คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คดีปริศนา ตอน ๑ บทที่ ๒
- บท ๒ -
ที่สำนักงานลิขิตฟ้า...
หลังจากแขกทั้งหมดทะยอยลากลับไปทีละคนสองคน คงเหลือแต่ฉัตรพิสุทธ์นั่งเฝ้าหน้า ‘ สำนักงานลิขิตฟ้า ’ อย่างหงอยๆ แต่เพียงผู้เดียว หล่อนวางใบหน้าสวยๆ อย่างหงอยเหงานั้นไว้บนฝ่ามือทั้งสองข้าง ที่เท้าเกยอยู่บนโต๊ะทำงาน พลางแหงนเงยหน้าไปมองนาฬิกาที่แขวนไว้บนฝาผนัง ‘ ห้าโมงสี่สิบห้านาที ’ แล้ว
แต่...ยังไม่มีใครโผล่หน้าเข้ามาเลยสักคน !
หญิงสาวนึกถึงพิธีการเมื่อเช้า แล้วก็อดถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ขึ้นมาเสียมิได้...
พิธีเปิดสำนักงานของฉัตรพิสุทธ์ในช่วงเช้าเป็นไปอย่างเรียบง่าย หล่อนกับบิดาเชิญพระสงฆ์มาสวดให้พร และเจิมหน้าสำนักงานให้เพียงอย่างเดียว เนื่องจากฉัตรพิสุทธ์ต้องการที่จะปกปิดมารดา หญิงสาวจึงตัดสินใจบอกก็แต่เฉพาะเพื่อนที่สนิทจริง ๆ เท่านั้น
ในขณะที่พิธีการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นี่เอง...ที่อุรชารีบหันไปถามแคตตี้อย่างอดรนทนไม่ได้ขึ้นมา
“ นี่ ท่านพระครูท่านไม่ถามหรือว่า ทำไมหล่อนถึงเลือกเปิดสำนักงานเอาฤกษ์ผานาทีนี้ เวลา ๘ นาฬิกา ๐๘ นาที แล้วแถมยังเป็นฤกษ์เพชรฆาตซะด้วย... ชั้นว่ามันแปลกๆ อยู่นา แล้วชั้นพอจะทราบมาว่าฤกษ์นี้มันแรงนัก ยังงี้...เค้าเรียกว่าให้ฤกษ์บังคับมาเลยนะเนี่ย ! ”
“ ช่าย ชั้นก็ว่ามันแปลกๆ อยู่นา ” แคตตี้ถามอย่างสงสัยเพราะเพิ่งจะสังเกตเห็นเวลาของฤกษ์เปิดสำนักงานมันช่างทะแม่งๆ แล้วแถมยังเปิดวันที่ ๘ เดือน ๘ ซะอีก
“ ท่านพระครูก็สงสัยอยู่ว่าหาฤกษ์จากที่ไหน? แต่ก็ไม่ว่าอะไรมาก ท่านฝากเตือนพ่อไว้แค่ว่าทำอะไรให้ดูให้ดีก่อน จะได้ไม่เดือดร้อนภายหลัง ” ฉัตรพิสุทธ์ตอบเพื่อนแววตายังแฝงแววกังวลอยู่จนปิดไม่มิด
“ กลัวอะไรว้า ถ้าไม่รอดอย่างน้อยพ่อของหล่อนก็เศรษฐีคนหนึ่ง ยังไงก็เลี้ยงลูกสาวคนเดียวได้อยู่แล้วล่ะ ตำแหน่งผู้จัดการโรงสีข้าวก็ยังรออยู่ ” แคตตี้หยอกเพื่อนเล่น
“ บ้า แคตตี้นี่ ” อุรชาเอ็ดหล่อนเบาๆ “ วันนี้วันดี เค้าห้ามพูดแบบนี้ เดี๋ยวเสียฤกษ์หมด”
“ ใช่ยัยแคตตี้ปากเสียไม่เข้าเรื่อง ” ฉัตรพิสุทธ์อดแหย่หล่อนกลับไม่ได้ แคตตี้เม้มปากขึงตา ฉัตรพิสุทธ์เองก็ใช่ย่อยทำท่าขยับมือจะตีเพื่อน เล่นเอาอุรชาที่ยืนอยู่กลางต้องร้องห้ามพลางส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
“ ที่ยัยฉัตรมันเปิดสำนักงานกระทันหันในวันนี้ เป็นเพราะมันไปท้าทายกับเจ้า...” แคตตี้เปิดฉากรายงานอุรชาที่เพิ่งกลับมาจากอังกฤษ จึงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาด้วย แต่ฉัตรพิสุทธ์รีบเอามือไปตะครุบปากหล่อนเอาไว้เสียทัน
“ อุ๊บส์ อะไรยะ” แคตตี้เอ่ยห้ามพลางปัดป้องฉัตรพิสุทธ์ที่เอาแต่ดึงแขนพลางส่งสายตาเป็นสัญญาณห้ามแคตตี้พูดอะไรออกมาอีก !
