ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักด่วน ขบวนสุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #8 : ใครจะเข้าใจ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.62K
      8
      15 มี.ค. 59

    "มาทำไมป่านนี้ยะ" ฟ้าใหม่ เกย์ร่างยักษ์เอ่ยทักเป็นคำแรกทันทีที่ลุกไปเปิดประตูห้องพักให้เพื่อนสนิทเข้ามา

    นายโปรดไม่ตอบ เขาเดินเลยไปนั่งยังโซฟาเดี่ยวเยื้องกับที่กีรณานั่งอ่านเอกสารบางอย่างอยู่พร้อมกับวางถาดพิซซ่าในถุงลงกลางโต๊ะรับแขก

    "เนื่องในโอกาส..." กีรณา สาวทอมเลิกคิ้วถาม

    "กินไม่หมด" เขาตอบแกนๆ

    เพื่อนสนิททั้งสองคนลอบสบตากัน สีหน้าคนใจดีที่หิ้วของกินมาฝากไม่เหมือนเต็มใจเลี้ยงสักนิด

    ฟ้าใหม่นั่งลงข้างเพื่อนทอม เขาเปิดฝากล่องออกดูด้วยดวงตาพราวระยับ ก็ตั้งแต่ตระเวนดูทำเลเปิดร้านหลายแห่งเมื่อเช้า ทั้งเขาและกีรณาก็มีเพียงกาแฟตกถึงท้องเท่านั้น

    "นายโปรด แกมาโปรดพวกเราสมชื่อแท้ๆ มามะ มาคิสหน่อย"

    'เพื่อนเทยยื่นแขนทำท่าจะโผไปหา ทว่าชายหนุ่มก็เบี่ยงตัวหลบ ยกขากันและเตรียมยันไว้ได้ทัน ขณะที่ 'เพื่อนทอมเพียงพยักหน้าขอบคุณ

    เห็นเพื่อนทั้งสองเอร็ดอร่อยจากเสบียงที่เขานำมาแล้ว นายโปรดก็พลอยยิ้มออกได้บ้าง แม้คำพูดของใครบางคนจะยังเป็นตะกอนขุ่นค้างในใจ

    "พวกเธอไม่คิดว่าฉันเอาของเหลือมาให้เหรอ"

    "ถ้าฉันไม่รู้จักแกดีก็คงคิดหรอก แต่นี่แกมันป่วยง่าย เอะอะก็อาหารเป็นพิษ กินของเย็นของค้างไม่ได้ เอามาให้ฉันก็ดีแล้วแหละ" ฟ้าใหม่ตอบก่อนกัดพิซซ่าคำใหญ่

    "แล้วนี่นายคงไม่ได้ตั้งใจซื้อมาเลี้ยงพวกฉันหรอกใช่ไหม ไม่งั้นนายคงไม่กินก่อน" กีรณาเอ่ยอย่างรู้นิสัยเพื่อนรุ่นน้องดี

    ชายหนุ่มเป่าปากพลางทิ้งตัวพิงพนัก เขาไม่ตอบหากเสกดรีโมตเปลี่ยนช่องโทรทัศน์แทน สาวมาดทอมหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างคนช่างสังเกตแล้วก็นึกสนุกขึ้นมา

    "ซื้อมากินกับคนป่วยแล้วเขาไม่กินหรือเปล่า"

    ได้ผล ดวงตาเรียวสวยตวัดมอง ก่อนจะหลุบเปลือกตาลงอย่างปิดบังความรู้สึกตน

    "เฮอะ ไม่เคยมีใครปฏิเสธฉัน มีแต่ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิ์ปฏิเสธใครหรืออะไรก็ตาม" เขาเอ่ยแก้เก้อ หากน้ำเสียงไม่ได้เปี่ยมความมั่นใจเช่นทุกที

    "ยกเว้นคนนี้..." กีรณายังคงสนุกที่ได้เย้าคนฟอร์มจัด

    "เฮ้ย อะไรของแกเนี่ย รีบๆ กินไปสิ ไอ้ใหม่มันฟาดชิ้นที่สามแล้ว"

    นายโปรดดึงคอเสื้อลงพลางยกมือพัดเรียกลม จู่ๆ อากาศรอบตัวก็ร้อนขึ้นมาทั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศอยู่

    "เด็กน้อย" สาวรุ่นพี่ว่าเยาะ "คนอยู่บ้านเดียวกันดีต่อกันก็ถูกแล้วนี่ แกแหละร้อนตัวไปเอง"

    ชายหนุ่มมองค้อนคนที่พูดจาวกวนให้ตนหัวปั่น เขาคว้าเอกสารบนโต๊ะมาดูแก้ขวยระหว่างรอเพื่อนทั้งสองจัดการพิซซ่า แล้วก็พบว่ามันเป็นเอกสารสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ และยังมีสัญญาเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าอีกด้วย

