คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4
“กรี๊ง กรี๊ง กรี๊ง”เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
ผมค่อยๆเอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกาปลุกที่อยู่บนหัวเตียงก่อนที่จะรู้สึกหนักที่แขนอีกข้างเหมือนมีใครนอนทับอยู่
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมองก็เจอเข้ากับเจ้าเหมียวที่นอนหลับหนุนแขนผมพลางซบหน้าลงอกผมอยู่ ทำให้ผมต้องนอนมองอีกคนที่นอนหลับอยู่พลางยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวเพราะความน่ารักของอีกคน
ผมค่อยๆจับหัวเล็กของเจ้าเหมียวไปหนุนกับหมอนใบใหญ่อย่างเบามือก่อนที่จะตบก้นอีกคนเบาๆเพื่อปลุกคนขี้เซาให้ตื่น
“เจ้าเหมียว ตื่นได้แล้ว”ผมบอกกับคนตัวเล็กที่นอนหลับตาพริ้มอยู่เบาๆ
คิ้วของคนตัวเล็กค่อยๆขมวดเข้าหากันก่อนที่จะยู่ปากอย่างขัดใจ
“อื้ออ ยังเช้าอยู่เลยฮะ ขอนอนต่ออีกหน่อยนะฮะ” คนตัวเล็กพูดเสียงงัวเงียก่อนที่จะพลิกตัวนอนหันหลังให้กับผมที่นั่งมองอยู่
“โอเค จะนอนต่อก็นอนได้นะ”
“เจ้านายยยใจดีจังเลยฮะ”คนตัวเล็กพูดเสียงงัวเงียเบาๆ
“แต่ถ้าอาหารเช้าเสร็จไม่ทันเวลา 7โมง40ล่ะก็ นายได้ตกเป็นเมียฉันแน่ๆ คิบอม”ผมโน้มหน้าเข้าไปกระวิบข้างๆหูคนตัวเล็กเบาๆ
“ตะ ตื่นแล้วฮะ ตื่นแล้ว”คนตัวเล็กพูดก่อนที่จะรีบสปริงตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า งั้นก็รีบไปเตรียมอาหารเช้าสิ”ผมบอกพลางขยี้หัวคนตัวเล็กเบาๆ
“ไปก็ได้ฮะ ตาแก่”พูดจบก็ทำหน้างอนก่อนที่จะเอามือผมที่ขยี้หัวตัวเองออกแล้วเดินออกจากห้องนอนไป ส่วนผมก็ทำได้เพียงแค่มองตามหลังอีกคนพลางยิ้มออกมา
Jonghyun & Taemin
(เลิกเรียนยังครับ)เสียงของผู้ชายหน้าเป็ดถามขึ้นในสายขณะที่ผมกำลังเดินออกจากห้องเรียน
“เลิกแล้วฮะ ฮยองอยู่ไหนหรอฮะ?”
