เวรเถอะ ผมแอบรักเพื่อน [Y] - เวรเถอะ ผมแอบรักเพื่อน [Y] นิยาย เวรเถอะ ผมแอบรักเพื่อน [Y] : Dek-D.com - Writer

    เวรเถอะ ผมแอบรักเพื่อน [Y]

    มันไม่รู้ตัวหรอกว่าผมรักมัน ก็ผมแอบรักนี่มันจะรู้ได้ไง =.=

    ผู้เข้าชมรวม

    1,019

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    1.01K

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    6
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ก.ย. 56 / 21:06 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    "เฮ้อออออ...ผมเป็นอะไรไปเนี่ย" ==^
    ถามตัวเองอย่างนี้มาหลายครั้งแล้วนะครับ 
    ผมก็ยังไม่ได้คำตอบซะที
    แล้วผมก็ไม่กล้าถาม ไม่กล้าบอกมันด้วย
    เดี๋ยวความเป็น 'เพื่อน' มันจะหายไป
    แล้วมันจะเหลือแค่คำว่า 'คนรู้จัก' อ่ะดิ
    ผมล่ะเซ็ง...=.=

    <=.=>


     


     ..................................... (?)


    cream1copy.gif image by MMEEWW     cream6copy.gif image by MMEEWW     cream3copy.gif image by MMEEWW     cream2copy.gif image by MMEEWW     cream5copy.gif image by MMEEWW     cream7copy.gif image by MMEEWW
    ขอบคุณจ้า







    cream1copy.gif image by MMEEWW     cream6copy.gif image by MMEEWW     cream3copy.gif image by MMEEWW     cream2copy.gif image by MMEEWW     cream5copy.gif image by MMEEWW     cream7copy.gif image by MMEEWW
    :-Daisy ✿
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      “เฮ้ย!!! เชี่ยตั้ง!!” เสียงเพื่อนรักดังขึ้นจากทางด้านหลังของเด็กหนุ่มร่างบอบบางอายุราวๆ 18 ปีที่กำลังยืนเลือกรสไอศกรีมอยู่

      “อะไร!!” เด็กหนุ่มส่งเสียงตอบแต่ไม่หันไปมองเนื่องจาก กำลังระดมสมองคิดว่าจะเลือกรสไหนดี เพราะรสนั้นก็อร่อยรสนี้ก็น่ากินรสนู่นก็ของชอบ

      “ยังเลือกไม่ได้อีกหรอว่ะ” เด็กหนุ่มคนนั้นเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ พวกเขาน่าจะรุ่นเดียวกันนั่นแหละ

      “อืม” ตั้งตอบแต่ตาและสมองก็กำลังประมวนผลอยู่

      “งั้นฉันเลือกให้เอาไหมล่ะ” มอสกระซิบข้างหูตั้งเพื่อให้ได้ยินแค่สองคน การกระทำแบบนี้ทำให้ตั้งรู้สึกสยิวและสยองจนขนลุกซู่ซ่าเลยทีเดียว

      “เชี่ย ขยับๆ อึดอัดเว้ย!!” บอกพรางดันอกแกรงออก ยังไม่พอตบหัวเค้าอีกด้วย

      “เจ็บนะเว้ย” มอสบ่นโอดโอย

      “สม” ว่าแค่นั้นก็หันไปสนใจไอติมต่อ

      “เอา &^*^&(^ 2 ที่ครับ” เมื่อเห็นว่าตั้งเพื่อนรักเลือกไม่ได้ซักที มอสจึงสั่งให้ตัวเองกับตั้งซะเลย

      “นายไปนั่งรอเถอะ เดี๋ยวฉันเอาไปให้เอง” มอสบอก

      “จ่ายให้ด้วยนะเว้ย” ตั้งบอกพร้อมแลบลิ้นแล้วเดินไปนั่ง

      “เฮ้อออ” มอสส่าหัวหน่ายๆนึง

       

       อย่าทำตัวน่ารักแบบนี้สิวะ เขาคิดในใจไม่กล้าเอ่ยปากบอกออกไป

       

      “ได้แล้วค่ะ ^^” พนักงานยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้มอส ก็นะเค้าสูง หล่อนี่นาไม่แปลกที่คนจะชอบเยอะ แต่เค้าก็อยากให้ตั้งชอบเค้าแบบไม่ใช่เพื่อนชอบมากกว่านี่นา

      “ครับ” ตอบแล้วยิ้มตามฉบับตัวเอง แล้วเดินไปนั่งตรงข้างกับตั้ง

      “อะนี่”

      “อืม ขอบใจเว้ย” ตั้งตอบก่อนจะตบไหล่มอสแรงๆที่นึงเป็นเชิงขอบคุณ

      .

      .

      พวกผมนั่งกินไปโดยไม่มีใครพูดอะไรเลย ก็นะต่างคนต่างกินกันอยู่นี่นา ผมมองเพื่อนที่ผมแอบรักมานานแสนนาน ตั้งแต่เจอมันครั้งแรกเลยก็ว่าได้ มันน่ารักนี่ ดูสิขนาดกินไอติมมันยังกินเหมือนเด็กสามขวบเลย กินเลอะแก้มเลอะปากหมดแล้วนั้น

      ผมเลยยื่นมือไปเช็ดปากมัน แลดูมันจะตอกใจนิดที่ผมทำแบบนั้น ผมเลยชักมือกลับ เฮ้อ ผมสงสารตัวเองจัง รักไอ้หมอนี่มันลำบากจริงๆเลย ทั้งเป็นเพื่อนกันแถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกันอีกด้วย

      นี่ถ้าเป็นคนอื่นผมคงไม่คิดหนักแบบนี้หรอกนะ โชคชะตามันเล่นอะไรของมันถึงกลั่นแกล้งผมอย่างนี้เนี่ย =.=

