คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 3 เจอคุณเทรนเนอร์แล้ว เป้าหมายต่อไปคือเกาะเมเลเมเล่!
ตอนที่ 3 เจอคุณเทรนเนอร์แล้ว เป้าหมายต่อไปคือเกาะเมเลเมเล่!
[พ็อคเก็ตมอนสเตอร์ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าโปเกมอน เป็นสิ่งมีชีวิตปริศนาที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้
มอนสเตอร์บอล เป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทำให้ผู้คนพกพาโปเกมอนไปที่ไหนก็ได้อย่างสะดวกสบาย แม้ว่าโปเกมอนตัวนั้นจะตัวใหญ่เท่าโลกใบนี้ก็สามารถพกใส่มอนสเตอร์บอลไว้ได้ ขอแค่มีมัน จะพกโปเกมอนนับร้อยตัวเดินไปไหนมาไหนก็ทำได้อย่างง่ายดาย
แล้วถ้าหากโปเกมอนไม่ยอมเข้าไปอยู่ในมอนสเตอร์บอลล่ะ? จะพาไปไหนมาไหนด้วยได้รึเปล่า?]
"เพื่อนร่วมชะตากรรมเรอะ!?X2"
มนุษย์หนึ่งคนและเอมอนก้าหนึ่ง..เอ่อ..คน?(หรือตัว? ไม่แน่ใจว่าควรจะใช้ลักษณะนามแบบไหนดีเพราะภายนอกเป็นโปเกมอน แต่ภายในก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่นี่นา//ไรท์)พูดขึ้นมาพร้อมกันพลางชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยใบหน้าเหวอๆ ต่างฝ่ายต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน ทางด้านเด็กหนุ่มก็ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าตัวที่พุ่งดิ่งลงมาพร้อมกระแสไฟฟ้านี่จะเป็นพวกเดียวกันกับเขา แน่นอนว่ามาริก็ไม่อยากเชื่อเช่นกันว่ามนุษย์ที่เธอเจอหลังจากที่ดิ่งพสุธาลงมานี่จะเป็นพวกเดียวกันกับเธอ
เพื่อนร่วมชะตากรรมนี่มันหาเจอง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ!?
คนที่สองแล้วนะ
นี่จะเจอเพื่อนเพิ่มทุกครั้งที่ร่วงลงมาเลยรึไงกัน
"เอ่อ..หวัดดี?"
"ว..หวัดไม่ดี?"
ต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดกับอีกฝ่ายยังไงดี กลายเป็นว่าเริ่มต้นด้วยการทักทายโดยที่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่แน่ใจว่าในสถานการณ์แบบนี้ควรจะพูดรึเปล่า
แล้ว…
เอาไงดี?
"........."
ความเงียบเริ่มเข้าครอบงำเมื่อไม่มีใครเปิดประเด็น เงียบเสียจนได้ยินเสียงหายใจ ถ้ายังคงเงียบกับอยู่แบบนี้เนื้อเรื่องคงไม่มีวันเดินต่อ
และถ้าเนื้อเรื่องไม่เดินต่อ เรื่องนี้ก็คงจบเพียงเท่านี้
เอ..แต่ถ้าไม่เดินต่อ เดินแตนแทนก็ได้นี่นา
เดินผึ้งก็ได้
……
อื้ม ไม่ฮาสินะ?
งั้นกลับมาตั้งใจบรรยายดีๆ ก็ได้
"......."
ยังคงเงียบอยู่
ถ้ายังคงเงียบกันแบบนี้อยู่ก็คงช่วยไม่ได้ น่าเสียดายจริงๆ แต่เนื้อเรื่องคงไม่อาจดำเนินต่อได้และจบลงเพียงเท่านี้
10 Days in Pokemon world
จบ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ล้อเล่นน่า
จบก็บ้าแล้ว
นี่ยังไม่จบตอนที่ 3 เลยนะ
จะรีบไปไหม?
หวังว่าจะไม่มีคนเชื่อแล้วกดออกไปจริงๆ นะ
กลับเข้าสู่เนื้อเรื่องกันเถอะ
"อ..ฉันชื่อโฮชินามิ มาริ อายุ 14 ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
มาริเริ่มเปิดด้วยการแนะนำตัว พอเห็นว่าอีกฝ่ายแนะนำตัว เด็กหนุ่มผมดำจึงแนะนำตัวบ้าง
"ชินาอิ ฟูจิกิ อายุ 14"
เขาพูดแค่นั้น แล้วก็เงียบต่อ
อื้ม
จะต่อบทสนทนายังไงล่ะทีนี้
"อ่า..ฟูจิซัง"
"ไม่ใช่ฟูจิ ฟูจิกิต่างหาก ไม่ต้องมีคำว่าซังด้วย"
เขาพูดขึ้นเมื่อได้ยินมาริเรียกเขาว่า'ฟูจิซัง' ไหงชื่อของเขาถึงไปคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิของญี่ปุ่นได้เล่า แล้วประโยคเมื่อกี้ก็ฟังดูคล้ายตัวละครในอนิเมะบางเรื่องเสียอย่างนั้น(เผื่อใครนึกไม่ออก นึกถึงกินทามะเข้าไว้=^=//ไรท์(ไม่ใช่สึระ คาสึระต่างหาก)) อีกอย่าง ฟูจิซังกับฟูจิกิก็สามพยางค์เท่ากัน ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยเรียกเขาว่าฟูจิกิเฉยๆ ทีเถอะ
"โปจิซั-"
"ไหงมันเพี้ยนไปเป็นชื่อหมาได้ฟระ!?"
แค่ฟูจิซังยังพอรับได้ แล้วไหงมัยเพี้ยนไปเป็นชื่อหมาข้างบ้านได้ล่ะเนี่ย!?
คนบ้าอะไรชื่อโปจิกัน!?
"อ๊ะ! ถึงจะโวยวายแต่ก็ไม่ค้านล่ะ งั้นก็เรียกโปจิซังได้สินะ?"
