คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [SF] SULKY BABE :: CHANBAEK
SULKY BABE♥
Pairing : CHANBAEK
………………………………………………………….
ชานยอลกำลังทำหน้าบูด คิ้วได้รูปของเค้าขมวดเข้าหากันจนซิ่วหมินที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยทัก ชานยอลบอกรุ่นพี่ตัวเล็กว่าเค้าไม่ได้เป็นอะไร แต่สายตาก็ยังไม่ยอมละไปจากภาพตรงหน้า ซิ่วหมินมองตามชานยอล จนไปเจอจุดที่รุ่นน้องตัวสูงโฟกัสอยู่ และ. . .เค้าก็ถึงบางอ้อ
แบคฮยอนที่นั่งหัวเราะคิกคัก เมื่อจงอินเอนหัวลงมาซบที่ไหล่เล็กนั้น คงเป็นสิ่งที่ทำให้ชานยอลไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ไม่สิ ไม่สบอารมณ์อย่างแรงเลยมากกว่า
“หึหึหึ” เสียงหัวเราะของชานยอล ทำเอาซิ่วหมินขนลุก คนตัวเล็กหันไปสบตากับจงแด ที่นั่งอยู่ข้างๆจุนมยอน ก่อนจะเพยิดหน้าให้อีกฝ่ายดูฝั่งตรงข้าม จงแดที่หันไปตามที่ซิ่วหมินบอก ถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนจะหันกลับมาทำนิ้วปาดคอ เป็นเชิงบอกว่า. . .คืนนี้ มี ประ เด็น แน่
……………………………………………………………..
“เซฮุนนา ขี้แย เลิกร้องไห้รึยังเอ่ย?” หลังจากจบรายการคิสเดอะเรดิโอ โดยที่มีน้องเล็กอย่างเซฮุนเสียน้ำตาไป จนเป็นประเด็นให้แบคฮยอนเอามาหยอกน้อง ตั้งแต่ขึ้นรถ คนเป็นน้องค้อนแบคฮยอนควับ
“ชานยอลดูเซฮุนสิๆ คิดว่าน่ารักตายแหละ” สะกิดคนตัวสูงที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ขึ้นรถมา แบคฮยอนที่มัวแต่แกล้งน้องไม่ทันได้สังเกตุ ว่าชานยอลตอนนี้เงียบจนผิดวิสัย คนถูกสะกิดปลายตาไปมองเซฮุนที่เบะปากใส่แบคฮยอน ก่อนจะถอนหายใจและหันหน้าออกนอกหน้าต่างไป
ลู่หานที่นั่งอยู่ด้านหลังแบคฮยอนมองเหตุการณ์ตรงหน้า ก่อนจะสะกิดไหล่แบคฮยอน และขมุบขมิบปากถามว่า ชานยอลเป็นอะไร?
“หืมมมมมมม ชานยอลเป็นอะรายหรา?” คนที่ยังติดเล่นไม่เลิกทำเสียงยานคาง ก่อนจะเอาแก้มใสไปถูไหล่ชานยอลเป็นการอ้อน
“หึ ไปอ้อนจงอินเถอะ” ชานยอลขยับแขนออกเพื่อให้แบคฮยอนหยุดถู ก่อนจะหันหน้าเข้ากระจกอย่างเดิม ลู่หานที่นั่งอยู่ด้านหลังเงยหน้ามองคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างตัวเอง และสะกิดให้คริสเอียงหัวลงมา
“ต้องเป็นเรื่องเมื่อกี้แน่เลยอะ” คนตัวเล็กกระซิบ
“เรื่องเมื่อกี้? เรื่องไหน? แล้งนี่เรื่องของใคร?” คริสตั้งแต่ขึ้นรถมาก็เอาแต่ใส่หูฟัง ทำท่าเหมือนจะหลับแหล่มิแหล่ มาตั้งแต่ตอนอัดรายการแล้ว ลู่หานถอนหายใจ ก่อนจะชี้ไปที่ชานยอลกับแบคฮยอนทางด้านหน้า
“ก็ไม่เห็นจะมีอะไรนี่”
“ไม่มีอะไรได้ไง เมื่อกี้ชานยอลจะเอาศอกกระแทกหน้าไอแบคมันอยู่แล้ว”
“ก็เล่นกันปกติ ยกขาถีบชานยอลมันก็ทำมาแล้ว” ลู่หานถอนหายใจ ถึงความไม่เอาใจใส่อะไรเลยของคนตัวใหญ่ข้างๆตัวเค้า ก่อนจะเถียงไปว่า เมื่อก่อนชานยอลรุนแรงกับแบคฮยอนจริง แต่พอตกลงเป็นแฟนกัน ชานยอลมันก็ไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วป้ะ?
