คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4: Let's come with me!
“สวัสดีผู้โดยสารทุกท่านครับ กระผมกัปตันทศวรรษ และลูกเรือกำลังจะพาทุกท่านไปยังท่าอากาศยานเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย อุณหภูมิข้างนอกตอนนี้อยุ่ที่ 32c จะใช้ระยะเวลาเดินทางทั้งหมดเก้าชั่วโมงนะครับ ขอบคุณครับ”
เสียงหล่อๆของกัปตันพูดขึ้น และยังพูดเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษต่ออีกด้วยซึ่งผมก็ไม่รู้เรื่องว่ามันแปลว่าอะไร แฮะๆ -*-
“นี่พี่พอร์ช ไม่ง่วงเลยหรอ นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะเนี่ย”
น้องเจมส์ เด็กหญิงผู้ร่วมชะตากรรมในทริปถามผม
“ยังเลยอ่ะ พอดีพี่แอบหลับในรถก่อนมาอ่ะนะ”ผมตอบด้วยสีหน้าเป็นมิตร
คนอื่นหลับกันหมด อาจจะเพราะเพลียกันมามากและอยากเก็บแรงไว้เที่ยวในวันพรุ่งนี้ให้สนุก ยกเว้นผมคนเดียวที่ไม่ยอมนอนและกำลังนั่งดูมิสเตอร์บีนบนเครื่องอย่างสบายใจเฉิบ อยากจะฮากร๊ากกแต่คงจะทำไม่ได้ เดี๋ยวอีป้าแก่ๆที่นั่งแถวหน้าเดินมาตบเอา -_-
อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงเรียกจ้างแถวข้างหลัง ดรีมนั่นเอง ><
“นี่นายไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อยสิ”
“อะไรนะ? ให้เข้าห้องน้ำเป็นเพื่อน?”
“เห้ยไม่ใช่อย่างนั้นเฟ้ย ชั้นหมายความว่า
ให้นายไปเฝ้าหน้าห้องน้ำหน่อย เข้าใจไหมโว้ยยย”
“อ๋อ ได้ๆ
ไอเราก็นึกว่าให้เข้าห้องน้ำเป็นเพื่อน อ่ะโด่”
“ไม่ต้องเลยนะอีตาบ้า มันชักจะมากเกินไปแล้วนนะ! =()=”
ผมก็เลยต้องทำตามคำสั่งไปยืนรอหน้าห้องน้ำ ขณะที่รอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความที่เพื่อนได้อวยพรก่อนไป
(ขอให้สนุกกับการเที่ยวนร้าเพื่อนพอร์ชสุดหล่อ อย่าลืมของฝากด้วยล่ะ) O_o
แหม!ไอเพื่อนเวร เอะอะอะไรแม่งก็ของฝากๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยจะพูดจาดีด้วย ทีนี้นิทำมาเป็นพูดดี ไม่ซื้อให้หรอก กรุจนเฟ้ยยย!
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกมา ดรีมเดินออกมาด้วยใบหน้าที่ขาวเนียนอมชมพู นี่เธอเข้าห้องน้ำเพื่อไปแต่งหน้า ในตอนเที่ยงคืนเนี่ยนะ กรุล่ะเชื่อ O_o
“เป็นไงบ้าง สวยล่ะสิท่า ฮ่าๆๆ”
“ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย”
.”นี่นายบังอาจมาว่าเครื่องสำอางที่หม่าหม๊าซื้อให้จากประเทศเกาหลีงั้นหรอ รสนิยมนายมันต่ำว่ะ*o*”
ทั้งสองก็เดินกลับไปนั่งประจำที่ของตัวเอง ว้า
ไม่มีไรทำเลย หาเพื่อนเม้าส์ก็ไม่ได้ เจมส์ก็หลับแล้ว จะให้กรุไปคุยกับแอร์ก็ยังไงอยู่ เฮ้อ! -_- ด้วยความอ่อนเพลียอย่างมากจึงทำให้ผมต้องยอมนอนไปในที่สุด กะจะเก็บแรงไว้ดูแสงแดดยามเช้าของซิดนีย์ ^^
เช้าวันถัดมา 9.09นาที
ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา เนื่องจากได้ยินเสียงประกาศจากไอ้กัปตันทศวรรษอีกแล้ว ขอแต่เวอร์ชั่นไทยพอนะ เมิงรัวอังกฤษเร็วมาก เล่นซะฟังไม่ทันเลย-*-
“ขณะนี้เครื่องบินของเรากำลังจะลงจอดที่ท่าอากาศยานเมืองซิดนีย์แล้วนะครับ ขอบคุณที่ใช้บริการครับ”
โอ้วจริงดิ! นี่กำลังจะลงจอดแล้วหรอ ทำไมกรุมองที่หน้าต่างแม่งไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่เมฆเต็มไปหมด อ่าฮ้า!นั่นไง เห็นแล้ว >o< เห็นวิวทิวทัศน์ของหาดทรายที่ขาววิ้ง น้ำทะเลสีใสเว่อร์ ผิดกับบ้านเรา ที่ขยะมันลอย ตุ๊บป่อง ตุ๊บป่อง เต็มไปหมด บ้านแต่ละหลังนี่ใหญ่โตดูดีมีชาติตระกูลเอามาก เรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยซะด้วย สภาพการจราจรบนท้องถนนเงียบสงบ ไม่มีรถติด ไม่มีเด็กมาขายพวงมาลัยตามสี่แยกไฟแดงเหมือนบ้านเราเลยสักนิด นี่มันเมืองในฝันกรุชัดๆ ^o^
ครืดดดดดด!!!!
