คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF] DIFFERENT GALAXIES :: KRISHAN
DIFFERENT GALAXIES
Pairing : KRISHAN
………………………………………………………….
เสียงรองเท้าบาสราคาแพงเสียดสีกับพื้นยางในโรงยิม พร้อมกับเสียงของลูกบาสที่ถูกชู้ตลงห่วงพอดี เสียงนกหวีดของโค้ชดังเตือนหมดเวลาซ้อม ทำให้เด็กปีหนึ่ง ปีสองหลายคนที่หมดเวลาซ้อมรีบกรูกันออกจากโรงยิม เหลือไว้ก็แต่พี่ม.ปลายปีสาม และปีสองบางคนที่ได้เล่นเป็นตัวจริงของโรงเรียนเอกชน ชื่อดังแห่งนี้ ที่ต้องอยู่ซ้อมต่อ
“ทำไมวันนี้สนามบอลมันว่างจังว่ะ อย่าบอกว่าพวกแม่งได้เลิกซ้อมก่อนนะเว้ย!” อี้ฟานที่กำลังชู้ตจุดโทษอยู่ ระหว่างรอโค้ชหันมองไปที่สนามบอลที่ว่างเปล่าอย่างที่ชานยอลพูด ก่อนจะเดินไปเกาะลูกกรงของโรงยิม ตามเพื่อนตัวสูง เพื่อที่จะได้มองภายนอกได้ถนัดยิ่งขึ้น
“กูว่าไอ้จงอินแม่งต้องรีบชิ่งกลับบ้านไปแล้วแน่เลย แม่งกลัวเลิกซ้อมดึกละเจอตีนกูตอนเลิกซ้อม แม่งต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆเลย อี้ฟานมึงว่ามั้ย?” ชานยอลที่ยืนพูดปาวๆ สรุปเอาเองว่าคู่กัดของตัวเอง ที่เป็นนักบอลนั้นต้องกลัวเจ้าตัว จนรีบชิ่งซ้อมกลับบ้านไปแล้วแน่ๆ
“มึงว่าพวกนักบอลมันเลิกซ้อมกันนานยังว่ะ” อี้ฟานหันไปถามเพื่อนหูกางตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ไม่รู้สิ มึงจะไปสนใจทำไม แต่กูว่าไอ้จงอินมันต้องกลัวกูแน่ๆ เลยรีบเลิกซ้อมละกลับไปก่อน ชัวร์ๆแน่เลยมึง” คริสส่ายหัวให้กับความคิดต๊องๆของชานยอล ก่อนจะเดินกลับไปลงสนามอีกครั้งเมื่อโค้ชเรียก และภาวนาไม่ให้วันนี้ต้องเลิกซ้อมดึกจนเกินไป เพราะเค้าไม่อยากให้ใครอีกคน ที่เลิกซ้อมไปก่อนแล้ว ต้องรอนาน. . .
……………………………………………………………..
“สีดำดีกว่ารึเปล่าว่ะ? แต่สีแดงแม่งสวยอ่ะ สีเจ็บดีกูชอบ นี่รุ่นใหม่ด้วยมึง กูว่าเดี๋ยวมึงไม่ได้ซื้อละ รองเท้าบอลอ่ะ กูนี่จะซื้อเอง” ลู่หานเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวดำ ที่ยืนวิจาร์ณรองเท้าฟุตบอลอยู่ข้างๆตัว เป็นเพราะรองเท้าของลู่หานพัง และโค้ชก็ไม่ว่างมาซ้อม ทำให้เค้าและจงอินตัดสินใจว่าจะมาช่วยกันเลือก รองเท้าใหม่ในวันนี้
“จริงๆไม่ได้ซ้อมกูก็ดีใจนะเว้ย แต่กลัวไอ้ชานยอลแม่งจะหาว่ากูป๊อดว่ะ เมื่อกลางวันกูพึ่งด่ากับแม่งในห้องน้ำมา แล้ววันนี้ไม่ได้ซ้อมงี้ แม่งต้องหาว่ากูป๊อดชิ่งกลับบ้านแน่เลย”
“ไม่หรอก วันนี้ไม่มีใครได้ซ้อมเลยนี่ ถ้ามึงขาดซ้อมคนเดียวยังพอว่า”