“อย่าไปยุ่งเรื่องชาวบ้านเค้านักเลย” ลู่หานเหลือกตาใส่คริส ก่อนจะฟาดมือลงไปที่ต้นแขนอีกฝ่าย อย่างแรง คริสเบ้หน้า แต่ก่อนที่จะได้ตีกันไปมากกว่านี้ ซิ่วหมินที่นั่งอยู่ข้างลู่หานก็สะกิดเรียกขึ้นมาซะก่อน
“ชานยอลมันงอนแบคฮยอน” ซิ่วหมินกระซิบดังจนได้ยินมาถึงคริส ที่นั่งติดริมหน้าต่าง ลู่หานเขยิบเข้าไปเบียดซิ่วหมิน ก่อนจะบอกให้อีกฝ่ายเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังบ้าง คริสส่ายหัวกับการกระทำของคนรัก แต่ก็นั่งฟัง ประเด็นที่จงอินซบไหล่แบคฮยอน แต่เจ้าตัวก็ยังยิ้มร่าจนทำให้ชานยอลโกรธเงียบๆ. . .
……………………………………………………………..
“งอนเค้าเรื่องอะไรอะ? เฮ้ย! ง้อๆไม่โกรธเค้านะ นี่เค้าง้อแล้วไง ไม่โกรธดิ” ชานยอลมองคนตัวเล็กกว่าที่เดินวนรอบๆเค้า ส่งเสียงงุ้งงิ้งไปมา
“นี่ยังไม่รู้ว่าผิดเรื่องอะไรเลย ก็อุตส่าห์มาง้อแล้วนะ” แบคฮยอนยืนท้าวเอวบ่น เปลี่ยนท่าทีจากลูกหมาที่ตามง้อชานยอลอยู่เมื่อกี้ คนตัวสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ขนาดเรื่องที่ทำผิดยังไม่รู้ ก็ไม่ต้องมาขอโทษหรอก” ทิ้งท้ายก่อนจะเดินเข้าห้องไป แบคฮยอนอ้าปากค้างในท่าท้าวเอว ซิ่วหมินกับลู่หานที่รู้สถานการณ์รีบเดินเข้ามาประกบแบคฮยอน ก่อนจะเล่าสาเหตุที่ชานยอลปั้นปึ่งแบบนี้ให้ฟัง
“เรื่องแค่นี้เองเนี่ยะนะ?! ผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับจงอินซะหน่อย”
“นั่นแหละ ต่อให้นายไม่ได้คิด แต่ชานยอลมันคิด หมอนั่นเป็นพวกขี้หึง นายเองก็รู้ไม่ใช่เหรอ” แบคฮยอนพยักหน้าหงึกหงักใส่ลู่หาน
“ช่วยได้แค่นี้ละนะ ที่เหลือก็ต้องช่วยตัวเองแล้วละ” ซิ่วหมินตบไหล่แบคฮยอนปุๆ และลากจงแดไปหาอะไรกินในห้องครัว ลู่หานเองก็หันมาทำท่าไฟท์ติ้งด้วยเช่นกัน
“หึงเค้ากับจงอินเหรอ?” ทันทีที่คนตัวสูงเปิดประตูห้องออกมา แบคฮยอนก็กางแขนดักไว้ เมมเบอร์คนอื่นๆที่กระจายตัวทำกิจกรรมของตัวเองอยู่ ต่างก็หยุดมือและเงี่ยหูฟังด้วยกันทั้งนั้น
“ใครบอกมาล่ะ?” แบคฮยอนไม่สนใจคำจิกกัด ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ
