ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : :: EP 12 :: First Kiss
EP 12 : first kiss
โป๊ก !
เสียงกระแทกกระจกดังขึ้นเรียกสติคนขับรถให้หันไปมองตามเสียง แทมินปรือตาขึ้น ปากยู่พลางบ่นขมุบขมิบอยู่คนเดียวเมื่อมือเล็กลูบไปบริเวณหน้าผากที่กระแทก กับกระจกเมื่อสักครู่ รอยแดงปรากฏจางๆแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ใส่ใจมันอีก ก่อนจะคว้าเสื้อหนาวสีเทาของคนขับมากระชับอยู่ในอ้อมกอด พร้อมหลับตาลงอีกครั้ง
ไม่ใช่ว่าการเดินทางไปสวนสนุกจะใช้เวลานานจนคนตัวเล็กหลับ แต่เจ้าตัวเขาแค่บอกกับคนขับไว้ว่า
‘ถึงแล้วเรียกนะ ของีบก่อนเดี๋ยวไม่มีแรงตะลุยอวกาศ’
มินโฮทำได้เพียงแค่ส่งยิ้มบางๆพยักหน้ารับ ใครจะกล้าขัดใจ ถึงแม้ว่าอยากจะให้น้องนั่งคุยเป็นเพื่อนตอนขับรถก็เถอะ แทมินเลือกที่จะพิงศีรษะไว้กับกระจก แต่ดูเหมือนน้องจะขยาดกับโป๊กแรกไป หัวทุยๆจึงเลื่อนกลับมาพิงเบาะไว้ แต่เรียวคิ้วยาวขมวดมุ่นแสดงความไม่สบายตัว พลิกตัวไปมาอย่างหาท่าไม่ได้
“พิงมาที่เบาะฉันก็ได้”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวนายไม่ถนัด”
“พิงมาเถอะ นายจะเมื่อยนะนั่งแบบนั้นน่ะ”
แทมินตัดสินใจอยู่สักพัก ก่อนที่จะวางหัวลงบนเบาะของเก้าอี้ด้านคนขับ
“ถ้าไม่สะดวกก็บอกแล้วกัน”
“อื้ม”
เสียงทุ้มดังลอดผ่านลำคอ สายตาจับจ้องท้องถนน แต่มุมปากกลับเผยรอยยิ้มที่ปิดเอาไว้ไม่มิด ลมหายใจระบายอย่างสม่ำเสมอเมื่อแทมินเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกครั้ง มินโฮเหลือบไปมองคนตัวเล็กที่หลับตาผ่อนคลายอย่างสบายใจ ก่อนจะค่อยๆช้อนศีรษะที่พิงเบาะมาซบไว้ที่ไหล่หนาของตนเอง
ด้วยความที่เป็นรถสปอร์ตระยะห่างระหว่างเบาะทั้งสองจึงไม่ห่างกันมาก เมื่อหัวทุยเปลี่ยนมาซบลงที่ไหล่หนา คนตัวเล็กก็ขยับตัวตามสัญชาตญานเพื่อความสบายมากขึ้น ..... แล้วจะผิดไหม ถ้าตอนนี้ผมอยากจะเหยียบแค่ 40
“แทมิน ถึงแล้วๆ”
“อื้อ” น้องส่งเสียงครางฮึมฮัมรับรู้ ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น
“เฮ้ยยยย”
แทมินกระเด้งตัวออกจากมินโฮอย่างรวดเร็ว เมื่อลืมตาขึ้นมาพบกับใบหน้าหล่อๆของคนขับรถในระยะประชิด อ่า หัวใจผมเต้นแรงอีกแล้ว ดูเหมือนคนตัวสูงจะชอบใจเหลือกเกินที่เห็นผมทำตาโตปากยื่นแบบนี้ ไม่รู้จะยิ้มอะไรนักหนา
“ยิ้มอะไร?”
ไวเท่าความคิด คนตัวเล็กก็ถามสิ่งที่คาใจออกไปทันที ร่างสูงไม่ตอบอะไรเพียงแค่ยักไหล่แล้วเอื้อมมืออ้อมไปด้านหลังเพื่อหยิบ กล้องถ่ายรูปและหมวกมาถือไว้
“ลงได้แล้ว เดี๋ยวไม่ได้ตะลุยอวกาศหรอก”
“เออ ลงๆๆ นายก็เร็วๆเด่!”
เสียงหัวเราะดังไล่หลังมาเมื่อแทมินเดินลงมาจากรถ ยอดปราสาทสีฟ้าบริเวณปากทางเข้าสวนสนุกทำให้ร่างบางร่าเริงขึ้นมาอีกครั้ง แววตาซุกซนระยิบระยับเมื่อคิดถึงกิจกรรมที่ตนตั้งใจจะทำ ขายาวก้าวกระโดดนำไปด้านหน้าแต่ก็ไม่ลืมที่จะหยุดเดินแล้วหันกลับมากวักมือ เรียกร่างสูงให้เดินมาไวไว
สิบโมงกว่าตามเวลาบนยอด ปราสาท ซึ่งแสดงว่าช่วงเช้าแบบนี้คนยังไม่เยอะแน่นอน เพราะฉะนั้นอยากจะทำอะไรต้องรีบทำ สวนสนุกถูกแบ่งโซนออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือโซนของเครื่องเล่นนานาชนิด ไม่ว่าจะผาดโผน หวาดเสียว ตีลังกาสามสิบตลบ หรือแม้กระทั่งเครื่องเล่นสำหรับคนสูงอายุและเด็กก็มีมากมาย ส่วนที่สองคือโซนของสวนสัตว์ เพียงแค่ทุกคนจะต้องนั่งกระเช้ากอนโดล่าข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ก็จะได้พบกับสัตว์ และโชว์ต่างๆมากมาย และแน่นอน ส่วนสุดท้ายก็คือโซนสำหรับทำการแสดง ขบวนพาเรท หรือแม้กระทั่งฉากต่างๆที่จัดขึ้นเพื่อให้ถ่ายรูปกัน
ดอกทิวลิปสีสันสดใสถูกจัดวางอย่างสวยงามตลอดทางเดิน แทมินกำลังเดินนำมินโฮเข้าไปด้านในด้วยความกระตือรือร้นพร้อมชี้ชวนดูนั่น นู่นนี่ตลอดทาง
“ถ่ายรูปไหม?”
