คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : :: Special Tist # 1::
Special Tist # 1
แรงกอดรัดไม่แรงจากด้านหลังเรียกสายตาให้ผมต้องหันกลับไปมองเจ้าของอ้อมกอดที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ วันนี้ผมได้กลับมาบ้านแล้ว...บ้านของชเวมินโฮนั้นแหละ หลังจากนอนเพลียอยู่โรงพยาบาลมาสองวันเต็มๆ รู้สึกเหนื่อยกว่าซ้อมเต้นมาทั้งเดือนอีก นอนๆเดินๆอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม..น่าเบื่อสุดๆเถอะ!
“นายจะกอดอีกนานไหมเนี่ย?”
ดวงตากลมโตเหลือบมองไปทางด้านหลังที่ถูกใครบางคนกอดไว้ มือหนากระชับประสานกันอยู่บนหน้าท้องของแทมินกันคนตัวเล็กกว่าหนีรอดออกมา ปลายคางสากถูกจับวางลงบนไหล่บางพอให้ใบหน้าได้ใกล้ชิดกัน
“นายไม่อยากให้กอดหรือ?”
เสียงทุ้มตอบชิดริมใบหู แค่นี้ก็เรียกรอยแดงให้กับแก้มเนียนได้อย่างไม่ยาก...ก็ไม่อยากจะเถียงคนมือไวให้เหนื่อย ร่างบางจึงยอมยืนนิ่งๆให้พระเอกเขากอดอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะพอใจแล้วกัน
“นายผอมลงหรือเปล่าเนี่ย?”
“ตลกแล้ว แค่สองวัน ผอมเผิมอะไรเล่า ฉันกินข้าวปกตินะ”
“แต่ทำไมเหมือนผอม..” มินโฮไม่พูดต่อ แต่กลับรั้งเอวบางเข้ามาประชิดอกทันที “จมเลยเห็นไหม?” ไอ้ที่จมน่ะ จมอกพ่อพระเอกเค้าเลยเห็นไหม...ไอ้หมอนี่! ชอบทำอะไรให้เลือดลมตีไปตีมาอยู่นั่นแหละ
“แทมิน”
“หืม??”
“ย้ายมานอนห้องฉันไหม?”
คำถามที่ไม่คาดคิดถูกเอ่ยถามออกมาจากริมฝีปากได้รูปไม่ดังมาก แต่ก็ชัดเจนและตรงไปตรงมาเกินกว่าจะแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ มินโฮยอมละอ้อมแขนออกจากเอวบางก่อนจะรีบพลิกตัวคนที่ยืนนิ่งให้หันกลับมาสบตากัน...แววตามั่นคงแน่วแน่ถูกมอบให้คนรับอย่างจริงใจจนแทมินแอบเผลอจะตอบกลับไปง่ายๆ แต่อะไรบางอย่างกลับฉุดรั้งไว้ก่อน
“ตะ..แต่ฉันก็นอนคนดียวได้นะ”
“ตอนนี้นายเจ็บมือ”
“แล้วยังไง?” มุมปากระบายรอยยิ้มบาง เหมือนจะพอเข้าใจสิ่งที่ร่างสูงต้องการจะสื่อ
“ถ้านายเกิดเป็นอะไรไป..ฉันจะได้ช่วยทัน”
แทมินยิ้มให้กับข้ออ้างที่ชัดเจนของร่างสูงจนเผลอจะหลุดหัวเราะ...ผมไม่ใช่เด็กๆสักหน่อยนะ ที่จะนอนทับมือตัวเอง หรือจะนอนดิ้นจนกลิ้งตกเตียงน่ะ...แต่นี่เห็นแก่ที่ช่วยผมมาเยอะ ผมจะยอมย้ายไปนอนด้วยก็ได้...แต่ผมไม่ได้ใจง่ายนะ!!
ร่างบางทำหน้าใช้ความคิดพลางเหลือบมองคนที่ชวน ชเวมินโฮก็มีมุมขาดความมั่นใจเหมือนกัน..แล้วผมจะดีใจได้ไหม ที่เขาขาดความมั่นใจเพราะเรื่องของผม
“ก็ได้...”
แค่คำตอบสองพยางค์จากผม คนที่ยืนหน้านิ่งก็ยิ้มออกมาทันควัน อะไรจะน่าดีใจขนาดนั้น..ผมเดินตามร่างสูงของเจ้าของห้องเข้าไปก่อนจะกวาดตามองรอบๆ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเหมือนกับวันที่ผมเข้ามาดูแลคนป่วย จะแปลกตาก็ตรงโต๊ะทำงานที่ตอนนี้เต็มไปด้วยกองหนังสือถูกวางกระจัดกระจาย สงสัยจะใกล้สอบเข้ามาแล้ว..แต่เดี๋ยวนะครับ
...ใกล้สอบ...
