ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตร้าย...ทำนายรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : คดีปริศนา ตอน ๑ บทที่ ๒

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ค. 56


    - บท ๒ -

    ที่สำนักงานลิขิตฟ้า...

    หลังจากแขกทั้งหมดทะยอยลากลับไปทีละคนสองคน   คงเหลือแต่ฉัตรพิสุทธ์นั่งเฝ้าหน้าสำนักงานลิขิตฟ้า  อย่างหงอยๆ แต่เพียงผู้เดียว    หล่อนวางใบหน้าสวยๆ อย่างหงอยเหงานั้นไว้บนฝ่ามือทั้งสองข้าง  ที่เท้าเกยอยู่บนโต๊ะทำงาน  พลางแหงนเงยหน้าไปมองนาฬิกาที่แขวนไว้บนฝาผนัง   ห้าโมงสี่สิบห้านาที   แล้ว   

    แต่...ยังไม่มีใครโผล่หน้าเข้ามาเลยสักคน !   

    หญิงสาวนึกถึงพิธีการเมื่อเช้า  แล้วก็อดถอนหายใจอย่างเซ็งๆ  ขึ้นมาเสียมิได้...

    พิธีเปิดสำนักงานของฉัตรพิสุทธ์ในช่วงเช้าเป็นไปอย่างเรียบง่าย    หล่อนกับบิดาเชิญพระสงฆ์มาสวดให้พร และเจิมหน้าสำนักงานให้เพียงอย่างเดียว     เนื่องจากฉัตรพิสุทธ์ต้องการที่จะปกปิดมารดา   หญิงสาวจึงตัดสินใจบอกก็แต่เฉพาะเพื่อนที่สนิทจริง ๆ เท่านั้น    

    ในขณะที่พิธีการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว    ตอนนี้นี่เอง...ที่อุรชารีบหันไปถามแคตตี้อย่างอดรนทนไม่ได้ขึ้นมา  

    “ นี่  ท่านพระครูท่านไม่ถามหรือว่า  ทำไมหล่อนถึงเลือกเปิดสำนักงานเอาฤกษ์ผานาทีนี้ เวลา ๘ นาฬิกา ๐๘ นาที  แล้วแถมยังเป็นฤกษ์เพชรฆาตซะด้วย...  ชั้นว่ามันแปลกๆ อยู่นา  แล้วชั้นพอจะทราบมาว่าฤกษ์นี้มันแรงนัก  ยังงี้...เค้าเรียกว่าให้ฤกษ์บังคับมาเลยนะเนี่ย ! 

    “ ช่าย ชั้นก็ว่ามันแปลกๆ อยู่นา ”  แคตตี้ถามอย่างสงสัยเพราะเพิ่งจะสังเกตเห็นเวลาของฤกษ์เปิดสำนักงานมันช่างทะแม่งๆ  แล้วแถมยังเปิดวันที่ ๘ เดือน ๘ ซะอีก

    “ ท่านพระครูก็สงสัยอยู่ว่าหาฤกษ์จากที่ไหน?  แต่ก็ไม่ว่าอะไรมาก  ท่านฝากเตือนพ่อไว้แค่ว่าทำอะไรให้ดูให้ดีก่อน  จะได้ไม่เดือดร้อนภายหลัง ”  ฉัตรพิสุทธ์ตอบเพื่อนแววตายังแฝงแววกังวลอยู่จนปิดไม่มิด

    “ กลัวอะไรว้า  ถ้าไม่รอดอย่างน้อยพ่อของหล่อนก็เศรษฐีคนหนึ่ง  ยังไงก็เลี้ยงลูกสาวคนเดียวได้อยู่แล้วล่ะ   ตำแหน่งผู้จัดการโรงสีข้าวก็ยังรออยู่ ”  แคตตี้หยอกเพื่อนเล่น

    “ บ้า แคตตี้นี่ ”  อุรชาเอ็ดหล่อนเบาๆ   “ วันนี้วันดี เค้าห้ามพูดแบบนี้ เดี๋ยวเสียฤกษ์หมด”