“แหม่ มึงก็รู้ระดับสมองชานยอลมันไอ้ลู่ แม่งเห็นไม่มีคนซ้อมเข้าหน่อย ก็เหมาหมดนั่นแหละ ว่ากูกลัวมัน” ลู่หานส่ายหัวระอาให้กับความคิดของจงอิน เค้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านักบอล กับนักบาส ไปเกลียดกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน ทำไมเวลาเจอหน้ากันถึงได้จ้องจะเขม่นกันตลอดเวลา แล้วไม่รู้ว่าอาการแบบนี้ จะเป็นหนักโดยเฉพาะที่โรงเรียนเค้าด้วยรึเปล่า
เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว จงอินกับชานยอลได้จัดการปาร์ตี้มือเท้ากันสองคน ที่ป้ายรถเมลล์หน้าโรงเรียนมาแล้ว ถ้าไม่ติดว่ามีเซฮุนกับแบคฮยอนคอยห้ามไว้ ลู่หานก็คงจะไม่ได้เจอเพื่อนในวันนี้
“มึงรีบๆเลือกดิลู่ โอ๊ะ! เซฮุนจะเลิกเรียนพิเศษแล้วนี่หว่า กูไปละนะ ไม่อยากให้แฟนต้องรอนาน มึงก็รีบๆเลือก รีบกลับบ้านซะนะ เป็นสาวเป็นนางกลับบ้านดึกไม่ดี เกิดมึงโดนฉุดไป หม่ามี๊มึงเฉ่งกูหูดับแน่ๆ”
“เป็นสาวพ่อง! กูก็มีเหมือนที่มึงมีละว่ะ ไอ้ห่า ขอให้ไปไม่ถึงเซฮุน โดนสิบล้อเสยหน้าร้านนี้ก่อนเหอะมึง” ลู่หานยกนิ้วกลางใส่เพื่อนตัวดำ ที่หัวเราะแหะๆใส่และรีบวิ่งออกจากร้านรองเท้ากีฬาไป เพื่อรับแฟนที่สีผิวขาวตัดกับตัวเองเหลือเกิน
ทำมาเป็นกลัวแฟนรอนาน ลู่หานไม่อยากจะนินทาว่า มีแต่จงอินนี่แหละที่ไปรอนาน เซฮุนเลิกเรียนหกโมง พวกล่อไปยืนรอตั้งแต่ห้าโมงครึ่ง ไม่รู้จะหวงอะไรหนักหนา นินทาเพื่อนในใจได้สักพัก คนตัวเล็กก็หันมาสนใจ รองเท้าฟุตบอลมากมายตรงหน้าต่อ หยิบคู่สีแดงที่จงอินแนะนำเมื่อกี้ ขึ้นมาดู พลิกซ้ายขวาหาตำหนิ
และด้วยความที่ลู่หานมัวแต่สนใจรองเท้าตรงหน้า จึงไม่ทันได้สังเกตุถึงคนตัวโตที่กำลังค่อยๆย่องมาทางด้านหลัง ก่อนจะ. . .
แฮ่ซ์!!!
“เฮ้ย!! ไอ้อี้ฟานบ้า! เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง! สมน้ำหน้า!!” ลู่หานที่บ้าจี้ เมื่อโดนอี้ฟานที่ย่องมาทางด้านหลังจี้ที่เอว ก็ตกใจจนขว้างรองเท้าที่อยู่ในมือ ใส่หน้าคนขี้แกล้งเต็มๆ
“แกล้งนิดเดียวเอง ไม่เห็นจะต้องรุนแรงขนาดนี้เลยนี่นา” คนตัวสูงถูหน้าตัวเองแรงๆ จนลู่หานต้องควักผ้าเช็ดหน้าอีกฝ่าย อี้ฟานส่ายหน้า ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ เป็นสัญญานว่าให้ลู่หานเช็ดให้เค้าหน่อย คนตัวเล็กถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอาผ้าเช็ดหน้าโปะหน้าคนตัวสูงเต็มแรง จนอีกฝ่ายร้องเสียงดัง
“จะร้องทำไมเนี่ย!”
