[SF Infinite] ลอย...ลอย...กระทง (Myung x Yeol) - [SF Infinite] ลอย...ลอย...กระทง (Myung x Yeol) นิยาย [SF Infinite] ลอย...ลอย...กระทง (Myung x Yeol) : Dek-D.com - Writer

    [SF Infinite] ลอย...ลอย...กระทง (Myung x Yeol)

    ผู้เข้าชมรวม

    921

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    921

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    6
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 พ.ย. 55 / 17:31 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     
    ♥ ลอยกระทงปีนี้คุณมีคู่แล้วหรือยัง?








     Title: ลอย...ลอย...กระทง

    Paring: Myungsoo x Seongyeol
    Rate: PG -13

    Writer: TheQuinn23

    Date: 121128




     

    หมายเหตุ: ฟิคเรื่องนี้ชายรักชายนะคะ ไม่ใช่สไตล์ก็กรุณาปิดรัวๆ ;)





     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       

      ลอย......

      .........ลอย

      กระทง.......

       

       

       

      “ว้อยยยย ไมวันนี้มันน่าเบื่อจังฟ่ะ” เด็กหนุ่มหน้าหวานลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจก่อนจะโวยวายเสียงดังลั่นห้องเรียน

       

       

      “ไมวะ ไม่มีคนไปลอยกระทงด้วยรึไง? กรู้ววววว” เสียงเพื่อนสนิทที่นั่งข้างๆเอ่ยแซวขึ้น ตามด้วยเสียงวิ๊ดวิ้วจากเพื่อนๆในห้องอีกหลายคน

       

       

      “เงียบปากไปเลยพวกแก เดี๋ยวฉันก็มีเว่ย แถวนี้มันหาไม่ยากหรอก” ร่างบางเดินไล่ตบหัวเพื่อนที่แซวเขาเรียงตัวด้วยความหมั่นไส้

       

       

      “โอ๊ย เจ็บนะ! นัมจ๋า ช่วยแฟนด้วย” เด็กหนุ่มหัวใจละอ่อนแต่หน้าอาแปะโผไปกอดคนรักด้วยอาการสำออยขั้นสุด

       

       

      “สมน้ำหน้า แล้วไปแซวไอยอลมันทำไมเล่า” อูฮยอนผลักหัวคนรักกระเด็น ก่อนจะบิดหูด้วยความหมั่นไส้

       

       

      “วุ้ยยย เมียแปะดุจริง”

       

       

      “แกก็ไร้คู่เหมือนกันนะดงอู ไปอยู่กับไอยอลลี่นู่นไป ชิ่วววๆ” ซองกยูยิ้มเหยียดใส่เพื่อนตัวดีทั้งสอง ก่อนจะหันไปพยายามซุกอกอูฮยอน แต่มือบางก็ยันหัวซองกยูไว้ไม่ให้เข้าใกล้....มันประเจิดประเจ้อไปนะที่รัก -///-

       

       

      “ไม่เอาเว้ย!!!

       

       

      “อ้วกเถอะ!!” 2 เสียงของทั้งซองยอลและดงอูประสานออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน


       

       

      “อะไรครับไอน้องยอล เป็นแฟนพี่นี่ต้องอ้วกเลยหรอครับ” ดงอูแกล้งเอื้อมมือไปเชยคางซองยอลที่นั่งอยู่ข้างๆ โดยมีซองกยูและอูฮยอนนั่งมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ข้างหลัง....ถ้า 2 คนนี้มันได้กันจริงๆ แปะก็รับไม่ได้นะคร๊าบบบบบ - -

       

       

      “พี่ไปดัดฟันก่อนเถอะครับ แล้วค่อยมาจีบผมใหม่นะ....ถรุ๊ย!!! พ่อเมิงเถอะดงอู แกะสวนผึ้งยังหน้าตาดีกว่าเมิงอ่ะ” ซองยอลปัดมือดงอูที่จับคางเขาอยู่ก่อนจะฟาดรัวๆไปที่หน้าผากมนนั่น  +___+

       

       

      “แหน่ะ....สวนผึ้งอีกละ ติดใจพ่อหนุ่มหน้ามนคนนั้นที่พวกเราบังเอิญไปเจอที่นั่นรึงายยยยย คิคิ” ดงอูหัวเราะแซวอย่างชอบอกชอบใจ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่พวกเขาทั้ง 4 คนเคยไปออกทริปกันที่สวนผึ้งเมื่อ 3 เดือนก่อน

       

       

      Dongwoo’s part
       

       

      คืองี้ครับรีดเดอร์ทุกท่าน ผมจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ เมื่อปิดเทอมภาคฤดูร้อนที่ผ่านมา พวกผม...ก็มี ซองกยู อูฮยอน ซองยอล แล้วก็ผม นัดกันไปเที่ยวเหมือนปกติทุกครั้งที่ปิดเทอม แต่คราวนี้เราไปไกลหน่อย ไปค้างกัน 3 วัน 2 คืนที่สวนผึ้งครับ (ปกติจะเดินห้างแถวบ้านกัน แบบว่าพวกเรายังเด็กอ่ะ เลยยังไม่ค่อยมีตังค์ไปไกลๆ แหะๆ -0- ) และก็แน่นอนว่าไอแปะกะเมียมัน ก็อูฮยอนนั่นแหละครับ สวีทกันตลอดทริป - - ก็เหลือผมกับไอยอลที่โสดจนต้องนั่งแหง่วตลอดทริปเช่นกัน จะให้มาแกล้งเอากันเองก็ไม่ไหวอ่ะครับ พวกเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ รู้ไส้รู้พุงกันจนหมดเปลือก ไม่มีทางที่เราจะผสมข้ามสายพันธุ์กันได้แน่ๆ -0- เอ่อ...ผมว่าเราย้อนกลับมาที่เรื่องของซองยอลดีกว่านะ ระหว่างที่ไอแปะกะเมียมันสวีทกันจนพวกผมต้องอ้วกแล้วอ้วกอีก ก็เลยตัดสินใจพากันไปปั่นจั๊กให้อาหารแกะกับไอยอลลี่ ปล่อยแปะกะอูฮยอนมันสวีทกันในบ้านพักต่อไป ระหว่างที่พวกผมให้อาหารแกะและผลัดการถ่ายรูปตามประสาคนบ้ากล้อง จู่ๆก็เหมือนจะมีคู่รักคู่นึงเดินมาให้อาหารแกะข้างๆพวกผม ! ดูซิครับ หนีไอคู่นู้นมาเจอคู่นี้ - -