(ฮยองจอดรถรอรับแทมินอยู่ที่เดิมครับ)
“งั้นรออีก 10 นาทีนะฮะ แทมินจะรีบไป”
(ครับผม แล้วเจอกันนะครับ)
ผมยิ้มออกมาหลังจากกดวางสายพี่จงฮยอน แล้วผมก็รีบโทรหาคนขับรถที่พ่อให้มารอรับผมกลับบ้านทันที
(ครับ นายน้อย) คนขับรถรับสายผม
“ลุงฮะ ลุงกลับไปก่อนเลยนะฮะ วันนี้แทมินจะไปเที่ยวกับเพื่อนต่อน่ะฮะ”
(ครับนายน้อย) ผมกดวางสายลุงคนขับรถก่อนที่จะรีบไปหาพี่จงฮยอนด้วยความคิดถึงทันที
“มาแล้วฮะ”ผมหันหน้าไปบอกผู้ชายหน้าเป็ดที่นางอยู่เบาะคนขับก่อนที่จะส่งยิ้มให้
“วันนี้เรียนสนุกมั๊ยครับ”พี่จงฮยอนถามพลางลูบหัวผมเบาๆ
“ไม่สนุกเลยฮะ น่าเบื่อที่สุดเลย ไปกินไอติมแก้เบื่อกันเถอะฮะฮยอง”
“ได้เลยครับคุณหนู” พี่จงฮยอนตอบรับแล้วขับรถออกจากหน้าโรงเรียนผมทันที
ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่จงฮยอนยังไม่ชัดเจน เพราะผมยังไม่ได้ตกลงคบกับพี่จงฮยอนแต่ผมก็ยอมรับว่าผมรู้สึกดีกับพี่จงฮยอนมากๆเลยยอมไปเดทด้วยอยู่บ่อยๆ
ระหว่างที่รถกำลังแล่นอยู่บนถนน พี่จงฮยอนที่ปกติจะชวนผมคุยและอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลาวันนี้กลับกลายเป็นว่าพี่จงฮยอนดูเงียบลง สีหน้าก้ดูเหมือนจะมีเรื่องให้คิดมาก
“ฮยองเป็นอะไรหรือเปล่าฮะ”ผมถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ปะ เปล่านิครับ”
“แทมินยังเป็นคนสำคัญของฮยองอยู่หรือเปล่าฮะ”
“สำคัญสิครับ แทมินสำคัญกับฮยองมากเลยนะครับ”
“ถ้าแทมินสำคัญ ฮยองก็บอกมาสิฮะว่าฮยองเป็นอะไรไป”
“คือ....”พี่จงฮยอนค่อยๆจอดรถก่อนที่จะหันมามองหน้าผม
“แทมินรู้ใช่มั๊ยครับว่าฮยองติดหนี้ตระกูลของแทมินอยู่20ล้าน”
“รู้ฮะ”
แล้วพี่จงฮยอนก็เริ่มเล่าเรื่องราวที่พี่มินโฮ พี่ชายตัวดีของผมทำเอาไว้ให้ผมได้รับรู้เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับพี่จงฮยอนและพี่คีย์
ผมกับพี่มินโฮเราอายุห่างกันถึง 8 ปี และที่สำคัญ คือระหว่างผมกับพี่มินโฮเราไม่สนิทกันเลยสักนิด อาจเป็นเพราะอายุที่ห่างกันมากและอีกอย่างพี่มินโฮยังแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว ทำให้ผมกับพี่มินโฮมีโอกาสได้เจอกันน้องลงมากๆ
“พี่จงฮยอนฮะ พี่สบายใจได้เลยนะฮะ แทมินจะสืบหาที่อยู่ของพี่มินโฮมาให้เองนะฮะ พี่จงฮยอนจะได้แวะไปเยี่ยมพี่คีย์บ่อยๆ”
“ขอบใจนะแทมิน ขอใจมากเลยนะ”อยู่ๆพี่จงฮยอนที่นั่งอยู่เบาะของคนขับก็เอียงตัวเข้ามารวบตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้
“มะ ไม่เป็นไรหรอกฮะฮยอง”
“เจ้านาย เอาของทั้งหมดไปวางไว้ที่โต๊ะอาหารเลยนะฮะ เดี๋ยวคีย์จะไปจัดให้เข้าที่เข้าทางเอง”เจ้าตัวเล็กที่เดินนำหน้าผมเข้ามาภายในบ้างพูดขึ้น
ให้มันได้อย่างนี้สิครับ ยิ่งนับวันผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่เอาเจ้าเหมียวนี้เข้ามาอยู่ด้วย ทั้งดื้อ ทั้งซน ทั้งชอบทำร้ายร่างการผม นี่ถ้าไม่ติดว่าผมแค้นพี่ชายของเจ้าเหมียวนะผมส่งตัวเจ้าเหมียวนี่กลับบ้านนานแล้วล่ะครับ
ของที่ซื้อมาแต่ละอย่างเป็นของที่เจ้าเหมียวอยากได้ส่วนตัว ย้ำ! อยากได้เป็นการส่วนตัวซะส่วนใหญ่ แถมวันนี้เจ้าเหมียวยังเบี้ยวไม่ยอมกลับมาทำอาหารเย็นที่บ้าน อ้อนให้ผมพาไปกินหมูสามชั้นย่างอีกด้วยน่ะสิครับ
ผมเอาของที่เจ้าเหมียวเหมามาจากห้างวางไว้บนโต๊ะอาหารตามคำสั่งอีกคนก่อนที่จะมองดูเจ้าตัวเล็กที่คอยลื้อถุงดูของที่อยู่ข้างใน
“คีย์ จัดการเก็บของเสร็จแล้วก็ยกกาแฟขึ้นไปให้ฉันที่ห้องทำงานด้วยล่ะ”
“ไม่ได้นะฮะ คีย์ไม่ให้เจ้านายกินกาแฟ”ให้ตายเถอะครับ เจ้าเหมียวมีสิทธิ์มาสั่งผมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“ทำไมล่ะ?”
