ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : นิทานเรื่องที่1 สมมติเทพกับความฝัน ตอนที่1
“พระจักรพรรดิโชวะได้มีรับสั่งให้กระผม โนบิ วาตานาเบ้ เป็นผู้แทนพะองค์ในการพระราชทาน เครื่องหอมและดอกไม้ ในการประกอบพิธีศพต่อไป...”
เป็นคำพูดที่ โควะ คาวาชิ ได้ยินในงานศพของคุณปู่ของเขา เกี่ยวกับ พระจักรพรรดิโชวะ โควะก็เหมือนเด็กญี่ปุ่นทั่วไป คือได้ยินชื่อ ‘พระจักรพรรดิ’ มาตั้งแต่จำความได้ และได้ยินมาตลอดชีวิต7ขวบของเขา จากการที่เคยคุยกันเล็กน้อยเพื่อนำมาแต่งหนังสือ ผมเคยถามเด็กน้อยไปทำนองว่า ถ้าสมารถเขียนถึงจักรพรรดิได้ จะเขียนว่าอะไร
เขามองผมแปลกๆทำเหมือนเราไม่รู้จักกัน ที่จริงเราก็เพิ่งรู้จักกันไม่นาน แถมยังไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าไหร่
สำหรับใครที่คิดว่าผมโกหกแน่ๆ โควะไม่มีตัวตนจริงหรอก ผมไม่มีทางไปญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้นแน่ ผมยังเกิดไม่ทันเลยและผมไม่มีทางพูดภาษาญี่ปุ่นได้ แค่ภาษาอังกฤษผมยังไม่รอดเลย ไม่เจียมตัว คุณต้องคิดอย่างนั้นแน่เลย ใช่ครับ สำหรับคนที่ไม่มีจินตนาการ โควะก็เป็นเพียงตัวละครที่สมมติขึ้นเท่านั้น และผมเองก็ไม่ค่อยมีจินตนาการนักหรอก ถ้าอย่างนั้นโควะก็เป็นตัวละครสมมุตินะซิ อันที่จริงถ้าจะพูดให้ดี คือ เขามีชีวิต....แต่มีชีวิตอยู่ในหัวของผมและอีกไม่นานก็จะไปอยู่ในหัวคุณด้วยแหละ ผมขี้เกียจอธิบายถึงรูปลักษณ์ของเขา เอาเป็นว่า เขาเป็นเด็กญี่ปุ่นธรรมดา หน้าตาบ้านๆ จะจินตนาการเอาเองว่าเป็น โนบิตะ ซึเนโอะ ไจแอนท์ก็ได้ แต่อย่างน้อยขอให้รู้ว่าเขาเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งไม่มีทางใช่ชิซุกะแน่นอน และที่จริงโควะก็ไม่ได้ใส่แว่นเหมือน โนบิตะ ปากแหลมเหมือนซึเนโอะ อ้วนดำเหมือนไจแอนท์ เอาเป็นว่า คิดออกแล้ว ผมว่าโควะหน้าเหมือนเดคิซึงิที่สุด อืมลงตัวที่สุดแล้ว(เดคิซึงิเป็นเพื่อนไม่ค่อยสนิทกับโนบิตะ เรียนเก่งมากก สอบได
“ผม...ผมจะเขียนชื่นชมท่าน และบอกว่าพวกเราทุกคนยอมตายเพื่อพระจักรพรรดิและญี่ปุ่นได้”โควะตอบกลับมาอย่างกล้ากลัวๆ เขาอาจจะกลัวผม แต่หน้าตาเขาจริงจังมาก
“ ถ้าอย่างนั้นโควะกล้าตายเพื่อพระจักรพรรดิปะ”ผมถามเล่นๆกลับ อันที่จริงผมจะถามคำถามเขาต่อแต่ยังไม่ทันจะถาม เขาก็ตอบมาทันที
