คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 4 คนแปลกหน้า การปรากฏตัวของเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคน และ Z ring(ตอนต้น)
ตอนที่ 4 คนแปลกหน้า การปรากฏตัวของเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคน และ Z ring(ตอนต้น)
[พ็อคเก็ตมอนสเตอร์ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าโปเกมอน เป็นสิ่งมีชีวิตปริศนาที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้
โปเกมอนเจ้าถิ่น(Totem pokemon) เป็นชื่อเรียกของโปเกมอนจำพวกหนึ่งในภูมิภาคอโลล่า พวกมันมีขนาดใหญ่กว่าโปเกมอนปกติและแข็งแกร่งกว่ามาก พวกมันจะปักหลักอยู่ที่ใดที่หนึ่ง และมีหน้าที่ปกป้องอะไรบางอย่าง
โปเกมอนเจ้าถิ่นนั้นแข็งแกร่งมาก เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เก่งจริง แนะนำว่าอย่าไปหาเรื่องมันจะดีกว่า]
เสียงคลื่นซัดสาด เป็นเอกลักษณ์ของทะเล
เรือลำเล็กที่มีผู้โดยสารราวๆ สิบคนจากหมู่บ้านนกทะเลกำลังมุ่งหน้าไปสู่เกาะเมเลเมเล่ทางทิศตะวันออก ด้วยความเร็วระดับนี้ คาดว่าอีกไม่นานก็คงจะไปถึง
"ดูนั่นสิ คอยคิงล่ะ"
"เหลือเชื่อเลย เอาคอยคิงใส่ในตู้ปลาแบบนั้นเนี่ยนะ"
"สติยังดีอยู่รึเปล่า"
เสียงซุบซิบของคนกลุ่มหนึ่งบนเรือโดยสาร พวกเขามองไปยังเด็กหนุ่มผมดำที่แยกตัวไปอยู่ตามลำพัง แน่นอน การที่มีใครบางคนแยกตัวไปอยู่คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร สิ่งที่แปลกคือสิ่งที่เขาพามาด้วยต่างหาก
ตู้ปลาขนาดใหญ่ที่ประดับอย่างสวยงามวางอยู่บนรถเข็น น้ำใสสะอาดจากบ่อน้ำสักที่บนเกาะโพนิ สิ่งของที่นำมาประดับล้วนเป็นสิ่งของที่ดูมีราคา แต่โปเกมอนที่อยู่ในตู้ปลานั้นกลับไม่เข้ากับของตกแต่งเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย คนที่นำคอยคิงมาใส่ในตู้ปลาแบบนี้คงไม่แคล้วเป็นพวกสติไม่ดีเป็นแน่
"เฮ้อ…"
ฟูจิกิถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาเหลือบมองคอยคิงในตู้ปลาขนาดใหญ่กับเอมอนก้าที่เกาะรถเข็นอ้าปากหาว ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมคุณเพื่อนร่วมชะตากรรมสองคนนี้ถึงไม่ยอมเข้ามาอยู่ในมอนสเตอร์บอลกันดีๆ เขาจะได้พาไปไหนมาไหนได้สะดวกหน่อย มาริน่ะไม่เท่าไหร่หรอก ตัวก็ไม่ได้ใหญ่อะไร บินก็ได้ เกาะไหล่เขาก็ยังได้ ไม่หนักเท่าไหร่ด้วย แต่ควีเน็ตต้านี่สิ ขนาดตัวของคอยคิงก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย ขึ้นบกก็ดิ้นแด่วๆ จะให้คอยคิงดิ้นตามไปมาในเมืองคงโดนคุณจุนซ่าจับข้อหาทรมานสัตว์ หนักก็หนัก แถมยังเรื่องมากอีก เมื่อวานกว่าจะหาตู้ปลาที่ตรงตามเงื่อนไขของคุณเธอได้ก็ปาเข้าไปเกือบๆ เที่ยงคืน! เวลาหนึ่งวันหมดไปอย่างไร้ค่า
เหลือเวลาอีกเก้าวัน กับเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกเจ็ดคน อันที่จริงก็ไม่มีเหตุผลให้รีบหรอก แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเจ้าเสียงปริศนานั่นจะมาไม้ไหนอีก อย่างน้อยก็อยากเจอเพื่อนร่วมชะตากรรมให้ครบก่อนเช้าวันที่เก้า จะได้มีเวลาทำอย่างอื่นด้วย
"นี่ๆ โปจิกิ"มาริเงยหน้าขึ้นมาถาม"คิดว่าเพื่อนร่วมชะตากรรมสามคนบนเกาะเมเลเมเล่นี่จะเป็นคน..เอ่อ..หมายถึงโปเกมอนแบบไหนอะนะ"
"ไม่รู้เหมือนกัน"ฟูจิกิส่ายหน้า"ขอแค่อย่าเป็นแบบควีนซังก็พอ ไม่สวยแล้วยังเรื่องมาก เอาแต่ใจ--"
"หืม?"