       

      “พี่แอลฮะ แกะพวกนี้น่ารักจังเลย พี่ซื้อให้ผมเลี้ยงหน่อยซิ >3<”

       

      ไอเด็กหน้าสวยคู่รักของไอเด็กหน้าหล่อมันกำลังออดอ้อนกันครับ ผมล่ะอยากอ้วกจริงๆ มันใช้ไรคิด จะเลี้ยงแกะเนี่ยนะ ปัญญาอ่อนอ่ะป่าวเนี่ย - -

       

       

      “ได้ไงเล่าซองจง ปล่อยมันอยู่เป็นฝูงแบบนี้แหละดีแล้ว ถ้านายอยากได้เดี๋ยวพี่ซื้อตุ๊กตาแกะให้ก็ได้นะ”  

       

      อ่า...ชื่อซองจงนี่เอง -//- เอ้ย ไม่ใช่สิครับ ประเด็นคือไอ 2 คนนี้มันมายืนลูบหัวหยิกแก้มกันจนแกะที่รอกินหญ้าต้องเดินหนีอ่ะครับ สวีทไม่ดูกาลเทสะเลย-..-)

       


       

      “จะอ้วกว่ะ อุตส่าห์หนีคู่ไอแปะมา ยังมาเจอตรงนี้อีก พวกเราจะไม่มีที่ยืนแล้วนะเว่ย” ผมหันไปกระซิบกระซาบกับซองยอลด้วยความอิจฉา ผมไม่ได้แอบชอบไอเด็กที่ชื่อซองจงอะไรนั่นหรอกนะครับ แค่เห็นแล้วหงุดหงิดเฉยๆเอ๊งงง เด็กบ้าอะไรหน้าสวยยังกะผู้หญิง -//-

       

       

      “หืออ อือออ”

       

       

      “เฮ้ยเป็นไรวะ ทำไมตาลอยๆ? ผีป่าเข้าสิงมึงป่ะเนี่ย” ผมตบแก้มไอยอลเรียกสติเบาๆ สายตามันดูจะโฟกัสไปที่ไอคู่รักข้างหลังผมนะ

       

       

      “หือออ อืออออ”

       

       

      “เฮ้ยนี่มึงไหวป้ะ???” ผมเขย่าตัวไอยอลเพื่อเรียกสติมันกลับมา

       

       

      “ห๊ะ? มึงว่าไงนะดงอู”

       

       

      “มึงมองอะไรอ่ะยอลลี่” ผมลองแซวมันดู เผื่อจะเป็นอย่างที่ผมกำลังคิด

       

       

      “มองอะไร๊ ป๊าวววเว๊ยยย”

       

       

      “มึงจะพูดเสียงสูงหาโอเปร่าอะไรวะ”

       

       

      “กู เปล่า งาย” ดูมันครับ พอหาว่าทำเสียงสูงมันก็กดเสียงต่ำเตี้ยเรี่ยดินขึ้นมาทันที ผมว่าผมรู้แล้วล่ะ มันต้องแอบปิ๊งไอหน้าหล่อข้างหลังผมแน่ๆ แต่เพื่อความแน่ใจ ผมต้องพิสูจน์.....หึหึ

       

       

      “เออๆ เปล่าก็เปล่า เราเดินไปตรงนั้นกันเถอะ” ผมชี้ไปยังร้านกาแฟเล็กๆที่ถัดจากคอกแกะไปไม่ไกล ก่อนจะลากแขนมันเดินโดยไม่ฟังว่ามันจะตอบตกลงรึเปล่า ระหว่างที่กำลังเดินผ่านไอคู่รักหน้าตาสวยหล่อขั้นเทพนั่น ผมก็ห็นว่าไอยอลมันจ้องตาไม่กระพริบเลยครับ ผมก็เลย....แกล้งถีบ ย้ำว่าถีบครับ จนมันเซไปชนไอหน้าหล่อนั่นเข้าอย่างจัง

       

       

      ไอเชี้ยดงอู!! ถีบกูไมเนี่ย” ไอยอลมันหันมาส่งตาเขียวใส่ผมก่อนจะทำปากขมุบขมิบส่งสารมาด่าผมอย่างที่เห็นอ่ะครับ

       

       

      “นายเป็นอะไรรึเปล่า?”

       

      ไอหน้าหล่อที่หันมาพยุงยอลลี่ได้พอดิบพอดีกำลังถามอาการเพื่อนผมที่หน้าแดงถึงขีดสุดโดยไม่ต้องพึ่งบลัชออนของพวกผู้หญิงเลยล่ะครับ

       

      “อ่อ เอ่อ มะไม่เป็นไร ฉันโอเค แล้วนายล่ะ?”