...สิ้นเทอม...
...ส่งงาน!!!...
“!!!!”
“เป็นอะไรไปหรือ?”
“ฉันคิดว่า ฉันต้องจริงจังแล้วล่ะ!”
พูดไว้เพียงเท่านั้นแทมินก็รีบเดินออกจากห้องไปทิ้งร่างสูงให้ยืนงงอยู่กับที่อย่างช่วยไม่ได้ แต่ไม่นานแทมินก็เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมตุ๊กตาตัวโปรดและกระดานวาดภาพที่เจ้าตัวชอบพกไปไหนมาไหนเสมอ ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มอย่างถือวิสาสะ แต่มินโฮก็ไม่ห้ามอะไรอยู่แล้วไม่ว่าน้องจะทำอะไรก็ตาม
มือบางรีบเปิดหน้ากระดาษย้อนกลับไป ก่อนจะมองผลงานตัวเองอย่างใช้ความคิด...เขายังไม่ได้ลงมือวาดชเวมินโฮลงบนแผ่นผ้าใบเลย แล้วมือเขาก็ยังมาใช้งานไม่ได้แบบนี้...อะไรก็แย่จริงๆ แค่คิดก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาแรงๆแล้ว
“อ้ะ”
ร่างสูงหย่อยกายลงนั่งบนเตียงซ้อนหลังคนตัวเล็กกว่าไว้ มือหนาคว้าเอาฝ่ามือบางมากุมพร้อมบีบเบาๆ แค่นี้แทมินก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ร่างบางอมยิ้มให้กับความเอาใจใส่เล็กๆน้อยๆนั่นก่อนจะทิ้งตัวพิงหลังเข้ากับอกกว้าง..
“ขอบใจนะ”
“ฉันก็ขอบใจ...ที่นายยอมอยู่ด้วยกัน”
-----------------------------------------------
ความรู้สึกง่วงชวนจะหลับคงเกิดขึ้นกับนักศึกษาทุกคน แม้ว่าคนๆนั้นจะอะเลิ๊ตขนาดไหนก็ตาม แต่ไอ้วิชาที่ไม่ถนัดเนี่ยความคึกคักก็คงจะหมดไปง่ายๆเช่นกัน เมื่อคาบเรียนวิชาเคมีที่บนจอโปรเจคเตอร์เครื่องใหญ่ในตอนนี้ ฉายภาพหนังแนวนักวิทยาศาสตร์ทดลองสารเคมีนั่นนู่นนี่ นักเรียนหลายคนดูไปก็จดโน้ตย่อเล็กๆไว้ให้ไม่ลืมว่า ฉากนี้เป็นยังไง แล้วสำคัญอย่างไร ผิดกับใครบางคนที่นั่งเลื้อยลงไป ใบหน้าหวานแทบจะชิดติดกับโต๊ะ เพียงแต่มีแขนเล็กนั้นกั้นอยู่
“ทำไมไม่จดอะไรไว้บ้าง”
“ง่วงอ่ะ”
เสียงเพื่อนสนิทที่สุดในวิชานี้ถามขึ้นเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่หาวหวอดๆ จงฮุนเองก็นึกขำกับอาการแบบนี้ของคีย์ นี่ถ้าเป็นวิชาที่มีคำนวนดูเหมือนเจ้านี่จะคล่องแคล่วว่องไวกว่านี้เป็นสิบเท่าล่ะนะ แต่พูดถึงว่าไอ้การผสมสารนั้นเข้ากับสารนี้มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากจริงๆ
ครืดดด~
เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งค่าระบบสั่น สั่นจนโต๊ะทั้งแถวเกือบสะเทือน คีย์ก้มลงมองโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะกดรับ กรอกเสียงอย่างเหนื่อยหน่ายที่สุดส่งกลับไปทางต้นสาย
“ว่าไงมินโฮ??”
(เสียงดูไม่ได้สุดๆ เรียนอยู่หรือ?)
