ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเหล่าอลวนคนจิตป่วน

    ลำดับตอนที่ #1 : พระราชา(ฝึกหัด)

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 49



    บทที่
    1 พระราชาฝึกหัด

     

                    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  ณ เกาะลอยฟ้าเหนือกรุงเทพมหานคร ฯที่ไม่เคยพบในพงศาวดารฉบับใดๆหรือตรวจพบด้วยดาวเทียมค้างฟ้าเครื่องไหน    ยังมีอาณาจักเล็กๆแห่งหนึ่งดำรงอยู่อย่างลับๆ   เคียงคู่กับประเทศไทยเรื่อยมาประดุจเงาที่ซ่อนเร้นอยู่ในความมืด   ไม่มีใครสนใจ   ไม่มีใครคิดจะค้นหา   เป็นเมืองลับแลที่น้อยคนนักจะได้ย่างกลายเข้าไป    มีผู้เฒ่าผู้แก่บางคนเท่านั้นที่เคยเห็น ชาวโมโมเน่อซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนั้นลงมาเที่ยวเล่นบนพื้นดิน   อาณาจักร โมเม้นท์ ยังคงอยู่จนบัดนี้


                   
    อาณาจักรถูกปกครองด้วยอำนาจ
    บูรณาญาสิทธิราชตลอดมา    ผู้ปกครองจะมีตำแหน่งเป็น  พระราชา   สืบทอดบัลลังก์ด้วยสายเลือด    รุ่นต่อรุ่น    ถึงกระนั้นพระราชาทุกพระองค์ที่ขึ้นปกครองมาก็ต่างพระปรีชาสามารถครบถ้วนไปด้วยความสง่างามและชาญฉลาด    ยกเว้นพระราชาฝึกหัดคนล่าสุดของราชวงศ์


                   
    พระราชาแจนาฟเพคะ   กรุณาอยู่นิ่งๆเสียมั่งเถิด    อย่าให้พวกนางในต้องวิ่งตามเป็นเด็กๆแต่ก่อนเลยเสียงเอ็ดตะโรของสาวแก่ร่างท้วมดังขึ้น    นางกำลังวิ่งหอบหิ้วกระโปรงไล่ตามมา   เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลถลอกมอมแมมไปทั้งตัว    เพราะเครื่องแบบพระพี่เลี้ยงประจำส่วนพระองค์นั้นยาวลากพื้นและฟูฟ่องไม่เอื้ออำนวยต่อการวิ่งเลยซักนิดเดียว    เล่นเอาล้มหกเขมนหัวทิ่มหัวตำไปหลายรอบ


      
                  มันเป็นเรื่องดีที่นางได้รับตำแหน่งกิตติมศักดิ์เป็นถึงหัวหน้าพระพี่เลี้ยงประจำส่วนประองค์    แต่ก็โชคร้ายที่พระราชาพระองค์นี้กลับเป็นเด็กสาวอายุสิบห้าที่แสนซนและดื้อด้านที่สุดกว่าครั้งไหนๆ 
     

                    เราไม่ใช่นักโทษเสียหน่อย   เลิกตามเราซักทีได้ไหม เด็กสาวผมสีดำสนิทซอยสั้นวิ่งซอยเท้าบนโถงทางเดินอันยาวจนสุดสายตา   โดยมีคณะพระพี่เลี้ยงประจำพระองค์วิ่งตามกันมาเป็นพรวน   นำโดยมาริซ่าผู้เป็นหัวหน้าคณะ    ดวงตาสีนิลเข้มฉายแววร่างเริงและใสซื่อดุจเด็กเล็กๆ    สวมใส่อาภรณ์สีน้ำเงินขลิบด้วยไหมสีเงินอย่างดี    หากแต่มิใช่ในแบบที่สตรีผู้สูงศักดิ์ควรจะใส่   มันเป็นชุดที่ดัดแปลงมาจากเครื่องแบบหัวหน้าองครักษ์   ต่างกันตรงแค่เป็นกางเกงขาสั้นเท่านั้น   ถ้าไม่สังเกตเห็นมงกุฎสีทองใหญ่มหึมาบนศีรษะก็เหมือนเด็กกะโปโลทั่วๆไป


     
                  
    หยุดวิ่งพล่านเช่นนี้เสียทีเถิด    กระหม่อมวิ่งไม่ไหวแล้วนะเพคะ มาริซ่ากล่าวเสียงหอบ


     
                  
    เราไม่ได้บอกให้วิ่งตามเสียหน่อยแจนาฟแลบลิ้นล้อเลียน   พร้อมกับวิ่งนำห่างออกไปเลื่อยๆ  

                    ราวกับพระเจ้าเมตตาเอ็นดูสาวโสตสนิทสุดสวยเพรียวลม(ซะเมื่อไร)อย่างมาริซ่า    สุดปลายทางมีบุคคลผู้เป็นหนึ่งที่เดียวที่สามารถปราบพระราชาแสซนได้อยู่หมัดดักรออยู่   ราชองครักษ์ราฟาเอลไอดอลประจำราชวัง