“ขอโทษนะ แต่เค้าไม่ได้คิดอะไรกับจงอินจริงๆ ก็แค่พี่น้องกันเท่านั้นแหละ เหมือนเวลาที่นายเล่นกับเซฮุนไง ก็ไม่ได้คิดอะไรเหมือนกันใช่มั้ยละ?” ชานยอลพยักหน้า ก่อนจะกอดอกรอฟังแบคฮยอนพูดต่อ
“นี่ก็แค่เล่นกับจงอินเฉยๆเหมือนกัน ไม่หึงนะ เค้าขอโทษ ดีกันนะ?” มือบางยื่นนิ้วก้อยออกมาข้างหน้า ชานยอลหลุบตาลงมองมือเล็กนิดหน่อย
“ฉันนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนายแท้ๆ ถึงจะแค่เล่น แต่นายก็ไม่ควรปล่อยให้จงอินมันซบอยู่เฉยๆนี่ แถมทำหน้ามีความสุขซะเต็มประดา ขอโทษนะ แต่ฉันไม่เข้าใจคำว่าแค่เล่นๆของนายวะ” คนตัวเล็กยิ้มค้าง ก่อนจะโดนมือใหญ่กว่าผลักให้หลีกทาง แบคฮยอนเซไปตามแรงผลักของชานยอล มองตามแผ่นหลังกว้างที่ไม่หันมามองเค้าด้วยซ้ำ ก่อนจะเดินตามไปขัดประตูห้องน้ำก่อนที่อีกฝ่ายจะปิดประตู
“ขอโทษแล้วนะ ง้อแล้วด้วย อธิบายแล้วยังไม่เข้าใจอีก แถมยังมีหน้ามาว่าคนอื่นเค้ากลับอีกนะ ไอทึ่มเอ้ย!” แบคฮยอนรัวใส่ชานยอลเป็นชุด ก่อนจะหยิบสบู่ก้อนที่วางอยู่แถวนั้นมาเขวี้ยงใส่อกชานยอล ดังอั้ก! จงอินที่ยืนอยู่แถวนั้นยังเจ็บแทน
ชานยอลก้มลงมองสบู่ที่ตกอยู่ที่พื้น ก่อนจะหันไปมองในห้องน้ำและพบว่าสบู่หมดพอดี คนตัวสูงมองสบู่ที่พึ่งทำร้ายร่างกายเค้าไปเมื่อกี้ ก่อนจะตัดสินใจหยิบมันไปอาบน้ำด้วย. . .
……………………………………………………………..
“พี่แบคฮยอนใจเย็นดิๆ ค่อยๆคุยกัน ยิ่งทำแบบนี้จะยิ่งเป็นเรื่องใหญ่นะพี่” เซฮุนที่ตอนนี้มานั่งจุ้มปุ้ก เกลี้ยกล่อมแบคฮยอนอยู่เป็นค่อนชั่วโมงเห็นจะได้แล้ว แต่ก็ไม่มีถ้าทีว่าคนที่นั่งอ่านการ์ตูนอยู่จะสนใจ
“ยิ่งพี่ทำแบบนี้พี่ชานยอลก็ยิ่งโกรธดิ ถ้าไม่คุยกันดีๆแล้วชาตินี้จะรู้เรื่องปะพี่?” แบคฮยอนลดหนังสือในมือตัวเองลง สบตากับน้องเล็กของวง
“แล้วนี่ไม่ได้พูดดีๆด้วยแล้วเหรอ? ง้อก็แล้ว อธิบายก็แล้ว แม่งยังบอกไม่เข้าใจอีก มันเกินไปปะวะ?” คนเป็นน้องถอนหายใจใส่พี่ชายเสียงดี ก่อนจะถอนทัพออกไปเมื่อจงอินมาเรียกให้เค้าไปนอนได้แล้ว เซฮุนบอกลาแบคฮยอน และเรียกซิ่วหมินมาเปลี่ยนตัวแทน
“นี่. . .”
