ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักด่วน ขบวนสุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #2 : พินัยกรรมทำเหตุ

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 59


     

    “เงื่อนไขข้อสุดท้าย ผู้เดียวที่นายนายโปรดจะว่าจ้างมาช่วยดูแลบ้านร่วมกันได้คือ 'นางสาวอนาวิลา รัตนเศวต' เท่านั้น โดยมีค่าตอบแทนตามสัญญาอีกฉบับที่ข้าพเจ้าระบุ พร้อมทั้งให้พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ร่วมกัน เป็นเวลาหนึ่งปี หากนายนายโปรดไม่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าพเจ้าจะตกเป็นของนางสาวอนาวิลาแต่เพียงผู้เดียว"

    "ฮะ!"

    "อะ...อะไรนะคะ!"

    สองเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมกันทันทีที่จบประโยคนั้น หนุ่มสาวที่มีชื่อในพินัยกรรมต่างมองหน้ากัน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปคนละทางอย่างไม่ยอมรับเงื่อนไขที่ได้ฟัง

    "ไม่ตลกนะคุณทนาย ผมไม่คิดว่าท่านจะมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนอย่างที่ว่าในพินัยกรรม" ปราบดา บิดาของนายโปรดทักท้วง

    "ท่านมีแน่นอนครับ ผมยืนยัน" ทนายชลัทตอบเสียงเรียบ

    "แต่อุ่นเป็นคนนอก ไม่ควรต้องมาเกี่ยวข้องเลยนะคะ คุณตาคิดอะไรนะ" อนาวิลาแย้งขึ้นบ้าง

    หญิงสาวนึกถึงวันแรกรู้จักคุณตา ตอนนั้นเธอเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายและได้ย้ายมาอยู่อพาร์ตเมนต์ที่อยู่ปัจจุบัน เธอมักแอบไปเล่นกับสุนัขทั้งสี่ตัวในบ้านหลังหนึ่ง เรียกมันด้วยชื่อที่เธอตั้งขึ้นมาเองตามลักษณะเด่นของสุนัขแต่ละตัว

    เธอบังเอิญได้รู้จักกับชายชราเมื่อท่านได้ยินและเห็นเธอแหย่เล่นกับพวกมัน ท่านออกมาดูและพูดคุยกับเธออย่างมีเมตตา ก่อนเธอจะจากไปเรียนท่านยังอนุญาตให้มาเล่นกับพวกมันอีกเมื่อไรก็ได้

    นับจากวันนั้นกว่าหกปีที่ได้รู้จักคุณตาสรรค์ชัย อดีตนายแพทย์ทหารผู้นั้น ไม่เคยมีสักวันที่ท่านไม่เต็มใจต้อนรับเธอ เราต่างเป็นครอบครัวร่วมโลกเดียวกัน ท่านเอ็นดูเธอเหมือนหลาน ขณะที่เธอก็นับถือและรักชายชราอย่างญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง อาจมากกว่าครอบครัวตัวเองเสียด้วยซ้ำ

    มีวันนี้ที่เธอไม่เข้าใจเหตุผลของท่านเอาเสียเลย...

    "ไม่หรอกครับหนูอุ่น คุณโปรด ท่านมีเหตุผลของท่าน" ทนายวัยกลางคนตอบอย่างใจเย็นเช่นเคย

    "ถ้าอย่างนั้นก็ให้เขาดูแลบ้านและเจ้าสี่ตัวนั้นเองคนเดียวเถอะค่ะ ไม่ผิดเงื่อนไขใช่ไหมคะลุงทนาย" เธอเอ่ยปรึกษาท่านราวมีกันสองคนแค่นั้น

    "เธอมีสิทธิ์อะไรมาคิดแทนคนอื่น" นายโปรดเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก

    ว่าไปแล้วนี่เป็นการพูดจาตรงๆ ครั้งแรกระหว่างเขากับเธอ หากหญิงสาวกลับนั่งหลังตรงมองไปยังทนายชลัทเท่านั้น แม้หางตาจะแลเห็นคนข้างตัวฮึดฮัดราวเด็กไม่ได้ดั่งใจก็ตาม

    ถึงจะรักคุณตามากแค่ไหน แต่เรื่องอะไรเธอต้องมาอยู่บ้านกับชายแปลกหน้าด้วย ท่าทางเขาเหมือนวัยรุ่นหยิบโหย่ง ไม่น่าไว้ใจเลย

    "ก็แค่ตาโปรดอยู่บ้านนี้แล้วให้คนงานที่บ้านมาทำความสะอาดดูแล ผมไม่เห็นว่ามันจะส่งผลเสียตรงไหน" ปราบดายังไม่หายข้องใจในจุดประสงค์ของพ่อตา

    "แต่มันผิดเงื่อนไขและความตั้งใจของคุณสรรค์ชัยครับคุณปราบดา"

    "งั้นก็ไม่ต้องอยู่ ไม่เอาก็ได้สมบัติอะไรนี่ บ้านเก่าๆ กับหมา ใครอยากได้ก็ให้ไป" นายโปรดเอ่ยตัดรำคาญ

    นายโปรดทำท่าจะลุกเดินออกไป หากไม่มีเสียงประกาศิตดังขึ้นเสียก่อน

    "หยุด! แกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นนายโปรด แกต้องทำตามเงื่อนไขของตาแก"

    ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้ากรอบประตู ใบหน้าใสอ่อนเยาว์ของเขาแลดูขัดตาด้วยดวงตากร้าวกระด้างที่ใช้มองบุพการี

    "พ่อหรือผมกันแน่ที่อยากได้สมบัติของตา"

    "ก็ลองออกไปดูสิ" ปราบดาขู่เสียงเรียบ หากนั่นก็ทำให้มือที่จับบานประตูชะงัก "แกก็รู้ว่าฉันเคยทำยังไงตอนบังคับแกกลับจากเมืองนอก เงินเดือนที่ฉันให้แก บัตรเครดิต รถ แกจะอยู่โดยไม่มีของพวกนี้ได้ยังไง"

    ชะอุ๋ย... พ่อลูกไม่ถูกกันหรือนี่ อนาวิลาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สบสายตาใครในสถานการณ์เช่นนี้ กระนั้นเธอก็พลอยอึดอัดใจและไม่เป็นสุขเอาเสียเลย

    "ที่พ่ออยากให้ผมได้สมบัติตานักก็เพราะจะเก็บเงินทองของตัวเองไว้ให้ลูกเล็กกับเมียใหม่ใช่ไหม" เขาเค้นเสียงเอ่ยลอดไรฟัน

    "ใช่ ฉันหมดเปลืองกับแกมาเท่าไร เคยคิดบ้างไหม แกสมควรรับผิดชอบชีวิตแกเองได้เสียที" ปราบตาตอบเสียงเข้ม

    หญิงสาวนึกอยากหายตัวไปจากตรงนี้นัก อยู่ให้ห่างจากสองพ่อลูกที่สบตาห้ำหั่นกันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่นั่นก็เป็นไปไม่ได้เลย เพราะแม้แต่หายใจเธอยังกลัวว่ามันจะส่งเสียงดังให้รู้ว่าเธอมีตัวตน

    "แต่ถ้าแกยอมอยู่ที่นี่ตามเงื่อนไขพินัยกรรมนั่น เงินห้าล้านที่แกขอฉันไปลงทุนกับเพื่อน ฉันอาจคิดทบทวนอีกทีก็ได้"

    อนาวิลาดีดลูกคิดตาม ชาตินี้ทั้งชาติเธอคงไม่มีทางหาเงินตั้งห้าล้านบาทนั้นได้ แต่พ่อลูกคู่นี้กลับเอ่ยถึงมันราวเงินห้าบาท และดูท่าชายหนุ่มจะครุ่นคิดถึงมูลค่าของมันเช่นเดียวกับเธอ

