คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 2 | ทำบุญไม่ได้บุญ 2/2
2 | ทำบุญไม่ได้บุญ 2/2
“ค่าเหล้า ค่าค็อกเทล ค่าซ่อมรถ ค่าที่ซุกหัวนอน ค่าล้างอ้วก ค่าโคมไฟที่เธอปาหัวฉันแตก มันก็เกินค่ารักษาพยาบาลไปเยอะแล้วนะ” เขาร่ายยาวจนฉันหุบปากฉับ
ฉันอ้วกด้วยเหรอวะ
“ไหนว่ารวยนัก ไม่อยากได้เงินไง” เขาเล่นเก็บทุกอย่างแม้กระทั่งค่าที่นอนซึ่งมันก็คงเป็นห้องของเขาเองด้วยซ้ำ
“ไอ้ที่เธอสมควรจะจ่ายจริงๆ คือนั่น” ฉันมองตามปลายนิ้วเรียวยาวไปเห็นซากแจกันที่แตกอยู่ติดประตูระเบียง “ใบเป็นแสน เธอเตะล้มอย่างกับกระป๋องน้ำอัดลม”
“เป็นแสน! นายจะบ้าเหรอ คนสติดีที่ไหนจะซื้อแจกันใบเดียวแพงขนาดนั้น” เสียงหวานพูดรัวเร็วด้วยความตกใจ
“บ้านฉันรวย” เขาตอบกลับมาหน้าตาย
จบ
“ฉันจำไม่ได้”
“จะชิ่ง?”
“ก็นายจะโมเมว่าฉันทำหรือเปล่าล่ะ ฉันไม่มีสตินะจะรู้ได้ยังไงว่าทำจริงไหม” คนถังแตกไม่มีแม้ที่จะอยู่อย่างฉันย่อมต้องหาทางหนีทีไล่ แทนเอียงหัวมองฉัน แววตาคู่นั้นราวกับกำลังหัวเราะเยาะกันยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิด “ถ้าไม่มีหลักฐาน ฉันก็ไม่จ่าย”
คนตัวสูงก้มหน้าลงกดอะไรในโทรศัพท์ของตนเอง ก่อนที่เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าในเครื่องของฉันจะดังขึ้น เขาส่งคืนให้ฉัน
“ดูเอาแล้วกัน” เสียงร้องไห้โวยวายดังมาให้ได้ยินก่อนจะเห็นภาพตนเองร้องไห้กอดแจกันเจ้าปัญหา พร่ำพรรณนารักที่พังทลายให้มันฟังราวกับเพื่อนซี้ ทว่าจังหวะที่ฉันลุกขึ้นยืนและมุ่งไปที่ระเบียงข้างนอกกลับสะดุดมัน คลิปวิดีโอสั่นไปมาบ่งบอกว่าคนถ่ายคงรีบวิ่งเข้าไปช่วย เสียงแตกกระจายดังขึ้นก่อนที่เสียงถอนหายใจของแทนจะดังแทรก “แล้วทำไมนายไม่รับแจกันอะ”
ดูจากภาพที่หันทิศทางมั่วไปหมด ฉันก็พอจะเดาได้ว่าที่ตนเองไร้บาดแผลใดเป็นเพราะเขาช่วยไว้
“อยากเจ็บตัว?” แทนเลิกคิ้วถาม
“เปล่า คือ…ก็ขอบคุณ แต่…ฉันแค่สงสัยเฉยๆ” ร่างบางอึกอัก หลักฐานชัดเจนแถมเขายังช่วยฉันไว้อีก ต่อมความเป็นคนดีของฉันก็ทำงาน แอบรู้สึกเกรงใจเขานิดหน่อย
“ฉันกลัวจะมีคนตายในห้อง ผีสวยๆ ยังพอทน นี่ไม่สวย…” อารมณ์ฉันดีดพุ่งกลับมาเป็นเดือดเป็นร้อนอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
ตุ้บ
ฉันง้างมือฟาดแขนเขาเต็มแรง “ปากหมาแบบนายผู้หญิงที่ไหนจะอยากคบด้วย”
“เยอะแยะ” ฉันเบะปากกลอกตามองบน ทว่าคนมองกลับไม่โกรธแต่หัวเราะออกมาราวกับชอบใจ
ท่าจะบ้า
“นี่อีกคลิป” ยังมีอีก! “เธอทำรถฉันเป็นรอย”
นิ้วยาวเลื่อนปัดหน้าจอโทรศัพท์โชว์ภาพร่องรอยบนกระโปรงหน้ารถให้ดู
เล่นของแพงซะด้วยยัยคนโปรด!
