ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Schwarz Book : หนังสือต้องสาป บาปมลทิน SS # 1

    ลำดับตอนที่ #10 : 07 ผู้สืบทอดเจตนารมณ์แห่งบาปโทสะ : ไอริช อลาบาสเตอร์ ฮาดีน

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 57


     


             

     

              'ถึงคุณไอริช อลาบาสเตอร์ ฮาดีน

     

              สวัสดีตอนเช้าค่ะ เอถ้านับเวลาที่ฉันส่งจดหมาย ก็งเรียกว่าสวัสดีตอนเช้าได้นะ? ฉันคือผู้สืบทอดเจตนารมณ์แห่งบาปเกียจคร้าน คุณคงสงสัยว่าฉันส่งจดหมายมาหาคุณเพื่ออะไรใช่ไหมคะ? คุณจะได้รับคำตอบในย่อหน้าต่อๆไปค่ะ

     

              อย่างที่ฉันบอก ฉันก็คือผู้สืบทอดเจตนารมณ์แห่งบาปเกียจคร้าน หวังว่าคุณจะรู้จักนะ? แต่ถ้าคุณไม่รู้จัก คุณคงรู้จักคำว่า ผู้แปรเปลี่ยน สินะคะ ถ้าคุณรู้จัก เรื่องก็ง่ายขึ้นเยอะ

     

              ฉันต้องการให้คุณมาที่หอสมุดเวทมนตร์รกร้าง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก~ ในอดีต อย่าง THE SOPHUS จะได้ไหมคะ? ส่วนเหตุผลเอาไว้บอกกันตอนที่เจอกันแล้วดีกว่าค่ะ //ยิ้ม

     

              แล้วเจอกันใหม่นะคะ

     

    เกล ชีค ราเวีย ออร์บเนอร์

    ผู้สืบทอดเจตนารมณ์แห่งบาปเกียจคร้าน

     



     

     

                หญิงสาวพับจดหมายใส่ซองสีขาวใสอย่างเดิม

                เธอยืนอยู่บนทุ่งดอกไม้ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา บุปผกานานาชนิดถูกปลูกอย่างอ่อนโยนอยู่ที่นี่ ละอองเกสรดอกไม้มากมายพัดปลิวเมื่อมีกระแสลมไหลผ่าน ช่างเป็นภาพที่สวยยิ่งนัก หากคุณมาอยู่ที่นี่คงจะเข้าใจ ว่าดอกไม้ของที่นี่นั้น มี เสน่ห์ เย้ายวนใจขนาดไหน

                “เอาไปให้คนที่ส่งมา” หญิงสาวผมสีขาวบริสุทธิ์ยื่นจดหมายนั้นไปให้อีกาสีดำที่ดูตัดกับความสวยงามของทุ่งดอกไม้ อีกาตัวนั้นใช้เท้าของมันในการหยิบจดหมายนั้นขึ้นมาจากนิ้วมือเล็กของไอริช

                เมื่ออีกาดำตัวนั้นจากไปแล้ว หญิงสาวผู้ครอบครองดวงตาสีครามดูน่าค้นหา ก็พึมพำเบาๆ

                “ผู้แปรเปลี่ยนอย่างนั้นเหรอ


     

               

    ดำดิ่งสู่ความมืดมิด

    .

    .

    เมื่อลืมตาขึ้น กลับพบว่ารอบข้างมีแต่รัตติกาล

    .

    .

    มืดจนไม่รู้ว่าตนเองลืมตา มืดจนตนเองไม่เห็นทางสว่างตรงหน้า

    .

    .

    แต่เมื่อมีแสงส่องประกาย กลับเลือกที่จะไม่คว้ามัน ทั้งๆที่มันอยู่ตรงหน้าแท้ๆ

    .

    .

    ทำได้เพียงแค่หันหลังกลับไป หวนคืนสู่ทางที่ควรเดินและความเป็นจริง

    .

    .

