คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
Chapter 1
“เอ๊า ! ชนแก้วฉลองกันหน่อย ~” เสียงของยัยเอิงผู้กำกับทีวีซิทคอมเรื่องThe Lifestyle ชีวิตใครชีวิตมัน หรือพูดอีกทางยัยเอิงคือเพื่อนสนิทฉันเอง >< ฉันและยัยเอิงเรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยมต้นจนจบมหาลัยคณะนิเทศศาสตร์เอกภาพยนตร์ Oh ! ฉันลืมแนะนำตัว ฉันชื่อ ‘มีน’ ชื่อจริงของฉันคือ ‘มีนา เอกอนันต์ไพศาลวรวงค์กุล' ลูกสาวคนโตของตระกูล ‘เอกอนันต์ไพศาลวรวงค์กุล’ ตระกูลที่ร่ำรวยติด 1 ใน 10 ของประเทศ และฉันยังมีน้องสาวอีกสองคน หลังจากจบมหาลัยมา 3 ปี ฉันก็ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในชีวิตนั้นก็คือทีวีซิทคอมที่ฉันเขียนบทและออกทุนสร้างกับยัยเอิงประสบความสำเร็จสูงสุด ทีวีซิทคอมเรื่อง The Lifestyle ชีวิตใครชีวิตมัน On air ทุกวันอังคารทางช่อง 8 เวลา 21.00 22.30 น
หลังจากออกอากาศไปได้สองตอนทีวีซิทคอมเรื่องนี้ได้รับผลตอบรับดีมากเรียกได้ว่าเรตติ้งดีมากแซงละครทุกเรื่องของช่อง ทำให้ผู้ชมให้ความสนใจจนทีวีซิทคอมเรื่องนี้ได้สร้างซีซั่นสองตามมาและเลื่อนเวลาออกอากาศเป็น ทุกวันอังคาร เวลา 19.00 20.30 น ทีวีซิทคอมเรื่องนี้เกิดจากความคิดของฉันและยัยเอิงหลังจากจบมหาลัยได้ 2 เดือน ด้วยความที่อยากสร้างผลงานและความแรงของไฟพวกมือใหม่ทำให้ไอเดียการสร้างทีวีซิทคอมเรื่องนี้เกิดขึ้น หลังจากคิดเนื้อเรื่องแล้วฉันก็เริ่มหาทีมเขียนบทโดยการวบรวมเพื่อนในกลุ่มของฉันโดยทีมเขียนบทของฉันมี 5 คน มี ฉัน แบม ซีเกล มะนาว และ ติงลี่ ส่วนยัยเอิงขอเป็นผู้กำกับ ทางบ้านของยัยเอิงเปิดเป็นบริษัทชื่อว่า The Entertainment ยัยเอิงจึงไปขอเสนอทีวีซิทคอมเรื่องนี้กับพ่อของมัน พ่อมันก็ตามใจลูกอยู่แล้วจึงยอมร่วมสร้างทีวีซิทคอมเรื่องนี้ โดยที่ฉันขอเป็นทีมเขียนบทและอำนวยการผลิต พอทีวีซิทคอมของฉันกับยัยเอิงประสบความสำเร็จก็ส่งผลให้ ละคร ภาพยนตร์ หรือทีวีซิทคอมเรื่องอื่นหันมาทำงานกับบริษัท The Entertainment เยอะมากจึงทำให้พ่อของยัยเอิงหน้าบานเป็นจานดาวเทียม กลับมาที่ปัจจุบันตอนนี้ฉันกับทีมเขียนบทยัยเอิง และ ทีมนักแสดงของทีวีซิทคอม The Lifestyle ชีวิตใครชีวิตมัน รวมถึงทีมงานฝ่ายต่างๆได้มาฉลองปิดกล้องและฉลองที่ผลตอบรับดีล้นหลาม
“ฉันดีใจมากที่ซีซั่นสองก็ประสบความสำเร็จเหมือนซีซั่นแรก” มะนาวพูดขึ้น
“ฉันก็ดีใจเหมือนแกแหละ กรี๊ดๆ” เสียงของติงลี่เพื่อนสาวประเภทสองหนึ่งในทีมเขียนบทพูดแทรกเสียงของมะนาว
“แล้วเรื่องต่อไปแกคิดรึยังว่าจะเอาเรื่องอะไร แนวไหน” ยัยเอิงถามขึ้นมาหลังจากกินมาตลอด - -+
“ก็กำลังจะคิดคืนนี้แหละ พอฉันคิดเรื่อง ชื่อเรื่อง เสร็จแล้วฉันจะบอกพวกแกอีกทีแล้วกันนะ” ฉันบอกยัยเอิงและทุกๆคน
“แล้วนักแสดงอ่ะ ? แกจะหาเองหรือให้พวกเราช่วยๆกันเหมือนเรื่องก่อน” ติงลี่ถาม เพราะนักแสดงจากทีวีซิทคอมเรื่องก่อนพวกเราทุกๆคนก็เสนอว่าจะเอาใครคนไหน และเมื่อได้ข้อสรุปก็จะติดต่อต้นสังกัดของนักแสดงคนนั้น