“ถ้าพี่มายุเรื่องไอ้หูกางนั่นละก็นะ ผมจะไม่พูดกับพี่เลย” ซิ่วหมินที่ยังพูดไม่ทันจบประโยคงับปากตัวเอง แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ไอ้หูกาง ที่ว่าก็เปิดประตูห้องเข้ามาได้ยินพอดี ซิ่วหมินย้ายจากที่นั่งข้างแบคฮยอน มาอยู่ที่ริมสุดที่นอนของตัวเอง เพราะปกติชานยอลกับแบคฮยอนนอนติดกัน ส่วนตัวเค้านั้นนอนติดกับจื่อเทา
“ขอโทษ ที่เกิดมาหูกาง ไม่ได้ตัวดำเหมือนจงอินมัน!” แบคฮยอนขมวดคิ้วมองชานยอล ที่คลุมโปรงพลิกด้านหนีเค้า คนตัวเล็กถีบไปที่ก้นของอีกคน ก่อนจะคลุมโปรงและพลิกด้านหนีเช่นเดียวกัน
ซิ่วหมินที่มองเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วได้แต่กลืนน้ำลาย พอดีกับที่จื่อเทาเปิดประตูห้องเข้ามา คนเป็นพี่กวักมือเรียกน้องยิกๆ ก่อนจะชี้ให้ดูชานยอลกับแบคฮยอน ที่นอนหันหลังให้กัน ทั้งที่ปกติทั้งสองคนจะนอนกอดกันบ้าง หรืออย่างน้อยก็ต้องจับมือกันนอน
“ขนาดนี้เลยเหรอพี่?” ซิ่วหมินพยักหน้าหงึกหงัก จื่อเทามองตามซิ่วหมินแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ และหวังว่าพี่ชายทั้งสองคนจะรีบคืนดีกันไวๆ เพราะสองคนนี้งอนกันทีไร บรรยากาศในห้องนอนจะอึดอัด จนเหมือนแทบไม่มีออกซิเจนอยู่เลยทุกที
……………………………………………………………..
เซฮุนนั่งเขี่ยข้าวในจานของตัวเองไปมา มองชานยอลที แบคฮยอนที จนจงอินที่นั่งอยู่ข้างๆต้องตีมือขาว และแอบเอ็ดอีกฝ่ายเล็กๆว่า อย่าเอาของกินมาเล่น เซฮุนจิ๊ปากใส่จงอินไปทีนึง
ก่อนจะนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองสามวันก่อน ชานยอลได้ยืนใกล้กับแบคฮยอนในคอนเสริตของพี่สาวโซนยอชิแด แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้คุยกัน คงเพราะทิฐิของชานยอล พี่ชายตัวสูงเลยทำได้แค่มองแบคฮยอนจากข้างหลัง ไม่รู้ว่าวันนั้นชานยอลไปดูโซนยอชิแด หรือไปดูหลังแบคฮยอนกันแน่
“เฮ้ออออออออออ” มักเน่ของวงถอนหายใจยาวเหยียด จนพี่ๆทุกคนหันมามองเป็นตาเดียวกัน เซฮุนโบกมือเป็นเชิงว่าไม่มีอะไร แต่คนตัวดำข้างๆเค้ากลับสะกิดยิกๆให้เค้าเล่าความจริง เซฮุนเลยเพิยดหน้าไปทางชานยอลกับแบคฮยอน จงอินที่เห็นดังนั้นก็ ร้องอ้อในใจ
ชานยอลกับแบคฮยอนไม่พูดกันเป็นอาทิตย์เห็นจะได้ ทั้งแบคฮยอนเมินชานยอลบ้าง ชานยอลไม่มองแบคฮยอนเลยบ้าง แต่สองสามวันที่ผ่านมานี่ ชานยอลก็ดูเหมือนจะอ่อนลงบ้างแล้ว แต่แบคฮยอนนี่สิ ไม่มอง ไม่พูด ไม่สบตา เดินสวนกันทีก็ทำอย่างกับชานยอลเป็นธาตุอากาศ
