ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กระบี่นรกทะลวงโลกันต์

    ลำดับตอนที่ #3 : ลมปราณของจอมมาร

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 57


    กระบี่ที่ 2 ลมปราณของจอมมาร


    “ลมปราณสายความมืดงั้นเหรอ ท่านพ่อ”



    “ใช่แล้วล่ะ”
     


    ได้ฟังท่านพ่อพูดมาแบบนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ข้าเข้าใจซักเท่าไหร่ ลมปราณของข้าไม่เหมือนคนอื่นยังงั้นเหรอ
     


    แต่ว่าเวลาข้าเดินลมปราณของสายอื่นก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรนี่นา



    “เจ้าทำหน้าสงสัยนี่นะ สังเกตุไหมล่ะ ว่าทำไมเจ้าถึงสามารถเดินลมปราณของทุกสายได้”



    พอท่านพ่อพูดมาแบบนั้น ก็ทำให้ข้าเพิ่งนึกออก
     


    นั่นสิ ทำไมกันนะ ข้าถึงสามารถเดินลมปราณของสายอื่นได้
     


    ทั้งๆที่ผู้คุมกฎแต่ละคนนั้น ก็ไม่สามารถทำได้ทั้งหมด แค่ข้ามสายได้ ไม่เกินอีก 2 สาย เท่านั้นเอง
     


    มีแค่ท่านพ่อคนเดียว ที่สามารถใช้ได้ทุกสายเหมือนกับข้า
     


    แต่ว่า ท่านพ่อก็ไม่เหมือนกับข้ารึ
     


    “ท่านพ่อช่วยบอกรายละเอียดกับข้าได้รึเปล่า”
     


    ข้าซึ่งทำสีหน้างุนงง ก็ตั้งใจถามออกไป ท่านพ่อจึงส่งยิ้มกลับคืนมาให้กับข้าอีกครั้ง



    “ลมปราณของเจ้านั้น สามารถใช้ผสมผสานกับของสายอื่นได้ แต่ว่า พวกวิชากระบี่หรือวิชาฝ่ามือ สายความมืดไม่สามารถใช้ของสายอื่นได้ เพราะลมปราณที่แปลกประหลาด และมีความเฉพาะตัวสูง ทุกวันนี้ ก็ไม่มีใครมีลมปราณสายนี้ ข้าเองก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกัน”



    ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าเสียดาย จากที่ท่านพ่อว่า ข้าคงไม่สามารถเก่งแบบพวกผู้คุมกฎหรือท่านพ่อได้สินะ



    แล้ว ข้าทำอะไรได้บ้างล่ะเนี่ย



    “แต่ที่เจ้ามีลมปราณแบบนี้ได้ ข้าก็ไม่แน่ใจต้นสายปลายเหตุเหมือนกัน แต่ว่า มันแสดงออกมาตั้งแต่เจ้าเกิดแล้ว”



    หืม ท่านพ่อรู้ว่าข้ามีลมปราณสายนี้ตั้งแต่ข้าเกิดงั้นรึ



    “ในคืนที่เจ้าเกิดมานั้น มีฝนตกฟ้าร้องครั้งใหญ่ บรรยากาศนั้น ช่างดูน่าอันตรายมากทีเดียว แต่่ว่า เจ้าก็สามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย”



    “แต่ในคืนนั้น ก็เป็นวันที่เจ้าเสียแม่ไปเช่นกัน”

    เรื่องที่ท่านแม่คลอดข้าแล้วเสียชีวิตนั้น ข้ารู้ดี ท่านพ่อเคยบอกไว้เมื่อตอนข้ายังเล็กๆ ว่าข้าคือของขวัญที่ท่านแม่ฝากเอาไว้ แม้ตัวท่านจะตายไป แต่ก็ดีใจที่ข้าได้เกิดมา
     


    ท่านแม่ของข้าเป็นคนดีสินะ



    “แต่เรื่องจริงนั้น ….”
     


    ท่านพ่อชะงักก่อนที่จะพูดต่อ แล้วก็เงียบไป



    “ท่านพ่อ...”
     


    “เคร้ง..!”