"ไม่ได้โว้ยยยย!!!"
ฟูจิกิค้านสุดใจ
แต่โดยที่ไม่ทันรู้ตัว ทั้งคู่ก็สามารถพูดคุยกันได้อย่างปกติแล้ว
ได้ไงล่ะเนี่ย?
ช่างเถอะ แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ จะได้คุยกันง่ายหน่อย
"เออ มีอะไรที่อยากถามเธอหน่อย"ฟูจิกิพูดขึ้น"ทำไมก่อนหน้านี้เธอถึงร่วงลงมาจากฟ้าล่ะ? แถมมากับสายฟ้าด้วย เกิดอะไรขึ้น?"
"อ่า..จะว่าไงดีล่ะ"
มาริพยายามคิดหาคำตอบที่ฟังดูดีกว่าการที่บินๆ อยู่แล้วดันเกิดสงสัยว่าตัวเองจะปล่อยไฟฟ้าได้รึเปล่า ก็เลยเผลอเอามือไปถูแก้มเห็นกระแสไฟฟ้าแลบแปล๊บๆ ด้วยความตกใจเลยเผลอหุบปีก สุดท้ายก็ร่วงลงมาพร้อมกระแสไฟฟ้า
"คือว่า..มัน..เอ่อ.."มาริกำลังครุ่นคิด แต่เห็นฟูจิกิกำลังทำท่าแปลกๆ อยู่จึงเอ่ยถาม"ทำอะไรน่ะโปจิกิ?"
"ฟูจิกิต่างหาก นี่เธอหูเพี้ยนรึไงกัน"ฟูจิกิพูด แต่แล้วเขาก็หันมามองมาริอย่างสงสัย"หมายความว่าไง เธอมองไม่เห็นเจ้านี่งั้นเหรอ?"
"เจ้านี่ที่ว่าคือเจ้าไหนล่ะ? ไปเป็นหนี้ใครงั้นเหรอ?"
"ไม่ใช่หนี้แบบนั้น นี่ น-อี-นี-ไม้เอก-นี่!"
"อะไรนะ? เจ้าที่?"
"ไม่ใช่แล้ว เจ้าที่อะไรจะมาอยู่ในโลกโปเกมอนกัน"
"ไม่รู้อะ แต่ถ้าเจ้าถิ่นล่ะก็มีอยู่นะ"
"อืม..พูดถึงเจ้าที่ พวกเทพคาปูก็เข้าข่ายอยู่เหมือนกัน"
"อ้อ ใช่ๆ โคเคโค เทเทฟูกับเรฮิเรก็ดูเป็นเจ้าที่อยู่หรอก แต่บูลูลูนี่มันแปลกๆ แฮะ อารมณ์เหมือนวิญญาณวัวสิงทุ่งนา"
"อ่า ก็ใช่แฮะ วิญญาณวัวติดที่ขี้เซา"
"แล้วสรุปเจ้านี่ที่ว่าคือเจ้าไหนอะ?"
"เอ่อ..นั่นสิ หมายถึงเจ้าไหนนะ?"
"อ้าว!"
มาริถึงกับร้องอ้าวออกมา อะไรของเขากันเนี่ย!?
"...อ้อ! ใช่ ฉันหมายถึงเจ้าจออะไรที่มันขึ้นอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้นี่ไง เธอไม่เห็น?"
ฟูจิกิชี้นิ้วไปยังจุดที่ไม่มีอะไรเลย มาริพยายามเพ่งมอง แต่ก็ไม่เห็นจออะไรที่ว่าเลยแม้แต่นิดเดียว
"ไหนอะ?"
"อ่า...แป๊บนะ เหมือนจะเห็นปุ่มแชร์อยู่แถวๆ นี้ อืม.."
ติ๊ง!
"เหวอ!?"
มาริร้องลั่นด้วยความตกใจ หลังจากที่ฟูจิกิใช้นิ้วจิ้มๆ อากาศ สักพักก็มีจอสีดำที่มีตัวหนังสือสีขาวปรากฏขึ้นข้างหน้าเธอ
"อ...อะไรเนี่ย?"
"ไม่รู้ เหมือนพวกเกมออนไลน์จะเรียกเจ้าจอนี่ว่า Status board ล่ะมั้ง อย่างน้อยก็คล้ายๆ"
"อ่า…"
มาริกวาดสายตามองจอ แต่แล้วเธอก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย(ว่าแต่เอมอนก้านี่มีคิ้วรึเปล่านะ? อืม ช่างมันเถอะ//ไรท์)
"เอ๊ะ? ไหงท่ากับ Stats แล้วก็คุณสมบัติมันแปลกๆ อะ"
มาริชี้ไปตรงท่าไม้ตายที่มีคำว่า 'Volt tackle(โวลต์เทคเกอร์)' เขียนไว้อย่างชัดเจน คนปกติอาจจะไม่รู้ว่ามันแปลกตรงไหน แต่ถ้าเป็นคนที่มีความรู้เรื่องโปเกมอนในระดับหนึ่งจะรับรู้ได้ทันทีว่ามันแปลก
โวลต์เทคเกอร์ เป็นท่าที่มีเฉพาะหนูตระกูลจู(พิจู พิคาชู ไรจู)เท่านั้นที่สามารถใช้ได้
แต่ทำไมมาริที่เป็นเอมอนก้าถึงสามารถใช้โวลต์เทคเกอร์ได้กันล่ะ?
นี่ยังไม่นับเรื่องความสามารถนะ เอมอนก้าที่ไหนมีคุณสมบัติหัวหิน(Rock head)กัน
"ฉันก็สงสัยอยู่เหมือนกัน"ฟูจิกิพูดพลางกอดอก"ตอนฉันส่องพวกตัวอื่นๆ มันก็ดูปกติดี มีเธอคนเดียวนี่แหละที่แปลกประหลาดกว่าชาวบ้าน"
"อืม..ก็ประหลาดจริงๆ นั่นแหละนะ"มาริพูด ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้"จะว่าไป โปจิกิ ทำไมถึงถูกเดคากูสวิ่งไล่ล่ะ? ไม่สู้กลับหน่อยเหรอ?"