“ถ้าเธอไม่ใช้หนี้ฉันล่ะก็คลิปเธอว่อนเน็ตแน่” นิ้วชี้สวมแหวนเงินสลักลวดลายดูมีราคาชี้หน้าฉันเพื่อย้ำเตือนว่าเขาเอาจริง
“ฉันยังไม่มีเงินคืนหรอก” ปากเล็กบอกเสียงแผ่วเบา แค่คิดว่าตนเองซวยซ้ำซวยซ้อนก็น้ำตารื้นขึ้น ฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยากร้องไห้ให้ใครเห็น “ผ่อนได้ไหมอะ”
มันก็ไม่ใช่ความผิดของแทน ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องเดือดร้อนมาดูแลฉันด้วยซ้ำ
“ไม่มีก็ไม่ต้อง ทำงานใช้หนี้ไป” เสียงทุ้มต่ำบอกราวกับคนใจดี แต่ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่พูด
“งานอะไร เบ๊นายอะนะ”
“ฉันเรียกเมื่อไหร่เธอก็มา แค่นั้นแหละ”
“แล้วฉันจะไว้ใจได้ยังไงว่านายจะไม่ล่อซื้อฉันไปทำอะไรแปลกๆ” ร่างบางกอดอกมองเขาด้วยความไม่ไว้ใจ
“ระแวงเก่งจริงนะแม่คุณ ถ้าฉันจะทำฉันทำไปแล้ว” ก็จริง ผู้ชายอย่างเขาถ้าจะทำคงไม่ต้องรออะไร
“นานแค่ไหน”
“สองเดือน”
“ทุกวันเลยเหรอ” ต่อให้เขาเรียกใช้ฉันทุกวันก็ยังนับว่าคุ้มอยู่นะ อย่างน้อยช่วงนี้ฉันก็ยังหามีเวลาไปจัดการแฟนเก่า ไม่ต้องตั้งหน้าตั้งตาหาเงินใช้หนี้ขนาดนั้น แค่พอประทังชีวิตไปวันๆ ก็พอไหว
“หรือจะเอามากกว่านั้น” ฉันรีบส่ายหน้าโบกไม้โบกมือปฏิเสธ
“ไม่ๆ แต่นายไม่เอาเงินแน่นะ” เงินเป็นแสนเขาจะแค่เรียกใช้ฉันหรือไง
“ฉันดูจนหรือไงล่ะ”
ดูเป็นคนไม่ดีต่างหาก
หลังจากตกลงกันได้แล้วแทนก็หยิบกล่องทำแผลยัดใส่มือฉัน เป็นการสั่งกรายๆ ว่าฉันทำก็ต้องรับผิดชอบ
“เจ็บ” ริมฝีปากหยักของเขาพร่ำพูดคำเดิมซ้ำๆ แม้แต่ก้อนสำลีชุบแอลกอฮอล์ล้างแผลจะยังไม่ทันโดนรอยแยกที่ข้างขมับ
ตัวใหญ่ซะเปล่า
“ขอโทษๆ” ใจคิดอย่างหนึ่งปากพูดอีกอย่าง “นายไปหาหมอหน่อยดีไหม”
“ไม่! แผลแค่นี้จะไปหาทำไม” การตอบของแทนลุกลี้ลุกลนแปลกๆ
“นายกลัวหมอเหรอ”
“ฉันอายุเท่าไหร่แล้ว จะมากลัวอะไร”
“งั้นกลัวเข็มใช่ไหม”
“บอกว่าเปล่าไง! เธอทำแผลไปเงียบๆ เถอะ ทำช้าเมื่อไหร่จะเสร็จ” คิ้วเข้มขมวดมุ่น ยืดตัวขึ้นนั่งดีๆ ทว่าดูเกร็งจนสังเกตได้
คนที่ทำให้ช้ามันก็นายไม่ใช่หรือไง
ติ๊ง
ฉันฉวยโอกาสตอนเขาก้มหน้าดูข้อความในโทรศัพท์เครื่องหรู ใช้สำลีเช็ดแผลเขาอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ยยย! แสบๆ” แทนร้องลั่นยื้อตัวหนีมือฉันจนต้องใช้มืออีกข้างล็อคไว้เพื่อทำแผลให้เสร็จ “พอก่อน…นี่เธอ! บอกให้พอไง”
พลั่ก
“ก็ไหนว่ารีบ ทำช้าก็บ่น ทำเร็วก็ว่า” เพราะขนาดตัวและแรงที่ต่างกัน ฉันจึงถูกดึงร่างเข้าหาเขาจนเกือบล้มใส่คนที่นั่งอยู่บนโซฟา แม้จะชันเข่าค้ำยันไว้แต่ตัวก็ยังโน้มหาแทนจนได้กลิ่นน้ำหอม “ตกลงจะเอายังไง”
“ช้าๆ” นัยน์ตาสีดำสนิทมองสบมาทำให้รู้สึกตัวว่าระยะห่างระหว่างเราเหลือเพียงหนึ่งฝ่ามือ “มันเจ็บ”
“ฉันว่านายน่าจะไปหาหมอนะ” แผลมีรอยแยกยาวประมาณหนึ่งนิ้ว เลือดก็ออกพอสมควร ฉันเห็นยังอดกลัวแทนไม่ได้เลย “เอ็กซเรย์สักหน่อยก็ดี”
เช็คสมองซะบ้างเผื่อกระทบกระเทือน
“นี่ด่าฉันเหรอ” เขาเหลือบตามองจนฉันต้องรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“นายก็มองแง่ร้ายตลอดเลยนะ” แสนรู้จริง
“แผลแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก” เขาหยิบยาแก้ปวดเข้าปากก่อนจะกระดกน้ำเปล่าต่อ
“ตามใจนายแล้วกัน” จะมาโทษฉันทีหลังไม่ได้นะ “งั้นฉันกลับก่อนนะ”
หลังเก็บอุปกรณ์เสร็จฉันก็ขอตัวเผ่นก่อน โทรศัพท์ก็ยังไม่ทันจะเช็คข้อความจากเพื่อนเลยด้วย
“จะไปสภาพนี้เหรอ” เขามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า “อย่างน้อยก็ไปล้างหน้ามันๆ ออกกับแปรงฟันสักหน่อยก็ยังดี”
เออว่ะ ฉันยืนต่อปากต่อคำกับเขาตั้งนาน เพิ่งรู้ตัวว่ายังไม่ได้แปรงฟัน!
มือเรียวรีบตะครุบปากตนเอง วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เสียงเจ้าของห้องตะโกนไล่หลังผ่านประตูห้องน้ำเข้ามา
“แปรงใหม่อยู่ในตู้ ขัดนานๆ หน่อยนะเหม็นอย่างกับส้วม”
ไอ้แทน!
ความคิดเห็น