คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter : 2 ในห้องและสองเรา
ฟ้ามืดสลัวยามย่ำค่ำพร้อมกับสายฝนที่ตกลงมาปรอยๆชวนให้บรรยากาศดูน่าวังเวงยิ่งนัก ลมแรงกรรโชกจนต้นไม้ให้พลิ้วไหวตามสายลม หลอดนีออนหน้าหอกระพริบติดๆดับๆ เสียงหมาหอนรับกันเกรียวประหนึ่งเห็นสิ่งที่น่าพิศวง
พอเถอะไอ้เชี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!! บรรยากาศมันชักจะกลายเป็นฟิคสยองขวัญมากไปละ
แล้วแมร่งไฟที่ติดๆดับๆหน้าหอนั่นอีก ทำไมลุงเจ้าของหอไม่ส่งช่างมาซ่อมสักทีล่ะครับ!!!
ผมนั่งตัวเกร็งอยู่บนเก้าอี้ที่ใช้นั่งเวลาเขียนแบบ ผมไม่กล้ากระดุกกระดิกตัวแม้แต่น้อยเพราะกลัวจะเกิดเสียงดังกระทบกระดูกค้อนในหูพี่ท่านที่นอนกระดิกหัวแม่ตีนอ่าน FHM อยู่บนเตียงของผมสบายใจเฉิบ
มากไปละมึง!!! ได้ข่าวว่านั่นเตียงกูสาดดดดดดด!!!
ชีวิตของผมวันนี้มันเน่ายิ่งกว่าละครน้ำเน่าเสียอีก หลังจากที่ผมวาดหวังเอาไว้ในหัวว่าจะได้เจอเทพธิตัวน้อยๆของผมเสียทีหลังจากที่หลงรักเธอมาแล้วสามปีเต็ม กลับเป็นว่าน้องฝ้ายสาวงามกลายร่างเป็นไอ้เชี่ยน้องฝ้าย น้องชายสุดหล่อของเพื่อนรักผมไปเสียได้ แต่อะไรก็ไม่ช็อคเท่าที่ไอ้ควายนี่มันปีนเกลียวไม่เรียกผมว่าพี่สักคำ มันพูดกับผมประหนึ่งผมเป็นขี้ข้ามัน เดินเข้ามาในห้องคำแรกที่มันพูดคือ
“กูร้อน”
ส่วนผมน่ะหรอ … หารีโมทแอร์มาเปิดให้มันแทบไม่ทัน
ผมเคยบอกแล้วว่าน้องชายไอ้ฝิ่นมันหล่อแบบสุขุม แต่คือมึงสุขุมมากไปป่ะ สายตามึงแมร่งโคตรมีอานุภาพทำลายล้าง เด็ก สตรี และคนชราโปรดระวัง เห็นหน้ามันท่านอาจช็อคได้
“เอ่อ… ฝ้าย กูขอเปิดทีวีดูหน่อยได้มั๊ย” ผมพูดกับมันเบาๆ ในเมื่อมันใช้ภาษาพ่อขุนกับผมและผมจะต้องใช้ภาษาดอกไม้กับมันไปทำไมกันล่ะ กูมากูกลับสิครับ ไอ้เชี่ยน้องฝ้ายละหน้าออกจากหนังสือแล้วขมวดคิ้วมุ่น
“ได้ข่าวว่านี่ห้องมึง” มันตอบแค่นั้นแล้วก็เอาหน้ามุดเข้าไปในหนังสือต่อ ไอ้สัส!!! น้องเมเปิ้ลกูท้องไปแล้วมั้ง มุดซะ!!
เมื่อมันอนุญาตเจ้าของห้องอย่างผมก็เลยเปิดทีวีทันที คือผมกำลังติดละครครับ ตอนนี้เวลาสองทุ่ม ละครหลังข่าววันจันทร์เกี่ยวกับผัวๆเมียๆ ผ.อ.ๆ อะไรเทือกๆนี้ล่ะครับ ผมติดตามแม่ช่วงที่กลับบ้าน นางเอกกำลังกลับมาจากเมืองนอกครับ อีเมียหลวงมึงโดนแน่รอบนี้
ว่าแต่กูลุ้นมากไปป่ะวะ??