มาริถาม เธอรู้ว่าเดคากูสมันกากขนาดไหน จัดการได้ง่ายๆ อยู่แล้ว ถ้าเป็นคนที่มีโปเกมอนอยู่กับตัวล่ะก็ น่าจะพอจัดการมันได้อยู่
แล้วทำไมฟูจิกิถึงโดนมันไล่ได้ล่ะ?
"ไม่มีโปเกมอนสักตัว จะไปสู้พวกมันได้ยังไงเล่า"
"หา!?"
มาริถึงกับร้อง'หา!?'ออกมา เธอคิดว่าฟูจิกิพอจะมีโปเกมอนอยู่บ้างสักตัวสองตัวซะอีก ถึงฟูจิกิจะมาจากโลกเดียวกันกับเธอก็เถอะ แต่เขาก็ดูมีความรู้เรื่องโปเกมอนอยู่บ้าง อย่างน้อยก็ควรจะมีโปเกมอนติดตัวมาบ้างสักตัวสองตัวสิ ซื้อบอลมาปาใส่หัวสักสิบตัว อย่างน้อยก็ต้องมีตัวที่จับได้สักตัวล่ะน่า
"ไม่ใช่ว่าไม่ได้ลองจับดูหรอกนะ แต่ลองแล้วมันจับไม่ได้ต่างหาก บอลที่ฉันขว้างใส่พวกโปเกมอนป่าไม่ยอมทำงานเลยสักลูก ก็เลยไปซื้อยาไล่โปเกมอนมาฉีด เดินจากโปเกมอนเซ็นเตอร์ของหมู่บ้านนกทะเล(Seafolk village)จนมาถึงนี่ แล้วยาก็หมดฤทธิ์พอดี สุดท้ายก็โดนพวกนั้นวิ่งไล่ แย่จริง"
ฟูจิกิบ่นเสียยาวเหยียด
"เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ว่ายาไล่โปเกมอนจะทำการขับไล่โปเกมอนที่เลเวลน้อยกว่าโปเกมอนที่อยู่ตัวแรกสุดของทีมไม่ใช่หรอกเหรอ? แต่โปจิกิไม่มีโปเกมอนเลยสักตัวนี่นา"
มาริพูดขึ้นมาพลางเอียงคอด้วยความสงสัย
"ไม่รู้ล่ะ เอาเป็นว่ามันใช้ได้ละกัน"
ฟูจิกิบอกปัดไป จากนั้นเขาก็หันมามองเด็กสาวในร่างโปเกมอน
"...."
"...."
"....."
"....."
"มองอะไรน่ะโปจิกิ?"
"โทษที พอดีว่ามีเรื่องที่สงสัยนิดหน่อย"
เด็กหนุ่มหยิบมอนสเตอร์บอลในกระเป๋าขึ้นมา มาริเห็นดังนั้นก็เริ่มหน้าซีด เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นมาบนใบหน้า
"อ..เอ๋? จะทำอะไรเหรอ0^0;"
"ก็แบบนี้ไง"
"อ๊ะ!"!
ฟูจิกินำมอนสเตอร์บอลมาสัมผัสกับร่างกระรอกบิน มาริถูกลูกบอลกลมๆ ขนาดเท่าฝ่ามือดูดเข้าไปข้างในภายในพริบตา
"หวา!!!?"
ฟุ่บ!
1…
2…
มอนสเตอร์บอลกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น ฟูจิกิมองมันอย่างตั้งใจ แทบจะไม่กะพริบตา
3…
.
.
.
โพละ!!
มอนสเตอร์บอลแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ปรากฏร่างของกระรอกบินที่แผ่ไอสังหารออกมา
"เป็นไง ข้างในมอนสเตอร์บอลเป็นยังไงบ้าง"
ฟูจิกิถามพลางหัวเราะ แต่พอได้เห็นใบหน้าของเด็กสาวในร่างเอมอนก้า เขาก็สัมผัสได้ว่าความ_ิบหายกำลังจะมาเยือน
"ฟู...จิ...กิ…"
มาริเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ฟูจิกิก็รู้สึกได้ว่ามันช่างเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวเหลือเกิน และที่ทำให้รู้สึกน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมก็คือการที่มาริเรียกชื่อเขาอย่างถูกต้อง ชัดถ้อยชัดคำ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังเรียกชื่อเขาไม่ถูกอยู่เลยแท้ๆ
"อ่า..โทษที ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บ!"
"ไปตายซ้า!!"
เปรี้ยง!!!!
"อ๊ากกก!!!"
ในช่วงบ่ายของวัน ได้มีฟ้าผ่าลงมา ณ ใจกลางป่าโพนิอย่างรุนแรง
ผู้คนที่ได้เห็นสายฟ้านั้นจากที่ไกลๆ ได้เข้าใจผิดไปไกลว่า คาปูโคเคโค เทพผู้พิทักษ์แห่งเกาะเมเลเมเล่ได้เดินทางมาที่เกาะโพนิ แต่มีคนในเกาะไปทำให้คาปูโคเคโคพิโรธ จึงทำการตักเตือนด้วยฟ้าผ่าอย่างรุนแรง ผู้คนบนเกาะโพนิพากันตื่นตระหนก รีบจัดหาเครื่องเซ่นเพื่อไปขอขมาคาปูโคเคโคที่เกาะเมเลเมเล่เป็นการใหญ่
หารู้ไม่ว่าสาเหตุของฟ้าผ่านั้น ก็แค่เอมอนก้าที่โกรธจัด จนระเบิดพลังสายฟ้าใส่เทรนเนอร์อย่างเต็มแรงแค่นั้นเอง
.
