ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [APH]Sound of Blue moon

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : First trace

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 55


    Chapter 1 : First trace
    บทที่1 : เบาะแสแรก

          ร่างใหญ่ทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดสองคนนอนแต่ไม่ถึงกับคิงไซส์ก่อนที่จะพลิกตัวไปมาเพราะไม่อาจข่มตาหลับได้ อังกฤษหายตัวไป งั้นเหรอ.. เฮอะ บางทีหมอนั่นอาจจะแค่ไปในโลกคู่ขนานของเหล่าแฟร์รี่อะเทือกนั้นแล้วยังไม่กลับมาก็ได้.. อาจะเป็นแบบนั้น... เขาพยายามแล้ว.. พยายามคิดในแง่ดี แต่มันกลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย เขายังคงคิดถึงแต่เรื่องของอังกฤษ จากตอนแรกที่คิดเพียงเรื่องที่อังกฤษหายตัวไป ตอนนี้กลับมีเรื่องราวในอดีตไหลหลั่งมาเต็มไปหมด.. โรสบีฟรสชาติประหลาดๆที่อังกฤษเรียกว่าอร่อย สโคนไหม้ๆ.. รวมทั้ง วันฝนตกกับปืนนั่น...

    "ฮะฮะ.. เรานี่นะ" อเมริกาพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปยังห้องของอังกฤษ.. ห้องที่เคยเป็นของเขากับอังกฤษ..

    ร่างสูงค่อยๆแง้มประตูเข้าไปราวกับว่ามีคนอยู่ในนั้นแถมยังหลับตาพริ้มราวกลับฝันหวานหยาดเยิ้มอยู่.. แต่มันไม่มีใครซะหน่อย ทุกอย่างที่นี่ยังสะอาดเหมือนใหม่ .. เขาไล่มองหนังสือบนชั้นวาง มันถูกจัดเรียงตามชื่อและลำดับเล่ม หนังสือพวกนี้ดูคล้ายกันไปหมด.. ดูจากสันปกน่ะนะ เขาสุ่มหยิบมาเล่มหนึ่ง.. EROS 3 .. เขามองเพียงหน้าปกก็รีบใส่มันกลับที่เดิมและไม่คิดจะเปิดมันอ่านหรืออะไรทั้งสิ้น... เขาจำได้อย่างแม่นยำว่าวันนั้นเขาแอบเข้ามาที่ห้องของอังกฤษ.. รู้สึกตอนนั้นเขาจะอายุ12..รึ13 เขามาแอบเปิดหนังสือพวกนี้ดูเพราะอยากรู้ว่าหนังสือที่สุดที่รักของเขาอ่านบ่อยๆมันจะเป็นหนังสือแบบไหน.. วิทยาศาสตร์รึเปล่านะ หรือเรื่องลึกลับนะ?.. แต่สุดท้าย ทันทีที่เขาเปิดมันอ่านในตอนนั้น ชีวิตวัยเด็กของเขาก็พังครืน.. เขาก้าวสู่ช่วงวัยรุ่นเสียแล้ว..

    อเมริกาอดขำไม่ได้เมื่อคิดถึงอดีต.. แต่ยังไงมันก็เป็นสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดเวลาอังกฤษมัวแต่คิดถึงมันจนไม่สนใจตัวเขาที่อยู่ตรงนี้.. มัวแต่หันกลับไปในอดีตที่ไม่อาจย้อนไปถึง..

    อเมริกามองเตียงที่มีขนาดเท่ากับเตียงของเขา ผ้าห่มสีครีมกับหมอนปักลายดอกกุหลาบสีแดง.. เหมือนยายแก่ๆแถวบ้านเลยอ่ะ อเมริกาหยุดขำไม่ได้อีกครั้งเมื่อจินตนาการว่าคุณยายข้างบ้านกับอังกฤษคุยกันอย่างถูกคอพร้อมแลกเปลี่ยนความสนใจกันอย่างสนุกสนานตามประสาคนแก่.. เขาตัดสินใจนอนที่ห้องนี้.. เขาหลับตาและแทบจะหลับไปในทันที.. เขาพร้อมแล้วกับเช้าวันใหม่.. รอและหวังว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรคืบหน้าสักอย่างเกี่ยวกับอังกฤษ