“ ฉัตร มีอะไรก็บอกเถอะ เผื่อเราจะได้ช่วยเหลือกันได้ หล่อนไม่เห็นชั้นเป็นเพื่อนซี้แล้วรึไง ”
“ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก พ่อกะแม่ชั้นเขาไม่ค่อยเห็นด้วยที่ชั้นจะเปิดสำนักงานดูหมอดูแบบนี้ ขนาดตอนนี้นะ แม่ของชั้นเองก็ยังไม่รู้เลย เพราะพ่อกะชั้นปิดท่านเอาไว้ ”
“ แล้วอีกอย่าง... ชั้นไปรับปากกับพ่อไว้ว่าชั้นต้องมีลูกค้าวันแรกที่เปิดสำนักงานรับดูไพ่ยิปซีให้ได้ ถ้าชั้นทำไม่ได้ตามคำพูด พ่อก็คงไม่เชื่อถือชั้นแล้วก็อาจจะสั่งปิดสำนักงานของชั้นก็ได้ ”
ประโยคหลังหล่อนคิดเอาเองว่า ถ้าหล่อนทำไม่สำเร็จบิดาของหล่อนก็คงจะไม่ยอมจ่ายค่าเช่า และค่าใช้จ่ายสำนักงานต่างๆ ของหล่อนต่อไปอีกเป็นแน่ !
“ ชั้นก็เลย...หาหนทางใดก็ได้ ที่จะทำให้ชั้นหาลูกค้าคนแรกให้ได้ภายในวันนี้ ก็พอดียัยแคตตี้มันไปรู้ข่าวมาว่ามีแม่หมอให้ฤกษ์เจ๋งมาก สามารถที่จะให้ฤกษ์บังคับได้ ถ้าลูกค้าต้องการอย่างไร...ก็ต้องได้อย่างนั้นเลย ”
“ โถ ยัยฉัตร ทำไมไม่บอกชั้น หล่อนก็ดูไพ่ยิปซีให้พวกชั้นก่อนก็ได้นี่ ถ้าชั้นยอมเป็นลูกค้าให้หล่อนวันนี้ หล่อนก็ไม่เห็นจะผิดคำพูดกับพ่อตรงไหนเลย จริงไหม ” อุรชาออกความคิดอย่างยิ้มๆ
“ ไม่ด้าย ชั้นยกเว้นว่า...เพื่อนๆ ของชั้นไม่ใช่ลูกค้านี่นา ” ฉัตรพิสุทธ์ส่ายหน้าดิกๆ เพื่อนของหล่อนก็พอทราบว่าหล่อนยึดถือคำพูดเป็นอย่างมาก
“ แล้วหล่อนจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าวันนี้ไม่มีลูกค้าอื่นเลย...สักราย !” แคตตี้ถามอย่างดักคอ
---------------------------------
ฉัตรพิสุทธ์เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานอย่างเพลียๆ ตาปรือหลังจากที่งีบหลับไปนาน
‘ เฮ้อ ’ ฉัตรพิสุทธ์ถอนหายใจยาวอย่างเบื่อหน่าย อีกเพียงสิบห้านาทีก็จะถึงเวลาปิดสำนักงานแล้ว แต่จนแล้วจนรอด... ฉัตรพิสุทธ์ก็ยังไม่มีลูกค้าหลงเข้ามาที่สำนักงานของหล่อนเลยสักราย นี่ขนาดหล่อนเลื่อนเวลาปิดไปจนเกือบจะทุ่มแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครเดินเข้ามาทักทายที่สำนักงานของหล่อนแม้สักคน... ฉัตรพิสุทธ์นั่งเลื่อนเก้าอี้ล้อหมุนที่มีผนักพิงสูงไปมาอย่างเซ็งๆ
