ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :I Remember ♡

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter OO2 :

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 56


    Chapter 2

                    “ครับแม่ .. ถึงแล้วครับ .. ยังไม่เจอครับ”

                    ชเวจุนฮง ตอบปลายสายด้วยเสียงสบายๆ มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง หลังชนกำแพง ยืนรอเจ้าของบ้านมาค่อนวัน จนไปกินข้าวเย็นแล้วกลับมาอีกรอบคนที่รออยู่ก็ยังไม่กลับ

                    [ทำไมไม่หาโรงแรมนอนก่อนล่ะลูก เดินทางเหนื่อยๆ]

                    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมว่าผมรอได้”

                    ยิ้มบางให้คนปลายสายถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เห็น แม่เข้าใจเขาเสมอ

                    [งั้น..ดูแลตัวเองด้วยนะเจลโล่ อยากกลับนิวยอร์คเมื่อไหร่ก็บอกแม่นะ]

                    “ครับ .. รักแม่นะ”

                    วางสายไม่ถึงนาทีก็เหลือบไปเห็นคนที่รออยู่กำลังเดินมา ร่างสูงขมวดคิ้ว ก็เห็นมีรถนี่ ทำไมไม่ใช้? คงต้องจดสิ่งที่ต้องทำเพิ่มเข้าไปอีกอย่างแล้ว

    ..ขับรถไปส่งเจย์

    อยากจะขำตัวเอง ก่อนมาเขาจดสิ่งที่จะทำกับอีกคนไว้เยอะแยะไปหมด ทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยว่าเค้าจะจำตัวเองได้รึเปล่า เพราะได้ข่าวว่าความจำเสื่อมมาหลายปี ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นห่วง

    การตื่นมาโดยที่ไม่มีใคร ไม่เหลือความทรงจำอะไร .. มันจะทรมาณแค่ไหนกันนะ

     

    ยองแจเดินมาถึงหน้าบ้าน .. การเดินมาจากป้ายรถเมล์นี่มันเหนื่อยชะมัด แต่ก็ไม่อยากให้พี่ยงกุกขับรถมาส่งอย่างที่เขาพยายามทำอยู่ทุกวัน จะให้ขับรถไปเรียนเองก็ขี้เกียจ งั้นก็ต้องเดินเอาแบบนี้แหละดีที่สุด

    มัวแต่ก้มหน้าคิดอะไรเพลินๆ จนไม่ทันมองทาง เงยหน้าทีก็เกือบจะชนกับคนตัวสูงไม่คุ้นหน้า

    “อ๊ะ .. ขอโทษครับ”

    ยองแจเอ่ยขอโทษ คิดว่าอีกคนจะหลีกทางให้ .. แต่ก็ไม่ มองหน้าอีกคนพร้อมกับขมวดคิ้ว

    “เจย์..”

    ยิ่งต้องขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีกเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อที่คุ้นหู

     

    ไม่ .. ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ในชีวิตปกติไม่เคยมีใครเรียกเขาแบบนี้

    .

    .

    เป็นชื่อที่เขาได้ยินในความฝันต่างหาก

     

    เด็กชายที่ตัวสูงกว่าตัวเองประมาณสิบเซ็นต์หอบข้าวของมายืนรอหน้าบ้าน แล้วยังมาเรียกชื่อบ้าๆ ที่มักจะได้ยินในฝันร้าย เด็กในฝันคนนั้น .. จะใช่เขาไหมนะ? แต่ถ้าเกิดไม่ใช่ล่ะ คนแปลกหน้ามาจากไหน จะมาใช้ประโยชน์จากไอ้โรคความจำเสื่อมของเขารึเปล่าก็ไม่รู้

    คิดได้แบบนั้นก็พยายามเดินหลีกไปอีกทาง แต่ก็ยังโดนกันไว้

    “ฉันว่านายทักคนผิดแล้..”

    ยังไม่ทันพูดจบประโยคก็โดนรวบตัวเข้าไปกอดซะแน่นจนพูดอะไรไม่ออก แน่นจนเขาได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่เต้นจนแทบไม่เป็นจังหวะ ในเสี้ยววินาทีหนึ่งยองแจรู้สึกดี เหมือนได้เจอคนสำคัญที่ไม่เจอมานาน แต่พอพยายามนึกดูดีๆ กลับจำอะไรไม่ได้เลย

    “นาย.. จำฉันไม่ได้จริงๆ เหรอเจย์?”

    น้ำเสียงของคนตรงหน้าเหมือนจะร้องไห้ให้ได้ เห็นแบบนั้นเขาเลยใช้มือสองข้างลูบหลังอีกคนเบาๆ เป็นเชิงปลอบ อีกฝ่ายซุกใบหน้าเข้ากับไหล่ของเขา ยิ่งยองแจปลอบ อ้อมแขนแกร่งก็ยิ่งกระชับแน่น

    .. ช่วยไม่ได้แฮะ

     

    ไม่กี่นาทีต่อมาข้าวของของจุนฮงก็กองอยู่ในบ้านของเขา แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่ยอมให้คนแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้เข้าบ้านมาง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นยองแจก็ยังรู้สึกว่าเด็กคนนี้คือคนแปลกหน้าที่เขาคุ้นเคย

    สิ่งที่บอกไม่ใช่ความทรงจำ .. แต่เป็นความรู้สึก

    “เราสนิทกันเหรอ?” ยองแจถามขณะวางแก้วน้ำให้อีกคนแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม

    “ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ที่นิวยอร์คเราเล่นด้วยกัน ..”

