ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( exo ) The Demigod ปฏิบัติการป่วนโอลิมปัส chanbaek , kadi

    ลำดับตอนที่ #8 : THE DEMIGOD :: 5

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 57


     
     

    #5

     

     

     

                ผมรู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบลงบนหัวจนเกิดอาการวิ้งๆและยังเรียกสติกลับคืนมาไม่ได้ ในขณะที่ไคเอาแต่งึมงำๆด้วยความตกใจ ว่ากันตามตรง เขาดูตื่นเต้นมากกว่าผมซะอีก

                “เอาล่ะทีนี้ฉันคิดว่าเราควรจะไปที่บ้านใหญ่ก่อน ไปแจ้งข่าวนี้กับคุณดี”

                นั่นฟังดูไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก เพราะผมรู้สึกได้จริงๆว่าคุณดีดูจะไม่ชอบขี้หน้าผมเอาซะเลย เอ่อ ผมหมายถึงเขาก็ดูไม่ชอบหน้าเด็กเลือดผสมทุกคนในค่ายหรอก แต่ก็นั่นแหละ อาจจะเกลียดผมมากกว่านั้นหน่อยนึงมั้ง

                ถึงแม้ในใจจะคิดแบบนั้นแต่ผมก็ลุกขึ้นปัดเศษใบไม้ที่กางเกงแล้วเดินตามไคไป เพื่อนแซทเทอร์ของผมดูจะผ่อนคลายลงบ้างนิดหน่อย เมื่อไปถึงเขาดูไม่มีปัญหาขุ่นเคืองใจอะไรกับคุณดีที่วันๆเอาแต่ตีหน้าโหด (แหงล่ะ อย่างที่คุณรู้ ดีโอนีซุสเป็นเจ้านายของแซทเทอร์ทั้งปวง)

                ตอนที่กลับไปที่บ้านพักหมายเลขสิบเอ็ด ผมค้นพบว่าตัวเองไม่ได้มีข้าวของอะไรติดตัวมาเลยนอกจากฟิกเกอร์รูปบัลลังก์ในกระเป๋ากางเกง ลูน่ากล่าวแสดงความยินดีที่ผมได้รับการรับรอง เธอบอกผมว่าถึงเราจะไม่ใช่พี่น้องกันแต่เราคงเป็นเพื่อนค่ายที่ดีต่อกันได้ ผมกอดเธอและสมาชิกในบ้านอีกสองสามคนก่อนจะเดินออกมา เด็กบ้านเฮอร์เมสเป็นพวกอัธยาศัยดีจริงๆ

     

                บ้านพักหมายเลขเก้านั้นเป็นบ้านพักขนาดกลาง ไม่รู้สิ ผมไม่คิดว่าพ่อจะมีลูกเยอะมากนัก ประตูบานพับที่ทำจากเหล็กเปิดออก และว้าว นี่มันสวยเป็นบ้า แทบทั้งบ้านเหมือนถูกหลอมขึ้นจากโลหะที่เป็นเงาประกาย ผมค่อยๆกวาดสายตาไปรอบๆบ้านก่อนจะส่งเสียงทักทาย

                “หวัดดีทุกคน” เสียงของผมเรียกผู้หญิงคนนึงให้หันมามอง เธอผูกผ้าโผกหัว ใส่เสื้อกล้ามโชว์รอยสักที่แขน และที่เอวมีสายห้อยระโยงของเครื่องมือเต็มไปหมด เธอส่งยิ้มทักทายมาให้ก่อนจะกวักมือเรียกผมเข้าไปในบ้าน

                ผมมีพี่น้องที่ค่อนข้างเจ๋งเลยทีเดียว

     

     

     

     

     

                ผมกะพริบตาเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงด้านนอกก่อนจะค่อยๆยันตัวลุกขึ้น เสียงทำงานของเครื่องจักรดังแว่วๆมาจากอีกด้านของบ้านพัก ผมสะบัดผ้าห่มให้พอดูเป็นระเบียบขึ้นนิดหน่อยก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง

                “ไง ชานยอล เมื่อคืนหลับสบายดีไหม” เวนดี้ (พี่สาวสุดเจ๋งที่ยิ้มให้ผมเมื่อคืน) ถามเมื่อเห็นผมยืนงงๆอยู่ปลายเตียง ผมพยักหน้าตอบกลับไปหลายๆครั้งก่อนจะถามหาคนอื่นๆ

               

                เมื่อคืนหลังจากที่ผมเดินเข้ามาในบ้านแล้วผมก็พบว่าตัวเองคิดถูก พ่อไม่ได้มีลูกเยอะอย่างที่คิดไว้จริงๆ ทั้งบ้านยูลเฟตัสมีเด็กอยู่ทั้งหมดแค่หกคนเท่านั้น(นับผมแล้วด้วยนะ)

