ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Ts7} ปาดับปา.วับวาว' #noteapp :)

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 Let me ...

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 55


     

     

    "พี่หมอ นั่งเหอะ เดินไปเดินมานทเวียนหัวว่ะ"

     

    นทร้องบอกพี่ชายคนสนิทที่เดินวนไปเวียนมาไม่หยุด อย่างคนที่เริ่มเวียนหัวตงิดๆ นับรอบไม่ถ้วนกับการเดินไม่เป็นสุขแบบนี้ ... และแม้เธอจะร้องขอไปแล้วแต่ผลมันก็ยังไม่ออกมาในทันที พี่ริทยังคงเดินฉวัดเฉวียนเวียนวนอย่างคนร้อนอกร้อนใจ ใบหน้ามนๆ หม่นหมองและขมวดยุ่นไปหมด จนนทนึกอยากจะดึงเอาปัญหาของเธอคืนมาซะฉิบ

     

    "ป๊าดด ! ถ้าแกเป็นพี่แกจะมีปัญญานิ่งได้อยู่ไหม น้องสาวอกหัก ! อกหักได้ไม่ทันไรโดนเด็กผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาบอกรัก ! บักคักอีหลี !" พี่ริทพ่นภาษาอีสานคำภาษากลางคำออกมาเป็นชุดใหญ่ ยิ่งท่อนพีคตรง 'บักคักอีหลี' ยิ่งย้ำชัดจนนททำหน้าไม่ถูก แต่มันก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ พี่ริทเริ่มแสดงอาการร้อนใจเป็นห่วงกันเกินปกติตั้งแต่เธอบอกว่าเลิกกับแฟน และยิ่งรนหนักขึ้นเมื่อเธอบอกว่ามีเด็กแสบคนนึง บอก เอ่อ ... ชอบเธอทั้งที่รู้จักกันไม่กี่อาทิตย์

     

    "เขาแค่บอกชอบ ไม่ได้บอกรัก !"

    พูดไปเอง ก็หน้าแดงเอง ... นทรู้สึกว่ามือไม้เธออยู่ไม่สุขเอาก็ตอนนี้ ตอนที่พี่ชายหยุดเดินวนเป็นหนูติดจั่น แล้วหันมาจ้องหน้ากันตรงๆ ด้วยสายตาเค้นกันแบบสุดๆ !

     

    พร้อมมือเรียวสวยของว่าที่นายแพทย์หนุ่ม บรรจงทุ่มน้ำหนักลงมาบนไหล่เธอแทบทั้งหมด

    "ไอ้นท พี่ถามจริง แกหวั่นไหวอะไรบ้างป่ะวะ ...?"

     

    เชื่อเถอะ เจอคำถามแบบนี้ เป็นใครก็ต้องอึ้งกันไปบ้าง ...

    นททั้งตกใจ ทั้งประหลาดใจ และได้แต่จ้องตาพี่หมอนิ่ง สาบานได้ เธอไม่เคยรู้สึกจึ้กๆที่หัวใจอะไรเช่นนี้มาก่อน

     

    "เฮ้ย ! บ้าเหรอพี่ นทชอบผู้ชายเว่ย ชอบผู้ชายมาก ! พี่ถามอะไรไร้สาระ ไม่เอาๆและ นทไปดีกว่า !"

     

    ว่ากันว่าคนที่มีอะไรปิดบังในใจ มักจะลุกลี้ลุกลนจนเก็บไว้ไม่ได้ ... ไอ้คนโดนคั้นแทบจะลุกพรวดขึ้นทิ่มดั้งพี่หมอ ปากเล็กๆพยายามวี๊ดเสียงโวยๆๆๆใส่หน้าพี่หมอ ทั้งๆที่หน้าของตัวเองก็แดงแปร๊ดลามไปจนถึงใบหู ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าตัวเองก็ผิดปกติไปมากเหมือนกัน

     

    เสี้ยววินาทีนั้น นททำอะไรแทบไม่ถูก ...

