คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 3 | ขายตรง 2/2
3 | ขายตรง 2/2
หลังจากเดินหาที่พักอยู่หลายที่จนตกเย็นแล้วก็ยังไม่ได้ เนื่องจากเพิ่งเปิดเทอมจึงหาห้องพักใกล้มหาวิทยาลัยได้ยาก ที่พักที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวซึ่งพอจะหาได้ก็ราคาสูงไม่น้อยเลย ทั้งสัญญาและมัดจำต่างๆ ทำให้ฉันคิดไม่ตก
Rrrrr
‘Yahyii’
“ฮัลโหล”
[คนโปรดดด ขอโทษนะเมื่อคืนหนักไปหน่อย แกมีอะไรหรือเปล่าถึงให้ฉันโทรหาอะ] เสียงใสพูดอย่างอารมณ์ดีทำให้ฉันที่นอยด์กับชีวิตรู้สึกดีขึ้นไปด้วย ร่างบางทรุดตัวทับกระเป๋าเดินทางอยู่บนฟุตบาท
“ไม่มีอะไร…แค่จะถามว่าไปเที่ยวเป็นยังไงบ้าง” ฉันเลือกที่จะไม่พูดประเด็นสำคัญออกไป เอาไว้ยาหยีกลับมาไทยก่อนค่อยเล่าก็ได้ ตอนนี้เธอกำลังมีความสุข
[แหม คิดถึงล่ะสิ ฉันซื้อของฝากไว้เพียบเลย แกกับเปรี้ยวต้องชอบแน่ๆ]
“กลับพรุ่งนี้ใช่ไหม มาถึงกี่โมง”
[แน่ะ ไม่ต้องมาหลอกถามเลย ฉันกลับเองได้แกไม่ต้องมารับหรอก อยู่สวีทกับแฟนไปเถอะ วันครบรอบนี่นา] พอถูกทักเรื่องแฟนก็อดน้ำตารื้นไม่ได้ ฉันกลืนก้อนสะอื้นเพื่อตอบกลับไป
“อื้อ”
[เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเสียงแกไม่ค่อยดีเลย]
“ไม่มีอะไรหรอก” เสียงฉันออกอาการขนาดนั้นเลยเหรอ
[แกมีอะไรก็บอกฉันได้นะคนโปรด ฉันพร้อมรับฟังแกเสมอ]
“ไว้เล่าตอนแกกลับมาไทยแล้วดีกว่า”
[ได้เลยยย รอพี่ก่อนนะน้อง คิก] สำหรับฉันยาหยีเป็นเพื่อนที่น่ารักมากๆ เธอไม่มีท่าทีรำคาญใจอย่างที่เปรี้ยวบอก แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เกรงใจจะกวนเวลาแห่งความสุขของเธอ
“แกไปเที่ยวต่อเถอะ ฉันไม่กวนแล้ว”
[กวนที่ไหนล่ะ หยุดตั้งหลายวันฉันก็คิดถึงเพื่อนนะ
“งั้นบินกลับมาเร็วๆ”
[หูยยย มีสาวคิดถึง]
“ไปได้แล้ว ฉันต้องไปทำธุระนิดหน่อย” ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ ความรู้สึกขุ่นมัวราวกับได้รับการเยียวยาเล็กน้อย
[โอเคๆ บ๊ายบาย]