“แกแหละ ตัวต้นเหตุ” เซฮุนเอาหัวโขกไหล่จงอินอย่างแรง
“แก่กว่า ทำไมไม่เรียกพี่ ห้ะ? โขกมาซะแรง เจ็บมั้ยนะ” บีบปลายจมูกคนตัวขาวอย่างหมันเขี้ยว ก่อนจะจับหัวคนเป็นน้องอ่อนเดือนมาดู เพราะเมื่อกี้เอาหัวโขกกับไหล่เค้าซะแรง
ลู่หานที่นั่งมองจงอินกับเซฮุนหยอกกัน ก่อนจะหันมามองชานยอลกับแบคฮยอนที่หันหน้าหนีกัน แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ งานไซน์เมื่อวันก่อนแบคฮยอนก็ไม่หันมามองฝั่งขวาที่ชานยอลยืนอยู่เลยด้วยซ้ำ
“เดี๊ยวก็ดีกัน” คริสที่นั่งอยู่ข้างๆบอก
“เป็นอาทิตย์แล้วนะ แค่มองหน้ายังไม่มองเลย แล้วจะเอาตรงไหนไปดีกัน?” คนตัวเล็กพูดอย่างเหนื่อยใจ ถึงวันนี้เค้าจะเห็นชานยอลแอบมองแบคฮยอนบ่อยกว่าเดิมแล้วก็เถอะนะ แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้แบคฮยอนหายงอนได้หรอก
“จื่อเทา. . .คืนนี้มานอนข้างพี่นะ” จบคำพูดแบคฮยอนทั้งโต๊ะก็ตกอยู่ในความเงียบ จนจื่อเทาที่นั่งอยู่ตรงข้ามถึงกับสำลักข้าว แบคฮยอนเลยส่งน้ำให้น้อง แต่จื่อเทาก็ต้องสำลักน้ำอีก เมื่อเจอสายตาขององชานยอลที่มองมา
“อิ่มแล้วครับ” จื่อเทามองแบคฮยอนที่ไม่เปิดโอกาศให้เค้าปฏิเสธเลย พอพี่ชายตัวเล็กลับหลังไป จื่อเทาก็ได้แต่ ขอโทษชานยอล จนอี้ชิงต้องช่วยห้ามจื่อเทาให้เลิกขอโทษ
“ขอโทษทำไม นายไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ คนเค้าไม่อยากนอนข้างกัน นายมานอนนะดีแล้ว แบคฮยอนจะได้ไม่ลำบากใจ” จงอินมองชานยอลที่ยิ้มฝืนๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วโค้งให้ชานยอลที่นั่งอยู่อีกฝั่ง และบอกขอโทษ
“เฮ้ย! ขอโทษทำไมวะจงอิน? ฉันงี่เง่าเองที่ไม่เข้าใจว่านายเล่นกับแบคฮยอน โดนโกรธขนาดนี้ก็สมควรแล้วละ”
“พี่แม่งโคตรพระเอกเลยวะ” เซฮุนเอ่ยปากชม คริสที่นั่งอยู่หัวโต๊ะถอนหายใจเฮือกใหญ่สุดๆ จนลู่หานหันไปมอง ตลกดีที่ชานยอลเป็นคนเริ่มงอนก่อน แต่พอโดนงอนบ้างกับไม่กล้าง้อ ถ้าไม่มีคนเปิดทางให้สักคน แบคฮยอนคงได้โกรธชานยอลไปจนตายแน่ หัวหน้าวงตบโต๊ะ ก่อนจะพูดขึ้น
“งั้นคงถึงเวลา ที่. . .นางเอกจะต้องหายงอนพระเอกแล้วล่ะ”
……………………………………………………………..
แบคฮยอนนั่งจัดของตัวเองให้เข้าที่ ก่อนจะรื้อหาชุดนอนเพื่อที่จะได้อาบน้ำ คนตัวเล็กเหลือบตาไปปเห็นตุ๊กตาหมาสีน้ำตาล ที่ชานยอลพึ่งจะได้มาจากงานไซน์เมื่อไม่กี่วันก่อน อีกฝ่ายดี้ด้ากับพี่คริสเรื่องตุ๊กตาขนาดไหน ทำไมแบคฮยอนจะไม่เห็น ว่าแต่เค้าเล่นกับจงอิน ทีตัวเองล่ะ!