       โอ๊ย ใจผมจะลาย ><

      ไอ้ตั้งมันจะรู้ตัวรึเปล่าว่าตอนนี้มันน่ารักขนาดไหน ก้มกินอย่างกับเด็กกลัวโดนแย่งอย่างนั้นน่ะ ผมไม่คิดจะแย่งมันซะหน่อย แต่มันก็น่ารักดีนะนั้น

      “ไอ้เชี่ยมอส ไม่กินหรอ” หลังจากที่มันกินเสร็จมันก็เงยหน้าขึ้นมาถามผม อยากกินของผมต่อละสิ ผมรู้หรอก หึหึ

      “กินสิทำจะไม่กินละ” ผมบอก ผมเห็นนะว่ามันทำหน้าหง่อย ผมไม่เคยเดาผอดเลยว่าเปล่าละ

      “งั้นหรอ ว๊า” มันทำเสียงเสียดาย น่ารักจริงๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปผมคงอดใจไม่ไหวแน่ๆเลย

      “อยากกินหรอ เอาไปสิ” ผมยื่นไอติมส่วนของผมให้มัน

      “ว๊าว ขอบใจนะเว้ย” มันบอกเสียงดี๊ด๊า ทำตาโต แล้วก็ก้มลงกินต่อ

      ผมกรี๊ดได้เปล่า ผมจะแต๋วแตกเพราะมันนี่แหละ แม่ง ทำตัวน่ารักซะ...ผมกลัวว่าผมจะฉุดมันเลยน่ะสิครับ อย่าทรมานผมแบบนี้สิ T^T

      ผมนั่งจ้องมันต่อ มันก็ยังกินเหมือนเด็กอยู่ นี่โตแล้วนะเฮ้ย สงสัยมันคงโตแต่ตัว นิสัยยังเด็กเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เฮ้ออ เพื่อนเอ้ย!

      ผมไม่อยากเป็นเพื่อนมันเลย ถ้าผมไม่ได้เป็นเพื่อนนะ มันเป้นอย่างไม่นานแล้ว เพราะผมมั่นใจว่าผมสามารถมัดใจมันได้ แต่ติดตรงคำว่า เพื่อนเฉยๆ

      คิดแล้วอนาจ แล้วก็เศร้าจริงๆเลยครับ

      “เชี่ยมอส ไปกันเถอะวะ” แน่ะ กินหมดแล้วจะไปทันทีเลยนะ

      “อืม รอแปปนะ ไปจ่ายตังค์ก่อน” ผมบอกมัน “อย่าไปเล่นซนที่ไหนละ” มันเป็นคนอยู่ไม่นิ่งนี่ครับ เตือนมันไว้ก่อน

      “ไอ้เชี่ยนี่ ฉันไม่ใช่เด็กนะเว้ย” มันบ่นอุบอิบเหมือนเด็กอีกแหละ นี่หรอที่ว่าไม่เด็กน่ะ เฮ้ออ

      “เออๆ”

      พอผมจ่างตังค์เสร็จก็กลับมาที่เดิม มันหายไปไหนอีกเนี่ย เฮ้อ ต้องวิ่งวุ่นตามหามันอีกแหละ เป็นห่วงมันครับ เห็นมันแก่นแบบนี้มันเหมือนเด็กอย่างที่ผมบอกนั้นแหละครับ

      เจอตัวแล้ว มันมานั่งชิงช้าข้างร้านนี้นี่เอง เป็นห่วงแทบแย่ ถ้ามันหายไปไหนหรือเกิดอะไรขึ้นกับมันผมคงรู้สึกผิด และสมเพชตัวเองที่ไม่สามารถดูแลคนที่ผม(แอบ)รักได้

      “ไหงมานั่งเนี่ย บอกให้นั่งรอที่ร้านหนิ” ผมกะว่าจะสวนดมันซักหน่อย แต่พอผมเห็นมันกำลังเล่นกับลูกแมวเท่านั้นแหละ สวดไม่ลงจริงๆ

      “ก็ไอ้แมวตัวนี้มันติดบนต้นไม้นี่หว่า” อ่อ นายคงไม่ช่วยมันว่างั้น ไอ้สุภาพบุรุษ ไม่เจียมตัว ดูดิ๊เนื้อตัวขาวๆมีแต่แผลหมดเลย

      “เจ็บเปล่า แผลน่ะ” ผมถามมันออกจะเป็นห่วงออกนอกหน้า  

      “ไม่...ซี๊ดดด” แน่ะบอกไม่เจ็บแต่พอผมแตะที่เข่าเบาๆร้องซี้ดจนผมเกิดอารมณ์เลย

      “ป่ะ ไปทำแผล” ผมบอกแล้วจึงยื่นมือเพื่อให้มันจับ

      “ไอ้แมวนี่ละ” แลดูไอ้ตั้งมันคงสงสารแมวสินะ รักสัตว์จริงนะ ถ้าผมเป็นแมวมันคงรักผมได้สินะ

      “เอามันไปด้วยสิ” แล้วนายจะนั่งอุ้มมันอีกนานมั้ย? ผมยื่นมือไปนานแล้วนะ

      *0*” ไอ้หน้าแบบนี้แหละที่ทำให้ผมตัดใจจากมันไม่ลง น่ารักซะ...

      “ขอบใจเว้ย” มันบอกแล้วยื่นมือมาจับมือผมแล้วลุกขึ้น แค่จับมือผมยังใจเต้นอ่ะคิดดู ผมนี่ถ้าจะเป็นเอามาก

      “อืม” ผมบอกไม่กล้าหันไปมองมันกับแมว เห็นแล้วต่อมอิจฉาทำงาน ไอ้แมวบ้านี่มาจากแห่งหนใดทำไมมันได้อยู่ในอ้อมกอดของไอ้ตั้งที่(แอบ)รักของผมแบบนี้ ห๊ะ!

