ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic pokemon OC]10 days in Pokemon world

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 4 คนแปลกหน้า การปรากฏตัวของเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคน และ Z ring(ตอนกลาง)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 109
      9
      5 เม.ย. 64

    ตอนที่ 4 คนแปลกหน้า การปรากฏตัวของเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคน และ Z ring(ตอนกลาง) 

        เงียบสนิท….

        Z-ring มากมายวางเรียงรายอยู่บนชั้นเก็บของภายในบ้านหลังเล็กในริลี่ทาวน์(Iki town) เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ภายในบ้านส่วนใหญ่ดูเป็นของที่ไม่ได้มีราคาอะไรมากนัก แต่ก็เพียงพอกับการใช้ชีวิตเพียงลำพังของชายคนหนึ่ง

        ชายวัยกลางคนในเสื้อคลุมสีเหลืองที่ถูกเรียกว่า 'ราชาเกาะ' นั่งดื่มชาอย่างสบายอารมณ์ ในขณะที่เด็กหนุ่มสองคนซึ่งนั่งอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้ามดูท่าทางเกร็งๆ ถ้วยชาสองถ้วยที่อุตส่าห์เตรียมมาให้ยังคงมีน้ำชาอยู่เต็มดังเดิมเพราะไม่มีใครกล้าไปแตะต้องพวกมัน

        'นี่มัน..เรื่องอะไรกันเนี่ย'

        แม้ว่าใบหน้าของฟูจิกิจะยังดูเรียบเฉย แต่ภายในเต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดใจ สงสัย กังวล ปะปนกันมั่วไปหมด ตั้งแต่ออกเดินทางมาถึงเกาะเมเลเมเล่เขาก็เจอแต่เหตุการณ์แปลกๆ ทั้งเรื่องการปรากฏตัวของ 'ฮาเคย์' คนแปลกหน้าที่ไม่เคยปรากฏตัวในซีรีส์โปเกมอนมาก่อนไม่ว่าจะเป็นเกม อนิเมะหรือมังงะ ไหนจะการพบเจอกับราชาเกาะอย่างไม่คาดคิดที่เมืองฮัวโอลี่และถูกเชิญมาดื่มชาที่บ้าน เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย มันไม่ควรจะเกิดขึ้นสิ!

        นี่ไม่ใช่..จักรวาลโปเกมอนที่เขารู้จัก…

        "เอาน่า ทำตัวสบายๆ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น"

        ชายวัยกลางคนกล่าวเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มสองคนดูท่าจะเกร็งไม่น้อย ฟูจิกิก็ยังคงทำใบหน้าเรียบเฉย ในขณะที่ฮาเคย์เริ่มหลบตา

        "อ้อ! จริงสิ ฮาเคย์"

        "ค..ครับ!!?"

        ราชาเกาะหันมามองเด็กหนุ่มผมน้ำตาล ฮาเคย์สะดุ้ง รีบขานรับอย่างลนลาน

        "ฝึกพิเศษที่เกาะโพนิเป็นยังไงบ้างล่ะ ได้เข้ารับการทดสอบใหญ่รึเปล่า?"

        "เรื่องนั้น…." ฮาเคย์นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง "ก็ฝึกจนจารังโควิวัฒนาการเป็นจารังโก้แล้ว ส่วนเรื่องการทดสอบใหญ่...เพราะยังไม่มีราชาเกาะคนใหม่ ก็เลยเข้ารับการทดสอบไม่ได้"

        "งั้นเหรอ แล้วอาหารที่นั่นเป็นยังไงบ้าง ถูกปากมั้ย?"

        "อ่า..ก็อร่อยดีครับ รสชาติแปลกใหม่ดี"

        หลังจากนั้นก็..บลาๆๆ

        บทสนทนาเรื่อยเปื่อยระหว่างราชาเกาะกับคนแปลกหน้า ฟูจิกิไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนั่งฟังอยู่เฉยๆ ฟังบทสนทนาเรื่อยเปื่อยที่กำลังผลาญเวลาชีวิตเขาไปอย่างช้าๆ

        'ฉันมาทำอะไรที่นี่….'

        ฟูจิกิเริ่มเบื่อ เขาอยากจะออกไปจากที่นี่เต็มแก่ ให้ตายเถอะ เขาไม่ได้มีเวลาว่างมากพอที่จะมานั่งฟังสองคนนี้คุยกันเรื่อยเปื่อยหรอกนะ เฮ้อ! แบบนี้จะตามหาเพื่อนร่วมชะตากรรมที่เหลืออยู่ทันตามกำหนดมั้ยล่ะเนี่ย รู้สึกอิจฉามาริกับควีเน็ตต้าชะมัดที่ได้นั่งรออยู่ข้างนอก

        แล้วสองคนนั้นจะยอมนั่งรออย่างสงบเสงี่ยมรึเปล่าหว่า…

        ฟูจิกิเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี จู่ๆ เขาก็ขนลุกซู่ขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อนึกถึงเพื่อนร่วมชะตากรรมสองสาว เด็กหนุ่มชำเลืองมองหน้าต่าง แต่ก็ยังเห็นสองคนนั้นอยู่ที่เดิม

        คิดมากไปเองน่า….

        เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

        แต่แล้วความรู้สึกโล่งอกนั้นก็สลายหายไปในพริบตา

        "จะว่าไปแล้ว ฉันได้ยินเรื่องแปลกๆ มาจากคุคุยคุงน่ะ ที่ว่ามีฟ้าผ่าลงมาที่ป่าโพนิ--"

        ตู้ม!!!