“ถ่ายยยยยยยย เอาตรงนี้ๆ”
ร่างบางเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าต้นไม้ใหญ่ ที่ถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามด้วยดอกไม้นานาพรรณ มินโฮปรับโฟกัสกล้องในมือ สายตาคมมองลอดผ่านเลนส์เมื่อแทมินยิ้มกว้างส่งมาให้ นิ้วเรียวกดชัตเตอร์ติดๆกันเมื่อแทมินปรับเปลี่ยนท่ายืน
“นายกดอะไรเยอะแยะ”
“กันเสีย”
“กันเสียเยอะไปป่ะ...ไปต่อกันเถอะ ทำไรก่อนดีอ่า”
“แล้วแต่นายสิ”
“อยากเล่นไอ้นั่นอ้ะ แต่แดดยังแรงอยู่เลย” แทมินชี้นิ้วไปที่รถไฟเหาะขนาดใหญ่ ที่มีคนต่อแถวรอเล่นบ้างประปราย
“ไว้ค่อยออกมาเล่นพวกกลางแจ้งก็ได้ มีเวลาทั้งวันอยู่แล้ว”
“ข้ามไปดูฝั่งสวนสัตว์ก่อนไหม นายอยากดูป่ะ”
“อื้ม”
ร่างสูงเดินขึ้นมาเคียงข้างคนตัวเล็ก ก่อนจะรีบดึงแขนแทมินไว้ได้ทันก่อนจะชนเข้ากับพนักงานที่ใส่รองเท้าสเก็ตที่กำลังวิ่งมาทางนี้
“เดินระวังหน่อย”
“ไม่ทันมองอ่า”
มือหนาเลื่อนออกจากแขนเล็ก ตัดสินใจเพียงชั่วครู่ก็คว้าฝ่ามือบางมาจับกุมไว้ แทมินสะดุ้งเล็กน้อยหันกลับไปมองร่างสูงที่ฉุดมือตนเดินนำออกไปก่อนแล้ว ใบหน้าหวานใสขึ้นสีเรื่อเล็กน้อยเมื่อมองลงไปที่มือที่ถูกคนตัวสูงจับไว้ อยู่ แทมินขืนตัวเล็กน้อยพร้อมบิดมือเบาๆ
“ปล่อยเด้! เอ้..ไม่ต้องจับก็ได้”
“เดี๋ยวนายหลง ไปเดินชนอะไรขึ้นมาอีกทำไงล่ะ”
“ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามขนาดนั่นนะเว้ย”
“อย่าพูดเว้ยสิครับ”
“อะ..อะไรเล่า”
มินโฮก้าวเข้ามาใกล้ จนคนตัวเล็กกว่าต้องเงยหน้าสบตาร่างสูง ใบหน้าคมเคลื่อนต่ำลงมากระซิบอยู่ที่ข้างหู ทว่ายังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้พูดอะไร ขาเรียวก็ยกขึ้นเตะไปที่หน้าแข้งคนตัวสูงทันที
“โอ้ยย เตะทำไมเนี่ย??”
“ก็นายกวน!”
“ฉันแค่เป็นห่วง กลัวว่าแฟนฉันจะเจ็บตัว ..... ไปได้แล้ว”
มินโฮหมุนตัวออกเดินอีกครั้ง เมื่อแทมินยอมก้าวเท้าเดินตามมา มือหนาจับมือบางไว้หลวมๆ ไม่ได้ตั้งใจจะบีบบังคับหรือเร่งรัดอะไร หากแต่แทมินกลับยอมสอดมือเข้าไปในอุ้งมือหนาที่ถ่ายทอดไออุ่นออกมา คนตัวเล็กกว่าเดินตามอยู่ด้านหลังขณะเดียวกันถ้าคนที่เดินสวนทั้งคู่มองกลับ มา คงได้เห็นรอยยิ้มของทั้งคนเดินนำและคนเดิมตามอย่างแน่นอน
“เฮ้ยยย นายดูลิงนั่นดิ ตลกว่ะ”
“แอบเหมือนายนะ”
ป้าบบ!