      “เป็นไรวะ?” มันหันหน้ามาถาม มันคงเห็นสีหน้าหงุดหงิดของผมสินะ

      “เปล่านี่...รีบเดินเถอะจะได้ทำแผล” ผมบอกก่อนจะเฉไฉไปเรื่องอื่นแทน เดี๋ยวมันรู้ว่าผมแอบรักมันแถมยังหึงแม้กระทั่งแมว แล้วผมจะหนีผมไป

      .

      .

      “ซี้ดดด..บะ เบาๆ หน่ะ หน่อย ซี้ดดด” ไอ้เชี่ยนี้ขนาดทำแผลมันยังร้องซะให้ผมเกิดอารมณ์เลยเนี่ย

      มันจะรู้เปล่าว่าผมพยายามแค่ไหนที่จะต้องระงับอารมณ์ตัวเองเอาไว้น่ะ =.=

      ถ้าความอดทนหมดเมื่อไหร่มันเสร็จแน่ แต่ไม่ได้สิ ถ้าเป็นแบบนั้นมันคงเกลียดผมตายห่านแน่เลย ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นหรอก

      “เมี๊ยว เหมียว เฟมียว เมี๊ยว” เหมือนเจ้าแมวมันจะร้องเพลงหรือเปล่าไม่รู้ แต่เสียงมันทำให้อารมณ์ที่พลุ่กพล่านของผมกระเจิงหมด ฟู่ว ค่อยยังชั่ว ถ้าไม่ได้เสียงมัน ผมคงหมดความอดทนแล้วละ

      ขอบใจนะเว้ยผมหันไปหาแมวแล้วส่งสายตาให้มัน

      “เมี๊ยว” แล้วเหมือนมันจะเข้าใจผมแฮะ เอ้อ ฉลาดนี่หว่า

      “เชี่ย...มอส...เสร็จยังวะ” แน๊ เสียงแหบพล่าช่างยั่วยวน นายทำฉันเกิดอารมณ์อีกแล้วนะโว๊ยย

      “อะ...เออๆๆ เสร็จแล้วๆ” ผมบอกก่อนจะลนลานเก็บอุปกรณ์ทำแผลแล้วรีบชิ่งเข้าครัวเพื่อรังับอารมณ์ก่อน

      ใจจะวาย...

       

      ------------------40%------------------- 

          .

      หลังจากที่ผมทำแผลให้มันเสร็จ มันก็มาบอกว่าจะค้างที่นี่ เอ้าไอ้นี้ นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ได้นึกถึง(ใจ)ผมเลยสินะ

      ถ้าเกิดผมหมดความอดทนขึ้นมาทำไงละนั่น ผมไม่อยากทำให้มันเกลียดผมหรอกนะ

      ตอนนี้มันเข้าไปอาบน้ำแล้วละ ผมเลยเอาเสื้อของผมให้มันใส่ก่อน ก็มันมาค้างแบบสายฟ้าแลบ แบบนี้คงได้เตรียมผ้ามาหรอกนะ ลำบากผมต้องเอาให้มันอีกแน่ะ

      แล้วผมก็ไปเตรียมอาหารเย็นให้มันกิน คือพ่อแม่ผมไม่อยู่บ้านไงไปทำงานต่างประเทศโน่นอีกนานกว่าจะกลับมา และมันก็ลำบอกผมที่ต้องทำอาหารอีก ที่จริงก็ไม่ได้อยากจะบ่นหรอกเพราะยังไงผมก็ทำอาหารอร่อยไม่แพ้แม่ผมหรอกนะจะบอกให้

      แต่เนื่องจากในตู้ไม่เหลืออะไรให้ผมทำได้อีกแล้วนอกจากไข่ไก่ห้าฟอง มันจะพอหรือนี่ ไอ้ตั้งมันกินจุกินเยอะกินล้างกินผลานซะด้วยสิ เฮ้อ

      เอาเป็นว่าทอดไข่เจียวให้ละกันถ้ามันไม่อิ่มก็ให้มันกินผมแทน :P ล้อเล่นครับ ถ้ามันไม่อิ่มจริงๆก็คงต้องออกไปหาอะไรทานข้างนอกอีกละนะ

      “หืมมม หอมจัง” เสียงมาก่อนตัวซะอีกนะ ตอนนี้ผมไม่เห็นมันคงไม่แปลกหรอกเพราะผมตั้งหน้าตั้งตาทอดไข่อยู่หน้าเตานี่นา

      “นั่งรอแปบนะ” ผมบอกมันแต่ยังไม่หันไปมอง

       

      พอผมทอดเสร็จก็ตักข้าวใส่จานจัดนั่นนี่ให้มันดูสวยงามและน่ากินนิดนึง เห็นอย่างนี้แต่ผมเป็นคนละเอียดอ่อนนะครับ และผมก็รู้ด้วยว่าไอ้มันชอบอาหารที่ตกแต่งสวยงามน่ะ

      “เฮ้ย น่ากินวะ” มันทำตาลุกวาวๆ

      “ก็กินสิวะ”

      “งื้ม ง่ำๆ อร่อยวะ” มันบอกปากก็ยังเคี้ยวข้าวไม่หยุด คือว่านะถ้ามันจะกินให้หมดก่อนพูดไม่คงไม่เสียเวลาอะไรมากหรอกจริงมั้ย

      “งั้นก็กินเยอะๆสิ”

      “แล้วนายไม่กินหรอวะ” มันถามผม

      “ฉันไม่หิววะ” ถ้าบอกว่าหิวมันก็จะบอกให้มานั่งกินด้วยกัน แล้วนั่นก็เป็นแย่งอาหารมันอีก ไม่เอาดีกว่า

      “.....” มันยื่นช้อนที่มีข้าวกับไข่เจียวมาจ่อที่ปากผม

      “...?” ผมมองมันงงๆ

      “ฉันรู้ว่านายหิว” มันบอกแล้วทำตาดุ ที่ผมคิดว่ามันน่ารักมาให้ผม แหม่ ทำแบบนี้ผมใจอ่อนละทวยเลยนะ