“อื้อ...อีกชั่วโมงนึงเลิก...น่าเบื่อชิบอ่ะ” อดจะบ่นให้เพื่อนสนิทฟังไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคีย์ก็ต้องยกมือบางขึ้นมาป้องปากอย่างเสียมิได้
“อาจารย์จางให้ดูหนัง แล้วให้ทำรายงานส่งว่ะ ฉันจะบ้า แล้วแกรู้ไหมงานเยอะมาก ส่งเมล์มาให้ตลอดจนทำแทบไม่ไหวแล้วเนี่ย” ไหนๆก็ได้บ่น ก็ขอบ่นให้มันยาวๆไปเลยแล้วกัน จนเสียงปลายสายถึงกับต้องหัวเราะล้อเลียนออกมา
(ก็ใครให้เรียนใหม่..จริงๆก็น่าจะถูๆไถๆเทอมที่แล้วมาด้วยกัน)
“ก็อยากได้เอเว้ย”
จงฮุนสะกิดเพื่อนตัวดีทันทีเมื่อเสียงคุยโทรศัพท์ชักจะดังรบกวนรุ่นน้องแถวหน้า จนอาจารย์จางกึนซอกต้องเดินเข้ามาใกล้พร้อมเค้านิ้วลงบนศีรษะของคีย์
“ขอโทษครับอาจารย์”
อาจารย์จางไม่ได้ถือโทษเอาความอะไร แต่คีย์ก็รู้ด้วยตัวเองว่า ควรจะออกไปคุยกับเพื่อนสนิทนอกห้องดีกว่า คีย์พยักเพยิดให้กับจงฮุน ฝากฝังสมุดเลคเชอร์ทั้งหลายแหล่ ก่อนจะรีบออกมายืนด้านหน้าห้องเรียน
“ฉันโดนอาจารย์เคาะหัวเลย...ตกลงโทรมามีอะไร”
(ฉันจะแข่งบอลเย็นนี้ มาดูดิ บัตรอยู่กับพี่อนยูแล้ว)
“อ่าวหรอ?? เออๆ นี่แกเห็นฉันชอบดูบอลหรือไง ที่ไปดูทุกครั้งนี่เพราะเห็นมีแต่เพื่อนกันแข่งหรอกนะ จริงๆก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง”
(ตกลงมาใช่ไหม?...ฝากดูแลแทมินด้วยโอเคนะ)
“หือ..นี่ตกลงที่โทรมาชวนเพราะจะให้มาเป็นไม้กันคนอื่นไม่ให้มาตอแยแฟนแกน่ะนะ” เฮอะ! ไอ้ชเวมินโฮนี่ชักจะอาการหนักขึ้นทุกวัน..แต่เอาเถอะถือว่าจะยอมช่วยก็ได้
เราคุยอะไรกันอีกไม่กี่ประโยคก็วาง ก่อนที่ผมจะเดินเข้ามานั่งในห้องเรียนตามเดิม จงฮุนวางปากกาในมือลง ก่อนจะหันมายิ้มให้คีย์ ... ไอ้นี่ก็หล่อเจิดจ้าจริงๆ ยิ้มทีเล่นเอาตาลาย
“วันนี้มินโฮแข่งบอล..ฮงกิก็ด้วยไหม?”
ร่างบางถามเพื่อนร่วมชั้น เห็นจงฮุนทำท่านึกไม่นานร่างสูงก็พยักหน้าตอบ..ไม่ต้องสงสัยว่าไปรู้จักมักจี่อะไรกันได้ยังไง ก็ไอ้เพื่อนหน้าหล่อที่นั่งอยู่ข้างๆนี่เทียวรับเทียวส่งนักฟุตบอลหน้าตาทะเล้นเพื่อนร่วมทีมของมินโฮมาสักพักแล้ว เวลาแวะไปหามินโฮทีไรก็เจอจงฮุนขับรถมารับฮงกิตอนเลิกซ้อมทุกทีล่ะนะ
“นายไปหรือ?..ไปพร้อมฉันไหมล่ะ”
“ไม่เป็นไร พี่อนยูมารับน่ะ”
“แหมมมมม~” ลากเสียงยาวทำเพื่อ?? เมื่อจงฮุนเห็นผมทำหน้าประหลาดมากกว่าจะเขินที่โดนแซวหมอนั่นก็เอาแต่หัวเราะแล้วหันไปให้ความสนใจกับหนังน่าเบื่อเรื่องนั้นต่อ
สี่โมงเย็นไม่ขาดไม่เกิน อาจารย์จางผู้เข้มงวดก็สั่งงานตบท้ายเป็นรางวัลสำหรับนักศึกษาทุกคน ร่างบางเลื้อยตัวลงกับโต๊ะอีกครั้งเมื่อนักศึกษาต่างทยอยเดินออกจากห้องบ้างแล้ว แต่ไม่นานยังโยซอบ รุ่นน้องแก้มป่องก็วกกลับเข้ามาในห้องก่อนจะเดินมาหาคีย์
“พี่คีย์...แฟนมารับแล้ว”
“หือ? พี่อนยูมาแล้วหรอ”
“แฟนพี่นี่คนเดิมกับคนนั้นที่มารับเมื่อต้นๆเทอมป่ะ?”