“กล้า ...กล้าสิ กล้าอยู่แล้ว”เช่นเดิมสีหน้าจริงจังมาก ถึงเสียงจะยังคงก๊องแก๊งตามวัยแต่ก็ส่อถึงความจริงจัง แล้วโควะก็เดินหนีหายไปโดยผมยังไม่ได้ถามคำถามต่อไป แต่แค่นี้เพียงพอแล้ว ผมมีความคิดในใจว่าเด็กตัวแค่นี้ก็มีความคิดอย่างนี้แล้ว รู้สึกชื่นชมเหมือนกัน ตอนเราอายุ7ขวบยังนั่งดูโดเรมอนอยูเลย หรือเพราะเขาหน้าเหมือนเดดคิซึงิก็เลยทำให้มีความคิดอย่างนี้แล้ว ถ้าผมไปถามเด็กที่หน้าเหมือนโนบิตะจะได้คำตอบแบบนี้มั้ย ครับ เด็กญี่ปุ่นแทบทุกคนก็มีความคิดอย่างนี้หมด เขาถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็ก แต่อะไรที่เราฝังใจตอนเด็กมันก็มักมาหลอกมาหลอนตอนเราเป็นผู้ใหญ่
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
10 ธันวาคม ค.ศ.1941
วันนี้เป็นฤกษ์อปมงคล เหมาะแก่งานอปมงคล อย่าง งานถอนหมั้นงานหย่าร้าง หรืองานศพ...ใช่ งานศพ
วันนี้มีงานศพของผู้อาวุโสตระกูลคาวาชิหรือก็คือปู่ของโควะที่กล่าวไว้ข้างต้น งานศพถูกจัดอยู่ในวัดญี่ปุ่น และมีคนญี่ปุ่นอยู่ข้างใน ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าวัดอยู่ในญี่ปุ่น ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมมีแต่ญี่ปุ่นก็นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับญี่ปุ่นโดยคน....ไทย
ในงานมีคนมาไว้อาลัยคุณปู่เยอะแยะเลย คงไม่ต้องบอกว่า ทุกคนที่มาใส่ชุดสีดำเหมือนกันหมด ผู้ชายจะใส่สูท ผู้หญิงจะแต่งตัวค่อนข้างมิดชิด ถ้าใส่เครื่องประดับก็จะสวมไข่มุก พระก็จะสวมชุดทำพิธี มีสีขาวสลับกับสีม่วงแล้วยังดันไปสลับกับสีทองอีก ใส่หมวกทรงสูงสีแดงลายทอง ถือไม้เท้า แถมพิธีกรยังบอกว่าตอนกลับอย่าลืมไปเอาเกลือที่แจก คนญี่ปุ่นนี่ใจดีจริงๆ ยุคข้าวยากหมากแพง เกลือก็แพงยังให้เกลืออีก...แต่อันที่จริงเค้าไม่ได้ใจดีขาดนั้นหรอก เกลือที่ให้ก็ถุงเล็กๆ แถมเขายังบอกให้โปรยที่หน้าบ้านด้วยตอนกลับ เพราะเขาเชื่อว่าเกลือช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่อาจติดเรามาจากงานศพก็ได้ พักหลังผมได้ยินว่ามีการแจกของที่ใช้ได้จริงอย่าง ผ้าเช็ดหน้า บัตรโทรศัพท์ ผมอยากได้อย่างหลังมากกว่าอีก
ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงผู้ตายก่อน ตระกูลคาวาชิเป็นตระกุลซามูไรเก่าแก่ตระกูลหนึ่งของญี่ปุ่น ลูกหลานทุกคนจะมีสายเลือดของซามูไร ถือเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลรวมถึงโควะก็ด้วยเนื่องจากเป็นตระกูลผู้ภักดีต่อพระจักรพรรดิ โควะคงโดนพ่อแม่สั่งสอนให้จงรักภักดีต่อพระจักรพรรดิตั้งแต่เขายังจำความได้
