A miracle memory บทที่ 1 Beginning of the memory. - นิยาย A miracle memory บทที่ 1 Beginning of the memory. : Dek-D.com - Writer
×

    A miracle memory บทที่ 1 Beginning of the memory.

    ถ้าใครยังไม่ไดอ่านบทนำ แนะนำให้ไปอ่านบทนำก่อนน่ะค่ะ ที่ http://writer.dek-d.com/thitiporn2545/writer/view.php?id=1215699

    ผู้เข้าชมรวม

    75

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    75

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  4 ก.ย. 57 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    1

    Beginning of the memory.

    ตอนนี้ที่ห้องของฉันเต็มไปด้วยสมุด และหนังสือเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบพูดบทสนทนาเกาหลีกับอาจารย์ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ส่วนแพทกับเอิร์น สองคนนั้นไม่ต้องพูดถึงยังไงก็เกรด A แน่ๆ เพราะเพื่อนของฉันสองคนนี้มันเก่งกว่าฉันเยอะ แล้วก็ไม่ได้ซุมซ่ามเหมือนฉัน พอกลับมาคิดดูอีกที่ฉันนี่มันโก้ะกว่าเอิร์นเสียอีก แล้วก็ยังซุ่มซ่ามอีก อันที่จริงฉันไม่ค่อยมีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้มากหรอกคิดทีไร คิดเองต่อไปยาวทุกที อ่านหนังสือต่อดีกว่า -.-

    저는 한국말 해서...어쨌든  미안해요. เฮ้อ ยังพูดไม่ค่อยได้เลย ลองไปถามแพทกับเอิร์นหน่อยดีกว่า จะได้ให้ติวภาษาเกาหลีให้ด้วยเละเลย

    ณ หน้าห้องของแพท

    ก็อกๆ ตอนนี้ฉันกำลังเคาะประตูที่หน้าห้องของเพื่อนฉัน จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากแพทตี้สุดเก่งคนเดียว แต่พอแพทเปิดประห้องให้ฉันเขาไปก็พบว่าเอิร์นก็อยู่ในห้องนั้นด้วย แล้วในมือเอิร์นก็กำลังเหมือนถือบัตร หรือตั๋วอะไรซักอย่างอยู่ แต่ข้างหน้าบัตรใบนั้นมีรูปผูชายอยู่ทั้งหมด 12 คน แต่ก็ช่างเถอะยังไงก็ไม่เกี่ยวกับฉัน ที่จริงถือว่าเป็นก่รดีเลยที่เอิร์นมาอยู่ในห้องแพทด้วย ฉันจะได้ไม่ต้องเดินวนไปวนมาหลายรอบ

    อ้าว ป่านเองหรอนึกว่าแม่มาตามกลับห้อง เกือบไปแล้วไม่ล่ะ เอิร์นพูด

    อือ เราเองอ่ะมีเรื่องอยากจะถามหน่อย เกือบพูดว่าไปแล้วน่ะเนี้ย ว่าเห็นฉันเป็นแม่เอิร์นหรอ

    มีเรื่องอะไรล่ะหลังจากทีแพทเงียบไปนานแพทก็เริ่มพูดขึ้น

    คือว่า.......เรา.......ยังพูดภาษาเกาหลีไม่ค่อยได้ เลยอยากจะให้พวกแกติวให้หน่อยได้ป่าวอ่ะ

    อือ ได้ แพทกับเอิร์นพูดพร้อมกัน

    แต่อยู่ๆเอิร์นก็พูดแต่งขึ้นมาหลังจากตอบตกลงที่จะติวให้ฉัน

    มีอะไรหรอฉันถามเอิร์นกลับ

    “ป่านต้องไปผ่อนคลาย โดยการไปดูคอนเสิร์ตเอ็กโซเป็นเพื่อนพวกเราสองคน” เอิร์นพูด

    “แพทไปด้วยหรอ” ฉันถามแพทอย่างสงสัยเพราะปกติแพทไม่ได้ชอบพวกคอนเสิร์ตดาราเกาหลีเท่าไร แต่ทำไมแพทไป ที่จริงฉันอยากถามแพทออกไปอย่างนี้จัง แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะขาดความมั่นใจ และนี่ก็คือ ข้อเสียของฉันอีกข้อหนึ่ง