    “ ใช่ยัยแคตตี้ปากเสียไม่เข้าเรื่อง ”  ฉัตรพิสุทธ์อดแหย่หล่อนกลับไม่ได้  แคตตี้เม้มปากขึงตา ฉัตรพิสุทธ์เองก็ใช่ย่อยทำท่าขยับมือจะตีเพื่อน เล่นเอาอุรชาที่ยืนอยู่กลางต้องร้องห้ามพลางส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

    “ ที่ยัยฉัตรมันเปิดสำนักงานกระทันหันในวันนี้  เป็นเพราะมันไปท้าทายกับเจ้า...”   แคตตี้เปิดฉากรายงานอุรชาที่เพิ่งกลับมาจากอังกฤษ  จึงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาด้วย   แต่ฉัตรพิสุทธ์รีบเอามือไปตะครุบปากหล่อนเอาไว้เสียทัน

    “ อุ๊บส์  อะไรยะ”  แคตตี้เอ่ยห้ามพลางปัดป้องฉัตรพิสุทธ์ที่เอาแต่ดึงแขนพลางส่งสายตาเป็นสัญญาณห้ามแคตตี้พูดอะไรออกมาอีก !

    “ ฉัตร  มีอะไรก็บอกเถอะ เผื่อเราจะได้ช่วยเหลือกันได้  หล่อนไม่เห็นชั้นเป็นเพื่อนซี้แล้วรึไง ”

    “ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก  พ่อกะแม่ชั้นเขาไม่ค่อยเห็นด้วยที่ชั้นจะเปิดสำนักงานดูหมอดูแบบนี้   ขนาดตอนนี้นะ   แม่ของชั้นเองก็ยังไม่รู้เลย  เพราะพ่อกะชั้นปิดท่านเอาไว้ ”

    “ แล้วอีกอย่าง...  ชั้นไปรับปากกับพ่อไว้ว่าชั้นต้องมีลูกค้าวันแรกที่เปิดสำนักงานรับดูไพ่ยิปซีให้ได้    ถ้าชั้นทำไม่ได้ตามคำพูด  พ่อก็คงไม่เชื่อถือชั้นแล้วก็อาจจะสั่งปิดสำนักงานของชั้นก็ได้ ” 

    ประโยคหลังหล่อนคิดเอาเองว่า   ถ้าหล่อนทำไม่สำเร็จบิดาของหล่อนก็คงจะไม่ยอมจ่ายค่าเช่า  และค่าใช้จ่ายสำนักงานต่างๆ ของหล่อนต่อไปอีกเป็นแน่ !

    “ ชั้นก็เลย...หาหนทางใดก็ได้  ที่จะทำให้ชั้นหาลูกค้าคนแรกให้ได้ภายในวันนี้    ก็พอดียัยแคตตี้มันไปรู้ข่าวมาว่ามีแม่หมอให้ฤกษ์เจ๋งมาก  สามารถที่จะให้ฤกษ์บังคับได้  ถ้าลูกค้าต้องการอย่างไร...ก็ต้องได้อย่างนั้นเลย 

    “ โถ  ยัยฉัตร  ทำไมไม่บอกชั้น  หล่อนก็ดูไพ่ยิปซีให้พวกชั้นก่อนก็ได้นี่   ถ้าชั้นยอมเป็นลูกค้าให้หล่อนวันนี้  หล่อนก็ไม่เห็นจะผิดคำพูดกับพ่อตรงไหนเลย  จริงไหม ”  อุรชาออกความคิดอย่างยิ้มๆ

    “ ไม่ด้าย  ชั้นยกเว้นว่า...เพื่อนๆ ของชั้นไม่ใช่ลูกค้านี่นา ”  ฉัตรพิสุทธ์ส่ายหน้าดิกๆ เพื่อนของหล่อนก็พอทราบว่าหล่อนยึดถือคำพูดเป็นอย่างมาก

    “ แล้วหล่อนจะทำอย่างไรต่อไป  ถ้าวันนี้ไม่มีลูกค้าอื่นเลย...สักราย !  แคตตี้ถามอย่างดักคอ