“บรรพบุรุษของพวกเราหลายรุ่นเคยเป็นซามูไรคอยรับใช้พระมหาจักรพรรดิ และพลีชีพเพื่อพระจักรพรรดิญี่ปุ่นมานักต่อนักแล้ว พวกเราลูกหลานต้องสานต่อหน้าที่ไว้” คุณปู่เคยกำชับไว้กับลูกหลาน แต่ตอนนี้เขาคงนอนอยู่ในโลงได้อย่าหน้าบานได้แล้วเพราะพระจักรพรรดิโชวะได้พระราชทานดอกไม้และเครื่องหอมไว้ให้กับผู้ตาย
คุณปู่เป็นทหารรับใช้พระจักรพรรดิ แกเข้าร่วมสงครามญี่ปุ่นรุกรานแมนจูเรีย และนั่นทำให้แกได้ยศร้อยตรีมาครอง แต่แกก็ไม่ได้ตายในหน้าที่ นี่คงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเล็กน้อยสำหรับแก แกตายด้วยโรคคนชรา ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าแกตายด้วยสาเหตุอะไร ก่อนตายแกยังตะโกน “บันไซ....บันไซ...บันไซ” ซึ่งแปลว่า ขอให้พระจักรพรรดิมีพระชนมายุยาวหมื่นปี แสดงถึงความจงรักภักดีอย่างมาก แต่ที่จริงแล้วผมขอสารภาพ คือแกไม่ได้ตะโกนจริงหรอก ผมแค่พยามเน้นถึงความจงรักภักดีของแกเท่านั้น
แต่อย่างน้อยพระจักรพรรดิก็ยังไม่ลืมแกถึงขนาดพระราชทานดอกไม้แสนสวย เรื่องนี้ทำให้แม่ของโควะได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทั้งน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา แม้ไม่ใช่ลูกของคุณปู่โดยตรง แต่แม่ก็รักแกเหมือนพ่อ และทำให้พ่อและลุงปาน้าอาได้ยืดและได้หน้าเล็กน้อยถึงคุณพ่อของเขา โควะก็ไม่วาย หลังจากเสร็จงานศพเขาเล่าเรื่องของพะราชทานให้กับเด็กทั้งละแวกฟังอย่างภูมิใจ จนทำให้เด็กแถวนั้นต่างอิจฉาโควะเล็กน้อย
ผู้แทนพระองค์นำดอกไม้ไปวางหน้าแท่นสักการะแถวโลงศพ และนำเครื่องหอมไปเผา หลังจากนั้นก็เข้าพิธีศพแบบคนญี่ปุ่น ซึ่งผมไมขอกล่าวถึงละกัน เพระไม่สำคัญ เอาเป็นว่างานศพจบลงด้วยดี และแขกทุดคนได้เกลือครบและบางคนได้สองถุงด้วย
ครอบครัวคาวาชิซึ่งประกอบด้วยพ่อ แม่ พี่ชาย น้องชายคนกลาง(โควะ) น้องสาว ทำการขอบคุณบรรดาแขกที่ร่วมงานเสร็จก็พักที่โตเกียวก่อนหนึ่งคืนหลังจากนั้นพวกเขาจะกลับฮิโรชิมา บ้านเกิด
“เราน่าจะแสดงความขอบคุณพระจักรพรรดินะ.” แม่โควะพูดขึ้นกลางห้องพักในโรงแรมกรุงโตเกียว“พระองค์ทรงอุตส่าห์พระราชทานดอกไม้แสนสวยและเครื่องหอมให้เรา”
“ที่จริงพระจักรพรรดิพระราชทานให้คุณปู่ต่างหาก”น้องสาวโควะแย้ง (ถ้าจะให้อธิบายถึงใบหน้าละก็ เอาเป็นว่าหน้าเหมือนไจโกะน้องไจแอนท์ แต่ผอมกว่า)
