คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : THE DEMIGOD :: 3
#3
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้าย
ในฝันผมเห็นแม่ของผม ปาร์คยูรา กำลังกรีดร้องด้วยความตกใจ
มันอาจจะดีกว่านี้ ถ้าผมไม่บังเอิญสังเกตเห็นว่าแม่ไม่ได้อยู่คนเดียว
อสูรกายที่มีดวงตาเพียงดวงเดียวอยู่กลางหน้าผากกำลังพยายามวิ่งไล่จับแม่อยู่ โชคร้ายที่ผมจำมันได้จากชั้นเรียนของเฟร็ดตัวโต(คุณคงไม่คิดว่าผมจะลืมหรอกนะ หลังจากฟังมาถึงสิบเอ็ดรอบ) พวกมันคือไซคลอปส์
“ออกไป!!!!!! อย่าเข้ามานะ” แม่พูด “ชานยอล ลูกอยู่ไหน” ดวงตาของแม่ฉายแววเหนื่อยล้า ในขณะที่กำลังวิ่งอยู่
ผมตะโกนตอบแม่ไปจนสุดเสียง แต่ก็พบว่าแม่ไม่ได้ยินเลย
ไซคลอปส์หนึ่งในนั้นจับตัวแม่เอาไว้ได้ในที่สุด มันใช้มือข้างหนึ่งจับแขนแม่ไว้ ก่อนที่แม่จะส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้ง
และนั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยิน
“แม่!!!!!!” ผมตื่นขึ้นมาก่อนจะพบว่าร่างกายล้าจนแทบจะลุกไม่ขึ้น ข้างๆมีเจมิน เอ่อ ผมหมายถึงไคนั่งเฝ้าอยู่
เขารีบร้อนลุกขึ้นก่อนจะวิ่งด้วยท่าทีที่ประหลาดที่สุดไปหยิบแก้วทรงสูงมาให้
“ดื่มนี่ก่อนสิ” ผมรับเครื่องดื่มจากไคมา รสชาติของมันดูเหมือนช็อกโกแลตร้อนๆสักแก้ว ทันทีที่ผมกลืนมันลงไปก็รู้สึกว่าอาการเหนื่อยล้าในตอนแรกมันทุเลาลงไปมาก
เมื่อกลับมามีสติอีกครั้งผมก็ลองสังเกตสิ่งรอบๆตัว ผมนอนอยู่บนเตียงสีขาวในห้องที่ดูเหมือนจะเป็นห้องพยาบาล
ห้องพยาบาลในไร่สตรอว์เบอร์รี่ ? จี้ดเป็นบ้า
"นายโอเคไหมชานยอล" ไคถาม ผมเพิ่งสังเกตว่าเขาไม่ได้นั่ง โอเค นี่เริ่มไม่ตลกแล้ว
ร่างกายส่วนล่างของเขาเป็นแพะ
"โว้ววว นี่มันหมายความว่าไงเนี่ย" ผมเริ่มจะสติแตกอีกครั้ง หลังจากที่พบว่าตัวเองเป็นลูกของเทพเจ้าแล้ว ยังพบว่าเพื่อนสนิทตัวเอง เอ่อ—มีกีบเท้า
"มีใครบอกนายไหมเนี่ยว่าการยืนมองขาคนอื่นแบบนั้นมันเสียมารยาท" ไคบ่น เขาเลิกคิ้วแบบเดิมเหมือนที่เราก็รู้ๆกันส่งมา
นาทีนั้นผมรู้สึกราวกับว่าได้กลับไปอยู่ที่เซนต์บูตัสอีกครั้ง ตอนที่ผมยังเป็นปาร์คชานยอลและเขายังเป็นคิมจีมิน
"โทษทีว่ะเพื่อน ฉันคงกำลังช็อกจนลืมนึกไป" ผมตอบ
"เผื่อนายจะไม่รู้นะ ฉันเป็นแซทเทอร์ที่เก่งที่สุดในค่ายนี้แล้ว นายควรจะภูมิใจสิ"
ไม่ว่าเขาจะเป็นคิมจีมินหรือไค เขาก็คือเขา เพื่อนสนิทคนเดียวของผม
"แล้วที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย ไร่สตรอว์เบอร์รี่หรอ" ผมถาม