นี่ถ้าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ทุกๆ วัน บิดาของหล่อนคงต้องเรียกไปคุยเพื่อให้หล่อนปิดสำนักงาน แล้วกลับไปบ้านที่สุพรรณ ไปช่วยบิดาดูแลกิจการโรงสีข้าวอย่างเดิมเป็นแน่แท้
หล่อนหาวหวอดๆ ออกมาอีกไม่รู้ว่าเป็นกี่ครั้งต่อกี่ครั้งอย่างเบื่อหน่ายเป็นที่สุด ‘ นี่ชั้นหาวเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย ’ หล่อนคิดกับตัวเองพลางนับนิ้วมาไปมาอย่างเบื่อหน่ายเต็มที
‘ ไม่รู้ล่ะ ยังไงๆ ถ้าไม่มีลูกค้าวันนี้ ยายเจ้าแม่ตัวแสบที่ให้ฤกษ์มาจะต้องรับผิดชอบสำนักงานของชั้นอย่างถึงที่สุด ’ หล่อนคิดอย่างโมโหตัวเองเลยพาลไปโมโหยายแม่มดนั่นเข้าให้ซะด้วยเลย
‘ ฮึ คอยดูนะชั้นจะเตรียมขี้ใส่ไปให้เต็มถุงเลย คราวนี้ยัยเจ้าแม่ให้ฤกษ์นั่น...จะได้รู้ฤทธิ์เดชของชั้นบ้าง ’ หล่อนคิดอย่างเคียดแค้นเต็มที่ ยิ่งพอนึกถึงตอนที่หล่อนถูกหิ้วปีกโยนออกมานอกร้านหมอดูอย่างหมดท่า ฉัตรพิสุทธ์ก็ยิ่งมีอารมณ์ฉุนเฉียวมากขึ้น
‘คนบ้าอะไรวะ...เรี่ยวแรงเยอะชะมัด บีบแขนชั้นซะจนกระดูกกระเดี้ยวแทบจะหักหมดตัว คอยดูเถอะแม่จะป่าวประกาศไปให้ทั่วเลยว่า ยัยเจ้าแม่นั่นเป็นนักต้มตุ๋นหลอกลวงตัวยง ’
“ โอเค ๆ วันแรกไม่มีลูกค้าก็ไม่เป็นไร วันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมานั่งเฝ้ากันใหม่ก็ได้ ” ฉัตรพิสุทธ์พูดพึมพำอยู่คนเดียวพลางลุกขึ้นยืน แล้วคว้ากระเป๋ายีนส์ใบเก่งที่วางอยู่ข้างๆ ตัวขึ้นมาสะพาย หันรีหันขวางเพราะไม่รู้จะทำอะไรตามลำดับก่อนหลังดี
อ้อ ชั้นต้องปิดสำนักงานซินะ ! หล่อนหยิบลูกกุญแจประตูหน้าที่ร้อยเป็นพวงรวมกับลูกกุญแจอื่นๆ อีกหลายสิบดอก เดินออกไปที่ประตูสำนักงานอย่างไม่ลืมที่จะปิดสวิตซ์ไฟและแอร์อย่างเคยชิน
‘ เฮ้อ ! เอาเป็นว่าฟาวล์ไปวันนี้...ไม่เป็นไร ’ หล่อนถอนหายใจยาวพรึด แล้วออกแรงดึงประตูกระจกทั้งสองด้านงับเข้าหากันเสียงดังแกร๊ก ขณะที่...ฉัตรพิสุทธ์กำลังง่วนอยู่กับการล้วงกระเป๋าเพื่อหยิบลูกกุญแจขึ้นมาไขประตูปิดอยู่นั้น
“ เดี๋ยวก่อน ฉัตร !”