“คุณก็นำของไปถวายสิ อย่าง...”พ่อพูดขึ้น ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าท่านพูดอย่างนี้ ท่านพูดเสียงเบามากขัดกับภรรยาของท่าน
“ดาบประจำตระกูลไง พ่อฮะ”โควะพูดขึ้น ทุกคนหันมามองโควะกันหมด(ยกเว้นผมกำลังดูทีวีอยู่ ทีวีในตอนนั้นไม่ค่อยมีอะไรให้ดูหรอก มีแต่โฆษณาชวนเชื่อ แถมมีแต่ช่องอินดี้ ทุกช่องมันเป็นสีขาว-ดำหมด”
“ดาบเล่มนั้น...พ่อแกไม่ให้หรอก”แม่พูดขึ้นเสียงขึ้นจมูก ท่าทางหงุดหงิดนิดหน่อยด้วย
“ก็ได้ๆ พรุ่งนี้ก่อนเราจะกลับคุณก็นำไปถวายสิ”
“ชั้นคิดว่าคุณพ่อแกคงจะดีใจ ทำไมเราไม่ทำตั้งนานแล้ว” เธอเริ่มยิ้มออก
ผมว่าพ่อของโควะก็หนึ่งในสมาชิกคนกลัวเมียของญี่ปุ่น ผมคิดว่าคนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อยกลัวเมียกัน(ความคิดส่วนตัว บางท่านอาจโต้แย้งได้) แต่ไม่ว่าประเทศไหนมันก็ต้องมีคนแบบนี้อยู่ บางทีพ่อโควะอาจโดนริบเงินเดือนหมดแม้แต่โบนัส แล้วตอนเช้าต้องไปบากหน้าแบมือขอค่าขนมจากภรรยา บางทีเค้าอาจไม่ได้กลัวแค่รักเมียมากกกจนยอมให้ทุกอย่าง คนอย่างนี้สิหน้าชื่นชม และหน้า เห็นใจเล็กๆ
“งั้นคุณช่วยนำไปขัดให้หน่อยนะคะ”
“เอ่อ ได้สิจ๊ะ ได้เลย”
“เดี๋ยวผมช่วยเองฮะพ่อ” พี่ชายโควะ รับหน้านี้แทน เหตุที่เขามาขัดให้พ่อแทนไม่ใช่อะไรหรอก คือหน้า6แล้วแต่เขายังไม่มีบทบาทอะไรเลย กลัวคนจะลืมเจ้าเด็กคนนี้ไปก่อน
ถ้าต้องอธิบายหน้าตาของเขาล่ะก็ เขาเป็นเด็กที่หน้าเหมือนเด็กอายุ17ปีเขาหน้าตาเหมือนผม คือมีหลายคนบอกมาอย่างนี้ ไม่หล่อหรอกครับ แต่น่ารักครับ(หวังว่าคงไม่หมั้นไส้ถึงขนาดเขวี้ยงหนังสือทิ้งหรอกกนะครับ แต่ถ้ายังไม่ซื้อ ก็เขวี้ยงได้เลยครับ เขวี้ยงแรงๆ หรือฉีกทิ้งได้เลย พยามทำให้คนอื่นเห็นด้วย ยิ่งแถวนั้นมีกล้องวงจรปิดยิ่งดีครับ เพราะเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่มาคิดเงินค่าหนังสือกับท่านขอหาทำหนังสือชำรุดจนขายไม่ออก เท่ากับท่านซื้อหนังสือเล่มนี้ไปโดยปริยาย ขอบพระคุณครับ)
คืนนั้นพี่ชายนั่งขัดดาบ ดาบจริงๆนะครับไม่ใช่ดาบองเขา ทุกคนหลับกันหมดยกเว้นโควะคนเดียว เขานอนไม่หลับเพราะอะไรผมก็ไม่รู้ เขาเดิน เดิน เดิน เดิน และเดิน บังเอิญไปเจอพี่ชายกำลังแอบขัดดาบอย่างบังเอิญ ขอย้ำว่าดาบจริงๆนะครับ
“พี่ทำอะไรอะ” ขณะถามเขาก็ยังสลึมสลืออยู่
“ขัดดาบอยู่นะสิ” เขากำลังขัดดาบอย่างขมักขเม้น
“ให้ผมช่วยมั้ย”
“ ไปนอนเหอะไป”