      “.....” เพื่อไม่ให้มันทำหน้าดุน่ารักแบบนั้นผมเลยกินที่มันยื่นให้

      “.....” มันก็ตักกินของมันต่อ

      มันตักเข้าปากตัวเองเสร็จก็ยื่นช้อนมาจ่อที่ปากผม เหมือนบอกเป็นนัยว่า ฉันป้อน กินซะ อะไรแบบนั้น แหม น่ารักจริงเชียว

      ทำแบบนี้แล้วรู้สึกว่าเราเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่สวีทหวานแหว๋วกันยังไม่รู้สิ ><

      มันยื่นมาให้ผมไปหน้ามันก็แดงขึ้นเรื่อยๆด้วย นี่ถ้ามันไม่ใช่เพื่อนผมผมคงคิดว่ามันก็มีใจให้ผมบ้างแล้วเหมือนกันนะ พอคิดแบบนี้แล้วใจเต้นแรงไม่หยุดเลยสิ

      อ่า...ถ้าบอกว่ามันเขินเพราะป้อนข้าวให้ผมนี่ ผมปลื้มสุดๆไปเลยนะ

      .

      .

      .

      ไอ้บ้ามอส ไอ้เสาไฟฟ้าอินเดีย!! มันโง่? ซื่อหรือบื้อกันแน่วะ ผมอุตส่าร์แสดงออกอย่างชัดเจนมากๆแบบนี้มันไม่รู้ตัวอีกว่าผมชอบมันอ่ะ มิน่ามันถึงได้เกรดต่ำเตี้ยรากหญ้าแบบนี้ โถ่ ไอ้ฟายเย่อร์เอ้ย

      แต่จะว่าไปแล้ว ผมคงแสดงออกไม่มากพอสินะ มันถึงไม่รู้เนี่ย นี่ต้องให้บอกเลยใช่มั้ย?

      ไม่เอาหรอก บอกตามตรงอายครับ เกิดมาไม่เคยสารภาพรักกับใครทั้งหญิงและชาย และตอนนี้ผมยังเกิดความรู้สึกที่หลายคนเรียกมันว่าความรักกับเพื่อน ที่เป็นผู้ชายอีกแน่ะ ผมละเซ็ง จะรักใครซักคนทั้งทีดันมาเป็นผู้ชายเหมือนกันอีกนะ

      โถ่ถัง ชีวิตผมทำไมมันน่าเศร้าเยี้ยงนี้ กระซิก ฮึกๆ

      อ้อ...ผมรู้นะว่าพวกคุณรู้ว่าไอ้มอสมันชอบผม

      ที่ผมรู้เพราะตอนที่จ้องตามันทุกครั้งผมเห็นประกายบางอย่าง แบบมันแลดูห่วงผมมากกว่าเพื่อนทั่วไปยังไงละ ผมมันคนช่างสังเกตไง เพราะผมฉลาดครับสอบเกือบได้ที่หนึ่งของระดับทุกเทอมเลยนะบอกให้

      และที่ผมชอบมันไม่ใช่เพราะเห็นใจอะไรมันหรอกนะ แต่ผมแค่รู้สึกว่ามัน...ยังไงดีละ ผมบอกไม่ถูก บางทีคนฉลาดอย่างผมก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องพวกนี้ได้หรอกนะ มันต้องเจอกับตัวเองเท่านั้นถึงจะรู้

      ไอ้มอส ช่วยรู้ตัวเร็วๆเถอะว่าฉันก็ชอบหรือรักนายแล้วนะเฮ้ย อย่ามาสมองทึบกับเรื่องแค่นี้นะ เรื่องเรียนไม่เป็นไรแต่เรื่องความรู้สึกอย่าโง่ ผมขอร้อง

      ผมมองมันที่ก้มหน้าก้มตาขัดล้างจานที่อ่างอย่างขะมักเขม้น อยากจะช่วยมัน แต่ผมมันลูกคุณหนูกลับชาติมาเกิดไง ผมเลยทำไม่เป็นกลัวจะไปเกะกะแล้วเผลอทำจานแตกเปล่าๆน่ะ

      แต่ก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้มองมันจากด้านหลังบ้างเพราะปกติผมเห็นแต่ด้านหน้าครับ พอมองมันจากด้านหลังแบบนี้แล้วรู้สึกอนาจในจิตของตัวเองอย่างไรไม่รู้สิครับ ก็มันดูสมชายชาตรีชาติทหารแต่ดูผมสิครับหุ่นอย่างกับปลาแดดเดียวอ่ะ ถ้ามันจะช่วยกรุณาแบ่งกล้ามเนื้อของมันมาให้ผมบ้างนะ ปานนี้ผมได้เป็นหนุ่มโคตรฮอตของโรงเรียนเหมือนแล้วแหละ

      แต่แลดูมันจะตั้งใจกับการล้างจานเกินความจำเป็นนะ มันจะอะไรนักหนาแค่ล้างจานสองสามใบเองนี่นา หรือผมกินจนเหลือคราบเลอะเต็มจานหว่า?

      ในเมื่อสงสัยก็ต้องพิสูจน์สิจริงมั้ยละครับ

      และผมก็รู้ว่ามันกำลังเหม่อ ตานี่ลอยค้างมันคิดอะไรแบบอยู่ในโลกส่วนตัวเลย แต่มือมันก็ยังขยับล้างจานอยู่ เฮ้อ ไอ้โรคเหม่อลอยนี่มันคงแก้ไม่หายเลยสินะ ผมละหน่ายกับมันจริงๆเลย /==\

       ผมจิ้มๆมันที่ไหล่ แต่มันก็ไม่สะเทือน แน๊ไหล่หนานะไอ้มอสเดี๋ยวถีบกระเด็นเลยนี่

      ผมเลยสะกิดยิกๆมัน ที่ไหล่อีกทีกะว่าถ้าคราวนี้มันไม่ตอบสนองอะไรซักอย่างผมจะตบหัวมันจริงๆ

      และผลมันก็ออกมาว่ามันก็ยังไม่รู้ตัวอยู่ดี โถ่ ไอ้ประสาทด้านช้า!

