ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You're my brother .. พี่ครับ ผมรักพี่ .. [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter : 1 แรกพบสบตา ...

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 56


     

     ใครต่อใครต่างพากันบอกผมว่าชีวิตในช่วงวัยเรียนมันเป็นอะไรที่หลั่นล๊าที่สุด  สุดเหวี่ยงที่สุด  มีความสุขที่สุด  ผมเคยคิดว่ามันไม่ใช่แบบนั้น  ชีวิตวัยเรียนเนี่ยนะ!!  จะเอาอะไรมาสนุก  แต่สุดท้าย... ตอนนี้ผมสามารถบอกได้เต็มปากเต็มคำเลยครับว่า  ชีวิตในวัยเรียนเนี่ยมันสนุกเอี้ยๆ เลยครับ

     

    ผมคงเวิ่นเว้อมานานแล้วสินะ  แหะๆ  ผมชื่อนิวครับ  อายุ  20  ปีบริบูรณ์  สูง  175  สถานภาพโสดสนิท  การศึกษาดี  หน้าตาดีด้วยครับ  ฮ่าๆ  ผมเรียนอยู่ปี 3 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพ  อย่าให้ผมบอกพิกัดนะครับว่าแถวไหน  เอาเป็นว่ามันอยู่ในกรุงเทพตอนปลาย  ปลายออกมาทางกันดารน่ะครับ 

     

    วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของชีวิตเด็กปีสามของผมครับ  ผมมาถึงตึกคณะผมแต่เช้าเลยครับ  พอดีผมเพิ่งกลับมาจากบ้านที่ต่างจังหวัด  มาถึงเช้าก็รีบเอาของไปเก็บที่หอหลังมอแล้วก็รีบมาคณะ  เมื่อเห็นว่าไม่มีใครมาผมก็ทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนประจำกลุ่มผมพร้อมหยิบมือถือขึ้นมาฟังเพลง  ไม่ใช่ไอโฟนครับ  โนเกียธรรมดาๆที่สามารถฟังเพลงได้รุ่นเดอะๆหน่อย

     

    “อ่าว  เชี่ยนิว  มาแล้วหรอครับ”  เสียงทักทายจากด้านหลังทำให้ผมที่นั่งจิ้มๆมือถือเอี้ยวหัวไปตามต้นเสียง  เจ้าของน้ำเสียงที่แสนจะกวนตีนยิ้มทะเล้นพร้อมกับยักคิ้วให้ผมกวนๆ  มันเดินมาที่โต๊ะผมแล้วนั่งตรงข้าม

     

    “ยังไม่มา”  ผมตอบมันกลับหน้าตาย  คนตรงหน้าตบหัวผมเบาๆ  ผมร้องเบาๆพอเป็นพิธีก่อนจะส่งสายตาพิฆาตไปให้มัน

     

    “ค้อนเป็นตุ๊ดเลยสัส”

     

    “ตุ๊ดพ่องงงง …..”  ผมด่าพร้อมแจกนิ้วกลางแห่งความรักให้มัน  คนตรงหน้าผมหัวเราะร่าตามสไตล์  “กวนตีนกูแต่เช้าเลยนะไอ้ป๊อบ”

     

    ครับ   มันชื่อป๊อบ  ซึ่งมันก็ป๊อบสมชื่อ  สูงยาวเข่าดีหน้าตี๋ผิวขาวออร่าคนรวยจับ  รถมินิสีแดงของมันเปลี่ยนตุ๊กตาหน้ารถเป็นว่าเล่น  อย่างว่าแหละครับ  หล่อรวยทำอะไรก็ไม่ผิด  ใครเขาจะอยากมาซ้อนจักรยานฮ่างๆของผ๊มมมม

     

    “เมื่อไหร่มึงจะเอาเหล็กออก”  ไอ้ป๊อบถามเมื่อมันมองเห็นเหล็กสีน้ำเงินเข้มในปากผม  เดือนนี้เป็นเดือนแรกที่ผมใส่ยางเชนครับ  เหล็กผมมันเลยดูน้ำเงิ๊นนนนน้ำเงิน 

     

    “อีกสองปีมั้ง”

     

