ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TS7] โปรดติดตามตอนต่อไป... #noteapp'

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 6 ห่าง...

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 55


      

     

    "...มีเธออยู่ข้างกาย คำว่าจุดหมายไม่เหลือความสำคัญ"

     

    เสียงหวานเฉียบฮัมเพลงรักเพราะๆแผ่วเบา จากนักเขียนชื่อดังที่กำลังจรดปลายนิ้วเพื่อเรียบเรียงประโยคสุดท้ายในบทละครเรื่องใหม่ พร้อมรอยยิ้มมุมปากจากเธอที่มีความสุขเป็นหัวใจ มันอาจดังเพียงไม่กี่เดซิเบล ... แต่ก็มากพอที่จะทำให้ห้องเงียบงันมีสีสันขึ้นมาได้ ...

     

    งานของเธอกำลังลุล่วงไปได้ด้วยดี ... บทละครที่เสร็จสมบูรณ์ ... โลเคชั่นในเมืองไทยที่หาได้ครบครัน ... นักแสดงที่วางตัวไว้แล้วและจะเคาะให้ลงตัวในวันอาทิตย์หน้า เงินทุนหนาแน่นที่ทางช่องวางไว้ให้พอจะผลิตผลงานที่ดีที่สุดออกมาได้ ... แม้ขาดเพียงแต่โลเคชั่นในต่างประเทศ แต่มันก็ช่างลงตัวเหมาะเจาะช่างไม่น่าเชื่อ

     

    แกรนด์เซฟเอกสารชุดนั้นลงแฟลชไดร์ฟสีชมพูแปร๋น... ก่อนจะปิดคอมวางตักแล้วผลักมันให้พ้นหูพ้นตา เหนื่อยและเพลียเหลือเกิน ตอนนี้เธออยากเอนหลังเต็มที

     

     

     

     

     

     

     

    "พี่แกรนด์..."

     

     

    แต่ได้หลับตาไม่ทันเท่าไร เสียงหวานใสของบางคนก็ครางชื่อกันเบาๆอย่างออดอ้อน ... ไม่ต้องหันมองก็รู้ เด็กหญิงนทของเธอกำลังเคลื่อนย้ายตัวตนมาคลอเคลียข้างๆกัน มือน้อยนั่นกำลังเอื้อมมาก่ายกอดกัน และจมูกนั่น ก็กำลังซุกเรียวแขนเธออย่างออเซาะเป็นที่สุด

     

    จั๊กจี้...

     

     

    "อารายยยย..."

    จะว่ารู้ทันก็คงไม่ใช่ ... คงเป็นคำว่ารู้กันมากกว่า เธอถึงได้แกล้งลากเสียงยานคางยียวนอีกคนกลับไปทั้งๆที่รู้ว่าอีกคนต้องการอะไรในตอนนี้ ...

    อยากจะออดอ้อนกันทุกวินาทีแบบนี้ ... เฮ้อ จะให้รักให้หลงถึงไหนกันนะ

     

     

    เจ้าเด็กน้อยของเธอยิ้มหวาน หวานในแบบที่เธอหลงรักมันตั้งแต่แรกพบ หวานถึงขั้นที่เธอรู้ตัวว่าคงตกหลุมรักมันตลอดไป ... เธอหวงแหนรอยยิ้มนี้เหลือเกิน กลัวเหลือเกินถ้าวันไหนมันต้องกลายไปเป็นของใคร...