      ผมเลยตบมันไปแรงๆจนหัวมันเกือบชนขอบตู้เหนือมัน หึ สมน้ำหน้าสูงดีนัก ไอ้เสาไฟฟ้าเอ้ย

      ผมมองมันอย่างสะใจที่ได้ตบหัวมัน นานๆทีจะตบถึง เมื่อกี้กว่าจะกระโดนตบหัวมันได้นี่ทำเอาผมเหนื่อยหอบเลยนะ =.=

      “อ๋อย ตบไมเนี่ย” มันทำเสียงน่าสงสารแต่มันน่าตบซ้ำอีกครั้งที่มันถามแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลยแบบนี้ ไอ้นี้จะวอนเท้า(ผม)ซะแล้ว

      “ก็นายมัวแต่เหม่ออยู่นั้นแหละ เห็นมั้นว่าน้ำมันจะท่วมบ้านอยู่แล้วเนี่ย แล้วดูจานนนั่นสิขัดๆถูๆจนมันจะเป็นรู้โหว่อยู่แล้วนะนั่น!!” ผมบ่นมันน้ำไหลไฟดับ และจะบ่นมากกว่านี้ถ้ามันไม่ห้ามไว้ก่อน

      “บ่นเป็นแม่ฉันไปได้ =.=” แม่ศรีเรือนที่ดีของนายไง ฮิ๊วววว

      “อยากตายรึไงวะ” นี่ผมเขินนะแต่ผมแค่โวยกลบเกลื่อนเท่านั้นเอง

      “ไม่คร๊าบบ ไม่อยากตายคร๊าบ” มันบอกเสียงกวนเท้าผม ผมเลิกชอบมันจะทันมั้ยเนี่ย?

      ผมเดินไปนั่งรอมันที่โซฟา เปิดช่องนู่นช่องนี้ไปเรื่อง มีตั้งหลายช่องแต่ดันไม่มีช่องไหนที่ถูกใจผมซักช่องเลยให้ตายเถอะ น่าเบื่อชะมัดเลย ผมเลยจะปิดทีวีมาซะเลย

      “ดูหนังมั้ย” มันถามผม มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

      “....?” รู้มั้ยคนฉลาดมักพูดน้อย เพราะประหยัดพลังงานเอาไว้ไปคิดเรื่องยากๆแทนไง

      “นี่ไง” มันชูหนังสยองขวัญขึ้น ไอ้นี่ รู้ก็รู้ว่าผมกลัวสุดติ่งมันยังจะดูอีก

      “เอาก็ได้” แต่ผมไม่อยากน้อยหน้ามันหรอกนะ เพราะยังไงผมก็เป็นผู้ชายเรื่องดูหนังผีสยองขวัญมันต้องได้สิน่า

      มันไปปิดนั่นปิดนี่จนทำให้ตอนนี้ห้องที่พวกผมอยู่มันเหมือนกับอยู่ในโรงหนังเลย แต่แบบนี้ผมกลัวนะรู้มั้ย มือชะมัดเลย

      แต่ผมก็ยังเห็นมันอยู่เพราะแสงจากด้านนอกส่องเข้ามานิดหน่อยละนะ มันไปเครื่องเล่นแล้วมานั่งข้างๆผม ผมก็ขยับเข้าใกล้มันจนจะนั่งบนตักมันอยู่แล้ว ก็ผมกลัวนี่นา T^T

      หนังดำเนินมาจนถึงตอนที่ผีกำลังจะออกมา

      ขอกรี๊ดได้มั้ยครับ!!! มันโผล่มาเต็มหน้าจอเลย ผมตกใจกลัวเลยเผลอกอดเอวไอ้มอสแล้วเอาหน้าที่อกมันหลับตาปี๋เลย ไม่ดูมันแล้ว!!!

      “อ่า...นายกลัวขนาดนั้นเลยหรอวะ” เอ่อเซ่

      “เปล่าซักหน่อย” ผมมันคนปากตรงกับใจ (ประชด)

      “หึๆ” หัวเราะทำพร่องมันเนยสิ

      ผมเลยเด้งตัวออกจากไอ้มอสแล้วมานั่งดีๆ พอผมหันไปทางหน้าจอ ผีมันยังเสนอหน้าออกมาอยู่ ไอ้นี้ไม่รู้จักเวลาออกมาเลย ==^ ไม่รู้รึไงว่าผมกลัวมันน่ะ ถ้ารู้ก็ออกไปซะทีเซ่!!

      และผมก็เข้าไปกอดไอ้มอสตามเดิม ชีวิตผมอนาจแท้ เป็นผู้ชายกลัวหนังผี =.=

       ตัวไอ้มอสมันสั่นๆยังไงไม่รู้แฮะ นี่มันหัวเราะเยาะผมใช่ม๊ายยย!!