“พระเอก ฉันหาเองส่วนตัวละครอื่นๆใช้วิธีเรื่องก่อน” ฉันว่าพลางกินม็อคเทลในแก้วรวดเดียวหมด ฉันมองนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่าสามทุ่มแล้วฉันจึงขอตัวกลับบ้านเพื่อไปคิดเรื่องทีวีซิทคอมเรื่องใหม่
“ขับรถกลับดีๆนะมีน แกไม่เมานะ ?” ซีเกลถามขึ้น
“ไหวหรือเปล่าน่ะ ให้ไปส่งมั๊ยจ๊ะ ^^” แบมถามแล้วยิ้มให้ฉัน
“คนอย่างมีนน่ะเหรอย่ะ จะเมาง่ายๆ ...ฝันเหอะ ไปล่ะ บายจ้า” ฉันบอกทุกคนแล้วโบกมือลา
หลังจากกลับมาถึงบ้านฉันก็อาบน้ำและเปลี่ยนชุดก่อนจะเปิดคอมเพื่อจัดวางเนื้อเรื่องทีวีซิทคอมเรื่องใหม่ หลังจากนั่งหน้าคอมเป็นเวลานานจนดึกงานฉันก็เสร็จเรียบร้อยทีวีซิทคอมเรื่องใหม่ของฉันใช้ชื่อเรื่องว่า ‘รักนี้ต้องมีลุ้น’ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหนุ่มสาวและเพื่อนๆในอพาร์ทเม้นท์ที่พักอาศัยอยู่ในชั้น 4 ของ เจ๊อ้อ อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ที่เป็นอันดับหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ส่วนเนื้อเรื่องจะประมาณว่านางเอกของเรื่องอกหักมา 10 ครั้ง ในระยะเวลา 2 ปี จึงทำให้เธอหนีความเศร้ามาอยู่ที่ เจ๊อ้อ อพาร์ทเม้นท์ และได้รู้จักกับเพื่อนร่วมชั้น 4 ของเธอ และพระเอกเป็นหนุ่มหล่อเจ้าชู้และเป็น Top Handsome ของมหาลัย เมื่อพระเอกเห็นนางเอกครั้งแรกจึงตกหลุมรักแต่นางเอกกลับตีตัวออกห่างเพราะความเจ้าชู้ของพระเอก และความวุ่นวายความเพี้ยนของคนในอพาร์ทเม้นท์ก็ทำให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเช่นกัน
เมื่อวางเรื่องราวเรียบร้อยฉันก็ส่งอีเมลล์ไปบอกทีมเขียนบทและยัยเอิง เกือบลืมเลยอ่ะพรุ่งนี้ต้องไปพบพ่อยัยเอิงที่บริษัท แต่ไม่ต้องรีบหรอกเพราะฉันขับรถแปปเดียวก็ถึง >< ...แต่ทว่า
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฉันที่กำลังจะปิดไฟนอนต้องหยุดชะงัก ฉันจะเดินไปเปิดประตูและพบว่าเป็นยัยชะเอมน้องสาวคนสุดท้องของบ้านนั่นเอง
“มีอะไร ? ฉันจะหลับจะนอน” ฉันถามชะเอมด้วยน้ำเสียงดุๆ
“ก็เอมจะมาทวงสัญญาไง ” ชะเอมพูดด้วยใบหน้าที่ซีดเพราะความกลัว ฮ่ะๆตลกจังเห็นยัยน้องจอมซุ่มซ่ามทำหน้าซีดๆ ยัยชะเอมเคยกลัวใครที่ไหนล่ะก็มีแต่กลัวฉันคนเดียวนี่แหละ ตลกชะมันแกล้งต่ออีกหน่อยดีกว่า ;p
“สัญญาอะไรไม่รู้ ลืม !”
ปัง !
ฉันพูดแค่นั้นก่อนจะปิดประตูใส่หน้ายัยชะเอมทันที สัญญาอะไรน่ะเหรอย้อนกลับไปเมื่อสองวันก่อนฉันดันอารมณ์ดีเกิ๊นพูดส่งๆ ออกไปว่าถ้ามันเอ็นท์ติดมหาลัยที่ฉันเคยเรียน และยัยปลายเรียนอยู่น่ะฉันจะให้มันยืมรถฉันไปใช้ 1 วัน แต่ใครๆในบ้านก็รู้ว่าน้องคนเล็กของบ้านซุ่มซ่ามแค่ไหน ฉันเคยไปเดินห้างกับมันครั้งนึงบอกได้เลยว่าฉันจำเหตุการณ์นั้นได้ขึ้นสมอง ติดแน่นทนนานเลยล่ะ ก็มันดันเดินชนนู้นนี่แตกเกือบทั้งห้าง ! ฉันจึงไม่พามันไปอีกเลยและไม่ต้องคิดเลยว่า ...ถ้ามันเอารถสปอร์ตสีขาวสุดรักสุดหวงของฉันไปขับแล้วรถฉันเกิดอะไรขึ้นฉันจะทำยังไง TT ไอ้ชีวิตของน้องฉันก็เป็นห่วงนะแต่ไม่เท่ารถคนนี้ เอาเถอะๆอย่าคิดมากยังไงชะเอมมันก็สอบไม่ติดหรอก ...เชื่อสิ (เข้าข้าวตัวเองเข้าไว้ TOT)
ติ๊ดๆ ๆ ๆ ตู้มมมมมมมมม !!!
