คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : มันคือความรัก - 2
มันคือความรัก
Part II
พบกันไม่นาน แล้วเราก็ห่างหายกันสักพัก
หันไปทางไหน ก็เห็นหน้าเธอคนเดียว
“ตารางงานเดือนหน้าออกแล้ววววววววววววววววววววว”
เสียงสาวสวยหนักหนึ่งเดียวในกลุ่มสี่สาว วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามากลางวงพร้อมกับร้องแรกแหกกระเชิงให้คนได้ยินกันทั้งบาง ภายในคอนโดมิเนียมส่วนตัวของพี่สาวสุดติสท์ สามสาวจากเวทีประกวดเดียวกันนั่งคุยกันไปมาอย่างออกรส ... บทสนทนาที่ลื่นไหลมาตลอดเป็นอันต้องหยุดชะงักลงเพราะเสียงอันแสนตื่นเต้นของซิลวี่นี่เอง
“ไหนมาดูสิ...”
นทคว้าหมับเอาจากมือซิลวี่ทันทีที่มันถึงตัว ... หรี่ตาเล็กๆในมองตั้งแต่บรรทัดอย่างตั้งอกตั้งใจ
“อะไรอ่ะพี่นท ! เค้าเป็นคนเอามานะ ให้เค้าดูก่อนสิ”
สาวสวยหนักเริ่มเบ้หน้างอแงเพราะตัวเธอเองก็อยากจะรู้ตารางงานตัวเองใจจะขาด ... ขั้นตอนการเรียกร้องสิทธิจึงเกิดขึ้นโดยการส่งเสียงคุณภาพระดับบรอดเวย์ออกไปร้องประท้วง พร้อมกับเอี้ยวตัวไปยื้อแย่งกระดาษแผ่นนั้นจากพี่นทมาเต็มไม้เต็มมือ
“เดี๋ยวซิล !”
แต่ยังไม่ทันจะได้ออกแรงดึง ... คนที่ทำการโอนกรรมสิทธิ์กระดาษแผ่นนี้มาเป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งเสียงดุๆที่แปลความหมายได้ชัดเจนว่าเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา ไปเบรกสาวสวยหนักให้ได้ชะงักกึก ...
สาวสวยหนักเริ่มสำนึกรู้ในคราวซวยของตัวเอง มือที่คว้ามันไว้หลวมๆ จึงค่อยๆปล่อยกระดาษอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง...
ซิลวี่นั่งตัวเหี่ยวมองเพื่อนอย่างแอปเปิ้ลที พี่อย่างเจ้กวงที รอยยิ้มแห้งของสาวสวยหนักฉาบขึ้นเบาๆ ... กับพฤติกรรมขี้เหวี่ยงของพี่นทที่พักนี้ดูจะหนักข้อขึ้นทุกวัน
เมื่อก่อนพี่นทไม่เคยเป็นแบบนี้ ... พี่นทออกจะน่ารัก ใจดี มีขนมอะไรก็แบ่งให้กินตลอด ... แต่เดี๋ยวนี้เริ่มเปลี่ยนไปเบาๆ ถึงจะยังแบ่งขนมให้กินเหมือนเดิม แต่ไอ้ความน่ารักใจดีไม่รู้หายไปไหนหมดแล้ว
สงสัยเพราะสนิทกันมากขึ้น มากเกินไป...
ฮืออออ ไม่น่าสนิทกะพี่นทเลย T^T ซิลคิดผิด
“เห้ย ! อะไร งานโปรโมตรวมแปดคนนี่เหลืออีกแค่สามครั้งเองหรอ ?”
เหี่ยวได้ไม่นานเท่าไร ... พี่เหวี่ยงคนดีคนเดิมก็ร้องโวยขึ้นมาให้อีกสามคนได้สะดุ้งเบาๆ ... ข้อมูลใหม่เอี่ยมอ่องจากพี่นททำทั้งแอปเปิ้ล ซิลวี่ และพี่กวาง มองหน้ากันสลับไปมาอย่างสุดจะประหลาดใจ ... อะไร ? อะไรของนทที่โวยวายขึ้นมา
นั่งดูตารางงานคนเดียวแล้วจู่ๆก็โวยวายขึ้นมา ... แปลก ... แถมโวยวายในเรื่องที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วด้วยนะ
“มีมะรืน ศุกร์หน้า แล้วก็อังคารโน้นนน ทีนี้ก็หมด ... หมดแล้ว ! เราจะไม่ได้ทำงานด้วยกันแล้ว”
“ว๊าววว เห้ย ! เจ๋งอ่ะ ทีนี้ก็ของจริงแล้วอ่ะดิ ... ไหนๆพี่นท ซิลขอดูบ้างเด๊ะ !”
