คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3: เตรียมตัว&หัวใจ
ทำไมเวลาพักผ่อนสามวันมันผ่านไปรวดเร็วเช่นนี้หนอ วันนี้ต้องฝืนใจตื่นเช้าอีกวันนึง แบกสัมภาระที่จะเอาไปใช้ในค่ายไปไว้ในรถ ผมไม่อยากจะเช็คดูความเรียบร้อยว่าของครบดีไหม? ขาดอะไรหรือเปล่า? เพราะผมขี้เกียจ แฮะๆ เอาไว้ขาดไรก็ไปตายเอาดาบหน้าขอยืมเพื่อนก็แล้วกัน : ) ผมเข้าไปนั่งในรถและพ่อของผมก็ขับรถไปส่งผมให้ถึงโรงเรียนเลย มันไม่ไกลมากนักหรอก ใช้เวลาแค่สิบห้านาทีในที่สุดก็ถึงโรงเรียน ผมกล่าวสวัสดีพ่อและแบกเป้ที่อยู่หลังรถออกไปจากนั้นก็ตรงดิ่งไปยังที่ๆเค้านัดกับผมและคนอื่นๆไว้ มันคือหอประชุมโรงเรียนนั่นเอง แต่ผมไม่เคยได้เข้ามาใช้หอประชุมแห่งนี้สักที ก็เพราะว่าหอประชุมแห่งนี้สร้างมาเพื่อใช้จัดพิธีใหญ่ๆโตๆเท่านั้น ดูได้จากการที่สภาพภายในหรูหราโอ่อ่าอลังกาลเฟี้ยวเงาะเป็นอย่างมาก แอร์เย็นฉ่ำปอด เวทีใหญ่มากจนจะแสดงเดอะมิสิคัลได้เลย ผมรู้แล้วว่าทำไมเค้าถึงให้เด็กนักเรียนทุกคนใช้แต่หอประชุมหลังเก่า ที่มีแต่พัดลมเน่าๆเต็มไปด้วยหยากไย่ที่จะหลุดตกลงมาใส่หัวเด็กเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก็เพราะมันต้องไม่เปลืองแอร์ เปลืองไฟสปอร์ตไลท์ไงของพวกเค้าไงหล่ะ เป็นเด็กนักเรียนจะต้องการไรมาก มีหน้าที่เรียนก็เรียนไปสิ มีเวทีให้ก็บุญนักแล้ว นี่แหละนะความคิดของพวกผู้ใหญ่ ผมล่ะไม่ชอบเอาซะเลย ว่าแต่ไอ้เด็กพวกนั้นจ้องมองมาทางกรุกันทำไมเนี่ย? นับๆดูก็มีอยู่สิบสี่คน อ๋อ
เมิงรอกรุอยู่นี่เอง ขอบคุณมากที่มีน้ำใจรอ แต่ทำไมต้องทำหน้าบูดๆเบี้ยวๆด้วยหล่ะ เมิงเซงนักใช่ไหม? กรุขอโทดด ผมก็ทำได้เพียงยิ้มๆให้เป็นเชิงขอโทษตามมารยาทที่ทำให้ทุกคนต้องรอและเข้าไปนั่งในกลุ่มอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น น่าละอายชะมัด
“นี่นาย มาสายแบบนี้อ่ะ ไม่มาพรุ่งนี้ซะเลยหล่ะ?” เสียงนี้มันมาจากข้างหลังผมอีกแล้ว ซึ่งคงจะเป็นคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ยัยตัวแสบนั่นเอง !
“อ๋อ พอดีเราตื่นสายน่ะ โทษที” อยากจะด่าแทบตาย แต่ผมมีมารยาทพออ่ะนะ อิอิ
“เหรอออ หัดตื่นเช้าๆกับเค้าซะบ้าง นอนกินบ้านกินเมืองอยู่นั่นแหละ” ชิส์ กรุโดนไปอีกหนึ่งดอก! ระหว่างที่ก่อนฝ่ายจะเปิดศึกกันไปมากกว่านี้ก็มีอาจารย์คนหนึ่งเดินเข้ามาในหอประชุม เยสสส ดีมากกก กรุขี้เกียจจะทะเลาะกับไอ้คนโรคจิตนี่จะแย่แล้ว!
“สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคน ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทุกคนด้วยนะคะที่สามารถผ่านข้อสอบมาได้ ถือว่าเก่งมากเลยนะ” แหมมม ดูเธอพูดสิ เหมือนยังกะสิบห้าคนนี่ผ่านการคัดเลือกบ้านเอเอฟยังไงก็ไม่รู้
“ที่เรียกทุกคนมาเข้าค่ายเนี่ย ก็เพราะอยากให้นักเรียนทุกคนสนิทกันไว้ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แล้วอีกอย่างพวกเธอทุกคนก็ต้องฝึกรำให้ได้ด้วย เพราะเราจะเอาโชว์รำไทยไปแสดงที่โน่น” เธอพูด
เมื่อกี้หูของผมปกติดีใช่ไหม? พูดอีกทีๆๆได้หรือเปล่า? เมื่อกี้บอกว่านักเรียนทุกคนจะต้องฝึกรำ นั่นก็หมายถึงว่ากรุก็ต้องรำด้วย สัปดาห์ที่แล้วกรุสอบรำไป อาจารย์สอนรำด่ากรุเป็นชุด เป็นคนไทยหรือเปล่าเนี่ย รำแข็งยังกะเป็นอะไรดี แล้วนี่จะให้กรุไปโชว์ความเป็นไทย เปรียบเสมือนว่ากรุต้องแบกรับความหวังของคนทั้งชาติ ถ้าทำออกมาดีภาพลักษณ์ประเทศก็จะออกมาดี แต่ถ้าทำแย่ๆห่วยๆล่ะก็? ไม่อยากจะนึกเลย อนาถใจตัวเองดีแท้ ฮ่าๆ
ผ่านไปสักสิบห้านาที อาจารย์ก็ได้นำรุ่นพี่คนหนึ่งที่ได้เคยไปมาก่อนมาเล่าประสบการณ์และแถมอาจารย์ยังได้มอบหมายให้พี่เค้าได้ทำให้ทุกคนสนิทกันมากขึ้นอีกด้วย
“ก็สวัสดีค่ะ น้องๆทุกคน พี่ชื่อโบกี้นะคะ ก่อนจะมาเล่าอะไรกันเนี่ย พี่อยากทำความรู้จักกับทุกคนจังเลยอ่ะ มาแนะนำตัวกันหน่อย เริ่มจากน้องผู้ชายคนนั้นเลยค่ะ” พี่สาวคนสวยชี้มาทางผม โอ้ยยยยยยย ชี้ใครไม่ชี้มาชี้กรุก่อนอีก เขินนะเฟ้ย แต่ไม่เป็นไรแค่แนะนำตัวนิดเดียวไม่เห็นจะเป็นไรไปเลย กล้าๆหน่อย
แต่ก่อนที่ผมจะแนะนำตัวเองกับเพื่อนๆสิบสี่คน
ผมขอแนะนำกับผู้อ่านที่น่ารักก่อนเลยดีกว่า
เนื่องจากยังไม่มีใครเคยรู้ว่าผมคือใคร
ผมชื่อ “พอร์ช” นะครับ
ยังไงก็ฝากเนื้อผากตัวด้วยนะครับ อิอิ
(โปรดติดตาม เตรียมตัว&หัวใจ part2 ด้วยนะครับ) ><
ความคิดเห็น