    ครู่หนึ่งนั่นแหล่ะ กว่านทจะสั่งการให้เจ้าขาสองขาจะพาตัวไอ้เจ้านทวิ่งตื๋อขึ้นไปข้างบนบ้านได้ อะไรก็เถอะ ตอนนี้ขอหลบหน้าไอ้พี่หมอรู้มากนี่ก่อนแล้วกัน !

     

    พี่ชายเลยได้แต่หรี่ตามองน้องสาวไปอย่างคนที่รู้เท่าทันกันทุกๆอย่าง และหนึ่งในทุกๆอย่างที่รู้ทันกัน ยินยันกับเขาทีว่าไอ้เจ้านทคนขรึม น้องสาวเขาคนนี้ ไม่ได้กำลังโดนไวรัสทำลายระบบภายในร่างกายจนมันรวนๆ และเริ่มทำงานไม่เป็นปกติ ... ไม่อย่างนั้น เขาคงน่าจะจับไปเพิ่มแรมสักทีหากมันยังเบลอ ๆ ตื้อๆอยู่อย่างนี้จนน่ากลัว

     

    ก่อนอื่นต้องพามันไปฟอร์แมทก่อนป้ะเนี๊ยะ = =;

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "ฮัลโหล ! พี่นท ... วันนี้ว่างเปล่า ? แอปว๊างว่าง ไปหาไรกินกันนะ"

     

    "ไม่ว่าง เรียนอยู่เลย แค่นี้ก่อนนะ"

     

    นทเค้นเสียงรอดไรฟันตอบปลายสายเงียบๆ มือเลื่อนหลุบเจ้าโทรศัพท์ลงใต้โต๊ะได้ทันท่วงที ก่อนที่ท่านอาจารย์ที่บรรยายอยู่หน้าชั้นจะโยนไมค์ใส่หัวเธอเข้า ... วันนี้นทในมาดนักศึกษาสาว นั่งอยู่แถวหน้าสุดของชั้นการบรรยาย กับวิชาทฤษฎีดนตรี ที่ยังวนเวียนมาเฉือนเลือดเฉือนเนื้อกันไม่เลิกรา มือนทเลคเชอร์ยุกยิกในภาษาที่มีเพียงเธอและเธอเท่านั้นจะเข้าใจ .. นึกแล้วยังเจ็บใจไม่หาย กับสอบคราวที่แล้วที่เพิ่งทราบผลกันไป คะแนนเรี่ยๆจะตก อกจะแตกตาย หลับตานอนไม่ได้ด้วยซ้ำ !

     

     

    "อย่างที่ทุกคนรู้ ซีชาร์ปกับดีแฟลตเท่ากัน..."

    บลาบลาบลา ได้ยินจนอยากจะกลายร่างเป็น โด เร มี ฟา ซอล ลา ซี๊ ~~~

     

     

    นทค่อยๆเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าสะพายอย่างแนบเนียน ... พยายามบังคับสมาธิให้โฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแม้มันจะยากเต็มที ยัยตัวแสบโทรมาตีสมาธิเธอจนแตกกระเจิงไปหมด ทั้งๆที่เธอว่าแรงๆไปหลายครั้งแท้ๆ กลับยังไม่ยอมถอย หนำซ้ำ ! ยังกระหน่ำโทรมาบ่อยขึ้นบ่อยขึ้นจนน่ากลัว

     

    ไม่รู้จะว่างอะไรทั้งวัน ... เช้าก็โทร สายก็โทร บ่ายก็โทร เย็นก็โทร แม้กระทั่งก่อนนอนยังโทร !

    สงสัยมีอาชีพเสริมเป็นพนักงานส่งเสริมการขายของกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม

     

    "ในคีย์ซี  ตัวโน้ตที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้น..."

     

    เอ๊ออ ! เอาเข้าไป กะให้งงตายกันเลยใช่ไหมว้ะเนี่ย โว้ยย !!!!!!!!

     

     

     

     

    ..

    .