"เอ่อ..หมายถึงว่าอย่าเป็นพวกเพอร์เฟคต์เกินไปแบบควีนซัง ทั้งสวย เก่ง ฉลาด สูงส่งเกินไปจนเข้าไม่ถึง คนอะไร้จะสมบูรณ์แบบได้ขนาดนั้น"
ฟูจิกิรีบเปลี่ยนคำพูดใหม่เมื่อได้ยินเสียงควีเน็ตต้าดังมาจากตู้ปลา เหลือบมองไปข้างหลังก็เห็นสายตาของผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่มองว่าเขาเป็นพวกสติไม่ดีหนักกว่าเดิม แค่เอาคอยคิงใส่ตู้ปลาสุดหรูนี่ก็ดูบ้าเกินเยียวยาแล้ว และเมื่อครู่นี้เขาก็เพิ่งหันไปพูดกับเพื่อนร่วมชะตากรรมซึ่งอยู่ในร่างโปเกมอน การที่พูดคุยกับโปเกมอนได้คงจะดูเป็นเรื่องแปลกสำหรับผู้คนในอโลล่า
"ให้ตายเถอะ ถ้าการพูดคุยกับโปเกมอนมันแปลกนัก แล้วพวกที่ฟังภาษาโปเกมอนออกในโลกอนิเมะนี่ใช้ชีวิตยังไงโดยที่ไม่โดนคนรอบข้างมองว่าเป็นตัวประหลาดเนี่ย"
"ก็โดนมองว่าเป็นตัวประหลาดอยู่นา บ้างคนอะนะ"
มาริพูด
"แต่ N จากภาค BW ก็ไม่เห็นโดนมองว่าเป็นตัวประหลาดนี่ เห็นใช้ชีวิตเนียนไปกับคนอื่นได้ปกติเลยไม่ใช่รึไง"
"ก็ N ซังหล่อนี่นา"
"ตรรกะบ้าอะไรเนี่ย"
"ตรรกะคนหล่อทำอะไรก็ถูกเสมอไง"
"แล้วฉันไม่หล่อเหรอ?"
"ไม่สักนิดX2"
"อุก!.."
มาริกับควีเน็ตต้าพูดขึ้นมาพร้อมกัน ฟูจิกิถึงกับพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว ก็คิดอยู่หรอกว่ามาริจะต้องตอบแบบนี้ทันทีทันใด แต่ไม่คิดเลยว่าควีเน็ตต้าก็เอากับเขาด้วย
"อ๊ะ! เห็นเกาะเมเลเมเล่แล้วล่ะ!"
หลังจากที่เพิ่งพูดจาทำร้ายจิตใจคุณเทรนเนอร์ผู้น่าสงสารไป มาริก็เหลือบเห็นอะไรบางอย่าง ร่างเอมอนก้าชี้นิ้วสั้นๆ ไปยังเกาะที่อยู่ในระยะสายตา จุดหมายของพวกเขา เพื่อตามหาเพื่อนร่วมชะตากรรมที่อยู่ที่นั่น
'เกาะเมเลเมเล่'
.
.
.