เสียงที่ดังอยู่ทำให้ผมรู้ได้เลยว่าเครื่องบินกำลังวิ่งอยู่บนรันเวย์แล้ว ไม่นานนักเครื่องบินก็จอดสนิท พนักงานแต่ละคนออกมากล่าวขอบคุณเป็นอย่างดี ผมและคณะเดินไปรับกระเป๋าเดินทางที่โหลดไว้ใต้เครื่องที่ในอาคาร
“เอ่อ นักเรียนทุกคน ฟังอาจารย์พูดอะไรหน่อยค่ะ แปปเดียวจร้า” อาจารย์พูด
“ถ้านักเรียนหากระเป๋าของตัวเองเสร็จแล้วเนี่ย ให้ไปรอกันตรงที่ข้างหน้าสนามบินเลยนะคะ เดี๋ยวโฮสท์แฟมิลี่ของนักเรียนแต่ละคนจะมารอรับนักเรียนไปที่บ้าน”
“เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เสียงไชโยของทุกคนดังขึ้น ในที่สุดก็ได้เจอโฮสท์สักที ผมจำได้ว่าเค้าเคยส่งรูปมาให้ผมดู เป็นผู้ชาย อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน อยากเจอตัวจริงแล้วโว้ยยยยย! อีกไม่นานก็คงจะถึงเวลาที่เฝ้ารอมานานสักที
ขณะที่กำลังรอโฮสท์มารับ ก็เริ่มเห็นว่าบางคนก็มีคนมารับบ้างแล้ว ผ่านไปหลายชั่วโมงรอตั้งแต่เช้าจดเย็น จากสิบห้าคน ก็ลดลง ลดลงเรื่อยๆ จนตอนนี้เหลืออยู่แค่สองคนเท่านั้น ง่ะ TOT คนแรกก็คือผม อีกคนนึงก็ ดรีมไง ><
“อาจารย์ครับ นี่โฮสท์ผมมันตกส้วมตายหรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันชักช้าอย่างงี้” ผมพูดอย่างไม่พอใจ
“นั่นสิคะ อาจารย์ ว่าแต่
ทำไมอาจารย์ทำหน้าตาเครียดๆล่ะคะ มีอะไรหรือเปล่า”
“อาจารย์เครียดมากเลยเนี่ย ก็เมื่อกี้อ่ะ ทางโรงเรียนของเค้าโทรมาแจ้งว่าจะมีเด็กสองคนที่จะยังไม่ได้โฮสท์ ก็คือพอร์ชกับดรีมอ่ะจร้ะ”
“หา!!!! ว่าไงนะอาจารย์” ผมและดรีมพูดพร้อมกัน
“คือว่าของพอร์ชเนี่ย ตอนนี้โฮสท์ถูกส่งตัวให้ไปนอนอยู่โรงพยาบาลอ่ะ เห็นบอกว่าติดเชื้อไข้หวัดไก่สายพันธ์ไข่มั้ง ของดรีมก็โฮสท์ถูกรถชนขาหักแขนหัก อะไรจะซวยขนาดนี้นะเนี่ย”
“อ้าว แล้วทีนี้พวกหนูจะไปอยู่ไหนล่ะคะอาจารย์”
“เดี๋ยวอาจารย์จะประสานกับทางโน้นให้หาที่พักของหนูสองคนให้นะ”
“โอเคครับ TT^TT” ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่ใครฟังก็รู้เลยว่าไม่โอเคเลยสักนิดเดียว
หลังจากที่ยืนรอ นั่งรอ นอนรอคำตอบมาเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ทางโรงเรียนก็ได้จัดหาโรงแรมให้เราสองคน ซึ่งติดกับสนามบินเลย เพราะสะดวกต่อการมารับ
อาจารย์นั้นก็ได้แจกกุญแจห้องให้ผมมาหนึ่งดอก
“อ้าว ทำไมมันมีแค่ดอกเดียวล่ะครับ ผมกับดรีมแยกกันคนละห้องไม่ใช่หรอ?”
