ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic pokemon OC]10 days in Pokemon world

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 2 คอยคิงสุดโหดกับเพื่อนร่วมชะตากรรมคนที่สอง

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 63


    ตอนที่ 2 คอยคิงสุดโหดกับเพื่อนร่วมชะตากรรมคนที่สอง

              [พ็อคเก็ตมอนสเตอร์ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าโปเกมอน เป็นสิ่งมีชีวิตปริศนาที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้

              โปเกมอนบางชนิดสามารถโบยบินไปที่ไหนก็ได้ดังใจนึก เพราะงั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะพบเห็นเหล่าโปเกมอนโบยบินบนฟากฟ้า

              ถึงเรื่องแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่บางครั้งก็มีโปเกมอนร่วงลงมาจากฟากฟ้าเหมือนกัน]

              โป๊ก!!!

              "โอ๊ย!!!X2"

              เสียงของโปเกมอนสองตัวกระแทกกันอย่างรุนแรง ตามด้วยการประสานเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ร่างของผู้ที่ร่วงลงมาจากฟ้าหล่นจ๋อมลงไปในน้ำ ทิ้งให้คอยคิงผู้โชคร้ายร้องโอดโอย

              ซ่า!!

              "แค่กๆๆ!!"

              ร่างกระรอกบินโผล่ขึ้นมาจากน้ำ แถมยังสำลักน้ำจนน้ำตาเล็ด มือขาวๆ ยกขึ้นมาดันแว่นขึ้นเล็กน้อย(แว่นมันไม่หลุดรึไงนั่นตอนร่วงลงมา//ไรท์) พอหยุดสำลักน้ำก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

              "เฮ้อ~ โชคดีแฮะที่ข้างล่างเป็นน้ำ ถ้าเป็นพื้นดินล่ะก็ไม่รอดแหง"มาริพูดขึ้นพลางจับแว่นของตัวเอง"คิดๆ ดูแล้วร่างนี้ก็สะดวกดีแฮะ ตัวเบาหวิว บินได้ด้วย แถมแว่นนี่ก็ไม่หลุดอีก วิเศษไปเลย

              อืม…

              ดูท่าเธอจะลืมไปเรียบร้อยแล้วว่าเมื่อกี้เธอเพิ่งตกลงมาใส่หัวใครบางคน

              "อะไรของแกน่ะฮะ!?"

              เสียงตวาดดังมาจากข้างหลัง ทำเอามาริในร่างเอมอนก้าสะดุ้งเฮือก ถึงตอนนี้เธอจะอยู่ในร่างของโปเกมอนก็เถอะ แต่คำว่า'แก'นี่ไม่ว่าจะฟังยังไงก็ไม่ใช่คำสรรพนามที่อยากได้ยินเลยแม้แต่น้อย

              มาริเหลียวหลังกลับไปมองทางต้นเสียง เห็นเพียงเจ้าโปเกมอนปลาสีส้มที่ทำท่าเหมือนพยายามจะกอดอกมองมาด้วยท่าทางเอาเรื่อง

              "อ..อะไรเหรอ0^0?"

              "ไม่ต้องมา'อะไรเหรอ'เลยนะ! จู่ๆ ก็ร่วงลงมากระแทกหัวคนอื่น คำขอโทษสักคำก็ไม่มี!"

              "......"

              มาริสตั้นไปราวๆ สามวิ

              นี่เธอกำลังโดนคอยคิงตวาดใส่อยู่เรอะ!?

              ที่สำคัญกว่านั้น..

              "พ..พูดได้ด้วย!?"

              "ก็พูดได้น่ะสิ!"

              "อ..เอ๋..เอ๊!!?"สมองของมาริมึนตึ้บจนไม่อาจประมวลผลได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอฟังภาษาของโปเกมอนตัวอื่นนอกจากเอมอนก้าไม่ออกเลยแท้ๆ มาตอนนี้กลับได้ยินเสียงของคอยคิงอย่างชัดเจน"ได้ไงเนี่ย?"