    นี่คือเหตุผลที่เขาไม่ได้ไปตามนัดของเพื่อนเมื่อเช้า เพราะเขาไม่มีเงินมากพอมาร่วมหุ้นกับพวกเธอ เขาก็ไม่ควรมีสิทธิ์ตัดสินใจไม่ว่าเรื่องใดๆ

    "เสียดายที่วันนี้แกไม่ได้ไปดูร้านกับพวกฉัน" ฟ้าใหม่เอ่ยขึ้นบ้างหลังอิ่ม

    นายโปรดวางกระดาษเอกสารลงบนโต๊ะ เขานั่งหลังตรง ไขว่ห้างอย่างไว้ตัว หากคนเป็นเพื่อนรู้ดี ท่าทางอย่างนั้นถูกปั้นแต่งมาจนเจ้าตัวคุ้นชินก็เพื่อปิดบังความอ่อนแอของตน

    "บอกแล้วไง เงินรวมหุ้นน่ะไว้ก่อนก็ได้ ตอนนี้แกก็มาช่วยฉันกับไอ้กี้มันก่อน ยังไงก็เป็นร้านของเราสามคน"

    ชายหนุ่มเบือนหน้าหนี เขาเกลียดการไม่มีตัวตน ไม่ชอบหลบอยู่ใต้เงาใคร แม้คนคนนั้นจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดก็ตาม

    อีกตั้งสามร้อยกว่าวัน กว่าจะถึงตอนนั้นร้านเสื้อผ้าที่เขากับเพื่อนร่างฝันด้วยกันคงสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างแล้ว โดยที่เขาได้แต่มองเข้าไปราวคนนอกคนหนึ่ง

    เขาทนได้หรือ เขาทำได้เพียงยืนมองความฝันสำเร็จจริงๆ หรือ เมื่อได้คำตอบให้กับตัวเอง นายโปรดก็ผุดลุกจากโซฟาทันที

    "อ้าว จะไปไหน" ฟ้าใหม่กรีดเสียงร้องถาม

    เขาไม่ได้หยุดตอบ ทว่าหุนหันจากไปอย่างคนที่มีเป้าหมายใหม่ต้องเร่งทำ

     

    นายโปรดรวบรวมลมหายใจขณะลิฟต์กำลังไต่ระดับขึ้นไปยังชั้นที่เป็นออฟฟิศของผู้บริหาร เขาลูบจัดแต่งทรงผมก่อนก้าวออกไปอย่างมั่นคงตามทางเดินที่คุ้นเคย กระทั่งมาหยุดยังหน้าห้องที่มีป้ายบอกตำแหน่งสีทองแขวนไว้ เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบโต๊ะทำงานของเลขานุการและชุดโซฟารับแขกสำหรับผู้ที่มารอพบ พลันภาพความทรงจำเมื่อสมัยเขาเป็นเด็กและมักมานั่งเล่นนอนเล่นระหว่างรอพ่อทำงานในห้องนี้ก็ย้อนเข้ามา

    เลขานุการสาวจดจำบุตรชายเจ้านายได้ เธอรีบลุกจากโต๊ะทำงานมาต้อนรับจนชายหนุ่มต้องดึงสติกลับมา

    "พ่ออยู่หรือเปล่า"

    "อยู่ค่ะ แต่..."

    "มีแขกหรือไง"

    "เปล่าค่ะ แต่..."

    นายโปรดหยุดเดินพลางหันขวับมองผู้ที่กวนประสาทตน หญิงสาวได้แต่ก้มหน้าตอบอย่างกริ่งเกรง

    "ขอดิฉันแจ้งท่านประธานก่อนนะคะ คราวที่แล้วที่ดิฉันแจ้งไม่ทันถูกท่านตำหนิเอาน่ะค่ะ"

    วูบหนึ่งในใจเขานึกละอายที่มีผู้อื่นเดือดร้อนเพราะตน ก่อนชายหนุ่มจะรีบปัดความคิดนั้นไปจากใจและโทษว่าเป็นเพราะความมากเรื่องกับพิธีรีตองของพ่อ

    กว่าจะรู้ตัวว่าตนหยุดยืนนิ่งกระทั่งอีกฝ่ายโทรแจ้งเจ้านายแล้วเสร็จ ก็เมื่อเจ้าหล่อนผายมือเชิญพลางเปิดประตูให้เข้าไป

    ปราบดาเงยหน้าจากแฟ้มเอกสารมาขมวดคิ้วมองบุตรชาย ครั้นลูกน้องดึงประตูปิดลง เขาจึงเปิดฉากถามอย่างแปลกใจ