"ถูก แต่ไม่ทั้งหมด ที่นี่คือค่ายฮาล์ฟบลัด และใช่ เราปลูกสตอรว์เบอร์รี่ส่งออกเพื่อหารายได้" ไคตอบ "ที่สำคัญนะชานยอล ฉันไม่คิดว่าการดื่มนั่นมากๆจะเป็นความคิดที่ดี นายควรพอได้แล้ว"เขาดึงแก้วออกจากมือในขณะที่ผมกำลังจะยกมันดื่มอีกครั้ง
แย่ชะมัด ผมสาบานได้เลยว่ามันเป็นช็อกโกแลตร้อนที่รสชาติดีที่สุดเท่าที่เคยกินมา
"เอาล่ะ ตอนนี้มีคนรอพบนายอยู่"
ผมเดินตามไคออกมาก่อนจะพบว่าค่ายฮาล์ฟบลัดนี่มันกว้างกว่าที่ผมคิดไว้มาก ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่บนระเบียงบ้านใหญ่(ไคบอกผมแบบนั้น)ด้านหน้าของผมมองเห็นสถาปัตยกรรมแปลกๆมากมาย ทางด้านโน้นคือไรสตอร์วเบอร์รี่ขนาดใหญ่ติดริมน้ำ
กลิ่นหอมๆของดินกับความชื้นในอากาศช่วยให้ผมผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก พนันเอาอะไรก็ได้ว่าแม่จะต้องชอบที่นี่แน่ๆ
เสียดายที่แม่คงไม่มีโอกาสมาเห็นมันอีกแล้ว
ไคพาผมเข้ามาที่ห้องโถงห้องหนึ่ง ที่นั่นมีผู้ชายมีอายุสองคนนั่งอยู่
ไม่สิ ต้องบอกว่า คนหนึ่งนั่ง อีกคนหนึ่งยืน
"คุณดีครับ นี่คือสมาชิกค่ายคนล่าสุด มาถึงเมื่อสองวันก่อน" ไคพูด เขานั่งลงข้างๆผู้ชายตัวเล็กตาโตคันนั้น
สองวัน… ผมสลบไปนานขนาดนั้นเลยหรอ
"นี่คือคุณดีผู้อำนวยการค่าย และนั่นคือไครอนผู้ดูแลฝ่ายกิจกรรม"
ผมมองตามก่อนจะพบว่าโลกนี้คงไม่มีอะไรน่าตกใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว
นอกจากจะมีเพื่อนสนิทเป็นแซทเทอร์แล้ว
ผมยังพบว่าตัวเองมีผู้ดูแลฝ่ายกิจกรรมเป็นเซนทอร์ด้วย
ใช่ ครึ่งตัวส่วนล่างของเขาเป็นม้า
"ไวน์หน่อยไหม"คุณดีถามก่อนจะยกแก้วชี้มาทางผม
อา ผมว่าผมเริ่มเข้าใจแล้ว เขาคงเป็นดีโอนีซุส เทพเจ้าแห่งไวน์นั่นเอง
และถ้าผมจำไม่ผิด เขาเป็นเหมือนเจ้านายที่แซทเทอร์เคารพมากที่สุด
และเพื่อนผมก็คงจะไม่ใช่ข้อยกเว้น
"ไม่ครับ ผมดื่มไม่เป็น" ผมคิดว่าผมรับมือกับสถานการณ์ได้ดีพอสมควรเมื่อเทียบกับความจริงที่ว่าผมเพิ่งได้เห็น อย่างน้อยผมก็ไม่ได้โวยวายออกมา
หรือไม่ผมก็แค่ช็อกจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
"นายไม่ควรปฏิเสธคำขอของเทพเจ้านะชานยอล แต่ก็นั่นแหละ เด็กอายุสิบหกแบบนายยังไม่ควรได้รับมัน"เขาพูดก่อนจะลดแก้วไวน์ในมือลง
"เฉินบอกว่าคุณเรียกผม" เด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งเดินเปิดประตูเข้ามาในขณะที่เรากำลังคุยกัน เส้นผมของเขาเป็นสีม่วงออกแดงๆ เขาสวมเสื้อยืดสีส้มสกรีนลายแคมป์ฮาล์ฟบลัดกับกางเกงขาสามส่วนและนั่นทำให้เขาดูขาวสว่างมากพอตัว
"อ่า มาพอดี นี่คือ บยอนแบคฮยอน สมาชิกค่ายเราคนหนึ่งที่อยู่มานานมากแล้ว เขาอาสาจะพานายเดินชมค่าย..."
"เดี๋ยวก่อน ผมบอกตอนไหนกันว่...."