“โอเค โอเค ฉันล้อเล่น”
เสียงพูดคุยดังตลอดทางตั้งแต่เดินเข้ามาในโซนสวนสัตว์ วันนี้เหมือนจะมีโรงเรียนประถมพานักเรียนมาทัศนศึกษาด้วย บริเวณรอบข้างจึงเต็มไปด้วยเด็กนักเรียน แทมินไม่รอช้ากวักมือเรียกมินโฮให้ถ่ายรูปให้เมื่อตัวเองเดินไปยืนต่อแถวกับ น้องๆด้วยร่างบางเปิดยิ้มเต็มแก้มพร้อมชูสองนิ้ว จนกระทั่งเด็กผู้ชายตัวเล็กที่อยู่ท้ายแถวหันกลับมามองแทมินด้วยสายตางงงวย ก่อนจะเดินตามแถวออกไป
“ซนจริงๆ”
“จิ๊! กลับไปโซนเครื่องเล่นกันเหอะ อยากเล่นแล้วอ่า”
เราเดินกลับมายังโซนเครื่องเล่นอีกครั้ง คนเริ่มที่จะมากขึ้นเมื่อเวลาใกล้เที่ยง ผมมองน้องหันซ้ายหันขวาตัดสินใจว่าจะเล่นอะไรก่อนดี สำหรับผมเครื่องเล่นผาดโผนอะไรพวกนี้ถือเป็นของกล้วยๆเล่นได้ทุกอย่างอยู่ แล้ว และผมก็เชื่อว่าแทมินก็คงไม่กลัวอะไรเหมือนกัน พวกเราตัดสินใจเริ่มกันด้วยไวกิ้ง แน่นอนว่าเพราะมันคนน้อย
แทมินเลือกที่นั่งขั้นบนสุดเสร็จ ก็ขยับตัวให้ผมได้เข้าไปนั่งข้างๆกัน ไม่นานเด็กนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่งก็เลือกที่นั่งฝั่งตรงข้ามพวกเรา เครื่องเล่นเริ่มแกว่งตัวขึ้น โยกไปทางซ้าย-ขวาอย่างช้าๆ ไม่นานก็แกว่งเร็วขึ้นและสูงขึ้น ผมมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนึงเกาะแขนแฟนแน่นหลับตาปี๋ พลันหางตาก็เหลือบหันไปมองแทมิน น้องอ้าปากตะโกนวู้วๆ อยู่ข้างๆ ทำให้ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
“มันส์อ่ะ แต่ยังไม่สุดเลยว่ะ นายว่าเล่นไรอีกดี”
“อันนั้นไหม”
ผมชี้ไปที่เครื่องเล่นที่เป็นเสาสูงๆแล้วมันจะดิ่งลงมาตรงๆเร็วๆนั่นล่ะ ผมก็ไม่รู้ว่าเรียกอะไร แต่น้องทำตาวิบวับๆแล้วลากมือผมไปยืนต่อแถวทันที พอคาดเข็มขัดเสร็จอะไรเสร็จ มือบางก็ยื่นออกมาจากที่ล๊อค
“จับมือกัน”
ผมยิ้มรับพร้อมยื่นมือออกไปวางทับบนมือเล็ก ก่อนสอดนิ้วประสานกระชับมือบางแน่นๆ เมื่อเครื่องเล่นเคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบนช้าๆจนสุด แทมินก็ยกมือข้างที่เราจับกันไว้ขึ้นสูง ก่อนที่เครื่องเล่นจะดิ่งตัวลงมาอย่างรวดเร็ว แทมินยังคงเป่าปากอย่างสนุกสนาน ตลอดจนรอบสุดท้ายที่ดิ่งลงมา ผมปลดล๊อคออกก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูง ส่งมือฉุดคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นมานั่งพักอยู่ที่เก้าอี้ไม้ด้านข้าง
“อันนี้มันส์โคตร อยากเล่นอีก..แต่คนเยอะจนไม่อยากต่อแถวแล้ว”
“หิวไหม ไปเดินหาอะไรกินไหม?”
“ไปๆๆ หิวมากกกกกก”
หลังจากเลือกหาอาหารรองท้องได้ เราก็ตัดสินใจเล่นอะไรต่อมิอะไรไปอีกประมาน 5-6 อย่าง จนในที่สุดก็ได้เข้ามาในอุโมงค์ตะลุยอวกาศของน้อง แสงเลเซอร์สีเขียว สีแดงเคลื่อนตัวฝ่าความมืดไปมา บวกกับรถไฟเหาะขนาดกลางที่เหวี่ยงตัวซ้ายขวาหลบแสงเลเซอร์
“ฮ่าๆๆ ผมนายตลกอ่า”
มือเล็กเลื่อนมาปัดกลุ่มผมให้ร่างสูงจนเข้าที่ เมื่อเดินออกมายังลานด้านหน้าท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงเป็นแสงไฟสีส้มของโคมไฟที่ สว่างลอดออกมาแทน ผมยกกล้องขึ้นอีกครั้ง ถ่ายไปยังมุมที่มีแสงไฟหลากสี ปรับโฟกัสให้ภาพดูสว่างสดใส หมุนกล้องกลับมาอีกที คนตัวเล็กข้างๆก็หายตัวไปแล้ว ผมมองไปรอบๆด้าน ไม่นานแทมินก็เดินกลับมาพร้อมไอศกรีมในมือ
“เห็นตรงนั้นมีซอล์ฟครีมขายพอดีอยากกินอ่า เลยไปซื้อมา”
“ไม่เผื่อฉันบ้างหรือ”
“มีตังเท่านี้อ่ะ ก็นายเอาเป๋าไปสะพายเองนิ่ ... อ้ะ!” มือบางยื่นซอล์ฟครีมสีขาวมาด้านหน้า ก่อนจะยกขึ้นมาใกล้ๆกับปากมินโฮ
“กินสิ แบ่งกันกิน”
ผมก้มลงไปกัดไอศกรีมรสหวานที่น้องยื่นมาให้ ไม่นานแทมินก็ชักมือกลับไปละเลียดไอศกรีมต่อ จนกระทั่งหมดโคน ร่างบางทำท่าจะทิ้งกระดาษทิชชู่ในมือลงขยะ แต่ติดที่มือหนาคว้ามันไว้ได้ก่อน มินโฮเชยคางมนของคนตัวเล็กขึ้นมา ก่อนจะเช็ดคราบซอล์ฟครีมออกจากมุมปากบางให้อย่างอ่อนโยน
“นายกินเลอะอีกแล้ว”
“อ่า..อืม ขอบใจ”
“มันเย็นแล้ว อยากจะเล่นอะไรอีกไหม”
“อยาก ...”