“เจ้าของแกมันทึ่ม!” เขวี้ยงผ้าเช็ดตัวใส่ตุ๊กตาที่ไม่รู้อะไรเลย
“อย่าพาลสิ” เสียงใหญ่ๆด้านหลัง ทำให้แบคฮยอนเหลียวหลังไปมอง เห็นคริสยืนพิงประตูอยู่ คนเป็นพี่ เดินเข้ามานั่งลงข้างๆ แบคฮยอนเลิกคิ้วสงสัย ก่อนจะถามคริสว่ามีอะไรกับเค้าเหลือเปล่า?
“เรื่องอะไรพี่? ถ้าเรื่องชานยอลไม่ต้องพูดนะ ไม่อยากฟัง” คริสมองหน้าแบคฮยอนก่อนจะเริ่มพูด
“นายโตแล้วนะแบคฮยอน อายุก็ขึ้นเลขสอง มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ มีแฟนคลับเยอะแยะ การที่นายกับชานยอล ทำแบบนี้ใส่กัน มันเหมือนนายสองคนแยกเรื่องงาน กับเรื่องส่วนตัวไม่ออก”
“ทำไม พี่ไม่ไปดุชานยอลมั่งอะ?”
“ไม่ใช่ว่าพี่มาดุนาย นี่พี่พูดในฐานะคนนอก คนที่เห็นว่านายกับชานยอลเป็นคนรักกันนะ” แบคฮยอนเงียบ คริสเห็นแบบนั้นเลยรีบพูดต่อ
“ชานยอลเองก็อยากจะขอโทษ แต่นายเล่นทำตัวห่างเหิน ไม่มอง ไม่พูด ไม่สบตาแบบนี้ มีหรือคนอย่างชานยอลจะกล้าเข้ามาคุยก่อน นายเข้าใจชานยอลที่สุดนี่ นายน่าจะรู้นิสัยนี้ดี” ใช่ แบคฮยอนรู้นิสัยชานยอลดี อีกฝ่ายขี้กลัว ชอบทำให้คนอื่นโกรธ แต่ไม่กล้าไปขอโทษ คราวที่แล้วก็แกล้งเซฮนจนน้องไม่พูดด้วย ลำบากเค้าต้องไปช่วยพูดให้หายโกรธ
“ก็ไม่เห็นหมอนั่น จะมาขอโทษเลยนี่”
“ก็นายเล่นสร้างกำแพงสูงขนาดนี้ ใครจะกล้าคุยด้วย ลองลดทิฐิลงบ้างนะแบคฮยอน คนรักกันนะต้องรู้จักให้อภัย” คริสยิ้ม เมื่อเห็นน้องชายตัวเล็กพยักหน้าสำนึกผิด
“ก็ชานยอลงอนไม่เข้าเรื่องเองนี่ ผมก็ง้อแล้วใช่มั้ยละ ยังจะเล่นตัวอีกนี่นา” แบคฮยอนบ่นเสียงงุ้งงิ้ง
“คราวนี้นายก็พูดกับชานยอลดีๆ คุยกันให้รู้เรื่อง รู้มั้ยพี่ๆน้องๆในวงนะ เค้าเซ็งกันขนาดไหนเวลาพวกนายทะเลาะกัน ลู่ห่านบ่นให้ฉันฟังทุกวันเลยนะ เรื่องพวกนายเนี่ย”
“อ้อ ประเด็นมันอยู่ที่ลู่หานบ่นสินะ” แบคฮยอนทำปากยื่นใส่คนเป็นพี่ คริสลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ก่อนจะบอกให้แบคฮยอนเปิดใจแล้วคุยกับชานยอล ส่วนตัวเองจะไปอาบน้ำแล้ว
“ลืมบอกอีกอย่าง. . .” คริสที่โผล่หัวกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ทำแบคฮยอนเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย
“ไม่มีใคร. . .ทนนายได้เท่า ชานยอล หรอกนะ”
……………………………………………………………..