"...แล้วก็จะพานายไปส่งที่บ้านพักหมายเลขสิบเอ็ดก่อนด้วย ไม่มีปัญหาใช่ไหมแบคฮยอน"แล้วคุณดีก็หันไปถามแบคฮยอนที่ดูจะอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ ท่าทางของเขาดูกระฟัดกระเฟียดจนขนาดที่ว่าผมยังดูออก
"ครับ สบายมาก ไม่มีปัญหาเลยสักนิดนึง"
ผมเดินตามแบคฮยอนอออกมา ผมสีม่วงของเขาปลิวสะบัดไปตามลมที่พัดผ่าน
อืม ผมว่าผมชอบเขาเวลาที่ไม่มีปากมีเสียงแบบนี้แหะ
"เดินให้มันไวๆหน่อยสินาย อืดอาดชะมัด" เขาหยุดแล้วหันหลังกลับมาพูด "ที่ค่ายนี้ถ้าไม่ตื่นตัวนายก็มีสิทธิจะถูกอะไรสักอย่างฆ่าตายอยู่ตลอดเวลาเลยนะ"
"นั่นฟังดูดีพิลึก" ผมตอบ ขยับขาให้ไวขึ้นหลายเท่าเพราะยังไม่อยากพบกับอะไรบางอย่างที่เขาพูดถึง
"ที่นี่เราฝึกให้เหล่าเดมิกอดทุกคนโตเป็นผู้ใหญ่ และมีความสามารถมากพอที่จะออกไปใช้ชีวิตอยู่ภายนอก แต่พูดก็พูดเถอะนะ พวกเราส่วนมากไม่ค่อยได้โตหรอก" เขาหันมาพูดก่อนจะเริ่มออกเดินอีกครั้ง
ผมพยายามประมวลผลคำพูดของแบคฮยอนอยู่สักพัก ก่อนจะพบว่าความหมายของมันไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่
เขากำลังพูดว่าพวกเราส่วนมากจะตายก่อนที่จะโตเป็นผู้ใหญ่...อะไรประมาณนั้นสินะ
"ฉันชื่อปาร์คชานยอลนะ" ผมเริ่มบทสนทนา "นาย เอ่อ เป็นลูกของใคร"ผมถามเขาด้วยคำถามที่อยากถามตัวเองมากที่สุด
พ่อของผมคือหนึ่งในเหล่าเทพเจ้าพวกนั้น
แต่ผมยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร
"อะพอลฮุน เทพแห่งดวงอาทิตย์และแสงสว่าง" เขาหันมาตอบ ยิ้มให้ผมเล็กน้อย
ตอนนั้นเองที่ผมคิดว่าเขาได้รับพลังอำนาจจากพ่อเขามามากพอสมควร
รอยยิ้มของเขาดูเหมือนกับแสงสว่างจริงๆ
"เอาล่ะ ที่นี่คือบ้านพักหมายเลขสิบเอ็ด นายคงต้องทนอยู่ที่นี่ไปก่อนจนกว่าเราจะได้รับการยืนยันว่าพ่อนายเป็นใครละนะ"
ผมมองตามนิ้วของแบคฮยอนเข้าไปในบ้านพักก่อนจะพบว่ามันดูแออัดกว่าที่คิด
พระเจ้าช่วย ผมควรจะต้องยัดตัวเองลงในซอกหลืบพวกนั้นสักระยะหนึ่งใช่ไหม
"แล้วอย่าช้าล่ะนายยืดยาด เรายังต้องไปเดินดูรอบๆค่ายกันอีก"
ผมพยักหน้าให้แบคฮยอนก่อนจะรีบเดินเข้าไปในบ้านพักเพราะไม่อยากฟังเขาบ่นอีกครั้ง
เอาล่ะ การพบปะญาติที่ผมเพิ่งค้นพบว่ามีอยู่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
------------------------------------------------------------
สั้นแบบไม่รู้จะด่ายังไงให้สาสม 555555555
เราสั้นตลอดเลยแหะ ตรงข้ามกับหมึกน้อยเลย แง้
ก็นิดนึงเนอะ เอาตัวละครออกมาให้เห็นกันเพิ่มแล้ว
แล้วก็มีอาเฉินที่มาแต่ชื่อด้วย โอ๋ๆน้า เดี๋ยวก็ออกน้า
ขอบคุณมากๆ ตื้นตันมากๆ ดีใจมากๆ
ทุกคนที่คอมเม้นต์และแท็ก #ฟิคเดมิกอด ไม่รู้จะขอบคุณยังไง
แชปหน้าก็รอหมึกน้อยไปพลางๆเนอะ เจอกันเมื่อเทพเจ้าสั่งการเนอะ
#หมึกเล็กคนงามผู้ไม่เคยเขียนยาวสักที
ความคิดเห็น