“ไปสิ”
“แต่นายจะอยากขึ้นกับฉันด้วยไหมอ่ะ”
“อะไรล่ะ?”
“อยากขึ้นชิงช้าสวรรค์อ้ะ!”
“แล้วทำไมฉันต้องไม่อยากขึ้นกับนายล่ะ” แทมินก้มหน้าต่ำลง เสตามองไปทางอื่นจนร่างสูงต้องขยับตัวเข้ามาใกล้ วางมือลงบนกลุ่มผมนุ่มของร่างบาง
“ก็.....มันเหมาะจะขึ้นกับแฟนมากกว่านิ่ แบบมาเดทกันอ่ะเข้าใจมะ มันจะโรแม๊นซ์โคตรๆเลย”
“งั้นก็ไปขึ้นกันเถอะ”
“เฮ้! นายอยากแน่นะ ไม่ขึ้นก็ได้นะ”
มือบางรั้งแขนเสื้ออีกฝ่ายไว้เมื่อมินโฮก้าวขาออกไปข้างหน้า ร่างสูงหันกลับมาทั้งตัว สองมือประกบเข้าที่แก้มใสของแทมิน มินโฮก้มตัวต่ำลงส่งรอยยิ้มบางๆให้ด้วยความใจดี
“แล้วนายอยากขึ้นกับฉันไหม”
ผมมองดวงตากลมไหววูบ ก่อนที่น้องจะหลุบตาลง แทมินพยักหน้าลงช้าๆพร้อมจับมือผมให้ปล่อยออกจากพวงแก้มใส แสงไฟสีส้มกระทบกับรอยแดงบนแก้มน้อง ก็สามารถเรียกกำลังใจให้ผมได้เป็นอย่างดี ผมสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะกระซิบข้างหูน้อง
“ฉันก็อยากขึ้นกับนาย”
ชิงช้าค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นสู่จุดสูงสุด ก่อนจะหยุดค้างเพื่อให้ได้ชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามยามเย็น มินโฮคว้าเอากล้องขึ้นมาแอบถ่ายร่างบางเมื่อแทมินเหม่อมองออกไปด้านนอก ชิงช้าด้วยรอยยิ้ม ท้องฟ้าสีมืด ที่สะท้อนไปด้วยแสงไฟของยามค่ำคืน ขลับกับผิวขาวนวลของแทมินยามต้องแสงจันทร์จนร่างสูงอดที่จะเผลอจ้องมองไม่ ได้
“มีความสุขไหม?”
“อื้ม มากๆอ่ะ ไม่ได้มาเล่นอย่างนี้มานานแล้ว”
“ถ่ายรูปด้วยกันสักรูปเอาไหม”
ผมขยับตัวย้ายไปนั่งฝั่งเดียวกับแทมิน ก่อนจะยกกล้องขึ้นมาหันเลนส์เข้าหาตัว แทมินขยับตัวเข้ามาชิดก่อนที่น้องจะแนบแก้มใสเข้ามาที่แก้มผม นิ้วยาวกดลงไปที่ชัตเตอร์ ไม่ลืมที่จะพลิกกล้องกลับมาดูผลงาน
“โอ้ยย หน้าบานมาก เอาใหม่นะๆ”
เราขยับท่ากันอีก 2-3 ที แต่ก็ยังไม่ได้รูปที่พอใจของเด็กติสเค้า จนกระทั่งชิงช้าเคลื่อนตัวอีกครั้ง แรงกระตุกเบาๆทำให้แทมินที่กำลังจะขยับตัวเสียหลัก มินโฮรีบคว้าเอวแทมินไว้กันน้องจะตกลงไปนั่งที่พื้น ก่อนที่ปลายจมูกรั้นจะหันไปชนเข้ากับปลายคางสากของร่างสูง
สายลมเย็นลอดผ่านหน้าต่าง เสียงดนตรีจากขบวนพาเรดด้านล่างเบาจนแทบไม่ได้ยิน เมื่อเสียงที่ดังออกมากลับเป็นเสียงหัวใจทั้งสองดวงที่เต้นแข่งกัน มินโฮขยับตัวออกเพียงเล็กน้อย มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นแนบลงบนแก้มใส อะไรบางอย่างสั่งให้แทมินหลับตาลงรับสัมผัสแผ่วเบาที่แตะลงบนริมฝีปากบาง มินโฮแนบจูบย้ำตรงมุมปากก่อนที่แทมินจะยอมเปิดปากรับลิ้นร้อนๆเข้ามา มือบางกำจิกอยู่ที่แขนเสื้อร่างสูง จนกระทั่งมินโฮยอมถอยห่างออกมา
TBC
::TALK::
หายไปสองอาทิตย์ ซอรี่กับทุกคนจริงๆ งานเยอะมากกกกก
แบบไม่เคยคิดมาก่อน ทั้งยาก ทั้งเยอะ อาจารย์ก็อินดี้ จนเพลียไปหมด
แต่จะพยายามมาต่อ ไม่ดองนานๆนะคะ
หายไปก็นาน มาต่อก็สั้น คู่รองก็ไม่มี (ก็คู่รองยังนอนอยู่บนเตียง)
ป้าบๆๆๆ อย่าทำร้ายเค้านะ
ฝากน้องติสด้วย เสียจูบแรกไปซะและ ก๊ากกก (หัวเราะชั่วร้าย)
อ๋อ จงฮยอน ยังสบายดีนะคะไม่ต้องห่วง ตอนหน้าคงได้ออก(มั้ง)
ปอลอ ติ่มซำ ปิดจอง+โอนตัง ถึง 4 กค นะจ้ะ (ขายของตลอดตลอด)
โป๊ก !