    "มีอะไร"

    คำถามด้วยความสงสัยนั้นฟังดูเย็นชาสำหรับผู้รับสาร ชายหนุ่มชะงักมือที่จะดึงเก้าอี้นั่ง เขาบีบมันไว้และยืนค้ำผู้เป็นพ่ออยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะทำงาน

    "ปลื้มใจจัง นี่คือคำทักของพ่อที่ลูกไม่ได้กลับบ้านตั้งหลายวัน" เขาเหยียดยิ้มหยันตัวเอง

    ปราบดาลอบถอนใจ เขาคร้านจะต่อปากต่อคำกับมันในเวลาที่งานสุมเต็มโต๊ะเช่นนี้

    "ถ้าไม่มีอะไรก็กลับไป ไม่เห็นหรือว่าฉันงานยุ่ง ไม่ช่วยก็อย่ามาขวาง"

    ตั้งแต่เขาจำความได้พ่อก็งานยุ่งเช่นนี้เสมอ เมื่อเขายังเด็กพ่อก็พาเขามาอยู่โยงที่ทำงาน ใช้เวลาที่นี่มากกว่าไปเที่ยวด้วยกัน แต่ครั้นเขาเติบโตขึ้น เขากลับเกลียดสถานที่แห่งนี้ที่แย่งพ่อไปจากตนจนพาลไม่อยากมาเหยียบอีกเลย

    พ่อเป็นคนเก่ง เขารู้และภูมิใจเสมอ หากอีกใจเขาก็ต้องการแค่พ่อที่เป็นทั้งพ่อและเพื่อนสักคน

    "พ่อ"

    บุรุษวัยกลางคนละสายตาจากงานตรงหน้า มองตอบคนที่เรียกตนด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

    "เรื่องที่เราคุยกันไว้น่ะ จำได้ไหม เรื่องเงินที่ผมขอไปลงทุนกับเพื่อน ผมขอ..."

    "ไม่ได้" ปราบดาชิงตอบก่อนลูกชายจะพูดจบ

    นายโปรดฉุนกึก พ่อไม่เคยฟังเขาเลย ไม่เคยสนใจความต้องการ ความฝันของเขา

    "ทำไม ผมก็ยอมทำตามความต้องการของพ่อแล้วไง ไปอยู่บ้านของตากับหมาพวกนั้น พ่อทำเพื่อผมบ้างไม่ได้หรือไง"

    "ฉันก็ทำเพื่อแกอยู่นี่" ผู้เป็นพ่อตอบใส่อารมณ์พอกัน เขาตบมือไปบนแฟ้มต่างๆ บนโต๊ะทำงาน "แกล่ะ เคยทำอะไรให้ฉันภูมิใจบ้างไหม ฉันส่งไปเรียนบริหารถึงเมืองนอกเมืองนา แล้วแกได้อะไรกลับมา ประกาศนียบัตรออกแบบบ้าบออะไรนั่น ใครกันแน่ที่ทำเพื่อตัวเอง"

    นายโปรดขบกรามแน่น ใช่ ทั้งเขาและพ่อต่างก็ทำเพื่อตัวเองและไม่มีทางที่ใครจะเปลี่ยนอีกฝ่ายได้ เสียเวลาเปล่าที่เขามาถึงนี่ เขามันโง่เองที่คิดว่าพ่อจะยอมรับฟังตน

    ร่างสูงหันหลังกลับพร้อมกับคำถามที่ดังขึ้นในใจ จะมีสักที่แห่งหนหนึ่งไหมที่เขาจะต้องไม่เป็นฝ่ายหันหลังจากไปไหนอีก ที่ที่เป็นของเขาโดยสมบูรณ์ พร้อมด้วยคนที่รักและเข้าใจเขา แต่แล้วภาพสุนัขทั้งสี่ตัวก็ฉายชัดขึ้นมาในมโนภาพ บ้าน่า! เขาจะอยู่ร่วมบ้านกับสุนัขทั้งชีวิตได้อย่างไร

    หรือว่า...มันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ

    ......................................

    จริงๆ ตอนนี้สืบเนื่องมาจากตอนที่แล้วค่ะก็เลยไม่มีเลขบท

    เวลานายโปรดไม่มีใครเข้าใจอย่างนี้ก็น่าสงสารไปอีกแบบนะคะ คิดถึงบ้านคุณตาขึ้นมาเชียว 55

    ส่วนใครที่รอดูว่าโปรดจะช่วยอุ่นอ่อยพี่ภาคย์ตอนไหน บทที่ 5 รู้กันค่า

    อยู่ด้วยกันก่อนน้าาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×