     

     

     

    "ปู้โถ่ ... พี่นท เดี๋ยวแอปไปหาซะเลยนี่ !"

    แอปเปิ้ลบู้ปาก พร้อมบ่นใส่เจ้าสมาร์ทโฟนตรงหน้าอย่างนึกน้อยใจเล็กๆ ใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูชนิดที่หากมองผ่านเฟสไทม์คงกระอัก ขยันทำให้ตัวเองมองไม่หยุดไม่หย่อน ... ก่อนที่เจ้าของเครื่องจะหย่อนมันลงกระเป๋าสะพายราคาเฉียดครึ่งหมื่นอย่างเบื่อ ๆ หมดแล้ววิชาเรียนวันนี้ ... พี่นทก็ไม่ว่าง ไม่สนุกเลยแฮะ

     

    แม้นักศึกษาปีหนึ่งเช่นเธอ จะมีกิจกรรมให้ต้องทำเป็นปกติ ... แต่แอปเปิ้ลก็ละเลยมันจนเป็นปกติ นับแต่วันที่เธอกล้าบอกชอบพี่นทไปดื้อๆแบบนั้น ก็ไม่มีอะไรที่ต้องหวั่นกันอีกต่อไป ในคืนนั้นเธอบอกจะโทรหา เธอก็กล้าโทร ! และเธอก็ยังทำสถิติได้ดีเกินคาด ... พี่นททนคุยกับเธอแบบเบื่อๆได้เฉียดชั่วโมง และเธอนับว่านั่นคือการเริ่มต้นที่ ... ดีทีเดียว

     

    นับจากวันนั้น แอปเปิ้ลก็ขยันลิขิตความบังเอิญให้ได้พบกันประปราย ... โดยมีสายสืบราชการลับอย่างเพื่อนมุก คอยส่งข่าวทุกครั้งที่มีโอกาส จนมันโอดเรื่องสายตาพิฆาตของพี่พราวไปหลายรอบ ... แต่นั่นใช่ปัญหาของเธอที่ไหน ? เรื่องของมุก ให้มันไปจัดการเองแล้วกัน ... หงุดหงิดงี่เง่าต่อกันบ้างมันคือการบริหารความสัมพันธ์ แก้ตัวเอาเองแล้วกันนะ เพื่อนรัก อิอิ

     

     

     

     

    แอปเปิ้ลทิ้งก้นลงนั่งที่เก้าอี้ไม้เก่าๆหน้าตึกปฏิบัติการนาฏศิลป์ของคณะตัวเอง ... นึกเหงาขึ้นมานิดๆเหมือนกัน เหงาจนต้องหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาเพื่อโทรหาใครสักคน

     

    "ฮัลโหล ! ไอ้มุก จากประสานมิตรไปตลิ่งชัน นั่งรถเมล์สายไรว้ะ !!?"

     

     

     

     

     

     

    "แกโอเคขึ้นหรือยังว้ะนท ?"

     

    "พี่หาคนติวทฤษฎีให้ใหม่เอาป่ะ ?"

     

    "เจ๊ไปคุยกับมันให้แล้วน้านท เดี๋ยวมันก็มาคุยกับนทเองแหล่ะ"

     

    "ปู่เชื่อ ... ว่ามันต้องมาง้อนทนะ"

     

     

     

     

    "อย่าเงียบซี่พี่นท ... ช่วยแอปคิดเรื่องจะคุยกันหน่อย แบบนี้มันเหงาน้าาา"

     

     

     

     

    "นท ตื่น !"

     

    เนื้อตัวนุ่มนิ่มโคลงไปมา ทั้งที่ฟุบอยู่บนโต๊ะไม้อัดตัวหน้าสุดของห้องบรรยาย ... สัมผัสนั้นปลุกนทให้หลุดจากห้วงแห่งความฝันได้ง่ายๆ และสาบานได้ ทันทีที่ตื่น นทสะดุ้งสุดตัว !