คำถามขี้สงสัยทำให้คีย์ต้องนึกตาม เขาก็ไม่เคยคบกับใครนอกจากพี่อนยูนิ่ แล้วก็เหมือนจะมีแต่พี่อนยูเท่านั้นที่เคยมารับหน้าห้องแบบนี้ ดูเหมือนคิ้วเรียวสวยจะขมวดมุ่นใช้เวลานึกนานไป รุ่นน้องตัวแสบเลยเอ่ยข้อสงสัยเจาะจงมากขึ้น
“ตอนนั้นพี่เค้าใส่แว่นน่ะ แต่วันนี้ไม่ได้ใส่ ดูหล่อขึ้นนะพี่...คนเดียวกันใช่ไหม?”
คีย์ทำปากเป็นรูปตัวโอร้องอ๋อ ก่อนจะยิ้มแล้วพยักหน้ารับ ร่างบางตบไหล่ขอบใจก่อนจะกวาดของบนโต๊ะทั้งหมดลงกระเป๋าเพื่อไม่ให้คนมายืนรอต้องรอนาน
“หุบยิ้มบ้างอะไรบ้าง”
จงฮุนลอบสังเกตเพื่อตัวเล็กแล้วก็อดแซวไม่ได้ ร่าเริงกว่าตอนเรียนสิบเท่า! นี่ถ้าพี่อนยูเป็นอาจารย์สอนวิชานี้ เจ้านี่คงจะมีพลังใจเรียนเต็มเปี่ยม งานจะเยอะแค่ไหนก็คงไม่บ่นเป็นแน่ คีย์หุบยิ้มลงอย่างเก้อๆ ก่อนจะลากแขนเพื่อนสนิทออกมาด้านนอกด้วยกัน
“พี่อนยูตรงเวลามาก!” ร่างบางเอ่ยทักคนรักเมื่ออนยูเดินเข้ามาหา พร้อมช่วยรับหนังสือเข้าไปถือไว้ให้ทันที
“ไง..วันนี้เรียนหรือนั่งหลับอีก”
“อย่ามารู้ทันได้ไหมเล่า”
คีย์กระเง้ากระงอดใส่จนคนเป็นพี่นึกเอ็นดู พลันสายตาอนยูก็มองเลยไปด้านหลังของร่างบาง คีย์มองตามสายตาของอนยูไป ก่อนจะลากแขนเพื่อนร่วมชั้นเข้ามายืนใกล้ๆ จงฮุนโค้งให้อนยูอย่างนอบน้อมจนคีย์นึกหมั่นไส้
“นี่จงฮุน เพื่อนผมเอง เรียนใหม่เหมือนกันน่ะ..แล้วก็นี่พี่อนยู” พูดจบร่างบางก็หันไปยักคิ้วให้เพื่อนพร้อมรอยยิ้มสดใส
“เราจะไปเลยไหม”
“พี่ไม่ได้เอามินิมา นั่งรถเมล์ไหม” คีย์ยิ้มรับไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่ทว่าเพื่อนผู้ใจดีกลับขัดขึ้นเสียก่อน
“ไปด้วยกันไหมครับ..ผมก็จะไปสนามฟุตบอล”
ร่างบางหันไปมองเพื่อนก่อนจะหันมาขอความคิดเห็นจากคนรัก แต่ดูเหมือนร่างสูงของอนยูจะนิ่งเงียบไป เมื่อหันกลับไปสบกับดวงตาคม อนยูปรับสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะให้คีย์เป็นคนตัดสิน
.
.