    ---------------------------------

    ฉัตรพิสุทธ์เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานอย่างเพลียๆ  ตาปรือหลังจากที่งีบหลับไปนาน   

    เฮ้อ  ฉัตรพิสุทธ์ถอนหายใจยาวอย่างเบื่อหน่าย   อีกเพียงสิบห้านาทีก็จะถึงเวลาปิดสำนักงานแล้ว   แต่จนแล้วจนรอด...  ฉัตรพิสุทธ์ก็ยังไม่มีลูกค้าหลงเข้ามาที่สำนักงานของหล่อนเลยสักราย   นี่ขนาดหล่อนเลื่อนเวลาปิดไปจนเกือบจะทุ่มแล้ว   แต่ก็ยังไม่มีใครเดินเข้ามาทักทายที่สำนักงานของหล่อนแม้สักคน...   ฉัตรพิสุทธ์นั่งเลื่อนเก้าอี้ล้อหมุนที่มีผนักพิงสูงไปมาอย่างเซ็งๆ

    นี่ถ้าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ทุกๆ วัน   บิดาของหล่อนคงต้องเรียกไปคุยเพื่อให้หล่อนปิดสำนักงาน  แล้วกลับไปบ้านที่สุพรรณ  ไปช่วยบิดาดูแลกิจการโรงสีข้าวอย่างเดิมเป็นแน่แท้

    หล่อนหาวหวอดๆ ออกมาอีกไม่รู้ว่าเป็นกี่ครั้งต่อกี่ครั้งอย่างเบื่อหน่ายเป็นที่สุด   นี่ชั้นหาวเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย   หล่อนคิดกับตัวเองพลางนับนิ้วมาไปมาอย่างเบื่อหน่ายเต็มที 

    ไม่รู้ล่ะ  ยังไงๆ  ถ้าไม่มีลูกค้าวันนี้  ยายเจ้าแม่ตัวแสบที่ให้ฤกษ์มาจะต้องรับผิดชอบสำนักงานของชั้นอย่างถึงที่สุด  หล่อนคิดอย่างโมโหตัวเองเลยพาลไปโมโหยายแม่มดนั่นเข้าให้ซะด้วยเลย

    ฮึ  คอยดูนะชั้นจะเตรียมขี้ใส่ไปให้เต็มถุงเลย   คราวนี้ยัยเจ้าแม่ให้ฤกษ์นั่น...จะได้รู้ฤทธิ์เดชของชั้นบ้าง  หล่อนคิดอย่างเคียดแค้นเต็มที่    ยิ่งพอนึกถึงตอนที่หล่อนถูกหิ้วปีกโยนออกมานอกร้านหมอดูอย่างหมดท่า  ฉัตรพิสุทธ์ก็ยิ่งมีอารมณ์ฉุนเฉียวมากขึ้น   

    คนบ้าอะไรวะ...เรี่ยวแรงเยอะชะมัด   บีบแขนชั้นซะจนกระดูกกระเดี้ยวแทบจะหักหมดตัว  คอยดูเถอะแม่จะป่าวประกาศไปให้ทั่วเลยว่า  ยัยเจ้าแม่นั่นเป็นนักต้มตุ๋นหลอกลวงตัวยง

    “ โอเค ๆ  วันแรกไม่มีลูกค้าก็ไม่เป็นไร  วันนี้พอแค่นี้ก่อน  เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมานั่งเฝ้ากันใหม่ก็ได้ ”  ฉัตรพิสุทธ์พูดพึมพำอยู่คนเดียวพลางลุกขึ้นยืน  แล้วคว้ากระเป๋ายีนส์ใบเก่งที่วางอยู่ข้างๆ ตัวขึ้นมาสะพาย  หันรีหันขวางเพราะไม่รู้จะทำอะไรตามลำดับก่อนหลังดี  