                หัวหน้าบ้านพักของเราคือ นีโอ ทาร์คาเลียม เขาอายุ 19 แล้วในปีนี้ ถัดลงมาก็คือฝาแฝดวอย (เมลทัสและเวนดี้) โรนัลด์ โคลวิส ที่อายุ 18 ปี และผม ปาร์คชานยอล สมาชิกใหม่ที่เป็นคนเอเชียคนเดียวในบ้านพัก

                อ๋อ พวกเรามีน้องสาววัย 15 ปีที่ชื่อ ยานา จีมส์ อีกคนด้วย

     

                “ที่นี่พวกเรามักจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องทดลอง ในโรงตีเหล็ก หรือไม่ก็ในบังเกอร์ข้างๆป่านู่น” เมลทัสบอก ในขณะที่โรนัลด์กับนีโอกำลังพยายามทำอะไรสักอย่างที่มองดูคล้ายๆกับโมเดล

                “ฟังดูเจ๋งชะมัด” ผมตอบ รู้สึกตื่นเต้นเมื่อนึกถึงห้องทดลองและงานประดิษฐ์ และแน่นอนว่าผมแอบใจหายเบาๆเพราะนี่พาลทำให้ผมนึกถึง CY27 และเบตตี้หุ่นยนต์แม่บ้าน ผมสงสัยนิดๆว่าลุงจะกำลังก่นด่าผมยังไงกับการหายตัวไปหลายๆวันแบบนี้

     

                “เอาละ เตียงนอนของนายประกอบเสร็จแล้ว ต้องขอบคุณโรนัลด์เลยนะที่เมื่อไม่นานมานี้ก็เกิดอยากจะทำเตียงสำรองขึ้นมาไว้ฉุกเฉินน่ะ” นีโอบอกก่อนจะค่อยๆถอยหลังก้าวออกไปให้ผมมองเห็นเตียงนอนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มันเป็นเตียงเหล็กที่ดูแข็งแรงและดีไซน์สวย วางตั้งอยู่ข้างๆกับเตียงของพี่น้องคนอื่นๆ

     

                “ฉันเซนส์ดีไงพวก” โรนัลด์บอก ตบไหล่ผมเบาๆก่อนที่เราจะแยกย้ายกันเข้านอน

     

     

     

     

                กลับมาที่ปัจจุบัน หลังจากที่ผมจัดการตัวเองเสร็จแล้วเวนดี้ก็บอกให้ผมตามเธอไปที่บังเกอร์ข้างหลัง ที่นั่นผมพบว่าเรามีเครื่องมือช่างแบบครบมือ และยังมีสิ่งประดิษฐ์อีกหลายอย่างให้เรารับมือสำหรับเกมส์ชิงธงที่จะมีขึ้นในทุกเย็นวันศุกร์

                เราทำงานกันไปและพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าส่วนมากผมได้แต่ฟังพวกเขาคุยกันมากกว่า มีหลายสิ่งที่ผมยังต้องเรียนรู้จากค่าย เช่น เด็กบ้านแทรีสมักจะครองแชมป์ในเกมส์ชิงธงเสมอ และ อย่าแหย่คุณดีถ้ายังไม่อยากเจอกับทาร์ทาร์รัส อะไรเทือกๆนั้น

                “เอาน่า ร่าเริงกันหน่อยพวก นายก็รู้ว่าแบคฮยอนอาจบ่นจนหูชาถ้าคราวนี้งานไม่เสร็จทันเวลา” นีโอส่งเสียงขึ้นมา

                ผมเงยหน้าขึ้น ละความสนใจจากสิ่งประดิษฐ์ในมือก่อนจะร่วมบทสนทนาครั้งนี้ด้วย ผมคิดว่าคงมีคนชื่อแบคฮยอนแค่คนเดียวในค่ายนี้แหละ

     

                “แบคฮยอน เด็กน้อยหัวม่วงจากบ้านอะพอลฮุนน่ะหรอ” โรนัลด์เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมก่อนจะส่งสายตาแบบขนลุกมาให้

                “ถ้าแบคฮยอนได้ยินว่านายเรียกเขาว่าเด็กน้อยละก็ แด่เหล่าเทพเจ้า นายไม่รอดแน่”

                “ตัวเล็กๆแบบนั้นอ่ะนะ ให้เคซุสสาป เขาสูงแค่ไหล่ฉันด้วยซ้ำ” ผมเถียงในขณะที่ฝาแฝดวอยเงยหน้าขึ้นมาส่ายหัว

                “นายไม่รู้อะไรซะแล้วชานยอล แบคฮยอนน่ะขาโหด”