       

      นั่นไง เสียงสั่นหน้าแดงขนาดนั้น! ชัดเลย! ยอลลี่มันแอบชอบเค้าแน่ๆ กริ้วววๆๆๆ

       

       

      “ไม่ใช่ว่าแกล้งมาชนพี่แอลหรอกนะ” ไอเด็กหน้าสวยนั่นกอดอกมองเพื่อนผมแบบเชิดสุดๆเลยล่ะครับ ระวังคอหักนะครับน้อง - -

       

      “เพื่อนพี่มันเดินขาพันกันเอง ใช่ว่าอยากจะเซไปชนแฟนน้องซะเมื่อไหร่ล่ะ?” ผมก็ไม่ใช่คนที่ยืนเฉยๆดูเพื่อนโดนเหน็บหรอกนะครับ ;)

       

       

      “ซองจงพูดไม่น่ารักเลยนะ ขอโทษพวกพี่เค้าเดี๋ยวนี้เลย” ไอหน้าหล่อมันหันไปสั่งแฟนมันครับ

       

       

      “เฮ้ยๆ ไม่ต้องหรอกๆ ฉันซุ่มซ่ามไปชนนายเอง ขอโทษด้วยแล้วกันนะ ดงอู!กลับ!” ไอยอลมันรีบพูดรัวเร็วเป็นชุดแล้วก็ลากแขนผมไปยังร้านกาแฟด้วยความเร็วแสง - - ปั๊ดโถ่ววว ยังไม่ทันได้ต่อปากต่อคำกับน้องคนสวยคนนั้นเลย

       

       

      “ยอลลี่ มึงจะรีบลากกูมาทำไมเนี่ย” ผมบ่นใส่มันทันทีที่เข้ามานั่งในร้านกาแฟ

       

       

      “เดี๋ยวเถอะ กูยังไม่ได้คิดบัญชีกะมึงเลยนะ เมื่อกี้มึงตั้งใจถีบกูใช่มั้ยยยย?” แล้วไอยอลลี่มันก็เอื้อมมือมาบิดหูผม เจ็บจนพูดไม่ออกเลยล่ะครับ T3T

       

       

      “กูป่าวนะยอลลี่ พอดีกูเป็นโรคเส้นกระตูกอ่ะ ปล่อยหูกูซะทีเถอะ มันเจ็บนะ ฮืออออ” T^T

       

       

      “กระตุกพร่องงงมึง งั้นตอนนี้มือกูก็ล๊อคอ่ะ ล๊อคอยู่ที่หูมึงอ่ะ”

       

       

      “โอ๊ยๆๆๆๆ เจ็บๆๆๆ เอออออ กูยอมรับก็ได้ มึงปล่อยกูเหอะครับ” Y____Y

       

       

      “เชี้ย! นิสัยเสียนะมึง” แล้วมันก็ยอมปล่อยหูผมให้เป็นอิสระ ก่อนจะนั่งลงไปซัดเค้กที่เด็กเสิร์ฟเพิ่งมาเสิร์ฟให้มันเมื่อกี้

       

       

      “ก็กูเห็นมึงเหมือนจะปิ๊งเค้า เลยช่วยนิดๆหน่อยๆเอง”

       

       

      “ปิ๊งพร่องงง เค้ามากะแฟนนะเว้ย” มันโวยวายไปก็ตักเค้กยัดเข้าปากรัวๆ ดูก็รู้ครับว่ามันแอบช้ำใจ หุหุ

       

       

      “นั่นแหน่ะ....ปิ๊งก็ยอมรับมาเถอะ กูไม่ได้จะให้มึงไปแย่งมาซะหน่อย”

       

       

      “เชี้ย เงียบเดี๋ยวนี้ เค้าเข้ามาในร้านแล้ว” แล้วไอยอลลี่มันก็ก้มหน้าก้มตากินเค้กไปแบบไม่สนใจโลกเลยล่ะครับ ท่าทางจะเขินมาก หึหึ


       

      ผมลองหันไปเหล่มองไอคู่รักนั่น คือก็ไม่ได้อะไรหรอกนะครับ ผมแค่สังเกตการณ์แทนเพื่อนเอ๊งงง เหมือนไอหล่อนั่นจะซื้อตุ๊กตาแกะที่เป็นของฝากของร้านนี้ให้แฟนมันจริงๆด้วย แล้วก็เค้กอีก 2 ชิ้น ลาเต้ 1 แก้ว กรีนทีเฟรปเป้อีก 1 แก้ว ไอหน้าหล่อนั่นเหมือนจะหันมามองที่พวกผมแว่บนึง ผมเลยแกล้งหาวบิดขี้เกียจหมุนตัวไปมาแบบ 360 องศา ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะกระซิบอะไรกับเจ้าของร้านด้วยก็ไม่รู้ล่ะครับ ซักพักมันก็พาน้องคนสวยออกจากร้านไป แล้วเจ้าของร้านก็เดินมาที่พวกผมเฉยเลยครับ ไม่ใช่ว่าไอหล่อมันบอกให้เจ้าของร้านมาเก็บตังที่พวกผมนะ ชิบหายละ =[]=

       

       

      มีคนฝากนี่มาให้ค่ะ” เจ้าของร้านคนสวยเดินมายื่นพวงกุญแจตุ๊กตาแกะตัวเล็กๆให้ซองยอลที่เอาแต่กินเค้กไม่สนใจใคร

       

       

      “ซองยอล ยอลลี่ ไอห่านยอล พี่เจ้าของร้านเค้าคุยกะมึงนะ” เรียกดีๆไม่ชอบนะไอนี่ - -

       

       

      “ห๊ะ? ของผมหรอฮะ?” ซองยอลชี้หน้าตัวเองด้วยความงุนงง

       

       

      “ใช่ค่ะ” พี่เจ้าของร้านยื่นพวงกุญแจน้องแกะตัวน้อยให้ไอยอลลี่ ก่อนจะเดินกับไปยังที่เค้าน์เตอร์

       

       

      “ใครให้กูวะเนี่ย?”

       

       

      “ไอหล่อที่ชื่อแอลนั่นไง”

       

       

      “แล้วมึงรู้ได้ไงว่าเค้าให้กูเนี่ย”

       

       

      “เอ๊า ก็เมื่อกี้กูแอบมองอยู่ เห็นมันกระซิบกระซาบกับเจ้าของร้าน แล้วมันก็ออกไป ซักพักพี่เจ้าของก็เอาพวงกุญแจมาให้มึง ไม่ใช่มันแล้วจะใครล่ะวะ?”