“กูไม่อยากดูช่องนี้ กูไม่ชอบละครน้ำเน่า” ไอ้เชี่ยน้องฝ้ายพูดออกมาทั้งๆที่หนังหน้ามันยังไม่โผล่ออกจากหนังสือ ผมตวัดสายตามองมันทันที กูได้ข่าวว่ามึงไม่ได้ดูกะกูนะ
“มึงอ่านหนังสืออยู่ก็อ่านไปฝ้าย กูจะดูหนัง”
“กูเคยดูแล้วเรื่องนี้ตอนเด็กๆ แมร่งมันเอามารีเมค”
“จริงดิ แล้วตอนจบเป็นไง” ผมเป็นพวกชอบให้คนสปอยหนังตอนจบครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
“ก็เนี่ยอีกหน่อยนางเอกที่ตายจะกลายเป็นผีมาตามฆ่าทีละคนๆ แล้วตอนจบก็ตายห่ากันหมด”
ผมที่นั่งอยู่บนโต๊ะเขียนแบบคนเดียวถึงกลับหุบขาที่ห้อยลงแทบไม่ทัน ครับ… ผมกลัวผี กลัวมากกกกกกกกกกกกกก แล้วบรรยากาศตอนนี้ก็โคตรจะวังเวง ฝนตกปรอยๆ ลมพัดแรงๆ
“มีฉากนึงที่ผีนางเอกมันนั่งห้อยขาอยู่บนขื่อ ผมอย่างยาวอ่ะ น้ำหยดติ๋งๆ” ไอ้ฝ้ายเล่าเสียงยานๆ ผมตวัดตามองไปบนเพดานห้องอย่างช่วยไม่ได้ ขาสองขารีบกระโจนขึ้นไปนั่งบนเตียงกับไอ้ฝ้ายอย่างรวดเร็ว ไอ้เด็กนั่นละหน้าออกมาจากหนังสือ สายตามันโคตรกวนส้นตีน “แล้วผีนางเอกมันก็ถามว่า……”
“ว่า……..” ผมพูดตามมันกลับ ผมกลัวก็จริงแต่ผมก็อยากรู้ ไอ้ฝ้ายหัวเราะออกมาเบาๆ “หัวเราะเชี่ยไรสัส!!” ผมตวาดมันกลับไป ไอ้ฝ้ายขยับตัวชิดกำแพงมากขึ้นเมื่อมันรู้สึกได้ว่าผมเบียดเบียนที่ว่างบนเตียงของมันอยู่
“มึงจะเบียดเหี้ยไรกูนักครับ”
“อะ…เออ เล่าต่อๆ แล้วตกลงผีนางเอกมันถามว่าอะไร”
“มันถามว่า……” ไอ้ฝ้ายเว้นวรรคนิดนึงเพื่อดูปฏิกริยาของผม เออมึงเดาถูก กูโคตรกลัวอ่ะ
“ช้างกูอยู่ไหน!!!!!!!”
“เชี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!!” ไอ้ฝ้ายมันตะโกนออกมาเสียงดังทำเอาผมที่นั่งลุ้นๆอยู่ตกใจหงายหลังก่อนจะพลิกตัวกอดมันแน่น ไม่ต้องครับ มึงไม่ต้องฉายภาพแบบสโลโมชั่น เอาเป็นว่าตอนนี้ผมนอนกอดไอ้เชี่ยน้องฝ้ายอยู่ บรรยากาศโคตรน่าเสียตัว
“ออกไปเลยสาดดดด มึงกอดกูเชี่ยไรเนี่ย” ไอ้น้องฝ้ายถีบผมออกจากตัวมัน ซึ่งผมก็ได้สติผละตัวออกจากมันโดยทันที ก่อนจะเดินไปนั่งบนโต๊ะเขียนแบบอีกครั้งอย่างหัวเสีย
ช้างกูอยู่ไหนพ่องงสิ ไอ้ฟวยยยยย!!!!!!!
………………………………………
หลังจากที่ผมฟังตอนจบละครดังหลังข่าวเวอร์ชั่นมิกซ์แอนด์แม็ทของไอ้เชี่ยน้องฝ้ายจบผมก็สาบานกับตัวเองทันทีว่าต่อไปนี้ผมจะไม่ฟังสปอยตอนจบของหนังเรื่องไหนบนโลกใบนี้อีกต่อไป ไอ้ฝ้ายแมร่งมันคิดได้ไงครับ มันมิกซ์กันจนผมไม่รู้ว่ามันเอาเรื่องเอี้ยไรมาใส่ไปบ้าง แต่ที่แน่ๆช้างกูอยู่ไหนนี่ผมรู้จักครับ มึงจะหลอกกูเร็วไปสิบปีว่ะไอ้น้อง (แต่มึงก็ฟังมันจนจบนะนิว)
“แล้วพี่มึงเมื่อไหร่จะมารับ”
“เอาเสร็จมันก็มา” มันพูดหน้าตาเฉย ตอนนี้มันเปลี่ยนจากอ่านFHM มาเป็นกดรีโมททีวีเล่น คือนี่ห้องมึงใช่ป่ะ ทำอะไรโคตรตามอำเภอใจเลยแสรดดดดดดด
“มึงไม่โทรไปตามมันวะ”
“………………..” มันไม่ตอบแต่ส่งสายตาที่วิเคราห์ได้ประมาณว่า ‘ไอ้เชี่ยมึงจะถามมากไปป่ะ’ มาให้ผมแทน
ในเมื่อมันไม่ตอบผมก็ไม่รู้จะทำยัง เปิดคอมหางานตามที่อาจารย์แกสั่งดีกว่า ปกติผมไม่ใช่คนขยันอะไรแบบนี้หรอกนะครับ แต่วันนี้มันว่างแบบสุดวิสัยจริงๆ กูทำงานก็ได้ โด่วววววว!!!