ทุกคนรับรู้แล้วเข้าใจในคำพูดของนท ... สี่คนที่นั่งด้วยกัน แต่ปฏิกิริยามันแตกต่างกัน ... ซิลวี่ยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น พร้อมกับที่เธอเอื้อมมือคว้าตารางงานแผ่นนั้นมาทันที ...
คนเป็นพี่ใหญ่ก็เริ่มมีสีหน้ากังวล ... สังหรณ์ไม่ดียังไงอธิบายไม่ถูก... กวางลุกข้ามโซฟาไปนั่งข้างซิลวี่แล้วชะโงกหน้าดูตารางงานแผ่นนั้นด้วยสีหน้าเรียบๆ
ส่วนคนรู้ข่าวคนแรกอย่างนท ... ใจหายไปแล้วทั้งใจด้วยความรู้สึกหน่วงๆบอกไม่ถูก ...
คนที่นั่งคนละฝั่งโซฟา สบตากันนิ่งๆ ... คนนึงแทบไม่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ... ส่วนอีกคน กลับมีรอยยิ้มเกลื่อนกระจายเต็มไปหมด ... และนั่นคือรอยยิ้มแห่งความเข้าใจ
แอปเปิ้ลเริ่มจะรู้ ว่าพี่สาวขี้เหวี่ยงตรงหน้าเธอกำลังเริ่มจะเหวี่ยงอีกครั้ง ...
เหวี่ยงเพราะไม่ได้ทำงานด้วยกันเป็นกลุ่มเบ้อเร่อ ... ชัดเจนว่าไม่พอใจอย่างที่โวยวายนั่นแหล่ะ เธอรู้ ... แต่ที่เธอไม่รู้คือสาเหตุของมัน ทำไมพี่นทถึงไม่พอใจ ?
“อย่าทำหน้างั้นซีพี่นท... ไม่ได้ทำงานด้วยกันก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่เจอกันสักหน่อย”
สุดท้าย แอปเปิ้ลก็ทนนั่งยิ้มและมองเฉยๆไม่ไหว น้องสาวจึงต้องขยับตัวไปใกล้พี่สาวแล้วส่งเสียงห้าวๆปลอบอย่างเข้าอกเข้าใจ ... ให้คนเป็นพี่ได้ขมวดคิ้วจนแน่นและช้อนตาขึ้นมองอย่างตัดพ้อกันแบบนั้น ...
สายตาตัดพ้อที่ทำเอาคนปลอบได้แต่ยิ้มแห้งๆ กระพริบตาปริบๆมองอย่างคนขี้เหวี่ยงที่เปลี่ยนโหมดไปแล้วอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจ ...
เดี๋ยว ... อะไร ? ... มองเธอแบบนั้นทำไม ตารางงานนั่นน่ะ เธอจัดเหรอ ?
“เห้ยยย อะไรนั่น ! บวงสรวงละครกุหลาบซาตาน นท จูเนียร์ ว๊าววว ! เยี่ยมไปเล้ยยยย !!!!”
เสียงซิลวี่ร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ... แต่ซวยไปหน่อยที่มันผิดที่ผิดเวลา แทนที่จะได้รับรอยยิ้มเผล่แสดงความภาคภูมิใจอย่างที่เคยทำ ... สาวสวยหนักจึงได้สายตาเขียวราวกับมรกตจากพี่นทไปแทน ... ตาเขียวปั๊ด
สายตาท่าทางที่ทำแอปเปิ้ลได้แต่แอบปาดเหงื่อกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของพี่นท ... เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ... เดี๋ยวขี้งอน เดี๋ยวเอาแต่ใจ
ใครเขาจะตามทันไหว..
“เอ่อะ ... พี่นท ซิลพูดอะไรผิดป่ะ ?”