เรือโดยสารจอดเทียบท่าเรือ ณ เมืองฮัวโอลี่(Hau'oli city) เมืองท่าของเกาะเมเลเมเล่ ฟูจิกิที่ลงมาจากเรือแล้วยืนมองไคริกกี้สองตัวขนตู้ปลากับรถเข็นลงมาให้ ก็สงสารไคริกกี้พวกนั้นอยู่หรอกนะ แต่ทำไงได้ล่ะ ตู้ปลานั่นมันหนักเกินกว่าที่เขาจะยกลงมาจากเรือด้วยตัวคนเดียว คงต้องปล่อยให้ไคริกกี้จัดการล่ะนะ
"ริกกี้"
ไคริกกี้วางรถเข็นลงข้างหน้าเด็กหนุ่ม ไม่นานนักอีกตัวหนึ่งก็นำตู้ปลาที่เต็มไปด้วยน้ำและมีคอยคิงอยู่ข้างในมาวางบนรถเข็น พวกมันกอดอกและยิ้มให้กับเขา
"ขอบคุณ"
พอเขากล่าวขอบคุณ พวกมันก็ใช้แขนอีกสองข้างที่อยู่ข้างหลังชูสองนิ้วให้ราวกับจะบอกว่า"สบายมาก" สักพักก็เดินกลับไป
"บริการดี๊ดีเนอะ"
มาริพูดขึ้นพลางมองไคริกกี้สองตัวที่ช่วยขนสัมภาระที่มีน้ำหนักมากลงจากเรือ ถึงจะเคยเห็นภาพแบบนี้ในอนิเมะมาแล้วก็เถอะ แต่พอมาเจอของจริง เธอก็อดทึ่งไม่ได้ที่มนุษย์กับโปเกมอนทำงานร่วมกันได้ดีขนาดนี้ แถมบริการดีมากซะด้วย
"บริการดีอะไรกัน เจ้าตัวสี่แขนนั่นยกไม่เห็นนิ่งเลย สั่นไปมาจนน้ำกระเด็นออกไปเยอะแล้วเนี่ย"
"ฮะ? น้ำกระเด็นออกจริงอะ ยังเห็นเท่าเดิมอยู่เลย"
มาริเอียงคอ พยายามสังเกตตู้ปลาอย่างละเอียด แต่ก็ไม่เห็นว่าน้ำมันจะดูลดลงไปเลยแม้แต่น้อย
"ดูดีๆ สิ ลดลงไปตั้ง 2.5 มิล ไม่เห็นรึไง"
"แค่ 2.5 มิลเนี่ยนะ!?X2"
ฟูจิกิกับมาริพูดขึ้นมาพร้อมกัน นึกสงสัยว่าควีเน็ตต้าจะเอาอะไรกับการที่น้ำกระเด็นออกจากตู้ปลาแค่ 2.5 มิลลิเมตร ไม่สิ ไอ้ที่น่าสงสัยกว่าคือเธอรู้ได้ยังไง!? แค่ 1 เซนติเมตรนี่ก็มองแทบไม่ออกแล้ว แต่นี่มันไม่ถึงเซนด้วยซ้ำ!
"นี่ตาเธอทำมาจากอะไรเนี่ย มีไม้บรรทัดอยู่ในตารึไง"
"หา? จะไปมีของแบบนั้นอยู่ในตาได้ยังไง สมองคุณคงจะราบเรียบไร้ซึ่งรอยหยักจริงๆ สินะถึงได้คิดแต่เรื่องไร้สาระแบบนี้"
"ถ้าไม่มีรอยหยักแล้วมันจะเรียกว่าสมองได้เหรอ?"
"อ้อ ไม่สิ ไม่ใช่ว่าสมองราบเรียบไร้รอยหยัก แต่คุณไม่มีสมองเลยนี่นะ"
"ขอทีเถอะ เธอเป็นอะไรกับสมองฉัน"
ฟูจิกิถอนหายใจ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรไว้ในชาติที่แล้วถึงต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ รู้สึกว่าโชคดีแล้วที่ควีเน็ตต้าเป็นเพียงคอยคิง ถ้าหากว่าเธอได้เป็นพวกอมาโจหรืออัลตร้าบีสต์อย่างเฟโรเช่ คาดว่าเขาคงจะโดนขาที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังเตะคอหักตั้งแต่วันแรกที่เจอกันและอาจจะจบชีวิตลงที่โลกโปเกมอนนี้ก็เป็นได้
"ยังไงก็เถอะ ถ้าได้ไคริกกี้มาจริงๆ ก็ดี อะไรๆ คงสบายขึ้นเยอะ"
เขาเหลือบมองตู้ปลาที่วางอยู่บนรถเข็น ถึงรถเข็นนี่จะช่วยให้เขาขนตู้ปลาและควีเน็ตต้าไปไหนมาไหนได้บ้าง แต่ก็ใช้แรงค่อนข้างมากทีเดียว ถ้ามีไคริกกี้มาช่วยคงสบายขึ้นเยอะ
"ไม่ดีมั้ง เดี๋ยวองค์กร PETA อะไรนั่นก็มาโวยเรื่องทรมานสัตว์หรอก"
มาริพูดขึ้น
"ในโลกนี้มีองค์กร PETA ด้วยรึไง เดี๋ยวก่อนนะ โปเกมอนนี่นับเป็นสัตว์ด้วยเหรอ?"
