คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF] PIECE OF LIFE :: KAIHUN
Author : TANNITCH
Pairing : KAIHUN
………………………………………………………….
เสียงดนตรีคลาสสิกเบาๆเปิดคลอไปทั่วทั้งสถานที่จัดงานแสดงภาพ ที่กินพื้นที่ถึงหนึ่งชั้นในตึกใหญ่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยภายในงานนั้นถูกแบ่งออกเป็นสี่โซน แต่ละโซนก็จะมีรูปภาพที่แตกต่างกันออกไป อย่างโซนแรกจะเป็นรูปวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหลายๆประเทศ ส่วนโซนที่สองนั้นเป็นโซนของอาหารหน้าตาหน้ากิน ของหลากหลายประเทศอีกเช่นเดียวกัน โซนที่สามนั้นเป็นโซนของเหล่านายแบบ นางแบบที่ได้รับการถ่ายรูปจากเจ้าของงาน
และ. . .โซนสุดท้าย เป็นโซนที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดเพราะเป็นโซนที่มีภาพเหล่าบุคคลอันเป็นที่รักของเจ้าของงาน ทั้งพ่อ แม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอา ส่วนสาเหตุที่ทำให้โซนนี้ถูกกล่าวถึงมากที่สุดนั้นก็ คือ รูปหลักของงานที่เจ้าของงานบอกว่าเป็นรูปคนรักของเขา ตอนนี้คิดว่าทุกคนคงอยากรู้จักเจ้าของงานกันแล้วใช่มั้ยล่ะ? เจ้าของงานน่ะเค้าชื่อ. . .โอ เซฮุน
หลังจากขึ้นต้นกันมายาวพอสมควร เซฮุนที่ตอนนี้กำลังยืนมองรูปหลักของงานอยู่ ก็หันไปมองรอบๆนิทรรศการแสดงภาพของเค้า โดยที่ตอนนี้กำลังมีผู้คนยืนชมรูปภาพต่างๆในงานอยู่พอสมควร เซฮุนยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าผู้คนในงานหลายคนนั้น ดูจะชอบรูปภาพของเค้าอยู่ไม่น้อย
“เซฮุน” เสียงเรียกข้างหลังทำให้ เซฮุนต้องหันไปมองก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าเป็นใคร
“พี่คริส มานานรึยังเนี่ย แล้วพี่ลู่หานล่ะ?” เมื่อมองไปข้างกายนายแบบหนุ่มที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่มาดังที่ญี่ปุ่น แล้วไม่เห็นวี่แววคนรัก ที่ปกติจะถูกคริสหนีบไปไหนมาไหนด้วยบ่อยๆ จนเซฮุนอดคิดไม่ได้ ว่าบางทีสองคนนี้อาจจะมีเนื้องอกออกมาติดกัน จนกลายเป็นปาท่องโก๋ไปแล้วก็เป็นได้
“ยืนดูรูปพี่อยู่ทางมุมนั้น นายแบบหล่อก็เงี้ยแหละ”
‘ป้าป!’ เสียงของฝ่ามือกระทบกับศรีษะอย่างแรง!
“นายแบบหล่อที่ไหน คนถ่ายเก่งต่างหากล่ะ” ว่าจบก็เอามือขึ้นมากอดออก และเชิดหน้าอย่างน่ารัก
“นี่ฉันเป็นแฟนนายนะ ลู่หาน!” คนตัวสูงหันไปโวยใส่คนตัวเล็กกว่า ที่ตบหัวเค้ามาได้เต็มแรงรัก(?)มากเลย นี่นายแบบดังนะ ถ้าเกิดบุบสลายขึ้นมาจะทำยังไง?
เซฮุนได้แต่ขำให้กับความน่ารักของคู่นี้ จริงๆแล้วลู่หานเป็นคอสตูมอยู่ในนิตยสาร ที่เค้าเป็นช่างภาพให้ ส่วนคริสก็เป็นนายแบบดังที่มาถ่ายให้กับนิตยสารของเซฮุน แล้วไม่รู้ไปปิ๊งกับลู่หานอิท่าไหน อยู่ๆคริสก็มาขอให้เซฮุนไปขอเบอร์ ลู่หานให้ซะนี่ และสุดท้ายก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็นน่ะแหละ
“แล้วพอจบงานนี้ เซฮุนจะทำอะไรต่อ?” ลู่หานถาม เพราะอยากรู้ว่าตากล้องฝีมือดีคนนี้จะรับงานอะไรต่ออีก โดยที่ไม่สนใจคริสที่กำลังขยี้หัวเค้าอย่างเมามันส์อยู่