ซิลวี่กระพริบตาปริบๆถามพี่นท ... พี่นทที่ยังจ้องเธอตาเป๋ง ... โอยยย เอาอีกแล้ว มือไม้ไอ้ซิลอ่อนแรงอีกแล้ว พี่นทจ้องเอาๆเหมือนจะฆ่าเธออีกแล้ว
“ไม่ผิด แต่ไม่อยากฟัง”
จบแค่นั้น ! นทก็ตวัดสายตาเหวี่ยงๆรอบทิศแล้วเดินแหวกวงแยกเข้าห้องนอนส่วนตัวไปอย่างหงุดหงิดเกินจะทน ... ไม่อยากจะอยู่ต่อให้ยิ่งอารมณ์เสียต่อไปอีกแล้ว ... นททิ้งสามสาวเอาไว้กับตัวต้นปัญหาหนึ่งแผ่น ปล่อยให้ซิลวี่ กวางและแอปเปิ้ล หันหน้ามองกันไปมาอย่างเพลียๆ กับอารมณ์ร้ายๆของนทที่อยู่ดีๆมันก็เกิดขึ้น ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นจากจุดไหน
“....เฮ้อออ”
.
.
“อ้าวแอป ซิลกับพี่กวางกลับแล้วเหรอ ?”
ตกค่ำ คนขี้เวี่ยงที่เพิ่งได้ฤกษ์โผล่ศีรษะออกจากห้องก็ส่งเสียงถามน้องสาวคนเดียวที่นั่งพลิกนิตยสารอยู่ด้วยน้ำเสียงอึนๆ ผมเผ้าฟูๆนั่นถูกเกาซ้ำไปซ้ำมาจนมันยิ่งฟูให้คนเดียวที่เหลือในห้องได้เผยรอยยิ้มจางๆด้วยความเอ็นดู
แอปเปิ้ลวางนิตยสารฉบับนั้นลง ก่อนจะลุกขึ้นอ้อมโซฟาไปยังโต๊ะวางของกระจุกกระจิก แล้วหยิบหวีอันเขื่องขึ้นมาอย่างคนที่คุ้นเคยกับทุกซอกทุกมุมในห้องนี้ดี
“ค่ะ ซิลกับพี่กวางกลับแล้ว … เขาว่าเขากลัวพี่นทเหวี่ยง”
“ฮื้อออ แอปอ่ะ”
แอปเปิ้ลแอบจิกคนขี้เหวี่ยงเล่นๆก่อนจะเดินไปกดไหล่พี่นทให้นั่งลงที่โซฟา นทเองก็ยอมนั่งแต่โดยดี … ก่อนคนสวยจะเริ่มลงมือวางหวีลงบนผมยุ่งๆนั่นแล้วสางมันออกอย่างอดรนทนไม่ได้ … พฤติกรรมน่ารักๆที่แอปเปิ้ลทำให้กัน ทำให้คนหัวยุ่งขี้เหวี่ยงต้องแอบอมยิ้มกับตัวเองอย่างพออกพอใจ
มันดีจัง ที่มีคนมาคอยดูแลเอาใจใส่
“แล้วพี่กวางกับซิลกลับกันยังไง ? แล้วทำไมแอปยังไม่กลับ ?”
นทพยายามเงยหน้าน้อยๆเพื่อถามคนที่ยื่นค้ำศีรษะเธออยู่เพื่อพูดและสบตาไปพร้อมๆกัน แม้มันจะไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไร … แต่นทก็ได้เห็นรอยยิ้มของน้องสาวที่เผยออกมาจางๆเมื่อตอบคำถามของเธอ … คำตอบบ้าๆที่เจือจางความกวนประสาทเอาไว้อย่างเข้มข้น …
“กลับแท็กซี่ค่ะ ส่วนแอปยังไม่กลับเพราะกลัวพี่นทออกมาโวยวายเสียงดังให้เขาตกใจกันทั้งคอนโด …”
คำตอบนั่นทำนทเริ่มหน้างอขึ้นมาอีกที … จริงเรอะ ? เธอขี้เหวี่ยงจนคนเขากลัวกันปานนั้นเลยหรือไง …
“จริงๆนะคะ … แอปกลัวพี่นทออกมาไม่เจอใครแล้วโวยวายจริงๆนะ”
“ฮื้อออ ! พี่เป็นคนแบบนั้นหรือไงเล่าแอปเปิ้ล !”
