ง หรือว่านานๆไปครั้งนะคะ แล้วทำไมหรอคะ
*
โฮรินพูดหลีกเลียงตัวเองสุดริด
เธอพูดย้ำซะเทซุนฟังแล้วยังต้องงง แต่เทซุนกลับคิดว่า เธอคงไม่เคยไปจริงๆแน่
เพราะขนาดตัวเค้าที่มีชื่อเสียงออกจะโด่งดังทั้งขนาดนี้โฮรินยังไม่รู้จักเลย
เทซุนกลัวโฮรินคิดมากกับคำพูดของเค้า เลยบอกออกไปว่า
* อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก พอดีวันนี้ฉันไปร้านหนังสือมา
ฉันโดนผู้หญิงคนนึงหรอกว่า นิตายสารพวกนี้มีข่าวของฉันแบบเสียๆหายๆอยู่ ฉันก็เลยเหมาหนังสือหมดเลยตอนที่เธอเดินไปเอาของที่อีกชั้นหนึ่ง
ฉันมองเธอแค่ผ่านๆ เห็นแค่ว่าน่าตาคล้ายกันก็เลยแค่ลองถามดูเท่านั้นเอง
อย่าคิดมากเลยนะ *
* อืมไม่เป็นไร ฉันมันก็คนหน้าโหลแบบนี้ล่ะ *
หุหุ นึกว่าความจะแตกซะแล้วนะนิ
นั้นคือสิ่งที่โฮรินคิกในใจ แล้วคังอินก็กลับมาใน27นาทีต่อมา
และแล้วโฮรินก็ได้กินอาหารอย่างใจหวังซักที คังอินเลยรีบพาเทซุนออกจากบ้านทันทีเพราะถ้าอยู่นานกว่านี้
เรื่องมันอาจจะแก้ปัญหายากขึ้น ความลับของโฮรินอาจจะแตกก็ได้
ความคิดเห็น