     
                  
    ไอ๋หย๋า เด็กสาวอุทานออกมาเมื่อระจันหน้ากับคนตัวสูงที่อยู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้   - -อ๊ากกกกกกกกก   สิ่งมีชีวิตเต็มไปด้วยความเจิดจ้ากระแทกตาเลือดไหลซิบๆ   มาอยู่นี้ได้ไง - - แจนาฟกรีดร้องในใจ

     
                  
    จะวิ่งไปไหนรึฝ่าบาท ราฟาเอลก้มหัวคำนับตามขนบประเพณี


     
                  
    เรากำลังจะไปหาอยู่พอดีเลย

     
                  
    ฝ่าบาทมีกิจอันใดจะเรียกใช้กระหม่อมก็ทรงให้คนมาตามไปพบจะสะดวกกว่านะครับ

     
                  
    คุยกับเหมือนเดิมไม่ได้รึไง แจนาฟรีบหันหน้าหนีหลีกเลี่ยงจากการมองหน้าฝ่ายตรงข้ามทันที   - -เลือดกำดาวจะพุ่ง   ขอร้องทีเถอะอย่าทำหน้าตาดีใส่ได้ไหม   ยิ่งไอ้คำพูดแบบนั้นมันทำให้มันทำให้ความเจิดจ้าเพิ่มขึ้นไปอีก- -

      
                 
    กระหม่อมมิบังอาจ……”

      
                 
    เพื่อยุติการสนทนา    แจนาฟยกส้นเท้ากระแทกลงบนรองเท้าหนังสีดำมันวับสะท้อนเห็นรูขุมขนของฝ่ายตรงข้ามอย่างแรง   จนคนมาดนิ่งถึงกับทรุดลงไปนั่งพูดไม่ออก  ก็รองเท้าของเด็กสาวมันธรรมดาเสียที่ไหน     ดูเหมือนภายนอกเป็นเพียงแค่รองเท้าหนังตุ่นสีน้ำตาลธรรมดา   หากความจริงแล้วมันติดตั้งอุปกรณ์กลไกมากมายไว้ภายใน    จนรองเท้ามีน้ำหนักมากกว่าปกติหลายเท่า    ถ้าเป็นคนอื่นคงเดินเหินไม่ไหว    มีเพียงเจ้าของรองเท้าคู่นี้เท่านั้นที่ใช้มันเหมือนปกติ


     
                  
    น่าผิดหวังจริงๆ เด็กสาวกระชากคอเสื้อขององครักษ์   ถ้ารู้จักเราดีคงเดาออกนะว่า   เราจะทำอะไรต่อไป


     
                   องค์รักษ์หนุ่มสบตากับเด็กสาว    ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งผ่านประตูออกไป


     
                  
    โถ่ท่านราชองครักษ์ มาริซ่าวิ่งมาหยุดตรงตำแหน่งที่ชายหนุ่มนั่งอยู่   เหตุใดท่านถึงปล่อยพระราชาแจนาฟไปโดยมิกล่าวห้ามเลย


     
                  
    ข้าเป็นเพียงองครักษ์ธรรมดาเท่านั้น   คงมิอาจกล่าววาจาตำหนิติเตียนพระราชาได้หรอก

     
                  
    ถ้าเช่นนั้นคงไม่มีใครคุมพระราชาได้อีกแล้วนะซี มาริซ่าถอนหายในเฮือก   แล้วกันกลับไปกล่าวกับพระพี่เลี้ยงคนอื่นๆ   หยุดตามกันก่อน   ไว้รอพระราชากลับมาเสวยพระกายหารแล้วค่อยจับตัวมาลองชุดเจ้าบ่าวแล้วกัน เหล่าพี่เลี้ยงพยักหน้าตอบรับก่อนแยกย้ายไปทำหน้าที่ของใครของมันด้วยความเสียดาย    สายตาอาลัยอาวรณ์องครักษ์หนุ่มเต็มที่

     
                  
    มีเรื่องอะไรหรือครับ   วุ่นวายกันเชียว

     
                  
    อ่าวไม่ทราบหรือเจ้าคะว่า    จะมีการจัดพิธีอภิเษกระหว่างพระราชากับคู่หมั่นคู่หมายในอีกเจ็ดวันข้างหน้านี้     ท่านไปอยู่ที่แห่งใดมาถึงมิทราบเรื่อง

     
                   ราฟาเอลพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับทราบ     แต่ไม่ได้ตอบคำถามของหญิงร่างท้วมในตอนท้าย
      ชายหนุ่มตกอยู่ในห้วงแห่งความคิด    เขาควรทำเช่นไรดีกับพระราชาผู้แสนจะเอาแต่ใจ   


     
                   ช่วยเหลือ  หรือ  ขัดขวาง


     
                   มีสองทางให้เลือกเท่านั้น


     
                  