ดูเอาสิ … คนขี้โวยวายเริ่มทำท่าทางบ๊องๆใส่เธออีกแล้วนะ…
แอปเปิ้ลได้แต่เงียบไม่ตอบ … ได้แต่หวีผมยุ่งๆของพี่นทไปเรื่อยๆอย่างอิ่มเอิบในใจ … ก็เอาเถอะ ถึงคนตัวเล็กตรงนี้จะขี้โวยวายยังไงก็ช่าง … อย่างน้อยเธอก็เป็นข้อยกเว้นของพี่นท อย่างน้อยเธอก็เป็นคนเดียวที่พี่นทไม่เคยโวยวายใส่กันเลยสักครั้ง
มีก็แต่ท่าทางจะงอนกันอยู่บ่อยๆน่ะแหล่ะ … ไม่รู้ทำไม
ว่างๆ เธอคงต้องแย็บถามดูสักครั้งแล้วล่ะ … คนบ๊อง !
.
.
“ฝากติดตามผลงานล่าสุดของนทกับพี่เนียร์ด้วยนะคะ … ซิงเกิ้ล อยากจะรู้ ประกอบละครกุหลาบซาตาน ออกอากาศทางช่อง5 ทุกวันจันทร์ถึงพฤหัส เริ่มวันที่ 7 พฤศจิกานี้ค่ะ…”
ประโยคซ้ำเดิมที่นทต้องพูดทุกวันเป็นเวลากว่าเดือน … กำลังหลอกหลอนประสาทเธอจนคนทำงานหนักแทบจะสลบสไลไปด้วยความเหนื่อยอ่อย เพลียกับงานที่หนักขึ้นและหนักขึ้นทุกวัน เธอเพิ่งกลับจากสวิสได้ประมาณสองอาทิตย์ ไอ้การถ่ายละครมันก็เริ่มจ่อคอหอย เสียงที่เริ่มพูดถึงอัลบั้มเดี่ยวของเธอที่ดูจะเป็นจริงเป็นจังในเร็ววัน งานโชว์ตัวหนักๆที่บ้างก็ต้องไปแบบเหงาๆคนเดียว บ้างก็มีเพื่อนร่วมค่ายไปแชร์ความล้า ทุกอย่างประดังประเดเข้ามาจนคนดังเริ่มจิตใจอ่อนแอ …
แม้ทุกอย่างจะเป็นสิ่งที่เธอรักและต้องการมาตลอด แต่เธอไม่ใช่คนเหล็ก ไอ้เรื่องเหนื่อยล้านี่มันเกิดขึ้นง่ายแบบสามัญมากนะ !
“โอ้ยยยยยย…”
นทหลับตาแล้วเอนหลังลงกับเตียงนอนไซส์บิ๊ก ปล่อยอารมณ์ความรู้สึกให้คิดไปในสิ่งที่อยากจะคิด … เธอออกจะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เมื่อก่อน ที่เธอยังเป็นแค่หนึ่งในแปดคนจากบ้านเดอะสตาร์เจ็ด ยังมีเพื่อนคอยพูดกันคุยกันตลอดการทำงาน ลดทอนความเหนื่อยและเพิ่มความสุขให้ได้มีรอยยิ้มเปื้อนหน้าจากการได้ทำในสิ่งที่รัก … แต่เดี๋ยวนี้ เธอเป็นศิลปินหญิงเดียวเดี่ยวโดดของค่าย ไอ้โอกาสที่จะได้พบปะคนคุ้นเคยกันก็น้อยลงเต็มที … มีก็แต่พี่เนียร์เท่านั้นที่เบื้องบันได้ขีดเส้นให้มาพบกัน … แต่ก็แค่นั้น
เธอยังจำได้ … ยังจำบรรยากาศงานรวมตัวครั้งสุดท้ายของเราได้อยู่เลย…
“พี่นท…”
เสียงห้าวหาญชาญชัยของน้องผลไม้ของเธอ ดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างเต็มสีหน้า … มันจบลงแล้วกับภาระการโชว์ตัวต่อหน้าประชาชนนับพัน … ที่นี่เป็นหลังเวที … หลังเวทีที่มีเราแปดคน หลังเวทีที่มีคนพลุกพล่าน หลังเวทีที่เหล่าทีมงานวุ่นวายไปหมด … และหลังเวทีที่มีเธอกับแอปเปิ้ล ยืนยิ้มให้กัน ประจันหน้ากัน และกำลังคุยกันด้วยสายตาในตอนนี้
“ยิ้มอะไรน่ะแอป … งานเราเสร็จแล้ว ดีใจมากหรือไง ?”