ชานยอลถอนหายใจอยู่หน้าประตูห้องนอนตัวเอง เค้ายืนก้มหน้าอยู่แบบนี้มาสักพักแล้ว อยากจะเข้าไปขอโทษแบคฮยอนที่อยู่ข้างในใจจะขาด แต่อีกใจนึงก็กลัวคนตัวเล็กจะทำเฉยชาใส่ เหมือนหลายวันที่ผ่านมานี่ ถึงเมมเบอร์ในวงจะช่วยไซโคกันว่า พี่คริสเข้ามาเคลียร์แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะ คริสเก่งทุกเรื่อง ยกเว้น. . .เรื่องของตัวเอง
“ไปนอนอะไรตรงนั้น?” แบคฮยอนที่นั่งเช็ดผมอยู่หน้ากระจก เอ่ยถามทันทีที่ชานยอลเข้าห้องมา แต่อีกฝ่ายล้มตัวลงนอนในที่นอนของจื่อเทา ชานยอลไม่ตอบแต่คว้าตุ๊กตาที่อยู่ใกล้ๆมากอดแทน
แบคฮยอนมองชานยอลนิ่งๆ อีกฝ่ายไม่กระดุกกระดิก ถึงพี่คริสจะพึ่งบอกว่าให้เค้าลดทิฐิ แต่ดูคนตรงหน้าทำตัวสิ มันหน้าจับทุ่มเสียด้วยซ้ำไป! แบคฮยอนไม่ได้ถามอะไรชานยอลต่อ นั่งเช็ดผมต่อไป แต่หางตาเค้าเหลือบไปเห็นชานยอลเดินไปรื้อกระดาษกับปากกา เขียนอะไรยุกยิกอยู่ตรงมุมห้อง
“อะไร?” ถามชานยอลที่อยู่ๆก็เอาตุ๊กตาหมาสีน้ำตาลมาวางไว้บนหัวเค้า ชานยอลไม่ตอบ แบคฮยอนขมวดคิ้วมองคนตรงหน้า ก่อนะสะดุดกับกระดาษที่ม้วนติดอยู่กับปลอกคอของน้องหมา
“ให้เหรอ? เป็นใบ้ไง?” เลิกคิ้วถามชานยอลอย่างกวนตีน แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบ ทำให้แบคฮยอนได้แต่ฮึดฮัดหนักกว่าเดิม ชานยอลทรุดตัวลงนั่งข้างหน้าแบคฮยอนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ก่อนจะบอกให้อ่านข้อความในกระดาษ
“ใครบอกให้ทำแบบนี้ล่ะ?” คนตัวเล็กว่าทันทีที่อ่านข้อความบนกระดาษจบ แต่จะว่าไป ข้อความบนกระดาษมันก็ไม่ได้ยาวอะไรอยู่แล้วนี่นะJ คนที่นั่งอยู่บนพื้นขมวดคิ้ว เอื้อมมือมาคว้าตัวคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มากอด แบคฮยอนหัวเราะคิกคักเมื่อจมูกโด่งของชานยอลถูกับหน้าท้องของเค้า
“เห็นทึ่มแบบนี้ แต่ก็คิดเองเป็นนะครับ” ชานยอลยักคิ้วให้
“เหรอ? แล้วสำนึกยังอะ?”
“โคตรสำนึกได้เลยเหอะ ไม่ได้คุยกับแบคฮยอน แล้วชานยอลจะขาดใจ” ชานยอลดัดเสียงให้เล็กลงก่อนจะกอดแบคฮยอนแน่นขึ้นอีก
“แต่ก็ทนได้นี่ ตั้ง. . .เป็นอาทิตย์แหนะ” ชานยอลขมวดคิ้ว ก่อนจะโวยวายว่านั่นเป็นเพราะแบคฮยอน ทำเมินเค้าอยู่ต่างหาก จากที่อยากจะขอโทษก็เลยอยากจะหยิ่งกันบ้าง
“แล้วทีนายงี่เง่าไม่เข้าเรื่องอะ?”