    นายโปรดหยุดยืนนิ่ง เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มขณะไตร่ตรอง ก่อนจะหลับตาลงอย่างตัดสินใจ

    "ผมขอดูสัญญาแนบอีกฉบับได้หรือเปล่าคุณทนาย"

    เดี๋ยวนะ ถ้าเธอจำไม่ผิด สัญญาแนบนั้นอยู่ในเงื่อนไขข้อที่สามซึ่งเกี่ยวพันกับเธอนี่นา

    "ได้ครับ"

    ทนายชลัทเปิดแฟ้มเอกสาร เขาส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้อีกฝ่ายรับไปอ่าน โดยที่ร่างสูงยืนเท้าเอวไล่สายตาอ่านมันค้ำหัวผู้ใหญ่อยู่นั่นเอง

    อนาวิลารู้สึกถึงสายตาซึ่งเหลือบมองเธอเป็นระยะ มีแววประเมินปรากฏในดวงตากลมสวยคู่นั้น ก่อนเขาจะส่งกระดาษสัญญาให้บิดา

    "แล้วใครจะเป็นคนจ่ายเงินเดือน ผมไม่จ่ายนะ" นายโปรดโวยเสียงอ่อนลง

    ปราบดานิ่งไปครู่หนึ่ง เขาใช้เวลาอ่านไวกว่าบุตรชายและเป็นฝ่ายตอบคำถามนั้นเอง

    "ในสัญญาบอกว่าคุณทนายจะจัดการเรื่องเงินเดือนของคุณอนาวิลาเอง ใช่ไหมคุณทนาย"

    "ครับ คุณสรรค์ชัยเตรียมการเรื่องนี้ไว้แล้ว"

    ทนายชลัทผงกศีรษะพลางยิ้มบาง เขาหันมาสบตาหญิงสาวที่นั่งหน้าเหวออย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก ซึ่งก็เหลือแต่ความสมัครใจของเธอคนเดียว

    "แล้วตกลงหนูอุ่น..."

    ไม่ทันขาดคำนั้นเจ้าหล่อนก็ทะลุขึ้นกลางปล้อง

    "ไม่นะคะ อุ่นไม่ตกลงอะไรทั้งนั้น คุณตาทำแบบนี้ไม่ยุติธรรมกับอุ่นเลย"

    "หนูอุ่น" บุรุษวัยกลางคนเอ่ยเรียกอ่อนโยน "คุณสรรค์ชัยท่านเป็นคนมีเหตุผล หนูอุ่นก็รู้จักท่านดี แล้วท่านก็รักหนูเหมือนลูกหลานคนหนึ่งนะ"

    อนาวิลาเคยเชื่อเช่นนั้น กระทั่งตอนนี้ที่เธอไม่มั่นใจเอาเสียเลย

    "หนูขอโทษค่ะลุงทนาย หนูคงทำตามความต้องการคุณตาไม่ได้จริงๆ" เธอเอ่ยเด็ดขาดเป็นครั้งแรก

    อนาวิลายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองในห้องนั้น ก่อนเธอจะลุกเดินจากไปท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน

    ...............................

    สวัสดีค่า มาพบกับตอนแรกโฉมใหม่ที่กระชับขึ้นนะคะ

    ทุกคนอาจสงสัยว่าอุ่นกับนายโปรดดูจะไม่กินเส้นกัน แล้วจะอิ๊อ๊ะกันได้ยังไง 5555

    เรื่องแบบนี้ต้องมีตัวแปรค่า และตัวแปรโพรไฟล์ดีเริ่ดด้วยน้าาา

    มาช่วยอุ่นให้(หรือหัก)คะแนนหนุ่มๆ กันต่อได้ในตอนหน้า

    อย่าลืมกด favourite เพื่อมิพลาดอัพเดตนะคะทุกคนนน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×