“ก็ลู่หานชอบรุนแรงกับฉันตลอดเลยนี่ แล้วนี่เลือกอะไรอยู่” ลู่หานเพยิดหน้าไปทางรองเท้าฟุตบอลทั้งหลายแหล่
“กะว่าจะซื้อคู่ใหม่นะ คู่เก่ามันขาดไปแล้วไง เมื่อวานก็บอกไปแล้วนี่”
“รองเท้าฟุตบอลนี่ไม่ค่อยทนเลยเนอะ รองเท้าบาสฉันสิ ใช้มาตั้งแต่ปีที่แล้วยังไม่มีท่าทีว่าจะพัง” ลู่หานหลี่ตามองอีกฝ่าย ที่ทำท่าอวดสรรพคุณรองเท้าบาสตัวเองเต็มที่ เริ่มเข้าใจสาเหตุที่นักบอลหลายคน ค่อนข้างที่จะหมั่นไส้นักบาส อย่างจงอินกับชานยอล ที่เจอหน้ากันแต่ละที ก็ตั้งท่าจะพุ่งเข้าใส่กันอย่างเดียว
“เริ่มเข้าใจแล้ว ว่าทำไมจงอินถึงได้หมั่นไส้ชานยอลนัก” พูดไปก็พลิกดูราคา รองเท้าสีดำแดงคู่นึง เป็นคู่ที่พึ่งเข้ามาใหม่ แถมสวยไม่หยอก แต่พอพลิกดูราคาแล้ว ลู่หานก็จำใจนำมันกลับไปวางไว้ ในที่ ที่มันควรจะอยู่ต่อไป
“ฉันไม่ได้น่าหมั่นไส้เหมือนเจ้าชานยอลซะหน่อย แล้วนั่นวางทำไม คู่นั้นสวยออกนะ มาใหม่แถมเบาสบายดีด้วยนี่” คนตัวสูงหยิบรองเท้าขึ้นมาดู ลู่หานเลยถือโอกาสพลิกป้ายราคาให้อีกฝ่ายดู อี้ฟานถึงกับอ้าปากเมื่อเห็นราคา แต่พอเห็นหน้าคนตัวเล็ก อี้ฟานก็รู้ว่าลู่หานอยากได้คู่นี้มากกว่าคู่ไหน
“พี่ครับ คู่นี้ มีเบอร์สี่สิบสองมั้ย?” ลู่หานหันควับมามองหน้าอี้ฟาน ที่กำลังรับรองเท้าราคาแพงฉีกอกเด็กมัธยมปลาย จากเจ้าของร้านพอดี
“เห้ย! อี้ฟานไม่เอา หม่าม๊ายังไม่ส่งเงินค่าขนมเดือนนี้มาให้เลย” ลู่หานพยายามกระเถิบตัวหนี จากคนตัวโตกว่าที่พยายามจะใส่รองเท้าให้เค้า เพราะคุณแม่ที่อยู่เมืองจีนยังไม่ส่งเงินค่าขนมเดือนนี้มาให้เค้าเลย เกิดซื้ออะไรแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ครึ่งเดือนที่เหลือ ลู่หานจะอยู่ได้ยังไง
“ใส่ได้พอดีด้วยแหะ ไหนเดินดูสิว่าใส่สบายดีรึเปล่า” ลู่หานจิกตาใส่อีกคน ที่ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปมา ตามที่อีกฝ่ายสั่ง และพบว่ามันใส่สบายอย่างที่เค้าคิดไว้จริงๆ อี้ฟานมองลู่หานที่กำลังยิ้มอย่างถูกใจรองเท้าคู่นี้ ก่อนจะยกยิ้มบางๆ และหันไปบอกให้เจ้าของร้านคิดเงิน นั่นทำให้อีกคนสะกิดแขนเค้ายิกๆ ว่าไม่เอาๆ
“ฉันซื้อให้เอง ไม่ต้องกลัวนายมีเงินใช้จนถึงสิ้นเดือนแน่นอน”
“แล้วมาซื้อให้ทำไมเล่า อี้ฟานก็เก็บเงินไว้ใช้เองสิ!” คนตัวเล็กกว่าขึ้นเสียง อี้ฟานเลิกคิ้วมองก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ หน้าลู่หานขึ้นสีจนแดงเหมือนมะเขือเทศสด
“ก็อยากซื้อให้แฟน ผิดตรงไหน?”
“แล้ววันนี้ทำไมไม่ซ้อมบอลกันล่ะ?” อี้ฟานที่พึ่งจัดของเข้าตู้เย็นเสร็จ เอ่ยถามลู่หานที่กำลังหั่นผักสำหรับมื้อเย็นวันนี้อยู่
“ก็โค้ชไม่มา อีกอย่างรองเท้าก็พังด้วย ยังไงก็ไม่ได้ซ้อมหรอก”
“เป็นกัปตันทีมบอลนี่เหนื่อยมั้ย?”
