NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แทนคุณคนโปรด | อ่านฟรี [มีE-book]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 67


     

    บทนำ

    แกร๊ก

    ร่างบางในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ขายาวเปิดประตูเข้ามาในห้อง มือบางถอดรองเท้าผ้าใบออกก่อนที่หางตาจะสังเกตเห็นรองเท้าส้นสูงสีแดงวางเด่นระเกะระกะอยู่ที่พื้นห้อง

    มันไม่ใช่รองเท้าของเธอ!

    คิ้วเรียวขมวดมุ่นไม่ต่างจากความร้อนรุ่มในอก เรียวขายาวก้าวไปที่บานประตูห้องนอนอย่างรีบเร่ง เสียงครางหวานสลับกับเสียงพูดคุยดังคลอไปกับเพลงรักหวานซึ่งถูกเปิดจากลำโพงที่เจ้าของห้องเก็บเงินซื้อเอง

    “พวกมึงทำเหี้ยอะไรบนเตียงกู! ห้องกู!” คนโปรดจ้องคนบนเตียงที่กำลังนัวเนียกันราวกับเป็นเจ้าของห้อง

    “กรี๊ดดดด!”

    “โปรด!” ชายหนุ่มร่างเปลือยเปล่าคว้ากางเกงมาสวมด้วยความร้อนรนไม่สนเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ตนหอบหิ้วมาเล่นสนุกถึงคอนโดฯ “กลับมาทำไมไม่บอกก่อน”

    “บอกแล้วกูจะเห็นเหรอว่ามึงแทงข้างหลังกูอะ!” น้ำตาใสๆ ไหลรินอาบสองข้างแก้ม ผู้ชายที่คบมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย คนที่เธอไว้ใจยิ่งกว่าคนในครอบครัวกลับทรยศกันแบบนี้ “มึงทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว”

    “...” ก้องขมวดคิ้วแน่นมองแฟนสาวด้วยความว่างเปล่า คบกันมานานหลายปีคนตรงหน้าไม่เคยหลุดคำหยาบด่าเขาเลยสักครั้ง “ก็แค่เล่นสนุกกัน ไม่ได้จริงจังอะไรจะโวยวายทำไม”

    “เล่นพ่อมึงดิ”

    “พูดให้มันดีๆ หน่อยคนโปรด” มือบางเสยผมยาวเป็นลอนอยากจะดึงทึ้งเรียกสติตนเองผิดกับแฟนหนุ่มที่ใจเย็นราวกับคนไม่ได้ทำความผิด

    “ยกมือไหว้ขอกูดิ...เผื่อกูจะอารมณ์เย็นลง” เธอมองแฟนหนุ่มไม่วางตา ทว่าก็ยังคงสังเกตเห็นร่างเปลือยเปล่าของคนบนเตียงควานหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นห้อง

    “ออกไปสงบสติอารมณ์ก่อนไป” ชายหนุ่มกวักมือไล่คนที่ยืนร้องไห้ให้ออกจากห้องไป

    ออกให้มันเอากันต่อหรือไง

    “กูต้องใจเย็นเหรอ ต่อให้มึงไม่จริงจัง จะซื้อกิน กินฟรีหรืออะไรกูก็ไม่โอเคเว้ย!” ทั้งที่รีบกลับมาหาหวังให้ทันวันครบรอบกลับกลายเป็นถูกเซอร์ไพร์สแทน “มึงคิดบ้างไหมว่ากูจะเสียใจอะ...คิดบ้างไหมว่ามึงกำลังนอกกายบนเตียงกู ห้องกู”

    เสียงหวานสั่นเครือไม่ต่างกับร่างกายที่ถอยไปจนติดบานประตูก่อนจะปล่อยโฮออกมา

    “โปรด...เค้าไม่ได้รักเธอแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยตอบกลับด้วยความเฉยชา ไม่มีแม้แต่ท่าทีสำนึกผิดหรือสงสารกันเลยสักนิด

    ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มแน่นก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างโง่งม “มาบอกตอนนี้เนี่ยนะ”

    ไม่รักแล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก

    “หรือตั้งใจให้กูมาเห็นเอง?”

    “บอกแล้วเธอจะไม่โวยวายเหรอ ทะเลาะกันกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็จบลงที่เดิมคือเลิกกันไม่ขาด” เพราะคนโปรดไม่เคยยอม ความสัมพันธ์รักๆ เลิกๆ มันยาวนานเกินกว่าจะสานต่อแล้ว “บอกแล้วเธอเคยยอมเลิกเหรอ”

    “ที่ผ่านมา...เราทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กน้อยมากนะ แล้วจะให้ยอมเลิกด้วยเรื่องไร้สาระเหรอ” เธอสูดน้ำมูกพูดเสียงสั่นเครือด้วยความยากลำบาก “มีแต่โปรดที่พยายามจะรักษา‘เรา’ไว้”

    “เธอก็มองทุกอย่างเป็นเรื่องไร้สาระหมดนั่นแหละ” มือหนาโยนผ้าชั้นในชิ้นเล็กซึ่งตกอยู่ข้างเตียงให้อีกคนที่ลงมาจากเตียงเก็บของเตรียมจะหนี

    “มึงไม่ต้องขยับเดี๋ยวกูก็จะเช็คบิลกับมึงต่อ!” นิ้วเรียวสวมแหวนเงินชี้หน้าผู้หญิงที่คงไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างเอาเรื่อง

    สวยไม่ได้ครึ่งของกู!