“ตอนแรกมึงคิดว่ากูเป็นผู้หญิงหรอ” ไอ้ฝ้ายถามในขณะที่สายตามันจ้องมองอยู่บนหน้าจอทีวี ผมเสหน้าไปมองมันก่อนจะกลับมาสนใจหน้าจอคอมต่อ
“แล้วมึงคิดว่าผู้ชายในโลกใบนี้จะมีสักกี่คนที่ชื่อฝ้าย มันก็เป็นธรรมดาที่กูจะคิดว่ามึงเป็นผู้หญิง”
“ไม่เห็นแปลก ไอ้ฝิ่นก็ชื่อเหมือนผู้หญิง ทีฟลุ๊คยังชื่อเหมือนผู้ชายเลย” มันตอบหน้าตาเฉย เฉยจนอยากเอานันยางกระแทกหนังหน้า
“ไม่แปลกแค่บ้านมึงบ้านเดียวแหละสัส!!!”
“แต่กูชอบชื่อกูนะ สาวๆเขาจำง่ายดี โรงเรียนเก่ากูมีคนชื่อฝ้ายที่เป็นผู้ชายแค่คนเดียวเอง”
เอออ!!!! ไม่แปลก มึงไม่เล่ากูก็พอจะเดาได้
ผมเลือกที่จะไม่ตอบมันครับ รำคาญจะคุยด้วย ผมรู้สึกได้ว่ามันเป็นมนุษย์เพศผู้ที่ท่าทางจะรับมือได้ยากมากที่สุดเท่าที่ชีวิตน้อยๆของผมเคยพบเจอมา ด้วยบุคลิกนิ่งๆ มาดคุณชายๆ แต่นิสัยโคตรกวนส้นตีนแบบนี้ ผมจะรีเมมเบอร์ไว้ในซิลิบั่มเลยล่ะว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้สัสนี่
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูผมระรัวแบบโคตรจะไร้มารยาทดังขึ้น ผมเดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเป็นไอ้เชี่ยฝิ่น มันคงมารับน้องชายสุดที่รักของมัน ผมแทบจะเขย่งก้าวกระโดดไปเปิดประตูต้อนรับมันด้วยความปลาบปลื้มใจ อารมณ์ตอนนี้อยากจุดพลุฉลองอิสรภาพของตัวเองมากครับ
“ไงมึง น้องกูน่ารักแมะ” พอเปิดประตูปุ๊บไอ้เชี่ยฝิ่นที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดีหลังจากที่ได้สกัดน้ำออกจากร่างกายถามผมขึ้นคำแรก มันยักคิ้วกวนตีนให้ผมสามครั้ง ผมหลบตัวให้มันแทรกตัวควายๆของมันเข้ามาในห้อง
“น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ผมเน้นคำว่ามากยาวหน่อย จริงๆอยากใส่ไปยาลใหญ่สักแปดร้อยตัว เพื่อแสดงความประชดประชันให้มันถึงที่สุด
ไอ้เชี่ยน้องฝ้ายลุกขึ้นนั่งบนปลายเตียงผมพร้อมยิ้มหล่อออร่ากระจายให้ผม หึ… ไม่ต้องยิ้มให้กู กูไม่หลงไปกับมึงหรอกสัส
“ก็อย่างนี้แหละ ถึงมีแต่คนหลงน้องกู พอดีไอ้ฝ้ายมันได้เชื้อพี่ชายมันมาเยอะ หน้าตาเลยดี” ไอ้ฝิ่นอวยตัวเองไปหนึ่งดอกเบาๆ มันกำลังซดเป็ปซี่กระป๋องสุดท้ายในตู้เย็นของผมอย่างเอร็ดอร่อย
“ครับพ่อ หล่อมากกกกกกกกกกกกกก แล้วนี่มึงสองตัวจะพากันกลับไปได้รึยัง มึงเห็นมั้ยว่าห้องกูแคบ แล้วผู้ชายตัวควายๆแบบมึงสองตัวห้องกูไม่รองรับ ห้องกูรับรองแต่สาวๆ”