     

    แสงแดดจ้าปลุกเขาให้ตื่น.. ห้องนี้ไม่มีนาฬิกาปลุกแน่ๆ ไม่ก็ถ่านมันหมดไปนานแล้ว เขายันตัวขึ้นแล้วขยี้ตาของตน ใช้มือปิดปาก หาวและพบว่ากลิ่นปากของเขาช่างเหม็นเหลือทนราวกับไปคุ้ยขยะกินมา เขาควานหาแว่นที่น่าจะอยู่แถวๆโต๊ะข้างเตียงนี่.. ไม่มี? หรือว่าเขาใส่ไว้ในลิ้นชักนะ? เขาเปิดลิ้นชักแต่ก็ยังไม่พบแว่นของตนอยู่ดี... ทว่า ในลิ้นชักนั่นมีหนังสือเล่มหนาอยู่.. ถึงไม่มีแว่นแต่เขาก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่หนังสือโป๊.. หน้าปกสีเขียวเข้มหม่นๆมีลายเถาวัลย์สีทอง ดูเก่าและลึกลับ ไม่ใช่ว่าเปิดไปแล้วจะมีไฟแฟนตาซีพาเขาเข้าไปตีมอนสเตอร์ในเกมนะ อเมริกาหยิบมาโดยไม่ลังเลย เปิดหน้าแรก ไล่อ่านตั้งแต่ต้นและพบอีกว่า.. เขามองไม่เห็นตัวหนังสือเลย.. แต่นั่นก็พอที่ทำให้เขารู้แล้วว่าเขาไม่ได้นอนที่ห้องของตน

    อเมริกาตัดสินใจไปอาบน้ำแต่งตัว ทานข้าว จัดการทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยแล้วรีบกลับมาที่ห้องของเขากับอังกฤษทันทีที่ทำทุกอย่างเสร็จ เขาอุตส่าห์อดใจเล่นเกมส์ใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวานซืนมาเพื่อดูหนังสือประหลาดๆนี่เชียวนะ!

                " นี่คือหนังสือสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาสิ่งมีชีวิตในมิติต่างๆ ทั้งนรก สวรรค์ และ..."

    เมื่ออ่านไปได้เล็กน้อยเขาก็ตัดสินข้ามคำนำยาว4หน้าไป เขาพยายามเลือกอ่านเฉพาะอันที่สนใจจริงๆเท่านั้น มันช่างเยอะและดูเพ้อฝันซะจริง เขาพลิกหน้าแล้วหน้าเล่า.. ในที่สุด เขาเห็นกระดาษเก่าๆคั่นไว้ มันเหมือนมีคำบางอย่างเขียนไว้แต่มันกลับจางไปจนอ่านไม่ออก ตัวกระดาษนั้นกรอบยิ่งกว่ากระดาษของหนังสือเล่มนี้เสียอีก มันเสียบไว้อยู่ในหน้าที่เขาเพิ่งเปิดอ่านพอดี

    "ซาตานและปีศาจ?" เขาพึมพำออกมาเบาๆแล้วไล่อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ "สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในนรก มีอายุเฉลี่ย500ปี พลังคล้ายคลึงกับยมทูต..." เขาอ่านออกเสียงเบาๆเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ตกคำใดไป "...สามารถกินวิญญาณของมนุษย์เพื่อเพิ่มพลังชีวิตได้ และถ้ามนุษย์ผู้นั้นมีพลังวิเศษจะส่งผลให้ปีศาจตนนั้นมีอายุขัยเพิ่มขึ้น --..." ในส่วนนี้ข้อความเลือนไปเพราะกาลเวลาที่ยาวนาน.. มันเริ่มชัดอีกครั้งที่หน้าถัดมา "...ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่าเดวิลมีอายุยืนนานมาก รูปลักษณ์ภายนอกของมันจะไม่เปลี่ยนแปลง(รูปลักษณ์คล้ายกับมนุษย์วัยกลางคน)แม้วาระสุดท้ายของ" เขาหยุดพักครู่หนึ่ง มองภาพประกอบที่ว่ากันว่าเป็นเดวิลแล้วเริ่มอ่านต่อด้วยระดับเสียงเท่าเดิม "ปีศาจนั้นฆ่าไม่ตาย ยกเว้นจะโจมตีที่หั..." มีบางส่วนเลือนไปอีกครั้ง แต่ถ้าจะต้องเผชิญหน้ากับมัน ฮีโร่อย่างเขา รู้จุดตายแค่จุดเดียวก็เพียงพอ ไม่สิ ถึงไม่รู้ฮีโร่อย่างเขาก็จัดการได้!.. นี่เขาชักเพ้อฝันตามตาลุงคิ้วหนานั่นแล้วสินะ..