     

    เธอรู้ดี ... นทเป็นคนจริงจัง มั่นคง ... เธอเชื่อในความรักของนทเสมอว่ามันจะนิรันดร์ ... สิ่งที่นทและเธอเป็น มันใช่และเข้ากันได้ในทุกอย่าง เรารักตัวหนังสือ เสียงเพลง ธรรมชาติ และอากาศบริสุทธิ์ รักช่วงเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกัน ... รักแม้กระทั่ง กลิ่นหอมอ่อนๆของกันและกัน ที่ใครๆก็ไม่มีวันรู้ว่ามันเป็นยังไง

     

    นททำตัวให้เธอรู้ว่าเป็นคนพิเศษเสมอ ... เมื่ออยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเพียงลำพังหรือต่อหน้าธารกำนัล ... คนมาดนิ่งจะแปลงร่างเป็นเด็กน้อยโยเยอย่างง่ายดาย ดวงตาแวววาวที่น่าหลงใหล เปลี่ยนเป็นใสแจ๋วมองกันอย่างน่าใจอ่อน ... ไม่มีเก๊กไม่มีฟอร์ม แสดงออกว่ารักเหลือเกิน ... กอดเธออ้อนเธอจนบางครั้งก็มากเกินไปด้วยซ้ำ

     

     

    แต่เพราะเธอรู้ว่านทเป็นคนแบบไหน... รู้ดีว่าสิ่งที่นทต้องการกำลังพบเข้ากับทางตัน และหากแก้ไขไม่ทัน วันนึงเราทั้งคู่ต้องเจอกับอะไร...

     

     

    นทกำลังหมดไฟกับสิ่งที่ทำ...

    และนั่นมันเป็นเพราะเธอ ... เพราะเธอที่หยุดแสงอันแรงกล้าในตาของนท ด้วยความรักของเธอเอง

     

     

     

     

     

    "พี่แกรนด์ .. ทำไมเงียบไป"

     

    นทน้อยเขย่าแขนคนที่นั่งนิ่งมองเธอเนิ่นนาน ... แล้วส่งเสียงเล็กเสียงน้อยถามอย่างสงสัย ... สงสัยในสายตาที่มีวี่แววแปลกๆแบบนั้น วี่แววที่มันผสมรวมไปด้วยความรู้สึกหลากหลายแบบนั้น... ที่เธอไม่ค่อยจะเห็น ไม่ค่อยจะชิน ... ปกติในนั้นมันมีแต่ความรักความเอ็นดูมากมาย

     

    แกรนด์อมยิ้มน้อยๆ... กับท่าทางน่ารักน่าชังของอีกคน ที่มีอาณุภาพแรงกล้าขนาดจะหยุดลมหายใจเธอได้ทุกวินาที

     

     

    "พี่รักนทนะ..."

    สี่พยางค์สั้นๆ ที่แกรนด์ไม่ชอบพูด ... แต่ชอบฟัง เพราะมันคือคำของความในใจ ...

     

    อยากพูดให้หมดในวันนี้ ... อนาคตไม่เคยแน่นอน ไม่รู้ว่าวันนึงโอกาสในการพูดคำว่ารัก จะสิ้นสุดลงเมื่อไร

     

     

     

     

    คำว่ารักแบบไม่มีปี่ขลุ่ย มันทำคนฟังฉงน...  สีหน้าอารมณ์ล้นไปด้วยความสงอกสงสัยในท่าทีที่ไม่รู้มันเกิดขึ้นได้ยังไง...

     

     

    "รักนทไง... พูดจริงๆ"

     

    ก่อนที่คนฟัง ... จะยิ้มออก เมื่อคนบอก ย้ำมันอีกครั้งชัดๆในตื้นตันในหัวใจ ... พี่แกรนด์ที่เธอรัก พาดแขนช้อนตัวเธอเข้ามาแนบกาย มอบความอบอุ่นผ่านทั้งคำพูดและการกระทำ บรรจงใส่หัวใจมาในทุกสัมผัส จนคนแบบนทแทบจะหลอมละลายด้วยความหอมหวานที่ล้อมรอบในทุกจังหวะการเต้นของหัวใจ

     

    คนโดนรายล้อมด้วยความรัก ... หลับตาพริ้ม ราวกับจะซึมซับทุกๆวินาทีเอาไว้ ... ซึมซับในทุกจังหวะลมหายใจ เก็บคำแห่งความรู้สึกดีดีเพื่อย้ำเตือนภายในว่ามันมีอยู่จริง

     

     

    "นทก็รักพี่แกรนด์..."