     

    ตาเรียวเล็กพยายามอย่ายิ่งที่จะมองให้ชัดตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดตา นทหันรีหันขวางไปรอบๆห้องด้วยความรู้สึกที่คลับคล้ายคลับคลากับความระทึกใจ เพราะเธอหลับ ! เธอหลับลึกและหลับเป็นตายในการบรรยายวิชาทฤษฎีดนตรี ! วิชาที่สามารถฆ่าเธอให้ตายได้ง่ายๆเลย

     

    และทันทีที่นทมองเพ่งไปตรงหน้า ภาพที่เห็นก็ทำเอานทแทบร้องไห้...

     

    ศาสตราจารย์หญิงวัยกลางคน ท่านทั้งสวยทั้งสง่า น่าเกรงขามและน่าขยาด เพ่งมองลอดแว่นสายตามาที่นทอย่างมาดหมาย ... นทจำได้ว่าภาพที่เธอแพนไปรอบห้องคือโต๊ะตัวยาวที่ว่างเปล่า แต่ทำไม ? ทำไมอาจารย์ถึงยังยืนอยู่ในห้องนี้ได้

     

    ก่อนจะมีเสียงหนึ่งช่วยคลายความสงสัยด้วยน้ำเสียงกึ่งขัน

    "จารย์บอกรอให้นทตื่นก่อน แล้วท่านค่อยไป ... ท่านให้เกียรติอยู่เป็นนทน่ะ"

     

    เท่านั้นแหล่ะ ! หัวใจนท พนายางกูร ก็ร่วงไปแทบถึงตาตุ่ม ปากกาไฮไลท์กี่สีต่อกี่สี สตาบิโลกี่เล่มต่อกี่เล่ม นทยัดลงกระเป๋าสะพายแบบไม่คิดชีวิต สัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบที่ริ้วไปตามผิวหนังดังวูบ เหมือนเนื้อตัวจะบางลงไปในทุกวินาที และถ้าเธอไม่รีบออกจากห้องไปตอนนี้ คงไม่แคล้วโดนสายตาคมคมนั้นเชือดเฉือนจนเหลือเพียงกระดูก !

     

     

    ก่อนที่มือนุ่มเนียนของใครบางคนจะหันมาเอื้อมคว้าแขนเธอออกจากห้องด้วยความเคยชิน...

    "เร็วเลยนท ผมหิวแบบสุดๆแล้วเนี๊ยะ..."

     

    สาบานได้ ทันทีที่มือของเขาสัมผัสเนื้อตัวเธอ นทก็ชาวาบไปทั้งกาย ... กล้ามเนื้อกระตุกจนกลายเป็นการสะบัดแขนตูมตามให้หลุดกระเด็นออกไปได้ง่ายดาย แววตาแข็งกร้าวของนทสานสบสายตาเขาอย่างไม่ใคร่จะพอใจนัก และในวินาทีต่อจากนั้น นทก็สั่งการให้สองขาเธอ พาตัวเองออกไปจากห้องบรรยายที่มีบรรยากาศคล้ายนรกนี่ให้ไวที่สุด !

     

     

     

    และแทบในทันทีที่ท้าวเธอโผล่พ้นบันไดขั้นสุดท้ายของตึกบรรยาย นทก็รีบหยิบไอพอดในกระเป๋า มายัดมันลงหูแล้วเปิดเพลงสนั่น จังหวะการสับขาที่เร็วอยู่แล้ว ยิ่งเร่งขึ้นอีกด้วยไม่อยากให้ใครตามทัน ... หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ มันโครมครามยิ่งกว่าเพลงที่ดังอยู่ในตอนนี้เสียอีก

     

    นทเคยนึก ... เคยนึกว่าตัวเองสามารถลบเลือนความทรงจำที่มีต่อตูมตามได้ใกล้เคียงจะหมดแล้ว แต่พอมาเจอวันนี้ นทถึงได้รู้กับตัวเองว่าเธอคิดผิด เธอยังทุกเหตุการณ์ระหว่างเราได้อยู่เลย...