    “แล้วมึงเป็นเชี่ยไรกะสีน้ำเงินมากป่ะ  เหล็กดัดฟันมึงกูเห็นใส่อยู่สองสี  ไม่แดงก็น้ำเงิน”

     

    “จะสีอะไรแล้วมันไปหนักหัวแม่ตีนมึงหรอไอ้ฟาย  ฟันก็ฟันกู  เหล็กก็เหล็กกู  ตังค์ก็ตังค์กู  สาดดดดดดดดดดดดดด”  ผมสรรเสริญมันไปนิดหน่อย  ไอ้ป๊อบมันก็ทำได้อย่างเดียวคือยิ้ม  บางทีผมก็นึกอยากจะพามันไปถ้ำกระบอกนะครับ  ไปอ้วกเอาอารมณ์ดีออกให้หมด  คือมึงอารมณ์ดีผิดมนุษย์มนามากไปละสัส

     

     

    “สัสนิว  ปิดเทอมไปตั้งนานยังไม่ได้ไปผ่าหมาออกจากปากอีกหรอวะ  ระวังมันกลายพันธุ์นะว้อยยยย”

     

    เสียงผู้มาใหม่ตะโกนลั่นมาแต่ไกล  ผมละไม่เข้าใจพวกมันว่าทำไมไม่รอให้ถึงโต๊ะก่อนค่อยพูด  ผมเสหน้าไปมองทางต้นเสียง  ก็พบมนุษย์เพศชายสามตัวกับชุดนักศึกษาสุดเซอร์ค่อนไปทางสกปรก  พวกมันสามตัวเดินเรียงหน้ากันเข้ามาช้าๆประหนึ่งพวกมันเป็นบอยแบนด์เกาหลีตามที่พวกมันเคยสมอ้างกันไว้

     

    นิชคุณ  แจจุง  ซีวอน …..

     

    ถุยยยยยยยยยยย!!!!!!

     

    “หุบตูดไปเลยสัสน็อต”  ผมเหวใส่มันทันทีที่มันนั่งลง  ไอ้น็อตคือไอ้ผู้ชายปากหมาที่ตะโกนมาเมื่อสักครู่นี้  อีกคนที่ตัวสูงๆ  ตาดุๆ  คือไอ้แบงค์  ส่วนที่คนที่ขาวๆ  ตัวแห้งๆคือไอ้ก่อ

     

    “แล้วนี่มึงทำส้นตีนอะไรกับหนังหัวมึงมาครับ  เห็บแดกหัวหรอ”  ไอ้น็อตมองหัวผมที่เพิ่งให้ช่างเขาไถข้างมาเมื่อวานสดๆร้อนๆพลางเอานิ้วจิ้มๆ  ผมสะบัดมือมันออกอย่างรำคาญ

     

    “หยั่งกะซานดร้าปาร์ค”  ไอ้แบงค์สาระแนขึ้นมาบ้างโดยมีไอ้ก่อพยักหัวหงึกหงักอย่างเห็นด้วย

     

    “เห็นด้วยกับผัวไปซะทุกอย่างเลยนะไอ้ก่อ  มึงนี่เป็นเมียที่ดีจริงๆ  คุณค่าที่ไอ้สัสแบงค์คู่ควร”  ผมพูดจบก็รีบก้มตัวเอามือปิดหัวเอาไว้ก่อนที่ฝ่ามือของไอ้สองตัวนี้จะประเคนมาที่หัวผม

     

    ที่จริงมันไม่ได้เป็นผัวเมียอะไรกันหรอก  (มั้งครับ)  แต่เพราะมันตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋เลยถูกแซวว่าเป็นผัวเมียกันมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่ง  ผมว่าพวกมันก็ต้องมีหวั่นไหวให้กันและกันบ้างแหละน่า

     

    “กูก็ว่าจะทักมึงอยู่เหมือนกัน  ฝันเห็นอะไรวะถึงตัดทรงนี้”  ไอ้ป๊อบถามผมบ้าง  ผมยืดตัวขึ้นพร้อมกับจับๆหัวตัวเอง

     