     

    เสียงพึมพำเบาๆ ... กับคำว่ารักง่ายๆ ... ที่มีความหมายมากมายเกินบรรยาย

    ... ในวันนี้ ที่เรารักกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    "... ทำอะไรน่ะนท"

     

    คราวนี้เป็นคิวของนักคิดคนเก่ง ที่ต้องนั่งขมักขเม้นหน้าจอคอมจนต้องให้สาวรุ่นพี่มาตาม ... เจ้าของเสียงยกแขนพาดไหล่คนที่กำลังตั้งอกตั้งใจอย่างจงใจจะยียวนกวนสมาธิ... ก่อนสายตาจะเลื่อนไล่ไปตามตัวอักษรขนาดยาวในหน้าอีเมล์ ที่แกรนด์เดาได้ว่าเพิ่งมาถึงสดๆร้อนๆ

     

    เมื่อไม่นานมานี่เอง ... นทน้อยที่กำลังจะหลับสนิท จู่ๆก็ตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงเตือนจากโปรแกรมแชทอะไรสักอย่าง ... มันดังให้นทได้สนใจ ให้นทได้พลิกตัวออกจากอ้อมกอดเธอ แล้วก็กระวีกระวาดมาเปิดคอมเสียกลางดึกทั้งที่มันควรเป็นเวลาให้พักผ่อนนอนหลับใหล

     

     

    "แอปไลน์มาบอกนทว่าต้องส่งคอลัมน์พรุ่งนี้ .. เลยอยากให้เช็คให้หน่อย"

    นทตอบทั้งที่ยังไล่สายตาไปตามตัวหนังสือ ... เจอคำที่ไม่ค่อยถูกใจก็ลบและพิมพ์แทนอย่างเอาจริงเอาจัง หมดมาดเด็กตัวน้อยขี้อ้อนและกลายร่างเป็นนทที่ทุกคนชินตาได้อย่างน่ารักน่าชัง ... นทคนนี้กำลังทำแกรนด์อมยิ้ม ก่อนที่จะใช้มือเรียวสวยลูบเส้นผมสีเทาเข้มนั่นอย่างแสนเอ็นดู

     

    "งั้นพี่ไปนอนก่อนนะ"

     

    คำตอบรับเป็นเพียงการพยักหน้าหงึกหงัก ... ให้แกรนด์ได้ยืนมองอีกชั่วครู่ก่อนจะยอมล่าถอยไปก่อนด้วยความง่วงงุนขั้นเทพ ... ดึกมากแล้ว เธอไม่ไหวแล้วล่ะ อยากอยู่เป็นเพื่อนแต่คงต้องเลือกนอนก่อน .. นั่งอยู่ก็จะเป็นภาระให้คนตัวเล็กต้องกึ่งอุ้มกึ่งลากเข้าห้องเสียมากกว่า

     

    คนโตกว่าจึงต้องทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างขวางนั้นอย่างรู้สึกเหงาลึกๆ... ไม่ชินเลยกับการต้องนอนแบบไม่มีใครให้กอดแบบนี้

     

    ผ้านวมผืนใหญ่ถูกแกรนด์สะบัดจนมันกว้างคลุมเตียง ตัวอุ่นๆซุกเข้ากับหมอนข้างพลางวาดแขนกอดมันไว้แทนใครบางคนที่ไม่อยู่ตรงนี้ ... ปรับเสียงในสมองให้เงียบลง กล่อมตัวเองให้หลับ ... ก่อนจะเริ่มตาปรอยไปกับความง่วงเกินขนาดที่เป็นตัวการกล่อมให้กลับชั้นดี

     

    บางทีเธออาจต้องกอดหมอนข้าง ... กอดตัวเองให้ชินไว้ ไม่รู้ว่าอ้อมกอดของเธอจะหลุดลอยไปเมื่อไร