    เขาตัดสินใจปิดหนังสือเพราะไม่เห็นสาระอะไรในนี้ แต่กระนั้น เขาก็ต้องหยุดชะงักทีนทีเมื่อเหลือบไปเห็นข้อความที่ค่อนข้างชัดเจนและเข้มกว่าตัวอื่นที่ว่า..

    "...วิธีการที่ปีศาจจะดึงวิญญาณออกจากร่างคนในสภาพที่วิญญาณยังสมบูรณ์และสามารถนำไปเพิ่มพลังแก่ตนได้นั้น มันจะต้องนำร่างของมนุษย์ผู้นั้นไปยังนรกเพื่อทำการดึงวิญญาณโดยการลักพาตัวไป ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ที่ถูกลักพาตัวจะไม่มีเหลือแม้แต่ศพ เพราะหลังจากถูกดึงวิญญาณไปนั้น เดวิลจะทำการกำจัดร่างของมนุษย์ผู้นั้นโดยการนำไปให้สัตว์นรกกิน..."

    เขาไม่เชื่อเรื่องแบบนี้หรอก.. ให้ตายเหอะ แต่สุดท้ายก็ยังทนอ่านมาถึงนี่จนได้

    อเมริกามุ่ยหน้าแล้วเก็บหนังสือเข้าในลิ้นชักดังเดิม เขาเดินออกมาจากห้องนั้น ทิ้งตัวลงบนโซฟามองมายังโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่า.. หน้าจอมีโปรแกรมต่างๆให้สืบตัวอังกฤษมากมาย.. แต่เขากลับไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับมันดี.. เขาไม่อยากอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรสักอย่าง..

    "Ring~ Ring~"เขาคว้าโทรศัพท์และกดรับทันทีโดยไม่ต้องดูชื่อ ได้แต่หวังว่าจะเป็นคนที่เขารออยู่ "อเมริกาพูดอยู่"

    "ฉันได้เบาะแสมาแล้ว.. แม็คร้านเดิมเลยอเมริกา"ทันทีที่ปลายสายพูดจบ เขาแทบจะกระโจนใส่เสื้อแจ็คเก็ตของตัวเองทันที อเมริกากระเสือกกระสนวิ่งออกจากบ้าน ไม่ได้มองทางจนสะดุดพื้นไปหลายรอบ แต่ในที่สุดเขาก็เดินทางมาถึงร้านแม็คที่ใกล้บ้านที่สุดได้อย่างปลอดภัย

    .

    .

    .

    "เส้นผมสีดำ?"

    ฝรั่งเศสพยักหน้าน้อยๆแล้วส่งเส้นผมที่เก็บอย่างแน่นหนาในถุงพลาสติกใสอย่างดี "ตรวจสอบDNAแล้ว.. แต่มันไม่มีอะไรเลย ผมที่หลุดออกมามีผิวหนังติดก็จริง แต่มันตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย... "

    อเมริกาจ้องเส้นผมนั่นไม่วางตา "ไม่มีอะไรเลย?.. หมายความว่าไง ไม่มีรหัสDNAเหรอ?" เขาพิจารณามันอย่างละเอียดอีครั้ง.. มันสั้นเกินที่จะเป็นของจีน.. และญี่ปุ่นก็คงไม่มีแรงจะทำอะไรอาเธอร์ด้วยซ้ำ.. แต่ตอนนี้ ทุกคนที่มีผมสีดำเป็นผู้ต้องสงสัยหมดสำหรับเขา.. เกาหลี ไต้หวัน ไทย มองโกเลีย มาเก๊า?.. นี่เขาชักเพ้อเจ้อ แค่สีผมยังบอกอะไรไม่ได้ถึงขนาดนั้น.. แถมถ้าเป็นพวกเขา ยังไงก็ต้องมีDNAให้เห็นกันชัดๆอยู่แล้ว