    “อือ” แพทตี้พูดเพียงคำว่าอือ พร้อมกับพยักหน้าตอบยิ่งทำให้ฉันอยากรู้ว่าทำไมแพทถึงไปมากขึ้น

    “เพราะฉะนั้นป่านจะไปหรือไม่ไป ถ้าไปเดี่ยวฉันจะซื้อเชอรรี่ เพื่อเป็นการพักผ่อน หรือคลายเครียดอีกทางหนึ่งให้ด้วยน้า คิดดีๆน่ะป่าน ถ้าป่านไม่ไปน่ะในชีวิตป่านจะต้องเครียด เครียด แล้วก็เครียดไปตลอดชีวิตเลยน่ะ*0*”เอิร์นพูดกับท่าทางที่ โอเวอร์เอคติ้งมาก แม่คุณแสดงเก่งจริง แต่ฉันมีทางเลือกด้วยหรอในเมื่อเอิร์นเล่นเอาผลไม้โปรดชั้น (เชอร์รี่) มาล่อซะขนาดนี้ ไม่ไปได้ไง ขอบอกไว้ก่อนน่ะ ว่าเขาไม่ใช่คนที่เห็นแก่กิน >0< สุดท้ายฉันก็ตอบออกไปว่า

    “ตกลง แต่อย่าลืมเชอรร์รี่น่ะ”

    “โอเค *0* ไม่ลืมแน่นอน แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องสอบ เพราะคอนเสิร์ตจัดก่อนวันสอบ ครูบอกล่วงหน้าตั้ง 2 เดือน คอนเสิร์ตมีอาทิตย์ ออกจากบ้านตอน 9.00 น. ห้ามสาย เดี่ยวฉันจะผิดสัญญากับยัยแพท เคน่ะ” เอิร์นพูด

    “สัญญาอะไรหรอ” ฉันถามเอิร์น

    “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ป่านอย่ารู้เลย ตกลงเคน่ะ” เอิร์นพูด

    “อืม เค” ที่จริงถึงเอิร์นไม่บอกว่าสัญญาเรื่องอะไร ตอนนี้ฉันว่าก็พอจะรู้แหละ ต้องเกี่ยวกับแฟชั่นแน่ๆ

    ณ หน้าคฤหาสน์paradise ในวันจัดคอนเสิร์ตเอ็กโซ

    “ป่าน แพทเร็วๆหน่อยสิสายแล้วน่ะ เดี่ยวไม่ทันหรอกน่ะแพทตี้ ระวังให้ดีเดี่ยวจะหมดสัญญาก่อนน่ะ แค่ไหนแค่นั้นจบ”เอิร์นพูดด้วยน้ำเสียงตกใจเมื่อพบว่า ตอนนี้สายแล้ว จึงบอกให้ฉันรีบวิ่ง แต่ดูเหมือนว่าสำหรับแพทมันเหมือนการขู่ยังไงไม่รู้สิ -.- ที่จริงแพทตี้ไม่ได้สายหรอกน่ะ ที่แพทสายเป็นเพราะฉันเองล่ะ ฉันกลัวว่าฉันจะตื่นสายเลยกะว่าจะให้แพทไปปลุกหน่อย แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันตื่นสายจริง ชีวิตฉัน T0T

