NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แทนคุณคนโปรด | อ่านฟรี [มีE-book]

    ลำดับตอนที่ #2 : 1 | ความซวย 1/2

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 67


     

    1 | ความซวย 1/2

    พาร์ทคนโปรด

    ร่างสูงเพรียวเดินเท้าลากกระเป๋าเดินทางหอบหิ้วตุ๊กตาตัวโปรดอย่างทุลักทุเล มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์รอเพื่อนสนิทรับสาย

    “ยาหยีไปเที่ยวต่างประเทศ เปรี้ยวก็ไม่รับสาย...ให้มันได้อย่างนี้สิคนโปรด” เพราะไม่มีทางเลือกมากนัก ท้ายที่สุดจึงต้องยอมวางศักดิ์ศรีลงและขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ทว่าทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด

    ติดต่อเพื่อนคนไหนไม่ได้เลย

    ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันคงสนใจคีพคอนเน็คชั่นมากกว่านี้แล้ว เข้ามหาวิทยาลัยมาเกือบสองปีฉันที่โฟกัสเพียงงาน เงิน และแฟนจึงมีเพื่อนสนิทเพียงสองคนเท่านั้น

    สุดท้ายร่างเพรียวบางก็ตัดสินใจลากกระเป๋าเดินทางหาห้องพักรายวันแก้ปัญหาไปก่อน

    เงินเก็บก้อนสุดท้ายเพิ่งจะจ่ายปิดทั้งรถและคอนโดฯ หมดไปไม่นาน ไหนจะลงทุนไปกับการทำแบรนด์ของตัวเองอีก งานรีวิวสินค้าก็ยังไม่มีเข้ามาเพิ่ม ให้ไปหาห้องเช่ารายเดือนมันก็พอไหวอยู่หรอกแต่มันจะได้สักกี่เดือนกันเชียว

    รายได้จากของฉันก็ไม่แน่นอนด้วย

    ห้องพักราคาถูกก็พ่วงมาด้วยความไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว ต่อให้ฉันใจสู้แค่ไหนก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงเอาตัวเองไปอยู่ในที่แบบนั้น

    ฉันยีผมด้วยความเซ็ง ร้องไห้จนตาบวมยังต้องขนของหาที่ซุกหัวนอนอีก ซี่ฟันขาวกัดริมฝีปากจนเป็นแผลเล็ก รอทุกอย่างลงตัวมากกว่านี้ก่อนเถอะ ฉันจะคิดบัญชีไอ้ก้องแน่!

    “ถือว่าเสียค่าโง่ไปแล้วกัน” ขาเรียวเตะกระป๋องเบียร์ซึ่งตกอยู่ข้างทางอย่างแรงหวังระบายอารมณ์

    โป๊ก!

    “โอ๊ย!! ใครวะ!” เสียงโวยวายจากใครบางคนร้องลั่น ร่างบางทรุดตัวนั่งหาฉากกำบังโดยอัตโนมัติ ตาเล็กเรียวเบิกกว้างด้วยความตกใจ คงไม่ใช่ว่า…

    ไม่มั้ง พื้นที่ออกจะกว้างเขาคงไม่ซวยขนาดยืนทื่อรับลูกเตะหรอก

    “ก้มหาอะไรอยู่” ดวงตาเรียวลืมตาขึ้นมองคนที่หยุดยืนค้อมหัวกันอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วน้อยๆ ก่อนจะเลิกขึ้นสูง

    “ทำของหล่นน่ะ”

    “อ้อ...นึกว่าหานี่อยู่” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับชูซากกระป๋องสีแดงที่บุบบี้ให้ดู “เธอเห็นคนที่ปาไอ้นี่มาโดนหัวฉันไหม”

    “ไม่เห็นนะ” ริมฝีปากอวบอิ่มฉีกยิ้มจนเห็นซีฟันขาวเรียงสวยพลางส่ายหน้าไปมา

    ไม่ได้โกหก เพราะไม่ได้ใช้มือปาแต่ใช้เท้าเตะต่างหาก ดวงตาคมหรี่ลงมองกันตั้งแต่หัวจรดเท้า มารยาทแย่สุด!

    “เหรอ...ช่วยหาไหม”

    “ไม่ๆ ฉันเจอพอดี” มือบางหยิบหนังยางเก่าๆ ซึ่งถูกทิ้งอยู่ใกล้มือมาชูให้อีกฝ่ายดู ฉันรีบใช้มันรัดผมลวกๆ ลุกขึ้นยืนด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม วันนี้เจอแต่เรื่องแย่ๆ มามากพอแล้ว อย่าให้ต้องโดนผู้ชายกระทืบอีกเลยเถอะ คนหน้าหล่อยิ่งย่นหัวคิ้วเข้าไปอีกก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ

    “ท่าจะบ้า” เบามากกก ไม่ได้ยินเลยสักนิด

    ฉันคว้าหูจับกระเป๋าเดินทางดึงเข้าหาตัวแล้วหมุนร่างเดินหนีคู่กรณี คืนนี้ต้องมีที่ซุกหัวนอน! ไม่โดนยำข้างทาง!