ไม่รู้ว่าทันทีที่ได้เห็นแอปเปิ้ล วิญญาณผีบ้าตัวไหนมันเข้าสิงเธอ … อารมณ์เธอจึงได้เปลี่ยนปุบปับมาเป็นคนขี้น้อยใจได้แบบนี้ … และก็ไม่รู้แอปเปิ้ลเด็กกว่าเธอหรือโตกว่าเธอเป็นสิบๆปีกันแน่ … ถึงได้ยังคงยิ้มหวานระคนเอ็นดูและอดทนกับพฤติกรรมบ้าๆของเธอแบบนั้น …
ฮือออ … รู้ไหม ? ต่อจากนี้ไป มันจะไม่มีอะไรแบบนี้ให้เห็นกันอีกแล้วนะ
ไม่มีแล้วนะ…
เธอจะไม่ได้เหวี่ยงวีนงี่เง่างอแงและโวยวายเรียกร้องความสนใจจากใครแล้วนะ …
“พี่นทท…”
คนที่ทำตัวโตกว่าเธอในทุกอย่างทุกทาง … เรียกชื่อกันเสียงยานคางงงงง … พร้อมกับเอามือน้อยๆนั้นมากุมมือเธอไว้อย่างคนที่กำลังจะบอกลากัน … เธอเคยเห็นฉากแบบนี้ในละคร ในเอ็มวี หรือในอะไรสักอย่างที่มันจะมีความซาบซึ้งและเสียน้ำตา ! แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอวาดหวัง … ไม่ใช่ที่นี่ ไม่ใช่ตอนนี้และไม่ใช่กับคนนี้
แอปเปิ้ลจะบอกอะไรเธอ … เธอไม่อยากฟัง ไม่พร้อมฟังนะ !
“ทีนี้ เราก็จะไม่ค่อยได้ทำงานด้วยกันแล้ว …”
มันเป็นประโยคเกริ่นนำที่ทำเอาคนบ๊องของแอปเปิ้ลต้องเริ่มแบะปาก … และผลไม้ลูกแดงๆของนทก็เริ่มยิ้มหวานเฉียบอีกครั้ง
“พี่นทอย่าไปเผลอขี้เหวี่ยงใส่ใครที่ไหนนะ ถ้าไม่ใช่แอป ไม่ใช่ซิล ไม่ใช่พี่กวาง … แอปก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาจะเข้าใจที่พี่นทเป็นหรือเปล่า”
คนเป็นน้องเตือนคนเป็นพี่อย่างสุดจะหวังดี … มือที่กุมกันไว้หลวมๆบีบเข้าหากันแน่นอย่างต้องการถ่ายทอดความรู้สึกดีดีให้กันจากใจถึงใจ … สองตามองกันและต่างยิ้มให้กันอย่างเข้าอกเข้าใจ … นทเพิ่งจะรู้เอาตอนนี้ ว่าส่งที่เธอกำลังจะเจอมันไม่ใช่ความเศร้า มันเป็นความสุขสีหม่นที่คนแบบนทไม่เคยต้องการ …
และถ้าเธอยังยืนยันจะแบะปากแบบคนบ๊องๆคนนึง มันก็จะยิ่งเป็นความสุขที่ใกล้เคียงกับสีดำไปมากกว่านี้
“โถ่แอป ถึงเหวี่ยงก็รักนะ …”
และถ้าคิดจะบ๊อง ก็คงต้องบ๊องให้สุด … นทจึงทำหน้าที่ศิลปินที่ดีด้วยการเล่นมุขกากๆขายเพลงให้ต้นสังกัดเฉยๆเสียแบบนั้น … แต่ใครล่ะจะรู้ ในประโยคเสี่ยวๆของเธอน่ะ มันแฝงไปด้วยความรู้สึกมากมาย… ประโยคที่เหวี่ยงก็รัก … เสี่ยวก็รัก … และไม่ว่ายังไง เธอก็จะรักไปแบบนั้น
นทยิ้มเขินๆ … เขินที่เห็นอีกคนหรี่ตามองเธอเหมือนผู้ใหญ่จ้องเด็กน้อยๆที่รั่วเหมือนกระทะโดนตอกตะปู …
เขินที่อีกคน จู่ๆก็หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ … เหมือนจะเขินเธอแบบนั้น
“โอ้โฮแฮะ แหมๆๆๆๆ เดี๋ยวนี้เสี่ยวนะ ไม่เหวี่ยงแล้วแต่จะเสี่ยวแทนใช่ไหมคะ !?”
