ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TS7] โปรดติดตามตอนต่อไป... #noteapp'

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 4 จนดาวหมดฟ้า จนเธอง่วงนอน

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 55


      

     

     

    "ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะแอปเปิ้ล"

     

    เสียงหวานใส พร้อมรอยยิ้มกว้างตามแบบฉบับของนท ดังขึ้นอย่างเป็นมิตร มือเรียวยื่นไปด้านหน้าหมายจะเชคแฮนด์ตามธรรมเนียมที่คาดว่าอีกคนคงถนัด สถานการณ์ที่เกิดขึ้นดำเนินไปได้ด้วยดี ... และมันคงจะดีกว่านี้ ถ้าวัตถุตรงหน้า จะเปลี่ยนเป็นคนคนนั้นจริงๆ ขึ้นมา

     

    แย่หน่อยที่ไม่ใช่...

     

    เธอยืนอยู่หน้ากระจกตัวยาว ซักซ้อมคำทักทายธรรมดาซ้ำไปซ้ำมา ... ที่แค่จินตนาการว่ามีเด็กน้อยแก้มป่องมายืนฟังตรงหน้าเธอก็แทบพูดไม่ออก ... เธออายเกินกว่าจะพูดจาภาษาปกติกับ 'แอปเปิ้ล' ได้ หน้าแดงตั้งแต่แว่บแรกที่รู้ความจริงด้วยซ้ำ

     

    ใครจะไปเชื่อ ... ว่า 'แอปเปิ้ล - อิษฏ์อาณิก อินทรสูต' ดาราสาวสวยที่คนไม่สนใจโลกอย่างเธอยังเคยได้ยินชื่อ จะไปนั่งหน้ามอมแมมอยู่กลางทุ่งหญ้านาดอนเช่นนั้น

    และใครจะไปเชื่อ ... ว่า 'แอปเปิ้ล - อิษฏ์อาณิก อินทรสูต' ลูกสาวคนเดียวของเพื่อนสนิทของเธอ คนที่เธอเคยเห็นหน้าแค่รูปใหญ่โตเท่าฝาบ้าน ตั้งตระหง่านอยู่ในบ้านอุ่นท้ายฟาร์ม จะโผล่พรวดพราดมาจับจองที่ของเธอตรงนั้นจริงๆ

     

     

    ผิดจากที่เธอคาดการณ์ไปหมด ... ลูกสาวของคุณเบิร์ทอายุ21ปีอย่างเขาเคยบอก ไม่ใช่แค่15-16อย่างที่เธอคิดเอาเองในชั่วแว่บแรกที่เห็นหน้า แล้วเธอ... เธอที่อายุแค่25และมันไม่ได้ต่างจากกันสักเท่าไร ! มันน่าอายไหม ที่ยังส่งเสียงเรียกอีกคนว่าหนูน้อยๆ แทบทุกคำ...

     

     

    "... เฮ้ออ"

     

     

    ตั้งแต่ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าใครเป็นใคร ... แม่หนูน้อยหมวกแดงของเธอ ก็เหมือนจะตกตะลึงแล้วก็ถอยห่างกันไปโดยปริยาย ร่างสูงโปร่งแบบเด็กสาวโตเต็มวัยเบิกตากว้างแล้ววิ่งตื๋อหนีเธอเข้าบ้านอย่างน่าตกใจ ...

     

    ไม่คิดหรือไง ว่าเธอเองก็ตกใจเหมือนกัน...

    ตกใจจนต้องเก็บเอาคำทักทายธรรมดาๆมาซักซ้อมคนเดียวในห้องน้ำแบบนี้ !

     

     

    เฮ้ออ ... อยากจะบ้าตาย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    "โว้ยยยยย !!!"