    “จร้า” ฉันและแพทขานรับเอิร์นพร้อมกัน

    ณ สถานที่จัดคอนเสิร์ตเอ็กโซ

    ซึ่งฉันรู้แล้วล่ะ ว่าเอิร์นสัญญาอะไรไว้กับแพทเป็นอย่างที่ฉันสันนิษฐานไว้แป๊ะว่ามันเกี่ยวกับแฟชั่น ในที่สุดก็ถึงเวลาจัดงานคอนเสิร์ต ซึ่งเขาให้คนเดินทยอยเข้ากันไปได้แล้ว ในขณะที่กำลังเดินตามเอิร์นและแพท ซึ่งฉันมั่นใจว่าสองคนนี้ไม่หลงทางชัวๆ เพราะสองคนนี้มาเที่ยวที่นี่บ่อยมากรู้สึกว่าสองคนนี้บอกว่าพอมาเดินที่นี่ รู้สึกว่าเหมือนเดินอยู่ในสวนหย่อมที่บ้าน แต่สำหรับฉันซึ่งมาไม่บ่อยเท่าสองคนนี้ หรือเรียกได้ว่าแทบจะไม่เคยมาได้เลยกลัวที่จะหลงทางมาก ตอนแรกความคิดของฉันยังไม่เป็นจริง แต่ฉันรู้สึกว่ามันเป็นจริงแล้วตอนที่มีผู้หญิงอ้วนคนหนึ่งเดินมาชนฉัน และพอลุกขึ้นมาก็พบว่าแพทกับเอิร์นหายไปไหนไม่รู้ คราวนี้ล่ะ ซวยแล้วฉันหลงทาง หลังจากที่รู้ว่าตัวเองหลงทาง ไปที่ไหนก็ไม่รู้ ที่นี่มีคนที่กำลังแต่งตัวอยู่ แล้วก็มีคนใส่เสื้อสีดำ แล้วก็มีคำว่า สตาฟร์ เขียนอยู่บนเสื้อ ในขณะที่ฉันกำลังอึ้ง กับสถานการณ์ตรงหน้า ทำตัวไม่ถูก เพราะฉันมันเป็นคนขาดความมั่นใจ จึงไม่รู้ หรือไม่กล้าที่จะไปถามทางคนอื่นเขาอยู่ๆก็มีผู้ชายที่รูปร่างดีคนหนึ่งเดินเข้ามาหา เขาเป็นคนที่หน้าตาดีมากคนหนึ่ง เขาย้อมสีผมหลากหลายคลายสีรุ้ง แต่เรื่องพวกนี้มันไม่ค่อยน่าโมโหเท่าไรหรอกแต่ประโยคที่ถามฉันออกมานี่สิ ไม่หัดใช้คำพูดที่มันสุภาพหน่อย พูดมาได้ “คุณน้าหลงทางหรอครับ ก็อย่างว่าแหละ แก่แล้วนี่เนอะ” (ที่จริงเขาพูดออกมาเป็นภาษาเกาหลีน่ะ) ตอนแรกอยากจะว่ากลับ แต่ทำไม่ได้ เพราะเขาคือผู้ที่พึ่งพาได้ในตอนนี้

    “ขอโทษน่ะค่ะ ฉันไม่ใช่น้าคุณ แต่ฉันขอไม่เถียงกลับเรื่องหลงทาง เพราะฉันหลงทางจริง พอจะรู้ไหมค่ะ ว่าทางออกที่จะเดินไปตรงหน้าสเตเดรียมต้อมไปทางไหนค่ะ พอดีว่ามาดูคอนเสิร์ตเอ็กโซกับเพื่อนแต่ฉันไม่ค่อยรู้ทางนี้ ช่วยบอกทางให้หน่อยน่ะค่ะ ขอความกรุณาด้วยค่ะ T0T ”ฉันพูดด้วยน้ำเสียงขอร้องแล้วก็ทำตัวให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่ทำได้ จากที่เอิร์นสอนมา (ฝึกเรียนการแสดง)

    “ได้สิ ที่จริงผมอ่ะอยากเรียกคุณว่า คุณน้าต่อน่ะ แต่ถ้าคุณขอร้องซะขนาดนี้ ผมไม่เรียกคุณว่าคุณน้า แล้วหล่ะทางออกอ่ะน่ะต้องไปทางนี้ แล้วก็ทางนี้ จากนั้น.............”ชายผมสีรุ้งพูด ที่จริงคำว่าคุณน้าฉันไม่ได้อ้อนขนาดนั้นซะหน่อย –เว่อร์- ก่อนที่เขาจะพูดอีกประโยคหนึ่งตามหลัง “คุณชื่ออะไรหรอ ผมชื่อเซฮุน ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ชายผมรุ้งพูดอีก ในเมื่อเขามาทำความรู้จักด้วย ฉันก็คงต้องแสดงท่าทางเป็นมิตรมากกว่านี้