“ผมจะกลับเกาหลีแล้วละ เค้ารอมาสองปีแล้ว” ว่าจบก็หันไปมองรูปหลักของงานที่อยู่ข้างหลังตัวเอง นั่นทำให้คริสกับลู่หานถึงบางอ้อ มิน่าทำไมนิตยสารถึงต้องเปิดรับสมัครช่างภาพใหม่ เพราะเซฮุนลาออกแล้วนี่เอง
“ว่าแต่ พี่ลู่หานเห็นรูปตัวเองรึยัง? อยู่ทางโน้นน่ะ” เซฮุนว่า และภายมือไปทางโซนที่สี่ของงานและแอบ บอกเพิ่มไปว่าอยู่ด้านในหน่อยน่ะ เมื่อฟังจบก็ดูลู่หานจะดี้ด๊าขึ้นมาทันทีเพราะไม่คิดว่าจะมีรูปตัวเองที่โดนช่างภาพมือดีถ่ายไว้ด้วย ก่อนลู่หานจะลากคริสไปดูรูปกัน คุณนายแบบก็แอบทำหน้าเคียดแค้นใส่เซฮุน ด้วยสาเหตุที่ว่า
‘ทำไมไม่เอารูปลู่หาน ไว้ใกล้ๆรูปฉัน!’ ท่าจะเป็นเอามาก= =
หลังจากหนึ่งคู่รักได้เดินจากไปแล้ว เซฮุนก็หันไปเห็นสปอนเซอร์หลักของงาน จริงๆงานครั้งนี้ของเค้ามีได้ก็เพราะมีสปอนเซอร์ใหญ่หลายๆคน และการที่เค้าจะมายืนดูรูปหลักของงานอยู่ก็ใช่ที่ บางทีเค้าก็ควรจะไปพูดคุยกับพวกผู้ใหญ่บ้างเหมือนกัน
“อ้าว!คุณเซฮุนมาพอดีเลย นี่จะจัดงานแสดงภาพแบบนี้อีกเมื่อไหร่เหรอครับ?” หลังจากที่เค้าเดินเข้ามาโค้งให้ เจ้าของนิตยสารดังกับภรรยา(?)ที่เค้าทำงานอยู่ ชองยุนโฮและชองแจจุง(?)ก็หันมาพูดคุยกับเค้าทันที จะว่าไงดีล่ะเค้าชอบคุณยุนโฮน่ะ เป็นกันเองดีรวยแล้วไม่หยิ่งแถมภรรยา(?)สวยด้วย
“คือ. . .คิดว่าคงจะไม่ได้ทำงานที่ ญี่ปุ่นอีกแล้วล่ะครับ” เซฮุนว่าพลางทำหน้าเจื่อนๆ ลาออกจากนิตยสารเค้ามาไม่กี่วันพอรู้ ว่าเค้าจะจัดงานนิทรรษการรวมภาพ คุณยุนโฮก็ยังอุตส่าห์ใจดีเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ให้งานแสดงภาพของเค้าอีก จะให้มาบอกว่าจะไปจากญี่ปุ่นอีก บอกตรงๆเซฮุนก็แอบกระดากปากน่ะ= =
“อ้าว!ทำไมละฮะ? เสียดายฝีมือแย่เลย” แจจุงถาม นั่นทำให้เซฮุนต้องยิ้มเจื่อนๆหนักกว่าเดิม
“คือผมสัญญากับคนนึงไว้นะฮะ ว่าถ้าทำงานครบสองปีแล้วจะกลับไปหาเค้า” เซฮุนพยายามพูดแบบอ้อมๆแต่ให้แจจุงกับยุนโฮเข้าใจ และดูเหมือนว่ามันจะได้ผล เมื่อแจจุงตอบกลับมา
“แล้วผมจะคอยรอการ์ดเชิญนะฮะ^^”
………………………………………………………
เสียงของนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ติดอยู่ตรงผนัง คอยดังติ๊กๆบอกเวลาวินาทีของมันอยู่อย่างปกติ ในขณะที่ เจ้าของห้องทำงานดูเหมือนวันนี้จะไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ เมื่อเค้าเห็นวันที่ในปฏิธินที่ถูกวงด้วยหมึกสีแดงๆเอาไว้ และเค้าก็รับรู้ได้ว่าวันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของร่างบางของเค้า ที่. . .อยู่กันคนละที่ จริงๆแล้วเค้าอวยพรร่างบางของเค้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้วละ แต่ที่มานั่งกังวลอยู่นี่คือ จะมีคนมาจีบเซฮุนรึเปล่าวะ?!!!
“ยู้ฮู~ ไอ้คุณจงอิน” หลังจากอยู่ในภวังค์ของตัวเองได้ไม่กี่นาที ก็มีเสียงของ ปาร์ค ชานยอล ที่ดังมากระทบโสตประสาทให้รำคาญเล่นไม่พอ ฮียังเดินมาเปิดประตูห้องทำงานจนกระแทกกำแพงดังปัง! เดี๊ยวประตูหักกูจะเก็บค่าเสียหาย- -
“มีอะไรที่ยังไม่ได้เซ็นต์อีกรึไง?” จงอินหันมาถามชานยอลด้วยเสียงจริงจัง แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าเค้าจะไม่ได้ใส่ใจกับมันเลยสักนิด