      ไอ้นี่วอนซะแล้วมั้ยละ! แต่ตอนนี้ทำไรมันไม่ได้ ไอ้ผีบ้ามันวนเวียนอยู่ในจออยู่ ขืนเงยหน้านิดเดียวมีหวังได้ป๊ะกันแน่ๆ แค่คิดก็สยองจิตแล้ว

      “ถ้านายกลัวขนาดนี้เราไม่ดูก็ได้นะ” พูดเหมือนเป็นห่วงกลัวผมฉี่ราดมัน แต่มันยังกลั่นขำเลยดูดิ

      “อือ” คือผมไม่กะจิตกะใจว่ามัน ภาพยังติดตา

      แล้วมันก็ลุกปิด แล้วเปิดให้บ้านมันสว่างขึ้น ผมนี่ถอนหายใจโล่งปอดทันทีเลย

                ขอบใจที่มันยังเข้าใจผม ผมรักคนไม่ผิดเลยจริงๆ 

      ----------------70%-----------------
       

      มันเดินมานั่งลงข้างผมตามเดิม ผมมองมันจากด้านข้าง เมื่อก่อนผมคิดอิจฉารูปร่างหน้าตาของมันมากเลยรู้มั้ยครับ ผมอยากเป็นอย่างมัน อยากมีรูปร่างสมชาย อยากมีหน้าตาที่ดูแมนกว่านนี้ แต่มันคงเป็นไปไม่หรอก เพราะผมเป็นอย่างนี้แล้วนี้ หน้าตาหวานเหมือนผู้หญิงไม่พอรูปร่างยังคล้ายกับผู้หญิงอีก มีหลายคนที่เข้าใจผมผิดคิดว่าผมเป็นทอมด้วยนะ ผมจะด่ามันจนมันแทบซุกหน้าลงดินเลย ไอ้มอสมันก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย มันไม่ช่วยอะไรเลยนอกจากกลั้นหัวเราะเท่านั้นเอง แต่ผมแอบเห็นมันตาลุกวาวตอนที่มีคนเข้าใจด้วยนะ มีแอบหึงผมด้วย!! ><

      “เอาอะไรป่ะ เดี๋ยวฉันไปเอาให้” ไอ้มอสมันถามขึ้น

      “ขนม น้ำ ไอติม อะไรก็ได้เอามาเถอะ” ผมตอบสบายๆเหมือนกับตู้เย็นบ้านมันเป็นของผม มันก็ไม่เชิงไม่ใช่หรอก เพราะผมมาที่นี่แทบทุกวัน มาค้างออกจะบ่อย จนที่นี้กลายเป้นบ้านหลังที่สองไปเลยก็ว่าได้

      “อืม...งั้นหรอหน่อยแล้วกัน ไอ้เชี่ย!” มันบอกแล้วว่าผมไม่พอเขกหัวผมทีนึงด้วย

      “โอ้ย ทำอะไรวะ” ผมถามเสียงหงุดหงิด

      “จะกินทำไมไม่ไปเอาเองวะ จะเอาอะไรเยอะขนาดนั้นวะ” มันบ่นครับ บ่นอย่างกับเป็นพ่อผมเลยให้ตายสิ

      “เอ้า ก็นายจะไปเอาให้ไง ก็บอกไปแล้ว ก็แล้วแต่นายจะเอามาไงไม่ได้อยากให้เอามาทั้งหมดเลยนี้ แล้วอีกอย่างฉันบอกว่าอะไรก็ได้เอามาเถอะ ไม่ใช่รึไง ฟังไม่ศัพท์ ก็มาคิดให้มากความละ” ฉันว่ามันฉอดๆ จนมันไปไม่เป็นเลย เพราะที่ผมพูดมันถูกทั้งหมดเลยนี้นา

      “เออ กูผิด” มันว่าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจแล้วเดินเข้าไปเอาของในห้องครัว อ่าว ไอ้เชี่ยนี้ นับวันมันยิ่งทำให้ผมสับสน ว่ามันเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่?

      “อ่ะ นี้” มันยื่นกระป๋องน้ำส้มมาให้ผม เอาอะไรมากูเนี่ย นางเอ๊ก นางเอก เกินไปแล้วกู

      “ขอบใจ” แต่ผมมันคนไม่ชอบทำร้ายจิตใจใครเลยไม่อยากปฏิเสธมันให้เสียงความรู้สึก

      “อืม” มันว่าแค่นั้นแล้วนั่งลงข้างผม แต่มันเอาขนมนาๆชนิดมากองบนโต๊ะ ที่มึงประชดกูหรือเปล่า?

      “ทำไมเยอะจังวะ”

      “ก็นายกินเยอะนี่หว่า กลัวไม่อิ่ม” ไอ้มอสบอกเสียงเบาๆ

      “อ้อหรอ ขอบใจวะ” ผมว่าเสร็จก็เอาขนมซองหนึ่งมาแกะกินทันที

      .

      .

      ผมมองไอ้ตั้งที่ตอนนี้ดูการ์ตูนอะไรก็ไม่ตาไม่กระพริบ นี้มันโตแล้วหรือยังวะเนี่ย ทำไมถึงยังดูการ์ตูนอยู่? หรือสมองมันไม่พัฒนาเหมือนร่างกายมันวะ

      มันหยิบขนมใส่ปากจนขนมหมดถุงแล้วมันก็หยิบอีกถุงมาแกะ ตาก็ยังจ้องไม่กระพริบเช่นเดิม มันขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ดูก็รู้ว่ากำลังรู้สึกขัดใจที่แกะขนมไม่ได้ซะกะที เด็กจริงๆ =.=

      ผมเลยคว้าถุงมาแกะแล้วส่งคืนให้ มันหันมาผงกหัวให้ทีนึงแล้วหันไปมองจอต่อ อ่าว เมินกูซะงั้น

      พอการ์ตูนจบมันถึงหันมาคุยกับผม ผมมีค่าแค่หลังการ์ตูนจบหรือนี่ T^T

      “ก็ไปอาบน้ำก่อนนะ” มันเดินขึ้นไปบนห้อง

      เอ้อ ให้มันได้อย่างนี้สิ ไอ้เราก็อุตส่าห์นั่งด้วย แต่มันกลับหนีไปอาบน้ำซะงั้น ผมก็น้อยใจเป็นนะ ถึงพวกผมจะไม่ได้เป็นอะไรกันก็เถอะ แต่ผมชอบมันอยู่นะ