หลังจากตัดสายฉันก็นั่งมองตึกรอบด้านไม่รู้จะไปลงหลักปักฐานที่ไหน ที่พักราคาถูกที่มีเหลืออยู่ก็ดูไม่ปลอดภัยเลยสักนิด ไม่แถมผีก็แถมโจรงัดห้อง
“อ้าว! เจอกันอีกแล้วนะคะ” ฉันเงยหน้ามองผู้หญิงผมยาวยิ้มหวานซึ่งเดินเข้ามาทัก “บังเอิญจังเลยค่ะ ฉันตื่นมาก็แวะไปหาคุณที่ห้องของแทนแต่ก็ไม่เจอ”
‘ฝัน’ เพื่อนของแทน แฟนของภพ ฉันจดจำคนตรงหน้าไว้แบบนี้
“พักแถวนี้เหรอคะ” บางทีเธออาจช่วยแนะนำที่พักดีๆ ให้ก็ได้
“เปล่าหรอกค่ะ จริงๆ ฉันอยู่หอในแต่ส่วนมากก็จะอยู่ที่คอนโดฯ มากกว่า คุณหาที่พักอยู่เหรอคะ
“ค่ะ ฉันชื่อคนโปรด ไม่ต้องพูดเพราะก็ได้ค่ะ ฉันน่าจะอายุน้อยกว่า” พูดเพราะจนฉันแอบเกร็งนิดหน่อย
“ฝากฝันค่ะ อยู่ปีสาม”
“ฉันปีสองค่ะ พี่ฝันพอจะแนะนำหอพักดีๆ ได้บ้างไหมคะ หามาจนจะหมดวันแล้วยังไม่ได้เลย”
“เพิ่งจะเปิดเทอมคงไม่มีคนย้ายออกหรอก…ไปพักกับพี่ก่อนไหมคะ เดี๋ยวไล่ภพให้ไปนอนกับแทนก็ได้”
“ลำบากเปล่าๆ ค่ะ” จะให้ไปรบกวนใครนานๆ ก็ไม่ได้หรอก เราไม่ได้รู้จักกันด้วย
“ไม่ลำบากหรอก ห้องสองคนนั้นอยู่ติดกัน” ถึงว่าพี่คนนี้จึงดูสนิทกับแทนมากเป็นพิเศษ เพราะแฟนของเธอกับแทนเป็นเพื่อนข้างห้องกันนี่เอง
“เพื่อนพี่ฝันก็บอกว่าปล่อยห้องให้เช่าเหมือนกัน แต่ฉันคิดว่าคงจ่ายไม่ไหว”
“หมายถึงแทนคุณเหรอ” พี่ฝันทำหน้างงๆ ครู่หนึ่งก่อนจะระบายยิ้มออกมา
สงสัยเพื่อนเธอคงไม่ได้เล่าให้ฟัง
“ค่ะ” เพิ่งรู้ว่าหมอนั่นชื่อแทนคุณ
“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ลองคุยกับเขาดูล่ะ พี่ว่าเขายินดีลดราคาให้อยู่แล้วแหละ”
“ไว้ฉันจะลองคิดดูนะคะ” ฉันยิ้มแห้ง อยู่ทีเป็นเดือนๆ ต่อให้เขาอยากให้เช่าแค่ไหนก็คงลดได้ไม่มากหรอก ขาดทุนแย่
ติ๊ง
‘TannKhun ส่งข้อความ’
เพื่อนของเขาเพิ่งจะเดินจากไปได้ไม่นาน คนที่ถูกพูดถึงก็ส่งข้อความมา ตายยากจริงๆ มือเรียวกดเข้าไปดูแชต
TannKhun : ไหนตารางเรียน
Me : รีบก็ไปหาเอาเอง
TannKhun : ส่งรูปภาพ
Me : นายไปหาตารางเรียนของฉันมาจากไหน
TannKhun : ส่งรูปภาพ
Me : ตารางเรียนของใครอีก?