.
.
"หวา แรงเกินไปสินะเนี่ย"
มาริก้มลงมองผลงานของตน หลุมบ่อขนาดใหญ่เบื้องล่างนี้ออกจะดูโอเวอร์ไปหน่อย แต่มันก็เป็นความจริงที่ว่านี่เป็นฝีมือของเธอเอง ไม่ไกลนักมีร่างของฟูจิกินอนหมดสภาพอยู่ ในความเป็นจริง ไม่มีทางที่มนุษย์ธรรมดาทั่วไปจะมีชีวิตรอดหลังจากรับสายฟ้าขนาดนี้เข้าไปเต็มๆ หรอก
แต่ฟูจิกิก็ยังคงมีชีวิตอยู่
มั้งนะ
"นี่ๆ โปจิกิ"มาริใช้นิ้วมือน้อยๆ จิ้มเอวของเด็กหนุ่ม"ตายยังเนี่ย?"
"อุ..อูย…"ฟูจิกิส่งเสียงร้องโอดโอย"ยังไม่ตายโว้ย"
"ยอดเลยแฮะ โดนขนาดนั้นแล้วยังมีชีวิตอยู่เนี่ย"มาริมองเด็กหนุ่มที่รอดมาได้หลังจากรับสายฟ้าแบบเต็มกำลังของเธอเข้าไปอย่างประหลาดใจ"เข้าใจแล้วว่าทำไมซาโตชิถึงทนสายฟ้าของพิคาชูได้ มนุษย์โลกนี้นี่ถึกทนกันจริงๆ"
"ทนได้..แต่มันเจ็บเฟ้ย"ฟูจิกิพยายามยันตัวลุกขึ้น"ชาไปทั้งตัวเลยเนี่ย"
"อ่า โทษทีละกัน แต่โปจิกิแกล้งฉันก่อนนี่นา"
"แล้วสรุปในมอนสเตอร์บอลมันเป็นยังไง?"
"อ่า..อย่าพูดถึงมันเลยดีกว่า"
มาริพูดปัดไป ฟูจิกิได้แต่นึกสงสัยหนักกว่าเดิมว่าข้างในนั้นมันมีอะไรอยู่กันแน่ แต่ถ้ายังคงถามเซ้าซี้ต่อไปคงไม่ค่อยปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินเท่าไรนัก เพราะงั้นไม่ดีกว่า
"อ้อ จริงสิ โปจิกิก็มีภารกิจที่ต้องตามหาเพื่อนร่วมชะตากรรมเหมือนฉันใช่รึเปล่า?"
มาริถาม ถึงจะพอเดาได้ก็เถอะ แต่เธอก็อยากจะถามเพื่อความแน่ใจ
"ก็กำลังจะไปตามหาอยู่นี่ไงเล่า"
"ฉันรู้ที่อยู่ของเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคนหนึ่งล่ะ"
"ว่าไงนะ!?"
พอมาริพูด ฟูจิกิก็มีท่าทีตกใจอย่างเห็นได้ชัด
"ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะ!? อยู่ที่ไหน!? เป็นตัวอะไร!? ผู้ชายหรือผู้หญิง!?"
ฟูจิกิรัวคำถามใส่
"หวา ใจเย็นๆ สิโปจิกิ"มาริพูดพลางนั่งนึก"อ่า..ควีนซังอยู่ที่ทุ่งดอกไม้โพนิน่ะ เป็นผู้หญิง แล้วก็เป็น..เอ่อ…"
"เป็นอะไร รีบๆ พูดมาสิ"
"คอยคิง..น่ะ"
"..........."
ฟูจิกิสตั้นไปราวๆ สามวิ
"หา?"
.
.
.
ณ ที่ราบโพนิ
สถานที่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างป่าโพนิและสวนดอกไม้โพนิ ร่างของมนุษย์หนึ่งคนและเอมอนก้าหนึ่ง..เอ่อ..ช่างมันเถอะ ฟูจิกิและมาริเดินทางได้ราบลื่นกว่าที่คิด ไม่ต้องกลัวว่าจะมีตัวอะไรมาไล่งาบ เพราะในตอนนี้มาริเริ่มเรียนรู้วิธีการปล่อยพลังแบบโปเกมอนแล้ว แถมพลังที่ปล่อยออกมายังรุนแรงมากๆ ซะด้วย จะคาเอ็นจิชิหรือตัวอะไรก็เข้ามาเลย เดี๋ยวจะช็อตซะให้เข็ด
"บินอยู่แบบนั้นไม่เหนื่อยบ้างรึไง?"
ฟูจิกิเอ่ยถาม เขาค่อนข้างแปลกใจที่มาริเลือกที่จะไม่อยู่ในบอลหรือเกาะไหล่ของเขา แต่เลือกที่จะบินไปแทนซะอย่างนั้น
"ก็เหนื่อยน้อยกว่าเดินอะนะ"
"เกาะไหล่ฉันไปก็ได้นี่"
"ไม่ล่ะ ขอผ่านดีกว่า"
"ทำไมล่ะ?"
"อืม..ก็นะ เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวนี่นา ไปแตะเนื้อต้องตัวผู้ชายแบบนั้นคงดูไม่งามเท่าไหร่"
"คาแรกเตอร์เธอดูไม่ใช่เด็กผู้หญิงรักนวลสงวนตัวเลยสักนิด อีกอย่าง ตอนนี้เธอเป็นโปเกมอนนี่"
"ภายนอกเป็นโปเกมอน แต่ภายในก็ยังเป็นเด็กผู้หญิงอยู่นะ"มาริพูดพลางร่อนต่อ ทีแรกเธอกะว่าจะกอดอกสักหน่อย แต่เพราะเคยร่วงเพราะหุบปีกแล้วครั้งหนึ่งก็เลยคิดว่าไม่ดีกว่า หลังจากที่ร่อนไปมารอบๆ ฟูจิกิ เธอก็สังเกตเห็นตัวเลขอะไรบางอย่างปรากฏอยู่บนจอภาพ"โปจิ ตัวเลขนั่นมันอะไรน่ะ?"