    แม้มันจะยังไม่ได้มีเรื่องราวอะไร ... แต่ไม่รู้ทำไมจึงอดหวั่นใจไม่ได้เลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

    กระเป๋าสัมภาระไอทีของนักเขียนชื่อดัง ถูกขนย้ายมาวางไว้หน้าห้องอย่างทนุถนอม ... นทแทบอยากจะอุ้มมันไว้แนบอกเมื่อสำนึกได้ว่ามันมีมูลค่าเท่าไร ตั้งแต่เมื่อวานที่ทีมงานคนหนึ่งยก DSLR พร้อมเลนส์อันเท่าเสาไฟฟ้ามาฝากไว้ที่นี่ เธอก็ป้วนเปี้ยนแตะสัมผัสไปมาจนคนรับฝากแอบอมยิ้มอย่างรู้ทัน

     

    และคนรู้ทันก็ยื่นคำอนุญาตให้ถือกล้องเถลไถลได้หนึ่งวันเต็มที่ ... เป็นรางวัลปลอบใจให้นทได้ทำอะไรอย่างที่ชอบบ้างก่อนจะต้องจากกันนานๆ ที่จะเริ่มต้นแล้วในวันนี้

     

     

    "นท เก็บการ์ดไว้ในกล้องแล้วใช่ไหม ?"

    แกรนด์ในชุดเฉิดฉาย เดินลากกระเป๋าอีกใบออกจากห้องนอน พลางถามถึงเมมโมรี่การ์ดที่นทแอบดึงไปลงรูปไว้ในเครื่องเมื่อสักครู่ ... คนโดนถามพยักหน้าหงึกหงัก พลางงัดกระเป๋ากล้องแล้วยื่นเจ้าวัตถุสีดำอันยักษ์ราคาแพงหูฉี่ ฝั่งที่ใส่เมมโมรี่การ์ดให้ดูด้วยท่าทางของเด็ก ๆ...

     

    เด็กที่มักจะยื่นของให้พิสูจน์เมื่อผู้หญิงทำท่าทางไม่ไว้ใจ

     

    "แล้วนทก็ฟอร์แมตแล้วด้วย ... ทีนี้พี่แกรนด์ก็ใช่ไปซี้ 16 กิ๊ก ! ถ่ายมาที่ละห้าร้อยรูปก็ไม่เต็ม"

    เหมือนจะออกแนวประชดประชันกันหลายๆให้ได้หัวเราะเบาๆ... แล้วเด็กหญิงนทก็ยัดมันลงกระเป๋ากล้องใบเดิม ก่อนจะหยุดท่าทางตลกนั่นแล้วพุ่งเข้ามากอดเธอแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย...

     

    กอดอุ่นๆแน่นๆ ที่ทำเอาคนโดนกอดแทบตั้งตัวไม่ทัน...

     

    แกรนด์ผงะไปกว่าวินาที แต่แล้วก็ตั้งตัวโอบร่างเล็กนั่นไว้แนบกาย ... เพียงเสี้ยววินาที เด็กหญิงนทคนเมื่อกี๊ ก็เริ่มจะแปลงร่งเป็นสาวขี้เหงาอ่อนไหวให้คนกำลังจะไปต้องนึกเป็นห่วง

    น้ำใสใส ไหลรินลงมาจากดวงตา .. จนเสื้อตัวเก่งเปียกชื้นไปหมด

     

     

     

     

     

    "อะไรนท ... คนดีของพี่เป็นอะไรค๊าา"

    เสียงแซวจากเธอทำเอาคนที่โถมตัวเข้าหากอดอุ่นๆ ยิ้มทั้งน้ำตา ...

     

    ด้วยคำนั้น 'คนดีของพี่'

    ที่ 'คนดีคนนี้' มักจะอมยิ้มเมื่อเรียกเสมอ...

