คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter OO2 :
Chapter 2
“ครับแม่ .. ถึงแล้วครับ .. ยังไม่เจอครับ”
‘ชเวจุนฮง’ ตอบปลายสายด้วยเสียงสบายๆ มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง หลังชนกำแพง ยืนรอเจ้าของบ้านมาค่อนวัน จนไปกินข้าวเย็นแล้วกลับมาอีกรอบคนที่รออยู่ก็ยังไม่กลับ
[ทำไมไม่หาโรงแรมนอนก่อนล่ะลูก เดินทางเหนื่อยๆ]
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมว่าผมรอได้”
ยิ้มบางให้คนปลายสายถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เห็น แม่เข้าใจเขาเสมอ
[งั้น..ดูแลตัวเองด้วยนะเจลโล่ อยากกลับนิวยอร์คเมื่อไหร่ก็บอกแม่นะ]
“ครับ .. รักแม่นะ”
วางสายไม่ถึงนาทีก็เหลือบไปเห็นคนที่รออยู่กำลังเดินมา ร่างสูงขมวดคิ้ว ก็เห็นมีรถนี่ ทำไมไม่ใช้? คงต้องจดสิ่งที่ต้องทำเพิ่มเข้าไปอีกอย่างแล้ว
..‘ขับรถไปส่งเจย์’
อยากจะขำตัวเอง ก่อนมาเขาจดสิ่งที่จะทำกับอีกคนไว้เยอะแยะไปหมด ทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยว่าเค้าจะจำตัวเองได้รึเปล่า เพราะได้ข่าวว่าความจำเสื่อมมาหลายปี ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นห่วง
การตื่นมาโดยที่ไม่มีใคร ไม่เหลือความทรงจำอะไร .. มันจะทรมาณแค่ไหนกันนะ
ยองแจเดินมาถึงหน้าบ้าน .. การเดินมาจากป้ายรถเมล์นี่มันเหนื่อยชะมัด แต่ก็ไม่อยากให้พี่ยงกุกขับรถมาส่งอย่างที่เขาพยายามทำอยู่ทุกวัน จะให้ขับรถไปเรียนเองก็ขี้เกียจ งั้นก็ต้องเดินเอาแบบนี้แหละดีที่สุด
มัวแต่ก้มหน้าคิดอะไรเพลินๆ จนไม่ทันมองทาง เงยหน้าทีก็เกือบจะชนกับคนตัวสูงไม่คุ้นหน้า
“อ๊ะ .. ขอโทษครับ”
ยองแจเอ่ยขอโทษ คิดว่าอีกคนจะหลีกทางให้ .. แต่ก็ไม่ มองหน้าอีกคนพร้อมกับขมวดคิ้ว
“เจย์..”
ยิ่งต้องขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีกเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อที่คุ้นหู
ไม่ .. ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ในชีวิตปกติไม่เคยมีใครเรียกเขาแบบนี้
.
.
เป็นชื่อที่เขาได้ยินในความฝันต่างหาก
เด็กชายที่ตัวสูงกว่าตัวเองประมาณสิบเซ็นต์หอบข้าวของมายืนรอหน้าบ้าน แล้วยังมาเรียกชื่อบ้าๆ ที่มักจะได้ยินในฝันร้าย เด็กในฝันคนนั้น .. จะใช่เขาไหมนะ? แต่ถ้าเกิดไม่ใช่ล่ะ คนแปลกหน้ามาจากไหน จะมาใช้ประโยชน์จากไอ้โรคความจำเสื่อมของเขารึเปล่าก็ไม่รู้
คิดได้แบบนั้นก็พยายามเดินหลีกไปอีกทาง แต่ก็ยังโดนกันไว้
“ฉันว่านายทักคนผิดแล้..”
ยังไม่ทันพูดจบประโยคก็โดนรวบตัวเข้าไปกอดซะแน่นจนพูดอะไรไม่ออก แน่นจนเขาได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่เต้นจนแทบไม่เป็นจังหวะ ในเสี้ยววินาทีหนึ่งยองแจรู้สึกดี เหมือนได้เจอคนสำคัญที่ไม่เจอมานาน แต่พอพยายามนึกดูดีๆ กลับจำอะไรไม่ได้เลย
“นาย.. จำฉันไม่ได้จริงๆ เหรอเจย์?”
น้ำเสียงของคนตรงหน้าเหมือนจะร้องไห้ให้ได้ เห็นแบบนั้นเขาเลยใช้มือสองข้างลูบหลังอีกคนเบาๆ เป็นเชิงปลอบ อีกฝ่ายซุกใบหน้าเข้ากับไหล่ของเขา ยิ่งยองแจปลอบ อ้อมแขนแกร่งก็ยิ่งกระชับแน่น
.. ช่วยไม่ได้แฮะ
ไม่กี่นาทีต่อมาข้าวของของจุนฮงก็กองอยู่ในบ้านของเขา แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่ยอมให้คนแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้เข้าบ้านมาง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นยองแจก็ยังรู้สึกว่าเด็กคนนี้คือคนแปลกหน้าที่เขาคุ้นเคย
สิ่งที่บอกไม่ใช่ความทรงจำ .. แต่เป็นความรู้สึก
“เราสนิทกันเหรอ?” ยองแจถามขณะวางแก้วน้ำให้อีกคนแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ที่นิวยอร์คเราเล่นด้วยกัน ..”
