คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 1 | ความซวย 2/2
1 | ความซวย 2/2
ฉันนั่งห้อยขาอยู่ที่บาร์ ไม่รู้ทำไมผู้ชายที่นั่งอยู่รอบตัวจึงย้ายที่หนีไปกันหมด มันก็ดีที่ไม่ต้องมีใครมายุ่มย่ามแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าฉันไม่น่าเข้าหาขนาดนั้นเลยเหรอ ตั้งแต่เจอแทนฉันก็รู้สึกไม่มั่นใจตัวเองนัก ตาฉันคงบวมมากแน่ๆ
“เพื่อนแทนใช่ไหมคะ” เสียงตะโกนแข่งกับเพลงดังขึ้นที่ข้างตัว
ท่ามกลางแสงสลัวผู้หญิงสวยหวานกับอีกคนที่ดูเป็นสาวมั่นทรุดตัวนั่งประกบข้างฉันอย่างงงๆ
“เปล่าค่ะ ฉันเลือกคบ” ผู้หญิงที่เปิดบทสนทนายิ้มแห้งในขณะที่เพื่อนอีกคนของเธอหัวเราะด้วยความชอบใจ
“แทนเขาวานให้ฉันกับเพื่อนมานั่งเป็นเพื่อนคุณน่ะค่ะ” อีตานั่นคงไม่ได้ตีเนียนเอาเพื่อนมาบังหน้าหลอกจะเคลมฉันใช่ไหม? ต่อมระแวงฉันทำงานถี่ยิบ
“ย้ายไปนั่งด้วยกันดีกว่าไหมคะ ตรงนี้…” ฉันส่ายหัวไปมา ความไม่ไว้ใจยิ่งเยอะขึ้นไปอีก ผู้หญิงคนสวยพูดเพราะยิ้มหวานไม่ถือสา “งั้นเรานั่งกันตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
ตลอดการนั่งฉันแทบไม่วางแก้วน้ำเปล่าที่เพื่อนของแทนสั่งมาให้ ระแวงไปหมดเพราะไม่เคยมาคนเดียว ยอมรับว่ามันก็เปิดหูเปิดตาสำหรับคนไม่เคยมาจริงๆ แต่การตัดสินใจมาในสภาพจิตใจแบบนี้ก็ไม่ควร
ฉันอาจเมาจนขาดสติ และกลายเป็นคนอย่างผู้ชายที่ฉันเกลียดเข้าไส้อย่างไอ้ก้อง มือบางพลิกหน้าจอโทรศัพท์ไม่รู้ว่ารอสายหรือข้อความจากเพื่อนสนิทมานานแค่ไหนแล้ว
“ฝัน” ฉันแอบเหลือบมองคนมาใหม่ที่โอบไหล่ผู้หญิงสวยหวานคนนั้น ไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดแต่…
เออ ไอ้คนปากเสียนั่นมีเมียแล้ว เมียเฝ้า เมียอยู่ และมาเฝ้าเมีย
ฉันเบะปากแทบจะทันทีที่เห็นแทนกระซิบข้างหูผู้หญิงของเขา สมองดันนึกถึงแฟนเก่าหมาดๆ ที่เลิกรากันได้ไม่ดีขึ้นมา
แรกๆ มันก็รักฉัน ตัวติดราวกับตังเมแบบนี้แหละ
นิ้วเรียวจิ้มโทรศัพท์พิมพ์ข้อความหายาหยีซึ่งป่านนี้คงหลับสนิทไปแล้ว อย่างน้อยถ้าเธอตื่นขึ้นมาอาจจะช่วยหาห้องพักชั่วคราวให้ฉันได้ ถึงแม้ตัวเธอจะอยู่ต่างประเทศก็เถอะ
“จะกลับเลยไหมคะ เดี๋ยวฉันกับเพื่อนนั่งรถไปส่ง” ผู้หญิงในเดรสสีดำซ้ายมือเอ่ยถาม คนกลุ่มนี้เฟรนลี่ชอบกล
ฉันชั่งใจอยู่สักพักเพราะแม้จะไม่ไว้ใจผู้หญิงสองคนนี้ แต่ไปสุ่มคนเอาดาบหน้าก็แย่ไม่ต่างกัน อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นผู้หญิง คงพอเข้าใจหัวอกฉันบ้าง
“ค่ะ”
พาร์ทแทนคุณ
“รถกู๊ววว... ของๆ กูอะ ฮื่อออ” ผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักและไม่ได้อยากรู้จักถูหน้าลงกับกระโปรงหน้ารถ สองแขนกางแปะติดราวกับจะโอบกอดมัน