TannKhun : ของฉัน
ชื่อในแอพลิเคชั่นต่างๆ ของเขาเป็น ‘แทนคุณ’
นิสัยแบบนี้จะแทนใครได้ล่ะ เพ้อจริงๆ
ฉันเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง ไม่อยากเสวนากับเขาอีก การลากกระเป๋าเดินทางหอบตุ๊กตาไปมามันทั้งเหนื่อยและเกรงใจร้านข้าวที่ฉันเข้าไปใช้บริการมาก คนมองก็แอบอายนิดหน่อย
“มีห้องว่างไหมคะ”
“โอ๊ยหนู ไปที่ไหนก็คงเต็มหมดแล้วล่ะ” ป้าเจ้าของหอพักรวมตึกเก่าบอกเสียงแข็ง “ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยกลับมาที่นี่แล้วกัน”
พูดแบบนั้นแปลว่ามีห้องพักว่างไม่ใช่หรือไง
“หนูไปมาหมดทุกที่แล้วค่ะ ไม่มีที่ไหนว่างเลย ป้าช่วยหนูหน่อยนะ” พระอาทิตย์ใกล้จะลาลับฟ้าแล้ว ถ้าดูห้องแล้วโอเคก็คงอยู่ได้เพราะราคาไม่น่าจะแพงมาก
“งั้นตามมา” ร่างท้วมสวมเสื้อยืดคว้ากุญแจห้องเดินนำขึ้นบันได โดยที่ฉันฝากสัมภาระไว้ที่เคาน์เตอร์ด้านล่าง ขึ้นไปถึงชั้นสี่ป้าแกก็หมุนตัวกลับมาส่งกุญแจให้ “ขึ้นข้างบนเลย ชอบห้องไหนก็เลือกเอานะ”
“อ้าว เดี๋ยวสิคะ” ฉันรั้งไว้ไม่ทัน เจ้าของหอพักก็รีบรุดเดินลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากเสียเวลาเดินลงไปใหม่ฉันจึงก้าวขาขึ้นไปชั้นบนสุดของตึก “ทำไมมืดจัง”
เสียงเอี๊ยดอ๊าดของพื้นไม้และบานหน้าต่างซึ่งน่าจะผุพังจนมีช่องว่างให้แสงลอดผ่านได้เล็กน้อย พอให้มองเห็นทาง หัวใจฉันเต้นแรงรู้สึกวังเวงแปลกๆ จนจินตนาการไปไกล
บานประตูซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดมียันต์แผ่นใหญ่แปะอยู่หน้าห้อง ใยแมงมุมเกาะแน่นหนา
ชั้นนี้ดูยังไงก็ไม่มีใครพักอาศัย มันน่าจะถูกปิดตายมานานมากแล้วด้วย!
ตุ้บ
“กรี๊ดดด!!” บางสิ่งบางอย่างถูกไหล่ฉันจนตกใจสะบัดหนีวิ่งลงบันไดจนเกือบพลัดตกลงไป
“เป็นไง อยู่ได้ไหมล่ะ” ป้าคนเดิมเงยหน้ามามองฉันที่วิ่งกระหืดกระหอบลงมาหน้าตาตื่น
“ใครจะอยู่ได้ล่ะป้า!” ฉันหอบหายใจขวัญเสียไม่น้อย ฉันอยากได้ห้องว่าง ไม่ใช่ห้องผีสักหน่อย
“มันก็มีนะ พวกคนมีเซ้นส์ คนอยากลองของน่ะ” เสียงหัวเราะชวนขนหัวลุกแปลกๆ “ก็ถ้าอยู่ได้คิดแค่เดือนละพันก็พอ”
“ให้อยู่ฟรีก็ไม่เอาหรอกค่ะ” ฉันเดินไปหอบของลากกระเป๋าออกจากหอพักอย่างรวดเร็ว
ติ๊ง ติ๊ง
เสียงข้อความเข้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนฉันรำคาญ ต้องหยิบออกมาดู
TannKhun : เดือนละห้าพัน
TannKhun : น้ำไฟฟรี
TannKhun : ตอบช้าเกินห้านาทีหมดโปรนะ
Me : นายเป็นเซลล์ขายตรงหรือไง
ห้องพักที่ครบครันขนาดนั้นเรียกค่าเช่าถูกแสนถูก แม้จะต้องพักร่วมกับคนแปลกหน้าก็เถอะ แต่ต้องยอมรับว่าข้อเสนอของเขาดีที่สุดแล้ว ระแวงแค่อย่างเดียวคือเจ้าของห้องซึ่งต้องอยู่ร่วมกันเท่านั้น
TannKhun : ถ้าตกลงก็ขึ้นรถมา
ขึ้นรถ?
เสียงบีบแตรจากรถคันหรูสีเหลืองซึ่งขับมาจอดเทียบท่าริมฟุตบาทใกล้ตัวทำให้ต้องหันไปมอง ร่องรอยขีดข่วนที่กระโปรงรถอันคุ้นตาปรากฎอยู่ตรงหน้า
“จะเอายังไง” แทนคุณลดกระจกชะโงกหน้าออกมา
“นายเป็นสตอล์กเกอร์เหรอ” อีตานี่น่ากลัวกว่าผีอีก!