“เป็นกัปตันทีมบาสเหนื่อยมั้ยละ?” อี้ฟานยักไหล่ ลู่หานเลยแลบลิ้นใส่อีกฝ่ายก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำมื้อเย็นต่อไป โดยมีอี้ฟานรับหน้าที่หั่นเนื้ออยู่ข้างๆกัน
“วันนี้ชานยอลบอกว่าจงอินป๊อดกลับบ้านก่อนด้วยแหละ” ลู่หานหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเล่าเรื่องที่จงอินกลัวชานยอลจะบอกว่าตัวเองป๊อดเช่นเดียวกัน
“ไม่รู้จะจงเกลียด จงชังอะไรกันหนักหนาเนอะ” คนตัวเล็กที่บรรจงนำผักลงไปผัด บ่นไปทำกับข้าวไป ทำให้อี้ฟานที่ยืนอยู่อดยิ้มไม่ได้
“ต่อให้นักบาสกับนักบอลเกลียดกัน จงอินกับชานยอลทะเลาะกัน แต่ แค่. . .ฉันรักนายก็พอแล้วนี่” อี้ฟานยิ้มหล่อให้ลู่หาน ที่ยืนผัดผักเขินๆอยู่หน้าเตา
“นั่นสิ ทำไมนายแหกคอกมาจีบฉันได้”
“ลู่หานหน้าตาน่ารักมั้ง แค่เห็นหัวใจมันก็หล่นยวบไปกองอยู่ที่พื้นแล้ว จะเกลียดลงได้ยังไง” พูดจบอี้ฟานก็ต้องกระโดดหลบ ผักกาดหอมที่คนตัวเล็กแต่แก้มแดงโยนมา อี้ฟานหัวเราะ ก่อนจะยื่นจานให้คนตัวเล็กใส่ผัดผัก มันเป็นอย่างนี้มาประมาณปีกว่าเห็นจะได้ หลังจากที่อี้ฟานจีบลู่หานจนติด และขอย้ายรากฐาน จากบ้านหลังใหญ่ มาอยู่หอพักกับลู่หานแทน
หม่าม๊าและป๊าของลู่หานเป็นคนจีน เช่นเดียวกับอี้ฟานเหมือนกัน ทั้งคู่เป็นแค่เด็กจีนที่มาเรียนในเกาหลี แต่อี้ฟานจะมีภาษีดีกว่าลู่หานหน่อย ตรงที่เค้าเคยอยู่แวนคูเวอร์มาก่อน พอเข้ามาเรียนม.ปลายได้สองปี ทั้งคู่ก็ได้ขึ้นเป็นกัปตันทีมบอล และบาส โดยไม่มีลูกทีมบอลและบาสคนไหนลู่เลยว่า กัปตันทีมทั้งสองฝ่าย ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วเรียบร้อย
“นายเอารองเท้าบอลฉันไปเก็บไว้ที่ไหน?” เอ่ยถามคนตัวสูงที่ดูเหมือนจะหิวมาก เพราะอีกฝ่ายกินข้าวไม่พูดไม่จามาสักพัก
“ชั้นวางรองเท้า ข้างๆรองเท้าบาสฉันเลย” ลู่หานหันไปมองทางหน้าประตูห้องที่มีชั้นวางรองเท้าเล็กๆ ที่ตอนนี้มีรองเท้าสตั๊ดบอลสีดำแดงคู่ใหม่เอี่ยม โดยที่ข้างๆมีรองเท้าบาสสีดำแดงเช่นเดียวกันวางข้างกันอยู่
“อี้ฟานโรคจิตเหรอ ชอบเอาของเรามาวางไว้ข้างๆกัน” อี้ฟานยิ้มให้ลู่หาน ที่นั่งขมวดคิ้วมองเค้าอยู่
“ฉันอยากให้เราอยู่ข้างกันตลอดไปไง”
……………………………………………………………..
