คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 07 ผู้สืบทอดเจตนารมณ์แห่งบาปโทสะ : ไอริช อลาบาสเตอร์ ฮาดีน
'ถึงคุณไอริช อลาบาสเตอร์ ฮาดีน
สวัสดีตอนเช้าค่ะ เอ… ถ้านับเวลาที่ฉันส่งจดหมาย ก็งเรียกว่าสวัสดีตอนเช้าได้นะ? ฉันคือผู้สืบทอดเจตนารมณ์แห่งบาปเกียจคร้าน คุณคงสงสัยว่าฉันส่งจดหมายมาหาคุณเพื่ออะไรใช่ไหมคะ? คุณจะได้รับคำตอบในย่อหน้าต่อๆไปค่ะ
อย่างที่ฉันบอก ฉันก็คือผู้สืบทอดเจตนารมณ์แห่งบาปเกียจคร้าน หวังว่าคุณจะรู้จักนะ? แต่ถ้าคุณไม่รู้จัก คุณคงรู้จักคำว่า ‘ผู้แปรเปลี่ยน’ สินะคะ ถ้าคุณรู้จัก เรื่องก็ง่ายขึ้นเยอะ
ฉันต้องการให้คุณมาที่หอสมุดเวทมนตร์รกร้าง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก~ ในอดีต อย่าง THE SOPHUS จะได้ไหมคะ? ส่วนเหตุผล…เอาไว้บอกกันตอนที่เจอกันแล้วดีกว่าค่ะ //ยิ้ม
แล้วเจอกันใหม่นะคะ
เกล ชีค ราเวีย ออร์บเนอร์
ผู้สืบทอดเจตนารมณ์แห่งบาปเกียจคร้าน’
หญิงสาวพับจดหมายใส่ซองสีขาวใสอย่างเดิม
เธอยืนอยู่บนทุ่งดอกไม้ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา บุปผกานานาชนิดถูกปลูกอย่างอ่อนโยนอยู่ที่นี่ ละอองเกสรดอกไม้มากมายพัดปลิวเมื่อมีกระแสลมไหลผ่าน ช่างเป็นภาพที่สวยยิ่งนัก หากคุณมาอยู่ที่นี่คงจะเข้าใจ ว่าดอกไม้ของที่นี่นั้น มี ‘เสน่ห์’ เย้ายวนใจขนาดไหน
“เอาไปให้คนที่ส่งมา” หญิงสาวผมสีขาวบริสุทธิ์ยื่นจดหมายนั้นไปให้อีกาสีดำที่ดูตัดกับความสวยงามของทุ่งดอกไม้ อีกาตัวนั้นใช้เท้าของมันในการหยิบจดหมายนั้นขึ้นมาจากนิ้วมือเล็กของไอริช
เมื่ออีกาดำตัวนั้นจากไปแล้ว หญิงสาวผู้ครอบครองดวงตาสีครามดูน่าค้นหา ก็พึมพำเบาๆ
“ผู้แปรเปลี่ยนอย่างนั้นเหรอ…”
ดำดิ่งสู่ความมืดมิด
.
.
เมื่อลืมตาขึ้น กลับพบว่ารอบข้างมีแต่รัตติกาล
.
.
มืดจนไม่รู้ว่าตนเองลืมตา มืดจนตนเองไม่เห็นทางสว่างตรงหน้า
.
.
…แต่เมื่อมีแสงส่องประกาย กลับเลือกที่จะไม่คว้ามัน ทั้งๆที่มันอยู่ตรงหน้าแท้ๆ…
.
.
ทำได้เพียงแค่หันหลังกลับไป หวนคืนสู่ทางที่ควรเดินและความเป็นจริง
.
.
ย้อนไปไม่ได้อีกแล้ว ย้อนไปไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะทำอย่างไร เราก็ไม่สามารถฝืนกฎเกณฑ์ของการย้อนเวลาได้
.
.
ทำได้เพียงแค่มองรอยยิ้มที่สดใส มองผู้คนที่เปรียบเหมือนดอกไม้นานาชนิด
.
.
รู้สึกเหมือนตัวเองแปลกประหลาด ผู้อื่นถูกชโลมด้วยสีขาว แต่ตัวเธอกลับถูกชโลมด้วยสีดำมืดมิด
.
.
ทำได้เพียงแค่ยอมรับความจริง แล้วหันกลับสู่เส้นทางที่ถูกกำหนดโดยสรวงสวรรค์
.
และเอ่ยกับตนเองเบาๆ ไม่ให้ใครได้ยิน
.
.
.
.
.
‘ย้อนกลับไป…ไม่ได้อีกแล้วล่ะ’
.
.
.
.
.
.
.
ตั้งแต่เกิดมา…ไอริชถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดของหมู่บ้าน
เป็นตัวประหลาดที่ถูกชโลมด้วยสีดำ แต่ผู้อื่นกลับถูกชโลมด้วยสีขาว แม้แต่บุพการีผู้ให้กำเนิด ยังเลือกที่จะทอดทิ้งเธอ พวกเขาหลบหนีไปอยู่ต่างหมู่บ้าน ไปอยู่ที่ดินแดนห่างไกล ไปอยู่ที่ที่จะไม่มีใครในหมู่บ้านตามพวกเขาเจอ
ทิ้งให้เธอแบกชะตากรรมอันหนักอึ้งอยู่คนเดียว…
เธอไม่มีเพื่อน ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีญาติ ไม่มีผู้ที่จะรับเธอเป็นมิตรด้วย ทุกๆคนเกลียดชังเธอ ว่าเธอ ด่าเธอ ปล่อยให้เธอดำดิ่งสู่ความมืดมิดในจิตใจไปเรื่อยๆ…
จึงเข้าใกล้เธอ เป็นมิตรกับเธอ ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือการได้รับการยอมรับจากพระผู้เป็นเจ้าบนสรวงสวรรค์
หากมีพระเจ้าจริง แล้วทำไมชีวิตของเธอจึงลำบากเยี่ยงนี้เล่า
ไอริชรู้สึกโกรธของผู้นั้น โกรธทุกๆคน โกรธทุกๆอย่าง เธอคนนั้นดีเกินไป ขาวเกินไป รู้จักโลกน้อยเกินไป เธอคนนั้นไม่สมควรที่จะอยู่บนโลกใบนี้ เธอคนนั้นควรที่จะกลับไปเป็นข้ารับใช้เทพีแห่งความตายและหายนะที่ดินแดนแห่งการบัญญัติชีพมากกว่า
คืนนั้น…เด็กหญิงลักลอบเข้าไปในบ้านของเธอผู้นั้น
แต่ก็ถูกทำร้ายด้วยวาจาอันใสซื่อของเธอ ทั้งๆ ที่เงื้อมมีดเตรียมจะสังหารเธอแล้ว กลับหยุดด้วยคำพูดเดียว
‘ไอริชจัง…ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอนะ…'
เสียงนั้นมาจากเด็กหญิงที่กำลังนอนละเมอ
ทำได้เพียงแค่เอ่ยกับตนเองเบาๆ ทำได้เพียงแค่ปล่อยให้หยดน้ำจากดวงตา ไหลรินออกมาเท่านั้น
คืนนั้น…คืนเดียวกัยที่เธอตั้งใจจะสังหารเด็กหญิงผู้เพรียบพร้อม…เธอจึงออกจากหมู่บ้าน…
ไปยังดินแดนอันห่างไกล ดินแดนที่ไม่มีใคร
ทำได้เพียงแค่เอ่ยกับตนเองเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้ม
‘ลาก่อน’
’
ความคิดเห็น