     

    ทำไมภาษาไทยมันยากนัก !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    แอปเปิ้ลแทบตะกุยพอคเก็ตบุคเล่มเล็กกะทัดรัดให้ขาดคามือ ศีรษะเล็กๆสะบัดไปมาจนผมยาวสลวยรุ่ยร่ายยุ่งเหยิงไปหมด ... เธออยากจะบ้าตาย กับไอ้คำที่เธออ่านๆกี่ครั้งวนไปมาหน้าเจ้าของตัวหนังสือพวกนี้ก็จะลอยมากระทบนัยน์ตาเธอจนได้ ! อยากคลั่ง ... อยากชักดิ้นชักงอถ้ามันจะทำให้รอยยิ้มหวานเฉียบนั้นหายไป ... หัวใจเธอเต้นตุบตึบจนป่านนี้ความดันคงทะลุ200 ! ไม่จริงอ่ะ ไม่อ่ะ !!!!!!!

     

    พี่สาวยิ้มสวยที่เธอนั่งคุยด้วยตั้งนานสองนานเป็น .. นท .. จริงๆอ่ะ !

     

     

     

     

     

    แค่ความคิดก็น่ารักมากแล้ว ... ตัวจริงยิ่งโคตรน่ารักเป็นบ้าเลย โอ๊ยยยยยยยย !

     

     

     

     

    นิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดง หรือ Little red ridding hood ที่เธอรู้จัก ถูกเปิดคาหน้าเว็บเสิร์ชเอ็นจิ้นคู่ดังอย่างกูเกิ้ล ... แอปเปิ้ลอ่านซ้ำไปซ้ำมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยายามพินิจพิเคราะห์ถึงส่วนที่อีกคนว่าเธอเคยตัวละครเอกของเรื่องนี้ แต่ทำยังไง มองยังไง เธอก็คิดไปออกเลยให้ตาย

     

    มันมีแต่รอยยิ้ม ... ของพี่สาวยิ้มสวยคนนั้น ... ของนักคิดชื่อดังคนนั้น ... ของ นท คนนั้น ... ลอยมากระทบความคิดเธอให้แทบดับสลาย

     

     

     

     

    ให้ตาย ... เธอไม่เคยรู้สึกอะไรกับใครมากมายแบบนี้มาก่อนเลย ?

     

     

     

     

     

     

    แอปเปิ้ลรู้ตัว ตอนนี้ให้ตายยังไง ... เธอก็อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง หรือจะให้ข่มตายังไง เธอก็คงหลับไม่ลงจนได้ !

     

    ร่างสูงโปร่งในชุดนอนแบบเด็กๆลายการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดัง ลุกพรวดพราดจากเตียงนอนหลังโตโดยไม่ลืมที่จะหยิบพอคเก็ตบุ๊คเล่มเล็กจากปลายปากกาของนักคิดคนโปรดของเธอไปด้วย ... บางทีอากาศดีดีในฟาร์มตอนกลางคืนอาจช่วยได้ หรือถ้ามันช่วยไม่ได้จริงๆ เธอจะเดินรอบฟาร์มจนเช้า ! อย่างน้อยมันต้องเพลียจนหลับบ้างสิน่า

     

    แววตาวาววับแสนซนเหลียวซ้ายแลขวา มองจนแน่ใจว่าจะไม่มีใครโผล่พรวดพราดออกมาดุเธอจริงๆ ... ดาราสาวชื่อดังก็รีบสอดเท้าเข้าบู๊ทคู่โตแล้วกระโดดลงพื้นหญ้านุ่มๆ เป็นการเปิดก้าวแรกสู่โลกสวยงามในยามค่ำมืดดึกดื่นอย่างตื่นตาตื่นใจ...

     

    อากาศดีจังเล้ยยยยยยยยยย ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    "พี่แกรนด์... นทนอนไม่หลับ"

     

    คืนนี้มันประหลาด ... ประหลาดมาก อย่างน้อยมันก็ประหลาดในความรู้สึกเธอ

     