"นับมั้ง เอ๊ะ? ต้นมะพร้าวนี่นับเป็นสัตว์รึเปล่านะ?"
"อ่า..ก้อนหินด้วย"
"ไอศกรีมด้วย"
"สายไหมด้วย"
"ขอโทษที่ขัดจังหวะนะ แต่ช่วยหยุดไร้สาระแล้วไปตามหาเพื่อนร่วมชะตากรรมที่เหลือก่อนจะดีกว่ามั้ย"
ควีเน็ตต้าพูดขัดการสนทนาไร้สาระของฟูจิกิและมาริ ไม่อย่างนั้นชาตินี้คงไม่ได้ไปไหนแน่ อีกอย่าง เธอไม่เข้าใจสิ่งที่สองคนนี้กำลังพูดอยู่เลยแม้แต่น้อย ต้นมะพร้าวนับเป็นสัตว์มั้ย? แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว! เด็กสองขวบยังรู้เลย แต่สองคนนี้กำลังพูดถึงต้นมะพร้าวไหนกันล่ะ ของโลกโปเกมอนอะไรนี่เหรอ? ต้นมะพร้าวมันมีอะไรแปลกกัน
"อ่า จริงสิ ต้องตามหาเพื่อนร่วมชะตากรรมด้วยนี่นะ ลืมไปซะสนิทเลย"
"หา?X2"
ควีเน็ตต้ากับฟูจิกิส่งเสียงขึ้นมาพร้อมกันเมื่อรับรู้ว่าเด็กสาวในร่างเอมอนก้าลืมเรื่องสำคัญไปแล้ว แทบอยากจะยกบาทาขึ้นมาก่ายหน้าผากกันเลยทีเดียว
"นี่ลืมเรื่องสำคัญขนาดนี้ได้ยังไงกัน!?"
"พูดตามตรง ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตอนนี้ฉันเป็นโปเกมอนอยู่น่ะ"
"......"
ถึงกับหมดคำพูดกันเลยทีเดียว
"นี่เธอ...ชาติที่แล้วเป็นปลาทองรึไง"
ฟูจิกิกุมขมับ รู้สึกเพลียจริงๆ ที่มีเพื่อนร่วมชะตากรรมแบบนี้
"ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยระลึกชาติ"
"นี่ใจคอพวกคุณกะจะคุยกันอยู่ตรงนี้จนหมดวันกันจริงๆ ใช่มั้ย หัดใช้เวลาให้คุ้มค่ากันหน่อยสิ"
ควีเน็ตต้าพูดขึ้นมาอย่างหน่ายๆ ดูท่าเธอคงจะต้องคิดหาวิธีที่ทำให้สองคนนี้เลิกคุยกันเรื่อยเปื่อยแล้วหันไปตามหาพวกพ้องอย่างจริงจังซะแล้วล่ะมั้ง มีเรื่องให้คุยกันเรื่อยๆ ไม่รู้จบ คุยกันไม่ดูเวล่ำเวลาจนตามหาเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกเจ็ดคนไม่ทัน
อีกอย่าง บทสนทนาเรื่อยเปื่อยพรรค์นี้ทำให้เนื้อเรื่องยาวเกินความจำเป็นด้วย
เกิดคนพิมพ์ขี้เกียจพิมพ์ขึ้นมาจะทำไงเล่า
โดนดองยาวๆ แหง
"อืม..ก็คุยกันมานานมากแล้วจริงๆ นั่นแหละ ไปเถอะ"
ฟูจิกิพูดแล้วเริ่มออกแรงเข็นรถเข็น เตรียมตัวออกเดินทางต่อ
"แล้วนี่คิดไว้รึยังว่าจะไปไหนน่ะ?"