แอปเปิ้ลแซวพี่นทกลับเสียงแห้งๆ แห้งเพราะเธอเองก็รู้สึกแปลกๆกับมุขเสี่ยวๆแบบนั้นของพี่นท … มุขที่ไม่ได้ยินจากคนคนนี้บ่อยนัก … ใครจะไปกล้าคิด ว่าคนขี้เหวี่ยงอยู่ดีดีก็จะกลายมาขี้เล่นได้ง่ายๆแบบนี้
นทยิ้มหวานอีกที … แก้เขินอีกที เมื่อเธอปล่อยประโยคสุดท้ายออกไปให้คนฟังได้อึ้งอิมกี่ …
“จะเหวี่ยงจะเสี่ยวก็กะแอปคนเดียวแค่นั้นแหล่ะ… จริงๆนะ”
นทหลับตานึกแต่ละภาพ แต่ละภาพ … แล้วเธอก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ … สิ่งที่เธอและแอปเปิ้ลเป็นมันช่างสวยงามและหอมหวานเกินกว่าจะลืม และมันก็ยังเป็นพลังใจให้เธอได้ดำเนินชีวิตต่อไปในทุกวัน … ตลอดเวลาที่ผ่านมา … ตลอดเวลาที่มีแอปเปิ้ลอยู่ข้างกันในชีวิต เธอไม่เคยแน่ใจเลยกับความรู้สึกของตัวเอง จนเมื่อต้องมาห่างเหินกัน เมื่อต้องมาแยกจากกันไปนานๆ โดยมีภาระและเวลากันเราให้ห่างกันไปจนแทบไม่มีได้พบกัน
นานสุดที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน ก็แค่เดินผ่านที่ตึก หรือขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกัน … มันมีช่วงเวลาให้เธอและแอปเปิ้ลแค่นั้น
เธอมาแน่ใจว่าเธอคิดยังไง ก็ตอนที่… เธอหันไปทางไหนก็เห็นแต่หน้ากลมๆผมสวยๆของแอปเปิ้ล … เห็นแต่รอยยิ้ม เห็นแต่ภาพของแอปเปิ้ลในทุกที่ที่ไป…
มันเพ้อเจ้อ … เธอเหมือนโดนสะกดใจ…
นทยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก ไม่ว่าจะกิน ไม่ว่าจะนอน จะหลับตาลืมตา อะไรอะไร ยังไงภาพแอปเปิ้ลก็จะเข้ามารบกวนให้เธออยู่สุขไม่ได้ … แต่ใจเธอเป็นสุข
การคิดถึงแอปเปิ้ลทำให้เธอยิ้มได้ แม้วันทั้งวันจะหนักหนามาแค่ไหน…
และเธอยืนยัน จะยิ้มให้กับตัวเอง … ยิ้มให้กับความคิดเล็กๆของเธอแบบนี้ต่อไป
เธอจะไม่มีวันปล่อยความรู้สึกหอมหวานนี้ไปไกลจากหัวใจเธอเด็ดขาด
_________________________________________________
มันคือความรัก เป็นฟิคสั้นขนาด 4-5 ตอน
ที่ไม่มีแนวคิดและจุดขายอะไรเลย
นอกจากต้องการหยิบความเบาและหวานมาเบรคความหน่วงจาก tbc
ที่ทุกคนกำลังถามกันมาว่ามันจะดราม่าแล้วใช่ไหม 5555
ไม่ตอบแล้วกัน ไปดูเอาเอง
จุ้บๆ -3-
เลิฟยูออล จิบิ :D
ปล tbc จะอัพในเร็ววัน
ปล2 อวยพรให้ลูกไม้ได้แกทเยอะๆด้วย
ปล3 รีบๆอวยพรกันซะ ถึงมันจะสอบตุลาก็เถอะ
ปล4 ถ้าทุกคนไม่อวยพรลูกไม้คงต้องหยุดอัพฟิคไปอ่านหนังสือและอวยพรตัวเอง #อะไร !
ปล5 ทั้งหมดน่ะล้อเล่นค่ะ 5555
ฝันดีแขร่บบบ
ความคิดเห็น