มาริชี้ไปยังข้อความและตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนจอ ฟูจิกิเริ่มกุมขมับ ถ้าเรียกว่าโปจิกิก็ยังพอรับได้บ้าง แต่โปจินี่มันชื่อหมาชัดๆ เลยไม่ใช่รึไง!?
"ขอเถอะ จะเรียกชื่อฉันยังไงก็เรื่องของเธอ แต่อย่าเรียกฉันว่าโปจิ คนนะไม่ใช่หมา"ฟูจิกิพูดขึ้น ก่อนจะตอบข้อสงสัยของเด็กสาว"อืม..ตัวเลขพวกนี้น่ะเหรอ จำนวนเพื่อนร่วมชะตากรรมบนเกาะต่างๆ น่ะ แต่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจริงรึเปล่า"
"เห~"มาริร่อนมาใกล้ฟูจิกิมากขึ้น"อืม..เมเลเมเล่ 3 คน อาคาล่า 2 คน อูลาอูล่า 2 คน แล้วก็โพนิ 3...อ้าว ของเกาะโพนิก็ครบแล้วนี่!"
มาริลองนั่งนึกดูว่าบนเกาะโพนิมีเพื่อนร่วมชะตากรรมคนไหนบ้าง ควีเน็ตต้า ฟูจิกิ นับรวมเธอด้วยก็ครบสามคนพอดี
"ถึงจะยังไม่ชัวร์ แต่ถ้าเจอควีนซังอะไรที่ว่านั่นแล้วก็ลองไปเกาะอื่นดูบ้างดีกว่า"ฟูจิกิพูด สักพักเขาก็เลือกได้แล้วว่าอยากจะไปเกาะอะไร"ไปเมเลเมเล่กัน"
"อ๋า แต่ฉันอยากไปอาคาล่าอะ"
"เธอจะไปทำอะไรที่อาคาล่า มีอะไรให้ดูรึไง?"
"ไปดูภูเขาไฟเวล่าไง"
"เพื่ออะไรเล่า!? ถ้าแค่ภูเขาไฟก็ไปดูภูเขาไฟฟูจิที่โลกเดิมของพวกเราก็ได้นี่ อีกอย่าง ยังไงก็ต้องไปทุกเกาะอยู่แล้ว อาคาล่าไว้ทีหลังก็ได้!"
"เมเลเมเล่ก็ไว้ทีหลังก็ได้เหมือนกันนั่นแหละน่า!"
"เมเลเมเล่!"
"อาคาล่า!"
อืม..ดูเหมือนว่าจะตกลงกันเรื่องสถานที่ที่จะไปต่อไม่ได้แฮะ
แล้วแบบนี้จะตัดสินกันยังไงดีล่ะ?
"มาตัดสินด้วยการดวลอันศักดิ์สิทธิ์กัน! ใครชนะได้เลือกสถานที่ไปต่อ!"
"ต้องการแบบนั้นอยู่แล้วเฟ้ย!"
จู่ๆ บรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมา ในเมื่อตกลงกันอย่างสันติไม่ได้ ทั้งคู่จึงตั้งใจจะตัดสินกันด้วย'การดวลอันศักดิ์สิทธิ์'ที่ตัดสินผลแพ้ชนะได้อย่างยุติธรรมที่สุด การดวลที่ไม่มีทางโกงกันได้
และ'การดวลอันศักดิ์สิทธิ์ที่ว่า ก็คือ…
"เป่า..ยิ้ง……...ฉุบ!"
ทั้งคู่ออกพร้อมกัน ไม่มีคลาดเคลื่อนแม้เพียงเสี้ยววินาที มือของฟูจิกิกำแน่นเป็นสัญลักษณ์ของค้อน ส่วนมือเล็กๆ ของมาริชูนิ้วชีและนิ้วกลางออกมาเป็นสัญลักษณ์ของกรรไกร ตัดสินผลแพ้ชนะได้ในทันที
"กรรไกร!"
"ค้อน! ฉันชนะ!"
"อะไรกัน!?"
มาริมองฟูจิกิด้วยความตกตะลึง ทั้งๆ ที่เธอมั่นใจในการเป่ายิ้งฉุบของตัวเองมากทีเดียว แต่ก็ไม่อาจเอาชนะชินาอิ ฟูจิกิ เด็กหนุ่มผมดำตรงหน้านี้ได้
ยังไงซะก็ตกลงกันแล้ว สิทธิ์ในการเลือกสถานที่ที่จะไปในครั้งหน้าจึงตกเป็นของฟูจิกิ
"งั้นเป้าหมายต่อไปของพวกเราก็คือเกาะเมเลเมเล่ เข้าใจนะ?"
"อืม..ถึงจะอยากไปอาคาล่ามากกว่าก็เถอะ แต่โปจิชนะนี่นา ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ"
"ก็บอกว่าอย่าเรียกว่าโปจิไงเล่า!"
"อ๊ะ! ถึงทุ่งดอกไม้โพนิแล้วล่ะ!"