    มันน่าเจ็บใจที่แฟนหนุ่มกลับหิ้วใครก็ไม่รู้มานอนกกกอดในห้องของเธอ โดยที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้สวยเลิศเลออย่างที่เขาอดห้ามใจตนเองไม่ได้

    “มึงเก็บของออกไปจากห้องกูเลยนะ...แล้วอย่าโผล่หน้ามาให้กูเห็นอีก” 

    “...คิดดีแล้วใช่ไหมที่จะเลิก”

    “มึงไม่รักกูแล้วจะทนคบกูต่อทำไม...อยากเลิกก็เลิก! คนอย่างมึงไม่มีกูก็มีแต่ตัวล่ะวะ”

    “เธอไม่มีที่ไปนะคนโปรด บ้านเธอก็ไม่ได้อยากอยู่ไม่ใช่เหรอ”

    “ทำไมกูต้องมีที่ไป ในเมื่อห้องๆ นี้กูก็ผ่อนด้วยตัวกูเอง ไม่เหมือนมึงหรอก...มีแต่ตัว เกาะพ่อแม่กินไม่พอยังมาเกาะกูกินอีก!” ปากว่าด้วยความหยาบคายอย่างที่น้อยครั้งจะทำ ทว่าภายในใจกลับเจ็บปวดราวกับถูกบีบ

    ทั้งที่ไม่อยากร้องไห้ให้ใครต้องสมเพชแต่กลับห้ามน้ำตาไม่ได้ ร่างบางสูดน้ำมูกจนแสบจมูกพลางใช้มือปาดน้ำตาลวกๆ อย่างไม่ยอมแพ้

    ใช่...คนที่ควรจะไปคือพวกมันไม่ใช่เธอสักหน่อย

    “งั้นก็ควรจะจำได้...ว่าเธอผ่อนห้องนี้ให้เป็นชื่อใคร”

    “...” ราวกับถูกค้อนทุบศีรษะอย่างจัง ใบหน้าหมวยซีดเผือด

    “เธอซื้อมันในชื่อฉันนะ...แล้วเธอจะเอามันไปได้ยังไง” ก้องพูดเสียงเรียบ

    “หน้าด้าน! ของๆ กู เงินทุกบาทกูหามาเองมันจะเป็นของมึงได้ยังไง” มือบางคว้าแจกันข้างตัวทุ่มใส่แฟนเก่าทว่าอีกฝ่ายหลบทัน เศษกระเบื้องแตกกระจายเต็มพื้นห้อง

    “เป็นบ้าไปแล้วหรือไงวะ!”

    “มึงต่างหากที่บ้า! ของๆ กู...มึงไปโอนคอนโดฯ คืนกูเลยนะ” มือไม้สั่นไปหมด ความเสียใจจากการถูกนอกใจมันไม่ได้ครึ่งหนึ่งของที่รู้สึกในตอนนี้

    ความพยายามถีบตัวเองมาตลอดหลายปีกำลังพังทลายลงด้วยความโง่เขลาและโลกสวยของตัวเธอเอง

    เพราะอยากมีพื้นที่ของตนเอง อยากเติบโตและก้าวไปให้ไวกว่าคนอื่นจึงทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอทุ่มเทให้กับงานเพื่อเงิน

    เพื่อให้รอดพ้นจากครอบครัว...คนที่ไม่เคยเป็นความสบายใจให้ มีแต่สร้างปัญหาให้ไม่หยุดหย่อน

    “กูเชื่อใจมึงมากนะเว้ย...มึงทำแบบนี้กับกูได้ยังไง”

    “เธอเป็นคนเลือกเองนะคนโปรด”

    “แต่กูไม่ได้ให้มึงไง! มึงจะเอามันไปไม่ได้!”

    “เธอควรจะคิดได้ตั้งแต่ก่อนจะซื้อรถและคอนโดฯ เป็นชื่อของฉันแล้ว”

    “...”