    การตัดสินใจของเขาครั้งนี้อาจทำลายสายสัมพันธ์อันแสนมีค่าระหว่างกันได้มลายสิ้น

      

    +-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+

     

                    ในค่ำคืนอันแสนเงียบสงบ    ดวงจันทร์ลอยเล่นอยู่บนท้องนภากว้างใหญ่อันไร้ดาวทอประกายแสงระยิบระยับประดับ    ผู้คนต่างหลับใหลเพลิดเพลินกับฝันที่แสนหวาน    ยกเว้นเหล่าทหารยามซึ่งยึดหมั่นในคำสั่งที่เคร่งครัด  และพระราชาแห่งนครบนเกาะลอยฟ้าแห่งนี้


     
                   แจนาฟนั่งทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง   ทั้งๆที่เปิดรับอ้าไว้   แต่สายลมอันบริสุทธิ์กลับไม่สามารถพัดผ่านเข้ามาได้    โหยหาอาวรณ์ดินแดนแสนกว้างใหญ่เบื้องล่าง    ชุดสีขาวถูกเย็บปักอย่างประณีตงดงามถูกมือผู้ต้องสวมใส่ขยำแน่นไม่ถนอม    ชุดแต่งงาน
    ในตอนนี้มีค่าเป็นเพียงแค่เศษผ้าขี้ริ้วที่น่ารำคราญ    มันจะมีความหมายอะไรถ้าหัวใจไม่ปรารถนา    อยากจะทำลายให้สิ้นซากเสียตรงนี้     หากไม่ติดที่ว่าถูกสอนมาให้รู้จักคุณค่าสิ่งของ


     
                   ไม่ว่าจะเป็นบานประตูหน้าต่าง   หรืออะไรก็แล้วที่สามารถทำให้สิ่งที่ชีวิตภายในเล็ดรอดออกไปล้วนแล้วแต่ถูกลงลงอาคมกั้นอาณาเขตไว้ทั้งสิ้น    พวกวิซาท์อาวุโสเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง
       เป็นความคิดที่แสนรอบครอบเสียจริงๆ    มาริซ่าคาดการณ์ไว้ถูกว่าเธอจะหนีงานแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน


     
                  
    คิดหรอว่าเขตอาคมแค่นี้จะกักเราไว้ได้


      
                  แจนาฟหัวเราะในคำคอ   พร้อมกับโยนชุดเจ้าสาวไปกองบนเตียง   แล้วคว้าเป้ขึ้นสะพายเตรียมออกเดินทาง   ถึงมาริซ่าจะเป็นคนฉลาด   แต่ยังไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับความเจ้าเล่ห์ของพระราชาแสนซนอยู่ดี   และอย่าคิดว่าพระราชาฝึกหัดซึ่งผิดแพลกไปจากรุ่นอื่นๆผู้นี้จะเก่งเวทย์ถึงขนาดทำลายเขตอาคมได้เหมือนกัน   ขนาดร่ายมนต์ธรรมดายังท่องไม่ได้เลย   อ่าว
    แล้วจะทำยังไงล่ะ


     
                   เด็กหญิงหยิบกุญแจผีออกมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมกับแสดงรอยยิ้มแห่งชัยชนะ   แม้ว่าประตูจะถูกลงอาคมไว้อย่างทนทาน  ไม่ว่าจะพังด้วยขีปนาวุธก็ยังไงก็ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน    แต่ยังไงก็ตาม   คนฉลาดเดินไปมักไม่รู้จักความคิดตื้นๆ  ไม่มีลูกไม้ใดๆเลย  ในเมื่อไม่สามารถพังด้วยแรงได้    ก็เปิดมันด้วยกุญแจเสียเลยซี   


     
                   แกร๊ก

                    ประตูไม้บานใหญ่ถูกไขออกมาอย่างง่ายได้   เด็กสาวค่อยๆแง้มประตูโฉงกหน้าออกไปมองทางเดิน   ไร้คนเงียบเฉียบเงียบเกินไป   หายไปไหนกันหมด   สงสัยไว้ใจในเขตอาคมน่าดู    ทีนี้จะได้หนีได้สบายๆ


     
                  
    จะไปไหนรึครับฝ่าบาท


     
                   ชายหนุ่มร่างสูงผู้ดำรงตำแหน่งราชองครักษ์โผล่พรวดออกมาจากเงามืดอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย   เล่นเอาคนถูกจับได้สะดุ้งโหยง


     
                  
    โผล่มาไม่ให้สุ่มให้เสียง   ตกใจหมด เด็กสาวถอนหายใจเฮือก   มาทำอะไรแถวนี้มิทราบ    ทำงานเสร็จแล้วรึไง


      
                 
    หน้าที่ของราชองครักษ์คือการดูแลความปลอดภัยของฝ่าบาท และควบคุมให้อยู่ในกฎเกณฑ์ ราฟาเอลเบี่ยงตัวขวางทางไว้


     
                  
    หมายความว่าไง?