ผมพูดจบไอ้ฝ้ายก็หัวเราะหึๆเบาๆ หัวเราะเยาะกูหรอสัส รอกูไปฟิตกล้ามมาก่อนนะ กูจะมาท้างัดข้อกะมึง
“หนังหน้าอย่างมึงหาผัวรุ่งกว่าว่ะนิว กูแนะนำให้เอาแมะ” ไอ้ฝิ่นที่กำลังกรอกเลย์ห่อสุดท้ายหลังตู้เย็นลงคอพูดขึ้น ก่อนจะเหลือบตามามองผม “เนี่ยเพื่อนกูที่เรียนวิดวะมันบอกว่ามึงโคตรดังในหมู่พวกวิดวะเลยนะเว้ย พวกมันอยากซั่มมึงกันทั้งนั้น”
“ซั่มพ่องงงงงง กูผู้ชาย กูมีงวง ไอ้ฟายยยยย!!!!!!!!!!!” ผมตะโกนใส่หน้าไอ้ฝิ่นเสียงดังลั่น เชี่ยฝิ่นหัวเราะร่วนในขณะที่น้องชายมันหัวเราะหึๆ แล้วหันมามองผม ตาคมของมันไล่มองผมตั้งแต่ส้นตีนขึ้นไปหนังหัวก่อนจะไล่สายตาจากหนังหัวลงมาส้นตีนอีกรอบ คือคุณๆเข้าใจผมมั้ยว่ามันโคตรหล่อ ตามันมีเสน่ห์มากอ่ะ คือแบบมันทำให้ผมชัทดาวน์ได้ ลองใครมาตกอยู่ในสภาพผมก็ต้องมีใจเต้นโครมครามกันบ้างล่ะ
“มองเชี่ยไร กูรู้กูหล่อ” ผมแหวมันกลับไปพร้อมกับทึ้งหัวตัวเองเบาๆ ตอนนี้อยากจะกลับไปตั๊นหน้าไอ้เชี่ยช่างทำผมนั่นสักสองสามหมัด ไหนมึงบอกว่าทรงนี้กูเท่ห์กูแมนไงวะ มึงเอา 150 บาทกูคืนมาเลยกูจะฟ้อง สคบ ข้อหาที่มึงหลอกลวงผู้บริโภคอย่างกู!!!!!!
“ไปๆๆๆ ไอ้ฝ้าย มึงก็ไปแกล้งมัน เดี๋ยวมันก็ท้องหรอก” ไอ้ฝิ่นพูดพร้อมกับเดินผ่านผมไปเปิดประตูห้อง คือมึงแดกขนมกูหมดแล้วสินะ ทิ้งซองเลย์เปล่าๆกับกระป๋องเป็ปซี่ไว้บนหลังตู้เย็น คือมึงแค่มาแดกขนมกูล่ะสิ เอี้ยมากกกก
“เออไปตายห่าที่ไหนก็ไปกันเลยมึงสองตัวน่ะ มึงสองตัวนี่เป็นจุดบอดของชีวิตกูจริงๆ” ผมพูดโดยไม่วายสะบัดส้นตีนเชิงไล่มันสองพี่น้องให้ออกไปไกลๆจากห้องผมซะที ไอ้ฝิ่นออกไปหน้าห้องโดยมีไอ้เชี่ยน้องฝ้ายเดินตาม ก่อนที่ไอ้ฝ้ายจะหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วหันมามองหน้าผมช้าๆ มันยิ้มเย็นๆให้ผม สายตามันวิบวับโคตรจะเจ้าเล่ห์ ในขณะที่ผมเลิกคิ้วเชิงถามมันกลับไปว่า ‘มึงเป็นส้นตีนอะไรกับกูครับเชี่ยน้องฝ้าย’ ไอ้น้องฝ้ายพ่นคำพูดสั้นๆแต่ได้ใจความออกมาที่ทำเอาผมคว้าหมอนใกล้ตัวปาไล่มันออกไปแทบไม่ทัน
“มึงมันน่าซั่มสมคำลำลือจริงๆว่ะ”
ไอ้แสรดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!! กูเป็นผู้ชายยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!! ไอ้ง๊าวววววววววว!!!!!!!!!!!!!
...........................................
จากใจผู้เขียน > <
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
ความคิดเห็น