โควะไม่ได้ตอบ เขาเงียบ และเงียบไปอีกสัก5นาที ผมสงสัยว่าตอนนี้ว่าเขาไม่ปวดฉี่แล้วเหรอ หรือไม่กลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือไง หรือเห็นพี่ชายกำลังขัดดาบน่าสนุกดี จนไม่อยากลุกไปฉี่แล้ว ขอย้ำครั้งสุดท้ายจริงๆครับว่าดาบจริงๆ
****ผมขอสารภาพครับว่า ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ขึ้นไปสักหกบรรทัด ผมเขียนคำว่า “ขอย้ำครั้งสุดท้ายจริงๆครับว่าดาบจริงๆ” ตรงหลัง “น” ที่อยู่หลัง “ม” ที่อยู่บน “ไม้โท” ที่อยู่หลัง “เ” ที่อยู่หลัง“ข” แต่ผมต้องลบครับเพราะถ้าผมเขียนถือว่าผมโกหกท่านผู้อ่าน ซึ่งถ้าผม
โกหกจริงๆ ผมจะไม่บอกท่านผู้อ่านหรอกครับ
“พี่ครับ...”โควะพูดขึ้นหลังจากเงียบไป5นาที “อะไร”
“พี่ช่วยเขียนจดหมายให้ผมหน่อยสิ”
“เออ เอาสิจะเขียนถึงใครละ”
“พระจักรพรรดิ”
“ห๊ะ...พระจักรพรรดิ”
“อื้อ”
“ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย”
“แล้วพีจะเขียนให้ได้ปะ”
“แล้วแกจะเขียนว่าไงหล่ะ”
“ตกลงแล้วนะ พี่” แล้วโควะรีบวิ่งและวิ่งไปเอากระดาษกับดินสอในกระเป๋าที่อยู่ข้างๆห้องนอน และรีบวิ่งกลับและ หกล้ม และลุกขึ้น และ วิ่งไปหาพี่ชายที่อยู่ห้องถัดไป ดูเหมือนว่าเขาจะขัดดาบเสร็จซักที....นี่ผมเกือบจะย้ำกับท่านผู้อ่านอีกครับว่ามันเป็นดาบจริงๆนะแต่ผมไม่ทำหรอกครับ
“เอ้า พี่ เขียนตามที่ผมบอก”
“นี่แกจะเอาจริงเหรอ”
“ครับ พี่”
“เออ..เออ”
ตอนนั้นผมไม่รู้จริงๆว่าพี่ชายโควะเขียนว่าอะไรบ้าง รู้แต่ว่าพี่ชายเขาสอดจดหมายไว้ข้างใต้ผ้ารองฝักดาบที่อยู่ในกล่อง ผมรู้แค่นี้ จนกระทั่ง....
บัดนี้ผมก็ยังไม่รู้อยู่ดี จนกระทั่ง....(หลายหน้าถัดไป) แต่ถ้าให้ผมเดาก็ไม่ยาก โควะคงจะชื่นชมพระจักรพรรดิอะไรประมาณเนี่ย......มั้ง
11 ธันวาคม 1941
รุ่งขึ้น ครอบครัวคาวาชิเตรียมตัวจะกลับบ้านแต่ก่อนอื่นพวกเขายังมีภารกิจต้องทำก่อนนกลับคือนำดาบประจำตระกูลไปถวายพระจักรพรรดิโชวะ ที่ปะทับอยู่พระราชวังอิมพีเรียล โดยมีจดหมายของโควะซ่อนอยู่ข้างใน พ่อ แม่ และน้องสาวไม่รู้เลยว่าลูกชายคนกลางจะแอบเขียนจดหมายถึงพระจักรพรรดิ หากโควะเขียนพร่ำเพรื่อตามประสาเด็กและแสดงมารยาทไม่เหมาะสมต่อพระมหาจักรพรรดิโชวะแล้วละก็ ทั้งครอบครัวจะต้องเดือดร้อนแน่นอน ทีแรกผมก็ตั้งใจจะบอกว่าลูกชายของพวกคุณแอบเขียนอะไรใส่ไว้ข้างใน แต่มาคิดอีกที....อย่าดีกว่าครับ ผมไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน แล้วอย่างนี้....