       

       

      “จริงดิ” >////<

       

       

      ตั้งแต่นั้นมาไอยอลก็ไม่เคยปล่อยให้ไอพวกกุญแจแกะผีนี่ห่างตัวมันมาจนถึงวันนี้เลยล่ะครับ.....เรื่องมันก็ประมาณนี้แหละครับ น่าเสียดายที่ตั้งแต่ตอนนั้นผ่านมา 3 เดือนพวกผมก็ไม่เคยเจอ 2 คนนั้นอีกเลย = =

       

       

       

      Seongyeol’s part
       

       

      “ดงอู!! จาง ดง อู !! มึงงึมงำอะไรกับใครวะ?” ซองยอลใช้เท้าเขี่ยเพื่อนที่เข้าโหมดโลกส่วนตัวมาซักพักให้กลับมายังโลกปัจจุบัน

       

       

      “กูเล่าอดีตให้รีดเดอร์ฟังอยู่”

       

       

      “ห๊ะ? อะไรนะ ? มึงไหวป่ะเนี่ย?” ซองยอลเกาท้ายทอยแกรกๆด้วยความงุนงง ก่อนจะหันมาเก็บข้าวของของตัวเองลงกระเป๋าเป้ใบโปรดที่ห้อยพวงกุญแจแกะน้อยไว้อยู่ เลิกเรียนแล้วต้องรีบมุ่งตรงกลับบ้าน จะได้ไม่เห็นคู่รักที่ไหนเค้าควงกันไปลอยกระทง -3-

       

       

      “นี่จะกลับเลยหรอ ? ไปลอยกระทงด้วยกันมั้ยซองยอล?”

      นัมอูฮยอนช่างไม่รู้กาลเทศะเลยครับพี่น้อง ชวนคนโสดไปดูคู่รักเค้าสวีทกันเนี่ยนะ!!!

       

       

      “ไม่อ่ะ นายไปกับไอแปะเถอะนัม”

       

       

      “แล้วดงอูอ่ะ ไปมั้ย ?”

       

       

      “ไม่เหมือนกันดีกว่า เดี๋ยวฉันกลับกะไอยอล”

       

       

      “แหน่ะ ไม่ใช่ว่าแอบไปด้วยกัน 2 คนนะ” ซองกยูยักคิ้วหลิ่วตาแซวเพื่อนทั้งสอง

       

       

      ป้าบบบบ!!! ซองยอลและดงอูพร้อมใจกันเหวี่ยงเป้ใส่ซองกยูอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย

       

       

      “เชี้ยยยย เจ็บนะเว่ย แค่แซวเล่นเอง”   ซองกยูยกมือลูบหัวตัวเองปอยๆหวังจะช่วยบรรเทาความเจ็บลงไปบ้าง อูฮยอนก็เอาแต่หัวเราะอยู่ได้ ไม่คิดจะช่วยกันบ้างเลยนะ เดี๋ยวก็ได้เสียตัววันลอยกระทงหรอกเบ่เบ๋ -.,-

       

       

      “สมน้ำหน้า ขอให้ได้เสียตัวในวันลอยกระทงสมใจปรารถนานะคิมซองกยู อ่อกางเกงในตัวนั้นที่ให้ไปช่วยเลือกเพื่อจะเอามาใช้ในค่ำคืนนี้นี่แกใส่มาใช่มั้ยแปะ? งั้นก็..... ขอให้สนุกกันทั้งคู่เลยละกันนะ” ;P ผมทิ้งระเบิดลูกเบ้อเริ่มไว้ให้ไอซองกยูหาทางกู้เอาเอง สมน้ำหน้ามัน ชอบจับคู่ผมกับไอดงอูอยู่ได้ ดีนะที่ผมเป็นคนยุไม่ขึ้น ไม่งั้นสาวๆคงเสียดายผมแย่เลย >,<

       

       

      “ไอแปะ!!!!!!!!” -////////- อูฮยอนโวยวายลั่นโดยที่ทั้งผมและดงอูวิ่งหนีกันออกมาเรียบร้อยแล้ว

       

       

      .....

      ..............

      .................................

       

       

      “จะกลับบ้านเลยจริงป่ะวะ?” จู่ๆไอดงอูมันก็ถามผมด้วยสีหน้าที่ไม่น่าไว้วางใจ อย่าบอกนะว่า.....

       

       

      “ก็จริงดิ มึงคงไม่ชวนกูเดทหรอกนะไอกระเพาะแพะ” -_-;

       

       

      “ไอนี่หนิ ถามดีๆนะ ทำไมกวนตีนพี่อย่างนี้ล่ะครับ”

       

       

      “มึงเคยประสงค์ดีกับกูด้วยหรอวะ”

       

       

      “เฮ้ย กูเพื่อนมึงป่ะ???”

       

       

      ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าแถวนี้มีร้าน...อ้าว พวกนายที่เจอกันตอนนั้นนี่?” เสียงปริศนาเรียกให้ผมและดงอูหันไปมองก่อนจะต่างฝ่ายต่างตะลึงในการพบเจอโดยบังเอิญในครั้งนี้…..คุณแกะน้อยของผม ใช่แล้วล่ะครับ คุณแกะน้อยก็คือคนที่ผมแอบปิ๊ง -////- ก่อนหน้านี้ดงอูมันเล่าไปแล้วนี่ครับ ผมคงไม่ต้องเล่าซ้ำนะ แหะๆ

       

       

      “อ้าว อ้าว อ้าว อ้าววววว” ไอเวรดงอูนี่เสร่อทำเสียงประหลาดอีกละ ผมล่ะอับอายจริงๆครับ

       

       

      “อ้าวหาพร่องไรมึงมากมายวะดงอู” ผมปั้นหน้ายิ้มให้คุณแกะน้อย ก่อนจะหันมากระซิบรอดไรฟันใส่ไอดงอู

       

       

      “เชี้ย พรหมลิขิตไปละมึง” ไอดงอู...กระซิบซะคนอื่นไม่รู้เลยว่ามีพิรุธ

       

       

      “พวกนายว่าไงนะ?” คุณแกะน้อยยังไม่ได้ยินใช่มั้ยค้าบบบบ YoY

       

       

      “อ๋อ ไม่มีไรๆ เมื่อกี้นายจะถามทางใช่มั้ย?” คุณแกะน้อยในชุดนักเรียนหล่อจังเลย ให้ตายเถอะ ผมอยากจะวิ่งเข้าไปสิงร่างเค้าจริงๆ .//////.