    นิวยอร์ค .. งั้นก็แปลว่าเจ้านี่มาจากนิวยอร์ค ยองแจก็เคยอยู่ที่นั่นสินะ ทนายของพ่อก็บอกเขาแบบนั้น แต่ความรู้สึกแรกที่ได้ยินมันไม่ดีสักเท่าไหร่ เหมือนตัวเองเคยมีความทรงจำที่เลวร้ายกับที่นั่นมาก่อน

     “.. นายมีแค่ฉัน”

    อยากท้วงเหลือเกินว่าเป็นเด็กเป็นเล็กดันพูดกับเขาเหมือนเพื่อนเล่น แต่ที่ไม่พูดเพราะความรู้สึกคุ้นเคยที่ว่ามันแวบเข้ามาอีกครั้ง และยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อคนตรงหน้าพูดจบประโยค ยองแจรู้สึกเหมือนเขามีแค่เจ้าเด็กนี่จริงๆ

    “แต่ฉันก็ยังไม่ไว้ใจนายอยู่ดี..”

    อีกคนยักไหล่ ไม่แปลกใจเลยถ้ายองแจจะไม่ไว้ใจเขา จุนฮงเข้าใจความรู้สึกนั้นดี

    “..มาหาฉันทำไม” อุตส่าห์ถามจริงจังแถมจ้องเขาเขม็ง แต่ก็ยังตอบน้ำเสียงกวนๆ กลับมา

    “อยากได้เหตุผลจริงๆ หรือเหตุผลที่ดูดีล่ะ” 

     

    ก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่นะกับไอ้ท่าทางแบบนี้ .. แต่กวนตีนชิบหายเลยครับ

     

    สูดหายใจเข้าครั้งนึงก่อนจะตอบ

    “เหตุผลจริงๆ สิ”

    “คิดถึง.. อยากเจอ..” แวบหนึ่งที่สายตาของอีกคนดูจริงจังเมื่อพูดคำว่าคิดถึง “งั้นเหตุผลที่ดูดีล่ะ” ลองถามคำตอบอีกอย่าง ดูสิว่าจะตอบยังไง

    “ก็คิดถึง .. คิดถึงมากๆ หาเหตุผลที่ดูดีที่สุดได้แค่นี้” ยองแจถอนใจ เหนื่อยจะคุยกับคนแบบนี้เหลือเกิน

    “มีญาติในเกาหลีอีกมั้ย?”  ก็คิดว่าถ้ามี จะได้ไล่กลับบ้านไปซะ ..

     

    .. จุนฮงส่ายหน้า

     

    “แล้วยังไง จะมาขออยู่ด้วย?”

     

    .. แล้วก็พยักหน้าอีกสองสามที

     

    ถอนหายใจหนักๆ อีกครั้ง .. นี่เจ้าเด็กแปลกหน้าจะมาขออยู่กับเขาง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง? ไล่ออกจากบ้านไปซะดีมั้ย? แต่ปัญหาคือยองแจไม่อยากปล่อยให้เด็กที่มาจากต่างเมืองแถมยังตัวคนเดียวออกไปหลงทางข้างนอกนั่น

    จะว่าสงสารก็ใช่

     

    จะว่ารู้สึกผูกพันธ์..ก็ใช่อีก

     

    ก็รู้ว่าตัวเองไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้าง่ายๆ แต่เด็กที่นั่งอยู่ตรงหน้ามันดูไม่มีพิษมีภัย บวกกับไอ้ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เหมือนรู้จักกันมานานนั่นอีก แต่ถ้าอีกคนเป็นคนเดียวกับเด็กชายในความฝันนั้นล่ะ? .. บางที ความฝันนั่นอาจจะเคยเป็นความทรงจำที่เลวร้ายมาก่อนระหว่างพวกเขา ถ้าเป็นแบบนั้นจะทำยังไง?

    ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว อยากจะแจกฟัคให้กับชีวิตตัวเองสักร้อยสักพันรอบ บางทีก็สงสัยว่าทำไมตอนนั้นไม่ตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอดกันนะ

     

    .. เด็กชายที่นั่งอยู่อีกฝั่งจ้องเขาตาแป๋ว

     

    .. ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วนี่

     

    “ให้อยู่ด้วยก็ได้...”

     

    “เยส!

     

    “...แค่คืนเดียว แล้วพรุ่งนี้ก็กลับนิวยอร์คไปซะ”





    --------------------------------------------------------------------------------------------------------


    โอ่ยยยยย จะบอกว่าปมของน้องจูกับพี่แจมันจิ้บจ๊อยมากอะ
    พยายามแต่งให้ดราแล้วก็ทำไม่ได้.. เลาไม่ได้สปอยน้ะ y_y
    ตอนต่อไปขอหลังสอบข่ะ ใหล้ตายแล้ว แง

    เอ็นจอยนะฮะจุ้บ.

    © Tenpoints!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×