สนามฟุตบอลขนาดใหญ่ แต่กลับเต็มไปด้วยนักศึกษาและกองเชียร์มากมายรายล้อมจับจองที่นั่งจนแทบจะเต็มอัฒจรรย์และหนึ่งในนั้นคือเด็กน้อยผมสีทองที่โบกไม้โบกมือเรียกพวกเขาจากด้านบน อนยูหันกลับไปมองร่างบางเมื่อคีย์ยังคงคุยกับเพื่อนสนิทอยู่ ร่างสูงเพียงแค่แตะเบาๆไปที่หลังมือบางบอกเป็นเชิงว่าขึ้นไปหาแทมินก่อน
ขายาวก้าวข้ามแต่ละขั้นของบันไดเพื่อขึ้นไปหาแทมินที่นั่งอยู่คนเดียว สงสัยน้องชายเขาคงเตรียมตัวอยู่ด้านในของสนาม แทมินในชุดเสื้อยืดสีฟ้ากับกางเกงห้าส่วนถูกพับขาขึ้นมาเล็กน้อยบวกกับรองเท้าหนังสีน้ำตาลเรียกให้คนตัวเล็กดูโดดเด่นขึ้นมา...ไม่ต้องสงสัยเลยทำไมมินโฮจึงหวงนัก
“มาช้าจังเลยฮะ”
“พี่รอคีย์เลิกเรียนน่ะ..แล้วทำไมเรามาเร็วจัง แล้วนั่นอะไรเต็มไปหมด”
ร่างสูงถามแทมินในขณะที่มือหนาก็หยิบป้ายเชียร์ที่ทำจากกระดาษ ไม่ว่าจะเป็น ‘มินโฮ ไฟท์ติ้ง’ หรือแม้กระทั่งรูปวาดล้อเลียนหน้ามินโฮถูกเสียบไม้อยู่ เล่นเอาคนเป็นพี่ถึงกับหลุดขำ ไม่รู้ว่ามินโฮรู้ไหมเจ้าเด็กนี่ลูกบ้าเยอะจริงๆ แต่ก็น่าเอ็นดูไปในคราวเดียวกัน
“เอามาเชียร์ไงพี่อนยู ไม่สวยหรอ?ผมทำเองหมดนั่นเลยนะ”
“อิจฉามินโฮมันนะ..”
“อิจฉาทำไมฮะ?? พี่อนยูน่าอิจฉากว่าอีก พี่คีย์นะทั้งน่ารักทั้งน่าเอาใจ..อยู่กับชเวมินโฮมีแต่โดนตามใจซะมากกว่า” เด็กน้อยบ่นอุบอิบแต่ก็ไม่ได้มีแววไม่ชอบใจอะไร
“แล้วพี่คีย์ไปไหนฮะ เมื่อกี๊เดินเข้ามาด้วยกันนี่?”
ผมมองลงไปด้านล่างสนามกวาดสายตามองหาตำแหน่งที่พึ่งเดินจากมาเมื่อสักครู่ เมื่อเห็นคนรักเดินเคียงข้างมากับเพื่อนร่วมชั้น แทมินมองตามสายตาของคนเป็นพี่แล้วก็รีบกวักมือเรียกคีย์ยกใหญ่จนคนตัวเล็กที่โบกมือส่งกลับและกำลังเดินขึ้นมาถึงกับสะดุดขั้นบันได โชคดีได้มือหนาของจงฮุนที่เดินมาด้วยกันเข้าประคองไว้ได้ทันก่อนที่คีย์จะหันไปส่งยิ้มเจือนๆให้เพื่อน จงฮุนขำให้กับความเปิ่นของคีย์จนต้องยกมือขึ้นมาขยี้ผมนุ่ม
อนยูมองการกระทำของทั้งสองคนแล้วก็อยากจะลงไปดึงคีย์ให้ขึ้นมาไวไวไม่ใช่มัวแต่ยืนประคอง เล่นหัว หรือหัวเราะต่อกระซิกกันอยู่ตรงนั้น
“นั่นใครหรือฮะ?” แทมินเอ่ยเรียกสติเมื่อเห็นว่าพี่ชายอีกคนนิ่งเงียบไป
“เพื่อนคีย์...”