มัวแต่พูดคุยกันเพลินจนไม่รู้ตัวเลยว่ามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้จะเรียกว่าเป็นสวนดอกไม้ แต่มันก็ค่อนข้างผิดจากจินตนาการของใครหลายคนเลยทีเดียว สถานที่แห่งนี้ดูคล้ายกับฉากในหนังสยองขวัญเสียมากกว่า หมอกหนาทึบซะจนมองอะไรแทบไม่เห็น มีดอกไม้สีม่วงประดับอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก หากเข้าไปล่ะก็ได้หลงทางแน่นอน ถึงมันจะไม่ค่อยเป็นปัญหาสำหรับมาริเพราะเธอบินขึ้นไปดูทางจากข้างบนได้ก็เถอะ แต่สำหรับฟูจิกิก็คงเดินทางลำบากหน่อย
"ที่นี่มันสวนดอกไม้ตรงไหนเนี่ย"
ฟูจิกิลองขยี้ตาดูอีกที แต่ไม่ว่าจะมองยังไง ที่นี่มันก็แค่ป่าหมอกหนาในหนังสยองขวัญแค่นั้นเอง
"แต่ข้างในก็ค่อนข้างใช้ได้อยู่นา ดอกไม้บานสะพรั่งเต็มเลยล่ะ ถึงจะมองยากหน่อยก็เถอะ"
"แล้วบ่อคอยคิงที่เธอว่าอยู่ไหนล่ะ?"
"อืม….."
มาริทำท่าครุ่นคิดสักครู่
"ไม่รู้อะ"
"ไม่รู้เรอะ!?=[]="
ฟูจิกิตะโกนดังลั่น เขาอุตส่าห์มาที่นี่ตามที่มาริพูดเพื่อมาตามหาเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคน แต่คุณเธอดั๊นจำตำแหน่งของบึงไม่ได้ซะงั้น แบบนี้คงหาไม่เจอง่ายๆ ซะแล้วล่ะมั้ง
"เอาน่า เดี๋ยวก็หาเจอเองแหละนะ ที่นี่มันก็ไม่ได้กว้างอะไรขนาดนั้นสัก--"
ตู้ม!!
"..หน่อย…"
"เอ๊ะ?X2"
เสียงระเบิดดังสนั่น มาริกับฟูจิกิร้อง'เอ๊ะ?'ขึ้นมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ทั้งคู่หันไปมองทางต้นเสียงที่อยู่ทางทิศตะวันตก แต่แล้วก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจระคนตกใจ
"อะไรกันเนี่ย!!?/บ้าอะไรวะน่ะ!!?"
ทั้งคู่อุทานออกมาเมื่อเห็นก้อนอุกกาบาตขนาดเล็กอยู่บนฟ้าเหนือจุดที่ได้ยินเสียงระเบิดเมื่อครู่นี้
"ฝ..ฝนดาวตก(Draco meteor)เรอะ!?"
"อ๊ะ! จำได้แล้ว ตรงนั้นมีบ่อคอยคิงอยู่นี่นา!"
"ว่าไงนะ!?"
ฟูจิกิหันมามองมาริ เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินเมื่อครู่นี้เลย ถ้าบริเวณที่มีการใช้ท่าฝนดาวตกนั้นเป็นบ่อคอยคิงจริงๆ ที่พอคิดได้ก็คือมีโปเกมอนมังกรแกร่งๆ อยู่แถวนั้น หรือไม่ก็….แต่มันคงเป็นไปได้ยาก ไม่สิ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยมากกว่า
"เร็วเข้าโปจิกิ ไปดูกัน!"
"อืม!"
ทั้งสองคนรีบตรงไปดูทันที เมื่อไปถึงทั้งคู่ก็ถึงกับอ้าปากค้างอีกครั้งด้วยความอึ้ง ที่นั่นมีบึงอยู่จริงๆ ตามที่มาริบอก และในบึงแห่งนั้น มีร่างของเกียราดอสตัวใหญ่นอนหมดสภาพ กับคอยคิงที่ดูอารมณ์เสียแบบสุดๆ
"แกมาหาเรื่องฉันก่อนเองนะ!"
คอยคิงพูดพลางกอดอก
หารู้ไม่ว่ามีมนุษย์หนึ่งคนและมนุษย์ในร่างเอมอนก้าอีกหนึ่ง...คน(?)ยืนมองอยู่อย่างตกตะลึง
"ค..ควีนซัง….-_-;"
"บ..บ้าอะไรเนี่ย คอยคิงตบเกียราดอสคว่ำเรอะ"
มาริกับฟูจิกิยังอึ้งไม่หาย ในเวลานั้นเอง คอยคิงผู้มีตราประทับก็หันกลับมามอง
"กลับมาแล้วเหรอ ไวจังเลยนะ"ควีเน็ตต้าพูดขึ้นเมื่อเห็นมาริกลับมา"แล้ว..คุณผู้ชายคนนั้นคือใคร?"
แน่นอน เธอไม่ได้หมายถึงมาริ แต่หมายถึงฟูจิกิซึ่งเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ
"ควีนซัง นี่คือชินาอิ โปจิกิ เป็นเพื่อนร่วมชะตากรรมของพวกเราแล้วก็เป็นคุณเทรนเนอร์ไงล่ะ"
"ชินาอิ ฟูจิกิโว้ย!"
ฟูจิกิรีบแก้ชื่อของตน ก่อนที่เพื่อนร่วมชะตากรรมที่มาริเรียกว่า'ควีนซัง'จะเข้าใจผิดแล้วเรียกเขาว่าโปจิกิไปอีกคน
"ฟูจิกิ..แล้วไอ้รองเท้า(Trainers)นี่มันอะไร?"