              "บุ๋มๆๆ บุ๋มๆ กรรร!!"

              "หุบปากไป!"

              คอยคิงกับเกียราดอสตัวอื่นๆ ในบึงส่งเสียงร้องกันดังสนั่น แต่กลับถูกคอยคิงผู้แปลกแยกตวาดใส่จนทำอะไรไม่ได้นอกจากนิ่งเงียบ มาริเริ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย น่าแปลก? เธอเข้าใจในสิ่งที่คอยคิงที่ทำท่าคล้ายกำลังกอดอกพูด แต่กลับฟังในสิ่งที่ตัวอื่นๆ พูดไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย

              เพราะอะไรกันนะ?

              มาริพยายามตั้งใจมองคอยคิงตรงหน้าเพื่อหาความแตกต่างระหว่างคอยคิงนี้กับตัวอื่นๆ ภายในบึง และแล้ว นัยน์ตาสีดำภายใต้แว่นสายตาหนาเตอะก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

              รูปลักษณ์ภายนอกก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากคอยคิงทั่วไปเท่าไหร่นัก รูปร่างเหมือนปลาที่มีเกล็ดสีส้ม ริมฝีปากหนากับหนวดสองเส้นยาวลงมาดูตลกพิลึก ครีบอกและครีบหลังมีสีเหลืองลักษณะคล้ายมงกุฎ(นี่น่าจะเป็นที่มาของชื่อคอยคิงล่ะมั้ง) ส่วนครีบที่อยู่ข้างลำตัวมีสีขาว

              จากที่ดูๆ ไป ก็ไม่มีส่วนไหนต่างจากคอยคิงปกติเลยไม่ใช่รึไง?

              แต่จริงๆ แล้ว ความแตกต่างนั้นมองเห็นได้ง่ายมาก

              หากลองสังเกตดีๆ จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน นัยน์ตาของคอยคิงผู้แปลกแยกเป็นสีฟ้า ผิดกับตัวอื่นๆ ที่มักจะมีดวงตาสีดำ และที่ครีบขวาก็มีตราประทับรูปมงกุฎสีดำอยู่

              ลักษณะที่แตกต่างจากโปเกมอนปกติ ภาษาที่แม้จะเป็นคนละสายพันธุ์ก็ยังสื่อสารกันรู้เรื่อง ผิดกับตัวอื่นๆ ในที่ราบโพนิที่คุยกันไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย

              จู่ๆ คำพูดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของมาริ

              [จงเอาชีวิตรอดในโลกโปเกมอนนี้ และตามหาผู้ที่มาจากโลกอื่นเช่นเดียวกับเธออีกเก้าคน หนึ่งในเก้าคนนี้เป็นมนุษย์ ส่วนแปดคนที่เหลือก็มีชะตากรรมเดียวกันกับเธอ]

              ถ้าสิ่งที่เธอคิดอยู่ในตอนนี้ถูกต้องล่ะก็

              "ร..หรือว่าจะ--"

              "ยังไม่ขอโทษอีกเหรอ!?"

              คอยคิงขึ้นเสียงใส่ด้วยความเกรี้ยวกราด มาริเริ่มมีความคิดที่ว่าถ้าคอยคิงนี่เป็นคนจริงๆ ล่ะก็ คงเป็นผู้หญิงที่อยู่ในวันนั้นของเดือนเป็นแน่ ถึงได้ดูเกรี้ยวกราดถึงขนาดนั้น

              เอ่อ..จะว่าไป ก็ยังไม่ได้ขอโทษเรื่องที่ตกลงมาใส่เต็มๆ เลยนี่นะ

              รอบนี้เธอเป็นฝ่ายผิดเต็มๆ เลยด้วย

              ขอโทษก่อนน่าจะดีกว่าแฮะ

              "อ่า..ขอโทษจริงๆ นะที่ตกลงมาใส่ มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ"มาริกล่าวขอโทษ"อืม..ขอถามอะไรหน่อยได้รึเปล่า?"