    ผมไปตัดผมมาครับ  คือแบบไถข้างไปเลย  ข้างเดียวไม่พอแม่ งล่ อสองข้างประชดชีวิต  ผมมันเป็นหนุ่มหน้าหวาน  ผิวขาว  ปากแดง  โดนเข้าใจผิดว่าเป็นตุ๊ดอยู่บ่อยๆ  ทั้งๆที่ผมน่ะ  โคตรจะแมนเลยนะครับ  (หรออออ)  เรื่องผิวขาวผมไม่ได้ซีเรียสอะไรเท่าไหร่  แต่เรื่องหน้าหวานนี่สิ  ผมรับไม่ได้  ผมอยากจะถูกทักว่า  เฮ้ย  หน้ามึงเหมือนณเดชเลยว่ะ  อะไรแบบนี้บ้าง  แต่พอตัดมานอกจากจะไม่เหมือนณเดชแล้วยังถูกหาว่าไปเหมือนนักร้องสาวแสนสวยชาวเกาหลีใต้ได้ซะอีก

     

    “ช่างหัวกูเถอะสัส  ว่าแต่ไอ้ฝิ่นตายห่าไปรึยัง  กูไม่เห็นหนังหน้ามาเป็นชาติแล้ว”  ผมถามหาเพื่อนอีกคนในกลุ่ม  ดรีกรีเดือนมหาวิทยาลัย  หึหึ  ได้ยินศักดินาขนาดนี้ทุกคนคงรู้แล้วใช่ไหมครับว่าหน้าตามันเป็นยังไง

     

    “เมื่อคืนมันหิ้วเฟรชชี่บัญชีขึ้นคอนโด”  ไอ้ป๊อบยิ้มร่าตามสไตล์มัน  “สงสัยเสียน้ำเยอะ”

     

    “มันไปลากมาจากไหนวะ”

     

    “เมื่อคืนพวกกูไปฉลองกันมา”  ไอ้ก่อตอบผม  ผมเลิกคิ้วพร้อมกับยิ้มกวนส้นตีนไปให้มันหนึ่งดอก

     

    “ฉลองพิธีมงคลสมรสระหว่างมึงกะไอ้แบงค์หรอวะ”

     

    “ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววว”

     

    เสียงไอ้น็อตกับไอ้แบงค์เป็นลูกคู่ให้ผม  สองผัวเมียพร้อมใจกันแจกนิ้วกลางให้ผม  พร้อมกับคำชื่นชมแสนไพเราะ  ___

     

    “มึงก็ไปแซวมัน เดี๋ยวผัวมันโกรธก็ถีบมึงตกโต๊ะหรอก”  ไอ้น็อตเล่นบ้าง  ไอ้แบงค์เอามือเบิ๊ดกระโหลกมันไปทีนึง

     

    “ตกลงฉลองเหี้ยไรกัน  กูจะรู้พวกมึงมั้ยเนี่ย”

     

    “ฉลองต้อนรับน้องไอ้ฝิ่น  ติดวิดวะมอเราเนี่ย”

     

    “คนไหน  ฝ้ายหรือฟลุ๊ค”  ผมถามไอ้น็อตกลับ 

     

    ไอ้ฝิ่นมันมีน้องสองคนครับ  เรียนอยู่เชียงใหม่  ชายคนหญิงคน  ชื่อฝ้ายกับฟลุ๊ค  มันเคยเปิดรูปน้องมันให้ผมดูครั้งนึงครับ  คือน้องชายมันหล่อมากกกกกกกกกกก  หล่อโคตร  โคตรหล่อ  โคตรพ่อโคตรแม่หล่อ  หล่อไม่บันยะบันยัง  หล่อแบบไม่เผื่อแผ่ใคร  หล่อจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้  คือผมว่าถ้ามีการประกวดมิสเตอร์จักรวาลตำแหน่งผู้ชนะเลิศต้องเป็นน้องไอ้ฝิ่นแน่ๆ  แต่ก็ไม่แปลกนะครับ  ไอ้ฝิ่นมันก็หน้าตาดี  ไม่งั้นจะเป็นเดือนมหาวิทยาลัยได้หรอ  แต่มันหล่อกันคนละแบบ  ไอ้ฝิ่นหล่อแบบกวนส้นตีน  แต่น้องมันหล่อแบบขรึมๆ

     