ฉัตรพิสุทธ์ชะงักเมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวรายหนึ่งตะโกนดังๆ มาจากทางด้านหลัง ฉัตรพิสุทธ์กลอกตาไปมาอย่างสงสัย มือที่กำลังจะไขกุญแจปิดประตูค่อยๆ ลดลงโดยอัตโนมัติ
‘ เสียงใครกัน... หรือว่าจะเป็นลูกค้า? ’
หล่อนหันควับกลับไปตามยังต้นเสียง พลางกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างสงสัย แต่แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อจ๊ะเอ๋เข้ากับใบหน้าขาว ๆ ที่ยืนอยู่ในระยะประชิดตัวเข้าให้อย่างจัง !
“ อุ๊ยตาย ! นึกว่าใคร...ที่แท้ก็เอมนี่เอง ” ฉัตรพิสุทธ์ยกมือขึ้นทาบอกร้องทักเพื่อนเก่าเสียงดังอย่างตื่นเต้น เอมอรเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับฉัตรพิสุทธ์ ตั้งแต่สมัยที่หล่อนยังเรียนประถมอยู่ที่โรงเรียนในอำเภอสองพี่น้องจังหวัดสุพรรณบุรีนั่นเอง
“ นี่ฉัตรจะปิดสำนักงานแล้วเหรอ รอก่อนได้มั๊ย ? เอมมีเรื่องด่วนต้องการจะมาปรึกษาฉัตรด่วนเลย ขอโทษนะที่มาเอาจนป่านนี้ ” เอมอรทำหน้าตาเลิ่กลั่ก หล่อนคว้าข้อมือของฉัตรพิสุทธ์ไว้แน่น เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะไขกุญแจปิดประตู
“ เอมตามหาสำนักงานของฉัตร...อยู่ตั้งนาน กะว่าจะให้ฉัตรดูดวงให้เอมอีกสักครั้ง คราวนั้นฉัตรดูดวงเอมเอาไว้แม่นมากๆ ”
“ ห๋า ! ตามหาสำนักงานฉัตรพิสุทธ์เนี่ยนะ ?” หล่อนทวนคำอย่างงุนงง... เป็นไปได้ยังไงเนี่ย หล่อนไม่เคยบอกใครเลยว่าจะเปิดสำนักงานดูดวง
‘ เอ หรือว่า...ชั้นจะเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาเสียแล้ว โห... นี่เราโด่งดังขนาดนี้เลยเชียวหรือ ! หึ ๆ ไม่เอาน่า ฉัตรพิสุทธ์ นี่ถ้าเราโด่งดังจริงๆ แล้ว ชั้นจะวางตัวยังไงดีเนี่ย ’ หญิงสาวแอบยิ้มอย่างภาคภูมิใจอยู่ลึกๆ
ขณะที่หล่อนกำลังวาดวิมานในอากาศด้วยหัวใจพองโตคับอกอยู่นั่นเอง.... จู่ๆ หัวใจที่พองโตของหล่อนก็ต้องมีอันหดแฟบจนเหลือนิดเดียว เมื่อหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันผู้นั้นเอ่ยอีกประโยคถัดมาอีก...