“โทษทีจร้ะ พอดีลืมบอกว่าเป็นผู้ชายกับผู้หญิง นอนห้องเดียวกันไม่ได้ แต่ก็เอาเหอะ อยู่ๆไปก่อน อย่าทะเลาะกันล่ะ”
ผมกับดรีมมองหน้ากัน เหมือนจะสื่อสารทางพลังจิตกันแล้วเข้าใจ โหยยยย นี่ทำไมทำกันอย่างงี้ ทำอะไรลวกๆแบบนี้ได้ไง ผู้ชายนอนห้องเดียวกับผู้หญิง แล้วนี่ถ้าตกดึกดรีมมันเกิดมาข่มขืนกรุขึ้นมาทำไง งี้ผมก็เสียความบริสุทธิ์ตั้งแต่เด็กกันพอดีอ่ะดิ (คิดมาได้เนาะ -*-)
ระหว่างทางเราไม่ได้พูดอะไรกันเลย สงสัยยังจะไม่หายช็อคจากเรื่องเมื่อกี้ทั้งคู่ ทำไมผมต้องมาอยู่กับเธอตลอดเลยวะเนี่ย พรหมลิขิตหรือเปล่านร้า? ^///^
แกร่กกก!!!!
เสียงลูกบิดดังขึ้น ผมเปิดประตูออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นสภาพห้องที่มีเตียงคู่ที่มีกลีบกุหลาบโรยเป็นรูปหัวใจอยู่ นี่มันสำหรับคู่รักมาฮันนีมูนชัดๆ นี่เมิงจงใจจองห้องนี้ให้กรุหรือเปล่าฟระเนี่ย? อร๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!! เมื่อผมมองหันหลังไปก็เห็นเธอกำลังยืนอึ้งกิมกี่ไอ้ห้องบ้านี่อยู่ เธอช็อคจนปล่อยกระเป๋าวางกองลงพื้นดังตุ้บ!!!!
ผมก้มลงไปหยิบกระเป๋าให้เธอ แต่พอเงยหน้าขึ้นมา ปรากฎว่า ใบหน้าของเธอที่กำลังจะก้มลงมาหยิบกระเป๋านั้น ห่างจากหน้าของผมไม่ถึงสามเซน *O* เราสองคนแนบชิดกันโครตๆ ตาสบตา ไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งสิ้น >< (เขิลอ่ะ)
จ้องกันไปได้สักห้าวิเธอก็เตือนสติผมด้วยการทุบหลังอย่างแรงแล้วตะโกนว่า
“มองอะไรของแกฮ๊า อีตาบ้า ทะลึ่ง!”
“มองบ้าอะไร ใครอยากจะทำไรคนอย่างเธอ ไม่มี๊” แต่หน้าแดงโคตร ^///^
“ไม่ต้องมาพูดเลย ไปนอนๆเลย”
“โอเค้ ไม่ไหวล่ะง่วง ฮ้าววววว” ผมบิดขี้เกียจแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง
“แอะแฮ่มมมมมม
.”
“อ๋อๆ เราต้องนอนข้างล่างใช่ปะ แฮะๆโทษที” ผมลุกออกจากเตียงพลางเกาหัว
“ก็รู้จักที่สูงที่ต่ำดีนิ” เธอจิกกัดผมเป็นรอบที่ร้อยได้แล้วมั้ง
“เงียบๆไปเลย คนจะนอนเฟ้ยยย! =()=”
“เอ้อออ! พูดนิดพูดหน่อยไม่ได้ จำไว้!” เธอทำเสียงประชดประชัน (ชิชะ)
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ผมลุกขึ้นมานั่งแล้วนั่งขำอยู่คนเดียว อะไรมันช่างดวงซวยขนาดนี้วะ ตั้งแต่เล่นเกมส์แน่นอนอยู่แล้วละ ยังต้องมาชดใช้กรรมให้ยัยนี่อีก น่าพิลึกชะมัดO_o
ผมเงยหน้าเงยหน้าขึ้นไปมอง เอ้า!ดรีมหลับไปซะแล้ว *-* นอนหลับเร็วเหลือเกิน แต่จะว่าไป ตอนดรีมนอนเนี่ย ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ หลับให้สบาย ฝันดีนะครับผ๊ม อิอิ ><
จากนั้น
ผมก็
นั่งลงไปที่เตียงปลายเตียงของเธอ
ผมโน้มตัวไปอย่างช้าๆ...
ลูบผมอันเงางามของเธอ
แล้วก็
ห่มผ้าให้เธอไง กร๊ากกกกกกกก (รู้นะว่าคิดอะไรกันอยู่) ><
โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ ^^
ความคิดเห็น