“พอดีวันนี้แบคฮยอนจะกลับไปหาแม่ ฉันก็เลยคิดว่าจะมาชวนนายไปดริ๊งดรั๊งตามประสาคนเมียไม่อยู่กันสักหน่อย” หลังจากที่ชานยอลร่ายยาวเป็นบบรทัดเสร็จแล้ว และทำหน้าวิงวอนให้จงอินตอบตกลง
“ฉันไม่ไปหรอก วันนี้ไม่ว่าง” จงอินว่าก่อนจะหยิบมือถือกับสูทขึ้นมาเตรียมตัวกลับบ้าน
“แกก็ไม่ว่างทุกวันอ่ะ” ตั้งแต่เซฮุนไม่อยู่จงอินก็ไม่เคยออกไปดริ๊งดรั๊งกับพวกเค้าอีกเลย ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอะไร แต่ของฟันธงว่าต้องมีเซฮุนเป็นเหตุหลักแน่ๆ
“นายจะไปกินกันก็ไปสิ แต่การที่ท่านประธานจะโดนเมีย(?)ตัวเองลากออกจากร้านเหล้า มันคงไม่ดูดีเท่าไหร่หรอกมั้ง ปาร์คชานยอล” นี่ใช่มั้ย คือสิ่งที่จงอินต้องการ! มาสร้างความหวาดกลัวแบคฮยอน ให้กับชานยอลเสร็จก็จากไป~ เชอะ! ไอ้รองประธาน
“วันนี้ก็กลับบ้านแล้วกันเนอะ” ชานยอลพูดกับตัวเอง นี่ ไม่ใช่ว่ากลัวเมียหรอกนะ แต่เห็นว่าไอ้จงอินมันหวังดีไม่อยากให้เค้าตับแข็ง ก็เลยกลับบ้านดีกว่า จริงๆนะ เชื่อชานยอลสิ= =
………………………………………………………
เสียงฝนที่ตกอยู่ภายนอก และเสียงรถยนต์ข้างๆบีบแตรใส่กัน นั่นทำให้เซฮุนแอบหงุดหงิดเล็กๆขณะที่นั่งอยู่ในรถของตัวเอง ฝนก็ตกรถก็ติดยังจะมาบีบแตรใส่กันอีกเพื่อ? บีบไปสัญญานไฟจราจรข้างหน้ามันก็ไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียวให้หรอกน่า เซฮุนนั่งพึมพำในใจ(?) บนรถยนต์คันเล็กมินิคูปเปอร์ ของตัวเองไปด้วย
“เฮ้อ~” ร่างบางถอนหายใจพรืดออกมา เมื่อนึกถึงสถานการ์ณแสนวุ่นวายข้างนอก เค้าเพิ่งจัดงานนิทรรศการรวมภาพเสร็จ นี่เป็นงานใหญ่งานแรกและงานสุดท้ายของดซฮุน เนื่องจากเค้าใช้เวลาสองปีที่ตัวเองได้ขอไว้ ได้อย่างคุ้มค่าแล้ว เค้าได้ทำสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝันที่สุด นั่นก็คืองานแสดงนิทรรศการรวมภาพถ่ายของเค้า และเค้าคิดว่ามันก็ได้รับผลตอบรับที่เดียวทีเดียว แม้จะน่าเสียดายสักหน่อยที่ต่อไปนี้เค้าจะไม่ได้ทำงานอีกแล้วก็ตาม
โดยส่วนตัว เค้าไม่รู้สาเหตุที่จงอินบอกว่าถ้าครบสองปีแล้วจะไม่ให้เค้าทำงานอีกแล้วหรอกนะ แต่ถ้าคิดจะถาม เค้าก็คงจะได้คำตอบที่ดีกลับมาแน่ๆ
‘Rrrrrrrrrrrrrrrrrr~ Rrrrrrrrrrrrrrrrrrr~’ เสียงจากมือถือไฮเทคนามไอโฟนดังขึ้น ทำให้เซฮุนต้องหลุดออกจากภวังค์และรีบหันมากดรับสายที่กำลังโทรเข้ามาทันที เมื่อเห็นรายชื่อคนที่โทรเค้ามา ‘จงอิน จุ้บุ้❤’
“ฮัลโหล” เซฮุนว่า ก่อนที่มือจะควานหา สมอลทอล์คที่เซฮุนแอบจำได้ว่าอยู่ในลิ้นชักในรถเค้านี่แหละ
“….”
“โทรข้ามประเทศมาเงียบเนี่ย~ รวยไปมั้ยครับคุณจงอิน?”
‘วันนี้ที่งานมีคนเข้ามาจีบรึเปล่าเนี่ย?’ เมื่อจบประโยคเซฮุนถึงกับยิ้มออกมา เพราะความน่ารักของแฟนหนุ่ม(?) โทรมาคำแรกก็หึงกันเลยหรอ~
“ไม่มีหรอกน่ะ คิดมากไปได้”
‘แล้วนี่กินอะไรรึยังอ่ะ? อยู่ที่ไหนเนี่ย?’ เมื่อความกังวลข้อแรกหายไปแล้ว คิมจงอินก็รัวคำถามมาเป็นชุด
“ยังไม่ได้กินอะไรเลย เดี๊ยวกลับบ้านไปจะกิน แล้วก็ตอนนี้อยู่บนรถแต่ไม่ได้ขับน่ะ ติดไฟแดงอยู่” สาบานได้ว่าเซฮุนได้ยินเสียงจิ๊ปากจากปลายสาย เพราะเค้าพูดดักคอจงอินไว้ก่อนเรื่องขับรถ ลองบอกว่าขับรถอยู่ดูสิ จงอินได้บ่นรูหูฉีกจนถึงพรุ่งนี้เช้าแน่
‘แล้วนี่เอารถใครมาขับเนี่ย? มีรถเรอะ!’