     
                   ได้โปรดเสร็จกลับเข้าไปข้างในเถิด    แล้วอย่าคิดหนีไปไหนได้


     
                  
    ราฟา…” นัยน์ตาสีทองอำพันฉายแววผิดหวังออกมาเพียงเสี้ยววินาที   แล้วแปรเปลี่ยนเป็นความแข็งกระด้างในทันใด   กำปั้นจากความโทสะกระแทกท้องจนราชองครักษ์ผู้เที่ยงตรงถึงกับจุกจนพูดไม่ออก   และฉวยโอกาสหนี้วิ่งหนีสุดฝีเท้า   พร้อมกับหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ไม่มีวันเสียหรอกไอ้งูงี่เง่า


     
                  
    จะหนีไปไหนยัยบ้า ราฟาเอลหลุดปากออกมาโดยไม่รู้ตัว    เขาถีบตัวกระโจนเข้าไปจับตัวคนดื้อด้านไว้ได้ทัน


     
                  
    เหวย………………!!”


     
                   แรงดึงที่ไม่ทันตั้งตัวทำให้เด็กสาวเสียหลักหงายหลัง   จบลงตรงที่ราฟานอนราบกับพื้นพรมสีเลือดหมูโดนมีเธอนั่งทับอยู่ด้านบน   แจนาฟร้องกรี๊ดอยู่ในใจพร้อมกับรีบกระเทิบตัวเข้าไปซุกในมุมมืด


     
                  
    นี่เป็นอะไรไป   โรคเก่ากำเริบรึไง ราฟาถามออกมาอย่างหงุดหงิด


     
                   มันเป็นความลับระหว่างพระราชาฝึกหัดกับองครักษ์หนุ่มหน้าตาดี   เรื่องที่ 
    เธอเป็นโรคแพ้ผู้ชายเจิดจ้า   เข้าขั้นขยาดเข้าใกล้ไม่ได้   เห็นผู้ชายหน้าตาดีเป็นสิ่งน่าขยะแขยง    เป็นนิสัยอันแปลกประหลาดที่เจ้าตัวไม่คิดจะแก้ไข    เจอผู้ชายเจิดจ้าเป็นอันต้องหนีห่างโดยอัตโนมัติ    ถ้าอยู่ในรัศมีสองเมตรเป็นอันต้องรู้สึกหายใจไม่ออกราวกับปอดจะหยุดทำงาน    จนเมื่อมาเจอเขา   อาการยิ่งรุนแรง   ถึงขั้นเลือดกำดาวพุ่งกระฉูดเหมือนปืนฉีดน้ำมาแล้ว


     
                  
    ฮือฮือ แจนาฟร้องไห้กระซิกๆอยู่มุมเสา   ทำไมชีวิตเราต้องมาเจอนายด้วย    อิอิอิ


     
                  
    อย่าร้องไห้ด้วยใบหน้าแสยะยิ้มได้ไหม ราฟาเอลแจกมะเหงกไปหนึ่งที   เลือกเอาซักอย่าง   จะหัวเราะ   หรือร้องไห้


     
                  
    ก็เราดีใจอะ


     
                  
    ดีใจเรื่องอะไร


     
                    
    ก็ดีใจที่เรียกเราเหมือนเดิม แจนาฟครางออกมา ตั้งแต่ถูกยัดตำแหน่งพระราชาฝึกหัดให้ก็ไม่มีใครยอมเล่นกับเราเลย   ถ้าการเป็นผู้ปกครองต้องมีแต่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา    เราไม่เอาตำแหน่งนี้ยังดีกว่า   เราไม่ชอบ   ทุกคนทำตัวห่างเหินกันไปหมด


     
                   ราฟาเอลยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น   รับฟังความรู้สึกของสหายที่สูงศักดิ์  
    ยัยบ้าเอ๊ย    ทำไมไม่บอกแต่แรก


     
                  
    เหอะ   วันๆก็หมกอยู่แต่ห้องทำงาน   จะให้เจอตอนไหนล่ะ เด็กสาวย้อนกลับ   รู้ดีว่างานที่สุมหัวราฟาเอลยู่นั้นเป็นแผนของสนมเอกแทรอสผู้เปรียบเสมือนมารดาเทียมของเธอที่หวังแยกเขาออกห่าง    จะได้จัดการกับเธอได้ง่ายขึ้น   แล้วจะเอาไงต่อดีล่ะราฟา   หนีไปไหนดี   ไม่อยากแต่งงาน


     
                  
    อยู่ที่นี่เหมือนเดิมนั่นแหละ ราฟาเอลตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย งานอภิเษกยังต้องดำเนินต่อไป


     
                  
    ไปแต่งเองเดะ แจนาฟส่งเกือกปะทะหัวคนเถรตรงเหมือนไม้บรรทัดด้วยความฉุนเฉียว


     
                  