    หืม เสียงของกระบี่? อยู่รอบๆตัวข้าเลย?
     


    พอลองหันมองไปรอบๆข้าก็เห็น เหล่าคนในพรรคทุกคน ชักกระบี่ออกมาอยู่ในมือแล้ว



    สายตาของทุกคนที่มองข้านั้น ยังเต็มไปด้วยความรักเหมือนเดิม ไม่มีจิตสังหาร หรือความคิดฆ่าฟันกันเลย
     


    แต่มือที่ถือกระบี่ของทุกคนนั้น กำจนแน่นกันมากเลย บางคนนั้นถึงกับเลือดออกจากมือเลยทีเดียว



    ถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นตอนนี้  ทำไมทุกคนถึงได้ทำเรื่องที่ข้าไม่เข้าใจ
     


    “ลูกรักของข้า...”



    “ในวันนี้ พวกข้าคงต้องขอให้เจ้าชดใช้ล่ะนะ..!!”
     


    สิ้นเสียงคำพูดสุดท้ายของท่านพ่อที่ข้ารักที่สุด คือบรรยากาศอันหนักอึ้ง ของจิตสังหารอันรุนแรง ที่ออกมาจากเหล่าลูกพรรคทั้งหลายที่อยู่ในที่ประชุม และที่หนักยิ่งกว่าคือของเหล่าหัวหน้าหน่วยกับผู้คุมกฎ แต่ยังไม่มีออกมาจาก ผู้อาวุโสของพรรคกับท่านพ่อ



    “ย๊ากกกกกกกกก”
     


    “ว๊ากกกกกกกกกกกก”



    “อ๊าาาาาาาาาาาาา”
     


    เสียงตะโกนอันสนั่นหวั่นไหวของเหล่าศิษย์และหัวหน้าหน่วยทั้ง 5 ที่มาพร้อมกับพลังลมปราณอันกล้าแกร่ง ทั้งหอประชุมถึงกับสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปกับความรุนแรงของลมปราณที่รวมกันเปล่งออกมานี้ พื้นเริ่มสั่น ดั่งแผ่นดินไหว เสียงเปรี๊ยงดังมาจากหลังคา ดั่งสายฟ้าฟาด หยั่งกับว่า ทุกอย่างจะพังทลายลงมาซะเดี๋ยวนั้นเลย
     


    และก่อนที่ข้าจะหันมองรอบตัวครบรอบ ผู้คนทั้งหมดที่เปล่งพลังออกมา ก็หันกระบี่มาหาข้า แล้วพุ่งเข้ามาพร้อมกัน



    เป้าหมายของพวกเขาคือการกำจัดข้าเป็นที่แน่นอนแล้ว ข้าสังเกตุได้จาก พลังลมปราณที่ผสมรวมกับจิตสังหาร มันยิ่งทวีคูณความหนักหน่วงและความตั้งใจของพวกเค้าที่ต้องการจะฆ๋าข้าให้ตาย
     


    ผู้ที่มาถึงตัวข้าเป็นคนแรกคือผู้คุมกฎพงไพร ที่มีความเร็วมากที่สุดในหมู่ผู้คุมกฎ กระบี่ของเขานั้นรวดเร็วจนสายตาของคนที่เพิ่งได้ฝึกฝนลมปราณแค่ไม่กี่เดือนอย่างข้า มองตามไม่ทัน



    และกระบี่นั้นก็ถูกแทงเข้ามาที่ตัวของข้า



    “กิ๊ง--------------------------------------”



    เสียงกระทบของกระบี่ดังยาว แหลมสูง ออกมาเพราะการปะทะ
     


    เหมือนกับช่วงเวลาที่หยุดลง



    ตัวข้า ณ ช่วงเวลานี้ มองเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้น เร็วขึ้น จนเหมือนกับว่า ข้าเป็นคนเดียวที่ยังขยับได้ในห้วงเวลานี้



    กระบี่ที่ผู้คุมกฎแทงใส่ข้า มันหยุดลงที่หน้าอกของข้า มีปราณสีดำเหมือนดั่งเปลวเพลิงพุ่งออกมาขวางมันไว้