“ก็ใครส่งรถมาให้ขับ ก็รถคันนั้นแหละ!” ใครจะไปรู้ว่า คิมจงอินที่จริงๆแล้วเป็นรองประธานของบริษัท ส่ง-ออกนำเข้ารถยนต์ทั้งในและต่างประเทศ ฟังดูรวยมหาศาลเลยใช่มั้ยล่ะ แต่ไม่น่าเชื่อว่าคนๆนี้ จะเคยขอ. . .เซฮุนแต่งงานมาแล้ว
‘อีกสองวันก็จะครบสองปีแล้วน่ะ อย่าลืมสัญญาของเรา’ อยู่ๆจงอินก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา เล่นเอาเซฮุนปรับอารมณ์ตามไม่ทัน
“รู้แล้ว ทวงจังเลยนะ พรุ่งนี้ก็จะกลับแล้วเนี่ย”
‘อื้ม ฉันยังจำวันนั้นได้อยู่เลยน่ะ’ เซฮุนเงียบไป ใช่ เซฮุนเองก็จำวันนั้นได้เหมือนกัน…
………………………………………………………
“จัดห้องทำอาหารเอง อารมณ์ไหนเนี่ย?” เอ่ย ออกมาอย่างอึ้งๆ เมื่ออย่ๆจงอินก็โผล่มารับเค้าจากที่ทำงาน และบอกว่าจะพามากินข้าวที่บ้าน เรารึก็นึกว่าจะพาไปหาคุณนายคิม แต่ ก็ไม่ใช่พี่แกเล่นพามาคอนโดตัวเอง แถมพอเปิดห้องมาก็เจอโต๊ะดินเนอร์กลางแสงเทียน และมีแจกันดอกไม้ตั้งอยู่กลางโต๊ะ ที่มีสปาเก็ตตี้ของโปรดของ เซฮุนวางไว้สองจาน แถมยังมีไวน์ที่ไม่รู้ว่ามันตั้งแต่ ค.ศ.อะไรหรอกนะ แต่คิดว่าคงจะนานน่าดู แช่อยู่ในถังน้ำแข็งอีกกด้วย นี่คิมจงอินต้องการจะทำเซอร์ไพร์ซอะไรเค้ารึเปล่า?
“เงียบๆ แล้วก็กินมันเข้าไปเถอะน่า” จงอินว่าก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ออกให้เซฮุนนั่ง และหันกลับไปนั่งที่ตัวเองบ้าง ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มลงมือกินกัน
“อื้ม~ อร่อยดีนี่นา ทำอาหารเก่งก็ไม่บอกกันน่ะ” เซฮุนเอ่ยชมหลังจากที่กินคำแรกเข้าไปแล้ว และด้วยความหิวหรือความอร่อยจริงๆก็ไม่รู้ ทำให้หนูน้อยฮุนนี่ไม่ได้สังเกตุเลย ว่าอีกฝากของโต๊ะมีคนลุ้นตัวแทบโก่ง ให้เซฮุนเจออะไรบางอย่างที่อยู่ในจานสปาเก็ตตี้ใบนั้น
‘แก๊ก’ หลังสิ้นเสียงนี้ สิ่งที่ตามมาคือฟันเซฮุนแทบร่วง! อะไรมันอยู่ในจานสปาเก็ตตี้เนี่ย?
“แหวน?” แหวนเพรชน้ำงามที่ตอนแรกอยู่ในจานสปาเก็ตตี้ และตอนที่สองก็อยู่ในปาก และตอนนี้มันก็มาอยู่ในมือเซฮุนแล้วเรียบร้อย เงยหน้ามองจงอินเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงมองแหวนในมืออีกครั้ง จริงอยู่ที่ตอนเป็นแฟนกันจงอินก็ซื้อแหวนคู่มาใส่ให้เค้าด้วย บางที นี่อาจจะเป็นแหวนวงใหม่
แต่ ที่เซฮุนเห็นอยู่นี่ตัวแหวนทำมาจากทองคำขาว แล้วก็มีเพรชเม็ดไม่ใหญ่มากประดับอยู่ตรงกลางของแหวน และข้างๆก็มีเพรชเม็ดกลางนั้นก็ยังมีเพรชเม็ดเล็กๆอีกสองอันประกบข้างซ้ายขวาของเพรชเม็ดกลางอีกด้วย รวมๆแล้วแหวนวงนี้ดูจะแพงเกินไป ถ้าจะเอามาใส่ตอนที่ยังเป็นแฟนกันอยู่ละก็นะ
ยังไม่ทันตั้งตัวอยู่ๆ จงอินก็เดินมาหยิบแหวนออกจากมือเซฮุน ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าจับมือบางขึ้นมา และบรรจงสวมแหวนสวยเข้าไปในนิ้วนางข้างซ้าย ของเซฮุนอย่างเบามือ
“เซฮุนครับ. . .แต่งงานกับจงอินนะ” ว่าจบก็ค่อยๆจูบเบาๆที่มือข้างซ้ายของเซฮุน
“เอ่อ. . .จะ. . .จงอิน”
“ฉันรู้ว่ามันอาจจะเร็วเกินไป เราเพิ่งจะคบกันมาแค่สี่ปีเอง”
“…..”
“แต่. . .ฉันอยากให้นายรู้ว่า ไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง ฉันก็จะยืนอยู่ข้างๆนายเสมอ เราจะรักกันตลอดไป. . .” จงอินบอกก่อนจะบีบมือของเซฮุนนิดๆ เหมือนเป็นการย้ำให้เค้ารู้ว่า เราจะไม่ปล่อยมือไปจากกันแ ละเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปจริงๆ
“เอ่อ. . .ขอเวลาสองปีได้มั้ย? คะ. . .คือ. . ฉันอยากจะทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จก่อน” เพราะตอนนี้เซฮุนยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เค้ายังไม่ได้เดินทางไปหลายๆประเทศอย่างที่ตัวเองฝัน และยังไม่ได้จัดงานแสดงภาพของเค้าเลย ยิ่งถ้าเค้ามาแต่งงานทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำตามความฝันแบบนี้ เค้าอาจะดูแลจงอินได้ไม่เต็มที่ เค้าอยากที่จะแต่งงานเมื่อเค้าพร้อมจริงๆ
“…..”