    ยัยลิงบ้า!!”เขาตะคอกกลับ  แล้วจะให้ทำยังไงกันเล่า    คิดหรอว่าจะหลบจากเงื้อมมือของสนมเอกแทรอสพ้นรึไง


     
                   พูดถึงชื่อนั้นแล้ว   ทั้งคู่ต่างทำท่าสลดวูบเข้าสู่มุมมืดตามเสาทันที    สนมเอกแทรอสติดอันดับต้นๆของบุคคลอันตรายประจำวัง   ถ้าเป็นไปได้ต้องหลีกเลี่ยงหนีห่างไปให้ไกล    ในสมองของนางสามารถคิดวิเคราะห์หาวิธีหลอกล่อให้คนมาเป็นหมาก เดินตามทางที่ต้องการได้เสมอ


                   
    พระราชาฝึกหัดถอนหายใจเฮือกใหญ่  
    ก็ได้ถ้านายอยากให้เป็นแบบนี้การแต่งงานอาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิด เด็กสาวรับคำโดยง่าย    สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆนอกจากความชินชา   การเป็นผู้ปกครองจำเป็นต้องตัดความรู้สึกทิ้งไป   เปลี่ยนเป็นตุ๊กตาที่เคลื่อนไหวด้วยฟันฟืนของหน้าที่   ที่จริงทางเลือกก็มีอยู่เหมือนกัน    เป็นทางสุดท้ายและทางเดียวที่สามารถรอดพ้นจากเงื้อมเมือของสนมเอก    ขนาดพระราชารุ่นก่อนยังคงตามหาตัวได้เธอยากนัก   แต่มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของใครบางคนเท่านั้น


     
                   ราฟาเอลเอื้อมมือไปผลักหัวคนข้างตัว  
    กลับเข้าไปนอนได้แล้ว

                    ไม่เอา   เราจะนั่งเป็นเพื่อน


     
                  
    อย่าบ้าน่า


     
                   ถึงแม้จะเป็นคำว่ากล่าว   แต่ก็ไม่ได้เป็นการปฏิเสธ     ถ้าทางเดินแห่งนี้สว่างขึ้นมาหน่อย    เด็กสาวคงได้เห็นรอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้างามของชายหนุ่มที่ห่างไปเพียงหนึ่งช่วงแขน   


     
                   ราฟาเอลเป็นชายหนุ่มร่างสูงเพรียวแต่พึ่งผาย    ผิวขาวเนียนอมชมพูน่าสัมผัสลูบไล้    มีดวงตาสีทองอำพันประดุจแร่อเมทิสที่แสนลึกลับชวนค้นหา    เส้นผมสีน้ำเงินหากสะท้อนแสงตะวันจะกลายเป็นประกายสีเขียวเข้มแสนแปลกประหลาด    แล้วยิ่งไว้ยาวถึงไหล่ละต้นคอทำให้ใบหน้าเบนไปในทางสตรีเพศมายิ่งขึ้นแลน่ามอง    จนสาวๆแต่งตั้งให้เป็นไอดอลประจำวังโดยไม่รู้ตัว 
     

                     ใช่จะเพียบพร้อมด้วยหน้าตา     แต่ยังมิได้ขาดความสามารถเลยแม้แต่น้อย   เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงราชองค์ลักษณ์ประจำตัวพระราชาที่ปกครองอาณาจักรอยู่ ณ ตอนนี้คู่กับแจนาฟ      ทั้งๆที่เด็กสาวเห็นเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจเนื่องด้วยปัจจัยโรคแพ้ผู้ชายเจิดจ้า      เลยทำให้เป็นทั้งคู่หูและคู่กัดกันมาก่อน     แม้จนบัดนี้เขาก็ยังต้องคู่กันอยู่แม้ว่าจะเปลี่ยนตำแหน่งจากสหายมาเป็นนายกับบ่าวแทน


     
                  
    ขอถามหน่อยได้ไหมราฟาเอลถามขึ้นทำลายความเงียบ


     
                  
    หืม คู่สนทนาตอบรับเสียงสูง


     
                  
    ไม่คิดหรือไงว่าถ้าอาณาจักรโมเม้นขนาดพระราชาขึ้นปกครองจะเดือดร้อนแค่ไหน


     
                  
    คิดซี   ถึงได้หนี’”


     
                   ราฟาเอลเบนหน้ามามองคนข้างตัวด้วยแววตาฉงนกับคำตอบที่ได้รับ
       

                    เด็กสาวมองไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย    ดวงตาสีนิลฉายแววครุ่นคิด   ก่อนตอบคำถามให้กระจ่าง  เราไม่เหมาะที่จะเป็นพระราชาหรอก   อยู่ไปก็เท่านั้น   มีแต่จะทำให้วุ่นวายเดือดร้อนไปเสียเปล่า    ทำอะไรก็ไม่ได้    ถึงเราจะติ๊งต๊องไม่รู้เรื่องรู้ราว   แต่เราก็ไม่อยากให้ตัวเองเป็นหุ่นกระบอกที่ถูกพวกขุนนางชั่วร้ายชักใยบงการให้ประชาชนเดือดร้อนหรอกนะ