    ปราณสีดำที่เป็นเหมือนเกราะป้องกันข้าจากกระบี่ เริ่มจางหายไป
     


    แล้วเวลาก็เหมือนกับจะเดินต่อ



    “เคร้ง -- - - กก  กก ก ก”
     


    เมื่อสิ้นเสียงดัง กลุ่มคนจำนวนมาก ก็ถึงกับชะงักไปทั้งหมด เมื่อพวกเขารู้สึกตัวถึงกระบี่ที่ผู้คุมกฎแทงใส่ข้า
     


    และทุกคนนั้น เห็นทุกอย่าง และอีกพริบตาต่อมา กระบี่นั้นได้หักลงไปแล้ว



    โดยที่ข้าก็ยังยืนงงอยู่ที่เดิม โดยที่ไม่ได้ทำอะไร



    และอีกพริบตาต่อมาที่มีคนสังเกตุเห็น คือท่วงท่าของผู้คุมกฎพงไพร ที่ยังตั้งท่าแทงใส่ข้าอยู่ แต่กระบี่กลับหักลงไปแล้ว
     


    ยังคงค้างอยู่ท่านั้น
     


    ข้ามองไปที่ตาของเขา จากจิตสังหารอันรุนแรงหนักหน่วงที่เคยปล่อยออกมาเมื่อกี๊ ก็หายไปแล้ว
     


    สายตาของข้า มองเห็น รอยยิ้ม ที่ยิ้มด้วยความยินดีออกมาจากหัวใจ
     


    และคำพูดของเค้าก็ออกมา



    “นายน้อย…..”
     


    ยังไม่ทันที่ข้าจะตอบกลับ กระบี่ของผู้คุมกฎพงไพร ก็เริ่มมีแสงสีดำ ผุดขึ้นมาจากปลายที่หักไป
     


    และภายในพริบตา
     


    แสงนั้นก็สว่างวาปดำทมึนผ่านร่างทั้งหมดของผู้คุมกฎพงไพร



    และสูญสลายหายไปกับตา



    “อ.......อะ อ”



    ทุกคนที่เห็นต่างอึ้งกับเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา



    คนที่พุ่งเข้าไปหมายเอาชีวิตอีกคน สลายหายไปไม่เหลือแม้แต่ซากศพ
     


    ข้าหันมองไปที่ทุกคนที่ยังอึ้งอยู่ แล้วพวกเค้าก็รู็สึกตัว และตั้งตัวได้กับเหตุการณ์เมื่อกี๊
     


    จากนั้น ก็พุ่งเข้ามาพร้อมจิตสังหารอันรุนแรง เพื่อที่จะสังหารข้าอีก



    เหตุการณ์อย่างเดิมก็เกิดขึ้นอีก
     


    เสียงกิ๊งจากการปะทะดังยาวแหลม ออกมาอีก



    แล้วกระบี่ที่ถูกฟันใส่ข้าก็หักลง แล้วคนที่ฟัน ก็สลายหายไปเป็นอากาศธาตุ
     


    “กิ๊ง--------------------------------------”



    “ฟู่ม--------”



    “กิ๊ง------------------”
     


    “ฟุ่มมมม””



    เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น
     


    เหล่าผู้มาร่วมประชุม ณ ที่นี่
     


    ก็สูญสลายหายไปเป็นอากาศธาตุ

     

    ยังคงเหลือแค่ ท่านพ่อของข้ากับพวกผู้อาวุโสเท่านั้น
     


    รวมข้าด้วย คนทั้งหมดในที่ประชุม เหลือเพียง 5 คน



    กับกระบี่ที่หักลงมากมายรอบตัวข้า จนนับไม่ถ้วน



    ตัวข้าซึ่งยังไม่สามารถทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้
     


    เกิดอาการเหมือนกับ เจ็บปวดที่หัวใจขึ้นมา หลังจากที่ได้เห็นภาพเหล่านั้น เมื่อไม่กี่อึดใจที่ผ่านมา
     