              "อะไรอีกล่ะ?"

              คอยคิงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์นัก

              "คือว่า..คุณน่ะ มาจากโลกอื่นใช่มั้ย หมายถึงว่า โลกมนุษย์น่ะ"

              "!?"

              คอยคิงผู้มีตราประทับที่ครีบขวาดูท่าทางตกใจอย่างเห็นได้ชัด

              "ทำไมถึงได้!?....ดูท่าเราคงมีเรื่องให้คุยกันอีกเยอะเลยสินะ"

              ดูท่าคอยคิงจะเข้าใจสถานการณ์แล้ว มาริเริ่มมีความหวังขึ้นมา จากปฏิกิริยาแล้ว ไม่ผิดแน่นอน คอยคิงนี้คือผู้ร่วมชะตากรรมตามที่เสียงปริศนานั่นบอกมาแน่ๆ 

              มีเรื่องให้คุยกันอีกเยอะเลยจริงๆ

    .

    .

    .

              "งั้น..บอกมาซิว่าที่นี่มันคือที่ไหนกันแน่ มีแต่ตัวอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด"

              คอยคิงเปิดประเด็น

              "อ่า..ฉันไม่แน่ใจเรื่องสถานที่เท่าไหร่หรอกนะ แต่เท่าที่ดูจากบรรยากาศกับโปเกมอนแถวนี้ก็..รู้สึกเหมือนจะเป็นสวนดอกไม้โพนิล่ะมั้ง?"

              "โปเกมอน…"คอยคิงเงียบไปพักหนึ่ง"อะไรล่ะนั่น ไม่เห็นจะเคยได้ยินเลย"

              "ม..ไม่เคยได้ยิน!?"มาริดูท่าทางตกใจไม่น้อย"ไม่เคยได้ยินเลยจริงๆ เหรอ!? มันเป็นชื่อของอนิเมะเรื่องหนึ่งยังไงล่ะ! แต่ก็มีเกมกับมังงะด้วยนะ เป็นอนิเมะที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่าโปเกมอนล่ะ ทุกตัวน่ะน่ารักสุดๆ ไปเลยแถมยังเก่งด้วย"

              "สรุปย่อๆ ก็คือการ์ตูนเด็กปัญญาอ่อน?"

              "ไม่ใช่การ์ตูนเด็กปัญญาอ่อนสักหน่อยนะ!"

              "งั้นตอนนี้พวกเราก็อยู่ในโลกของโปเกมอนอะไรนั่น แถมยังกลายเป็นหนึ่งในพวกมันงั้นเหรอ บ้าไปแล้ว ฉันต้องฝันไปแน่ๆ"

              "เอ่อ..ถ้าเป็นฝันจริงๆ ฉันคงไม่เจอคนอื่นในความฝันแบบนี้หรอกนะ-_-;"

              "......."

              "นี่มันบ้าไปแล้ว! เจ้าเสียงปริศนานั่น ส่งฉันมาโลกบ้าๆ นี่ยังไม่พอ ทำให้ฉันเป็นปลาโง่ๆ แถมบังคับให้เล่นเกมบ้าบอนี่อีก! ถ้าเจอตัวจะเอาคืนให้สาสมเลย!!"

              'คุณเสียงปริศนา หนีไป๊!!'

              มาริคิดในใจ เพลิงโทสะของคอยคิงช่างร้อนแรงเหลือเกิน ถ้าได้เจอกับคุณเสียงปริศนาจริงๆ มีหวังฝั่งหนังโดนท่าไม้ตายหมัดรัวคอยคิงซัดเดี้ยงแหง

              "อ่า..แต่แบบนี้คงไม่ทันการแหงเลย เพิ่งหาได้แค่คนเดียงเอง ต้องเผื่อเวลาไปเกาะอื่นๆ ด้วย เวลาสิบวันนี่ออกจะน้อยไปหน่อยแฮะ"

              "ว่าไงนะ!? สิบวัน!?"

              คอยคิงดูตกใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มาริเอียงคอด้วยความสงสัย

              "อ้าว? ไม่รู้หรอกเหรอ?"

              "เจ้าเสียงปริศนานั่นไม่เห็นจะบอกอะไรฉันเลย! บอกแค่ว่า'ยินดีต้อนรับสู่เกมของฉัน พยายามเอาชีวิตรอดในโลกที่ไม่รู้จักพร้อมกับหาเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกเก้าคน' ไม่เห็นจะบอกเรื่องสิบวันนั่นเลย!!"

              [โอ๊ะ! โทษที ฉันลืมบอก]

              เสียงปริศนาดังก้องเข้ามาในหัวของทั้งสองคน

              'ลืมบอกเนี่ยนะ เชื่อเขาเลย คุณเสียงปริศนาต้องเป็นคนแบบไหนเนี่ย

              "อย่ามาล้อกันเล่นนะ!!? นี่ลืมบอกเรื่องสำคัญขนาดนี้ได้ยังไงกัน!?"

              คอยคิงเอาหางฟาดน้ำกระจายด้วยความหงุดหงิด ตะโกนถามเสียงปริศนาที่เดี๋ยวมาเดี๋ยวหาย แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง--เอ้ย! ไม่ใช่แล้ว!

              เสียงปริศนาได้เงียบหายไป เหลือเพียงเสียงตะโกนอย่างอารมณ์เสียของคอยคิง

              "นี่แค่ส่งฉันมาเป็นปลาโง่ๆ ยังสนุกไม่พอใช่มั้ย!? ปั่นหัวฉันมันสนุกนักรึไงกัน! เออสิ! ฉันเป็นแค่ปลาโง่ๆ สินะ! ปลาโง่ๆ!!"

              'หวา..ดูอารมณ์เสียสุดๆ ไปเลยแฮะ'

              มาริพยายามนึกหาวิธีให้คอยคิงตรงหน้าใจเย็นลงก่อน และในที่สุด เธอก็นึกอะไรบางอย่างออก

              "น่าๆ อย่าอารมณ์เสียไปเลยนะ รู้อะไรรึเปล่า? ตัวที่คุณเป็นอยู่น่ะคือ'ปลาราชา คอยคิง'เชียวนะ! ไม่ว่าใครก็อยากหามาครอบครอง เป็นโปเกมอนที่แข็งแกร่งและสูงศักดิ์ดั่งราชาเลย!"

              เธอพูดไปแบบนั้น

              "ตัวแบบนี้เนี่ยนะ?"

              คอยคิงผู้มีตราประทับมองอย่างไม่เชื่อใจนัก นัยน์ตาหรี่ลงด้วยความเคลือบแคลง

              "จริงๆ นะ!"

              มาริรีบพยักหน้า

              ซะที่ไหนเล่า!!?

              ที่พูดไปนั่นโกหกทั้งเพ ถึงที่บอกว่าเป็นปลาราชาจะเป็นความจริงก็เถอะ ไม่ว่าใครก็อยากหามาครอบครองอะไรนั่น แค่ตกได้เจ้าปลาตัวนี้ก็พาลให้อารมณ์เสียจนไม่อยากตกปลาต่อแล้ว แข็งแกร่งและสูงศักดิ์ดั่งราชาอะไรกัน อ่อนแอสุดๆ ปลาทองยังเก่งกว่าเลย ความสูงศักดิ์ดั่งราชาก็ไม่มีเลยแม้เพียงเศษเสี้ยว เรื่องความห่วยของมันนี่เป็นที่เลื่องลือไปไกล ขนาดคนที่รู้จักโปเกมอนเพียงแค่เล็กน้อยยังรู้ถึงความห่วยของมันเลย

              แต่ถ้าคนที่อยู่ในร่างคอยคิงนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโปเกมอนเลยก็โชคดีไป