“มึงคอยดูเลยนะเว้ย เดี๋ยวเลิกซ้อมวันนี้แหละ ไอ้จงอินแม่งเจอตีนกูแน่ๆ” ชานยอลประกาศก้องห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในโรงยิม โดยที่ตอนนี้มีแค่จื่อเทากับคริสเท่านั้น ที่ยืนฟังอีกฝ่ายอยู่ โดยที่อี้ฟานตอนนี้กำลังรีบร้อนหนัก เพราะเมื่อกี้ก่อนที่เค้าจะเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้า แอบเห็นมาแล้วว่าลู่หานกำลังเก็บของลงกระเป๋าแล้ว ถ้าหากไม่รีบ เดี๋ยวลู่หานจะต้องไปยืนรอเค้าที่ร้านหนังสือนาน
“ปลงๆซะบ้างเถอะชานยอล จงอินมันคงไม่ได้ตั้งใจแกล้งมึงหรอก” จื่อเทาพยายามเอาน้ำเย็นเข้ารูป
“ไม่ได้ตั้งใจได้ไง มึงก็เห็นว่าน้ำแดงมันนองเต็มล็อคเกอร์กูขนาดนั้น แถมยังมีรายมือเหี้ยๆของแม่ง เยาะเย้ยกูอยู่ด้วย!” ชานยอลที่ถอดเสื้อบาสออกและเหวี่ยงฟึดฟัดลงที่พื้น
“จะเอายังไงก็แล้วแต่เหอะ แล้วอย่าลืมไปรับแบคฮยอนละมึง” จื่อเทาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วบอก ก่อนจะลาอี้ฟาน และรีบจ้ำอ้าวออกไปรับหวานใจของตัวเองเช่นเดียวกัน
“เฮ้ยๆ อี้ฟานๆมึงหลบมาเร็วๆ” ขณะที่กำลังเดินออกมารอรถเมลล์ที่ถนนใหญ่ ชานยอลที่สังเกตุเห็น เด็กช่างหลายสิบคนมายืนดักอยู่ ดึงอี้ฟานเข้ามาหลบหลังป้ายรถเมลล์ และชี้ให้ดูว่าลู่หานกับจงอิน และซิ่วหมินโดนล้อมอยู่กลางวง
“แม่งมาหาเรื่องพวกจงอินแน่เลยว่ะ เอาเลย! กระถืบไอ้จงอินแม่งเลย!” ชานยอลที่สังเกตุเหตุการณ์แล้วสรุป ว่ายังไงวันนี้พวกจงอิน ลู่หาน และซิ่วหมิน สามหนุ่มนักบอลไม่มีทางรอดตีนเด็กช่างได้แน่ๆ เอ่ยเชียร์อย่างออกรสหลังป้ายรถเมลล์
ต่างจากอี้ฟานที่ขมวดคิ้วแน่น เมื่อเห็นไอ้หน้าหักคนหนึ่งจับที่ข้อมือบางของลู่หานอย่างถือวิสาสะ ก่อนที่อีกฝ่ายจะสลัดมันออก
“กูว่าเราออกไปช่วยกันเหอะว่ะ” อี้ฟานที่ทำท่าจะเดินออกไปซัดเด็กช่างทั้งหลายให้ได้ ทำเอาชานยอลต้องรีบรั้งไว้
“ช่วยเหี้ยอะไร ปล่อยให้ไอ้จงอินโดนกระถืบไปนั่นแหละมึง รอดูอีกแปปนึง เดี๋ยวกูจะไปรับแบคฮยอนละ” ชานยอลพูดพลางถูมือ เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเค้า กำลังจะมีปาร์ตี้มือเท้ากันแล้ว
“ถามจริง มึงเกลียดอะไรจงอินมันหนักหนาว่ะ”
“ก็แม่งเป็นนักบอล คิดว่าเจ๋งนักรึไง”
“ถ้าสาเหตุที่มึงเกลียดมัน แค่เพราะมันเป็นนักบอลละก็ กุขอบอกไว้ตรงนี้เลย ว่าแม่งโคตรไร้สาระ! มึงอยู่ม.ปลายปีสามแล้วนะชานยอล ถ้ามึงไม่ไปช่วยมัน เดี๋ยวกูนี่แหละ จะไปเอง” อี้ฟานว่าก่อนจะรีบวิ่งออกจากด้านหลังป้ายรถเมลล์ เมื่อเห็นว่าจงอินทำการเปิด ซัดหน้าฝ่ายตรงข้ามเข้าไปแล้ว
“เฮ้ย! ไอ้เหี้ยคริส!!” ชานยอลตะโกนเรียกเพื่อนตัวสูงที่ออกไปปาร์ตี้ตีนช่วยพวกจงอินเอาไว้ ก่อนจะก้มมองนาฬิกา ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่แบคฮยอนเลิกซ้อมแล้ว
“ลูกผู้ชายต้องช่วยเพื่อนก่อนเว้ย!” เอ่ยบอกตัวเองเบาๆ ก่อนจะวิ่งไปร่วมวงตะลุมบอนตรงหน้าด้วยอีกคน. . .