        โครม!!

        "!?"

        เสียงระเบิดดังสนั่น ดังมาจากไม่ไกลนี้เอง ทั้งสามคนถึงกับสะดุ้ง ฮาระเกือบจะเผลอปล่อยมือที่จับถ้วยน้ำชาไว้ไปเสียแล้ว

        "เสียงอะไรกัน!?"

        อา..ว่าแล้วเชียว

        ต่างจากฮาระและฮาเคย์ที่เพียงแค่สะดุ้งเพราะตกใจ ฟูจิกิรีบลุกขึ้นจากที่นั่งแล้ววิ่งตรงไปที่ประตูบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

        ปัง!!

        เด็กหนุ่มผลักประตูเสียงดังสนั่น พอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าก็ถึงกับอ้าปากค้าง จากพื้นหญ้าเรียบๆ หน้าบ้านราชาเกาะกลายเป็นหลุมอุกกาบาตโทบาริซิตี้ ต้นไม้รอบข้างหักโค่น เละเทะจนไม่เหลือเค้าเดิม ไม่ไกลนักมีเอมอนก้าที่กำลังอ้าปากหาวกับคอยคิงที่ปล่อยตัวเองลอยคออยู่ในตู้ปลา

        รู้เลยว่าฝีมือใคร….

        "โอ๊ะ! โปจิกิออกมาแล้วล่ะควีนซัง"

        ทันทีที่เห็นฟูจิกิ มาริก็ร้องทักขึ้นมาทันที ควีเน็ตต้าหันไปมองตาม ก่อนจะทำท่ากอดอก

        "คุยกันเสร็จแล้วเหรอ? งั้นก็รีบไปจากที่นี่ซักที ร้อนจะแย่แล้ว"

        ควีเน็ตต้าพูดเชิงสั่ง เพราะฟูจิกิดันวางตู้ปลาของเธอตากแดดจนน้ำในตู้เริ่มร้อนแล้ว ถ้าไม่รีบย้ายออกไปมีหวังตู้ปลานี่ได้กลายเป็นหม้อต้มแทนแน่ๆ ใครจะไปอยากกลายเป็นปลาต้มกันล่ะ ไม่-เอา-เด็ด-ขาด!

        "ยังไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ! แล้วนี่พวกเธอทำอะไรกันเนี่ย!? ทำไมมันถึงได้เละเทะขนาดนี้!"

        ฟูจิกิถาม มาริกับควีเน็ตต้าหันมามองหน้ากัน สักพักมาริในร่างเอมอนก้าก็ยกมือขึ้นเกาหัว

        "อ่า..แบบว่า..ออกกำลังกายกันนิดๆ หน่อยๆ น่ะ"

        "ออกกำลังกายนิดๆ หน่อยๆ เนี่ยนะ"

        ฟูจิกิถามย้ำแบบไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก ให้ตายสิ ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด ออกกำลังกายยังไงให้มันพังพินาศชนาดนี้กัน

        "อื้อ นิดๆ หน่อยๆ จริงๆ นะ" มาริยืนกราน "ก็แค่ลองยิงเธาซันแอโรว์(Thousand arrow) กับเบรฟเบิร์ด(Brave bird) ดูแค่นั้นเอง"

        "เบรฟเบิร์ด!? เธาซันแอโรว์!!?"

        ฟังแล้วก็จะเป็นลม สองท่าที่พูดมามันใช่ท่าธรรมดาซะที่ไหนกัน!? สองคนนี้มันชักจะ OP เกินไปแล้วนะ! พลังระดับนี้อาร์เซอุสก็ยังไม่น่าสู้ด้วยไหวเลยเถอะ!

        "นี่ฉันเล่นโหมด Extreme Randomizer อยู่รึไงกัน.."

        ฟูจิกิยกมือขึ้นกุมขมับ นี่ขนาดแค่สองคนยังขนาดนี้ แล้วอีกเจ็ดคนที่เหลือมันจะขนาดไหน ถ้ามารวมทีมกันครบจริงๆ การครองโลกก็อาจจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้วก็ได้

        ใครก็ได้..เนิร์ฟสองคนนี้ทีเถอะ 

        แต่เดี๋ยวก่อน รู้สึกเหมือนว่าจะลืมอะไรสักอย่างไปเลยนะ

        "...นี่มัน..บ้าไปแล้ว…"

        เสียงที่เงียบไปนานได้กลับมาอีกครั้ง ฮาเคย์กับฮาระได้เดินตามฟูจิกิมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ ดวงตาของฮาเคย์เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่ฮาระเริ่มที่จะขมวดคิ้วเป็นปม

        "กะแล้วเชียว ยังมีโปเกมอนแบบนี้อยู่อีกสินะ"

        เสียงราชาเกาะพึมพำกับตัวเอง มันเบาเกินกว่าที่ฮาเคย์ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ จะสามารถจับประเด็นได้ เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลหันมาหาราชาเกาะ แม้จะเห็นกับตาแต่เขาก็ยังคงไม่เชื่อว่านี่คือความเป็นจริง

        "คุณฮาระ! นี่มันจะแปลกเกินไปแล้วนะครับ! มันไม่มีทางที่คอยคิงกับเอมอนก้าจะใช้ท่าไม้ตายระดับนี้ได้หรอก!"