“หน้าตาดีโคตรๆอ้ะ...แต่ทำไมต้องเดินเบียดพี่คีย์ขนาดนั้นนะ”
ที่แทมินสงสัย พี่เองก็สงสัยเหมือนกัน แค่สะดุดนิดเดียวคีย์ไม่เป็นอะไรมากถึงขั้นต้องโอบเอว โอบไหล่ขนาดนั้นนี่ แค่คิดร่างสูงยิ่งขมวดคิ้วให้ชิดติดกันจนทั้งสองคนเดินขึ้นมาถึงที่นั่งในที่สุด
“พี่อนยูดูดิ โชคดีมากบัตรที่ฮงกิให้จงฮุนมาเลขติดกับพวกเราพอดีเลย”
คีย์รีบฉวยบัตรในมือของเพื่อนส่งให้ร่างสูงดูทันทีพร้อมรอยยิ้มสดใสถูกส่งมาให้จนแก้มใสยกขึ้นส่งผลให้ความขุ่นเคืองเมื่อครู่ลดลงไปได้เกือบครึ่งถ้าไม่ติดว่ามีมือใหญ่ที่เกาะไหล่ร่างบางของเขาอยู่...ดูเหมือนแทมินจะเข้าใจสถานการณ์ หรือเพราะความหวงพี่ชายหน้าสวยเป็นการส่วนตัวก็ไม่รู้ น้องเล็กจึงไม่รอช้ากระโดดข้ามเก้าอี้ของอนยูไปแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างคีย์กับจงฮุนทันที
“คิดถึงพี่คีย์” เด็กน้อยเอ่ยเสียงอ้อนจนคีย์ที่ยิ้มอยู่แล้วถึงกับต้องหัวเราะออกมาเมื่อแทมินชูมือขึ้นโอบกอด
“มานานแล้วหรอ”
“ถามเหมือนพี่อนยูเลย...แหน่ะๆๆ” แทมินยอมปล่อยพี่ชายก่อนจะถอยขยับออกมาพร้อมทั้งแซวเจ้าของรอยยิ้มเสียยกใหญ่
“ไม่ต้องแซวเลยไอ้หนู...ไปนั่งเชียร์แฟนดีกว่าไหม ฮึ?” ได้ทีแซวกลับแทมินถึงกลับรีบเบะปากใส่ทันทีก่อนจะยอมเดินกลับมานั่งที่เดิมของตัวเอง
คีย์มองตามน้องคนเล็กยิ้มๆก่อนจะหันกลับไปมองหน้าร่างสูง พี่อนยูยืนหน้านิ่งผิดปกติไปแล้ว แต่อาจจะเพราะร้อนก็ได้คนรักของเขาถึงดูไม่ค่อยอยากพูดจามากเท่าไหร่ เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างบางก็จะทรุดนั่งลงไปที่เก้าอี้ แต่มือหนากลับรั้งไว้เสียก่อน ร่างบางเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
“คีย์ไปนั่งข้างแทมินเถอะ”
อนยูจับมือของคนตัวเล็กให้สลับที่นั่งกับของตน จนแทมินที่มองอยู่ถึงกับต้องลอบยิ้มให้กับความเนียนของพี่อนยู ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าคนที่นั่งติดกับจงฮุนกลายเป็นอนยูซะเอง
อีกไม่ถึงชั่วโมงการแข่งขันฟุตบอลถึงจะเริ่ม บรรยากาศก็คึกคักจากผู้คนรอบสนามดูน่าสนุกสนาน แต่ทำไมร่างสูงกลับไม่รู้สึกสนุกด้วยเลย เมื่อคนตัวเล็กที่นั่งข้างๆกันเอาแต่ชะโงกใบหน้าน่ารักไปด้านหลังเพื่อคุยกับเพื่อนสนิท โดยไม่อยากที่จะคุยผ่านตัดหน้าเขา...แต่แบบนี้มันก็น่าหงุดหงิดจริงๆไหมล่ะครับ แทนที่ผมนั่งอยู่ข้างๆแต่กลับคุยเลยผมไปเสียอย่างนั้น
ในเมื่อทั้งสองคนยังคุยกันไม่เลิกแบบนี้ผมก็คงต้องสั่งตัวเองให้นั่งหลังพิงกับพนักเสียแล้ว
“อ้าว”
เสียงเล็กเปรยออกมาเบาๆเมื่อผมปิดกั้นและตัดการสนทนาของทั้งคู่ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับจงฮุนเพื่อนสนิทของคนรัก ที่ไม่รู้ว่าคิดไม่ซื่อหรือเปล่า คีย์ตีแขนผมเบาๆพลางบ่นพอให้ได้ยินว่ากำลังเม้าท์เรื่องงานกับเรื่องรุ่นน้องที่ชื่อโยซอบอยู่เชียว
“คุยกับพี่บ้างก็ได้” เสียงทุ้มเอ่ยปนน้อยใจจนร่างบางถึงกับทำตาโตแล้วหันไปมองหน้าแทมินที่สะกิดเรียกอยู่ น้องพยักหน้าให้พร้อมขยับปากบอกแบบไม่มีเสียงให้คีย์ได้อ่าน
‘หึงแล้ว’