    “เก็บของออกไปเลยสิ จะได้ไม่ลำบากมาที่นี่อีกรอบ” ดวงตาเรียวเล็กกระพริบตาช้าๆ ก้าวเข้าไปคว้าแขนแฟนที่คบมาหลายปีพร้อมกับเขย่าน้อยๆ ราวกับคนอ่อนแรง

    “ทำแบบนี้เพราะไม่อยากเลิกใช่ไหม ก้อง...ไม่อยากเลิกเลยต้องใช้ข้ออ้างพวกนี้ใช่ไหมอะ ไม่ได้จะเอามันไปจริงๆ ใช่ไหมอะ” เขาต้องรู้สิว่าที่นี่สำคัญสำหรับเธอยังไง เขารู้ทุกอย่างไม่ใช่เหรอ “ก้องก็รู้ว่าเค้าอยากมีบ้าน…”

    “ที่ผ่านมามันก็แฟร์ไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มดึงมือบางออก สีหน้าเฉยชาไม่มีแม้แต่ความสงสารหรือเห็นใจ และใช่...เขาไม่ได้เจ็บปวดเหมือนกับเธอ “เธอหนีครอบครัวมาใช้ชีวิต อยากจะมีบ้านอยากมีรถ ฉันก็ให้เธอใช้ชื่อฉันซื้อมา เอกสารทุกอย่างก็เป็นฉันที่จัดการให้...ถ้าไม่มีฉันเธอก็ไม่มีวันนี้หรอกคนโปรด”

    น้ำตาใสๆ ร่วงเผาะ มือบางตกลงที่ข้างลำตัวปลายเล็บยาวจิกผิวเนื้อแน่นจนรู้สึกแสบชา

    “มึงแม่งเหี้ย...ที่ผ่านมามึงคงรอวันที่จะเลิกกับกูมาตลอดเลยใช่ไหม” ทั้งที่เธอไว้ใจเขามากกว่าแม่ผู้ให้กำเนิด คิดฝันเพียงภาพอนาคตสวยงามที่มีเขาอยู่ด้วยตลอด อีกฝ่ายกลับรอคอยวันเลิกราและช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอสร้างมากับมือไป “ถ้าคิดจะเอาของๆ กูอยู่แล้ว ทำไมไม่เลิกตั้งนานแล้วล่ะ”

    “ฉันสงสาร…” ใบหม่อนสะบัดหลังมือฟาดลงบนใบหน้าของก้องทันทีที่คำนั้นหลุดจากปากเขา

    เพี๊ยะ!!

    “สงสารหรือสมเพช!” เธอเกลียดคำว่าสงสารที่สุดในชีวิต ไม่เคยร้องขอให้ใครมาเห็นใจ ไม่เคยเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากใคร “มึงไปเอากับคนอื่นอะ แม่งหาเงินได้เก่งเท่ากูไหม สวยก็ไม่สวย! มึงยังเอาลงแล้วทำไมกับกูตอนนี้มึงถึงเอาไม่ลงแล้วล่ะ!”

    ใบหน้าเรียวเล็กหันมองผู้หญิงอีกคนที่ยืนสั่นงันงกอยู่กับที่ เมื่อทางออกเดียวของห้องนี้ถูกเธอยืนขวางอยู่

    “ฉันไม่รู้ว่าเขามีแฟนแล้ว ไม่รู้จริงๆ” ชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำสั้นกุดจนเกือบเห็นอะไรต่อมิอะไรถูกเจ้าของทั้งดึงทั้งกำเพื่อคลายความกังวล

    “ห้องแม่งหวานขนาดนี้มึงโง่หรือคันจนดูไม่ออก” ตุ๊กตาหลายตัวจัดวางเรียงรายอยู่ให้เห็นทุกมุมห้อง ทั้งผ้าห่มสีหวานบนเตียงก็ยังมีลายสดใสที่เธอชอบ

    “เลิกบ้าได้หรือยัง...ด่าเสร็จแล้วก็เก็บของออกไปเหอะ เสียงดังมากเดี๋ยวก็โดนข้างห้องด่า…” เธอหันมองชายหนุ่มซึ่งเป็นรักแรกอย่างเจ็บปวด เขากวักมือไล่ราวกับหมูกับหมาที่เขาไม่อยากจะคุย

    “กูนี่แหละด่า!! สนใจอะไรกับคนอื่นอะ” 

    “เพราะเธอไม่เคยสนใจคนอื่นเลยไง เธอสนใจแค่ตัวเธอเอง...เราถึงเข้ากันไม่ได้”

    “...” อะไรคือเข้ากันไม่ได้ เข้ากันไม่ได้จะคบกันมานานขนาดนี้ได้ยังไง

    ห้าปีเลยนะเว้ย

    “เธอคิดแต่จะเอาชนะครอบครัว หาเงินจนแทบไม่มีเวลาให้ฉันเลย เรื่องเรียนก็ยังเดือดร้อนให้ฉันช่วย งานบ้านฉันก็ทำคนเดียว เธอไม่ชอบใคร ทะเลาะกับใครฉันก็ต้องเลิกคบคนพวกนั้นด้วยอีก...เธอคิดว่าชีวิตนี้ฉันจะยอมรับได้ไปตลอดหรือไงวะ”

    “...”

    “เลิกคบเธอแค่คนเดียว ชีวิตฉันก็ดีขึ้นเป็นกองแล้ว”


     


     


     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×