ทุกคนอย่าเพิ่งตกใจนะว่าใครมาวางระเบิดอะไรนั้นมันเสียงนาฬิกาปลุกของฉันเองแหละนังติงลี่มันชื้อมาฝากตอนไปเที่ยวเกาหลีกับครอบครัวมันมา ขอบอกว่าช่วงที่ใช้แรกๆพอมันส่งเสียงปลุกแค่นั้นแหละฉันวิ่งออกไปหน้าบ้านเลย ก็คนมนตกใจอ่ะ ดีนะวันนั้นไม่มีใครอยู่บ้านภาพพจน์ของฉันจึงไม่เสียหาย ><
“อาบน้ำแต่งตัวดีกว่า ~ ลั๊นลา” ฉันฮัมเพลงแล้วลุกจากเตียงไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยฉันก็หยิบเนื้อเรื่องที่ปริ๊นออกมาจากคอมใส่แฟ้ม หยิบกุญแจรถและกระเป๋าสะพายหนังจระเข้ที่วางอยู่ในสต๊อก อย่าทำหน้างงว่าทำไมฉันถึงบอกว่า ‘วางอยู่ในสต๊อก’ เพราะฉันเป็นคนที่ชื้อของเช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอางเยอะที่สุดในบ้าน จนทุกวันนี้พ่อฉันจ้างให้ช่างทำห้องใหม่เพื่อเก็บของของฉันโดยเฉพาะ แต่มีบางอย่างที่ฉันเลือกเก็บไว้ในสต๊อกพิเศษนั่นคือในห้องฉันเอง
“วันนี้เราใส่เดรสสีครีมของแชลแนล ดังนั้นรองเท้าที่ใส่ก็ต้องเป็นลูบูแตงสีครีม ><” ฉันยืนพูดคนเดียวอยู่หน้ากระจกเพื่อคิดว่าจะเลือกรองเท้าที่อยู่ในตู้รองเท้าหน้าบ้านคู่ไหนดี หลังจากจัดการตัวเองและเตรียมของเรียบร้อยฉันก็เดินลงมาข้างล่างและเห็นว่าน้องๆของฉันยังไม่ลงมา
“สวัสดีตอนเช้า ^^” ฉันพูดและยิ้มให้กับปลายที่เดินลงมาจากบันไดและป้านุ่มคนใช้ ฉันนั่งที่หัวโต๊ะเพราะมันคือที่ประจำของฉันป้านุ่มก็รู้หน้าที่แกตักข้าวให้ฉัน 1 ทัพพีครึ่ง น้ำส้มคั้น 1 แก้ว และผลไม้ 1 จาน ฉันกินแบบนี้ทุกวันจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้วล่ะ
“พี่มีน รู้รึยังเนี่ยว่าน้องสาวของเราสอบติดภาคิณนะ ><”
เคร้ง !
คำพูดที่ออกมาจากปากยัยปลายทำให้ช้อนและส้อมหล่นจากมือฉันทันที ให้ตายสิชะเอมสอบติด ...ดังนั้นก็แสดงว่าฉันต้องให้มันยืมรถที่รัก 1 วัน บอกฉันทีว่าฉันฝันไป !
“ยัยเอม ลงมากินข้าวได้แล้ว!” ยัยปลายเรียกชะเอมลงมากินข้าว
“ว๊าว เฟรชชี่” ปลายทักยัยชะเอมทันทีเมื่อยัยชะเอมเดินลงมาถึงโต๊ะกินข้าว
“ไปมหาวิทยาลัยวันแรกอย่าไปทำอะไรแย่ๆ นะเอม” พี่มีนว่า
“แหม พี่มีนก็ เอมน่ะทิ้งนิสัยซุ่มซ่ามเฟะฟะพวกนั้นไปตั้งนานแล้วล่ะค่า” ชะเอมพูดแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ด้านซ้ายซึ่งเป็นที่ประจำของเจ้าตัวส่วนปลายจะนั่งด้านขวา
“ปลาย วันนี้ไปส่งพี่ที่บริษัทเอิงนะ” ฉันบอกเอมก่อนจะดื่มน้ำส้มจนหมดแก้วและหยิบผ้ามาเช็ดปาก
“อู้ยย ไม่เอาอ่ะวันนี้มีสอบรับเปิดเทอมด้วยไม่อยากไปสาย” ปลายพูด
“เร็ว !” ฉันเปลี่ยนโทนน้ำเสียง
“ เอองั้นเดี๋ยวพี่สองคนออกไปก่อนนะ เอมมีเรียนวันแรกเช้าไม่ใช่เหรอ อย่าสายล่ะ “ ยัยปลายพูดก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินนำและรีบเดินนำฉันออกจากบ้านไป
ความคิดเห็น