       

       

      “อ่าใช่ คือว่าพวกนายพอจะรู้จักร้านขายฟิล์มถ่ายรูปแถวนี้บ้างมั้ย ? พอดีพี่ชายฉันแนะนำมาว่าแถวนี้มีร้านดีๆอยู่ร้านนึง”

       

       

      “อ๋อออออ ร้านนั้นไงซองยอล แกผ่านพอดีนี่ พาเค้าไปสิ ให้ไปเองเดี๋ยวหลงนะเว่ย” ดงอูมันไม่รอช้าที่จะส่งโอกาสงามๆมาให้ผม ประเด็นคือ ผมก็เขินเป็นนะ จะให้ไป 2 ต่อ 2 มันจะดีหรอ แล้วไอร้านที่ว่านี่มันตรงไหน จะทำหน้าเอ๋อไม่รู้เรื่องก็อาจจะต้องพลาดโอกาสที่จะทำให้ได้รู้จักคุณแกะน้อยไปก็เป็นได้ อีซองยอลควรทำไงดีครับ ._____.

       

       

      “ห่ะ อ๋อ เออ เดี๋ยวฉันพาไป” แล้วผมก็ตอบรับไปเฉยเลย


       

       

      “ฉันไม่ได้รบกวนนายมากไปนะ? เอ่อ ซองยอลใช่มั้ย? ฉันมยองซู คิมมยองซู จะเรียกสั้นๆว่าแอลก็ได้ ^^” คุณแกะน้อยยิ้ม!!! ยิ้มให้ผมคนเดียวด้วยล่ะครับ อ๋อยยย จะเป็นลม -///-

       

       

      “ฉันจางดงอู และนี่ก็ อีซองยอล” ไอดงอูมันแย่งผมพูดอีกแล้ว =[]=

       

       

      “ยินดีที่ได้รู้จักนะซองยอล ดงอู ^^”

       

       

      “เฮ้ยแย่ละ แม่ฉันรออยู่นานละ ต้องรีบไปแล้ว แอลนายไปกับซองยอลละกันนะ” พอดงอูมันแร็พจบมันก็รีบวิ่งไปโดยไม่แม้แต่จะหันมาบอกตำแหน่งที่ตั้งไอร้านฟิล์มที่ว่านั่นกับผมเลย แล้วจะทำยังไงล่ะที่นี้ ฮ่วยยย!!!

       

       

      “ซองยอลนายเป็นอะไรรึเปล่า หน้าดูซีดๆนะ” อยู่ดีๆคุณแกะน้อยก็ชะโงกหน้ามามองผมใกล้ๆซะงั้น O/////O จะให้บอกว่าจริงๆแล้วผมก็ไม่รู้ทางที่จะไปเหมือนกันน่ะหรอครับ เสียเซล์ฟแย่ =[]=;;

       

       

      “อากาศมันเย็นแปลกๆน่ะนายว่ามั้ย? อ้ะ แป๊บนึงนะ” ใครซักคนส่งเมสเซจมาหาผม ผมเลยปลีกตัวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสไลด์เปิดอ่านข้อความแป๊บนึง

       

       

      -ขอให้โชคดีนะน้องยอลลี่ พี่ดงอูสุดหล่อแนบแผนที่มาให้เรียบร้อยแล้วไม่ต้องกลัว คิคิ-

       

       

      สวรรค์โปรด!! จางดงอู พ่อเทพบุตรเดินดิน!! ผมเพิ่งเห็นความดีงามของมันก็คราวนี้ล่ะครับ ผมรีบเมมแผนที่ลงสมองอันน้อยนิด ก่อนจะรีบกดปิดโทรศัพท์แล้วหันไปหาคุณแกะน้อยที่ยืนรออยู่

       

       

      “ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะมืดไปมากกว่านี้ นายจะไปลอยกระทงกับแฟนไม่ทันนะ” เอ่อะ ผมอยากจะตบปากตัวเองจริงๆ คือผมก็แค่จะลองใช้มุขพูดหยั่งเชิงเรื่องแฟนกับคุณแกะน้อยดูน่ะครับ ไม่รู้ว่าจะเลิกกับคนสวยๆคนนั้นไปรึยัง = =

       

       

      “ฉันไม่ชอบลอยกระทงหรอก คนมันเยอะ ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่” คุณแกะน้อยอมยิ้มเพียงเล็กน้อย สาบานว่าน้อยจริงๆ และประเด็นคือก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องแฟน OTL อีซองยอลอกหักรอบ 2 อีกแล้วครับ!!

       

       

      “นายไม่ชอบที่ที่คนเยอะหรอ?” ดูเหมือนผมจะถามคำถามโง่ๆไปนะ ก็เค้าเพิ่งบอกมาว่าไม่ชอบ ยังจะถามซ้ำ - -

       

       

      “อือ นายชอบหรอ?”

       

       

      “อือ ชอบ เอ้ย ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน” อีกละอีซองยอล เอ๋ออีกละ นี่แอบสารภาพรักโดยที่เค้าไม่รู้ตัวไปทำไมเนี่ยยยยย ขอตัวกลับบ้านตอนนี้จะทันมั้ย TT

       

       

      “แล้วแฟนนายจะไปลอยกับใครล่ะเนี่ย?”