"เนินเขาสิบกะรัต(Ten Carat hill)"
"ทำไมอะ0^0?"
"อยากไป"
"หา-_-?"
ในจังหวะที่ฟูจิกิกำลังจะเดินไปนั้นเอง จู่ๆ ก็มีใครบางคนเดินมาขวาง
"โย่"
คนแปลกหน้าที่เดินมาขวางเอ่ยทักทาย
ส่วนสูงที่มากกว่าฟูจิกิเล็กน้อย เรือนผมสั้นสีน้ำตาลเปล่งประกายรับกับแสงอาทิตย์ของอโลล่า นัยน์ตาสีแดงฉานที่เผยให้เห็นเพียงข้างเดียวเนื่องจากตาอีกข้างถูกผมยาวปรก สวมเสื้อแขนยาวสีดำทับเสื้อยืดสีขาวที่อยู่ภายใน เขามองมายังเด็กหนุ่มผมดำพลางกอดอก
"......"
'ใครฟระ-_-!?'
ฟูจิกิมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย พยายามเค้นความทรงจำทั้งหมดที่มีแต่ก็นึกไม่ออกเลยว่ารู้จักกับคนตรงหน้านี่ ทั้งในโลกความเป็นจริง เกม และอนิเมะ เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยเห็นหมอนี่มาก่อนอย่างแน่นอน
แล้วไหงเจ้าคนแปลกหน้านี่ถึงได้เดินมาทักเขาล่ะเนี่ย?
"คนรู้จักเหรอ? โปจิกิ"
มาริกระซิบถาม
"รู้จักก็แย่แล้ว ฉันจะไปมีคนรู้จักอยู่ในโลกโปเกมอนได้ยังไงเล่า"ฟูจิกิตอบเสียงเบา"ดูไม่น่าใช่พวกตัวละครสำคัญด้วย ไม่คุ้นหน้าเลย"
"อาจจะเป็นพวกตัวประกอบที่มีบท 1 วิก็ได้มั้ง ควีนซังคิดว่าไง?"
"จะไปรู้กับพวกคุณมั้ยล่ะ"
ระหว่างที่สนทนากันเรื่อยเปื่อย คนแปลกหน้าก็เริ่มพูดขึ้น
"คอยคิงกับเอมอนก้าเรอะ เลือกพวกพ้องได้ห่วยชะมัด มีแต่พวกกระจอก"
เขาพูดพลางยิ้มเยาะ
"หา?X2"
สองสาวเริ่มคิ้วกระตุก เมื่อจู่ๆ ก็มีไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้มาด่าว่า'กระจอก' ในใจก็ได้แต่คิดว่า'อะไรของมัน' เพียงแต่ไม่ได้พูดออกไป ฟูจิกิมองฝ่ายตรงข้ามอย่างเอือมๆ เขาไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกับคนแบบนี้ในโลกโปเกมอน
"พอจะมีเวลาว่างสักหน่อยรึเปล่า เดี๋ยวฉัน ลูกศิษย์ของราชาเกาะ ฮาระ ฮาเคย์ผู้นี้จะสอนวิธีเลือกใช้โปเกมอนให้แกเอง!"
พูดจบ คนแปลกหน้าที่เรียกตัวเองว่า'ฮาเคย์'ก็เก๊กหน้า ฟูจิกิมองอีกฝ่ายแล้วลอบถอนหายใจ เบือนหน้าหนีแล้วออกแรงเข็นรถเข็นหนีแล้วไม่หันกลับมามองอีก
"ซวยจริง ดันมาเจอพวกน่ารำคาญซะได้"
ฟูจิกิบ่น
"จะเอาอะไรกับคนบ้าล่ะ"
ควีเน็ตต้าพูดขึ้นมาอย่างเซ็งๆ
"เฮ้ย! จะหนีไปไหน"
ในขณะที่พยายามชิ่งหนีอย่างสุดชีวิต ฟูจิกิก็สัมผัสได้ถึงมือของใครบางคนบนไหล่ขวา เจ้าคนแปลกหน้าวิ่งตามเขามาเร็วมาก ไม่สิ เป็นเพราะเขาช้ามากกว่า การเข็นตู้ปลาที่หนักขนาดนี้ด้วยความเร็วสูงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาในตอนนี้
แล้วไอ้หมอนี่จะวิ่งตามเขามาทำไมกันล่ะเนี่ย?