     

    มันเป็นคำหวานเลี่ยนที่แกรนด์ก็ไม่รู้ว่าเธอเรียกเข้าไปได้ยังไง ... แต่คำเลี่ยนๆนั่นก็เป็นคำเดียวที่ให้คำจำกัดความตรงหัวใจ

     

    "ไม่ร้องนะ ... แค่สี่ห้าอาทิตย์ก็กลับมาแล้ว"

     

     

    "นาน..."

     

    นทกำชายเสื้ออีกคนจนแน่น ไม่รู้จะร้องไห้ยังไงให้หายคิดถึง... ส่งคำประท้วงเบาๆที่ไม่ได้ยืดยาวอะไร แต่กลับสะเทือนหัวใจคนจะไปได้อย่างน่าประหลาด ...

     

    แกรนด์ลูบไล้แผ่นหลังคนดีของเธอ ปลอบโยนอย่างเข้าอกเข้าใจ ... ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจากกันสั้นๆแค่ในตอนนี้ กลับใจหายและคิดถึงมากกว่าทุกครั้ง

    นานเหรอเวลาแค่นี้ ... นานสิ ... ห้าสัปดาห์ - เดือนกว่า - สามสิบกว่าวันเชียวนะ

     

    และสุดท้าย เป็นเธอเองนั่นแหล่ะที่เผลอร้องไห้น้ำตาซึม...

     

     

    "เดี๋ยวพี่โทรหานททุกวันเลยนะ"

    เอ่ยเบาๆข้างหูอีกคน ... พร้อมกับที่นทสะอึกสะอื้นให้ได้เศร้าใจเข้าไปใหญ่

     

    "คิดถึงนทด้วยนะ ... สัญญานะ"

    เป็นคำขอสัญญาที่แกรนด์ไม่เคยคิดจะปฏิเสธ กี่ครั้งกี่คราวที่นทถามทวง... เธอไม่เคยลืมที่จะสัญญาและมอบจุมพิตเบาบางเป็นการยืนให้เชื่อใจ

     

    "อื้ม ... คิดถึง สัญญา"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    นทได้แต่นั่งมองนาฬิกาที่หมุนวนไปช้าๆ ... ในห้องชุดกว้างใหญ่เพียงลำพัง ... หลังจากโดนคนจะไปสั่งไว้ว่าห้ามไปส่ง เพราะกลัวเธอจะไปร้องไห้ใส่กันจนคนแตกตื่นทั้งสนามบิน ...

     

    ตอนนี้ เครื่องคงออกแล้วล่ะ...

     

     

     

    นทเอนหลังลงกับโซฟา พยายามข่มตาให้หลับจะได้ลืมๆไปซะ ... แต่เธอก็ยังทำไม่ได้ อากาศเย็นๆของช่วงท้ายปี มันทำคนเหงาแทบตาย ไม่กี่ชั่วโมงความเงียบในห้องก็ทำร้ายเธอจนอดน้ำตาซึมไม่ได้ ...

     

    เหงา .. เธอเหงา

     

     

    เหงาและคิดผิด นึกว่าตัวเองจะเก่งพอที่จะอยู่ได้โดยไม่ต้องมีใคร ... นั่นมันเคยเป็นความจริงก่อนที่จะมาเจอกัน เธอเคยอยู่คนเดียวได้เสมอ ... แต่พี่แกรนด์มาเปลี่ยนมันไปแล้ว เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนอ่อนแอ ...  เจ้าน้ำตา เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่อยู่คนเดียวไม่ได้ ...

     

    หมอนข้างไม่เคยอุ่นเลยให้ตาย...

    และนทก็ได้แต่ถอนใจซ้ำๆอย่างหม่นหมองสุดกำลัง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "พี่ฝากน้องแอปดูนทหน่อยได้ไหมคะ ?"

     

    "นทเป็นเด็กขี้เหงา... พี่ไม่อยู่แบบนี้ คงแย่น่าดู"

     

    "รบกวนสักนิดนะคะ..."