คีย์ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นทำหน้าสงสัย จนแทมินต้องแอบชี้นิ้วเลยข้ามไปที่เพื่อนร่วมชั้นของเขา ก่อนที่ริมฝีปากบางจะห่อเข้าหากันอย่างไม่อยากเชื่อ...หึงเขากับจงฮุน...ตลกใหญ่แล้ว ก็ว่าทำไมถึงดึงให้มานั่งอยู่ตรงนี้ แล้วไหนจะมือหนาที่เอื้อมมากุมมือเขาไว้หลวมๆแบบนี้อีก
คีย์ปล่อยความคิดก่อนจะแอบลอบยิ้มพร้อมกระชับมือกลับไปที่มืออุ่นคู่เดิม...ดูเหมือนต้องหาโอกาสสะสางเรื่องจงฮุนเสียหน่อย..ไม่อย่างนั้นคนขี้หึงอาจต้องคิดมากโดยใช่เหตุก็เป็นได้
เสียงบรรยายของเกมฟุตบอลเริ่มขึ้น เรียกสายตาให้แทมินรีบมองกลับไปที่สนามทันทีก่อนจะเห็นน้องส่งยิ้มไปให้ใครบางคนบนสนามที่มองมาทางด้านนี้พอดี มินโฮชูนิ้วโป้งขึ้นมาให้แล้วเดินเข้าสนามไป การแข่งขันดำเนินไปเรื่อย แต่คนที่ไม่ค่อยชอบฟุตบอลอย่างเขาถึงกับนั่งหลับไปตั้งแต่ยังไม่ทันถึง 20 นาทีแรกด้วยซ้ำ
อนยูมองหัวทุยๆที่ซบอยู่ตรงไหล่แล้วก็ลอบถอนหายใจ เพราะปล่อยตัวแบบนี้อยู่ตลอดใครๆก็อยากที่จะเข้าหา เพราะสดใสร่าเริงแล้วก็ใจดี ใครๆก็อยากที่จะคุยด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้หวงยังไงไหว
.
.
“คีย์ครับ..ตื่นได้แล้ว”
“อือออ” มือบางยกขึ้นป้องแสงไฟจากสนามไม่ให้เขาตาตัวเองมากไปกว่านั้น ก่อนจะยอมยกหัวขึ้นจากไหล่หนา พร้อมบ่นอู้อี้
“จบแล้วหรอ...”
“จบนานแล่ว พี่คีย์หลับเพลินไปนะ” เป็นแทมินที่ตอบคำถามให้ ก่อนที่ร่างบางจะรีบลุกขึ้นยืนบิดตัวไปมาขับไล่ความเมื่อยล้า เมื่อเห็นว่าผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังลุกออกจากที่นั่งกันแล้ว
“ชนะไหม?”
“ชนะสิ...เพื่อนพี่ยิงเข้าคนเดียวสองลูกเลย เดี๋ยวผมลงไปหาชเวมินโฮก่อนนะ”
พูดจบแทมินก็วิ่งลัดเลาะไปตามที่นั่งก่อนจะหายตัวไปกับฝูงชน คีย์หันไปมองข้างๆอนยูก็ไม่เห็นจงฮุนอยู่ด้วยแล้วแต่ไม่ทันได้คิดหรือสงสัย ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆก็หันหน้าหนีไปอีกทางทันที
“พอเกมจบก็ลงไปที่สนามแล้วล่ะ”
เสียงเรียบนิ่งพูดลอยๆออกมาทำเอาคีย์ถึงกับหลุดหัวเราะ ยังไม่ทันถามเสียหน่อย...พี่อนยูไม่เหมาะกับบทหมางเมินแบบนี้เลยจริงๆ แต่จะว่าไปไอ้ตาเรียวที่มันตกๆนี่กับปากเกือบเชิดแบบนั้นมันก็น่ารักน่าแกล้งไม่แพ้กันหรอกนะ คิดได้แบบนั้นคีย์จึงกวาดตามองลงไปที่สนามอีกครั้ง ก่อนจะเจอกับจงฮุนที่กำลังยืนคุยกับนักฟุตบอลตัวเล็กคนนึง
“จงฮุน!!” ร่างบางตะโกนเรียกอย่างจงใจให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆได้ยิน แล้วก็ไม่ลืมที่จะโบกมือลงไปให้เพื่อนด้วยเช่นกัน
อนยูบิดริมฝีปาก ก่อนจะร้องเหอะออกมาเบาๆ อาการแบบนั้นยิ่งเรียกให้คนตัวเล็กยิ้มกว้างมากขึ้น เมื่อคีย์เห็นว่าผู้คนรอบข้างทยอยออกจากที่นั่งไปกันเกือบหมดแล้ว ร่างบางจึงยื่นมือแตะลงไปที่แก้มกลมๆของคนรักให้หันกลับมามองกันทันที ฝ่ามือเล็กแต่อุ่นจัดแนบลงประกบเข้าที่แก้มของอนยู ก่อนจะบีบมันด้วยแรงไม่มาก แต่ก็ทำให้ปากร่างสูงต้องยู่เข้าหากัน
“นั่งหน้ามุ่ยแบบนี้คิดว่าเท่หรือไง?” นิ้วชี้แตะลงไปเบาๆบนริมฝีปากหนาอย่างหยอกล้อ
“.......”