"เอาล่ะ มาแบทเทิลกันซะสิ"
"ขอปฏิเสธ"
"1 ต่อ 1 ตกลงตามนี้"
"ก็บอกว่าขอปฏิเสธ!"
"จะลุยแบบเต็มที่เลยนะเฟ้ย ซัดแม่มเลยจารังโก้!"
"นี่ได้ฟังกันบ้างมั้ย!? ก็บอกว่าไม่โว้ยยย!!"
ฟูจิกิกุมขมับ อีแบบนี้มันมัดมือชกชัดๆ ปฏิเสธอย่างชัดเจนก็ถูกอีกฝ่ายเข้าใจว่าตกลงเสียอย่างนั้น หมอนี่ดูไม่ใช่พวกที่จะยอมฟังคนอื่นซะด้วย การต่อสู้นี้คงหนีไม่ได้
'น่ารำคาญแฮะ รีบๆ ตบแล้วรีบชิ่งดีกว่า'
ฟูจิกิคิด เขาเหลือบมองเพื่อนร่วมชะตากรรม เปิด Status board เพื่อส่องข้อมูลของควีเน็ตต้ากับมาริอีกครั้งหนึ่ง
"ฝนดาวตก..นี่แหละเจ๋งเลย!"ฟูจิกิหันมามองควีเน็ตต้า"ควีนซัง ฝากด้วย"
"ฮะ?"
ควีเน็ตต้าร้องฮะขึ้นมาด้วยความสงสัย มองไปทางฝั่งตรงข้ามที่เรียกโปเกมอนที่ร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ด'จารังโก้'ออกมาจากมอนสเตอร์บอลลูกเล็ก สภาพพร้อมสู้แบบสุดๆ ในขณะที่ตัวเธอยังไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรทั้งนั้น
"เดี๋ยวสิ นี่จะให้ฉันทำอะไร?"
ควีเน็ตต้าหันมาถาม
"เป่ามันให้กระเด็นไง"
ฟูจิกิพูด มาริก็ได้แต่ยืนให้กำลังใจอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ควีเน็ตต้างงไปพักใหญ่ ที่บอกว่า'เป่าให้กระเด็นนั่นหมายความว่ายังไงกัน
"เหอะ! ใช้คอยคิงสู้งั้นเหรอ แกคงจะเพี้ยนไปแล้วสินะ"ฮาเคย์พูดขึ้น"เดี๋ยวฉันจะรีบจบการต่อสู้นี้เอง เตรียมรับมือด้วยล่ะ!"
ฝ่ายตรงข้ามตั้งท่าเตรียมพร้อมสู้ ในขณะที่ฟูจิกิยืนมองอย่างเบื่อหน่าย เขารอให้อีกฝ่ายออกคำสั่งโจมตีก่อน เพราะเชื่อว่ายังไงการโจมตีพรรค์นั้นคงทำอะไรคอยคิงเลเวล 99 ที่มีคุณสมบัติเวอร์วังกับท่าไม้ตายโคตรอลังการอย่างควีเน็ตต้าได้อยู่แล้ว
ยังไงอีกฝ่ายก็คงเดี้ยงในทีเดียวอยู่แล้ว ให้โชว์ท่าสักหน่อยก็คงดี
"จารังโก้! สกายอัปเปอร์(Sky uppercut)!"
"กรร!"
จารังโก้พุ่งเข้ามาอย่างเต็มกำลัง ง้างหมัดเตรียมต่อยทั้งคอยคิงทั้งตู้ปลาให้แหลกจนไม่เหลือ
"เอาเลยเจ๊ใหญ่! ฝนดาวตก!"
"ถึงคุณไม่บอกฉันก็กะจะทำอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะน่า!"
ควีเน็ตต้าหันมาโวย พลันบนฟ้าก็ปรากฏอุกกาบาตขนาดย่อม ร่วงลงมาใส่จารังโก้อย่างเต็มกำลัง เจ้ามังกรหุ้มเกราะได้แต่แหงนมองอุกกาบาตเหนือหัวตนด้วยความตกใจสุดขีด ก่อนที่จะได้ออกตัวหลบ ฝนอุกกาบาตก็ร่วงลงมาใส่มันเสียแล้ว
ตู้ม!!!!