“นะ. . .จงอิน พอครบสองปีแล้ว ฉันจะไม่ขออะไรจากนายอีกเลย”
“นายจะไปที่ไหน?” ที่จงอินถามแบบนี้เพราะรู้อยู่แล้ว ว่าความฝันของเซฮุนคืออะไร ยังไงเค้าก็คงห้ามร่างบางไม่ได้ แต่อย่างน้อย. . .เค้าก็แค่อยากจะรู้ว่าคนรักของเค้า จะไปอยู่ที่ไหนก็เท่านั้นเอง
“อาจจะญี่ปุ่น หรือที่อื่นๆอีกก็ได้ ฉันอยากที่จะพบเจอโลกอีกหลายๆที่”
“. . .ก็ได้. . .แต่นายต้องสัญญาว่าพอครบกำหนดสองปี นายต้องกลับมาเกาหลีและจะไม่มีสิทธิทำงานอะไรอีก” จงอินยื่นคำขาด ถ้าไม่ตกลงก็ไม่ต้องไปไหนกันละวันนี้
“ตกลง! รักจงอินที่สุดเลย!” ว่าจบก็โผกอด จงอินที่ยังนั่งคุกเข้าอยู่ที่พื้น ก่อนจะหอมแก้มไปฟอดนึง
“ส่วนนี่ ฝากไว้ก่อนได้มั้ย?. . .อีกสองปี ฉันจะกลับมาทวงมันคืน” เซฮุนบอกก่อนจะค่อยๆถอดแหวนคืนมาใส่ในมือจงอิน
“ต่อให้นายไม่มาทวง ฉันก็จะไปบังคับขู่เข็นคืนมันให้นายเอง”
“แล้ว อีกสองปี. . .ฉันกลับมา”
“ฉันจะรอนะ. . .เซฮุน” จงอินว่า พร้อมกับเซฮุนที่ยื่นนิ้วก้อยออกมาเกี่ยวก้อยกันเหมือนเด็กๆ แต่นั่นก็เพื่อสัญญา ว่าอีกสองปีข้างหน้า. . .เซฮุนจะกลับมาแน่ๆ
………………………………………………………
“ดีนะ ที่นายไม่เอาแหวนใส่ชาไข่มุกอะ ไม่งั้นฉันคงติดคอตายไปนานแล้ว” เอ่ยแซวมุกขอแต่งงานของอีกฝ่าย ได้ยินเสียงจงอินหัวเราะ หึๆอยู่ปลายสาย เซฮุนจำได้ว่าอีกหนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้นเค้าก็จากบ้านเกิดมา เพราะจงอินบอกว่าสองปี เริ่มนับจากวันถัดไปที่ เซฮุนสัญญากับเค้า นั่นทำให้หนูน้อยฮุนนี่ต้องรีบบึ่งออกจากเกาหลีเพื่อรีบทำตามฝันของตัวเอง ที่จริงตัวเค้าก็เป็นนักถ่ายภาพมีฝีมือของเกาหลีอยู่แล้ว การที่จะมาบุกวงการถ่ายรูปญี่ปุ่นเลยไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไหร่นัก และสุดท้ายเค้าก็ประสบความสำเร็จในชีวิตและมีวันนี้ได้
‘ไม่เจอกันตั้งสองปี คิดถึงกันบ้างป่ะเนี่ย?’ เซฮุนยิ้ม จงอินถามเป็นเด็กวัยรุ่นวัยปัปปี้เลิฟไปได้
“ถามแบบนี้ทุกวัน ไม่เบื่อบ้างหรอ? ที่คำตอบมันจะเป็นคิดถึงทุกวันน่ะ” ต่อให้ไม่อยู่เกาหลีเซฮุนก็มั่นใจได้ว่า ตอนนี้จงอินต้องนั่งส่ายหัวอยู่แน่ๆ
‘ไม่เบื่อ~ นี่ไฟเขียวแล้วใช่มั้ย? และกำลังขับรถอยู่ด้วยสินะ’ หลุดขำออกมา เมื่อคิดว่าจงอินรู้ได้ไง แต่ดูเหมือนว่ามันจะช้าไปหน่อยเพราะตอนนี้ โอเซฮุนขับรถจนถึงคอนโดที่เค้าซื้อไว้แล้วต่างหาก
“ช้าไปป่ะ? นี่ถึงคอนโดแล้วต่างหาก แค่นี้ก่อนนะ เดี๊ยวก่อนนอนโทรไปใหม่ คุยนานมากสายจะใหม้แล้ว!” รัวใส่ปลายสาย ก่อนจะรีบกดวาง แต่ก็แอบไม่วายได้ยินเสียงจงอินแว๊บมาหน่อยนึง แต่เค้าก็จับใจความไม่ได้หรอกว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไร
เซฮุนลงจากรถมินิสีเหลืองที่คนรักอุตส่าห์ส่งมาให้จากเกาหลี ด้วยเหตุที่ว่าวันนึงเซฮุนก็อยากจะมีรถขึ้นมาเลยจะซื้อบ้าง แต่ก็โดนคนรักโทรทางไกลมาขัดเมื่อเค้าถึงศูนย์จองรถแล้ว ก่อนที่ฮีจะเสริมมาด้วยว่า มีแฟนเป็นรองประธานบริษัท ส่ง – ออก นำเข้ารถยนต์ แต่พอจะซื้อรถดันไม่ปรึกษาแฟนสักคำ วันนั้นเซฮุนโดนบ่นจนหูชา และก็ตบท้ายด้วยการถามว่า อยากได้รถรุ่นไหน? น่ารักมั้ยละ แฟนโอเซฮุน ฮ่าฮ่าฮ่า
