ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The summer trip โกอินเตอร์...ที่ซิดนีย์

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3: เตรียมตัว&หัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 54


                  เฮ้อออออสอบปลายภาคเสร็จสักที  หมดเวรหมดกรรมแล้ว  ต่อจากนี้ก็คงเป็นเวลาพักผ่อนในช่วงปิดเทอมและเตรียมตัวไปออสเตรเลีย  ทางโรงเรียนโทรมาบอกผมเมื่อวานว่าอีกสามวันข้างหน้าจะให้นักเรียนทั้งสิบห้าคนไปเข้าค่ายเตรียมตัวที่โรงเรียนเป็นเวลาสองวันสองคืน  โอ้ว ไม่นะ  ถ้ากรุต้องนอนที่โรงเรียน ขอนอนใต้สะพานลอยยังจะดีซะกว่า   ตอนกลางคืนบรรยากาศมันทั้งเงียบทั้งน่ากลัวจะตายชัก  ภารโรงลาออกกันไปหลายสิบคนเพราะอะไรก็ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริง  มีแต่เสียงร่ำลือกันให้แซ่ดว่าที่ขอลาออกก็เพราะถูกผีมาดึงเท้าบ้าง  เห็นมีคนห้อยหัวต่องแต่งอยู่บนเพดานบ้างแหละ  โอยยยย  พูดแล้วกรุขนลุกยิ่งกว่ารายการผีวันพุธซะอีก  แต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนกลัวผีอยู่แล้วนิ  จะกลัวทำไม  แต่ถ้าไม่เจอก็จะดีเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆๆ  ตอนนี้อย่าไปคิดอะไรมากเลย  ว่างแล้วนิ  ใช้ชีวิตอย่างสบายๆตั้งสามวันแหน่ะ  เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการเข้าค่ายเตรียมตัวครั้งนี้จะสบายเหมือนอยู่บ้านหรือเปล่า????

     

     

                ทำไมเวลาพักผ่อนสามวันมันผ่านไปรวดเร็วเช่นนี้หนอ  วันนี้ต้องฝืนใจตื่นเช้าอีกวันนึง  แบกสัมภาระที่จะเอาไปใช้ในค่ายไปไว้ในรถ  ผมไม่อยากจะเช็คดูความเรียบร้อยว่าของครบดีไหม?  ขาดอะไรหรือเปล่า?  เพราะผมขี้เกียจ  แฮะๆ  เอาไว้ขาดไรก็ไปตายเอาดาบหน้าขอยืมเพื่อนก็แล้วกัน  : )  ผมเข้าไปนั่งในรถและพ่อของผมก็ขับรถไปส่งผมให้ถึงโรงเรียนเลย  มันไม่ไกลมากนักหรอก  ใช้เวลาแค่สิบห้านาทีในที่สุดก็ถึงโรงเรียน  ผมกล่าวสวัสดีพ่อและแบกเป้ที่อยู่หลังรถออกไปจากนั้นก็ตรงดิ่งไปยังที่ๆเค้านัดกับผมและคนอื่นๆไว้  มันคือหอประชุมโรงเรียนนั่นเอง  แต่ผมไม่เคยได้เข้ามาใช้หอประชุมแห่งนี้สักที  ก็เพราะว่าหอประชุมแห่งนี้สร้างมาเพื่อใช้จัดพิธีใหญ่ๆโตๆเท่านั้น  ดูได้จากการที่สภาพภายในหรูหราโอ่อ่าอลังกาลเฟี้ยวเงาะเป็นอย่างมาก  แอร์เย็นฉ่ำปอด  เวทีใหญ่มากจนจะแสดงเดอะมิสิคัลได้เลย  ผมรู้แล้วว่าทำไมเค้าถึงให้เด็กนักเรียนทุกคนใช้แต่หอประชุมหลังเก่า  ที่มีแต่พัดลมเน่าๆเต็มไปด้วยหยากไย่ที่จะหลุดตกลงมาใส่หัวเด็กเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  ก็เพราะมันต้องไม่เปลืองแอร์  เปลืองไฟสปอร์ตไลท์ไงของพวกเค้าไงหล่ะ  เป็นเด็กนักเรียนจะต้องการไรมาก  มีหน้าที่เรียนก็เรียนไปสิ  มีเวทีให้ก็บุญนักแล้ว  นี่แหละนะความคิดของพวกผู้ใหญ่  ผมล่ะไม่ชอบเอาซะเลย  ว่าแต่ไอ้เด็กพวกนั้นจ้องมองมาทางกรุกันทำไมเนี่ย?  นับๆดูก็มีอยู่สิบสี่คน  อ๋อเมิงรอกรุอยู่นี่เอง  ขอบคุณมากที่มีน้ำใจรอ แต่ทำไมต้องทำหน้าบูดๆเบี้ยวๆด้วยหล่ะ  เมิงเซงนักใช่ไหม?  กรุขอโทดด    ผมก็ทำได้เพียงยิ้มๆให้เป็นเชิงขอโทษตามมารยาทที่ทำให้ทุกคนต้องรอและเข้าไปนั่งในกลุ่มอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น  น่าละอายชะมัด

    นี่นาย  มาสายแบบนี้อ่ะ  ไม่มาพรุ่งนี้ซะเลยหล่ะ?”  เสียงนี้มันมาจากข้างหลังผมอีกแล้ว  ซึ่งคงจะเป็นคนที่คุณก็รู้ว่าใคร  ยัยตัวแสบนั่นเอง !  