    เพียงแต่มันไม่เจ็บ ... ไม่ปวดแล้ว ก็เท่านั้นเอง

     

     

    ลุกจากที่นั่ง นทพาตัวเองไปนั่ง ... นั่งลงที่โต๊ะไม้เย็นๆตัวที่เธอนั่งบ่อยๆ ยืนแขนลงเป็นแนวเดียวกับโต๊ะ เอนหัวลงเป็นระนาบเดียวกันอย่างคนห่อเหี่ยวหัวใจเต็มที

     

    เพราะไม่อยากให้เธอนั้นเข้าใจผิด

    เพราะไม่อยากให้เค้าได้รู้ ความรู้สึกที่อยู่ข้างใน

    และความหลังที่ผ่านพ้นไป มันเป็นเช่นไร

     

    เสียงเพลงดังสาดเข้าที่หู จังหวะมีเดียมร็อคของมันบีบคั้นอารมณ์เธออย่างน่าประหลาด...

     

     

     

     

    "โหยพี่นทมานั่งฟุบอยู่นี่เอง รู้ป้ะ ! กว่าแอปจะหาพี่นทเจอนี่แอปแทบพลิกม. เลยอ่ะ ! ดีนะที่รู้ว่าตึกบรรยายอยู่นี่ ไม่งั้นแอปคงเดินตาย..."

     

    เชื่อเถอะ ! ว่าทันทีที่มีน้ำหนักตัวของใครบางคนทิ้งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม พร้อมกับน้ำเสียงปนหอบนิดๆ ดังผ่านกระแสเสียงหนักแน่นของซาวน์ดนตรีเข้ามา หัวใจนทก็แทบวาย... ภาพที่เห็นลางๆไม่ชัดเจน แต่ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นคนที่ไม่น่าเป็นไปได้ จนนทต้องชันตัวขึ้นเพื่อมองให้เห็นเป็นตัวเป็นตนชัดๆ

     

    "เปิดเพลงดังอ่ะ ... แอปได้ยินเสียงตึบ ตึบ โป๊ะเลย"

    คราวนี้จัดเต็มทั้งภาพและเสียง ยัยเด็กหน้าขาวตรงหน้านี้เป็นผลไม้ประหลาดแน่นอนไม่ต้องสงสัย ! แอปเปิ้ลยิ้มพูดกับนทอย่างดีใจ ... มือไม้ของเธอทำท่าประกอบเสียงบีท ตึบตึบโป๊ะ ได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดูที่สุดในโลก

     

    นทเห็นความน่ารักโคตรๆนั่นกระแทกเต็มสองตา แต่เธอก็ไม่รู้และโคตรอยากจะรู้ว่าแอปเปิ้ลพาตัวเองกับชุดนักศึกษาต่างสถาบันนั่นเข้ามาได้ยังไง ? รู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่ไหน ? หรือมหาวิทยาลัยมันแคบเท่ารูหนู !!?

     

    ความสงสัยบวกความประหลาดใจบวกกันคูณสองจนนทต้องดึงหูฟังออกจากหู ... เธอม้วนหูฟังเก็บลงกระเป๋าทันทีเมื่อรู้แน่ว่าคงไม่ได้ใช้มันอีกต่อไป คิ้วข้างนึงดึงขึ้น อีกข้างหนึ่งลู่ลง พร้อมกับแววตาดุดุและน้ำเสียงที่วางเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ไถ่ถามอีกคนอย่างต้องการคำตอบถึงที่สุด

     

    "เธอมาได้ยังไง  ?"





     
    (c) พี่เดย์ :')

    แอปแมน แอปทุ่มเทไปป้ะ !
    ช่างมันเถาะ มันเป็นฟิค 5555555.

    เดี๋ยวตอนหน้าจะหยิบประโยคฟินมาใส่ในฟิค !!!!!!!!
    ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
    "แอปเปิ้ล กินข้าวมั๊ย ?"

    จุ้บๆ

    ฝันดีค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×