“สำนึกผิดไปในจดหมายแล้วไง” แบคฮยอนพยักหน้าหงึกหงัก เข้าใจชานยอล คนตัวใหญ่ที่ยังไม่ยอมปล่อยให้แบคฮยอนไปไหนยิ้มแผล่ทันที
“งั้นคืนนี้. . .นอนด้วยกันเหมือนเดิม?” แบคฮยอนพยักหน้า
“นอนกอดกันด้วย” แบคฮยอนก็พยักหน้าอีก ชานยอลกอดคนตัวเล็กในอ้อมกอดแน่น จนแบคฮยอนต้องโวยวายให้ปล่อย หลายวันผ่านมาที่ไม่ได้คุยกัน เหมือนจะทำให้พวกเค้าเข้าใจกันมากขึ้น ถึงเส้นทางรักของแบคฮยอนกับชานยอล จะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เรื่องของพวกเค้าวันนี้ ก็จะช่วยเสริมความเข้าใจในวันหน้าได้อย่างแน่นอน
“นายอย่าลืมไปขอบคุณพี่คริสนะ” คนตัวเล็กในอ้อมกอดบอก ชานยอลเลิกคิ้วสงสัย แบคฮยอนเลยต่อให้ว่า ถ้าพี่คริสไม่เข้ามาเทศน์เค้า ป่านนี้คนที่นอนกอดแบคฮยอนอยู่คงจะเป็นจื่อเทา
“งั้นแบคฮยอนก็ต้องไปขอบคุณ พี่ลู่หาน”
“ทำไมอะ?”
“ก็คนคิดมุขนั่นอะ พี่ลู่หานคิดให้ โอ้ย!” แบคฮยอนที่เอาหัวโขกหน้าอกชานยอลจนหน้าผากแดง คนตัวสูงบ่นเจ็บนิดหน่อย ก่อนจะหันมาหัวเราะหน้าผากที่แดงเถือกของแบคฮยอนแทน หัวเราะกันได้สักพักนึง คงเพราะความเหนื่อยจึงทำให้ชานยอลเผลอหลับไปก่อน แบคฮยอนเองก็ทำตัวเป็นคนถูกกอดที่ดี นอนนิ่งๆไม่ไหวติงเลยแม้แต่น้อย
“ฝันดีนะ” เอ่ยบอกกับคนตัวสูงเบาๆ ถึงต่อไปชานยอลกับแบคฮยอนจะงอนกันอีก แต่พวกเค้าก็มั่นใจ ว่าเมมเบอร์ในวงจะช่วยกัน ทำให้พวกเค้ากลับมาดีกันได้ใหม่
อยากรู้กันมั้ย? ว่าชานยอลเขียนอะไรไว้บนกระดาษ?
อย่าเอาไปบอกคนอื่นล่ะ
ชานยอลนะ เขียนว่า. . .
‘ ชานยอล♥แบคฮยอน ขอโทษนะครับ:’(.’
THE END.
คิคิคิ เห็นชานแบคไม่มุ้งมุิ้งกันมาหลายวัน
ก็กลายเป็นว่า เก็บมามโนว่าเค้าอาจจะงอนกันอยู่
จนกลั่นกรองออกมาเป็นฟิคสนองนี้ดตัวเอง และพี่จ๋า<3
เนื้อเรื่องอาจจะสะดุด หรือไม่สนุกตรงไหน
ติชมได้เลยนะคะ นิชจะได้เก็บไปปรับปรุงในเรื่องต่อๆไปค่ะ^^
Ps.แต่เมื่อวานเค้าโอบไหล่กันแล้วเนอะ นิชเลยรีบเอามาลงเลยนะเนี่ย
5555555555555 ขอบคุณพี่ชานยอลที่เป็นคนเริ่มง้อแบคนะจ้ะ>w< #มโนคือชนะ
ขอบคุณทุกคนเม้นท์เลยนะคะ^^
ความคิดเห็น