    ย้อนไปไม่ได้อีกแล้ว ย้อนไปไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะทำอย่างไร เราก็ไม่สามารถฝืนกฎเกณฑ์ของการย้อนเวลาได้

    .

    .

    ทำได้เพียงแค่มองรอยยิ้มที่สดใส มองผู้คนที่เปรียบเหมือนดอกไม้นานาชนิด

    .

    .

    รู้สึกเหมือนตัวเองแปลกประหลาด ผู้อื่นถูกชโลมด้วยสีขาว แต่ตัวเธอกลับถูกชโลมด้วยสีดำมืดมิด

    .

    .

    ทำได้เพียงแค่ยอมรับความจริง แล้วหันกลับสู่เส้นทางที่ถูกกำหนดโดยสรวงสวรรค์

    .

    และเอ่ยกับตนเองเบาๆ ไม่ให้ใครได้ยิน

    .

    .

    .

    .

    .

     

    ย้อนกลับไปไม่ได้อีกแล้วล่ะ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     


     

                ตั้งแต่เกิดมาไอริชถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดของหมู่บ้าน

                เป็นตัวประหลาดที่ถูกชโลมด้วยสีดำ แต่ผู้อื่นกลับถูกชโลมด้วยสีขาว แม้แต่บุพการีผู้ให้กำเนิด ยังเลือกที่จะทอดทิ้งเธอ พวกเขาหลบหนีไปอยู่ต่างหมู่บ้าน ไปอยู่ที่ดินแดนห่างไกล ไปอยู่ที่ที่จะไม่มีใครในหมู่บ้านตามพวกเขาเจอ

                ทิ้งให้เธอแบกชะตากรรมอันหนักอึ้งอยู่คนเดียว

                เธอไม่มีเพื่อน ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีญาติ ไม่มีผู้ที่จะรับเธอเป็นมิตรด้วย ทุกๆคนเกลียดชังเธอ ว่าเธอ ด่าเธอ ปล่อยให้เธอดำดิ่งสู่ความมืดมิดในจิตใจไปเรื่อยๆ

    จึงเข้าใกล้เธอ เป็นมิตรกับเธอ ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือการได้รับการยอมรับจากพระผู้เป็นเจ้าบนสรวงสวรรค์

                หากมีพระเจ้าจริง แล้วทำไมชีวิตของเธอจึงลำบากเยี่ยงนี้เล่า

                ไอริชรู้สึกโกรธของผู้นั้น โกรธทุกๆคน โกรธทุกๆอย่าง เธอคนนั้นดีเกินไป ขาวเกินไป รู้จักโลกน้อยเกินไป เธอคนนั้นไม่สมควรที่จะอยู่บนโลกใบนี้ เธอคนนั้นควรที่จะกลับไปเป็นข้ารับใช้เทพีแห่งความตายและหายนะที่ดินแดนแห่งการบัญญัติชีพมากกว่า

                คืนนั้นเด็กหญิงลักลอบเข้าไปในบ้านของเธอผู้นั้น

                แต่ก็ถูกทำร้ายด้วยวาจาอันใสซื่อของเธอ ทั้งๆ ที่เงื้อมมีดเตรียมจะสังหารเธอแล้ว กลับหยุดด้วยคำพูดเดียว

                ไอริชจังฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอนะ…'

              เสียงนั้นมาจากเด็กหญิงที่กำลังนอนละเมอ

                ทำได้เพียงแค่เอ่ยกับตนเองเบาๆ ทำได้เพียงแค่ปล่อยให้หยดน้ำจากดวงตา ไหลรินออกมาเท่านั้น

                คืนนั้นคืนเดียวกัยที่เธอตั้งใจจะสังหารเด็กหญิงผู้เพรียบพร้อมเธอจึงออกจากหมู่บ้าน

                ไปยังดินแดนอันห่างไกล ดินแดนที่ไม่มีใคร

                ทำได้เพียงแค่เอ่ยกับตนเองเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้ม

     

     

    ลาก่อน



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×