      ผมเดินเข้าไปเอาเสื้อผ้าในห้องของผมมาให้มันหน้าห้องน้ำ มันคงจะนอนค้างที่นี้แหละ ดีเลยผมจะได้อยู่กับมันนานๆ ^0^

       พอมันออกมาผมก็เข้าต่อจากมันทันที ผมอาบน้ำไม่ถึงสิบนาทีก็ออกมา เห็นมันกำลังเช็คผมของมันอยู่ หัวมึงเกรียนอยู่นะ ยังจะท่าเยอะนั่งเช็ดผมอีก =.= ที่จริงผมมันยาวนะเหมือนซอยผมน่ะแหละ แต่มันสั้นกว่าของผม ผมเลยเรียกมันว่าเกรียนไปงั้นแหละ

      “มาเดี๋ยวเช็ดให้”

      “ดีๆ อะ เอาไป” ไม่คิดเกรงใจกูเลยนะมึง

      ผมเช็ดให้มันอย่างเบามือ ถึงจะมีผ้ากั้นมือกับผมของมัน แต่ผมก็รู้ว่าผมไอ้ตั้งมันนุ่มมากเลย  และผมคงเก่งหรือไม่ก็เพลินกับการเช็ดผมไปหน่อย ไอ้ตั้งมันเลยเอนตัวมาพิงผมที่ยืนอยู่ อ่าว ไอ้นี่หลับซะงั้น =.=

      เดี๋ยวโดนลักหลับไม่รู้ด้วยนะเว้ย!! ความอดทนยิ่งมีน้อยๆอยู่ ==^                                     

      ผมเลยอุ้มมันด้วยท่าเจ้าหญิง (อยากทำมานานละ =//=) ขึ้นไปนอนบนเตียงขนาดคิงไซส์ของผม พอวางมันลงปุ๊บมันก็กลิ้งคลุกๆเหมือนแมวหาที่นอนสักพักก็หยุดแล้วกรดออกมาเบาๆ แต่ผมได้ยิน มันกรดเหมือนลูกแมวน้อยยังไงอย่างงั้น บอกตามตรงเลยนะ ตอนนี้มันน่ารักมาก!! น่ารักจนผมจะอดใจไม่ไหวซะแล้วสิ >///<

      “งืมๆ แจ้บๆ” ไอ้ตั้งมันปานน้ำลายที่ไหลออกมา ดูแล้วเซ็กซี่ครับ...

      “เชี่ยยย” ผมสบถออกมาเบาๆแล้วไปนอนข้างๆมัน หันหน้าไปทางอื่นจะได้ไม่ต้องเห็นมันเดี๋ยวเกิดอารมณ์ คึคึ

      แต่แล้วมือซนๆของไอ้ตั้งก็มาพาดที่หัวไหล่ผม ผมจะหันไปว่ามันแต่ก็ต้องหุบปากลงเมื่อเห็นว่าเจ้าของมือมันลืมตามองผม ถึงจะมืดแต่ผมก็รู้ว่ามันมอง ผมเห็นตาขาวมันครับ

      “นึกว่าหลับไปแล้วซะอีก” ผมเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบของกลางคืน

      “หลับแล้ว แต่ได้ยินเสียงมึงเลยตื่น” มันบอกอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์

      “งั้นก็นอนต่อไปดิวะ” ผมบอกมันแล้วดึงมือปลิงมันออกจากไหล่ผม

      “ก็จะนอนอยู่นี้ไงละ” มันว่างั้น แต่มันปลิงที่ผมพยายามดึงออกมันก็ยังติดอยู่ที่เดิมอยู่ดี =.= มึงจงใจยั่วผมหรือเปล่าครับ?

      “ไปนอนดีๆดิเฮ้ย”

      “ก็นอนดีๆแล้วเนี่ย จะเสียงดังทำไมวะ” มันบอกเสียงหงุดหงิด แต่ผมนี่สิจะตะบะแตกแล้วครับ!!

      “มึงกอดกูเนี่ยย มึงรู้ตัวม๊ายย”

      “ถ้าไม่รู้ กูไม่ทำหรอก” มันบอกเสียงนิ่ง ผมนิ่งประมวลคำที่มันพูด มันบอกว่างั้นก็แสดงว่ามันก็...

      “อะไรของมึงน่ะ” ผมถามลองเชิง

      “กูรู้ว่ามึงรู้ว่ากูหมายถึงอะไร”

      รู้น่ะมันรู้แต่อยากถามให้แน่ใจเฉยๆ =///=

      .

      นี้มันโง่หรือแกล้งโง่กันแน่เนี่ย ผมอุตส่าห์รุกมันเต็มความสามารถแล้วมันยังไม่รู้อีกหรือไงว่าผมต้องการสื่ออะไรกับมันน่ะ ไอ้โง่มอสเอ้ย!!

      “อะ...เอ่อ มึง” มันอึกๆอักๆ ชักช้าไม่ทันใจ เดี๋ยวผมจับปล้ำซะหรอก(?)

      “กูนอนละ” มึงตอบช้า แสดงว่าผมคิดเองมาตลอดงั้นน่ะสิ ไม่น่าเลยผม

      “อ่าว ตื่นมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนดิเฮ้ย!” มันกระชากผมลุกขึ้นมานั่นสบตากับมันในความมืดมิดไร้แสงจันทร์สาดส่อง

      “คุยอะไรอีกวะ” ผมแสร้งทำเสียงหงุดหงิดใส่

      “นี้มึงชอบกูหรอ” สัสเป็ด!! มึงนั่นแหละชอบกูอ่ะ!!