    เด็กตัวน้อยของพี่แกรนด์ ... เด็กที่เคยเอาแต่ออดอ้อนจะซุกไซร้ลงในอ้อมกอดอุ่นๆตลอดเวลา ค่ำคืนนี้กลับกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาราวๆพันครั้ง เดี๋ยวก็แตะตรงนู้นสะกิดตรงนี้จนคนง่วงนอนจนตาแทบจะปิดหลับไม่ลง คนที่ง่วงนอนแทบตายทำได้แค่กระชับแขนและตบเอวอีกคนเบาๆเป็นการกล่อมให้หลับไหล ... เพราะเธอก็ไม่รู้ เดาไม่ออก ว่าเด็กน้อยคนนี้จะต้องการอะไร

     

    เพราะอะไรอะไรที่ให้ได้ ... เธอก็ให้ไปจนหมดแล้ว

     

     

    "นทนอนไม่หลับจริงๆ ตื่นก่อน..."

     

    เด็กน้อยขี้งอแงรบเร้าเอาแต่ใจกับคนที่โอบกอดเธออย่างน่าหงุดหงิด ... แต่คนที่หงุดหงิดกลับไม่ใช่คนโดนรบกวน แต่กลายเป็นนทแทน ... เธอเขย่าเนื้อตัวที่นุ่มเนียนเต็มไม้เต็มมือของพี่แกรนด์จนกลัวว่ามันจะช้ำคามือไปหมด อีกคนก็ยังคงทำแค่โอบเธอแน่นๆแล้วหลับตานอนอยู่ดี !

     

    ไม่สนใจกันเลยสักนิด !!!

     

     

     

    "นท... จะไปไหน"

     

     

     

     

     

    กว่าที่พี่แกรนด์จะงัวเงียถามเธอมันก็ช้าเกินไป ... เธอพลิกตัวออกจากอ้อมกอดนั่นสักห้านาทีเห็นจะได้ ถึงเพิ่งจะตื่นขึ้นมามองเธอ ! เด็กน้อยของพี่แกรนด์เมินหน้าไปทาง มือก็วุ่นวายอยู่กับการติดกระดุมเสื้อที่เพิ่งคว้าขึ้นมาใส่ ปากเล็กแบะออกอย่างแสนงอน ... ตอบเสียงกระแทกกระทั้นราวกับว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ ทั้งที่จริงมันก็แค่เรื่องนิดเดียว

     

    "เดินเล่น ! นทนอนไม่หลับ ... พี่แกรนด์นอนเถอะ ฝันดีค่ะ !"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    นทเดินเรื่อยเปื่อยออกจากส่วนของบ้านพักที่เงียบเชียบอย่างเบื่อๆ ... มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอตาสว่างจนหลับไม่ลง ความคิดในหัวมันตื่นๆและกระตือรือล้น ... อาการแบบนี้ที่เกิดทุกครั้ง เมื่อเธอมีความคิด หรือค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ ... สมองหลากไหลเวียนวนด้วยหมื่นล้านคำที่จับต้องไม่ได้ แต่อาจระบายได้หากเธอมีปากกาและดินสอสักแท่งนึง

     

    เพียงแต่มันต้องไม่ใช่เวลานี้ ... เวลาที่เธออยากจะหยุดทุกสิ่งทิ้งทุกอย่าง เพื่อเริ่มต้นชีวิตสงบๆที่นี่...

    ที่ที่เคยสวยงามและเงียบงันเหลือเกินสำหรับเธอ แต่จากวันนี้ไป มันคงไม่ใช่

     

     

     

    "หนูน้อย..."

     

    ความเคยชินพานทเดินเอื่อยมาจนถึงที่ประจำ ... แล้วภาพเหตุการณ์เมื่อบ่ายก็ย้อนฉายซ้ำเหมือนเดจาวู... ในยามราตรีที่แสนน่าชื่นใจ เด็กผู้หญิงคนเดิมในอิริยาบถและรูปพรรณใหม่ นั่งกอดเข่ามองท้องฟ้าสีดำด้วยสายตาเหมือนเมื่อบ่ายไม่มีผิดเพี้ยน ต่างเพียงอารมร์และกลิ่นอายรอบตัวที่มันไม่ได้แปลความหมายได้เพียงไม่สบายใจคำเดียว ... สิ่งที่หนูน้อยกำลังเป็นบอกเธอได้มากกว่านั้น

     

    และมันทำให้นท ยิ้มออกมาจางๆอย่างนึกดีใจบอกไม่ถูก

     

    เสียงสดใสเรียกคำน่ารักนั่นด้วยเคยชิน ... และมันทำให้คนโดนเรียกหนูน้อยคนนั้น หันหน้าบึ้งมาทันตา

     

     

    "ทำไมเรียกแอปแบบนั้นล่ะคะ..."