เสียงกระแทกกระจกดังขึ้นเรียกสติคนขับรถให้หันไปมองตามเสียง แทมินปรือตาขึ้น ปากยู่พลางบ่นขมุบขมิบอยู่คนเดียวเมื่อมือเล็กลูบไปบริเวณหน้าผากที่กระแทก กับกระจกเมื่อสักครู่ รอยแดงปรากฏจางๆแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ใส่ใจมันอีก ก่อนจะคว้าเสื้อหนาวสีเทาของคนขับมากระชับอยู่ในอ้อมกอด พร้อมหลับตาลงอีกครั้ง
ไม่ใช่ว่าการเดินทางไปสวนสนุกจะใช้เวลานานจนคนตัวเล็กหลับ แต่เจ้าตัวเขาแค่บอกกับคนขับไว้ว่า
‘ถึงแล้วเรียกนะ ของีบก่อนเดี๋ยวไม่มีแรงตะลุยอวกาศ’
มินโฮทำได้เพียงแค่ส่งยิ้มบางๆพยักหน้ารับ ใครจะกล้าขัดใจ ถึงแม้ว่าอยากจะให้น้องนั่งคุยเป็นเพื่อนตอนขับรถก็เถอะ แทมินเลือกที่จะพิงศีรษะไว้กับกระจก แต่ดูเหมือนน้องจะขยาดกับโป๊กแรกไป หัวทุยๆจึงเลื่อนกลับมาพิงเบาะไว้ แต่เรียวคิ้วยาวขมวดมุ่นแสดงความไม่สบายตัว พลิกตัวไปมาอย่างหาท่าไม่ได้
“พิงมาที่เบาะฉันก็ได้”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวนายไม่ถนัด”
“พิงมาเถอะ นายจะเมื่อยนะนั่งแบบนั้นน่ะ”
แทมินตัดสินใจอยู่สักพัก ก่อนที่จะวางหัวลงบนเบาะของเก้าอี้ด้านคนขับ
“ถ้าไม่สะดวกก็บอกแล้วกัน”
“อื้ม”
เสียงทุ้มดังลอดผ่านลำคอ สายตาจับจ้องท้องถนน แต่มุมปากกลับเผยรอยยิ้มที่ปิดเอาไว้ไม่มิด ลมหายใจระบายอย่างสม่ำเสมอเมื่อแทมินเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกครั้ง มินโฮเหลือบไปมองคนตัวเล็กที่หลับตาผ่อนคลายอย่างสบายใจ ก่อนจะค่อยๆช้อนศีรษะที่พิงเบาะมาซบไว้ที่ไหล่หนาของตนเอง
ด้วยความที่เป็นรถสปอร์ตระยะห่างระหว่างเบาะทั้งสองจึงไม่ห่างกันมาก เมื่อหัวทุยเปลี่ยนมาซบลงที่ไหล่หนา คนตัวเล็กก็ขยับตัวตามสัญชาตญานเพื่อความสบายมากขึ้น ..... แล้วจะผิดไหม ถ้าตอนนี้ผมอยากจะเหยียบแค่ 40
“แทมิน ถึงแล้วๆ”
“อื้อ” น้องส่งเสียงครางฮึมฮัมรับรู้ ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น
“เฮ้ยยยย”
แทมินกระเด้งตัวออกจากมินโฮอย่างรวดเร็ว เมื่อลืมตาขึ้นมาพบกับใบหน้าหล่อๆของคนขับรถในระยะประชิด อ่า หัวใจผมเต้นแรงอีกแล้ว ดูเหมือนคนตัวสูงจะชอบใจเหลือกเกินที่เห็นผมทำตาโตปากยื่นแบบนี้ ไม่รู้จะยิ้มอะไรนักหนา
“ยิ้มอะไร?”
ไวเท่าความคิด คนตัวเล็กก็ถามสิ่งที่คาใจออกไปทันที ร่างสูงไม่ตอบอะไรเพียงแค่ยักไหล่แล้วเอื้อมมืออ้อมไปด้านหลังเพื่อหยิบ กล้องถ่ายรูปและหมวกมาถือไว้
“ลงได้แล้ว เดี๋ยวไม่ได้ตะลุยอวกาศหรอก”
“เออ ลงๆๆ นายก็เร็วๆเด่!”
เสียงหัวเราะดังไล่หลังมาเมื่อแทมินเดินลงมาจากรถ ยอดปราสาทสีฟ้าบริเวณปากทางเข้าสวนสนุกทำให้ร่างบางร่าเริงขึ้นมาอีกครั้ง แววตาซุกซนระยิบระยับเมื่อคิดถึงกิจกรรมที่ตนตั้งใจจะทำ ขายาวก้าวกระโดดนำไปด้านหน้าแต่ก็ไม่ลืมที่จะหยุดเดินแล้วหันกลับมากวักมือ เรียกร่างสูงให้เดินมาไวไว
สิบโมงกว่าตามเวลาบนยอด ปราสาท ซึ่งแสดงว่าช่วงเช้าแบบนี้คนยังไม่เยอะแน่นอน เพราะฉะนั้นอยากจะทำอะไรต้องรีบทำ สวนสนุกถูกแบ่งโซนออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือโซนของเครื่องเล่นนานาชนิด ไม่ว่าจะผาดโผน หวาดเสียว ตีลังกาสามสิบตลบ หรือแม้กระทั่งเครื่องเล่นสำหรับคนสูงอายุและเด็กก็มีมากมาย ส่วนที่สองคือโซนของสวนสัตว์ เพียงแค่ทุกคนจะต้องนั่งกระเช้ากอนโดล่าข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ก็จะได้พบกับสัตว์ และโชว์ต่างๆมากมาย และแน่นอน ส่วนสุดท้ายก็คือโซนสำหรับทำการแสดง ขบวนพาเรท หรือแม้กระทั่งฉากต่างๆที่จัดขึ้นเพื่อให้ถ่ายรูปกัน
ดอกทิวลิปสีสันสดใสถูกจัดวางอย่างสวยงามตลอดทางเดิน แทมินกำลังเดินนำมินโฮเข้าไปด้านในด้วยความกระตือรือร้นพร้อมชี้ชวนดูนั่น นู่นนี่ตลอดทาง
“ถ่ายรูปไหม?”