    อ้อ   ชั้นต้องปิดสำนักงานซินะ !   หล่อนหยิบลูกกุญแจประตูหน้าที่ร้อยเป็นพวงรวมกับลูกกุญแจอื่นๆ อีกหลายสิบดอก   เดินออกไปที่ประตูสำนักงานอย่างไม่ลืมที่จะปิดสวิตซ์ไฟและแอร์อย่างเคยชิน

    เฮ้อ !  เอาเป็นว่าฟาวล์ไปวันนี้...ไม่เป็นไร     หล่อนถอนหายใจยาวพรึด   แล้วออกแรงดึงประตูกระจกทั้งสองด้านงับเข้าหากันเสียงดังแกร๊ก      ขณะที่...ฉัตรพิสุทธ์กำลังง่วนอยู่กับการล้วงกระเป๋าเพื่อหยิบลูกกุญแจขึ้นมาไขประตูปิดอยู่นั้น

    “ เดี๋ยวก่อน  ฉัตร !

    ฉัตรพิสุทธ์ชะงักเมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวรายหนึ่งตะโกนดังๆ  มาจากทางด้านหลัง  ฉัตรพิสุทธ์กลอกตาไปมาอย่างสงสัย   มือที่กำลังจะไขกุญแจปิดประตูค่อยๆ ลดลงโดยอัตโนมัติ

    เสียงใครกัน... หรือว่าจะเป็นลูกค้า?

    หล่อนหันควับกลับไปตามยังต้นเสียง  พลางกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างสงสัย  แต่แล้วก็ต้องตกใจ  เมื่อจ๊ะเอ๋เข้ากับใบหน้าขาว ๆ  ที่ยืนอยู่ในระยะประชิดตัวเข้าให้อย่างจัง !

    “ อุ๊ยตาย !  นึกว่าใคร...ที่แท้ก็เอมนี่เอง ”    ฉัตรพิสุทธ์ยกมือขึ้นทาบอกร้องทักเพื่อนเก่าเสียงดังอย่างตื่นเต้น    เอมอรเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับฉัตรพิสุทธ์  ตั้งแต่สมัยที่หล่อนยังเรียนประถมอยู่ที่โรงเรียนในอำเภอสองพี่น้องจังหวัดสุพรรณบุรีนั่นเอง

    “ นี่ฉัตรจะปิดสำนักงานแล้วเหรอ   รอก่อนได้มั๊ย ?   เอมมีเรื่องด่วนต้องการจะมาปรึกษาฉัตรด่วนเลย   ขอโทษนะที่มาเอาจนป่านนี้ ”    เอมอรทำหน้าตาเลิ่กลั่ก  หล่อนคว้าข้อมือของฉัตรพิสุทธ์ไว้แน่น  เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะไขกุญแจปิดประตู

    “ เอมตามหาสำนักงานของฉัตร...อยู่ตั้งนาน  กะว่าจะให้ฉัตรดูดวงให้เอมอีกสักครั้ง  คราวนั้นฉัตรดูดวงเอมเอาไว้แม่นมากๆ ”

    “ ห๋า !  ตามหาสำนักงานฉัตรพิสุทธ์เนี่ยนะ ?”  หล่อนทวนคำอย่างงุนงง... เป็นไปได้ยังไงเนี่ย  หล่อนไม่เคยบอกใครเลยว่าจะเปิดสำนักงานดูดวง   

    เอ  หรือว่า...ชั้นจะเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาเสียแล้ว   โห... นี่เราโด่งดังขนาดนี้เลยเชียวหรือ !  หึ ๆ  ไม่เอาน่า  ฉัตรพิสุทธ์    นี่ถ้าเราโด่งดังจริงๆ  แล้ว   ชั้นจะวางตัวยังไงดีเนี่ย    หญิงสาวแอบยิ้มอย่างภาคภูมิใจอยู่ลึกๆ 

    ขณะที่หล่อนกำลังวาดวิมานในอากาศด้วยหัวใจพองโตคับอกอยู่นั่นเอง....  จู่ๆ  หัวใจที่พองโตของหล่อนก็ต้องมีอันหดแฟบจนเหลือนิดเดียว   เมื่อหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันผู้นั้นเอ่ยอีกประโยคถัดมาอีก...