“หล่อขนาดนี้จำเป็นต้องวิ่งตามใครด้วยหรือไง ก็แค่เห็นว่าเธอไม่มีที่ไป”
“สงสารฉันเหรอ”
“เปล่า ปล่อยห้องว่างให้เช่า นอกจากได้เงินเพิ่มแล้วเวลาทำงานใช้หนี้ก็เพิ่มขึ้นด้วย ฉันไม่เสียอะไรสักหน่อย” คิ้วเรียวย่นเข้าหากัน ปากเล็กคว่ำอย่างไม่พอใจ “แต่ถ้ามีทางอื่นก็เชิญเลย”
ฉันกำมือเดินมุ่งตรงไปหาที่เบาะหลังยัดข้าวของทุกอย่างที่หอบมากว่าครึ่งวันเข้าไปข้างใน ดันกระเป๋าเดินทางเข้าไปหวังนั่งเบาะหลังอย่างเนียนๆ ดวงตาคมมองผ่านกระจกมองหลัง
“มานั่งหน้า” สั่งเก่งที่สุด คนรวยๆ อย่างเขาคงเคยชินกับการออกคำสั่งกับคนอื่นแน่ๆ
“นายตามมาได้ยังไง”
“ฝันบอก”
“อ่อ” ข่าวไวจริง
แทนคุณขยับตัวโยนตุ๊กตาเน่าลูกรักของฉันมาวางบนตัก ก็ว่ามันหายไปไหนนึกว่าคืนนี้จะนอนไม่หลับซะแล้ว
“นายขโมยเหรอ”
“เน่าขนาดนี้ใครจะอยากได้” ฉันเบะปากมองบน
“ก็นายนั่งทับ แบนหมด” มือบางลูบตุ๊กตาคิตตี้หน้าดำคล้ำอย่างถนอม
“แค่หยิบออกให้ มันวางอยู่ที่เบาะเธอนั่นแหละ”
“แล้วไป”
“จะแวะซื้ออะไรก่อนกลับห้องไหม”
“ไม่อะ” ตอนนี้ฉันล้ามากๆ ไม่อยากเดินแล้ว
“งั้นไปกินข้าวกันก่อน”
“นายไม่รีบไปทำสัญญาก่อนเหรอ” ฉันเอ่ยท้วง เมื่อเขาหักพวงมาลัยเบี่ยงออกอีกทางหนึ่ง
“ขี้เกียจ แค่ห้าพันไม่ต้องทำหรอก” คนรวยมันดีอย่างนี้นี่เอง “จะกินอะไร”
“อะไรก็ได้…ที่ไม่แพง” ฉันเติมส่วนท้าย กลัวเขาพาไปร้านแพงๆ แล้วกระเป๋าจะฉีก
“สเต๊ก สปาเก็ตตี อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน…”
“อาหารไทย” อยากจะตอบว่าอาหารตามสั่งข้างทางก็พอแล้วแต่ก็เกรงใจ “เราแยกกันกินก็ได้นะ”
ขืนปล่อยให้เขาพาไป ฉันว่าคงแพงแน่นอน ขนาดรถยนต์ของเขายังราคาตั้งกี่ล้าน เมื่อคืนก็มือบอนไปทำรถเขาเป็นรอยบวกเป็นหนี้อีกก้อนหนึ่ง
“ฉันรู้จักร้านอร่อยแถวนี้พอดี”
“ไม่มีเพื่อนกินข้าวหรือไง” ฉันเอียงคอมองคนที่ทำทีราวกับหาเพื่อนไปนั่งกินข้าวแก้เขิน
“ไม่มี” เสียงทุ้มตอบห้วนๆ ทันควัน
เออ ฉันก็ไม่มี
“อย่าแพงมากนะ ฉันหารไม่ไหว”
“ก็ไม่ต้องหาร”
“ไหนว่าไม่จีบไง” ทำไมพฤติกรรมของผู้ชายคนนี้จึงได้คอยทำให้ฉันตะขิดตะขวงใจนักนะ
“แค่เลี้ยงข้าวเรียกจีบแล้ว?” ดวงตาเรียวกลอกไปมา ก็แล้วทำไมเขาชอบพูดให้ฉันคิดเข้าข้างตัวเองนัก “เงินแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก”
“เลี้ยงผู้หญิงจนเคยตัวแล้วสิ” ฉันแอบเหน็บแนมเขาเบาๆ แต่คนหูดีก็ดันได้ยิน
“ไม่เคยเลยเถอะ เธอคนแรก”
ความคิดเห็น