“ก็เพราะมันจะสองทุ่มแล้วไงฮะ ถ้าเจ้านายกินกาแฟเข้าไปเดี๋ยวก็นอนไม่หลับ เปลี่ยนเป็นชาร้อนหรือนมร้อนดีกว่านะฮะ เชื่อคีย์นะ” มีบอกให้ผมเชื่อด้วย?? นี่ถ้าผมขัดใจคงจะเป็นเหมือนเมื่อตอนเย็น
3 ชั่วโมงที่แล้ว ที่ห้างสรรพสินค้า
“คีย์ นายซื้อขนมเยอะไปแล้วนะ”ผมบอกอีกคนที่พึ่งหอบเอาขนมมาวางลงในรถเข็น
“ไม่เยอะหรอกฮะ”พูดจบก็หยิบเอาขนมที่อยู่บนชั้นวางใส่ลงรถเข็นเพิ่มอีก
“นี่! พอได้แล้ว”ผมรีบจับมือบางของอีกคนที่กำลังจะหยิบขนมที่อยู่บนชั้นเอาไว้ทันที
“ปล่อยคีย์นะฮะ คีย์จะหยิบขนม”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าให้พอได้แล้ว มันเยอะแล้วนะ”
“เจ้านายขัดใจคีย์!!”คนตัวเล็กตะโกนใส่หน้าผม
“ขัดใจแล้วจะทำไม??”ผมเลิกคิ้วถามคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้าไม่พอใจ
“คีย์ก็จะ ง้ำ!!!!”คนตัวเล็กกัดเข้าที่มือผมอย่างจัง
“โอ๊ย!!! คีย์พอแล้วๆ ฉันเจ็บนะ”ผมร้องออกมาก่อนที่จะพยายามสะบัดมือให้หลุดออกจากปากคนตัวเล็ก แต่นั่นก็ไม่เป็นผลอะไรเลย
“ง่ำ ง้ำ!!!” คนตัวเล็กกัดมือผมแรงขึ้นอีก
“คีย์พอแล้วๆ ฉันยอมแล้ว”ผมพูดจบคนตัวเล็กก็ปล่อยมือผมออกทันที
“เป็นคนแก่ที่ดีนะฮะ” คนตัวเล็กยิ้มหวานก่อนที่จะหยิบเอาขนมใส่รถเข็นต่อ
นี่ถ้าผมขัดใจเจ้าเหมียวผมคงต้องโดนทำร้ายร่างกายอีกใช่มั๊ย? เอ่อ... งั้นผมสมควรที่จะเห็นดีเห็นงานกับเจ้าตัวเล็กนี่น่ะสิครับ
“เอางั้นก็เอา”
“แล้วเอาชาร้อนหรือนมร้อนดีอะ”
“นมร้อนก็ได้ ฉันรออยู่บนห้องทำงานล่ะ”
“ฮั๊บ!”
