ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You're my brother .. พี่ครับ ผมรักพี่ .. [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter : 2 ในห้องและสองเรา

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 56


    ฟ้ามืดสลัวยามย่ำค่ำพร้อมกับสายฝนที่ตกลงมาปรอยๆชวนให้บรรยากาศดูน่าวังเวงยิ่งนัก  ลมแรงกรรโชกจนต้นไม้ให้พลิ้วไหวตามสายลม  หลอดนีออนหน้าหอกระพริบติดๆดับๆ  เสียงหมาหอนรับกันเกรียวประหนึ่งเห็นสิ่งที่น่าพิศวง   

     

     

    พอเถอะไอ้เชี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!!  บรรยากาศมันชักจะกลายเป็นฟิคสยองขวัญมากไปละ

     

     

    แล้วแมร่งไฟที่ติดๆดับๆหน้าหอนั่นอีก  ทำไมลุงเจ้าของหอไม่ส่งช่างมาซ่อมสักทีล่ะครับ!!!

     

     

    ผมนั่งตัวเกร็งอยู่บนเก้าอี้ที่ใช้นั่งเวลาเขียนแบบ  ผมไม่กล้ากระดุกกระดิกตัวแม้แต่น้อยเพราะกลัวจะเกิดเสียงดังกระทบกระดูกค้อนในหูพี่ท่านที่นอนกระดิกหัวแม่ตีนอ่าน FHM อยู่บนเตียงของผมสบายใจเฉิบ

     

    มากไปละมึง!!!  ได้ข่าวว่านั่นเตียงกูสาดดดดดดด!!! 

     

    ชีวิตของผมวันนี้มันเน่ายิ่งกว่าละครน้ำเน่าเสียอีก  หลังจากที่ผมวาดหวังเอาไว้ในหัวว่าจะได้เจอเทพธิตัวน้อยๆของผมเสียทีหลังจากที่หลงรักเธอมาแล้วสามปีเต็ม  กลับเป็นว่าน้องฝ้ายสาวงามกลายร่างเป็นไอ้เชี่ยน้องฝ้าย  น้องชายสุดหล่อของเพื่อนรักผมไปเสียได้  แต่อะไรก็ไม่ช็อคเท่าที่ไอ้ควายนี่มันปีนเกลียวไม่เรียกผมว่าพี่สักคำ  มันพูดกับผมประหนึ่งผมเป็นขี้ข้ามัน  เดินเข้ามาในห้องคำแรกที่มันพูดคือ

     

    “กูร้อน”

     

    ส่วนผมน่ะหรอ  …  หารีโมทแอร์มาเปิดให้มันแทบไม่ทัน

     

    ผมเคยบอกแล้วว่าน้องชายไอ้ฝิ่นมันหล่อแบบสุขุม  แต่คือมึงสุขุมมากไปป่ะ  สายตามึงแมร่งโคตรมีอานุภาพทำลายล้าง  เด็ก สตรี และคนชราโปรดระวัง  เห็นหน้ามันท่านอาจช็อคได้

     

    “เอ่อ ฝ้าย กูขอเปิดทีวีดูหน่อยได้มั๊ย”  ผมพูดกับมันเบาๆ  ในเมื่อมันใช้ภาษาพ่อขุนกับผมและผมจะต้องใช้ภาษาดอกไม้กับมันไปทำไมกันล่ะ  กูมากูกลับสิครับ  ไอ้เชี่ยน้องฝ้ายละหน้าออกจากหนังสือแล้วขมวดคิ้วมุ่น

     

    “ได้ข่าวว่านี่ห้องมึง”  มันตอบแค่นั้นแล้วก็เอาหน้ามุดเข้าไปในหนังสือต่อ  ไอ้สัส!!!  น้องเมเปิ้ลกูท้องไปแล้วมั้ง  มุดซะ!!