     

     

     

     

     

    ไม่รู้เป็นเพราะคำฝากฝังของพี่สาวที่เอาตัวห่างกันไปนานนับเดือน หรือเพราะความห่วงใยเล็กๆในจิตใต้สำนึกกันแน่ ... ที่ทำให้ดาราดังอย่างแอปเปิ้ล ต้องยอมแต่งตัวมิดชิดแถมพรางหน้าด้วยแว่นอันโตเพื่อป้องกันความวุ่นวายยามไปซื้อมื้อเย็นแบบนี้

     

    แอปเปิ้ลวางถุงกับข้าวลงก่อนจะหันไปคว้าจานชุดสวยมาวางเรียงราย ... สองมือช่วยกันเทอาหารสำเร็จรูปในถุงให้ลงไปนอนรอการเผด็จศึกอย่างน่าทาน แว่นตากันแดดสีดำสนิทอันใหญ่ถูกถอดให้พ้นสายตา เผยให้เห็นดวงตาที่วาวระยับไปด้วยสุขเล็กๆของคนทำ...

     

    ถึงไม่ได้ทำด้วยตัวเอง แต่เธอก็เทด้วยตัวเอง ซื้อด้วยตัวเองนะ...

     

     

     

     

    แอปเปิ้ลยกทั้งสองจานใส่สองมือ เตรียมตัวจะตั้งโต๊ะดินเนอร์ที่ห้องอีกคนอย่างมีความสุข ถึงมันจะไม่ใช่มื้อใหญ่อะไร แต่มื้อนี้ก็คงเป็นมื้อนึงแน่ๆ ที่เธอประทับใจ...

     

     

     

    ก๊อกก๊อก...

     

     

     

     

    เมื่อมือไม่ว่าง เท้าถึงต้องทำหน้าที่เคาะประตูแทน แม้จะไม่เหมาะนักแต่แอปเปิ้ลก็ทำแล้ว...  อาหารไทยสองจานส่งกลิ่นหอมฉุยในมือ ... แอปเปิ้ลแอบสูดกลิ่นหอมๆของมันในวินาทีที่การรอคอยประตูที่กำลังจะเปิดออกเริ่มต้นขึ้น อา ... หิวจังเลยแฮะ

     

    ช้าจัง พี่นทนี่ นั่งร้องไห้อยู่หรือไงนะ

     

     

     

     

     

    แอ่ดดด ...

     

    และแล้วประตูก็เปิดออก ... มันเชื่อช้าจนแอปเปิ้ลคิดว่าต้องรอสักสิบนาทีแน่ๆกว่ามันจะเปิดเต็มบาน แต่เธอก็ยิ้มรอคอย พร้อมกับเตรียมยื่นสองจานในมือส่งให้ 'คนขี้เหงา' ในทันใด

     

     

    พี่นทมองหน้าเธองงๆ ในวินาทีที่เธอยื่นสองจานนนั่นออกไปใกล้ๆ...

     

    พร้อมส่งคำถามในภาษาถนัด ที่เธอไม่คาดหวังถึงประโยคปฏิเสธ ไม่ว่ายังไงอีกคนก็ต้องตอบตกลง มันเลี่ยงไม่ได้ !

     

     

    "Can I have dinner with you ?"

     

     

     

    คงไม่รังเกียจนะคะ ... สำหรับมื้อเย็น มื้อแรกของเรา









    ...


    จบตอน :)
    จุ้บๆ

    ช่วงนี้นทแอปยังไม่มา ตัวเองรอหน่อยนะ
    เมื่อวานพี่นทน่ารักมากๆ เค้าแทบละลายคาพื้นเซนทรัลกับมุก ฉกชื่น 555555

    มุกพราวน่ารัก <3

    เจอกันตอนถัดไป

    ปล ขอบคุณที่รักวับวาวค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×