      ==^ มึงก็คิดได้เนอะ” ผมว่าอย่างประชดประชัน แอบเห็นมันทำหน้าหง่อยเหมือนหมาอดแดกเพดดีกรี

      “แต่กูรักมึงอ่ะ...” มันคงเผลอหลุดออกมา แต่คำนี้แหละที่ผมรอคอย

      “อะไรนะ??” ผมแกล้งถาม มันทำหน้าตื่นมันตกใจในสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป

      “อะ...เอ่อ มึงรังเกียจเปล่า” มันถามอ้อมแอ้ม ชักช้าเดี๋ยวเอาตีนยันแม่ง

      “อะไรละวะ ชักช้ากูง่วง!

      “ที่กูจะรักมึงอ่ะ” มันบอกแล้วก้มหน้าลงเหมือนกำลังทำใจหรือไม่ก็ไม่อยากเห็นหน้าผมที่มันคิดว่าผมกำลังเยาะเย้ยมันอยู่

      แต่ความเป็นจริง ผมกำลังยิ้มแป้นอย่างอารมณ์ดีเลยละ ^O^

      “รังเกียจ” ผมบอกมันนิ่ง มันเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสีหน้าที่บอกได้คำเดียวว่า โคตรฮา!!

      “รังเกียจคงไม่กอดมึงหรอก สัสมอส!!” ผมบอกมันแล้วหันไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว เออวะ!! เกิดมาไม่เคยบอกรักใครแล้วอายตัวเองขนาดนี้มาก่อนเลยวะ แถมบอกรักผู้ชายด้วยอีกด้วยเอ้า!!

      “มึง มึง มึง มึงงง” สิ้นเสียงมัน ผมก็ได้ยินเสียงมันล้มลงไปนอนเตียง อ่าวเฮ้ย!! กูบอกรักมึงนี้ถึงกับสลบไปเลยหรอวะ แต่มึงคงไม่ตายใช่มั้ยวะ?

      “สัสมอส!!” ผมคลานไปนั่งข้างๆมันแล้วเขย่าไหล่มันแรงๆ แถมตบแก้มมันอีกสองสามทีจนเกิดรอยแดงรูปฝ่ามือเต็มหน้ามัน

      “โอ๊ยย ตัว เค้าเจ็บ” อี้!! มึงเล่นไรของมีงเนี่ย มาเค้า ตัว แบบนี้ กูขนลุกสัส!

      “อะ...ไอ้เชี่ยยย” ผมโดดเหยงๆออกห่างมันเหมือนโดนของร้อน

      “เป็นอะไรไปวะ ขยับไปทำไมมายู่ใกล้ๆดิเฮ้ย”

      “มึง...กูขนลุกกับสรรพนามมึง!!” ผมบอกว่าแต่ไม่วายขยับออกห่างมันอีกนิดหน่อยจนหลังชิดกำแพงห้อง

      “แต่นี้เอง...รัก มึง จัง” มันบอกช้าๆชัดๆ เน้นๆ ย้ำๆ

      -///-“ เล่นซะกูจนคำพูดเลยนะ

      “เป็นแฟนกันนะ” มันยื่นนิ้วก้อยมา เหมือนเป็นการทำสัญญาที่พวกเด็กๆชอบทำกัน

      ไอ้เด็กอ่อน!! แต่ผมก็ยื่นตอบกลับไปนะ แล้วก็หันไปทางอื่นเพื่อไม่ให้มันรู้ว่าผมกำลังเขินและอาจจะหน้าแดงจนหน้าอายด้วย พ่อแม่!! ผมเขินผู้ชายครับ!! ถึงจะอยู่ในความมืดแต่มันก็อดไม่ได้ว่ามันจะรู้อ่ะนะ เพราะงั้นปลอดภัยไว้ก่อนแล้วกัน

      “สัญญาต้องเป็นสัญญา ใครผิดสัญญาต้องโดนปล้ำร้อยครั้ง!!” ผมว่าสัญญามันแปลกๆนะครับ ==^

      “ไอ้หื่นนนนน!” ผมบอกมันเสียงดัง หลังจากคิดทบทวนเสร็จ แม่งกูไม่ยอมโดนมึงปล้ำหรอก กูต่างหากที่จะปล้ำมึงอ่ะ

      “ครับผม ^[++]^” มันยิ้มซะจนผมคิดว่าตอนนี้เป็นตอนกลางวันที่สดใส

      “นอนกันเถอะ” มันบอกแล้วคว้าเอวผมลงไปนอนกอด ผมดิ้นอยู่อย่างนั้นจนเพลียเลยหยุด ไอ้นี่ก็ แม่ง กินควายเป็นอาหารหรือไงวะ แรงเยอะจริง

      “ฝันดีนะ ตั้ง” มันกระซิบข้างหูผมจนขนหูและขนแขนตั้งกันให้พรึ่บ

      “ฝันดีวะ เชี่ยมอส” นี่แหละที่ผมบอกมัน

      ถึงทุกคนจะมองว่าผมเรียบร้อยแต่ผมก็เรียบร้อยเฉพาะต่อหน้าพวกเขาเท่านั้น แต่ก็มีไอ้มอสนี้แหละที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของผม

      บอกแล้วไง...ว่าผมเลือกรักคนไม่ผิดจริงๆ ^^

      .

      ดีใจครับ!!!

      ไอ้ตั้งมันก็รู้สึกอย่างเดียวกับผม ถึงจะไม่รู้ว่ามันรักผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็เถอะนะ ไว้ค่อยถามมันทีหลังแล้วกัน

      คืนนี้ขอนอนกอดอย่างนี้จนถึงเช้า แล้วฝันถึงมันดีกว่า ^^

      .....................................................................................................................................................
      จบยังนะ??
      เอ...หรือยังไม่จบหว่า??
      ไม่หรอกต้องจบแล้วสิ
      เอาเป็นว่า....

      .....................................................................................................................................................

      The end ^^






      จบแล้วน๊าาาาาาา
      ดองมาน๊านน หวังว่าทุกคนยังรออ่านมั้งนะ
      เม้นให้กำลังใจเค้าบ้างน๊าา
      #จุ๊ฟ!!!

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×