ครอบครัวคาวาชิจะสามารถถวายดาบประจำตระกูลให้พระจักรพรรดิได้รึไม่.........ได้ครับ มันง่ายกว่าที่คุณคิดอีก แค่เอาของไปให้หมาดเล็ก เขียนชื่อผู้ถวาย แล้วมหาดเล็กก็ตรวจสอบนิดหน่อย แล้วก็นำไปถวายพระจักรพรรดิได้และ
แต่ของที่ท่านจะถวาย ไม่ใช่ว่าจะถวายอะไรก็อยากถวาย...ไม่ได้นะครับ
มีกฎข้อบังคับมาตั้งแต่สมัยโบราณ ผมทำการค้นคว้าแล้วสรุปได้ดังนี้
***ของที่ห้ามถวายต่อสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ***
1.ประเภทของอันตราย
1.1.ระเบิด
1.2ระเบิดที่ปลดชนาวนแล้ว...อันนี้ยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ 1.3ระเบิดตด... ไม่ดีครับ...เหม็น
1.2ระเบิดที่ปลดชนาวนแล้ว...อันนี้ยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ 1.3ระเบิดตด... ไม่ดีครับ...เหม็น
1.4ระเบิดผายลม....ถึงจะสุภาพขึ้น..แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร
1.5.ยาพิษ100%
1.6 อาหารที่มียาพิษปนเปื้อน
1.7 แอปเปิ้ลที่มียาพิษปนเปื้อน...รายนี้แนะนำให้ใช้กับสโนไวท์จะเหมาะกว่า...แต่โปรดระวังคนแคระทั้งเจ็ดด้วย
1.8ยาพิษที่มียาพิษปนเปื้อน...นี่ก้ด้วย
2. ประเภทของลามก
2.1.โซ...ระ...อา...โอ...อิ (พระมหาจักรพรรดิทรงมีพระอัครมเหสีแล้ว ขอย้า)
2.2 มิ...ย....า...บิ (ดูจากเหตุผลข้อ1)
2.3หนังสือโป๊
2.4 รวมถึงDoujin Hentaiด้วย
2.5 CD หนังโป๊
2.6 Blu-ray หรือ DVD ไม่ช่วยอะไรครับ...กลับไปช่วยตัวเองที่บ้านดีกว่าครับ
2.7 adult goods(ดูจากเหตุผลข้อ3)
2.8 รวมถึงแตงกวา หรือกล้วย (ดูจากเหตุผลข้อ4)
3.ประเภทขอบันเทิง
3.1 xbox360( อย่าลืมว่าช่วงนั้นญี่ปุ่นเป็นชาตินิยม ไม่นำเข้าของนอกที่มาจากฝ่ายสัมพันธมิตร ควรจะเป็น PlayStation, PsP , Nitendo Ds ,wii จะเหมาะกว่า)
3.2 ขายหัวเราะ เหตุผลง่ายๆ พระจักรพรรดิโชวะอ่านภาษาไทยไม่ออก
3.1 หนังสือไร้สาระ( แต่มีคนบอกว่า สิ่งไรสาระมักจะมีสาระปนอยู่เสมอ)
4.หนังสือเล่มนี้
***ของที่อนุญาตให้ถวายต่อสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ***
1.ประเภทร่างกาย
1.1ถวายตัว
1.2ถวายใจ
1.1ถวายตัว
1.2ถวายใจ
2.ประเภทของบันเทิง
2.1PlayStation, PsP , Nitendo Ds ,wii , (ดูจากเหตุผล ของที่ห้ามถวายต่อสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ข้อ3.1)
2.1 โดเรมอน (แบบตัวสีฟ้า ไม่มีหู) มีประโยชน์มากเวลาโดนไจแอนท์รังแก หรือโดนไอปากแหลมล้อ หรือโดนทั้งสองอย่างเลย
2.2 โดเรมอน (แบบสีเหลือง มีหู...แต่ที่จิรงผมชอบแบบสีฟ้ามีหูมากว่า...)