        ฮาเคย์ส่งเสียงโวยวาย

        "ที่พูดมานั่นก็ถูก ฮาเคย์ เอมอนก้ากับคอยคิงปกติไม่มีทางใช้ท่าไม้ตายระดับนั้นอย่างแน่นอน" ราชาเกาะบอกลูกศิษย์ "ถ้าสองตัวนั้นปกติล่ะก็นะ"

        "เอ๋ ไม่จริงน่า ลุงฮาระดูออกด้วยเหรอว่าพวกเราไม่ปกติ?"

        มาริกระซิบถามฟูจิกิ

        'ดูไม่ออกก็แย่แล้วล่ะ'

        เด็กหนุ่มเถียงในใจ

        ทว่าก่อนที่จะอ้าปากพูด ราชาเกาะก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน

        "ตั้งแต่ตอนที่พวกเธอแบทเทิลกันที่ฮัวโอลี่แล้ว ฉันรู้สึกได้ถึงอะไรแปลกๆ ในตัวของสองตัวนั้น ไม่ใช่ความผิดปกติทางร่างกาย แต่ดูเหมือนว่าสองตังนั้นจะมี 'อะไรบางอย่าง' ที่ไม่ปกติไหลเวียนอยู่ในร่าง อะไรทำนองนั้นแหละ"

        "!?"

        เมื่อพูดมาถึงตรงนั้น ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นพากันมองมายังฮาระเป็นตาเดียว คำพูดของชายวัยกลางคนนั้นน่าเหลือเชื่อ ฟูจิกิ มาริ ควีเน็ตต้า ทั้งสามคนต่างก็สะกิดใจกับคำว่า 'อะไรบางอย่าง' ที่ราชาเกาะกล่าวถึง

        ที่ราชาเกาะพูด..หมายถึงอะไรกัน?

        "โอ้! จริงสินะ เกือบลืมไปเลย ที่ฉันเรียกเธอมาที่นี่น่ะ"

        คราวนี้ฮาระหันมาทางฟูจิกิ เปลี่ยนประเด็นการสนทนาในพริบตา ฟูจิกิเงยหน้าขึ้นสบตากับชายวัยกลางคนในเสื้อคลุมสีเหลืองเด่น

        พูดตามตรงนะ ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าถูกลุงราชาเกาะเรียกมาที่นี่…

        ติดเชื้อมาริเข้าแล้วสิเนี่ย

        ฟูจิกิพยายามจูนสติตัวเอง เรียบเรียงความทรงจำ อื้ม ใช่แล้ว เขาถูกฮาระเรียกมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง และเหตุผลที่ว่านี้ เขาก็กำลังจะได้รับรู้ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

        "เธอสนใจจะ..เข้ารับการทดสอบใหญ่รึเปล่า?"

    .

    .

    .

        ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมเลเมเล่ ไม่ไกลจากริลี่ทาวน์เท่าไรนัก เป็นที่ตั้งของสถานที่ที่ไม่มีผู้ใดกล้าย่างกรายเข้ามาโดยลำพัง

        ต้นไม้สูงชะลูด แตกใบหนาบดบัง ยากที่แสงอาทิตย์จะส่องลงมาได้ ไอน้ำในอากาศมากมายทำให้ความชื้นสัมพัทธ์ของที่นี้สูงเกินไปจนทำให้ฟูจิกิเริ่มที่จะรู้สึกเหนียวตัวขึ้นมาหน่อยๆ แต่เรื่องนั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะปัญหาที่เขาพบเจออยู่ในขณะนี้นั้นเป็นเรื่องใหญ่กว่ามาก

        ปัญหานั้นก็คือ….

        "นี่ รีบๆ เข็นเข้าสิ ตาลุงนั่นเดินไปไกลแล้วนะ"

        "ก..ก็พยายามอยู่นี่ไงเล่า!"

        "ไฟต์โตะ! ไฟต์โตะ! โปจีกี่~"

        เป็นสถานการณ์ที่แปลกพิลึก เมื่อจู่ๆ ล้อของรถเข็นที่ใช้บรรทุกตู้ปลาจองควีเน็ตต้าดั๊นไปติดอยู่ในโคลน ไม่ว่าฟูจิกิจะออกแรงเข็นเท่าไหร่ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด และด้วยความที่เพื่อนร่วมชะตากรรมสองคนที่อยู่กับเขาในตอนนี้เป็นเพียงแค่สาวน้อยบอบบาง(?) จึงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากการให้กำลังใจ(?)

        การกระทำของสามสหาย เล่นเอาฮาเคย์เงิบไปเลยทีเดียว

        "เอาจริงดิ นี่แกบ้าหรือบ้าเนี่ย เอาเข้ามอนสเตอร์บอลก็จบแล้วแท้ๆ -_-"

        ฮาเคย์พูดอย่างเอือมๆ

        "มาริ! ช่วยทีสิ! พลังโจมตีหลักร้อยแบบเธอน่าจะแรงเยอะไม่ใช่เหรอ มาช่วยกันเข็นหน่อย!"

        "ไม่ไหวอะ! บนอากาศมันไม่มีที่ให้เหยียบนี่นา เข็นไม่ไหวหรอก!"

        "........."