ควีเน็ตต้าพูดขึ้นอย่างสงสัย
"ไม่ใช่เทรนเนอร์ที่แปลว่ารองเท้าสิ โปเกมอนเทรนเนอร์น่ะ แบบว่า เทรนแบบฝึกอะ"มาริอธิบาย"จริงสิ ควีนซัง พวกเราตั้งใจว่าจะไปเกาะเมเลเมเล่กันน่ะ แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้กลับมาที่นี่รึเปล่า ก็เลยมารับไปด้วยน่ะ"
"แล้วฉันจะไปได้ยังไง ร่างปลาโง่ๆ นี่ขึ้นบกไม่ได้หรอกนะ เข้าใจรึเปล่า ปลา-โง่-โง่"
ควีเน็ตต้าเน้นย้ำคำว่าปลาโง่ๆ อย่างชัดเจน เธอไม่รู้เลยว่าเธอจะไปกับสองคนนี้ได้ยังไง แต่ที่แน่ๆ เธอจะไม่กระโดดออกไปสู่อวกาศอย่างที่มาริแนะนำอย่างแน่นอน
"ก็เข้ามาในเจ้านี่ไง"ฟูจิกิหยิบมอนสเตอร์บอลลูกหนึ่งออกมาจากกระเป๋า"ถ้าเข้ามาในนี้ล่ะก็ ถึงจะไม่มีน้ำก็ไม่เป็นไร แถมฉันยังพาเธอไปไหนมาไหนก็ได้ด้วย เธอก็ไม่ต้องเหนื่อยเดินเอง ดีจะตายไป"
"หืม…"
ควีเน็ตต้าพินิจดูเจ้าลูกบอลสีแดงขาวขนาดเท่าฝ่ามือ ดูแล้วไม่น่าจะใส่อะไรเข้าไปได้เลยแม้แต่น้อย จะให้เข้าไปอยู่ในอะไรแบบนี้จริงๆ น่ะเหรอ? ขนาดเพียงแค่นั้นคงใส่ได้แค่พวกแมลงหรือแมงมุมเท่านั้นแหละ
ใครจะไปอยากอยู่ในของแบบนั้นกัน
"ไม่ล่ะ ขอบคุณ ฉันไม่อยากเข้าไปอยู่ในอะไรที่ฉันไม่รู้จัก มันดูไม่น่าใส่อะไรได้เลยด้วยซ้ำ"
"อ้าว แล้วฉันจะพาเธอไปยังไงล่ะเนี่ย?"
ฟูจิกิเริ่มคิดหนัก วิธีที่ดีที่สุดในการพาคอยคิงไปไหนมาไหนด้วยก็คือการจับยัดมอนสเตอร์บอล แล้วแบบนี้เขาจะพาควีเน็ตต้าไปกับเขายังไงดี
"ใช้สมองอันน้อยนิดของคุณคิดซะสิ"ควีเน็ตต้ากอดอก"ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่ตอนนี้ฉันก็เป็นแค่ปลาโง่ๆ ปลาก็ต้องอยู่ในตู้ปลาใช่มั้ยล่ะ"
"เอาจริงดิ ตู้ปลาเนี่ยนะ"
ฟูจิกิไม่เคยนึกถึงตู้ปลาในโลกโปเกมอนมาก่อน พอย้อนกลับมามองควีเน็ตต้าเขาก็เริ่มกุมขมับ ให้ไปหาตู้ปลาสำหรับคอยคิงซึ่งมีขนาดตัวยาวตั้ง 90 เซนติเมตรเนี่ยนะ!? เอาเข้าจริง มันก็คงจะหาได้อยู่หรอก แต่จะแบกมายังไงเล่า!?
"ไม่ใช่แค่ตู้ปลาธรรมดา ต้องเป็นตู้ปลาสำหรับเลี้ยงปลาสวยงามโดยเฉพาะ ต้องมีพื้นที่ให้ฉันเคลื่อนไหวได้สะดวก ต้องมีของประดับที่งดงามเหมาะสมกับฉันด้วย ถ้าหาตู้ปลาที่ตรงตามเงื่อนไขนี้ไม่ได้ฉันก็ไม่ไปด้วยหรอก"
"นี่จะให้ฉันไปหาตู้ปลาที่ใหญ่ขนาดไหนมากันเนี่ย-_-;"
ฟูจิกิถึงกับเพลีย แค่ตู้ปลาสำหรับคอยคิงขนาด 90 เซนติเมตรนี่ก็น่าจะแบกมาไม่ได้แล้ว แต่ควีเน็ตต้าดันต้องการแบบที่คุณเธอสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกด้วย ต้องใหญ่ขนาดไหนกัน ไม่สิ ประเด็นสำคัญคือจะแบกมายังไงไม่ให้หลังหักมากกว่า!
"คิดเอาเองก็แล้วกัน ถ้าหามาไม่ได้ฉันก็ไม่ไป ก็แค่นั้น"
"เอาจริงดิ เป็นแค่คอยคิงแท้ๆ แต่เรื่องมากชะมัด ในโลกก่อนมีคนทนอยู่กับคนเอาแต่ใจแบบเธอได้ด้วยเหรอ"
"หา?-_-*"
คิ้วของควีเน็ตต้าเริ่มกระตุก ฟูจิกิเปิด Status board ขึ้นมาเพื่อส่องข้อมูลของควีเน็ตต้า และเขาก็ไม่ทันได้สังเกตเห็นสีหน้าของคอยคิงผู้มีตราประทับ
"อืม..ควีเน็ตต้า เอสเทลล์ เป็นคอยคิง เลเวล…...99!?"
"อะไรนะ!?"
มาริกับฟูจิกิถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นเลเวลของควีเน็ตต้า ในขณะเดียวกัน ฟูจิกิก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่อยู่เหนือหัวของตน อุกกาบาตเล็กๆ กำลังจะร่วงลงมาใส่หัวเขาในอีกไม่ช้า
"_ิบหายละ.."
"ลางไม่ดีแล้ว หนีก่อนดีกว่า โชคดีนะโปจิกิ"
มาริบินหนีออกไปเสียไกล ทิ้งให้ฟูจิกิยืนซวยรออุกกาบาตตกใส่หัวเพียงลำพัง
"อ้าวเฮ้ย!?=[]="
ฟูจิกิแหงนมองข้างบน ความตายกำลังคืบคลานเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ
หนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วล่ะ
ตู้ม!!!!
"อ๊ากกกก!!!!"