    ทุกๆคนหมายจะฆ่าข้า แต่เมื่อแสงสีดำปรากฎขึ้นมา พวกเค้าก็ สูญสลายไป
     


    ข้ารู้สึกปวดใจอย่างบอกไปถูก เพราะทุกคนที่สลายไปนั้น ล้วนเป็นผู้ที่ข้ารู้จัก และมีความรัก ความเชื่อใจให้กันมาโดยตลอด บางคนยังเล่นกับข้ามาตั้งแต่ข้ายังตัวเล็กๆด้วยซ้ำ



    และก่อนทุกคนจะสลายไป
     


    พวกเค้า ยิ้มให้กับข้า ด้วยความรัก ในตัวของข้า
     


    จิตใจของข้า เหมือนกับจะพังทลายลงมา ความเจ็บปวดที่แล่นเข้าสู่หัวใจของข้านั้น มันหนักหน่วงรุนแรง เกินที่ข้าจะรับไหวจริงๆ
     


    น้ำตาของข้า เริ่มเอ่อไหลออกมา จากตาทั้ง 2 ข้าง



    ข้ารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึั้น
     


    จากนั้นข้าก็เริ่มอาเจียน และอ้วกออกมา



    ตัวของข้าทรุดลงกับพื้น เพราะความบอบช้ำทางจิตใจที่ได้รับมานั้น



    รุนแรงเหลือเกิน



    สติของข้าเริ่มเลื่อนลอย คล้ายกับจะเป็นลมหมดสติไปตรงนั้น
     


    ก่อนที่ข้าจะหมดสติไป



    ด้านหน้าของข้า ก็มีผู้อาวุโส 3 คน และท่านพ่อ
     


    ทั้ง 4 คน ต่างยิ้มให้กับข้า
     


    และในพริบตานั้น
     


    ผู้อาวุโส ทั้ง 3 ก็ ชักกระบี่ แล้วพุ่งมาทางข้า เหมือนกับคนอื่นที่สลายไป

    แล้วเหตุการณ์เดิมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง



    กระบี่ที่หักลง และ ร่างกายที่สลายไปเป็นอากาศธาตุ ของผู้อาวุโสทั้ง 3



    “………”



    ในหัวของข้านั้น ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว มีแต่ความว่างเปล่า
     


    ความเจ็บปวดจากที่ตาของข้านั้นได้เห็น เหล่าผู้อาวุโส ที่ติดตามข้างกายท่านพ่อมาตลอด และยังดูแลข้ามาเป็นอย่างดีตั้งแต่ข้าเกิดมา



    ความรักของข้าที่มีต่อพวกเค้านั้น ดั่งกับเป็นท่านพ่ออีกคนนึงเลยก็ว่าได้ ทั้ง 3 คน



    แหลกสลายไปต่อหน้าต่อตาของข้า
     


    ลมหายใจของข้า เริ่มขาดห้วงไป น้ำตาที่หลั่งออกมา มันแห้งเหือดไป มีสิ่งอื่นไหลออกมาแทนน้ำตาของข้า



    หยดลงที่พื้น
     


    น้ำสีแดงสด กำลังหลั่งออกมาจากตาของข้า



    เลือดของข้าเอง ข้ากำลังหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด
     


    เพราะภาพที่ข้าเห็นและเหตุการณ์ที่ข้าประสบมา มันทำลายจิตใจและร่างกายของข้า จนแตกเป็นเสี่ยงไม่เหลือชิ้นดีอีกแล้ว



    ข้าไอออกมาเป็นเลือด ที่นิ้วของข้า เริ่มมีเลือดไหลออกมาจากปลายนิ้ว



    ใบหน้าของข้าที่เปรอะไปด้วยน้ำตาเลือด ที่กำลังแห้ง



    ข้าไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว



    จนกระทั่งข้าได้ยินเสียงๆนึง
     


    “ในที่สุด ทุกอย่างก็จบสิ้นกันซะที”
     


    เสียงที่คุ้นเคยนั้น เป็นของคนที่อยู่ด้านหน้าของข้า
     


    “ท่าน  . .  . . .    พ่อ . . .  . .  . .”

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×