        เฮ้อ! โดนเมินอย่างสมบูรณ์แบบเลยมั้ยล่ะฮาเคย์

        "นี่ โปจิกิ เมื่อกี้เหมือนฮาเคย์จะพูดอะไรสักอย่างนะ" 

        มาริพูดพลางสะกิดเรียกฟูจิกิ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่คิดจะไปให้ความสนใจอะไรกับฮาเคย์ จึงได้แต่ออกแรงเข็นตู้ปลาต่อไป

        "ช่างหัวหมอนั่นเถอะ ยังไงก็คงจะบ่นฉันเรื่องที่ไม่ยอมเก็บควีนซังไว้ในบอลนั่นแหละ" ฟูจิกิพูดตอบมาริ แต่พอนึกถึงเรื่องมอนสเตอร์บอลแล้วก็ถอนหายใจ "เฮ้อ! ฉันอุตส่าห์เสียตังค์ซื้อบอลไปตั้งเยอะ สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้เลยสักลูก"

        "ก็ใครมันจะไปอยากอยู่ในบอลแปลกๆ พรรค์นั้นกันล่ะ แค่ตู้ปลานี่ก็แคบจะตายอยู่แล้ว แล้วบอลลูกเล็กๆ นั่นจะไปเหลือเหรอ" ควีเน็ตต้า

        "มันก็ไม่ได้แคบขนาดนั้นสักหน่อยน่า ขนาดเวลโอยังอยู่ได้เลย" 

        เหมือนจะลืมเรื่องการทดสอบใหญ่ไปซะแล้ว ฟูจิกิไม่รู้ตัวเลยว่าในขณะที่เขากำลังคุยกับสองสาวอยู่นี่ ฮาระก็ได้เดินไกลออกไปเรื่อยๆ จนไม่เห็นตัว ฮาเคย์แทบจะยกเท้าขึ้นมาขึ้นมาก่ายหน้าผาก ให้ตายเถอะ นี่คิดจะคุยกันไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย

        "เฮ้อ!..ขืนเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้ไปต่อกันพอดี" ฮาเคย์บ่น มือข้างขวาล้วงเข้าไปหยิบมอนสเตอร์บอลลูกหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง "ออกมา คิเทรุกุมะ"

        "คิ้ว~"

        //เสียงร้องคิเทรุกุมะ...รู้สึกว่าน่าจะเป็นแบบนี้ล่ะมั้งนะ

        "เอ๊ะ?"

        เจ้าโปเกมอนหมีตัวใหญ่ออกมาจากมอนสเตอร์บอลของฮาเคย์ มันหันมายิ้มหวานให้กับฟูจิกิ ก่อนจะสวมกอดอย่างเป็นมิตรด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ทำเอาเด็กหนุ่มผมดำแทบจะหายใจไม่ออก พยายามออกแรงดิ้น หวังจะให้มันปล่อย

        "เฮ้ย! เจ้านี่มันอะไรเนี่ย!? ทำไมจู่ๆ มันถึงโจมตีฉันเล่า!?"

        ฟูจิกิโวยวาย ในขณะที่ฮาเคย์แสยะยิ้มอย่างสะใจ

        "แค่การทักทายน่ะ"

        "ทักทายก็แย่แล้ว!"

        ฟูจิกิออกแรงดิ้นต่อ แต่ไม่นานนัก คิเทรุกุมะก็วางเขาลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังมาริ ทำเอาเจ้าตัวขนลุกซู่

        "อ่า โปจิกิ เดี๋ยวฉันไปตามหาเพื่อนร่วมชะตากรรมที่เหลือให้นะ บาย!!"

        เอมอนก้ามาริกางปีกร่อนหนีไปทันที ส่วนคิเทรุกุมะก็วิ่งตาม มันใช้แรงขาที่ทรงพลังกระโดดตามมาริไป จนมาอยู่ที่ระดับความสูงเดียวกัน

        "เหวอ!!?"

        มาริบินหลบแขนของคิเทรุกุมะที่พยายามจะสวมกอด เจ้าหมีใหญ่ที่ไม่สามารถบินได้อย่างมาริร่วงตกลงไปบนพื้น น้ำหนักกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัมของมันทำเอาพื้นสะเทือน น้ำไหลหกออกจากตู้ปลาของควีเน็ตต้า

        "เดี๋ยวเถอะ! น้ำหกหมดแล้วเนี่ย!"

        ควีเน็ตต้าดุ

        "เอาล่ะ พอได้แล้ว คิเทรุกุมะ"

        หลังจากที่ยืนมองมาสักพัก ฮาเคย์ก็บอกให้คิเทรุกุมะหยุดสักที เจ้าหมีตัวใหญ่หยุดตามที่เทรนเนอร์ของตนบอก แม้จะดูซนไปบ้าง แต่ก็เชื่อฟังอย่างน่าเหลือเชื่อ ฟูจิกิมองเจ้าหมีใหญ่ที่เกือบจะทำกระดูกเขาหักสลับกับใบหน้าของฮาเคย์ที่เผยรอยยิ้มชั่วร้าย 

        "นี่นายคิดจะฆาตกรรมฉันรึไงกัน"

        "จะช่วยต่างหาก" ฮาเคย์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ทุกข์ร้อนอะไรนัก "ถอยออกมาซะ เดี๋ยวจะช่วยยกตู้ปลานั่นออกมาให้"

        ฮาเคย์สั่ง แม้ฟูจิกิจะไม่ค่อยอยากทำตามที่บอกเท่าไหร่นัก แต่ก็ยอมถอยออกมาจากตู้ปลาแต่โดยดี เจ้าคิเทรุกุมะเดินเข้าไปแทนที่ฟูจิกิ ใช้มือขนาดใหญ่ทั้งสองจับรถเข็นไว้แน่น ก่อนจะออกแรงเข็นอย่างเต็มกำลัง