     

    เมื่อมันอนุญาตเจ้าของห้องอย่างผมก็เลยเปิดทีวีทันที  คือผมกำลังติดละครครับ  ตอนนี้เวลาสองทุ่ม  ละครหลังข่าววันจันทร์เกี่ยวกับผัวๆเมียๆ ผ..ๆ อะไรเทือกๆนี้ล่ะครับ  ผมติดตามแม่ช่วงที่กลับบ้าน  นางเอกกำลังกลับมาจากเมืองนอกครับ  อีเมียหลวงมึงโดนแน่รอบนี้

     

    ว่าแต่กูลุ้นมากไปป่ะวะ??

     

    “กูไม่อยากดูช่องนี้  กูไม่ชอบละครน้ำเน่า”  ไอ้เชี่ยน้องฝ้ายพูดออกมาทั้งๆที่หนังหน้ามันยังไม่โผล่ออกจากหนังสือ  ผมตวัดสายตามองมันทันที  กูได้ข่าวว่ามึงไม่ได้ดูกะกูนะ

     

    “มึงอ่านหนังสืออยู่ก็อ่านไปฝ้าย  กูจะดูหนัง”

     

    “กูเคยดูแล้วเรื่องนี้ตอนเด็กๆ  แมร่งมันเอามารีเมค” 

     

    “จริงดิ  แล้วตอนจบเป็นไง”  ผมเป็นพวกชอบให้คนสปอยหนังตอนจบครับ  ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

     

    “ก็เนี่ยอีกหน่อยนางเอกที่ตายจะกลายเป็นผีมาตามฆ่าทีละคนๆ  แล้วตอนจบก็ตายห่ากันหมด” 

     

    ผมที่นั่งอยู่บนโต๊ะเขียนแบบคนเดียวถึงกลับหุบขาที่ห้อยลงแทบไม่ทัน  ครับ ผมกลัวผี  กลัวมากกกกกกกกกกกกกก  แล้วบรรยากาศตอนนี้ก็โคตรจะวังเวง  ฝนตกปรอยๆ  ลมพัดแรงๆ

     

    “มีฉากนึงที่ผีนางเอกมันนั่งห้อยขาอยู่บนขื่อ  ผมอย่างยาวอ่ะ  น้ำหยดติ๋งๆ”  ไอ้ฝ้ายเล่าเสียงยานๆ  ผมตวัดตามองไปบนเพดานห้องอย่างช่วยไม่ได้  ขาสองขารีบกระโจนขึ้นไปนั่งบนเตียงกับไอ้ฝ้ายอย่างรวดเร็ว  ไอ้เด็กนั่นละหน้าออกมาจากหนังสือ  สายตามันโคตรกวนส้นตีน  “แล้วผีนางเอกมันก็ถามว่า……

     

    “ว่า……..”  ผมพูดตามมันกลับ  ผมกลัวก็จริงแต่ผมก็อยากรู้  ไอ้ฝ้ายหัวเราะออกมาเบาๆ  “หัวเราะเชี่ยไรสัส!!”  ผมตวาดมันกลับไป  ไอ้ฝ้ายขยับตัวชิดกำแพงมากขึ้นเมื่อมันรู้สึกได้ว่าผมเบียดเบียนที่ว่างบนเตียงของมันอยู่

     

    “มึงจะเบียดเหี้ยไรกูนักครับ”

     

    “อะเออ  เล่าต่อๆ  แล้วตกลงผีนางเอกมันถามว่าอะไร”

     

    “มันถามว่า……”  ไอ้ฝ้ายเว้นวรรคนิดนึงเพื่อดูปฏิกริยาของผม  เออมึงเดาถูก  กูโคตรกลัวอ่ะ    

     

     

     

     

     

     

     

    “ช้างกูอยู่ไหน!!!!!!!