2.3 โดเรมี่ (น้องสาวโดเรมอน)
2.4 มารีโอ้ทุกชนิด(ยกเว้น มารีโอ้ เมาเร่อ )
3.ประเภทของไม่ลามก
3.1 เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หมอนข้าง ลิปสติก แป้งเด็ก ข้าวเหนียวส้มตำ แว่นตากันแดด กาวตราช้าง แม็กกี้ แตงโม สัปประรด มะม่วง ราดหน้า ข้าวหน้าแกงกะหรี่ โถส้วม สบู่ ข้าวสาร ยาดม ยาหม่อง หมีหมี ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ก๋วยเตี๋ยวเรือ มาม่า จักรยาน ที.วี. เตารีด ผ้าไหมไทย แจกัน ธูป ปูนซีเมนต์ อ่างอาบน้ำ น้ำตาล เกลือ ผงชูรส รถยนต์ กระดาษ อมยิ้ม ดาบประจำตระกูล ได้หมดครับ (เวลาเลือกซื้อสินค้า ควรดู อย. กำกับ เพราะถ้ามี อย.กำกับ เราก็จะได้มั่นใจได้ว่ามันอร่อยแท้แน่นอน หรือควรมี มอก.กำกับอยู่ด้วย)
4.ประเภทอาวุธสงคราม
4.1 ระเบิดนิวเคลียร์ (ควรใส่ถุงอย่างน้อย2ชั้น กันกัมมันตภาพรังสีรั่ว)
4.2 รถถัง เครื่องบิน เรือดำน้ำ ได้หมดครับ (เนื่องจากของที่กล่าวมานี้มีน้ำหนักมากจึงควรพาเพื่อนมาช่วยกันแบกอย่างน้อย2คน....ถ้ามันไม่มาให้เลิกคบมันไปเลย... แล้วชวนเพื่อนคนอื่นมาแบกต่อ และที่สำคัญของทุกชิ้น ควรมี made in Japan หรือ made in Germany กำกับเพราะถือเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมากที่สุดในโลก และหลีกเลี่ยง made in China เพราะจะโดนหาว่าของไม่ได้มาตรฐาน)
4.3 ยอดมนุษย์ อย่าง อุลตร้าแมน ขบวนการห้าสี ไอ้มดแดง เจ้าหนูอะตอม และก็อตซิล่า (แต่ห้ามจำพวก แบทแมน โรบิน หรือซูปเปอร์แมนเด็ดขาด เพราะพวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้อยู่ฝ่ายญี่ปุ่น จงจำไว้)
5.อื่นๆ (จากทั้งหมด5ข้อ ผมว่าข้อ5เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดครับ และคุณควรเลือกข้อนี้ในการใช้งานจริงครับ)
หลังจากครอบครัวคาวาชิถวายดาบประจำตระกูลให้หมาดเล็กแล้ว พวกเขาก็บ้านเกิด ฮิโรชิมา บทบาทของครอบครัวนี้จบลงเพียงเท่านี้ ผมก็ไม่ได้ข่าวสารพวกเขาอีกเลย หรือแม้กระทั่งจดหมาย ตรงกันข้ามผมกลับพยามติดตามว่าจดหมายของโควะจะถึงเขาคนนั้นรึเปล่า
ผมจึงพยามติดต่อกับเขา...อันที่จริงแล้วผมควรจะเรียกว่าเขาคนนั้นว่า......................
...เทพ...
และ นี่เป็นเพียงบทเกริ่นเท่านั้น
โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้
โปรด comment....ขอบคุณ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น