        "บิลด์อัป(Bulk up)"

        ฮาเคย์สั่งคิเทรุกุมะ เจ้าหมีใหญ่พยักหน้าก่อนจะเริ่มสะสมพลัง ดวงตาสีดำกลมโตน่ารักของมันกลายเป็นสีแดงฉาน แขนขาอ้วนๆ ของมันแปรเปลี่ยนเป็นกล้ามเป็นมัดๆ แม้แต่หน้าท้องของมันก็ดูแข็งแรงขึ้นเพราะซิคแพค ในตอนนี้เจ้าหมีน่ารักน่าเอ็นดูเริ่มที่จะเหมือนกับนักกีฬามวยปล้ำขึ้นมาเสียแล้ว

        "กรรรร!!!!"

        คิเทรุกุมะเวอร์ชันกล้ามโตแผดเสียงคำรามน่ากลัว แต่ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ทั้งยังถูกเสริมพลังด้วยบิลด์อัป ทำให้รถเข็นหลุดออกมาจากบ่อโคลนอย่างง่ายดาย

        "เอ้านี่ เรียบร้อยแล้ว"

        ฮาเคย์กล่าว ก่อนจะเรียกคิเทรุกุมะกลับเข้ามอนสเตอร์บอล ฟูจิกิกลับมาเข็นรถเข็นอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันได้เข็น ความเอาแต่ใจของควีเน็ตต้าก็สร้างความปวดหัวให้กับคุณเทรนเนอร์อีกแล้ว

        "ให้ตายสิ เจ้าหมีบ้านั่นทำน้ำหกหมดเลย" คอยคิงควีเน็ตต้าบ่น ก่อนจะหันไปสั่งฟูจิกิ "คุณน่ะ! เติมน้ำทีสิ!"

        "แล้วจะให้ไปหาน้ำมาจากไหนล่ะ นี่มันในป่านะ" ฟูจิกิพูดอย่างเอือมๆ

        "ก็น้ำในกระเป๋านั่นไง"

        "เอาจริงดิ นั่นมันน้ำกินนะ"

        "ฉันไม่สน เอามาเติมให้ฉันซะ"

        "ไม่คิดว่าฉันจะหิวน้ำบ้างเลยเหรอ นี่มันขวดสุดท้ายที่มีแล้วนะ!"

        "งั้นก็เลือกเอา จะโดนอุกกาบาตตกใส่หรือว่าจะเติมน้ำให้ฉัน!"

        "เติมน้ำครับ!!"

        "ต้องแบบนี้สิ"

        การโต้เถียงระหว่างฟูจิกิกับควีเน็ตต้าเรื่องน้ำในตู้ปลา จบลงด้วยการยอมแพ้ของฟูจิกิเพราะข้อเสนอที่ยอดเยี่ยม(?)ของคอยคิงผู้เอาแต่ใจ ฟูจิกิจำใจเทน้ำขวดสุดท้ายของเขาลงในตู้ปลา อย่างน้อยมันก็ช่วยรับประกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้สักพักล่ะนะ

        'ไม่นะ น้ำดื่มของฉัน'

        *เด็กหนุ่มยืนไว้อาลัยให้กับขวดน้ำขวดสุดท้ายเป็นเวลา 0.5 วินาที

        "เสียใจด้วยนะ โปจิกิ"

        มาริร่อนลงมาร่วมไว้อาลัย

        ……….

        ให้ตายเถอะ เล่นบ้าอะไรกันเนี่ย

        "..นี่ ก็ไม่ได้อยากจะขัดการละเล่นบ้าบออะไรของพวกคุณหรอกนะ" ควีเน็ตต้าพูดขัด ก่อนที่ฟูจิกิกับมาริจะเล่นไปมากกว่านี้จนหลงลืมธุระสำคัญไป "ลุงที่ใส่ผ้าคลุมสีเหลืองเดินไปไกลแล้วนะ มัวแต่เล่นกันจนถูกทิ้งไว้ข้างหลังก็ยังไม่รู้ตัวกันอีก"

        "เอ๊ะ? เมื่อกี้ว่าไงนะควีนซัง?"

        มาริหันมาถามย้ำ

        "ก็บอกว่า ลุงที่ใส่ผ้าคลุมสีเหลืองเดินไปไกลแ--"

        "อ้าว!? นี่ฮาระไม่ได้หยุดรอพวกเราหรอกเหรอ!?" ดูเหมือนว่าฟูจิกิกับมาริจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าโดนทิ้งห่างไปแล้ว "นี่เป็นคนนำทางแบบไหนกันเนี่ย แล้วฉันจะไปรู้มั้ยว่ามันต้องไปทางไหนต่อ ทางเดินที่นี่มันไม่มีส่วนไหนเหมือนในเกมเลยนะโว้ย!"

        ฟูจิกิโวยวายด้วยความเกรี้ยวกราด ไม่เหลือมาดนิ่งอีกต่อไป นี่เองสินะที่เขาเรียกกันว่าหลุดคาร์ เรียกได้ว่าหลุดกันจนแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมเลยทีเดียว

        "เฮ้อ ไม่ไหวๆ แค่นี้ก็โวยวายซะแล้ว แกนี่มันไม่ไหวเลยจริงๆ" ฮาเคย์พูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน "ไม่เป็นไร เดี๋ยวฮาเคย์ผู้นี้จะนำทางให้เอง ในฐานะรุ่นพี่ที่เคยเข้ารับการทดสอบใหญ่มาก่อนแล้วยังไงล่ะ!"