………………………………………………………
‘Rrrrrrrrrrrrrrrrrr~ เซฮุนนี่โทรมา เซฮุนนี่โทรมา~’ เสียงของโทรศัพท์ที่ดังเป็นเอกลักษณ์ ที่เค้าตั้งไว้ว่าเมื่อเวลาคนรักโทรมาให้มันเป็นเสียงนี้
“ฮัลโหล~ จะนอนแล้วหรอ?” หลังจากรับโทรศัพท์แล้ว จงอินที่เช็ดหัวอยู่ก็มองไปที่นาฬิกาหัวเตียงนอนของตัวเอง และพบว่ามันเพิ่งจะสี่ทุ่ม ปกติเจ้าตัวแสบของเค้านอนดึกเสมอซะด้วย
‘พรุ่งนี้ขึ้นเครื่องแต่เช้า เลยจะรีบนอน’
“พรุ่งนี้เครื่องถึงกี่โมง จะได้ไปรับถูก”
‘บ่ายสอง อย่าลืมมารับนะ ถ้าไม่ว่างให้แบคฮยอนมาก็ได้นะ คิดถึงแบคฮยอน’
“ไม่เอา ฉันอยากให้นายเห็นหน้าฉัน เป็นคนแรกในเกาหลี” ว่าไปนั่น ก่อนจะหยิบผ้าที่เช็ดหัวแล้วโยนลงในตระกร้าซักผ้า และล้มตัวลงนอนบนเตียง
‘งั้นก็อย่าลืมมารับแล้วกัน จะนอนแล้วนะ’
“ฝันดีครับที่รัก”
‘ฝันดีเหมือนกันครับ’ หลังจากราตรีสวัสดิ์แล้ว เจ้าตัวก็กดตัดสายไปก่อน จงอินหัวเราะ หึหึหึให้กับความเพี้ยนไม่เลิกของแฟนสาว(?) ไอ้โรคชอบวางหูก่อนนี่แก้ไม่หายสักที ก่อนจะหลับตาจงอินก็นึกอะไรขึ้นได้อีกอย่าง ต้องรบคว้าไอโฟนที่อยู่หัวนอนมากดหารายชื่อ และโทรออกทันที
“ฮัลโหล ชานยอลหรอ?. . .พรุ่งนี้ถ้าเซฮุนโทรไปหาแกหรือแบคฮยอนให้ไปรับที่สนามบิน อย่าไปนะ. . .เชื่อฉันเหอะน่า. . .เออๆเดี๊ยวขึ้นโบนัสให้. . .เออๆแค่นี้ๆ” หลังจากสั่งคณะกรรมการบริษัทให้ทำตามที่ตัวเองสั่งได้แล้ว คิมจงอินก็ล้มตัวลงนอนหลับอย่างมีความสุข หึหึหึ. . .พรุ่งนี้สนุกแน่
………………………………………………………
@incheon Airport
ชายหนุ่มร่างบางสวมเสื้อโค้ทสีเทายาวถึงเข่าตัดกับกางเกงยีนฟอกสีซีด ใส่แว่นกันแดดเรย์แบนด์ เข็นรถเข็นแบกสัมภาระมากมายออกจากเกทมาอย่างเท่ แต่หามีใครรู้ไม่ว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังประสบปัญหาอย่างใหญ่หลวง!
ปัญหาที่เค้าประสบอยู่คืออะไรน่ะหรอ? มันก็คือ. . .คนมารับกุอยู่ไหน?
แต่ก็อย่าได้คิดนาน กดสายโทรออกไปหาไอ้หน้าหล่อที่เมื่อคืนสัญญาว่าจะมารับเลยดีกว่า
“ฮัลโหล จงอินอยู่ไหนเนี่ย?. . .ห้ะ! ติดงานด่วนมารับไม่ได้แล้ว! ทำไมไม่บอกกันก่อนละ จะได้โทรไปบอกให้แบคฮยอนมารับ. . .อือ ไม่เป็นไรไม่โกรธหรอก รีบๆไปประชุมเถอะไป เดี๊ยวถึงบ้านแล้วเจอกัน” ว่าจบก็ตัดสายทิ้งไปอีก อืม~ ติดประชุมด่วน แล้วเมื่อคืนไอ้หน้าแมวที่ไหนที่บอกว่าจะมาให้เห็นหน้าเป็นคนแรกในเกาหลี?
แต่นี้ไม่ใช่เวลามานั่งงอนแฟน! คิดได้แล้วเซฮุนก็กดสายต่อไปหาแบคฮยอนเพื่อนรัก ฮ่าฮ่าฮ่า! แบคฮยอนต้องมารับเค้าได้แน่ๆ
‘เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ~’ อืมมมมมมม เซฮุนกลียดผู้หญิงคนนี้ เจอกันที่ไรไม่เคยมีเรื่องดีๆเกิดในชีวิตเลย! ซวยตลอด!!!
“เฮ้อ~ เรียกแท๊กซี่เองก็ได้วะ!” และแล้วหนูน้อยชาไข่มุกของเราก็ต้องไม่ย่อท้อต่อชะตา หาทางกลับบ้านเองกันต่อไป!