     
                   องครักษ์หนุ่มเอนหลังพิงกำแพง    ครุ่นคิดกับคำตอบของอีกฝ่าย    ทำตอบที่คาดไม่ถึง

     

                    แล้วยิ่งต้องมาแต่งงานกับคู่หมั่นของท่านราชทายาทอีก    จะซวยไปกันใหญ่


      
                 
    จริงด้วย…” ราฟาสนับสนุน   เพราะคนที่จะมาเป็นราชินีต้องถูกคัดเลือดคัดสรรบุคคลที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและความสามารถมาเป็นคู่หมั่นของผู้ที่เป็นราชทายาทตั้งแต่วัยเยาว์     ถือว่าทั้งคู่ผูกพันฉันท์คนรักมานานนม     แต่แล้วอยู่ๆยัยบ้าอย่างเธอก็ดันมารับตำแหน่งเป็นพระราชาฝึกหัดตัดหน้าซะอย่างนั้น   จึงต้องเปลี่ยนจากคู่หมั่นของราชทายาทมาเป็นคู่หมั่นของเธอแทน    เป็นอันต้องพรากคู่รักออกจากกันเลยนะเนี่ย    บาปกรรมน่าดู


     
                  
    ประเด็นมันไม่ใช่ตรงนั้น แจนาฟตบพื้นพรมดังป๊าบ    ใบหน้าแสดงอาการวิตกกังวล   ที่สำคัญคู่หมั่นดันเป็นผู้หญิง


     
                  
    เออรู้แล้ว   ไม่มีคู่หมั่นของพระราชาคนไหนเป็นผู้ชายหรอก ราฟาเอลย้อน


     
                  
    ไอ้งูบ้า!!   ได้บรรลัยกันพอดี    ผู้หญิงแต่งงานกันเอง


     
                  
    ซวยไปแล้วกัน...ที่ดันเป็นพระราชาหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การปกครอง


     
                  
    ไม่ตลกเลยนะ แจนาฟสะบัดหน้าหนี


     
                  
    มันไม่น่าใช่เหตุผลหลักที่ทำให้คิดหนีหรอกมั้งชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆ   เธอไม่ได้เกลียดผู้หญิงเจิดจ้าอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง   ออกจะชอบมากด้วยซ้ำ     การแต่งงานกับผู้หญิงคงไม่มีปัญหาอะไร    ส่วนไอ้เรื่องกลัวถูกบงการยิ่งแล้วใหญ่   มันออกจะเกินจริงไปหน่อย    นิสัยเจ้าเล่ห์อย่างเธอน่าจะเป็นคนบงการคนอื่นเขามากกว่านะ   คายออกมาให้หมดเปลือกซะดีๆ  


     
                   แจนาฟชะงักทันที   ตัวแข็งทื่อไม่ขยับตัวเหมือนรูปปั้นปาติมากรรม
       - - คิดถูกเปล่าวะที่ดันให้ไอ้งูนี่กลับมาเป็นเหมือนเดิม    ทำตัวห่างเหินต่อไปน่าจะดีกว่าเป็นกอง- -


     
                  
    บอกมา…” คนได้เปรียบเค้นคำตอบจากอีกฝ่าย


     
                   เด็กสาวยิ้มแหยๆ 
     ไม่มีเหตุผลหรอก


     
                  
    ได้ข่าวว่ากำลังคลั่งนักแสดงที่ชื่อ จินกิ นิ


     
                   เฮือก
    !! คนถูกจี้ใจดำสะดุ้งสุดตัว    เหงื่อพรั่งพรูออกจากรูขุมขน  -- แสนรู้จริงๆไอ้งูบ้านี้   แต่ก็ยังไม่ฉลาดพออยู่ดี --


     
                  
    อยากลงไปหางั้นหรอหึหึหึ


     
                   ราฟาเอลเหยียดยิ้มมุมปากอย่างมีนัยน์       

       

    +-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+

     

     

                    เมื่อแสงตะวันสาดส่องอาบดินแดนลอยฟ้า   ผู้คนเริ่มตื่นจากนิทรารมย์ออกปฏิบัติหน้าที่ทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันตามปกติ    โดยเฉพาะในในพระราชวังที่แสนจะวุ่นวายถึงจะมีการเตรียมการมาเป็นอาทิตย์แล้วก็ตาม   ผืนผ้าสีขาวถูกประดับตกแต่งทั่วทั้งวัน    ดอกกุหลาบในแจกันใบงามผลิบานตลอดซอกทุกทางเดินใช้กลิ่นทรงเสน่ห์ดึงดูดคนที่สัญจรไปมา