        พูดจบฮาเคย์ก็โพสท่าเสียอย่างกับจูนิเบียว เล่นเอาสามสหายจากต่างโลกถึงกับไปต่อไม่ถูกกันเลยทีเดียว ฟูจิกิลอบถอนหายใจ ในใจก็คิดว่า 'จะคอยดูละกัน' เพียงแต่ไม่ได้พูดออกมา ฮาเคย์เดินนำหน้าไปสักก้าวสองก้าว แต่แล้วก็หยุดเดิน

        "หา?..แปลกชะมัด" ฮาเคย์เริ่มขมวดคิ้ว "ทำไมทางตรงนี้มันถึงไม่คุ้นเลยล่ะเนี่ย"

        โอเค จบเห่แล้ว!

        "นี่นาย...จำทางไม่ได้ใช่ไหมเนี่ย"

        ฟูจิกิถาม ถึงจะรู้คำตอบอยู่แล้วก็เถอะ

        "จำได้น่า! ขอเวลาฉันนึกแป๊บนึงเซ่!" 

        ฮาเคย์ตอบกลับพลางทำหน้าเคร่งเครียด แต่ในตอนนี้ฝ่ายที่เครียดกว่าคือฟูจิกิ มาริ และควีเน็ตต้า ที่ไม่รู้ว่าจะพึ่งพาเจ้าไกด์ไม่ได้เรื่องนี่ได้รึเปล่า ทั้งสามคนยกมือ(หรือขาหน้า หรือครีบ)ขึ้นมาก่ายหน้าผาก ลอบถอนหายใจกันอย่างพร้อมเพรียง

        'จำทางไม่ได้สินะ' มาริ

        'จำทางไม่ได้แหง' ฟูจิกิ

        'จำทางไม่ได้ก็บอกมาตรงๆ เถอะ' ควีเน็ตต้า

        เฮ้อ...ชาตินี้จะไปถึงมั้ยล่ะเนี่ย สถานที่เข้ารับการทดสอบใหญ่น่ะ

    .

    .

    .

        รอยแตกของโขดหิน กลายเป็นสถานที่หยั่งรากของต้นหญ้า มอสและเฟิร์นหลากหลายสายพันธ์ขึ้นปกคลุมย้อมทั้งถ้ำให้กลายเป็นสีเขียวขจี นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมผู้คนบนเกาะเมเลเมเล่ถึงเรียกถ้ำแห่งนี้ว่าถ้ำเขียวขจี

        ด้วยการนำทางสุดวิบากของสุดยอดไกด์(?)ฮาเคย์ ในที่สุดพวกฟูจิกิก็มาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ เด็กหนุ่มผมดำได้ขอเวลานอกจากราชาเกาะเพื่อที่จะพักหายใจ ฟื้นฟูพลังกายสักนิดก่อนที่จะเข้ารับการทดสอบ

        "...อา..หิวน้ำชะมัด…"

        รู้สึกว่าการจากไปของขวดน้ำขวดสุดท้ายจะเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิด เพราะในขณะนี้ฟูจิกิเริ่มหิวน้ำขึ้นมาซะแล้ว แต่ควีเน็ตต้าที่เป็นตัวการให้ฟูจิกิต้องสละน้ำขวดสุดท้ายไปก็ยังคงลอยคออยู่ในตู้ปลาสบายใจเฉิบ ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น

        "นี่ มาริ ไปตักน้ำแถวนี้มาให้หน่อยสิ"

        ฟูจิกิไหว้วาน

        "อ๋า นี่หิวน้ำจนเพ้อเลยเหรอโปจิ แถวนี้ไม่มีบ่อน้ำสักหน่อยนา" มาริพูดพลางดันแว่นที่จวนจะหลุดขึ้นมา "ถึงมีก็เป็นน้ำโคลนล่ะนะ กินไม่ได้หรอก"

        "จริงจัง? นี่ฉันหิวน้ำจริงๆ นะเนี่ย"

        ฟูจิกิโอดครวญ มาริมองสภาพเทรนเนอร์ของตนที่กำลังจะเหี่ยวเฉาเพราะหิวน้ำแล้วถอนหายใจ ให้ตายเถอะ นี่จะถึงเวลาทดสอบอยู่แล้วนะ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าหิวน้ำ แต่ทำไมต้องมาหิวในเวลาแบบนี้ด้วยเนี่ย 

        เด็กสาวในร่างเอมอนก้ากวาดสายตามองไปรอบๆ พยายามหาสิ่งที่จะมาดับกระหายให้กับคุณเทรนเนอร์ได้ แต่ไม่ว่าจะมองไปทางซ้าย หรือมองไปทางขวา มาริก็ไม่เห็นเลยว่าจะมีอะไรที่พอดื่มได้เลย

        งั้นถ้าธรรมชาติไม่มีของให้ ก็ต้องพึ่งคนด้วยกันเองแล้วล่ะ!

        มาริใช้ขาสั้นๆ เดินเตาะแตะไปหาฮาเคย์ที่กำลังพักดื่มน้ำอยู่ไม่ไกล ก่อนจะยกมือน้อยๆ ขึ้นสะกิดขาของเด็กหนุ่มผมน้ำตาล

        "ฮัลโหล หกโหล เจ็ดโหล ได้ยินมั้ยฮาเคย์"

        มาริเรียก

        "หา? อะไร?"