“รถกูครับ” มือหนาแงะคนเมาที่ปล่อยตัวไถลไปกับตัวรถอย่างทุลักทุเล
วันนี้กลุ่มของผมไม่มีใครเมาสักคน เรียกว่าทุบสถิติที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ ทว่าแทนที่ผมจะได้หิ้วสาวสวยไปสนุกตามประสา กลับได้ผู้หญิงบ้าเกาะเป็นลิงมาแทน
เหตุเกิดจากผมเวทนาผู้หญิงที่ตาบวมจนตาแทบปิดดูก็รู้ว่ามีปัญหาชีวิต ใครจะบ้าลากกระเป๋าเดินเตร่กลางดึกคนเดียวกันล่ะ ผมเรียกให้ไปนั่งในคลับหวังอาศัยให้เพื่อนผู้หญิงสักคนพาเธอไปส่งกลัวจะโดนฉุดก่อนถึงที่หมาย ไม่ทันคิดว่าคนมีปัญหาชีวิตมันก็อยากจะเมาหัวราน้ำแบบนี้ได้เหมือนกัน และแน่นอนว่าเพื่อนผมก็หนีหายกันไปหมด
เกิดจะเป็นคนดีก็ได้ภาระมาหนึ่งเลยเป็นไงล่ะ
“ไอ้เลว!” คนเมาสะบัดหน้ามาด่าผมเสียเต็มหน้า ปลายเล็บยาวๆ ยังเฉียดแก้มเนียนๆ ของผมไปนิดเดียว
แล้วผมผิดอะไร
“...” ถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนมือแกร่งกำรอบข้อมือบางกระตุกดึงให้เดินตามมาขึ้นรถ เรียกว่าทั้งยัดทั้งผลักดันเข้าไปเลยดีกว่า
สภาพของเธอน่าสงสารก็จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าผมอยากเก็บใครกลับห้อง สภาพนี้ถ้าไปเปิดโรงแรมคงดูเหมือนมอมสาวไปทำมิดีมิร้ายอีกนั่นแหละ
“มึงมานอนห้องกูแล้วกัน ให้เขานอนคนเดียวไป” ภพรักฝาแฝดของผมออกความเห็น คนติดแฟนคงไม่ยอมสละยัยฝากฝันให้มานอนเป็นเพื่อนคนแปลกหน้าหรอก
“แล้วทำไมต้องเป็นห้องกู” เกิดมาทั้งชีวิตแม้แต่เพื่อนยังไม่เคยให้ใครมาค้างคืนเลยนะ
“หรือมึงจะให้ฝันนอนห้องมึง?”
“หวงห่าอะไรนัก กูก็น้องมึงป่ะวะ” พี่ชายของผมคบกับเพื่อนในกลุ่มนี่แหละ หวงตั้งแต่ยังไม่คบกัน เคยปล่อยให้นอนห้องผู้ชายคนอื่นเสียที่ไหนล่ะ
"พาเขามาก็ต้องดูแล"
แรงตบที่บ่าไม่รู้ว่าปลอบใจหรือบอกให้ทำใจกันแน่ เขาลากกระเป๋าเดินทางพร้อมกระเป๋าสะพายเจ้ากรรมมาวางตรงหน้า
"กูแค่แนะนำ"
“หึ ยกเองนะ” ภพรักหัวเราะในลำคอแผ่วเบาก่อนจะชี้ไปที่สัมภาระของคนเมา
“เออ” มือหนายีหัวตัวเองระบายอารมณ์หงุดหงิดเสร็จก็ยกกระเป๋าที่ไม่รู้ว่าแบกควายไว้ข้างในหรือยังไงเข้ารถลูกรัก ไอ้ตุ๊กตาเน่าๆ ก็โยนให้คนเมากอดเล่นมือจะได้ไม่ว่างมาทำร้ายผมระหว่างขับรถ
“กูไปก่อนนะ ฝันง่วงแล้ว” ภพรักลดกระจกลงมาคุย พวกเพื่อนคนอื่นก็ทยอยกลับไปแล้ว เหลือแต่ผมที่รั้งตัวฝาแฝดไว้ให้รับกรรมเป็นเพื่อน
“เดี๋ยว” ผมรั้งคนที่หน้าเหมือนกันราวกับแกะไว้
“อะไร”
“แบบนี้...มันไม่ถือว่าว่าลักพาตัวใช่ไหมวะ”
“...” ไร้เสียงตอบรับหรือปฏิเสธ
“...กูว่าใช่ละ”
ความคิดเห็น