เสียงระเบิดดังสนั่น ฝุ่นควันลอยฟุ้ง พอควันจางก็ปรากฏร่างของจารังโก้นอนหมดสภาพอยู่บนหลุมบ่อที่เกิดจากท่าฝนดาวตก ผู้คนต่างมองมายังคอยคิงที่เพิ่งจะโค่นจารังโก้ได้ในหมัดเดียวอย่างตกตะลึง
"หวา..พลังของควีนซังเนี่ยสุดยอดไปเลยแฮะ"
มาริพูดขึ้น ถึงจะเคยเห็นมาก่อนแล้ว แต่ก็ยังเชื่อได้ยากว่าคอยคิงจะสามารถใช้ท่าไม้ตายที่รุนแรงขนาดนี้ได้
"ก็จริง..แต่ว่า…"
ฟูจิกิก้มมองพื้นที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ หันมองรอบๆ ก็เห็นแต่สายตาของผู้คนมากมายที่มองเขาอย่างกับตัวประหลาด ดูท่าเขาจะทำพลาดอย่างใหญ่หลวงที่ส่งควีเน็ตต้าออกไปต่อสู้แบบนั้น
'เผลอทำตัวเด่นเกินไปซะได้'
ในระหว่างที่ฟูจิกิกำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ดี จู่ๆ ก็มีชายวัยกลางคนตัวค่อนข้างใหญ่เดินเข้ามา เขามีผิวสีแทนที่ดูค่อนข้างเด่นทั้งยังตาตี่ เส้นผมเริ่มหงอกตามวัย สวมเสื้อคลุมสีเหลืองทับเสื้อสีน้ำเงินและสวมกางเกงสีขาว ดูเป็นคุณลุงตัวอ้วนท่าทางใจดี
"โฮ่ ดูเหมือนฉันจะพลาดอะไรไปสินะ"
ชายคนนั้นพูดขึ้นมา ฟูจิกิ มาริ และฮาเคย์ดูท่าทางแปลกใจมากทีเดียวกับการปรากฏตัวของคนคนนี้ ควีเน็ตต้าจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"เป็นอะไรกันไปหมดน่ะ ตาลุงนี่เป็นคนใหญ่คนโตรึไง"
"อืม จะว่าเป็นคนใหญ่คนโตก็ใช่หรอก ตาลุงนั่นน่ะเป็น…"
"..ราชาเกาะ ฮาระ"
.
.
.
[โปรดติดตามตอนต่อไป]
-*-*-*-*-*-*-*-
ตอนที่ 4 มาแว้ว~
แต่มาแบบครึ่งตอนอะนะ=^=;
คือตอนที่ 4 นี่เป็นอะไรที่ยาวมากจริงๆ ค่ะ จนต้องตัดแบ่งเป็นสองตอนเลย ตอนนี้ก็มีตัวปลากรอบเพิ่มมา 1 คน แถมยังมีลุงราชาเกาะมาเพิ่มอีก แล้วช่วงครึ่งหลังเนื้อเรื่องจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย?
รอติดตามต่อไปจ้า^^
ในตอนนี้ก็ ช่วงท้ายๆ ก็อาจจะอ่านงงๆ หน่อยนะคะเพราะไรท์ไม่มีเวลาเกลาคำเลย ไม่ได้ลงมานานแล้วด้วย อาทิตย์หน้าก็ติดสอบ ก็เลยลงอาทิตย์นี้เลยค่ะ
ถ้าอ่านแล้วงงๆ ก็คอมเมนต์บอกได้น้า เดี๋ยวไรท์จะหาเวลารีไรท์ให้ทีหลัง
อ้อใช่ ตอนนี้มีดิสคอร์ดสำหรับคุยเล่นกันแล้วนะ ใครเหงาๆ ก็เข้ามาพูดคุยกันได้น้า ไรท์ไม่กัด ฉีดยาแล้ว=^=
นี่ลิงค์จ้า
แล้วก็ ช่วงตอนครึ่งหลังหรือ 4.2 เนี่ย ไรท์จะพยายามรีบพิมพ์นะคะจะได้มีเวลาเกลาคำนานหน่อย จะพยายามทำให้ดีกว่าตอนนี้ อย่าลืมรอติดตามกันด้วยน้า
ความคิดเห็น