              "จะยอมเชื่อสักหน่อยก็ได้ แค่ตอนนี้เท่านั้นนะ"

              "เฮ้อ~"

              มาริลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเชื่อเรื่องความสุดยอดของปลาราชาที่เธอพูดเมื่อกี้ถึงได้ดูอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็หยุดฟาดหางแล้ว

              "โอ๊ะ! ไหนๆ ก็ได้เจอเพื่อนร่วมชะตากรรมทั้งที ยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนี่นะ"มาริพูดพลางดันแว่นขึ้น"ฉันชื่อโฮชินามิ มาริ อายุสิบสี่ มาจากญี่ปุ่นล่ะ"

              "...ควีเน็ตต้า เอสเทลล์ อายุสิบเจ็ด"

              "เอ๊ะ!? แก่กว่-- เอ้ย! อายุมากกว่าหรอกเหรอ!?"

              "เมื่อกี้จะพูดว่าฉันแก่เหรอยะ!?"

              "ม..ไม่ช่ายยยย ไม่ใช่แก่แบบนั้น! หมายถึงว่าอายุมากกว่าน่ะ"

              "งั้นเหรอ..รอดไป ฉันคิดว่าคุณจะพูดประมาณว่า'แก่กว่าที่คิด'หรืออะไรทำนองนั้น"

              "อะ..แล้วเอสซังมาจากประเทศอะไรเหรอ?"

              "เอสซัง?"

              ควีเน็ตต้าพูดย้ำอย่างสงสัยเมื่อได้ยินชื่อที่อีกฝ่ายเรียกตน

              "เอ๋? ก็ชื่อเอสเทลล์ไม่ใช่หรอกเหรอ? เพราะงั้นก็เลยเรียกว่าเอสซัง"

              "ใช่ซะที่ไหน"ควีเน็ตต้ากุมขมับ"ประเทศคุณอาจจะเอานามสกุลขึ้นก่อนชื่อ แต่ที่อังกฤษมันไม่ใช่แบบนั้น เอสเทลล์เป็นนามสกุลของฉัน ส่วนชื่อก็คือควีเน็ตต้า เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้รึไง"

              "เอ๊ะ? แบบนั้นหรอกเหรอ? ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย"

              "......"

              ควีเน็ตต้ารู้สึกเพลียกับเพื่อนร่วมชะตากรรมตรงหน้า ดูเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร คงพึ่งพาได้ยาก ทั้งๆ ที่คนที่วิเคราะห์ที่อยู่ปัจจุบันของตนได้ด้วยการสังเกตรอบๆ ข้างก็คือเด็กที่ชื่อมาริที่อยู่ในร่างของตัวอะไรสักอย่างที่คล้ายๆ กับกระรอกบินแท้ๆ ทำไมความรู้รอบตัวของโลกเก่าถึงได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้กัน

              "อ่า ปัดเรื่องนั้นทิ้งไปก่อน ไปตามหาอีกแปดคนกันเถอะควีนซัง"

              "ขอปฏิเสธ"

              "เอ๊ะ!? ทำไมล่ะ"

              "แหกตาดูซะสิ!"

              "อะ.."มาริเริ่มมองร่างคอยคิงของควีเน็ตต้าอีกครั้ง"จริงสิ ไม่มีขาก็เลยขึ้นบกไม่ได้นี่นะ"

              มารินั่งคิดไปพักหนึ่ง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร สมองของเธอถึงคิดเรื่องที่อยู่เหนือสามัญสำนึกของมนุษย์ทั่วไปออก

              "งั้นก็กระโดดไปสิ0^0"

              "กระโด--หา!!?"

              ควีเน็ตต้าตกตะลึงกับความคิดของเพื่อนร่วมชะตากรรม

              "พูดบ้าๆ! แค่กระโดดขึ้นจากบึงนี่ยังทำไม่ได้เลย! อีกอย่างถ้าไม่มีน้ำฉันก็ตายไม่ใช่รึไง!?"