    ประเด็นอยู่ที่น้องสาวมันครับ  ผู้หญิงที่ทำให้ผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ  ครับ  พบในรูปถ่ายนั่นแหละ  เธอสวยมาก  หน้าใสไร้รอยขีดข่วน  สวยจนผมเพ้อ  รอยยิ้มเธอยังตราตรึงใจผมจนถึงทุกวันนี้

     

    “ฝ้าย”  ไอ้แบงค์ตอบ  ผมตาโตขึ้นทันที

     

    “จริงดิ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” 

     

    “มึงตื่นเต้นเวอร์ไปแระไอ้สัส  ไอ้เชี่ยฝิ่นมันยังไม่ตื่นเต้นเหี้ยไรเลย  ดูมันออกจะรำคาญน้องมันด้วยซ้ำ  เห็นว่าต่อไปนี้จะหิ้วสาวขึ้นไปอะชาปาเฮ่ก็คงยากหน่อย  เพราะน้องมาอยู่ด้วย”

     

    “ก็น้องฝะ…………

     

    ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรจบก็มีเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายมาทางด้านหลังผมอีกครั้ง  กูอยากจะบอกพวกมึงให้หัดไปซื้อหนังสือมารยาทผู้ดีมาต้มกรอกปากซะบ้าง  มารยาทพวกมึงสะกดกันเป็นมั้ยไอ้สาดดดดด

     

    ร่างสูงเป็นเปรตของเดือนมหาลัยที่ยังคงคอนเซปตามแบบผู้ชายถาปัตคือหล่อเซอร์อินดี้ด้วยการใส่เสื้อนักศึกษาพอดีตัวกอร์ปกับกางเกงยีนเดฟซีดๆขาดๆ  หุ่นมันดีมากจนต่อให้ใส่เหี้ยอะไรก็ยังดูหล่อ  มันวิ่งมาด้วยสีหน้าตื่นๆก่อนจะมาหยุดลงที่โต๊ะของพวกผม 

     

    “วันนี้พวกมึงเอาน้องกูไปอยู่ด้วยพักนึงดิ  เยลลี่นัดกูซั่ม!!!!!

     

    เชดดดดดดดดดดดดดดดดดด  น้องมึงผู้หญิงนะไอ้ฟายยยยยยย!!!!!

     

    “ไม่!!!!!!!!”  ทั้งโต๊ะหันไปตอบมันเสียงดัง  เอ่อ  ยกเว้นผม

     

    ไอ้ฝิ่นหันซ้ายหันขวาเห็นผมไม่ตอบอะไรมันก็แทบจะคลานเข่ามาหาผม  มันบีบๆนวดๆขาผมก่อนจะส่งสายตาระยิบระยับให้ 

     

    กูอยากจะบอกว่าน้องมึงอาจจะไม่ปลอดภัยนะถ้ามาอยู่กะกู

     

    “นิวครับ  ช่วยเพื่อนฝิ่นสักครั้งเถอะครับ  แล้วเพื่อนฝิ่นสุดหล่อคนนี้จะไม่มีวันลืมพระคุณเพื่อนนิวเลยครับ”  มันอ้อนด้วยสีหน้าเว้าวอนได้กวนส้นตีนที่สุดในสามโลก  เอาวะยังไงก็น้องเพื่อน

     

    “เออๆ  เห็นว่าเป็นมึงหรอกนะ”  ผมตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่พยายามจะดัดจริตให้นิ่งที่สุด  แหม  เป็นคุณไม่ตื่นเต้นหรอครับ  จะได้อยู่กับสาวในดวงใจกันสองต่อสองในห้องแคบๆ  วันนี้น้องฝ้ายไม่หวั่นไหวกับพี่นิวบ้างก็ให้มันรู้ไปสิจ๊ะ

     

    “เชดดดดดดด!!!!  นี่สิเพื่อนแท้  พวกมึงสี่ตัวดูเพื่อนนิวของกูไว้เป็นตัวอย่างนะครับ”  มันพูดสีหน้าภูมิใจ  ไอ้สี่ตัวที่เหลือหัวเราะเบาๆ

     

    “เดี๋ยวมึงก็รู้ฤทธิ์ไอ้ฝ้าย”  เสียงไอ้ป๊อบครับ

     