ผมจัดนมร้อน น้ำเปล่า และคุ้กกี้ที่ซื้อมาลงบนถาดก่อนที่จะจัดการยกขึ้นไปให้ตาแก่มินโฮที่ห้องทำงาน
“เจ้านายฮะ มาเปิดประตูให้คีย์หน่อนสิฮะ”ผมตะโกนบอกตาแก่มินโฮที่อยู่ในห้องทำงาน เพราะทั้งสองมือผมจะต้องยกถาดที่ใส่นมร้อน น้ำเปล่า และคุ้กกี้
ไม่นานประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกจากตาแก่มินโฮที่อยู่ข้างใน โดยที่สายตาของตาแก่มินโฮจับจ้องมาที่ผมอย่างไม่ละสายตา แต่แล้วสายตาแบบนั้นของตาแก่มินโฮทำให้ผมเขินจนต้องรีบเอาถาดที่ผกมาไปวางไว้ที่โต๊ะทำงานของตาแก่
“&%$#+@#$%@” อยู่ๆเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น
ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดูคนที่โทรเข้าหา หน้าจอโทรศัพท์ก็ปรากฏชื่อของพี่จงฮยอน
“ฮยองฮะ” ผมรีบทักทายคนในสายทันทีที่กดรับ
(คีย์ เป็นยังไงบ้าง)พี่จงฮยอนถามผมด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“สบายดีฮะ วันนี้เจ้านายพาคียืไปช็อปปิ้งด้วย ได้ขนมมาเต็มเลยฮะ”ผมรีบโม้ให้พี่ชายฟังทันที
(มินโฮมันไม่ได้รังแกอะไรคีย์ใช่มั๊ย?)
“ก็ไม่นิ่ฮะ”
(ดีแล้วล่ะ แล้วคีย์รู้มียว่าบ้านของไอ้มินโฮมันอยู่ที่ไหน)
“ไม่รู้เหมือนกันฮะ”
(เห้อ....)เสียงพี่จงฮยอนถอนหายในผ่านโทรศัพท์ทำเอาผมรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาทันที
“ฮยองเป็นอะไรไปหรือเปล่าฮะ เห้ย!”อยู่ๆตาแก่มินโฮก็ดึงเอาโทรศัพท์จากมือผมไปก้อนที่จะกดวางสายพี่จงฮยอนแล้วปิดเครื่องโทรศัพท์ของผมทันที
“เจ้านาย!!”ผมเรียกอีกคนด้วยความตกใจ
“เอาคืนมานะฮะ”ผมบอกอีกคนพลางขมวดคิ้ว
“ไม่!”
“แต่นั่นมันโทรศัพท์ของคีย์นะฮะ”
“แล้วยังไงล่ะ!? หึ! ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้นายติดต่อกับจงฮยอนอีกต่อไป”
“เจ้านายไม่มีสิทธิ์มาห้ามคีย์นะฮะ!!”
“นายก็ไม่มีสิทธิ์ขัดคสั่งฉันเหมือนกัน!”
ผมยืนจ้องหน้าตาแก่มินโฮด้วยความโมโหขณะที่อีกคนก็จ้องหน้าผมกลับมาด้วยสายตาที่เย็นชาเช่นกัน ต่างคนต่างจ้องหน้ากันโดยไม่มีใครยอมแพ้ใคร
“จะมากเกินไปแล้วนะฮะเจ้านาย!!”
“แล้วยังไง?”