สุดท้าย บริเวณสวนดอกไม้โพนิก็เต็มไปด้วยหลุมบ่ออุกกาบาตเต็มไปหมด ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดจากอะไร สุดท้ายผู้คนบนเกาะโพนิก็นำไปเล่าต่อๆ กันว่าเป็นฝีมือของโปเกมอนเจ้าถิ่นที่ออกอาละวาด หรือไม่ก็มีโปเกมอนที่แข็งแกร่งมากๆ อาศัยอยู่ที่สวนดอกไม้โพนิ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ที่นี่ไปพักใหญ่เลยทีเดียว
ไม่มีใครล่วงรู้ความจริงเลย แต่พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ ว่าโปเกมอนที่ทำให้เกิดเจ้าหลุมบ่อนี่ก็คือ 'คอยคิง' นั่นเอง
ในช่วงเวลาเดียวกัน ณ ถ้ำเขียวขจี(Verdant Cavern) เกาะเมเลเมเล่
ภายในถ้ำที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้ มอสและเฟิร์นขึ้นเต็มตามโขดหิน ภายในถ้ำแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของโปเกมอนกลุ่มหนึ่ง
ร่างของค้างคาวตัวน้อยพยายามกระพือปีกเพื่อไม่ให้ตัวเองร่วงลงไป หูขนาดใหญ่ดูเด่นสะดุดตา ร่างกายที่เป็นสีเขียวผิดกับตัวอื่นๆ ที่เป็นสีม่วง นัยน์ตาสีดำดูค่อนข้างแตกต่างจากตัวอื่นๆ ที่มีสีอำพัน "ออนแบท(Noibat)"ผู้แปลกแยกพยายามโบยบินโดยที่เท้าเล็กๆ ยังคงยึดติดกับหินที่ส่องประกายแวววาว
"แฮ่ก..แฮ่ก..ร่างนี้..เหนื่อย..ง่าย..ชะมัด"
ร่างค้างคาวค่อยๆ ร่อนลงพื้นให้เบาที่สุด วางหินลงอย่างช้าๆ แล้วจ้องมันด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย
"ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเจอเจ้านี่ด้วยคลื่นเสียงได้"
"หินประกายแสง..Z-ring"
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป
-*-*-*-*-*-*-*-
ในที่สุดก็พิมพ์เสร็จแล้ว!!!
เย้!!
คุณเทรนเนอร์มีบทแล้ว~
//หลุดคาร์สุดๆ ไม่มีเค้าความเย็นชาให้เห็นแล้ว=^=
เป็นช่วงเวลาการพิมพ์ที่ยาวนานมากจริงๆ=^=;
ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะที่ให้ทุกคนรอซะนาน แต่จริงๆ แล้วเนี่ย ตอนที่ 3 ไรท์ร่างจบไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้วแหละ แค่ไรท์พิมพ์ช้า=^=;
งื้อTwT
แล้วก็..ตอนนี้ไรท์ยังไม่ได้ตรวจทานคำผิดเพราะรีบลง เพราะงั้นอาจจะมีคำผิดค่อนข้างเยอะ เดี๋ยวไรท์จะหาเวลาแก้ไขให้น้า
แล้วก็ๆ เรื่องคุณสมบัติ ท่าไม้ตาย กับ stats มีแรกไรท์ก็ว่าจะใช้ตามแบบโปเกมอนปกติเลย แต่คิดว่าแบบนี้มันน่าจะสนุกกว่า ก็เลยปรับอะไรหลายๆ อย่างเลย
ไม่ได้แค่ปรับมั่วๆ นะบอกไว้ก่อน ไรท์ไปเปิดอ้างอิงหลายแห่งเลยนะ
อ้อใช่ status board เนี่ย มันมีหน้า 2 ด้วยล่ะ เดี๋ยวไรท์เอาลงให้ตรงนี้ก็แล้วกันน้า
สำหรับวันนี้ก็ ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรกับคุณผู้อ่านดี แต่ก็..คาดว่าตอนที่ 4 อาจจะมาค่อนข้างช้าหน่อย เพราะที่ร่างๆ มาเนี่ย มันยาวมากจริงๆ แล้วมันจำเป็นต้องใช้ภาพประกอบด้วย บวกกับปริมาณการบ้านจากโรงเรียนและไรท์ก็ต้องเตรียมตัวสอบเข้าม.4 คิดว่ากว่าจะมาอัพก็อาจจะปลายเดือนโน่นเลยค่ะ หรืออาจจะเร็วกว่านั้นหน่อยนึง ขึ้นอยู่กับเวลาว่างของไรท์ด้วย
งั้นวันนี้ก็พอเท่านี้ก่อน เจอกันใหม่ตอนหน้านะค้า~
บ๊ะบาย~
-*-*-*-*-*-*-*-
Status board
อธิบายเพิ่มเติม
- Ability ของเอมอนก้า ปกติแล้วจะเป็น Static กับ motor drive ค่ะ แต่ไรท์คิดว่า อะ ไหนๆ น้องก็จะร่วงใส่หัวคนอื่นตลอดอยู่แล้ว เดี๋ยวหัวแตกก่อน ก็เลยเลือกอบิ rock head(หัวหิน) ที่จะทำให้ไม่โดน recoil ค่ะ น้องจะได้ไม่เจ็บหัว(แต่คนอื่นเจ็บแทน=^=)
- Stats จริงๆ ของเอมอนก้า Lv. 39 นิสัย Relaxed คือ
Hp 103
Atk. 75
Def. 69
Sp.Atk 75
Sp.Def 63
Spe. 87
อธิบายเพิ่มเติม
- Ability ของคอยคิง ปกติแล้วจะเป็น swift swim กับ rattled แต่อย่างควีนซังแล้วไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่าอบิ Queenly majesty แล้วล่ะค่ะ สูงศักดิ์ดังราชินีจริงๆ แต่รู้สึกอบินี่ไม่น่าได้ใช้แฮะ=^=;
- Stats จริงๆ ของคอยคิง Lv. 99 นิสัย sassy คือ
Hp 179
Atk. 55
Def. 144
Sp.Atk 65
Sp.Def 82
Spe. 174
ความคิดเห็น