    “น้องกูออกจะน่ารัก  อ่ะนี่นิว  เบอร์ฝ้าย  ตอนเย็นมึงไปรับมันที่คณะด้วยนะตอนสี่โมง  แล้วเดี๋ยวตอนดึกๆกูไปรับมันกลับ”

     

    ไอ้ฝิ่นสไลด์ไอโฟนมันเพื่อหาเบอร์น้องฝ้าย  ผมก็รีบเอามือถือออกมาเมมไว้

     

    ผมควรจะเมมไว้ว่าอะไรดีครับ  น้องฝ้าย  หรือ  สุดที่รัก

     

     

    …………………………………………………………………..

     

     

    ตึกคณะวิศวะตอนสี่โมงเย็นในช่วงเปิดเทอมนี่เป็นอะไรที่วุ่นวายมาก  ผู้ชายตัวควายๆใส่ช็อปสีน้ำเงินเดินกันขวักไขว่  ส่วนพวกเฟรชชี่ก็ชุดนักศึกษาผูกไทด์กันได้เรียบร้อยโคตร  อย่างว่าละครับ  คณะนี้อาถรรภ์เรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องมันแรง

     

    ผมเดินเข้ามาบริเวณหน้าตึกคณะมันพร้อมกับสายตาที่จ้องมองแปลกๆ  ไม่ให้มองได้ไงครับ  วิศวะมันไม่มาใส่เสื้อขาวกางเกงยีนส์ขาดรองเท้าขาดกันหรอก  เสื้อช็อปมันออกจะเลิศเลอ  ผมเดินเข้ามาพวกมันก็รู้ว่า  ไอ้เชี่ยนี่ไม่ถาปัตก็สินกำ

     

    ผมมองหาน้องฝ้ายบริเวณที่ไอ้ฝิ่นได้บอกไว้ว่าน้องมันจะนั่นอยู่แถวไหน  ผมมองไปที่กลุ่มน้องเฟรชชี่กลุ่มใหญ่ที่ดูโดดเด่นกลุ่มหนึ่ง  สาวผมยาวสีดำขลับถึงกลางหลังเป็นอะไรที่สะดุดตาผมมาก  ผมมองจากทางด้านหลังผมก็รู้ได้ทันทีว่านี่ล่ะ  น้องฝ้าย!!!  ผมไม่รอช้าเดินไปที่กลุ่มน้องเค้าทันที 

     

    “เอ่อ  ขอโทษครับ  พี่มาหาน้องฝ้าย”  ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ผมคิดว่าโคตรจะสุภาพ  น้องในกลุ่มหันหน้ามามองผมอย่างงงๆ  ก่อนที่ผู้ชายตัวโคตรสูงจะลุกยืนขึ้นทั้งๆที่หันหลังอยู่

     

    “ขอโทษนะครับ  พี่เป็นเพื่อนฝิ่น  มารับน้องฝ้ายครับ”  ผมพูดให้น้องผมยาวได้ยินอีกครั้ง  สาวผมยาวหันหน้ามามองผมช้าๆ  แบบสโลโมชั่น  ซึ่งทำเอาผมอึ้ง

     

    เชี่ยยละ!!!!!!!!  ไม่ใช่น้องฝ้าย

     

    ผมโฟกัสสายตาไปที่ไอ้ผู้ชายสูงๆที่มันยืนขึ้น  มันสูงกว่าผมน่าจะเป็นสิบเซนต์ได้  มันหันหน้ามามองผมด้วยสายตาเบื่อๆ  ผมตาโตทันทีที่มองเห็นหน้ามันชัดๆ

     

    “เออ  กูรู้แล้ว!!!!  ว่าสัสฝิ่นให้มึงมารับ”

     

    น้องฝ้ายคือไอ้เด็กผู้ชายหน้าโคตรหล่อในรูปใบนั้น !!!!!!!!!!!!!!!!

     

    ไอ้เชี่ยฝิ่นนนนนนนนนนนนนน  ทำไมมึงไม่บอกกูว๊าาาาาา  ว่าฝ้ายเป็นชื่อน้องผู้ชายของมึงงงงงงงงง 

    แสรสสสสสสสสสสสสส !!!!!!!!!!!!

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×