       

       

      “ฉันไม่มีแฟนหรอก”

       

       

      “ดีจัง”

       

       

      “หือ? ว่าไงนะ?” เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ!!! เมื่อกี้คุณแกะน้อยอมยิ้มรึเปล่านะ ผมมองไม่ค่อยทัน =[]=

       

       

      “ไม่มีอะไรหรอก ใกล้ถึงรึยังเนี่ย นายไม่ได้พาฉันหลงใช่มั้ย?” คุณแกะน้อยเอื้อมมือมาโยกหัวผมเบาๆ  ให้ตายเถอะ สาบานว่าเขินมาก มือคุณแกะน้อยอุ่นมาก โอ้ยยย ขอสิงได้มั้ยค้าบบบ T///T
       

       

      “จะหลงได้ไงเล่า แถวนี้มันถิ่นฉัน แยกหน้าก็ถึงแล้วเนี่ย” ผมโกหกคำโตกับคำว่า นี่มันถิ่นฉัน เลยล่ะ ถึงมันจะแถวบ้าน แต่เชื่อเถอะว่าผมไม่เคยเดินมาทางที่ไม่ใช่ทางกลับบ้านเลยซักครั้ง = =

       

       

      “โอ๊ะ พวงกุญแจนั่น” แย่แล้ว!!! ผมลืมเอาพวงกุญแจแกะน้อยที่ห้อยกระเป๋าอยู่ไปซ่อน

       

       

      “ห๊ะ? อะไรหรอ” เมื่อไม่มีทางเลือก ผมเลยต้องตีมึนใส่ไปก่อน

       

       

      “นี่ไง พวงกุญแจแกะที่ห้อยกระเป๋านายอยู่” คุณแกะน้อยเอื้อมไปจับเจ้าพวงกุญแจตัวปัญหาที่อยู่ข้างหลังผมให้ดู

       

       

      “อ่าฮะ มันทำไมหรอ?” ช่วยไม่ได้นะครับ ผมยังคงต้องแกล้งตีมึนต่อไป

       

       

      “นายไม่รู้หรอว่าใครให้?”

       

       

      “อ๋อ ไอนี่น่ะหรอ พี่เจ้าของร้านกาแฟที่สวนผึ้งเค้าให้มาอ่ะ” ใครก็ได้เอาไม้หน้าสามมาฟาดปากผมทีสิ

       

       

      “งั้นหรอ”

       

       

      “อ้ะ! นั่น ถึงแล้ว ร้านที่นายจะมา” ผมรีบชี้ให้คุณแกะน้อยดูเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

       

       

      “นายจะกลับเลยมั้ย?” ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่าว่าคุณแกะน้อยทำหน้าละห้อยใส่ผม

       

       

      “อือ กลับเลยก็ได้”

       

       

      “รอฉันแป๊บนึงได้มั้ย?”

       

       

      “เอ่อ...ก็ได้” คือ....ผมก็ไม่คิดจะกลับก่อนแต่แรกอยู่แล้วล่ะครับ เล่นตัวไปงั้นแหละ ;)

       

       

      “งั้นแป๊บนึง ไม่นานหรอก ;)” แล้วคุณแกะน้อยก็รีบเข้าไปในร้าน ผมเลยเดินเตร็ดเตร่แถวหน้าร้านมองโน่นนี่นั่นไปเรื่อย

       

       

      อืดดดด อืดดดดด....ใครมันไลน์มาตอนนี้แว๊ะ!

       

       

      ดงอูหล่อเมพ : ถึงไหนละยอลลี่ (นี่ใครใช้ให้มันตั้งชื่อแบบนี้)

       

                                                                         S.Yeol : ร้าน
       


      ดงอูหล่อเมพ : หรอๆๆๆ และเปนไงบ้างง่อ?

       

                                                                     S.Yeol : ก็ดี



      ดงอูหล่อเมพ : แค่นี้อ่ะ?

       

      S.Yeol : จะเอาแค่ไหนล่ะวะ



      ดงอูหล่อเมพ : ขอยาวๆดีวะ


       

      S.Yeol : ยาววววววววววววว ยาวววววววววววววววว




      ดงอูหล่อเมพ : (สติ๊กเกอร์รูปตีนสีแดงเต็มหน้า)


       

      S.Yeol : ส่งรูปหน้ามึงมาไม?




      ดงอูหล่อเมพ : ไม่คุยกะมึงแล้ว ไอเหงือกบาน



       

      S.Yeol : กูรักมึงนะ



      ดงอูหล่อเมพ : ถรุ้ยยยยยยยย


       

      S.Yeol : บัยยยย!

       



       

      “ทำไรอยู่หรอ?” เสียงคุณแกะน้อยทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมาจากจอโทรศัพท์ แล้วก็ต้องประหลาดใจกับภาพที่เห็น

       

       

      “ถ้าไม่ได้จะไปไหน ไปลอยเป็นเพื่อนหน่อยสิ” พระเจ้า!!! คุณแกะน้อยไปเอากระทงมาจากไหนครับเนี่ย แถมมาชวนผมไปด้วยอีก แล้วแฟนคุณแกะน้อยจะไม่ว่าเอาหรอ T[]T

       

       

      “ไหนนายบอกไม่ชอบคนเยอะไง”

       

       

      “เปลี่ยนใจละ”

       

       

      “หือ? แล้วแฟนนายล่ะ?”

       

       

      “ก็ไม่ได้บอกว่ามีซะหน่อย”

       

       

      “ห๊ะ?”

       

       

      “ดีใจหรอ?”

       

       

      “ทำไมฉันต้องดีใจด้วยเล่า” -////- สาบานว่าผมกำลังเก็บอาการไม่ยิ้มหน้าบานออกไปให้คุณแกะน้อยได้เห็น ตกลงนี่มันยังไงกันครับเนี่ย ? ไม่มีแฟน ? ก็คือโสด ?? เลิกกับน้องคนนั้นไปแล้วหรอ ? แล้วมาชวนผมไปลอยกระทง นี่คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย ? ผมอยากจะคิดเข้าข้างตัวเองจริงๆเลย

       

       

      “สรุปแล้วนายจะไปกับฉันมั้ย?”

       

       

      “ทำไมถึงชวนฉันล่ะ?” แหน่ะ ไม่วายเล่นตัวอีก ก็ผมอยากรู้นี่หน่าว่าทำไม .____.

       

       

      “ไปก่อนสิ แล้วจะบอก” นั่น!! ผมว่านี่ไม่ใช่คุณแกะน้อยแล้วมั้งครับ น่าจะเป็นหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์มากกว่า


       

      “นายเป็นคนอย่างนี้เองหรอเนี่ย?” ถึงปากผมจะบ่นนู่นนี่นั่น แต่ก็ได้ข่าวว่าเดินตามคุณแกะน้อยไปอยู่นะ  แบบนี้จะใจง่ายไปมั้ยเนี่ย -////-

       

       

      “คนยังไง?”