    “นั่นเธอจะลากกระเป๋าไปนอนในคลับ?” อีกฝ่ายถามเมื่อเห็นร่างบางเดินไปในทิศทางเดียวกัน รองเท้าผ้าใบสีขาวชะงักกึก

    ก็ไม่ได้มองทางนี่หว่า

    “ฉันจะไปไหนแล้วมันเรื่องอะไรของนาย” คนบ้าที่ไหนจะหอบของไปนอนในคลับกลางคืนแบบนี้ สมองหมูจริง

    “ขายเหรอ”

    “ไอ้บ้า! นั่นปากหรือส้ว…” เพราะหันขวับไปเจอดวงตาคู่คมที่มองมาในระยะประชิด กลิ่นน้ำหอมราคาแพงเตะจมูก นิ้วเรียวที่ชี้หน้าเขาอย่างฉุนเฉียนจึงได้ค่อยๆ ตกลงที่ข้างตัว “ฉันไม่ได้ขาย!”

    “ปากแบบนี้ อยู่มาได้นานเหมือนกันนะเธอน่ะ” 

    ตัวเองก็ปากดีเหมือนกันแหละ ฮึ!

    ฉันเม้มปากไม่ใหัหลุดคำด่าออกมา สองขาก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ จะให้ไปมีเรื่องกับผู้ชายพรรค์นี้ฉันคงคิดสั้นแล้ว

    คนดีๆ ที่ไหนจะปากหมาใส่คนที่เพิ่งเจอล่ะ

    “แอบด่าฉันในใจอยู่เหรอ”

    แสนรู้นักนะ

    “ก็นายหาว่าฉันขายตัว!”

    “ไม่ขายแล้วจะขนของเข้าคลับทำไม?”

    สาระแน!

    “ฉันแค่จะเดินอ้อมไปทางนั้น ทางนู้นแล้วก็ทางนู้นต่อต่างหาก” มือบางชี้โบ้ชี้เบ้อธิบายคนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องบอกเขา

    ผู้ชายปากเสียหรี่ตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะพยักหน้าคล้ายเข้าใจ หรี่ตาเก่งเหลือเกิน

    “สภาพนี้ถึงขายก็ขายไม่ได้ราคาหรอก”

    “เอ้า! อี…” ฉันกำมือนึกอยากจะชกหน้าผู้ชายตัวโตขึ้นมาสักหมัด

    “ไอ้แทน!! ทำอะไรอยู่วะทำไมไม่เข้าไปข้างใน” เสียงขัดของผู้มาใหม่เอ่ยแทรก ผู้ชายเสื้อดำเจาะหูคนนั้นหันไปมองผู้ชายอีกคนซึ่งใช้สายตาพิจารณาฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า

    มารยาทแย่ไม่ต่างกัน!

    “มีคนบ้าที่ไหนไม่รู้ปากระป๋องใส่หัวกู” ผู้ชายที่ชื่อแทนหันกลับมามองฉันที่ยังยืนหน้าหงิกมองเขาอยู่

    “มึงไปเหยียบหางใครเขาเข้า?” ขนาดเพื่อนยังคิดว่าเขาไปทำใครก่อนเลย ดูเอาเถอะ

    “ก็อยากจะเหยียบอยู่...แต่สงสารคนบ้า” แววตาดำสนิทวาววับพินิจมองใบหน้าของฉันไม่คล้ายจะสนใจเพื่อนสักนิด คิ้วเรียวกระตุกเบาๆ เหมือนเขาจะเจาะจงว่าคนบ้าคือฉันนะ มั่นใจได้ยังไง

    “อะไรของมึงวะ ไม่มีอะไรแล้วก็กลับเข้าไปด้านในเถอะเพื่อนรอ”

    “มึงก็ไปก่อนดิ”

    “กูกลัวมึงไปแหย่ตีนใคร เดี๋ยวตายไม่มีคนรู้คนเห็น” ฉันหลุดขำออกมาแทบจะทันที อย่างน้อยก็ไม่ใช่แค่ฉันที่รู้สึกว่าเขาปากไม่ดีวอนหาเรื่องคนอื่น

    ดวงตาคมหรี่มองตรงมาพร้อมกับคิ้วเข้มกระตุก ภาพตรงหน้าชวนให้อารมณ์ขุ่นมัวดีขึ้นได้อย่างน่าประหลาด อาจเป็นเพราะในความพ่ายแพ้ก็ยังมีชัยชนะเล็กๆ พอให้ชุ่มหัวใจ