    “ จริงๆ  ก็ฉัตรลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ว่ารับทำนายไพ่ยิปซีไงล่ะ”

    แป่ว  ฉัตรพิสุทธ์หุบยิ้มแทบไม่ทัน    อ้าวเป็นงั้นไป...  แล้วใครกันมันช่วยไปลงโฆษณาให้เราล่ะเนี่ย    สงสัยแม่แคตตี้ตัวดี...จะแอบไปบอกนักข่าวเพื่อนเก่าแก่ของหล่อนให้ช่วยลงโฆษณาให้หล่อนเป็นแน่ !

    เฮ้อ   แหม  นึกว่าเราดังแล้วซะอีก    หล่อนแอบถอนหายใจยาวอย่างเซ็งๆ    แต่เอาเถอะ  ก็ยังดี... ยังไงวันนี้เราก็ยังมีลูกค้ารายแรกไว้คุยกับพ่อได้ก็แล้วกัน

    “ เอมเห็นชื่อของฉัตรประกาศเปิดสำนักงานดูดวงวันแรกวันนี้  พอดีเอมมีธุระด่วนที่สำคัญมาก  อยากให้ฉัตรช่วยดูดวงให้เอมที...เรื่องแฟนน่ะ   แล้วเอมจะจ่ายค่าครูให้อย่างงามเลย ”  เอมอรทำสีหน้าสีตาอย่างอ้อนวอนเต็มที่  หล่อนขยับร่างยื่นหน้าเข้ามาชิดฉัตรพิสุทธ์เข้าไปอีก  พร้อมกับเน้นคำว่า  ค่าครูอย่างงาม  เสียงดังฟังชัดทีเดียว

    “ ได้สิ จะเป็นไรไป ”   หล่อนตอบยิ้มๆ  กับเอมอรที่ยืนประชิดตัวอยู่ตรงหน้า   ฉัตรพิสุทธ์เพิ่งสังเกตเห็นว่าวันนี้เอมอรดูเปลี่ยนไปจากเดิม  ที่เคยเป็นหญิงสาวสวยคมเข้มราศีคุณนายจับมาแต่ไกล  แต่มาตอนนี้ดูหล่อนผ่ายผอมลงไปเล็กน้อย     หน้าตาแม้ยังคงความสวยงามอยู่ก็จริง  แต่ราศีที่บริเวณหน้าผากกลับดูหมองคล้ำยังไงชอบกล !

    “ โชคดีจัง  นึกว่าเราจะมาไม่ทันเสียแล้ว ”  เอมอรจับไม้จับมือหล่อนบีบแน่นอย่างดีใจ 

    ฉัตรพิสุทธ์ก็อยากจะตอบหล่อนใจจะขาดว่า...  จริงๆ แล้วหล่อนอยากจะบอกว่าหล่อนเองก็โชคดีที่ได้เอมอรเป็นลูกค้ารายแรกในวันนี้เหมือนกัน 

    แต่ยังไม่ทันอ้าปากพูดอะไรออกมา   เอมอรก็ชิงพูดตัดหน้าขึ้นมาเสียก่อน

    “ ดีนะ...ที่ฉัตรไม่มีธุระไปที่ไหนต่อ  ไม่งั้นล่ะก็เอมมาเสียเที่ยวแน่เลย ”   

    “ เอาเป็นว่า  เดี๋ยวเราเข้าไปข้างในก่อนดีกว่า... แล้วค่อยคุยกันต่อ     ฉัตรพิสุทธ์อดยิ้มในใจเสียไม่ได้  หึ ๆ   ถึงจะมีธุระที่ไหน... ชั้นก็จะแคนเซิลจนหมดนั่นแหละ  เพราะยังไงๆ  ฉัตรพิสุทธ์ก็ไม่มีวันปล่อยให้ลูกค้ารายแรกของวันนี้หลุดมือไปได้อย่างเด็ดขาด!’

    -------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×