    อ๋อ  พอดีเราตื่นสายน่ะ  โทษที  อยากจะด่าแทบตาย  แต่ผมมีมารยาทพออ่ะนะ  อิอิ

    เหรอออ  หัดตื่นเช้าๆกับเค้าซะบ้าง  นอนกินบ้านกินเมืองอยู่นั่นแหละ  ชิส์  กรุโดนไปอีกหนึ่งดอก!  ระหว่างที่ก่อนฝ่ายจะเปิดศึกกันไปมากกว่านี้ก็มีอาจารย์คนหนึ่งเดินเข้ามาในหอประชุม  เยสสส  ดีมากกก  กรุขี้เกียจจะทะเลาะกับไอ้คนโรคจิตนี่จะแย่แล้ว!

     

    สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคน  ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทุกคนด้วยนะคะที่สามารถผ่านข้อสอบมาได้  ถือว่าเก่งมากเลยนะ  แหมมม  ดูเธอพูดสิ  เหมือนยังกะสิบห้าคนนี่ผ่านการคัดเลือกบ้านเอเอฟยังไงก็ไม่รู้

    ที่เรียกทุกคนมาเข้าค่ายเนี่ย  ก็เพราะอยากให้นักเรียนทุกคนสนิทกันไว้  ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  แล้วอีกอย่างพวกเธอทุกคนก็ต้องฝึกรำให้ได้ด้วย  เพราะเราจะเอาโชว์รำไทยไปแสดงที่โน่น เธอพูด

    เมื่อกี้หูของผมปกติดีใช่ไหม?  พูดอีกทีๆๆได้หรือเปล่า?  เมื่อกี้บอกว่านักเรียนทุกคนจะต้องฝึกรำ  นั่นก็หมายถึงว่ากรุก็ต้องรำด้วย  สัปดาห์ที่แล้วกรุสอบรำไป  อาจารย์สอนรำด่ากรุเป็นชุด  เป็นคนไทยหรือเปล่าเนี่ย  รำแข็งยังกะเป็นอะไรดี  แล้วนี่จะให้กรุไปโชว์ความเป็นไทย  เปรียบเสมือนว่ากรุต้องแบกรับความหวังของคนทั้งชาติ  ถ้าทำออกมาดีภาพลักษณ์ประเทศก็จะออกมาดี  แต่ถ้าทำแย่ๆห่วยๆล่ะก็?  ไม่อยากจะนึกเลย  อนาถใจตัวเองดีแท้  ฮ่าๆ

     

                ผ่านไปสักสิบห้านาที  อาจารย์ก็ได้นำรุ่นพี่คนหนึ่งที่ได้เคยไปมาก่อนมาเล่าประสบการณ์และแถมอาจารย์ยังได้มอบหมายให้พี่เค้าได้ทำให้ทุกคนสนิทกันมากขึ้นอีกด้วย 

    ก็สวัสดีค่ะ  น้องๆทุกคน  พี่ชื่อโบกี้นะคะ  ก่อนจะมาเล่าอะไรกันเนี่ย  พี่อยากทำความรู้จักกับทุกคนจังเลยอ่ะ  มาแนะนำตัวกันหน่อย  เริ่มจากน้องผู้ชายคนนั้นเลยค่ะ  พี่สาวคนสวยชี้มาทางผม  โอ้ยยยยยยย  ชี้ใครไม่ชี้มาชี้กรุก่อนอีก  เขินนะเฟ้ย  แต่ไม่เป็นไรแค่แนะนำตัวนิดเดียวไม่เห็นจะเป็นไรไปเลย  กล้าๆหน่อย

     

    แต่ก่อนที่ผมจะแนะนำตัวเองกับเพื่อนๆสิบสี่คน

    ผมขอแนะนำกับผู้อ่านที่น่ารักก่อนเลยดีกว่า

    เนื่องจากยังไม่มีใครเคยรู้ว่าผมคือใคร

    ผมชื่อ พอร์ช  นะครับ

    ยังไงก็ฝากเนื้อผากตัวด้วยนะครับ  อิอิ

    (โปรดติดตาม เตรียมตัว&หัวใจ part2 ด้วยนะครับ)  ><

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×