นิวยอร์ค .. งั้นก็แปลว่าเจ้านี่มาจากนิวยอร์ค ยองแจก็เคยอยู่ที่นั่นสินะ ทนายของพ่อก็บอกเขาแบบนั้น แต่ความรู้สึกแรกที่ได้ยินมันไม่ดีสักเท่าไหร่ เหมือนตัวเองเคยมีความทรงจำที่เลวร้ายกับที่นั่นมาก่อน
“.. นายมีแค่ฉัน”
อยากท้วงเหลือเกินว่าเป็นเด็กเป็นเล็กดันพูดกับเขาเหมือนเพื่อนเล่น แต่ที่ไม่พูดเพราะความรู้สึกคุ้นเคยที่ว่ามันแวบเข้ามาอีกครั้ง และยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อคนตรงหน้าพูดจบประโยค ยองแจรู้สึกเหมือนเขามีแค่เจ้าเด็กนี่จริงๆ
“แต่ฉันก็ยังไม่ไว้ใจนายอยู่ดี..”
อีกคนยักไหล่ ไม่แปลกใจเลยถ้ายองแจจะไม่ไว้ใจเขา จุนฮงเข้าใจความรู้สึกนั้นดี
“..มาหาฉันทำไม” อุตส่าห์ถามจริงจังแถมจ้องเขาเขม็ง แต่ก็ยังตอบน้ำเสียงกวนๆ กลับมา
“อยากได้เหตุผลจริงๆ หรือเหตุผลที่ดูดีล่ะ”
ก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่นะกับไอ้ท่าทางแบบนี้ .. แต่กวนตีนชิบหายเลยครับ
สูดหายใจเข้าครั้งนึงก่อนจะตอบ
“เหตุผลจริงๆ สิ”
“คิดถึง.. อยากเจอ..” แวบหนึ่งที่สายตาของอีกคนดูจริงจังเมื่อพูดคำว่าคิดถึง “งั้นเหตุผลที่ดูดีล่ะ” ลองถามคำตอบอีกอย่าง ดูสิว่าจะตอบยังไง
“ก็คิดถึง .. คิดถึงมากๆ หาเหตุผลที่ดูดีที่สุดได้แค่นี้” ยองแจถอนใจ เหนื่อยจะคุยกับคนแบบนี้เหลือเกิน
“มีญาติในเกาหลีอีกมั้ย?” ก็คิดว่าถ้ามี จะได้ไล่กลับบ้านไปซะ ..
.. จุนฮงส่ายหน้า
“แล้วยังไง จะมาขออยู่ด้วย?”
.. แล้วก็พยักหน้าอีกสองสามที
ถอนหายใจหนักๆ อีกครั้ง .. นี่เจ้าเด็กแปลกหน้าจะมาขออยู่กับเขาง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง? ไล่ออกจากบ้านไปซะดีมั้ย? แต่ปัญหาคือยองแจไม่อยากปล่อยให้เด็กที่มาจากต่างเมืองแถมยังตัวคนเดียวออกไปหลงทางข้างนอกนั่น
จะว่าสงสารก็ใช่
จะว่ารู้สึกผูกพันธ์..ก็ใช่อีก
ก็รู้ว่าตัวเองไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้าง่ายๆ แต่เด็กที่นั่งอยู่ตรงหน้ามันดูไม่มีพิษมีภัย บวกกับไอ้ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เหมือนรู้จักกันมานานนั่นอีก แต่ถ้าอีกคนเป็นคนเดียวกับเด็กชายในความฝันนั้นล่ะ? .. บางที ความฝันนั่นอาจจะเคยเป็นความทรงจำที่เลวร้ายมาก่อนระหว่างพวกเขา ถ้าเป็นแบบนั้นจะทำยังไง?
ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว อยากจะแจกฟัคให้กับชีวิตตัวเองสักร้อยสักพันรอบ บางทีก็สงสัยว่าทำไมตอนนั้นไม่ตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอดกันนะ
.. เด็กชายที่นั่งอยู่อีกฝั่งจ้องเขาตาแป๋ว
.. ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วนี่
“ให้อยู่ด้วยก็ได้...”
“เยส!”
“...แค่คืนเดียว แล้วพรุ่งนี้ก็กลับนิวยอร์คไปซะ”
โอ่ยยยยย จะบอกว่าปมของน้องจูกับพี่แจมันจิ้บจ๊อยมากอะ
พยายามแต่งให้ดราแล้วก็ทำไม่ได้.. เลาไม่ได้สปอยน้ะ y_y
ตอนต่อไปขอหลังสอบข่ะ ใหล้ตายแล้ว แง
เอ็นจอยนะฮะจุ้บ.
ความคิดเห็น