    “ไม่สูบบุหรี่ก็ไปดื่มเหล้าแก้เซ็งกับพวกกูดีกว่า” ผู้ชายคนนั้นยังคงพยายามลากเพื่อนให้กลับเข้าไปด้านใน ซึ่งครั้งนี้อีกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือแต่โดยดีทว่า…

    “จะเรียกรถก็เดินไปเรียกไกลๆ หน่อย ขึ้นรถหน้าคลับ...จะถึงม่านรูดแทน”

    “ไอ้บ้า! ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ขาย ถอดหูไว้ที่บ้านหรือไง” ฉันแว้ดเสียงใส่ ไม่รู้ว่าแต่งตัวแย่มากหรืออย่างไร ผู้ชายคนนี้ถึงได้หาว่าฉันทำงานแบบนั้นอยู่ได้

    “แถวนี้ดูไม่เปลี่ยวก็จริงแต่ยังไงก็เป็นโซนคลับนะครับน้อง เพื่อนพี่แค่เป็นห่วงเป็น…” มือหนาของชายอีกคนยกคั่นระหว่างร่างของฉันและคู่กรณีทันทีที่เห็นว่าเพื่อนกำลังจะถูกประทุษร้ายสักยก

    ผัวะ!

    “พล่ามอะไรของมึงไอ้คิว” แต่คนหวังดีกลับถูกตบหัวเข้าเสียเอง สมควร!

    “ตบมาได้นะมึง” คิวลูบศีรษะปอยๆ ก่อนจะหันมาอธิบายสงบศึกต่อ “ไอ้แทนมันปากหมาแบบนี้แหละ จริงๆ มันก็แค่ห่วงความปลอดภัยของน้อง ผู้หญิงต่อรถข้างทางมืดๆ ก็มีข่าวให้ได้ยินออกบ่อย”

    “...” ฉันเม้มปากหลิ่วตามองผู้ชายที่เสมองไปทางอื่นราวกับไม่สนใจ ทว่ามือใหญ่กลับกระตุกแขนเสื้อของเพื่อนยิกๆ

    มันก็จริงที่บริเวณนี้แม้จะมีแสงไฟตลอดทางแต่ก็เงียบและไม่มีคนนัก คนที่ออกมานอกคลับก็มีเพียงจุดประสงค์เดียวคือสูบบุหรี่ ซึ่งแทนอาจเป็นหนึ่งในนั้น

    มือบางกำกระเป๋าแน่นในใจเริ่มนึกกลัวความเงียบเหงารอบตัว ใช่ว่าฉันจะไปไหนมาไหนคนเดียวกลางค่ำกลางคืนเสียที่ไหน

    ถ้าไม่ใช่เพราะก้อง ไม่ใช่เพราะมัน ฉันคงไม่เอาตัวเองมาอยู่ตรงนี้

    “...ข้างใน” ดวงตาฉ่ำน้ำตวัดมองผู้ชายปากเสียที่ยืนทำหน้าไม่ถูก

    “ไม่ไป” พอจะคาดเดาได้ว่าเขาจะสื่ออะไรแต่ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามที่เขาบอก

    คนที่คบกันมาตั้งนานยังไม่คิดจะห่วง ยึดกุญแจรถยนต์และคีย์การ์ดคอนโดฯ ไปจนหมด แล้วคนแปลกหน้าอย่างเขาจะห่วงฉันทำไม

    “ตามใจ” ปากเล็กบิดคว่ำหนัก ต่อมน้ำตาแตกระเบิดออกมาแทบจะทันที

    ตอนเดินออกจากคอนโดฯ ก็ดันอยากจะเป็นนางเอกเอ็มวีเดินขาลากมาทางนี้จนเวลาล่วงเลยเกือบจะห้าทุ่มแล้ว ให้เดินกลับทางเดิมก็ไม่ใช่เรื่องอีก จะนั่งแท็กซี่หรือเดินข้างทางก็น่ากลัวไม่ต่างกัน

    ร่างสูงโปร่งสองร่างเดินผ่านฉันไปโดยไม่หันหลังกลับ ทว่า…

    “แล้วจะฝากกระเป๋าไว้ที่ไหนอะ” ปากเจ้ากรรมกลับเอ่ยถามด้วยความกลัวเต็มหัวใจ

    แล้วทำไมฉันต้องเชื่อเขาด้วยวะ

    “หึ” แทนหันกลับมามองคล้ายจะล้อเลียนอยู่เล็กๆ เสียหน้าจริงๆ เลย

    “ฉันแค่เมื่อยขา อยากหาที่นั่งฟังเพลง” ชีวิตนี้ยังไม่เคยเข้าคลับสักครั้ง นั่งเล่นรอเวลาคนทยอยกลับเยอะๆ หน่อยค่อยอุ่นใจ เปรี้ยวอาจจะติดต่อกลับมาก็ได้

    “ตามมา”


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×