              "เอ๋? พูดอะไรน่ะ ถึงไม่มีน้ำคอยคิงก็ไม่ตายหรอกนะ"มาริเอียงคอ"อย่างมากก็แค่ดิ้นกะแด่วๆ เอง"

              "......."แดร๊กจุด

              "แล้วก็นะ คอยคิงน่ะมีพลังกระโดดสุดยอดอยู่แล้ว บางตัวกระโดดไปบินคู่กับเรควาซ่าบนอวกาศยังได้เลย"

              "......."แดร๊กจุดX2

              ควีเน็ตต้าเริ่มรู้สึกอยากจะหาอะไรมาฟาดหัวคน(เอมอนก้า)ตรงหน้าสักที ไหงความคิดแต่ละอย่างมันถึงได้พิลึกเกินความเข้าใจ กระโดดออกไปในอวกาศเนี่ยนะ ได้ก็แย่แล้ว! 

              "ไม่รู้ล่ะ! แต่ฉันจะไม่ทำอย่างที่คุณพูดเด็ดขาด เพราะงั้นถ้าจะตามหาอีกแปดคนก็ไปคนเดียวเถอะ"

              "ง่า..ไปคนเดียวก็ได้"

              มาริพูดพลางเริ่มกางปีก

              "อ๊ะ! จะว่าไป ควีนซัง ช่วยอะไรหน่อยสิ"

              "อะไรอีก?"

              "ช่วยขอร้องเกียราดอสตรงนั้นให้สร้างลมส่งฉันขึ้นไปทีได้มั้ย พอดีว่าเอมอนก้ามันมีข้อเสียตรงที่ต้องใช้ลมกับที่สูงๆ ช่วยในการบินน่ะ พูดให้ถูกก็คือการร่อนล่ะนะ"

              "เกียราดอส?"

              "ก็เจ้าตัวยาวๆ สีฟ้าๆ ปากอ้านั่นไงล่ะ"

              "...เจ้าปลาไหล(?)นั่นสินะ ยุ่งยากจริง"ควีเน็ตต้าหันไปมองเจ้าเกียราดอสตัวหนึ่งในบึง"นี่!! แกน่ะ!!"

              "!?"

              เกียราดอสที่ถูกเรียกถึงกับสะดุ้ง

              "สร้างลมขึ้นมาทีซิ! ขอแบบแรงที่สุดเท่าที่ร่างกายโง่ๆ ของแกจะทำได้"

              เกียราดอสถึงกับหงอ มันยอมทำตามที่เธอบอกอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพียงครู่เดียวก็มีกระแสลมรุนแรงพัดร่างมาริให้ลอยขึ้นไป มาริมองมายังภาพที่คอยคิงกำลังข่มเกียราดอสด้วยความตะลึง ตอนนี้เธอเริ่มจะคิดว่าควีเน็ตต้าคล้ายกับเจ๊ใหญ่แถวบ้านหรืออะไรทำนองนั้น

              อ่า แต่อย่างน้อยก็มีลมส่งให้แล้วล่ะนะ

              "ขอบคุณนะเจ๊--เอ้ย! ควีนซัง!"

              มาริโบกมือบ๊ายบายกลางอากาศ ก่อนจะใช้ปีกร่อนออกไป ทิ้งให้ควีเน็ตต้าเงยหน้ามองจากในบ่อน้ำ

              เดี๋ยวนะ..

              "เมื่อกี้เรียกใครว่าเจ๊กันน่ะฮะ!!!?"

    .

    .

    .