“ถ่ายยยยยยยย เอาตรงนี้ๆ”
ร่างบางเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าต้นไม้ใหญ่ ที่ถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามด้วยดอกไม้นานาพรรณ มินโฮปรับโฟกัสกล้องในมือ สายตาคมมองลอดผ่านเลนส์เมื่อแทมินยิ้มกว้างส่งมาให้ นิ้วเรียวกดชัตเตอร์ติดๆกันเมื่อแทมินปรับเปลี่ยนท่ายืน
“นายกดอะไรเยอะแยะ”
“กันเสีย”
“กันเสียเยอะไปป่ะ...ไปต่อกันเถอะ ทำไรก่อนดีอ่า”
“แล้วแต่นายสิ”
“อยากเล่นไอ้นั่นอ้ะ แต่แดดยังแรงอยู่เลย” แทมินชี้นิ้วไปที่รถไฟเหาะขนาดใหญ่ ที่มีคนต่อแถวรอเล่นบ้างประปราย
“ไว้ค่อยออกมาเล่นพวกกลางแจ้งก็ได้ มีเวลาทั้งวันอยู่แล้ว”
“ข้ามไปดูฝั่งสวนสัตว์ก่อนไหม นายอยากดูป่ะ”
“อื้ม”
ร่างสูงเดินขึ้นมาเคียงข้างคนตัวเล็ก ก่อนจะรีบดึงแขนแทมินไว้ได้ทันก่อนจะชนเข้ากับพนักงานที่ใส่รองเท้าสเก็ตที่กำลังวิ่งมาทางนี้
“เดินระวังหน่อย”
“ไม่ทันมองอ่า”
มือหนาเลื่อนออกจากแขนเล็ก ตัดสินใจเพียงชั่วครู่ก็คว้าฝ่ามือบางมาจับกุมไว้ แทมินสะดุ้งเล็กน้อยหันกลับไปมองร่างสูงที่ฉุดมือตนเดินนำออกไปก่อนแล้ว ใบหน้าหวานใสขึ้นสีเรื่อเล็กน้อยเมื่อมองลงไปที่มือที่ถูกคนตัวสูงจับไว้ อยู่ แทมินขืนตัวเล็กน้อยพร้อมบิดมือเบาๆ
“ปล่อยเด้! เอ้..ไม่ต้องจับก็ได้”
“เดี๋ยวนายหลง ไปเดินชนอะไรขึ้นมาอีกทำไงล่ะ”
“ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามขนาดนั่นนะเว้ย”
“อย่าพูดเว้ยสิครับ”
“อะ..อะไรเล่า”
มินโฮก้าวเข้ามาใกล้ จนคนตัวเล็กกว่าต้องเงยหน้าสบตาร่างสูง ใบหน้าคมเคลื่อนต่ำลงมากระซิบอยู่ที่ข้างหู ทว่ายังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้พูดอะไร ขาเรียวก็ยกขึ้นเตะไปที่หน้าแข้งคนตัวสูงทันที
“โอ้ยย เตะทำไมเนี่ย??”
“ก็นายกวน!”
“ฉันแค่เป็นห่วง กลัวว่าแฟนฉันจะเจ็บตัว ..... ไปได้แล้ว”
มินโฮหมุนตัวออกเดินอีกครั้ง เมื่อแทมินยอมก้าวเท้าเดินตามมา มือหนาจับมือบางไว้หลวมๆ ไม่ได้ตั้งใจจะบีบบังคับหรือเร่งรัดอะไร หากแต่แทมินกลับยอมสอดมือเข้าไปในอุ้งมือหนาที่ถ่ายทอดไออุ่นออกมา คนตัวเล็กกว่าเดินตามอยู่ด้านหลังขณะเดียวกันถ้าคนที่เดินสวนทั้งคู่มองกลับ มา คงได้เห็นรอยยิ้มของทั้งคนเดินนำและคนเดิมตามอย่างแน่นอน
“เฮ้ยยย นายดูลิงนั่นดิ ตลกว่ะ”
“แอบเหมือนายนะ”
ป้าบบ!