       

       

      “ไว้จะบอกวันหลัง”

       

       

      “ก็ได้ ยังไงเราก็ต้องคบกันไปอีกนาน”

       

       

      “หื้อ? อะไรนะแอล?”

       

       

      “นายเรียกชื่อฉันแล้ว”

       

       

      “เรียกไม่ได้รึไง”

       

       

      “ได้สิครับ” อั้ยยย!!! อย่าพูดครับสิ คนมันหวั่นไหวนะ >////<

       

       

      “คนเยอะเหมือนกันนะ” ไม่รู้ว่าใช้เวลานานแค่ไหน แต่ขณะที่พูดคุยกันมาเรื่อยๆพวกเราก็มาถึงสถานที่จัดงานลอยกระทงแล้วล่ะครับ คนเยอะใช่เล่นเลยนะเนี่ย แล้วก็มีแต่คู่รักเต็มไปหมดเลยด้วย คนอื่นจะมองว่าผมกับคุณแกะน้อยเป็นคู่รักกันมั้ยนะ อิอิ

       

       

      “อย่าเดินห่างฉันล่ะ เดี๋ยวหลง”

       

       

      “ฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย”

       

       

      “หรอ?”

       

       

      “พูดงี้หมายความว่าไงเนี่ย?”

       

       

      “ไปลอยตรงนั้นกันเถอะ คนไม่เยอะ” คุณแกะน้อยชี้ไปตรงบันไดที่ทอดยาวลงไปในแม่น้ำ ตรงนั้นคนไม่เยอะจริงๆด้วย แต่เดี๋ยวนะ....มือผม.......โดนคุณแกะน้อยจับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย -////-

       

       

      “อือ” ผมก็ได้แต่เดินตามไปนั่นแหละครับ มือผมมันก็เริ่มจะชื้นเหงื่อเข้าไปทุกที เวรกรรม คุณแกะน้อยต้องรู้สึกแน่ ทำไมมันน่าอับอายขนาดนี้นะ =[]=

       

       

      “อธิษฐานกัน” คุณแกะน้อยพูดขึ้นหลังจากที่พาผมมานั่งตรงขอบบันไดเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศมันชวนใจหวิวแปลกๆนะ หรือผมกำลังเขินมากก็ไม่รู้สิ

       

       

      “นายก่อนสิแอล”

       

       

      “พร้อมกัน”

       

       

      “โอเค!” ดูเหมือนว่าคุณแกะน้อยสั่งอะไร ผมก็ต้องทำตามไปหมดทุกอย่างเลยจริงๆ

       

      ผมและคุณแกะน้อยค่อยๆหลับตาพร้อมอธิษฐานสิ่งที่ตัวเองปรารถนาก่อนจะช่วยกันลอยกระทงลงไปในแม่น้ำ ผมมองตามกระทงของเรา 2 คนไปเรื่อยๆ ในใจก็กลัวว่าจะมีเด็กแถวนั้นมาเก็บเหรียญบาทแล้วคว่ำกระทงผมมั้ย ? ก็เค้าว่ากันว่าถ้ามันลอยโดยไม่จมไปเรื่อยๆ คำอธิษฐานของเรามันจะเป็นจริงนี่หน่า >,<

       

       

      “ซองยอล นายอธิษฐานอะไรไปหรอ?” คุณแกะน้อยนั่งเท้าคางมองผมด้วยสายตาที่ผมไม่อาจเข้าใจได้ ทำไมสายตาคุณแกะน้อยมันช่างชวนให้สยิวในใจแบบนี้ล่ะครับเนี่ย

       

       

      “ใครเค้าบอกกันเล่า” ผมต้องรีบเสมองไปทางอื่น ก่อนหัวใจจะกระโดดออกมาเต้นรัวๆแล้วกู่ร้องว่าไอเลิฟยู ฮู้ฮูววว

       

       

      “แต่ฉันอยากบอกของฉันนะ”

       

       

      “ก็บอกมาสิ” ผมยังคงพูดโดยไม่หันไปมอง

       

       

      “ฉันพูดด้วยแล้วนายจะหันไปไหนล่ะ” เอาอีกแล้วววว ต้องทำตามคำสั่งคุณแกะน้อยอีกแล้ว ผมก็เลยต้องหันไปมองหน้าคุณแกะน้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ โอ้วววพระเจ้า!!! แสงจันทร์นวลผ่องมันจะมาสาดส่องลงบนใบหน้านวลผ่องของคุณแกะน้อยพอดิบพอดีอะไรขนาดนี้  ไร้ท์เตอร์คุณแกล้งให้ผมหลงคิมมยองซูใช่มั้ยครับ??? (เปล่าค่ะ =[]=)

       

       

      “แล้วตกลงอธิษฐานอะไรไปล่ะ”

       

       

      “ฉันขอให้...คนที่ให้พวงกุญแจแกะน้อยตัวนั้นกับนายได้เป็นแฟนของนาย


       

      O////O

      -////-

      .///.

      =[]=;;

      T///T
       

      นี่คือสีหน้าอันหลากหลายของผมที่เกิดขึ้นภายใน 3 วินาที!!!

       

       

      “ให้นาย...เป็นแฟนฉันงั้นหรอ?”

       

       

      “อ้าว นายก็รู้นี่หน่าว่าใครให้พวงกุญแจกับนาย” ;) รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าของคุณแกะน้อย จนผมอยากจะกระโดดน้ำลงไปช่วยเค้าเก็บเหรียญบาทซะตอนนี้เลย นี่ตกลงผมพลาดสินะ =_____=

       

       

      “ฉัน คือฉัน...เอ่อ ฉัน คือ แบบว่า คือฉัน” ใครใช้ให้ผมแสดงอาการโง่ๆแบบนี้ออกไปต่อหน้าคุณแกะน้อยนะ  T^T

       

       

      “น่ารักดีจัง” คุณแกะน้อยเอื้อมมือมาโยกหัวผมไปมา ผมรู้สึกว่าโลกของผมมันกำลังหมุนติ้วๆๆเลยล่ะครับ

       

       

      “นายแกล้งฉันทำไมแอล” -/////-

       

       

      “ฉันเปล่า ฉันขอไปแบบนั้นจริงๆ แล้วนายว่าไงล่ะ?”