              "อืม…"

              บนฟากฟ้าของเกาะใหญ่ มาริอาศัยแรงลมในการร่อนไปมา ดูท่าเธอจะเริ่มบินได้คล่องแล้ว การร่อนกลางอากาศของเธอถือว่าดีขึ้นมากเลยทีเดียว

              "พอรู้หลักการก็บินได้ง่ายขึ้นแฮะ โปเกมอนเนี่ยสะดวกจัง"

              เธอพูดขึ้นมาลอยๆ

              มาริเริ่มคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ถึงการตามหาเพื่อนร่วมชะตากรรมจะสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็เถอะ แต่ไหนๆ ตอนนี้เธอก็เป็นโปเกมอนอยู่นี่นา มีหลายอย่างเลยที่เธออยากลองทำดู

              อย่างเช่น

              "แล้วตอนนี้ฉันจะปล่อยไฟฟ้าได้แบบในอนิเมะรึเปล่านะ?"

              ระหว่างที่คิดอยู่นั่นเอง มาริเผลอยกมือขึ้นไปถูกับแก้มสีเหลืองโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว

              เปรี๊ยะ!

              "เอ๊ะ?"

              กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจากแก้มสู่มือของเธอ ด้วยความประหลาดใจ เธอจึงลองยกมืออีกข้างขึ้นแตะแก้ม โดยที่มืออีกข้างหนึ่งยังคงค้างอยู่ที่แก้มอยู่

              และเพราะทำแบบนั้น ปีกของเธอจึงหุบลง

              แล้วก็…

              "เหวอ!!!!?"

              มาริกรีดร้องลั่น เพราะเผลอหุบปีกทำให้ในตอนนี้เธอกำลังร่วงลงพื้นด้วยความเร็วสูง ด้วยความตกใจทำให้เธอเผลอเอามือลูบแก้มจนเกิดกระแสไฟฟ้าเปรี๊ยะๆ ปกคลุมทั่วร่าง ดิ่งลงพื้นไปทั้งๆ อย่างนั้น

              ในขณะเดียวกัน ณ ป่าโพนิ(Poni Grove)

              ป่าเขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ บรรยากาศร่มรื่นชวนให้คิดว่าที่นี่ช่างเหมาะกับการปิกนิกเสียจริง เหล่าโปเกมอนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ที่นี่เองก็อยู่กันอย่างสงบ ไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวหรือระรานใคร

              ย้ำว่า"บางส่วน"นะ

              "ก็บอกว่าอย่าเข้ามาไงโว้ย!!!!"

              เสียงตะโกนลั่นของเด็กหนุ่มดังไปทั่วทั้งป่า ในขณะที่เขากำลังวิ่งหนีฝูงเดคากูสที่ไล่ตามมาในระยะกระชั้นชิด เรือนผมสีดำสะบัดไปตามการเคลื่อนไหว ดวงตาสีฟ้าครามเหลียวกลับไปมองฝูงโปเกมอนบ้าคลั่งเป็นระยะ เขาพยายามเร่งฝีเท้าเพื่อที่จะสลัดเจ้าพวกนั้นให้หลุด แต่พวกมันก็ยังคงวิ่งตามเขาอย่างไม่ลดละ

              "-ิบหาย! ทางตัน!"

              เขาสบถ รีบหยุดเท้าของตนไว้ก่อนที่จะชนกับโขดหินขนาดใหญ่ตรงหน้า ทำยังไงดีล่ะ? ข้างหน้าก็ตัน ข้างหลังก็มีฝูงโปเกมอน นี่จะไม่เปิดโอกาสให้รอดเลยรึไงกัน!?

              "เหวอ!!!?"

              "?"

              ในระหว่างที่กำลังคิดหาหนทางรอด ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากเบื้องบน เมื่อเงยหน้าขึ้นมอวก็เห็นก้อนอะไรบางอย่างร่วงลงมาจากฟากฟ้า

              เปรี๊ยะ!! ตูม!!!

              "เดค้า!!?"

              เจ้าก้อนที่ร่วงลงมาจากฟ้าปกคลุมร่างด้วยกระแสไฟฟ้าแรงสูง มันตกลงมากลางวงของเดคากูส ช็อตพวกมันทั้งฝูงจนสลบเหมือด เด็กหนุ่มมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง พลันเจ้าก้อนก็โผล่หัวออกมาเผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริง

              "อูย..เจ็บๆๆ นึกว่าจะตายซะแล้ว"กระรอกบินร้องโอดโอย"โชคดีแฮะที่มีเดคากูสมาเป็นเบาะร้องพอดี แต่ก็น่าสงสารแฮะ ขอโทษจริงๆ นะ"

              "....?"