     

     

     

     

    “เชี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!!”  ไอ้ฝ้ายมันตะโกนออกมาเสียงดังทำเอาผมที่นั่งลุ้นๆอยู่ตกใจหงายหลังก่อนจะพลิกตัวกอดมันแน่น  ไม่ต้องครับ  มึงไม่ต้องฉายภาพแบบสโลโมชั่น  เอาเป็นว่าตอนนี้ผมนอนกอดไอ้เชี่ยน้องฝ้ายอยู่  บรรยากาศโคตรน่าเสียตัว

     

    “ออกไปเลยสาดดดด  มึงกอดกูเชี่ยไรเนี่ย”  ไอ้น้องฝ้ายถีบผมออกจากตัวมัน  ซึ่งผมก็ได้สติผละตัวออกจากมันโดยทันที  ก่อนจะเดินไปนั่งบนโต๊ะเขียนแบบอีกครั้งอย่างหัวเสีย

     

    ช้างกูอยู่ไหนพ่องงสิ  ไอ้ฟวยยยยย!!!!!!! 

     

     

     

    ………………………………………

     

     

     

    หลังจากที่ผมฟังตอนจบละครดังหลังข่าวเวอร์ชั่นมิกซ์แอนด์แม็ทของไอ้เชี่ยน้องฝ้ายจบผมก็สาบานกับตัวเองทันทีว่าต่อไปนี้ผมจะไม่ฟังสปอยตอนจบของหนังเรื่องไหนบนโลกใบนี้อีกต่อไป  ไอ้ฝ้ายแมร่งมันคิดได้ไงครับ  มันมิกซ์กันจนผมไม่รู้ว่ามันเอาเรื่องเอี้ยไรมาใส่ไปบ้าง  แต่ที่แน่ๆช้างกูอยู่ไหนนี่ผมรู้จักครับ  มึงจะหลอกกูเร็วไปสิบปีว่ะไอ้น้อง  (แต่มึงก็ฟังมันจนจบนะนิว)

     

    “แล้วพี่มึงเมื่อไหร่จะมารับ”

     

    “เอาเสร็จมันก็มา”  มันพูดหน้าตาเฉย  ตอนนี้มันเปลี่ยนจากอ่านFHM มาเป็นกดรีโมททีวีเล่น  คือนี่ห้องมึงใช่ป่ะ  ทำอะไรโคตรตามอำเภอใจเลยแสรดดดดดดด

     

    “มึงไม่โทรไปตามมันวะ”

     

    ………………..”  มันไม่ตอบแต่ส่งสายตาที่วิเคราห์ได้ประมาณว่า  ไอ้เชี่ยมึงจะถามมากไปป่ะมาให้ผมแทน

     

    ในเมื่อมันไม่ตอบผมก็ไม่รู้จะทำยัง  เปิดคอมหางานตามที่อาจารย์แกสั่งดีกว่า  ปกติผมไม่ใช่คนขยันอะไรแบบนี้หรอกนะครับ  แต่วันนี้มันว่างแบบสุดวิสัยจริงๆ  กูทำงานก็ได้  โด่วววววว!!!

     

    “ตอนแรกมึงคิดว่ากูเป็นผู้หญิงหรอ”  ไอ้ฝ้ายถามในขณะที่สายตามันจ้องมองอยู่บนหน้าจอทีวี  ผมเสหน้าไปมองมันก่อนจะกลับมาสนใจหน้าจอคอมต่อ

     

    “แล้วมึงคิดว่าผู้ชายในโลกใบนี้จะมีสักกี่คนที่ชื่อฝ้าย  มันก็เป็นธรรมดาที่กูจะคิดว่ามึงเป็นผู้หญิง”

     

    “ไม่เห็นแปลก  ไอ้ฝิ่นก็ชื่อเหมือนผู้หญิง  ทีฟลุ๊คยังชื่อเหมือนผู้ชายเลย”  มันตอบหน้าตาเฉย  เฉยจนอยากเอานันยางกระแทกหนังหน้า

     

    “ไม่แปลกแค่บ้านมึงบ้านเดียวแหละสัส!!!