       

       

      “ว่าไงคืออะไรเล่า”

       

       

      “หึ กดเบอร์นายมา” คุณแกะน้อยยื่นโทรศัพท์ตัวเองมาให้ผมกดเบอร์ลงไป นี่มือผมก็สั่นมากเลยนะ ใครเห็นอาจจะคิดว่าผมผีเข้าก็เป็นได้ และผมก็แอบเห็นด้วยหางตาว่าคุณแกะน้อยกำลังขำกับอาการเอ๋อๆของผมอยู่  อีซองยอลอยากจะเอาหน้าไปขายจริงๆเลย =[]=;;

       

       

      “อ้ะ เบอร์ฉัน” ผมยื่นโทรศัพท์ที่เมมเบอร์ผมไปเรียบร้อยแล้วให้คุณแกะน้อย แล้วเค้าก็รีบรับไปพิมพ์ข้อความอะไรบางอย่าง พิมพ์ไปอมยิ้มไปซะด้วย นี่กำลังส่งข้อความหาใครอ่ะ =_=;;

       


       

      ครืดดดดด ครืดดดดดด นี่ไอดงอูคงส่งเมสเซจมากวนตีนผมอีกแล้วสินะ ไม่อยากจะหยิบขึ้นมาอ่านเลย

       


       

      “ทำไมไม่เปิดอ่านล่ะ?” คุณแกะน้อยชี้ไปที่โทรศัพท์ของผมที่เด้งเตือนมาว่ามีเมสเซจเข้า ผมเลยจำใจต้องหยิบมันขึ้นมาอ่าน =_____=

       

       

      นายคือรักแรกพบของฉัน อีซองยอล เรามาลองคบกันดีมั้ย? ถ้านายไม่ตอบข้อความฉันแปลว่า “ตกลง” แต่ถ้านายจะตอบก็ต้องพิมพ์มาแค่คำว่า “ตกลง” เท่านั้นนะ ,,L,,

       

       

      พออ่านจบ สมองผมเหมือนจะขาวโพลนไปหมด ได้แต่นั่งสตั๊นไม่ไหวติงอยู่แบบนั้น =///////= ซักพักข้อความใหม่ก็เด้งมาอีก

       

       

      เงียบ?

      สงสัยจะคบ ;P

       

       

      THE END





      * Special Part by Myungsoo *



      สวัสดีครับ! ผมคิมมยองซู จะเรียกว่าแอลตามคนอื่นๆก็ได้ ผมไม่ว่าอะไรหรอก ;)
      กว่าจะอ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะมีข้อสงสัยมากมายเต็มไปหมดเลยล่ะสิ เอ๊ะ หรือว่าไม่มีนะ?
      เอาเป็นว่า ผม อยาก เล่า ก็แล้วกัน! พวกคุณคงสงสัยว่าซองจงเป็นแฟนผมจริงๆรึเปล่า
      เคยเป็นครับ แต่เลิกกันไปนานหลายปีแล้วล่ะ ที่เห็นไปเที่ยวด้วยกันตอนนั้น
      พวกเราไม่ได้ไปกันแค่ 2 คนหรอก แล้วตอนนั้นซองจงก็พาแฟนมาด้วย
      ผมกับซองจงเป็นพี่น้องกันจริงๆ แต่ก็เหมือนจะมีบางครั้งที่เค้าทำตัวหวงผมอยู่บ้าง
      อย่างตอนที่ซองยอลบังเอิญมาชนผม จนกลายเป็นรักแรกพบเข้านั้นแหละครับ =//=
      เชื่อมั้ยครับ ตลอดทริปนั้นทำเอาผมเพ้อถึงซองยอลไปเลย
      เค้าอาจจะไม่รู้ตัวนะว่าตลอด 3 วัน 2 คืนนั่น ผมแอบถ่ายรูปเค้าตลอดเลย
      และมันก็น่าเสียดายที่ผมไม่มีโอกาสจะเข้าไปทำความรู้จักกับเค้า
      เพราะผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าผู้ชายที่มาด้วยคนนั้นเป็นอะไรกันมากกว่าเพื่อนรึเปล่า
      ผมก็เลยได้แต่มองอย่างเดียวโดยที่เค้าไม่รู้ตัว

      เหมือนว่าผมจะปล่อยรักแรกพบให้หลุดลอยไปต่อหน้าต่อตานะ
      แต่ก็ไม่น่าเชื่อนะครับ เหมือนพรหมลิขิต 3 เดือนต่อมา ผมบังเอิญไปเจอซองยอลเข้า
      ซองยอลกำลังเดินกับผู้ชายคนนั้นอีกแล้วล่ะครับ ดูเหมือนจะสนิทกันมากด้วย อิจฉาจัง!
      ตอนแรกผมก็ลังเลอยู่นานว่าจะแกล้งทำเป็นไปถามทางดีมั้ย?

      สุดท้ายผมก็ตัดสินใจทำเป็นเข้าไปถามทางนั่นแหละ
      ซึ่งจริงๆผมรู้จักร้านนี้ดีอยู่แล้ว หลับตาเดินยังได้เลย แต่ทำไงได้ล่ะครับ
      ถ้าไม่ใช้แผนนี้ผมก็จะพลาดโอกาสนี้ไปอีกครั้ง....และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของผมและอีซองยอลล่ะครับ :)









      ► T A L K ◄

      ไม่มีอะไรค่ะ มันเป็นฟิคชั่ววูบแต่งเล่นๆ เพราะไร้ท์เตอร์ไม่ได้ออกไปลอยกระทงแค่นั้นเอง 5555
      ถ้าชอบก็เม้นท์กันเยอะๆนะ อยากได้กำลังใจในการแต่งเรื่องต่อๆไป อิอิ


       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×