    "เกรงว่าจะเป็นอย่างนั้น.. เส้นใยอื่นๆในบ้านที่อาจจะเป็นเบาะแสได้ก็มาจากเฟอร์นิเจอร์ .. แล้วก็เสื้อ อะไรแบบนั้น" ฝรั่งเศสถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะให้ความสนใจกับกาแฟรสชาติไม่ได้เรื่องตรงหน้า เขาน่าจะเลือกร้านกาแฟดีๆที่มีมาการูนให้กินมากกว่าร้านแม็คแบบนี้...

    "เลิกพูดสุภาพๆอะไรแบบนั้นเหอะ ฮีโร่ว่ายังไงมันก็ดัดจริตจะตาย" อเมริกามุ่ยหน้าแล้วดูดโค้กเข้าไปอึกใหญ่

    "แหม~ ร่าเริงขึ้นได้แบบนี้คุณพี่ก็ดีใจนะจ๊ะ"ฝรั่งเศสโปรยจูบส่งไปทางอเมริกา ก่อนที่คนที่ถูกล่วงเกินทางสายตาและท่าทางจะทำท่าจับจูบ โยนลงพื้น แล้วกระทืบไม่เหลือชิ้นดี

    "ฉันว่ายังไงตอนนี้เราไปหาเบาะแสของอังกฤษเพิ่มเถอะ.. "

     

                ในนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม.. กลิ่นชาเอิร์ลเกรย์บางๆลอยมาแตะจมูกทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง.. แทบทุกอย่างในนี้ตรวจสอบดูแล้ว ไม่มีคราบเลือดหรืออะไรอื่นใดเลย.. ของทุกอย่างยังจัดอย่างเป็นระเบียบเหมือนเดิม แม้แต่แก้วกาแฟใบโปรดของอเมริกาก็ยังถูกเก็บในที่ประจำ ไม่มีร่องรอยใดๆ อย่างกับว่าหนีออกไปเองอย่างไรอย่างนั้น

    "ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลยเหรอ"คำถามสั้นๆห้วนๆเอ่ยออกมาถามคนข้างๆ

    "จ๊ะ คุณพี่เองก็พยายามหาทุกซอกทุกมุมแล้ว"ฝรั่งเศสยิ้มบางๆแล้วแตะไหล่ร่างที่สูงกว่าเบาๆ "อย่างกับไอ้เจ้าคนร้ายนั่นมันตั้งใจแกล้งให้พวกเรากังวลเรื่อง'เส้นผมสีดำ'นั่นเลย" เขากล่าวติดตลกก่อนจะเดินออกไปอีกฝั่งของตัวบ้าน

    อเมริกาตัดสินใจเข้าไปในห้องครัวและสูดกลิ่นสโคนไหม้ที่ยังหลงเหลืออยู่ให้เต็มปอด.. ในที่สุดเขาก็ไปสะดุดตากับอะไรบางอย่างเข้า.. "กางเขนกลับหัว?.. เขียนด้วยเลือด?.. " เขาพึมพำ "พับผ่าสิ!"ร่างสูงทะยานตัวออกไปทันทีทันใด "ฝรั่งเศส!!" เสียงตะโกนก้อง ไปทั่วทั้งบ้าน เขาพอจะมีความคิดดีๆแล้ว.. ล่ะมั้ง?

     

    =ที่ฝรั่งเศสไม่เห็นคราบเลือดนั้นมีเหตุผลอยู่ค่ะ เฉลยบทต่อไปค่ ขอบพระคุณทุกท่านที่มาช่วยติชมค่ะ เรื่องแก้นี่รอรีไรท์ทีเดียว ฮาาา=

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×