     
                   ทุกอย่างเหมือนจะเป็นได้ด้วยดี   แทบไม่มีอะไรขัดข้อง   จนเมื่อมาริซ่าวิ่งกระหืดกระหอบไปทั่ววังด้วยความกระวนกระวาย


     
                  
    พระราชาแจนาฟหายไปแล้ว!!”  นางตะโกนลั่นอย่างอดกลั้นไม่ไหว ทหาร!! ไปตามท่านราชองครักษ์ราฟาเอลมาเร็ว


     
                  
    พระพี่เลี้ยงมาริซ่า   พวกเราเองก็กำลังตามหาราชองครักษ์ราฟาเอลอยู่เช่นกัน พลทหารสองคนที่วิ่งผ่านมาได้ยินเสียงตะโกนของหญิงร่างท้วมพอดีรีบกล่าวตอบทันใด   องครักษ์ราฟาเอลยังไม่กลับเข้าห้องพักตั้งแต่เมื่อคืนตามคำสั่งของพระสนมแทรอส   พวกเราเลยออกตามหา


     
                   มาริซ่าเดาออกในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น    องครักษ์ราฟาเอลเป็นเสมือนบุคคลที่เป็นได้ทั้งตัวโซ่ตรวนรั้งพระราชาแจนาฟไว้ได้   และก็เป็นเสมือนอาวุธคู่กายที่สามารถทลายได้ทุกอย่างเช่นกัน   

                    พระราชาฝึกหัดกับราชองครักษ์หนีไปแล้ว!!


     
                  
    แล้วจะทำเช่นไรต่อไปดี มาริซ่ายกมือขึ้นกุมขมับ   รู้สึกว่าตัวมันโหวงๆ   เหมือนหัวจะหลุดจากบ่า


     
                  
    เกิดอะไรขึ้นรึไง ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอามรณ์    ดวงตาสีแดงเพลิงที่แสนเด็ดเดี่ยวดุจภูผาอันมั่นคงเมื่อสบเข้าก็เหมือนจะละลายกลายเป็นไอเสียตรงนี้   เส้นผมและหนวดเคราที่ยาวจนถึงอึกกลายเป็นสีดำแซมขาวเนื่องจากกาลเวลานำภาพความชราภาพมาเยือน      สวมใส่อาภรณ์ยาวคร่อมเท้าที่ถูกตัดเย็บอย่างประณีตบรรจง    เครื่องประดับที่อยู่บนร่างนั้นล้วนคัดสรรค์มาอย่างดีจนไม่มีแม้แต่ตำนิ   บ่งบอกถึงฐานะของเขา   โดยเฉพาะมงกุฎทองฝังอัญมณีน้ำงามบนศีรษะ


     
                  
    พระราชาคาซาน หญิงร่างท้วมและพลทหารทั้งสองรีบโค้งตัวทำความเคารพด้วยอาการตื่นตระหนก


     
                  
    ทำไมทำหน้าเช่นนั้นกัน    บอกมาเถิดว่ามีเหตุอันใดเกิดขึ้น คาซานกล่าว


     
                  
    กระหม่อมผิดไปแล้วเพคะ   กระหม่อมสมควรตาย มาริซ่าตอบด้วยเสียงสั่นเครือ   มือไม้สั่นด้วยความหวั่นเกรง


     
                   พระราชาคาซานเพ่งพินิจคนตรงหน้าครู่หนึ่ง   ก่อนสั่งให้พลทหารทั้งสองออกไปจากห้องนี้ก่อน   และเริ่มเดินสำรวจห้องอันเคยเป็นที่พักของพระราชาฝึกหัดก่อนจะหนีหายไป    เขาดีดนิ้วเป๊าะ...ทันใดนั้นสายลมบริสุทธิ์ก็ผัดผ่านเข้ามาข้างในจนทำให้อาภรณ์ที่สวมใส่ลู่ไปตามแรงลม   อาคมกั้นอาณาเขตได้ทะลายลงในพริบตา


     
                  
    เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงที่เจ้าคิดว่าจะขังเด็กคนนั้นไว้นี้ได้ด้วยอาคมกั้นอาณาเขต คาซานกล่าวขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปบิดเชิงเทียนสามง่ามบนฝาพนัง    ไปทางซ้ายสองครั้ง   ข้างขวาครั้งเดียว   ผนังก็บิดตัวเปิดประตูสู่ทางลับของราชวัง   ทางเดินทอดยาวลึกหายไปในเงามืด    ทั้งเย็นทั้งชื้น    เพราะไม่มีใครใช้งานมานมนานกาเล   พระราชาผู้ขึ้นปกครองต่างล้วนสรรค์สร้างทางลับเฉพาะตนขึ้นมาทั้งสิ้น    ทั่วพระราชวังจึงมีทางลับมากมายคนเคี้ยวและเต็มไปด้วยกลไกลกับดักมากมาย 
     