“โอเค โอเค ฉันล้อเล่น”
เสียงพูดคุยดังตลอดทางตั้งแต่เดินเข้ามาในโซนสวนสัตว์ วันนี้เหมือนจะมีโรงเรียนประถมพานักเรียนมาทัศนศึกษาด้วย บริเวณรอบข้างจึงเต็มไปด้วยเด็กนักเรียน แทมินไม่รอช้ากวักมือเรียกมินโฮให้ถ่ายรูปให้เมื่อตัวเองเดินไปยืนต่อแถวกับ น้องๆด้วยร่างบางเปิดยิ้มเต็มแก้มพร้อมชูสองนิ้ว จนกระทั่งเด็กผู้ชายตัวเล็กที่อยู่ท้ายแถวหันกลับมามองแทมินด้วยสายตางงงวย ก่อนจะเดินตามแถวออกไป
“ซนจริงๆ”
“จิ๊! กลับไปโซนเครื่องเล่นกันเหอะ อยากเล่นแล้วอ่า”
เราเดินกลับมายังโซนเครื่องเล่นอีกครั้ง คนเริ่มที่จะมากขึ้นเมื่อเวลาใกล้เที่ยง ผมมองน้องหันซ้ายหันขวาตัดสินใจว่าจะเล่นอะไรก่อนดี สำหรับผมเครื่องเล่นผาดโผนอะไรพวกนี้ถือเป็นของกล้วยๆเล่นได้ทุกอย่างอยู่ แล้ว และผมก็เชื่อว่าแทมินก็คงไม่กลัวอะไรเหมือนกัน พวกเราตัดสินใจเริ่มกันด้วยไวกิ้ง แน่นอนว่าเพราะมันคนน้อย
แทมินเลือกที่นั่งขั้นบนสุดเสร็จ ก็ขยับตัวให้ผมได้เข้าไปนั่งข้างๆกัน ไม่นานเด็กนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่งก็เลือกที่นั่งฝั่งตรงข้ามพวกเรา เครื่องเล่นเริ่มแกว่งตัวขึ้น โยกไปทางซ้าย-ขวาอย่างช้าๆ ไม่นานก็แกว่งเร็วขึ้นและสูงขึ้น ผมมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนึงเกาะแขนแฟนแน่นหลับตาปี๋ พลันหางตาก็เหลือบหันไปมองแทมิน น้องอ้าปากตะโกนวู้วๆ อยู่ข้างๆ ทำให้ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
“มันส์อ่ะ แต่ยังไม่สุดเลยว่ะ นายว่าเล่นไรอีกดี”
“อันนั้นไหม”
ผมชี้ไปที่เครื่องเล่นที่เป็นเสาสูงๆแล้วมันจะดิ่งลงมาตรงๆเร็วๆนั่นล่ะ ผมก็ไม่รู้ว่าเรียกอะไร แต่น้องทำตาวิบวับๆแล้วลากมือผมไปยืนต่อแถวทันที พอคาดเข็มขัดเสร็จอะไรเสร็จ มือบางก็ยื่นออกมาจากที่ล๊อค
“จับมือกัน”
ผมยิ้มรับพร้อมยื่นมือออกไปวางทับบนมือเล็ก ก่อนสอดนิ้วประสานกระชับมือบางแน่นๆ เมื่อเครื่องเล่นเคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบนช้าๆจนสุด แทมินก็ยกมือข้างที่เราจับกันไว้ขึ้นสูง ก่อนที่เครื่องเล่นจะดิ่งตัวลงมาอย่างรวดเร็ว แทมินยังคงเป่าปากอย่างสนุกสนาน ตลอดจนรอบสุดท้ายที่ดิ่งลงมา ผมปลดล๊อคออกก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูง ส่งมือฉุดคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นมานั่งพักอยู่ที่เก้าอี้ไม้ด้านข้าง
“อันนี้มันส์โคตร อยากเล่นอีก..แต่คนเยอะจนไม่อยากต่อแถวแล้ว”
“หิวไหม ไปเดินหาอะไรกินไหม?”
“ไปๆๆ หิวมากกกกกก”
หลังจากเลือกหาอาหารรองท้องได้ เราก็ตัดสินใจเล่นอะไรต่อมิอะไรไปอีกประมาน 5-6 อย่าง จนในที่สุดก็ได้เข้ามาในอุโมงค์ตะลุยอวกาศของน้อง แสงเลเซอร์สีเขียว สีแดงเคลื่อนตัวฝ่าความมืดไปมา บวกกับรถไฟเหาะขนาดกลางที่เหวี่ยงตัวซ้ายขวาหลบแสงเลเซอร์
“ฮ่าๆๆ ผมนายตลกอ่า”
มือเล็กเลื่อนมาปัดกลุ่มผมให้ร่างสูงจนเข้าที่ เมื่อเดินออกมายังลานด้านหน้าท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงเป็นแสงไฟสีส้มของโคมไฟที่ สว่างลอดออกมาแทน ผมยกกล้องขึ้นอีกครั้ง ถ่ายไปยังมุมที่มีแสงไฟหลากสี ปรับโฟกัสให้ภาพดูสว่างสดใส หมุนกล้องกลับมาอีกที คนตัวเล็กข้างๆก็หายตัวไปแล้ว ผมมองไปรอบๆด้าน ไม่นานแทมินก็เดินกลับมาพร้อมไอศกรีมในมือ
“เห็นตรงนั้นมีซอล์ฟครีมขายพอดีอยากกินอ่า เลยไปซื้อมา”
“ไม่เผื่อฉันบ้างหรือ”
“มีตังเท่านี้อ่ะ ก็นายเอาเป๋าไปสะพายเองนิ่ ... อ้ะ!” มือบางยื่นซอล์ฟครีมสีขาวมาด้านหน้า ก่อนจะยกขึ้นมาใกล้ๆกับปากมินโฮ
“กินสิ แบ่งกันกิน”
ผมก้มลงไปกัดไอศกรีมรสหวานที่น้องยื่นมาให้ ไม่นานแทมินก็ชักมือกลับไปละเลียดไอศกรีมต่อ จนกระทั่งหมดโคน ร่างบางทำท่าจะทิ้งกระดาษทิชชู่ในมือลงขยะ แต่ติดที่มือหนาคว้ามันไว้ได้ก่อน มินโฮเชยคางมนของคนตัวเล็กขึ้นมา ก่อนจะเช็ดคราบซอล์ฟครีมออกจากมุมปากบางให้อย่างอ่อนโยน
“นายกินเลอะอีกแล้ว”
“อ่า..อืม ขอบใจ”
“มันเย็นแล้ว อยากจะเล่นอะไรอีกไหม”
“อยาก ...”