                “...ช่าย ขาโหด” เวนดี้พยักหน้าอือออตามเมลทัสในขณะที่ผมยังคงไม่เชื่อ

     

                “นอกจากจะยืดยาดแล้วยังจะขี้นินทาอีกหรือไงนายน่ะ” เสียงใสดังออกมาจากโถงในทางเดินมายังบังเกอร์ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครคือคนที่กำลังเดินเข้ามา พนันเอาอะไรก็ได้ว่าเขาต้องได้ยินที่พวกเราคุยกันแน่ๆ

                ฝาแฝดวอยและโรนัลด์ทำหน้าตาประมาณว่าไม่น่ารอดก่อนจะส่งสายตาไว้อาลัยมาให้ผมที่เริ่มรู้สึกว่าทำอะไรพลาดลงไปซะแล้ว

                “ก็นายตัวแค่ไหล่ฉันจริงๆหนิ” ผมหันกลับไปพูดตามความจริงแต่ก็ได้รับสายตาเขียวๆกลับมา แบคฮยอนแยกเขี้ยวก่อนจะสั่งให้ผมหุบปาก

               

                “เป็นไงบ้างนีโอ นายคิดว่านี่พอจะรับมือกับพวกบ้านแทรีสในวันพรุ่งนี้ได้ไหม” เขาดูเป็นการเป็นงาน หยิบจับและส่งสายตาสังเกตไปที่ทวนยาวที่เรากำลังปรับแก้กันอยู่

                “พอไหวอยู่หรอกนะ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของเด็กๆบ้านนายด้วย เอ่อ ฉันหมายความว่า นายก็รู้น่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะเล่นได้แบบนายนะ” นีโอตอบ เขายักไหล่ก่อนจะหันไปสนใจกับโล่ต่อ

                “เออ เรื่องนั้นฉันพยายามแก้อยู่ อย่าให้งานของนายมีปัญหาแล้วกัน” เขาแยกเขี้ยวสั่ง จิ๊ปาก ขมวดคิ้วและใช้ฟันงับริมฝีปากล่างอย่างคนกำลังใช้ความคิด จริงๆแล้วผมว่ามันเป็นภาพที่ค่อนข้างหาดูยากที่เดียว นอกจากผมแล้วทุกคนก็เอาแต่สนใจกับอาวุธตรงหน้า

                “มองอะไร” เขาแยกเขี้ยวอีกครั้งเมื่อพบว่าผมมองหน้าเขาอยู่ แบคฮยอนต่อยไหล่ผม(หมัดโคตรหนัก)แล้วเดินออกไปโดยไม่ลืมตะโกนสั่งงานทิ้งท้ายเอาไว้

                “ส่งเด็กบ้านนายสองคนไปเช็คสภาพรถม้าศึกให้ฉันอีกครั้งด้วยคืนนี้”

                ผมได้ยินเสียงฝาแฝดวอยและโรนัลด์ร้องโอดครวญ พร้อมกับเกี่ยงกันไปมาเบาๆว่าใครจะเป็นผู้โชคร้าย

                ผมยกมือขึ้นมาเลิกแขนเสื้อขึ้นดู พบรอยช้ำเขียวๆที่ดูแล้วคงต้องทายาไปอีกหลายวัน

                “อย่าส่งนายเด็กใหม่หูกางมานะ!” เขาเดินย้อนกลับมาบอกอีกครั้ง

                โอเค ผมเริ่มเข้าใจคำว่าขาโหดขึ้นมาอีกนิดนึงแล้ว

     

                “ชานยอลนายโดนหมายหัวแล้ว” เวนดี้

                “หายนะแน่ๆ” เมลทัส

                “ชีวิตนายน่าสงสารกว่าตกทาร์ทารัสอีก” ตามด้วยโรนัลด์

               

                อืม ผมก็ว่างั้นแหละ 


    TBC

    ----------------------------------------------------------

     

    #หวัดดีทุกคน เลาเอง เลากลับมาแล้นนนนนน
    จะมาบอกว่าสองนางนี่ปลดภาระชีวิตได้ละเน้อ มีที่เรียนแล้วอะไรแล้วก็เลยกลับมาอัพต่อ
    (เอาความจริงคือเลาดอง ทุกคนโยนรองเท้ามาทางนี้เลาผิดเอง)
    ก็ตามนั้น ว่างยาวๆไปยันสิงหา ไม่แน่ใจว่าจะจบภายในสิงหาไหมแต่คิดว่าคงได้เยอะกว่าเดิม 
    ขอโทษที่หายไปตั้งแต่กันยาปู้นนน และขอบคุณที่ยังรอกัน รักนะ งิงิ










    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×