        ฮาเคย์หันมาตอบ กวาดสายตามองไปรอบๆ แต่ไม่เจอใครอยู่ในระดับสายตา เด็กหนุ่มก้มลงมองต่ำ จนกระทั่งพบเอมอนก้ากำลังดึงกางเกงของเขาเบาๆ

        "นี่แก..เอมอนก้าของหมอนั่นเหรอ?" ฮาเคย์ถาม มาริพยักหน้า "แล้วมาหาฉันทำไมล่ะ อยากได้อะไร?"

        "ขอน้ำหน่อยสิ พอดีมีคนจะเฉาตายน่ะ"

        "หา?"

        ทีแรกฮาเคย์ไม่เข้าใจสิ่งที่มาริพยายามจะบอก เพราะสิ่งที่เขาได้ยินมีเพียงคำว่า "เอมอน เอมอน" เท่านั้น เด็กสาวในร่างเอมอนก้าจึงต้องพยายามงัดทักษะภาษาใบ้ที่ตัวเองมีอยู่เพียงน้อยนิดออกมาใช้ ด้วยการชี้ไปที่ขวดน้ำในมือฮาเคย์แล้วทำท่าคล้ายปลาที่กำลังจะขาดน้ำตาย

        "ฮะ? น้ำ..ปลาดิ้นแด่วๆ อะไรของแกเนี่ย อยากได้น้ำปลา?"

        ฮาเคย์พยายามตีความ

        'น้ำปลาบ้านนายสิ -_-'

        ไหงตีความไปทางนั้นได้ล่ะ

        มาริรู้สึกเพลียกับทักษะการตีความของฮาเคย์ ให้ตายเถอะ น้ำกับปลาดิ้นแด่วๆ ทำไมถึงกลายเป็นน้ำปลาได้เนี่ย และที่สำคัญ โลกโปเกมอนมันมีน้ำปลาด้วยเรอะ!?

        เดี๋ยวสิ นั่นไม่น่าใช่ประเด็นสำคัญ..

        ฟูจิกิกำลังจะเฉาตายอยู่แล้วนั่นน่ะ! ต้องรีบหาน้ำไปให้แล้ว!!

        มาริชี้ไปที่ขวดน้ำของฮาเคย์ ก่อนจะทำท่ายืนตรง เชิดหน้าขึ้น มือซ้ายเท้าสะเอว มือขวาทำท่าเหมือนกรอกน้ำเข้าปากน้อยๆ ราวกับจะเลียนแบบท่าโพสของพรีเซนเตอร์ในโฆษณาเครื่องดื่มที่พบเห็นได้ทั่วไปในโลกที่เธอจากมา

        ว่าแต่...ฮาเคย์จะเข้าใจรึเปล่านะ?

        "น้ำของฉัน? ยกขึ้นกรอกปาก?" ฮาเคย์ทำการวิเคราะห์ ก่อนจะเหลือบมองไปทางฟูจิกิที่กำลังจะเฉาตาย "อ้อ หมอนั่นอยากได้น้ำสินะ"

        "อาฮะ เข้าใจได้สักทีนะ" มาริพยักหน้า

        "เฮอะ! น่าสมเพชจริงๆ เลยนะ สภาพแบบนั้น" ฮาเคย์กล่าว "แต่เอาเถอะ ท่านฮาเคย์ผู้มีจิตใจงดงามและโอบอ้อมอารีคนนี้จะแบ่งน้ำให้เอง เอ้า เอาไป"

        พูดจบก็โยนขวดน้ำให้ มาริรีบรับขวดน้ำแล้วหันหน้ากลับไปก่อนที่อีกฝ่ายจะเห็นเธอหลุดขำออกมา อะไรกันล่ะนั่น 'ท่านฮาเคย์ผู้มีจิตใจงดงามและโอบอ้อมอารี' พูดไปก็ทำหน้าได้น่าหมั่นไส้ชะมัด ไอ้หมอนี่มันอะไรกันเนี่ย

        'ช่างเถอะ รีบเอาน้ำไปให้ฟูจิกิก่อนดีกว่า'

        มาริคิด

        เด็กสาวในร่างเอมอนก้าเดินเตาะแตะกลับไปหาคุณเทรนเนอร์ที่ใกล้จะเฉาตายเต็มที มาริยกมือขึ้นสะกิดฟูจิกิ พลางใช้มืออีกข้างชูขวดน้ำให้อีกฝ่ายเห็นเต็มๆ ตา

        "โปจิกิ น้ำมาแล้วนะ บ๊อกๆๆ ได้เวลากินน้ำแล้วโปจิ"

        "ก็บอกว่าฉันไม่ใช่หมาไง" 

        ฟูจิกิตอบกลับอย่างอ่อนแรง ก่อนจะรับน้ำจากมาริมาดื่ม เด็กสาวเงยหน้ามองคุณเทรนเนอร์ที่กินน้ำเข้าไปหลายอึก ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

        "เน่ โปจิกิ"

        "?"

        "คือว่า นั่นน่ะเป็นน้ำของฮาเคย์นะ"

        "..?"

        ฟูจิกิมองมาริด้วยหางตา ราวกับจะถามว่า 'แล้วไง?'

        "แล้วโปจิกิก็ดื่มต่อแบบโดนปากเลยเนี่ย ไม่ใช่ว่ามันคือจูบทางอ้อมเหร--"

        พรู่ดดด!!!