“ไปสิ”
“แต่นายจะอยากขึ้นกับฉันด้วยไหมอ่ะ”
“อะไรล่ะ?”
“อยากขึ้นชิงช้าสวรรค์อ้ะ!”
“แล้วทำไมฉันต้องไม่อยากขึ้นกับนายล่ะ” แทมินก้มหน้าต่ำลง เสตามองไปทางอื่นจนร่างสูงต้องขยับตัวเข้ามาใกล้ วางมือลงบนกลุ่มผมนุ่มของร่างบาง
“ก็.....มันเหมาะจะขึ้นกับแฟนมากกว่านิ่ แบบมาเดทกันอ่ะเข้าใจมะ มันจะโรแม๊นซ์โคตรๆเลย”
“งั้นก็ไปขึ้นกันเถอะ”
“เฮ้! นายอยากแน่นะ ไม่ขึ้นก็ได้นะ”
มือบางรั้งแขนเสื้ออีกฝ่ายไว้เมื่อมินโฮก้าวขาออกไปข้างหน้า ร่างสูงหันกลับมาทั้งตัว สองมือประกบเข้าที่แก้มใสของแทมิน มินโฮก้มตัวต่ำลงส่งรอยยิ้มบางๆให้ด้วยความใจดี
“แล้วนายอยากขึ้นกับฉันไหม”
ผมมองดวงตากลมไหววูบ ก่อนที่น้องจะหลุบตาลง แทมินพยักหน้าลงช้าๆพร้อมจับมือผมให้ปล่อยออกจากพวงแก้มใส แสงไฟสีส้มกระทบกับรอยแดงบนแก้มน้อง ก็สามารถเรียกกำลังใจให้ผมได้เป็นอย่างดี ผมสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะกระซิบข้างหูน้อง
“ฉันก็อยากขึ้นกับนาย”
ชิงช้าค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นสู่จุดสูงสุด ก่อนจะหยุดค้างเพื่อให้ได้ชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามยามเย็น มินโฮคว้าเอากล้องขึ้นมาแอบถ่ายร่างบางเมื่อแทมินเหม่อมองออกไปด้านนอก ชิงช้าด้วยรอยยิ้ม ท้องฟ้าสีมืด ที่สะท้อนไปด้วยแสงไฟของยามค่ำคืน ขลับกับผิวขาวนวลของแทมินยามต้องแสงจันทร์จนร่างสูงอดที่จะเผลอจ้องมองไม่ ได้
“มีความสุขไหม?”
“อื้ม มากๆอ่ะ ไม่ได้มาเล่นอย่างนี้มานานแล้ว”
“ถ่ายรูปด้วยกันสักรูปเอาไหม”
ผมขยับตัวย้ายไปนั่งฝั่งเดียวกับแทมิน ก่อนจะยกกล้องขึ้นมาหันเลนส์เข้าหาตัว แทมินขยับตัวเข้ามาชิดก่อนที่น้องจะแนบแก้มใสเข้ามาที่แก้มผม นิ้วยาวกดลงไปที่ชัตเตอร์ ไม่ลืมที่จะพลิกกล้องกลับมาดูผลงาน
“โอ้ยย หน้าบานมาก เอาใหม่นะๆ”
เราขยับท่ากันอีก 2-3 ที แต่ก็ยังไม่ได้รูปที่พอใจของเด็กติสเค้า จนกระทั่งชิงช้าเคลื่อนตัวอีกครั้ง แรงกระตุกเบาๆทำให้แทมินที่กำลังจะขยับตัวเสียหลัก มินโฮรีบคว้าเอวแทมินไว้กันน้องจะตกลงไปนั่งที่พื้น ก่อนที่ปลายจมูกรั้นจะหันไปชนเข้ากับปลายคางสากของร่างสูง
สายลมเย็นลอดผ่านหน้าต่าง เสียงดนตรีจากขบวนพาเรดด้านล่างเบาจนแทบไม่ได้ยิน เมื่อเสียงที่ดังออกมากลับเป็นเสียงหัวใจทั้งสองดวงที่เต้นแข่งกัน มินโฮขยับตัวออกเพียงเล็กน้อย มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นแนบลงบนแก้มใส อะไรบางอย่างสั่งให้แทมินหลับตาลงรับสัมผัสแผ่วเบาที่แตะลงบนริมฝีปากบาง มินโฮแนบจูบย้ำตรงมุมปากก่อนที่แทมินจะยอมเปิดปากรับลิ้นร้อนๆเข้ามา มือบางกำจิกอยู่ที่แขนเสื้อร่างสูง จนกระทั่งมินโฮยอมถอยห่างออกมา
TBC
::TALK::
หายไปสองอาทิตย์ ซอรี่กับทุกคนจริงๆ งานเยอะมากกกกก
แบบไม่เคยคิดมาก่อน ทั้งยาก ทั้งเยอะ อาจารย์ก็อินดี้ จนเพลียไปหมด
แต่จะพยายามมาต่อ ไม่ดองนานๆนะคะ
หายไปก็นาน มาต่อก็สั้น คู่รองก็ไม่มี (ก็คู่รองยังนอนอยู่บนเตียง)
ป้าบๆๆๆ อย่าทำร้ายเค้านะ
ฝากน้องติสด้วย เสียจูบแรกไปซะและ ก๊ากกก (หัวเราะชั่วร้าย)
อ๋อ จงฮยอน ยังสบายดีนะคะไม่ต้องห่วง ตอนหน้าคงได้ออก(มั้ง)
ปอลอ ติ่มซำ ปิดจอง+โอนตัง ถึง 4 กค นะจ้ะ (ขายของตลอดตลอด)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น