              เด็กหนุ่มยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก เขามองเจ้าเอมอนก้าที่ร่วงลงมาด้วยความประหลาดใจ

              "อ..เอมอนก้า..ใช้โวลต์แทคเกอร์(Volt tackle)เรอะ!?

              "หา? เพ้ออะไร ใช้ได้ซะที่ไหนเล่า"

              "แม่มพูดได้ด้วย!!?=[]="

              เด็กหนุ่มล้มลงก้นจ้ำเบ้าเมื่อเห็นว่าเอมอนก้าตัวนี้พูดภาษามนุษย์ได้

              "เอ๊ะ? เป็นไรอะ?"

              "นี่ฉันต้องฝันอยู่แน่ๆ เอมอนก้าจะใช้โวลต์แทคเกอร์ได้ยังไง นั่นมันท่าเฉพาะตระกูลจูนะ แล้วโปเกมอนบ้าอะไรใส่แว่นแถมพูดภาษาคนได้ อ..เนียสแก๊งร็อคเก็ตก็พูดได้นี่หว่า แต่นี่มันไม่ใช่โลกอนิเมะนะโว้ย!! นี่มันโลกโปเกมอนจักรวาลไหนวะเนี่ย!?"

              เด็กหนุ่มพึมพำอยู่คนเดียว ก่อนจะเริ่มโวยวาย

              "เดี๋ยวสิ เป็นอะไรมากมั้ยเนี่--เอ๊ะ?"

              "อ.."

              "โลกอนิเมะ จักรวาลโปเกมอน..หรือว่านายจะเป็น../โปเกมอนพูดได้ รูปร่างต่างจากตัวปกติ หรือว่าจะเป็น.."

              "เพื่อนร่วมชะตากรรมเรอะ!?X2"

    .

    .

    .

    โปรดติดตามตอนต่อไป

    -*-*-*-*-*-*-*-

    เสร็จแว้ว~

    ในที่สุดตอนที่ 2 ก็เสร็จ

    ทิ้งช่วงจากตอนที่ 1 นานพอสมควรเลย

    ตอนแรกกะว่าจะแต่งให้จบก่อนเปิดเทอม แต่ก็ไม่ทันแล้วแหละ

    ยังไงก็จะพยายามแต่งให้จบก่อนเดือนกันยานะคะ

    สำหรับตอนนี้ก็มีควีเน็ตต้ากับใครอีกคนหนึ่งออกมาแล้ว หากหลุดคาร์มากเกินไปคุณผู้ปกครองก็คอมเมนต์บอกได้เน้อ

    แล้วก็ เท่าที่ไรท์ดู เรื่องนี้อาจจะมีมากกว่า 10 ตอนนะคะ อาจจะเป็น 12-15 ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เท่าที่ร่างๆ ดูนี่ก็เกิน 10 แน่ๆ

    อ้อ ไม่รู้ว่าทุกคนเห็นกันรึยัง แต่ว่า

    เรื่องนี้มีปกใหม่แล้วววว

    //จริงๆ ก็มีนานแล้วแหละเนอะ

    แต่เพิ่งแก้วันนี้=^=;

    มีทุกๆ คนอยู่บนปกด้วยล่ะ~

    ถึงจะไม่ใช่ร่างมนุษย์ก็เถอะ-^-;

    อืม ไม่มีอะไรแล้ว งั้นวันนี้ไรท์ไปล่ะน้า มีอะไรก็คอมเมนต์บอกได้เน้อ คอมเมนต์พูดคุยกันเฉยๆ ก็ได้ ไรท์ไม่กัดอยู่แล้ว

    บ๊ะบาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×