………………………………………………………
“ย้ายออกแล้ว!” เซฮุนตะโกนใส่หน้า เพื่อนบ้าน ไม่สิ! ต้องเรียกว่าเพื่อนข้างห้องต่างหาก เพราะบ้านของจงอินนั้นเป็นแค่ห้องหนึ่งในคอนโดหรูเท่านั้นเอง~
“ใช่ เราจำได้ว่าเค้าย้ายออกไปแล้วน่ะ แต่รู้สึกเค้าจะบอกว่าถ้าเจอคุณให้ทิ้งที่อยู่ใหม่ไว้ให้ด้วย” เพื่อนข้างห้องเดินหายเข้าไปในห้องของตัวเองสักพักนึงก่อนจะกลับมาพร้อมกระดาษแผ่นเล็กๆในมือ
‘ไคฮุนวิลเลจ ซอย11/50 บ้านเลขที่ 11/12 ถนนใหญ่ เขตเจริญ กรุงโซล’
“นี่แหละที่อยู่ใหม่เค้า รู้สึกว่าเค้าจะซื้อบ้านนิ” เพื่อนข้างห้องว่า ก่อนจะรับโค้งแทบไม่ทันเมื่อหนูน้อยชาไข่มุกโค้งให้เป็นการใหญ่
“ขอบคุณมากเลยนะครับ” เซฮุนทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะรีบวิ่งไปลงลิฟต์ และไม่ลืมแบกสัมภาระทั้งหมดไปด้วย หึ่ม! จงอินย้ายบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่บอกกันปล่อยให้ฉันแบกของหนักขึ้นลิฟต์มาคนเดียว!
“พี่ครับ!ไปที่นี่เลย” เซฮุนว่าก่อนจะยื่นกระดาษที่อยู่แผ่นนั้นลงในมือของคนขับแท๊กซี่
………………………………………………………
“ที่นี่หรอ~?” สถานที่ข้างหน้าเซฮุนนี่ คือหมู่บ้านหรูที่มีบ้านเดี่ยวหลังใหญ่เรียงกันเป็นตับๆ และบ้านแต่ล่ะหลังก็มีพื้นที่ทั้งสวนและตัวบ้านใหญ่มาก และเซฮุนก็ได้แอบเห็นด้วยว่าหลังบ้านทุกหลังจะมีท่าน้ำติดคทะเลสาบที่ถูกขุดไว้แถมมีเรือให้ลำนึงด้วย เท่าที่กล่าวมานี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าบ้านพวกนี้ราคาแพงระยับมากแน่ๆ!!
หลังจากดูแน่ใจแล้วว่าบ้านเลขที่ตรงตามที่อยู่บอกมา คนตัวเล็กก็ลองผลักประตูบ้านเข้าไปดู ปรากฏว่าไม่ได้ล็อค??? หรือจงอินจะถึงบ้านแล้ว หรือไม่ก็เซฮุนเข้าผิดบ้าน แต่ไม่น่าน่ะ เพราะโรงจอดรถของบ้านหลังนี้ มีAudi R8สีเงินของจงอินจอดอยู่ด้วย
“จงอิน~ อยู่รึเปล่าน่ะ?” หลังจากที่เซฮุนเดินเข้ามาในตัวบ้านแล้ว สิ่งแรกที่เห็นเลยคือ. . .
โต๊ะดินเนอร์กลางแสงเทียน และมีแจกันดอกไม้ตั้งอยู่กลางโต๊ะ ที่มีสปาเก็ตตี้ของโปรดของเซฮุนวางไว้สองจาน แถมยังมีไวน์ที่เซฮุนเดาได้ว่ามันต้องเป็นขวดเดียวกับเมื่อสองปีที่แล้วแน่ๆ เพราะมันเหลือเท่ากับสองปีที่แล้วที่เค้ากับจงอินกินเหลือไว้แช่อยู่ในถังน้ำแข็งอีกด้วย บรรยากาศมันเหมือนเมื่อสองปีที่แล้วเลย คิมจงอินนายนี่มัน. . .
“นี่ กำลังย้อนเวลาอยู่รึไงน่ะ” หันหลังมาชน กับจงอิน ที่กำลังค่อยๆนั่งคุกเข่าลงที่พื้น และหยิบแหวนวงเดิม วงเมื่อสองปีที่แล้ว มาสวมเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของเซฮุนอีกครั้ง แหวนเพรชน้ำงามที่ตอนนี้มันกลับมาทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง โดยการทำให้มือขาวของเซฮุนดูสวยงามมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
“เซฮุนครับ. . .แต่งงานกับจงอินนะ” บทพูดบทเดิม ที่สามารถทำให้คนฟังน้ำตาคลอ. . .แต่ครั้งนี้จะไม่มีเจ้าสาว(?)จอมอิดออด ที่ขอยืดเวลาแต่งงานอีกแล้ว มีแต่โอเซฮุนที่พร้อมจะแต่งงานกับจงอินแล้ว
“ครับ. . .เซฮุนจะแต่งงานกับจงอิน” สิ้นคำของเซฮุนทั้งคนที่นั่งคุกเข่าอยู่และคนที่ยืนอยู่ ก็โผกอดกันใหญ่
“ฉันคิดถึงนายจังเลย เซฮุน” ว่าพลางสูดกลิ่นหอมจากกลุ่มผมของเซฮุนไปด้วย นี่พวกเค้าไม่ได้กอดกันแบบนี้มานานขนาดไหนแล้วนะ
“ฉันก็คิดถึงจงอินมากเลย” เซฮุนเองก็ซุกหน้าลงบนไหล่กว้าง ใครจะรู้ว่าเซฮุนคิดถึงไหล่กว้างนี้มากขนาดไหน
“นี่ เราแต่งงานกันสิ้นเดือนนี้เลยมั้ย?” จงอินถามทั้งๆที่ยังกอดเซฮุนอยู่
“อื้อ ฉันมีรายชื่อคนที่ญี่ปุ่นที่ต้องส่งการ์ดให้เพียบเลย” หัวเราคิกคักเมื่อนึกถึงคำพูดของแจจุงอีกครั้ง
‘แล้วผมจะคอยรอการ์ดเชิญน่ะฮ่ะ^^’ …แล้วผมจะรีบส่งไปให้นะฮะ คุณแจจุง><
“เซฮุน. . .ฉันลืมบอกอะไรนายไปอย่าง”
“อะไรหรอ?”