“พี่ดูให้ดีดีนะ”
ร่างบางยอมปล่อยแก้มกลมทันที ก่อนจะฉุดคนตัวสูงให้เดินลงมาชั้นล่างของสแตนด์เชียร์ด้วยกัน คีย์ยืนพิงรั้วที่ขอบสนามอย่างสบายๆก่อนจะชี้นิ้วไปที่เพื่อนร่วมชั้นของตัวเอง ไม่ลืมที่จะสั่งให้คนตาเล็กทำตาโตๆเสียด้วย
“เห็นไหม..จงฮุนกับฮงกิน่ะ”
อนยูมองตามไปทางนิ้วเรียวที่ชี้ให้ดู ก่อนจะเห็นเพื่อนสนิทของคนรักยกผ้าขนหนูสีขาวสะอาดซับไปบนหน้าผากของนักฟุตบอลตัวเล็กพร้อมรอยยิ้มเอ็นดูที่ฉาบขึ้นทั่วใบหน้า ไม่นานคนตัวสูงกว่าก็รวบกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดขึ้นมาถือด้วยตัวเองก่อนที่มือใหญ่จะเอื้อมไปกอบกุมมือคนที่ยืนอยู่ข้างๆให้เดินไปด้วยกัน เสียงตะโกนโวยวายแซวนักกีฬาตัวเล็กให้รึ่มเมื่อทั้งสองคนขอตัวกลับ และแน่นอนจงฮุนไม่ลืมที่จะหันกลับขึ้นมาโบกมือตอบรับคีย์ที่ยิ้มอย่างสบายใจ
“ชัดไหม?...ไม่ต้องหึงหรอกน่า”
เสียงพูดปนหัวเราะทำให้อนยูนึกมันเขี้ยวขึ้นมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากคว้าเอวคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ก่อนจะกดจูบลงไปบนแก้มเนียนทั้งซ้ายทั้งขวาจนเสียงหัวเราะสดใสดังขึ้น ถึงแม้จะโดนฝ่ามือเล็กตีกลับมาหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับความหอมหวานที่ได้รับมา
FIN
ไม่อยากให้น้องติสจบเลย เอ็นดูมากๆฮ่าๆๆ
แต่ว่าจบเถอะ Y_Y
สเปเชียลตอนนี้อนคีย์จัดเต็ม จุ๊กจิ๊กๆกันพอกรุบกริบเนาะ
คือจริงๆมุกตัดออกมาจากที่แต่งไว้ คือเรื่องของทูมินมันมีต่อมากกว่าข้างบนที่ลง
แต่ว่า อยากเก็บเอาไว้ก่อน คือใจจริงอยากลงหมดเลยนะ
แต่ว่าก็อยากเก็บไว้เซอร์ไพส์ให้คนที่อยากได้หนังสือด้วย
เรื่อง NC มันก็มีล่ะนะ(หัวเราะ) ไว้รอในเล่มนะ ^^
ตอนพิเศษ ที่จะลงในนี้คงมีอีก 1 ตอนเท่านั้น
แล้วไปเจอกันอีก 2-3ตอนในเล่มนะคะ
เรื่องของรวมเล่ม เดี๋ยวได้จำนวนหน้าชัวร์ๆจะมาบอกอีกที แต่ตอนนี้คร่าวๆคิดว่า
หนังสือน่าจะเล่มละ 280 บาท ไม่เกินนี้นะคะ (แค่น่าจะนะ)
ไว้ชัวร์แล้วมาบอก อยากให้เกิน 20 เล่ม!!!จะได้ไม่แพงเนาะ ไปช่วยหาเพื่อนมานะ ก๊ากกก
สุดท้ายไปเม้าท์มอยกับน้องติสได้ที่ @taemin_tist ณ ทวิตเตอร์นะคะ
น้องน่ารัก เป็นกันเอง และเกรียนบ้างบางเวลา ดีไม่ดี คุณชายอาจจะโผล่มาคุยด้วยก็เป็นได้ ^^
เอออออ พล่ามยาวกว่าฟิคแล้วเนี่ย ฮ่าๆๆๆ
พีเอสสึ :) น้องคีย์น่ารักจริงๆ อ๊างงง
ความคิดเห็น