……………………………………………………………..
“สรุป พวกมึงแอบคบกันจะสามปีแล้ว ขอบคุณนะ ลู่มึงแม่งไม่เคยบอกอะไรกูเลย” จงอินที่หน้าตาพกช้ำดำเขียว บอกเพื่อนงอนๆ ก่อนจะหันหน้าไปให้เซฮุนทำแผลต่อ
“มึงด้วยอี้ฟาน เกือบจะสามปีแล้ว! ทำไมกูไม่รู้อะไรเลยว่ะ!” ชานยอลโวยวาย ก่อนจะร้องเสียงดัง เมื่อแบคฮยอนกดสำลีลงตรงแผลที่มุมปาก
หลังจากที่อี้ฟานเข้าไปช่วยลู่หานที่ช่วยจงอินอยู่นั้น ก็ตามมาด้วยที่ชานยอลเข้าไปอีกคน ทำให้แบคฮยอนและเซฮุน ที่รอแฟนๆของตัวเองมารับนานเกินไป จนตัดสินใจเดินออกมาจนถึงถนนใหญ่ และได้เห็นสาเหตุของการที่ทั้งชานยอลและจงอินมารับตัวเองสาย จนต้องรีบตะโกนว่าตำรวจมาๆ ทำให้เหตุการณ์ตะลุมบอนตรงหน้า สงบลงได้. . .
“แล้วนี่พวกมึงย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วเนี่ยนะ ขนาดกูยังต้องไปส่งเซฮุนที่บ้านอยู่เลย” สาบานได้ว่าอี้ฟานจับน้ำเสียงอิจฉาๆ ของจงอินได้ เพราะตอนนี้ทั้งจงอิน เซฮุน ชานยอล และแบคฮยอน มาขอพักทำแผลที่ห้องของ อี้ฟานและลู่หาน ที่อยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุสักเท่าไหร่นัก ผิดกับซิ่วหมิน ที่ตอนนี้โดนจงแดลากไปโรงพยาบาลแล้วเรียบร้อย
“กูขอโทษ ที่ปิดบังมึงมาตลอดนะจงอิน ก้ช่วงนั้นมึงตามจีบเซฮุนอยู่นี่ กูก็เลยไม่อยากจะพูด แถมมึงก็สาปแช่งพวกนักบาสอยู่ทุกวัน แล้วกูจะพูดได้ไง ว่ากูมีแฟนเป็นกัปตันทีมบาสอ่ะ”
“มึงด้วยชานยอล ด่าพวกนักบอลอยู่ทุกวัน แล้วกูจะพูดได้ไง ว่ามีแฟนเป็นกัปตันทีมบอล” ชานยอลกับจงอิน พยักหน้าส่งๆ ก่อนจะร้องซี้ด เมื่อแฟนๆของตัวเองทำแผลแรงเกินไป
“ทีนี้เรื่องของกูกับอี้ฟานก็ไม่เป็นความลับแล้ว มึงกับชานยอลจะดีกันได้ยัง? เพราะกูกับอี้ฟานคงไม่สบายใจเท่าไหร่ ถ้าพวกมึงยังจ้องจะกัดกันตลอดเวลาแบบนี้” จงอินที่นั่งหันหน้าอยู่ หันหลังกลับไปหาเซฮุนทันที พอๆกับชานยอลที่แลบลิ้น จนต้องโดนแบคฮยอนหยิกแขน
“ให้ตายฉันก็ไม่มี. . .โอ้ย! แบคฮยอนหยิกทำไม!” ชานยอลที่หันไปโวยวายใส่แฟนตัวเล็ก ก่อนจะต้องยื่นมือมาข้างหน้า พร้อมๆกับจงอินที่ต้องทำเช่นเดียวกัน โดยที่มีเซฮุนยืนยิ้มเหี้ยมอยู่ข้างหลัง
รองกัปตันทีมบาสและบอล ต้องยอมจับมือสงบศึกกันอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้ว่าสายตาที่มองกันจะยังคงไม่เป็นมิตรนัก แต่ลู่หานก็มั่นใจ ว่าสักวันนึงสองคนนี้จะเป็นเพื่อนกันได้แน่ๆ