     

    “แต่กูชอบชื่อกูนะ  สาวๆเขาจำง่ายดี  โรงเรียนเก่ากูมีคนชื่อฝ้ายที่เป็นผู้ชายแค่คนเดียวเอง”

     

    เอออ!!!!  ไม่แปลก  มึงไม่เล่ากูก็พอจะเดาได้

     

    ผมเลือกที่จะไม่ตอบมันครับ  รำคาญจะคุยด้วย  ผมรู้สึกได้ว่ามันเป็นมนุษย์เพศผู้ที่ท่าทางจะรับมือได้ยากมากที่สุดเท่าที่ชีวิตน้อยๆของผมเคยพบเจอมา  ด้วยบุคลิกนิ่งๆ  มาดคุณชายๆ  แต่นิสัยโคตรกวนส้นตีนแบบนี้  ผมจะรีเมมเบอร์ไว้ในซิลิบั่มเลยล่ะว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้สัสนี่

     

    ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

    เสียงเคาะประตูผมระรัวแบบโคตรจะไร้มารยาทดังขึ้น  ผมเดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเป็นไอ้เชี่ยฝิ่น  มันคงมารับน้องชายสุดที่รักของมัน  ผมแทบจะเขย่งก้าวกระโดดไปเปิดประตูต้อนรับมันด้วยความปลาบปลื้มใจ  อารมณ์ตอนนี้อยากจุดพลุฉลองอิสรภาพของตัวเองมากครับ

     

    “ไงมึง  น้องกูน่ารักแมะ”  พอเปิดประตูปุ๊บไอ้เชี่ยฝิ่นที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดีหลังจากที่ได้สกัดน้ำออกจากร่างกายถามผมขึ้นคำแรก  มันยักคิ้วกวนตีนให้ผมสามครั้ง  ผมหลบตัวให้มันแทรกตัวควายๆของมันเข้ามาในห้อง

     

    “น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”  ผมเน้นคำว่ามากยาวหน่อย  จริงๆอยากใส่ไปยาลใหญ่สักแปดร้อยตัว เพื่อแสดงความประชดประชันให้มันถึงที่สุด

     

    ไอ้เชี่ยน้องฝ้ายลุกขึ้นนั่งบนปลายเตียงผมพร้อมยิ้มหล่อออร่ากระจายให้ผม  หึ ไม่ต้องยิ้มให้กู  กูไม่หลงไปกับมึงหรอกสัส

     

    “ก็อย่างนี้แหละ  ถึงมีแต่คนหลงน้องกู  พอดีไอ้ฝ้ายมันได้เชื้อพี่ชายมันมาเยอะ  หน้าตาเลยดี”  ไอ้ฝิ่นอวยตัวเองไปหนึ่งดอกเบาๆ  มันกำลังซดเป็ปซี่กระป๋องสุดท้ายในตู้เย็นของผมอย่างเอร็ดอร่อย

     

    “ครับพ่อ  หล่อมากกกกกกกกกกกกกก  แล้วนี่มึงสองตัวจะพากันกลับไปได้รึยัง  มึงเห็นมั้ยว่าห้องกูแคบ  แล้วผู้ชายตัวควายๆแบบมึงสองตัวห้องกูไม่รองรับ  ห้องกูรับรองแต่สาวๆ”

     

    ผมพูดจบไอ้ฝ้ายก็หัวเราะหึๆเบาๆ  หัวเราะเยาะกูหรอสัส  รอกูไปฟิตกล้ามมาก่อนนะ  กูจะมาท้างัดข้อกะมึง

     

    “หนังหน้าอย่างมึงหาผัวรุ่งกว่าว่ะนิว  กูแนะนำให้เอาแมะ”  ไอ้ฝิ่นที่กำลังกรอกเลย์ห่อสุดท้ายหลังตู้เย็นลงคอพูดขึ้น  ก่อนจะเหลือบตามามองผม  “เนี่ยเพื่อนกูที่เรียนวิดวะมันบอกว่ามึงโคตรดังในหมู่พวกวิดวะเลยนะเว้ย  พวกมันอยากซั่มมึงกันทั้งนั้น”