“ จริงๆ ก็ฉัตรลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ว่ารับทำนายไพ่ยิปซีไงล่ะ”
‘ แป่ว ’ ฉัตรพิสุทธ์หุบยิ้มแทบไม่ทัน อ้าวเป็นงั้นไป... แล้วใครกันมันช่วยไปลงโฆษณาให้เราล่ะเนี่ย สงสัยแม่แคตตี้ตัวดี...จะแอบไปบอกนักข่าวเพื่อนเก่าแก่ของหล่อนให้ช่วยลงโฆษณาให้หล่อนเป็นแน่ !
‘ เฮ้อ แหม นึกว่าเราดังแล้วซะอีก ’ หล่อนแอบถอนหายใจยาวอย่างเซ็งๆ ‘ แต่เอาเถอะ ก็ยังดี... ยังไงวันนี้เราก็ยังมีลูกค้ารายแรกไว้คุยกับพ่อได้ก็แล้วกัน ’
“ เอมเห็นชื่อของฉัตรประกาศเปิดสำนักงานดูดวงวันแรกวันนี้ พอดีเอมมีธุระด่วนที่สำคัญมาก อยากให้ฉัตรช่วยดูดวงให้เอมที...เรื่องแฟนน่ะ แล้วเอมจะจ่ายค่าครูให้อย่างงามเลย ” เอมอรทำสีหน้าสีตาอย่างอ้อนวอนเต็มที่ หล่อนขยับร่างยื่นหน้าเข้ามาชิดฉัตรพิสุทธ์เข้าไปอีก พร้อมกับเน้นคำว่า ‘ค่าครูอย่างงาม’ เสียงดังฟังชัดทีเดียว
“ ได้สิ จะเป็นไรไป ” หล่อนตอบยิ้มๆ กับเอมอรที่ยืนประชิดตัวอยู่ตรงหน้า ฉัตรพิสุทธ์เพิ่งสังเกตเห็นว่าวันนี้เอมอรดูเปลี่ยนไปจากเดิม ที่เคยเป็นหญิงสาวสวยคมเข้มราศีคุณนายจับมาแต่ไกล แต่มาตอนนี้ดูหล่อนผ่ายผอมลงไปเล็กน้อย หน้าตาแม้ยังคงความสวยงามอยู่ก็จริง แต่ราศีที่บริเวณหน้าผากกลับดูหมองคล้ำยังไงชอบกล !
“ โชคดีจัง นึกว่าเราจะมาไม่ทันเสียแล้ว ” เอมอรจับไม้จับมือหล่อนบีบแน่นอย่างดีใจ
ฉัตรพิสุทธ์ก็อยากจะตอบหล่อนใจจะขาดว่า... จริงๆ แล้วหล่อนอยากจะบอกว่าหล่อนเองก็โชคดีที่ได้เอมอรเป็นลูกค้ารายแรกในวันนี้เหมือนกัน
แต่ยังไม่ทันอ้าปากพูดอะไรออกมา เอมอรก็ชิงพูดตัดหน้าขึ้นมาเสียก่อน
“ ดีนะ...ที่ฉัตรไม่มีธุระไปที่ไหนต่อ ไม่งั้นล่ะก็เอมมาเสียเที่ยวแน่เลย ”
“ เอาเป็นว่า เดี๋ยวเราเข้าไปข้างในก่อนดีกว่า... แล้วค่อยคุยกันต่อ ” ฉัตรพิสุทธ์อดยิ้มในใจเสียไม่ได้ ‘ หึ ๆ ถึงจะมีธุระที่ไหน... ชั้นก็จะแคนเซิลจนหมดนั่นแหละ เพราะยังไงๆ ฉัตรพิสุทธ์ก็ไม่มีวันปล่อยให้ลูกค้ารายแรกของวันนี้หลุดมือไปได้อย่างเด็ดขาด!’
-------------------------------------
ความคิดเห็น