    “ฉันชื่อ ซูฮยอน/ซูมิค่ะ เรียกชื่อไหนก็ได้ตามสะดวกค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ชื่อไทยชื่อ สายป่านน่ะค่ะ หรือเรียกป่านเฉยๆก็ได้ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้คุณเซฮุน เรียกชื่อภาษาไทยมากกว่าน่ะค่ะ” ฉันพูดแนะนำตัว และชื่อของตัวเองเป็นภาษาเกาหลี และภาษาไทยเอาตรงๆที่เขาพูดออกมาเนี้ย มันคือภาษาเกาหลีทั้งหมดรู้บ้างไม่รู้บ้าง -0- งง จากนั้นฉันก็เดินออกมาจากตรงนั้น และเดินไปตามทางที่เขาบอก ในที่สุดก็เจอแพทกับเอิร์นเสียที

    “แฮ่กๆ ป่าน หายไปไหนมาหาแทบแย่เลย” แพทกับเอิร์น พูดด้วยเสียงเป็นห่วง

    “ฉันหลงทางน่ะขอโทษน่ะ”ฉันพูด

    “อือ....อืม ไม่เป็นไร คราวหลัง ห้ามหลงอีกน่ะ” แพทพูด

    “จร้า”ฉันขานรับ พอเข้าไปในคอนเสิร์ต ฉันก็ได้ยินเสียงเพลงรู้สึกว่ามีคำว่า wolf ด้วยน่ะผ่านๆหู ช่างมันเถอะ พอเพลงจบพิธีกรคนหนึ่งก็พูดขึ้นที่จะให้เอ็กโซเล่นเกมหนึ่ง โดยเกมนี้ต้องให้เอ็กโซเลือกคู่ของตัวเองมา 1 คน แล้วถ้าเอ็กโซเลือกคนนั้น หรือเรียกชื่อคนนั้นให้มายืนกับคู่ของคุณบนเวทีถ้าไม่มาใน 10 นาที เราจะให้เมมเบอร์เลือกคู่คนใหม่แทน ส่วนกติกาการเล่นเกมจะพูดให้ฟังอีกทีจะพูดให้ฟังอีกทีน่ะครับ ให้เอ็กโซเลือกคู่ของตนเองมาก่อนน่ะครับ

    [ sehun special talk]

    เฮ้อ เมื่อไรวันนี้จะจบลงกันนะ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องทำวันนี้ให้จบ อย่างมีความสุข เพื่อแฟนคลับของผม แต่ทำไมตั้งแต่ที่ผมเจอผู้หญิงร่างบาง ริมฝีปากชีชมพู และแก้มสีชมพูระเรื่อ เธอช่างเป็นคนที่สวย และน่าหลงใหลมากเลย เธอจะรู้ตัวไหมน่ะ ว่าผมแอบชอบเธอเข้าให้แล้วสายป่านคนนั้นน่ะ เอาตรงๆผมไม่ค่อยอยากให้วันนี้จบลงเลย เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมฝันอยากจะเป็นแฟนด้วยเลยน่ะหลังจากที่ผม เหม่ออยู่นานผมก็ได้ยินเสียงพิธีกรดังขึ้นว่า

    “เอาหล่ะครับ ตอนนี้ก็เหลือคนสุดท้ายแล้วครับ คุณเซฮุน มักเน่ของเรานั้นเอง คุณจะเรื่องคู่กับใครครับ” เมื่อผมได้ยินคำถามนั้น ผมก็สะดุ้งตกใจ เพราะในช่วงที่เขาให้ผมไปหาคู่ ผมก็แอบอู้งาน เอ้ะ แต่ถ้าผมจำไม่ผิดผมก็ไปหาคู่น่ะ ใช่แล้วสายป่านไง เออใช่ สายป่าน

    “ผมเลือก...................สายป่านครับ”ผมตื่นเต้นจังที่จะได้เล่นเกมกับเธอ เพราะผมรู้สึกอยากจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้จัง

    [ sehun special talk end]

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น