     

    “ซั่มพ่องงงงงง  กูผู้ชาย  กูมีงวง  ไอ้ฟายยยยย!!!!!!!!!!!”  ผมตะโกนใส่หน้าไอ้ฝิ่นเสียงดังลั่น  เชี่ยฝิ่นหัวเราะร่วนในขณะที่น้องชายมันหัวเราะหึๆ  แล้วหันมามองผม  ตาคมของมันไล่มองผมตั้งแต่ส้นตีนขึ้นไปหนังหัวก่อนจะไล่สายตาจากหนังหัวลงมาส้นตีนอีกรอบ  คือคุณๆเข้าใจผมมั้ยว่ามันโคตรหล่อ  ตามันมีเสน่ห์มากอ่ะ  คือแบบมันทำให้ผมชัทดาวน์ได้  ลองใครมาตกอยู่ในสภาพผมก็ต้องมีใจเต้นโครมครามกันบ้างล่ะ

     

    “มองเชี่ยไร  กูรู้กูหล่อ”  ผมแหวมันกลับไปพร้อมกับทึ้งหัวตัวเองเบาๆ  ตอนนี้อยากจะกลับไปตั๊นหน้าไอ้เชี่ยช่างทำผมนั่นสักสองสามหมัด  ไหนมึงบอกว่าทรงนี้กูเท่ห์กูแมนไงวะ  มึงเอา 150 บาทกูคืนมาเลยกูจะฟ้อง สคบ ข้อหาที่มึงหลอกลวงผู้บริโภคอย่างกู!!!!!!

     

    “ไปๆๆๆ  ไอ้ฝ้าย  มึงก็ไปแกล้งมัน  เดี๋ยวมันก็ท้องหรอก”  ไอ้ฝิ่นพูดพร้อมกับเดินผ่านผมไปเปิดประตูห้อง  คือมึงแดกขนมกูหมดแล้วสินะ  ทิ้งซองเลย์เปล่าๆกับกระป๋องเป็ปซี่ไว้บนหลังตู้เย็น  คือมึงแค่มาแดกขนมกูล่ะสิ  เอี้ยมากกกก

     

    “เออไปตายห่าที่ไหนก็ไปกันเลยมึงสองตัวน่ะ  มึงสองตัวนี่เป็นจุดบอดของชีวิตกูจริงๆ”  ผมพูดโดยไม่วายสะบัดส้นตีนเชิงไล่มันสองพี่น้องให้ออกไปไกลๆจากห้องผมซะที  ไอ้ฝิ่นออกไปหน้าห้องโดยมีไอ้เชี่ยน้องฝ้ายเดินตาม  ก่อนที่ไอ้ฝ้ายจะหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วหันมามองหน้าผมช้าๆ  มันยิ้มเย็นๆให้ผม  สายตามันวิบวับโคตรจะเจ้าเล่ห์  ในขณะที่ผมเลิกคิ้วเชิงถามมันกลับไปว่า  มึงเป็นส้นตีนอะไรกับกูครับเชี่ยน้องฝ้ายไอ้น้องฝ้ายพ่นคำพูดสั้นๆแต่ได้ใจความออกมาที่ทำเอาผมคว้าหมอนใกล้ตัวปาไล่มันออกไปแทบไม่ทัน

     

     

     

     

     

     

    “มึงมันน่าซั่มสมคำลำลือจริงๆว่ะ”

     

     

     

    ไอ้แสรดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!  กูเป็นผู้ชายยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!  ไอ้ง๊าวววววววววว!!!!!!!!!!!!!

     

    ...........................................

    จากใจผู้เขียน  > <

    ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×