“ฉันรักเซฮุนมากนะ” ว่าพลางลูบมือขาวที่ตอนนี้มีแหวนวงสวยสวมใส่อยู่ด้วย
“ฉันก็รักจงอินมากเหมือนกัน. . .”
Fin.
Epilogue
“คุณยุนโฮฮะ!เซฮุนส่งของมาให้ฮะ!!!” เสียงตะโกนดังๆของลู่หานทำให้ยุนโฮที่กำลังคุยแบบคอนเซ็ปต์ปกนิตยสารเดือนนี้อยู่กับคริส ต้องเงยหน้าขึ้นมาดู และก็ไม่พ้นคุณนายแจด้วยเช่นกัน
“เอะอะโวยวายอะไร ลู่หาน” ยุนโฮว่า
“ซะ. . .เซฮุน. . .สะ. . .ส่งของมาให้ฮะ” ยื่นซองสีน้ำตาลขนาดกลางที่จั่วหัวว่าถึงยุนโฮ ก่อนที่คริสจะยกน้ำของตัวเองให้อีกฝ่ายดื่ม เพราะกลัวเจ้าตัวเล็กจะหอบตายซะก่อน
“ขอเชิญร่วมงานวิวาห์ โอเซฮุน❤คิมจงอิน” หลังจากยุนโฮอ่านหัวการ์ดเสร็จ ดูเหมือนรูปที่แอบแนบมาด้วยก็ร่วงลงมาบนพื้น เผยให้ทุกคนได้เห็นรูปเซฮุนกับจงอินทั้งคู่กำลังนั่งเล่นริมชายทะเลกันอยู่ และอีกหลายสถานที่ รวมๆแล้วรูปทั้งหมดที่ส่งมา คงจะเป็นรูปงานแต่งนั่นเอง
“แต่งที่ไหน? วันไหน? อะฮะคุณยุนโฮ” ได้ทีลู่หานก็เอาใหญ่ด้วยการกระโดดเร้าๆรอบตัวยุนโฮ ให้รีบบอกวันที่และสถานที่จัดงานมาสักที โดยมีคริสคอยปรามอยู่บ้าง เพราะยังไงยุนโฮก็ยังเป็นประธานบริษัทแม้ว่าจะใจดีก็เถอะ ในขณะที่ในห้องทำงานของยุนโฮกำลังเกิดการตะลุมบอลเล็กๆนั้น
แจจุงก็เดินไปหยิบรูปใบนึงที่ตกพื้นขึ้นมา ในรูปเป็นเซฮุนที่ใส่ชุดสูทสีดำขาสั้นพอดีเข่า และหูกระต่ายอันเล็กๆที่คอเสื้อ ในมือของเจ้าตัวถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่ ทำท่าเหมือนกำลังจะหนีเจ้าบ่าวที่เดินตามอยู่ด้าน แจจุงพินิจหน้า ของผู้ชายผิวเข้มที่ที่ใส่สูทเป็นทางการต่างจากเซฮุน ใบหน้าคมเข้มนั้นยกยิ้มกว้าง แสดงสีหน้ามีความสุขสุดๆ ที่มือของเจ้าตัวเองมีแก้วชาไข่มุกสองใบถืออยู่ แจจุงหลุดขำออกมา ขนาดถ่ายรูปแต่งงานแล้ว เซฮุนก็ยังคงไม่ละทิ้งชาไข่มุกที่ตัวเองชอบ มาให้เจ้าบ่าวถือจนได้สินะ
“ในที่สุดก็ส่งมาให้ดูจนได้นะ. . .” ชื่อคิมจงอินสินะ? เซฮุนนี่เลือกถูกคนแล้วจริงๆนั่นแหละ….
THE END.
เอาช็อตฟิคเล็กๆน้อยๆมาส่งค่ะ<3
สารภาพ ว่าก่อนจะมาเป็นไคฮุน นั้น เคยเป็น. . .มยองยอล มาก่อนนะคะ
เพราะงั้น ถ้าใครคุ้นหน้าคุ้นตาฟิคเรื่องนี้ แปลว่าเคยเจอมาแล้วในบ้านINFINITE THAILANDนะจ้ะ^^
#มิสามารถเจอที่อื่นได้นะหนู เค้าลงที่นั่นไว้ที่เดียว 555555555555
ถ้าใครอยากลองอ่านเวอร์ชั่นมยองยอล ก็ไปหาในINDEX FICTION ของบ้านอินฟินิทได้นะคะ
นอกเรื่องมานาน. . .
ก็ฟิคยาวยังไม่ได้อัพ *เกาหัว* แบบว่ายังไม่ค่อยว่างอะนะคะTT___________TT
ใครที่รออยู่ นิชจะพยายามมาอัพให้เร็วที่สุดนะ!!! #ตะเบ๊ะ
ตอนนี้ก็ มามุ้งมิ้งกับไคฮุนในเรื่องนี้ และชานแบคในเรื่องก่อนหน้าละกันนะคะ<3
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์จริงๆค่ะ^^
Ps.ใครเห็นว่ายังมี มยองซู - ซองยอลอยู่ แจ้งนิชด้วยนะคะ จะได้แก้นะ^^
ความคิดเห็น