        มาริยังพูดไม่ทันจบ ฟูจิกิก็พ่นน้ำออกมาราวกับเซนิกาเมะใช้ปืนฉีดน้ำ น้ำที่ฟูจิกิพ่นออกมาลงไปปนกับน้ำในตู้ปลาของควีเน็ตต้า ทำเอาเจ้าตัวออกอาการรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด

        "อี๋! สกปรกชะมัด! เปลี่ยนน้ำให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!"

        "แค่กๆๆ!" ฟูจิกิสำลัก "ท..ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้เล่ามาริ!?"

        "อ้าว ก็คิดว่าน่าจะรู้อยู่แล้วนี่นา"

        "อย่ามาทำเป็นเมินฉันนะ!"

        "ข..ขอโทษคร้าบควีนซัง!!!"

        อ่า..กลายเป็นเรื่องวุ่นวายจนได้สิน่า

        ดูเหมือนว่าพวกฟูจิกิจะลืมไปซะแล้วว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่กันตามลำพัง ฮาระกับฮาเคย์เฝ้ามองสามสหายอยู่ห่างๆ พลางคิดในใจว่า 'ลืมพวกเราไปแล้วสินะ' เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูเวลา ก่อนจะยื่นให้อาจารย์ของตนดู

        "คุณฮาระ ผมว่าถ้าพวกเราไม่เริ่มทดสอบกันตอนนี้ เย็นนี้พวกเราอาจจะไม่ได้กลับบ้านก็ได้นะครับ"

        ฮาเคย์กล่าว 

        "นั่นสินะ" ฮาระพยักหน้า "ฟูจิกิคุงสินะ? มาตรงนี้สิ เดี๋ยวฉันจะอธิบายกฎให้ฟัง"

        ราชาเกาะเรียกเด็กหนุ่มที่กำลังก้มกราบตู้ปลาราวกับเป็นลัทธิบูชาคอยคิง ฟูจิกิรีบหยุดการกระทำของตนทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปหา

        "กฎของการทดสอบใหญ่ของฉันก็ง่ายๆ" ฮาระเว้นช่วงไปพักหนึ่ง "ก็แค่เดินเข้าไปในใจกลางของถ้ำเขียวขจี แล้วก็หยิบ Z-crystal ออกมาแค่นั้นเอง เป็นไง ฟังดูไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ"

        พูดจบก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย 

        'แสดงว่ามันไม่ได้มีแค่นั้นสินะ'

        สามสหายจากต่างโลกคิดในใจ

        "อ้อใช่ วันนี้ฮาเคย์จะเป็นผู้คุมสอบให้เธอเอง ยังไงก็สนิทกันเข้าไว้นะ"

        "เอ๊ะ?"

        ราชาเกาะพูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำเอาทุกคนพร้อมใจกันร้องเอ๊ะขึ้นมาโดยมิได้นัดหมาย เด็กหนุ่มผมน้ำตาลที่จู่ๆ ก็โดนแต่งตั้งให้เป็นผู้คุมสอบแทบจะพูดออกมาไม่เป็นคำ พอตั้งสติได้ก็รีบอ้าปากถามทันที

        "คุณฮาระ! นี่เอาจริง--"

        แต่ก่อนที่จะได้ถามก็โดนตัดบทเสียก่อน

        "ถ้าอย่างนั้นก็ เริ่มการทดสอบใหญ่ได้!"

        "คุณฮาร๊า!!!!"

        เสียงประกาศเริ่มการทดสอบใหญ่(ตามด้วยเสียงร้องของผู้คุมสอบจำเป็นอย่างฮาเคย์)เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการทดสอบใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ในเวลานั้นเอง ในหัวของเด็กหนุ่มผมดำก็เริ่มเกิดข้อสงสัยขึ้นมา

        'นี่แต่งตั้งผู้คุมสอบตามใจแบบนี้เลยก็ได้เหรอ!?'

        แต่ก่อนที่จะได้ถามออกไป เขากับฮาเคย์ก็โดนตาลุงราชาเกาะดันเข้าไปในถ้ำซะแล้ว…

    .

    .

    .

    [โปรดติดตามตอนต่อไป]

    -*-*-*-*-*-*-*-

    กลับมาแล้วค่า><

    ในที่สุดก็หาเวลาอัพได้แล้ว แต่ว่าตอนที่ 4 ดันย้าวยาว พิมพ์ไปตั้ง 20,000+ ตัวอักษรแล้วก็ยังไม่จบ ก็เลยตั้งตัดตอนไว้ก่อนน่ะค่ะ เดี๋ยวจะยาวเกินไปจนน่าเบื่อ

    โอ๊ะ! แต่ว่าใกล้จะจบตอนที่ 4 แล้วล่ะค่ะ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง จะพยายามแต่งให้จบภายในวันพรุ่งนี้ให้ได้เลยค่ะ!

    แล้วก็ๆ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ แต่ตอนนี้กลับมาแล้วล่ะค่ะ ขอฝากตัวอีกครั้งนะคะทุกคน ><

    แล้วก็ๆ (อีกแล้วเรอะ!?) ถ้าหากว่ามีข้อแนะนำหรือคำติชมล่ะก็จัดมาได้เลยค่ะ เพื่อพัฒนาการของไรท์เตอร์! >w0

    สำหรับวันนี้ก็ บ๊ะบายค่า~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×