                    มาริซ่ามองด้วยสายตาที่ตกตะลึงงงงัน    ถึงนางจะเคยได้ยินว่าพระราชวังที่แสนใหญ่โตแห่งนี้จะสร้างทางลับไว้ยามฉุกเฉิน  แต่ไม่เคยรู้เลยว่าห้องนี้ก็มีทางลับ


     
                  
    เด็กคนนั้นเป็นเสือซ่อนเขี้ยวซ่อนเล็บ คาซานหัวเราะเบาๆ


     
                  
    กระหม่อมขาดเขลายิ่งนัก   กระหม่อมสมควรตาย มาริซ่าคุกเข่าหมอบแนบกับพื้น

                    พูดอย่างกับหนังจีนบนพื้นพิภพ เขากระเซ้า   ถึงความผิดครั้งนี้มันใหญ่หลวงจนสามารถทำให้สั่งประหารเจ้าได้   แต่ข้าไม่ชอบลงโทษใครด้วยกำลัง   ถือซะว่านี้เป็นคราวเคราะห์ของเจ้าแล้วกัน   เพราะคนที่จะลงโทษเจ้าไม่ใช่ข้า    แต่เป็นแทรอส...


     
                   มาริซ่าหน้าซีดเป็นไข่ต้ม   หัวใจหล่นไปอยู่ตรงตาตุ่ม   สู้ให้ถูกประหารยังดีกว่าถูกพระสนมแทรอสลงโทษ


     
                  
    รีบไปได้แล้ว   แทรอสกำลังรอเจ้าอยู่ทีห้องบรรทมฝั่งตะวันออกนะ


     
                   หญิงร่างท้วมโค้งทำความเคารพก่อนออกจากห้องนั้นรวดเร็วเท่าที่ร่างมหึมาของนางจะพาไปไหว


     
                   คาซานดึงครีกระดาษที่ถูกเหน็บไว้ตรงหัวเตียงขึ้นอ่านข้อความ



     
    ถึง  คาซาน

                                    กว่าท่านจะได้รับจนหมายนี้เราคงหนีไปแล้ว   ขอโทษด้วยแล้วกันที่ทำให้วุ่นวาย   หวังว่าท่านคงเข้าใจ   ถึงเราจะไม่ได้รังเกียจที่จะแต่งงานร่วมหอกับผู้หญิงด้วยกันก็เถอะ   แต่ไอ้การแต่งงานกับคนรักของคนอื่นมันเป็นบาปหนักนะ   เรากลัวแบกไม่ไหว    เราไม่เข้าใจท่านเลย...คาซาน   ทำไมท่านถึงเอาตำแหน่งบ้าๆบอๆมาให้เรา    ท่านลืมไปแล้วหรือไงว่า   ต้องสืบทอดบัลลังก์ด้วยสาบเลือด   เก็บตำแหน่งนี้ไว้ให้องค์ราชทายาทเถอะ   เขาเป็นลูกชายท่านนะ    เมื่อเรากับราฟากลับมาอย่าลืมแต่งตั้งให้เป็นองค์ลักษณ์ประจำตัวท่านเหมือนเดิมต่อไปด้วยล่ะ   มันสนุกกว่าการเป็นพระราชาฝึกหัดกว่าตังเยอะ    และจัดการเรื่องแต่งงานให้เรียบร้อยก่อนเรากลับมาด้วยล่ะ     แล้วอย่าให้ใครมาตามจับตัวเรากลับไปด้วย   โดยเฉพาะแทรอส 

                                    ในระหว่างที่ท่านจัดการเรื่องบนเกาะ   พวกเราก็ไม่ได้คิดจะหนีไปอู้งานสบายอยู่ฝ่าเดียวหรอกนะ  พวกเรารับภารกิจตามอดีตองค์ลักษณ์ของท่านให้เอง   จะได้เสมอกัน  

    รักษาสุขภาพด้วยนะคาซาน

    แจนาฟ เจ ซิน

     


    .              
    ข้าไม่หวังอะไรนอกจาก    ขอให้เจ้าทำใจหันหลังกลับมายังเกาะนี้ได้เองแล้วกัน...แจนาฟ

                    อิสระมันช่างหอมหวานเมื่อได้ลิ้มลอง   ยากจะเลิกเสพได้

    +-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
    จบบทที่ 1 พระราชา(ฝึกหัด)


    มุมสบายสไตย์นายสิบสาม

    + + ขอฝากนิยายเรื่องแรกที่ลงในเด็กดีไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วนะพ่อแม่พี่น้อง++
    ++ วิจารย์ได้  แต่รักษาน้ำในนิสนึงนะครับ  ผมอ่อนไหวง่าย (หัวเราะ) ++
    ++ ถ้าเจอคำผิดกรุณาแจ้งด่วนนะครับ  จะได้แก้ไข++
    ++ ขอบคุณUntouchable<ซองคุง>มากมายที่อุตส่ามาเป็นเจ้าหน้าที่พิสูจน์อักษรให้ 555 +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×