“เจ็บมากมั้ย?” เมื่อจบเรื่องของพองเพื่อนแล้ว ลู่หานก็หันมาถามไถ่อาการอี้ฟานทันที
“นึกว่าจะไม่ถามซะแล้ว” ลู่หานส่ายหัวให้คนตัวสูง ที่ตอนนี้ยื่นหน้ามาให้เค้าทำแผล
“สุดท้ายก็ปิดพวกนั้นไม่ได้เนอะ” คนตัวเล็กชวนคุย อี้ฟานได้แต่อมยิ้ม จริงๆเค้าก็ไม่เคยจะคิดปิดบังเรื่องลู่หานกับชานยอลอยู่แล้ว เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้แถม แล้วก็มัวแต่สนใจแบคฮยอน เลยไม่เคยได้รู้ต่างหาก ว่าอี้ฟานมีแฟนนานแล้ว
“จริงๆต่อให้เป็นนักบาสหรือนับอลก็ไม่เกี่ยวเลยนะ ต่อให้อี้ฟานเป็นอย่างอื่น ฉันก็ต้องรักอี้ฟานอยู่แล้ว”
“อุ้ย โดนเสี่ยวลู่บอกรักด้วยอ่ะ โอ้ย!!” อี้ฟานร้องเสียงหลงเนื่องจากโดนลู่หานเอาแอลกอฮอลล์ป้ายแผลอย่างแรง ก่อนจะอมยิ้มเพราะแก้มที่ขึ้นสีของลู่หาน
“ครั้งเดียวหรอก ที่บอกรักอี้ฟานนะ”
“เสี่ยวลู่บอกรักฉันตั้งหลายครั้งแล้วต่างหาก”
“ตอนไหน?”
“ก็ตอนที่อยู่บนเตียงไง เสี่ยวลู่เอาแต่ โอ้ย! เรียกชื่อฉันซ้ำๆ โอ้ยๆ! เสี่ยวลู่เจ็บนะ เบาๆมือหน่อยสิๆ โอ้ยๆ!” ลู่หานที่ตอนนี้หัวหูแดงไปหมดเพราะพิษเขิน กระหน่ำปาเศษสำลี และหมอนแถวนั้นใส่อี้ฟานเป็นการใหญ่
“อี้ฟานบ้า! ลามก! นักบาสบ้า! ฉันเกลียดนักบาสแล้ว!!” ลู่หานที่เมื่อกี้ พึ่งจะบอกให้จงอินกับชานยอลคืนดีกัน คราวนี้กับเป็นฝ่ายขว้างปาข้าวของ ใส่คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนตัวเอง
“ถึงฉันจะเป็นนักบาสบ้าๆ แต่ก็รักเสี่ยวลู่มากนะ โอ้ยยยยยยย!!” คนตัวสูงร้องเสียงหลง เมื่อคนที่ตัวเล็ก แต่แรงไม่น้อย ปาหนังสือเล่มเล็กๆมาเจาะกลางหน้าผากเค้าเต็มๆ อาเมน. . .
THE END. [จบเหอะ]
เข็นช๊อตฟิคป่วงๆออกมาเรื่องนึง แบบว่ามันคันไม้คนมือ
อยากแต่งม๊ากกกกกกกกกกกก พลอตมีมาตั้งแต่วันพฤหัส
ลงมือแต่งจริงๆวันจันทร์- - ฟีลมันหายไปเกือบจะหมด
แต่ก็ยังพอจำเค้าโครงเรื่องได้อยู่บ้าง
นิชก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมต้องเป็น Different Galaxies
แค่รู้สึก ว่าเหมือนเค้าสองคนอยู่กันคนละโลก
แต่ก็ยังมารักกันได้ นี่ละมั้งคะ เลยออกมาเป็นฟิคป่วงๆเรื่องนี้
คิดว่าคำผิดคงจะมีแน่ๆ รบกวนมโนให้ถูกกันด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์เลยนะคะ^^
ความคิดเห็น