“แล้วยังไงหรอฮะ นี่!!”ผมจับแก้วน้ำสาดใส่หน้าตาแก่มินโฮเต็มๆด้วยความโมโห
“นายแกล้ามากนะคิบอมที่ทำแบบนี้กับฉัน”ตาแก่มินโฮกัดฟันด้วยความโมโหก่อนที่จะเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานแล้วหยิบเอากุญแจมือออกมาก่อนที่ฉุดแขนผมให้เดินตามตัวเองออกจากห้องทำงานไป
“ปล่อยน้ะ!!”ผมพยายามที่จะสะบัดข้อมือให้หลุดออกจากมือตาแก่มินโฮ แต่ยิ่งผมสะบัดข้อมมือมากขึ้นเท่าไหร่ตาแก่มินโฮก็ยิ่งจับข้อมือผมแน่นมากขึ้นจนผมรู้สึกปวดไปทั่วทั้งข้อมือ
ตาแก่มินโฮพาผมมาที่ระเบียงก่อนที่จะคล้องกุญแจมือเข้าที่แขนข้างนึงของผม แล้วใช้กุญแจมืออีกข้างที่ว่างคล้องเข้ากับกรงเหล็กของหน้าต่างห้องที่อยู่ด้านนอก
“ฤทธิ์มากนักใช่มั๊ย งั้นก็อยู่ที่นี่ไปเลยจนกว่าจะสำนึกผิด แล้วฉันจะมาปล่อย”
“ไม่เอานะ!!!ตาแก่มินโฮ ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยน้ะ!!”ผมตะโกนใส่หน้าอีกคนด้วยความโมโห
“หึ!”ตาแก่มินโฮยิ้มร้ายก่อนที่จะเดินเข้าไปข้างในบ้าน ปล่อยผมทิ้งไว้ที่ระเบียงห้องโดยที่มีกุญแจมือล็อกแขนผมให้ติดกับกรงเหล็กของหน้าต่าง
ผมค่อยๆย่อตัวนั่งลงบนพื้นโดยที่ต้องยกแขนข้างที่ถูกกุญแจมือล็อกเอาไว้เพราะกุญแจมือไม่ยาวพอที่จะให้ผทปล่อยแขนทิ้งลงมาได้
ผมนั่งอยู่บนพื้อนด้วยอารมณ์ที่โกรธแค้นตาแก่แทบบ้าคลั่งก่อนที่จะรู้สึกว่ามีเม็ดฝนหล่นลงมากระทบใบหน้าผมเบาๆ
‘หวังว่าฝนคงจะตกแค่ปรอยๆหรอกนะ อย่าตกหนักเลย ได้โปรด’ ผมได้แต่นั่งก้มหน้าเพื่อรอเวลาให้ตาแก่ใจร้ายเอากุญแจมาไขกุญแจมือออก แต่ยิ่งรอนานฝนก็ยิ่งตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ
ฝนที่ตกหนักจากท้องฟ้ากระทบเข้าที่ตัวผมทำเอาตัวผมเริ่มสั่นขึ้นมาด้วยความกลัวอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
“เจ้านายฮะ เจ้านาย มาปล่อยคีย์หน่อยฮะ!!”ผมพยายามตะโกนเรียกอีกคนเสียงสั่นด้วยความกลัว
ฝนที่เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆจนมองไม่เห็นอะไรทำให้ภาพเมื่อในอดีตที่แสนจะเลวร้ายปรากฏขึ้นในสมองของผม ทำให้น้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้มหนักขึ้น ร่างของผมสั่นสะท้านมากยิ่งขึ้นด้วยความหวาดกลัว
“โครม!!!!” เสียงฟ้าร้องทำเอาหัวใจของผมกระตุกด้วยความหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น มันเหมือนกับเสียงปืนที่ผมเคยได้ยินมาก่อน ทำเอาตอนนี้ผมต้องนั่งกอดเข่าตัวสะเทาด้วยความกลัว
“เจ้านาย ช่วยคีย์ด้วยฮะเจ้านาย”ผมร้องเรียกอีกคนเสียงสั่นพลางร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวอย่างถึงขีดสุด
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง”เสียเจ้าคัมจาดังขึ้นที่หลังประตู
“คัมจา คัมจาช่วยคีย์ด้วย คีย์กลัว คีย์กลัว”ผมตะโกนบอกเจ้าคัมจาก่อนที่น้ำตาของผมจะไหลออกมาไม่หยุดเมื่อภาพที่เคยเห็นเมื่อครั้งที่ผมยังเป็นเด็กปรากฏขึ้นในหัวของผมอยู่ซ้ำๆ
จบไปอีก 1 ตอนแล้วนะคะ
เม้นขึ้นไม่เยอะเลย แต่ไม่เป็นไรนะ ไรท์เตอร์ตั้งใจจะเขียนออกมาให้ดีที่สุดแล้วนะคะ
ยังไงก็สงสารไรท์เตอร์หน่อยนะคะ เม้นให้สักนิดก็ยังดีนะ
ความคิดเห็น