     

    เสียงง้องแง้งเหมือนลูกแมวน้อยๆ ดังขึ้นพร้อมหน้าตาใสใสที่ยุ่งขึ้นมาทันควัน ... พาให้คนอารมณ์ไม่ปกติ อารมณ์ดีขึ้นมาเป็นกอง ... นทอมยิ้มจนแก้มตุ่ย สองขาลากพาเธอไปนั่งที่เดิม ที่ไม่ใกล้ไม่ไกล 'ภาพจำลองหนูน้อยหมวกแดง' ของเธอ ... สายตาประสานสายเพียงชั่วครู่ นทกอดเข่าแล้วเหม่อมองไปบนท้องฟ้าไกลๆ ... ด้วยรอยยิ้มที่ประดับประดาบนใบหน้า ไม่ยอมจางหาย

     

    อากาศดีมาก ... จนนทต้องสูดลมหายใจเข้าปอด ตักตวงอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มเฮือกอย่างคนขี้งกคนนึง

     

     

    "แอปโตแล้วนะ..."

     

     

    เสียงแผ่วเบาดังทำลายความเงียบขึ้นมา ... แสดงความดื้อรั้นแค่สั้นๆ แต่มันก็ไม่ได้จริงจังนัก ให้คนโดนท้วงได้อมยิ้มน้อยๆขึ้นมาอย่างชอบอกชอบใจอีกครั้ง

     

     

     

    ก่อนที่จะปล่อยให้ความเงียบงัน เสียงธรรมชาติ และลมฉ่ำเย็น ทำหน้าที่ของมันต่อไป...

     

     

    พอได้มาเจอกัน ... มันก็ไม่ได้เขินไม่ได้อายอะไรอย่างที่คิด

    กลับเป็นความสุข ความสงบ ความคุ้นชิน ... เสียมากกว่า

     

    คุ้นชินทั้งที่ยังรู้จักกันไม่ทันครบสิบสองชั่วโมง

     

     

     

     

     

    "ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะ แอปเปิ้ล..."

     

     

    มือเรียวของพี่สาวยิ้มสวย ... ยื่นมาให้เธอพร้อมกับคำทักทายอย่างแสนจะเป็นทางการ บรรยากาศ สายลมและแสงดาวกำลังบิลท์อารมณ์ของคนสองคนให้ล่องลอยไปเรื่อย จนแอปเปิ้ลแทบจะอิจฉาใครก็ตามที่จะได้มีเวลาอยู่ที่นี่นานเท่าไรก็ได้ ใครก็ตามที่ไม่ใช่เธอ เธอที่เป็นถึงเจ้าของ แต่มีสิทธิแค่มองและซึมซับไม่กี่นาทีในหนึ่งปี

     

     

     

    รอยยิ้มของพี่นท พาให้เธอหลุดยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ... พอใจกับคำทักทายที่ออกแนวจะประชดประชันกันนิดๆแบบนั้น พอใจกับรอยยิ้มหวานๆที่แสนน่าประทับใจแบบนั้น

     

    รอยยิ้มของนักคิดคนนี้ ... กำลังขโมยความคิดเธอไป ทำให้มันมีแต่เรื่องของตัวเองลอยวนอยู่ไปหมด ...

     

    เธอตลกอารมณ์ของตัวเอง ตลกความคิดของตัวเองที่เผลอเพ้อไปว่ามือน้อยนั้นจะนุ่มเนียนขนาดไหน... อยากสัมผัสมือนั้นใจจะขาด แต่ก็คัดค้านตัวเองในใจ ... ไม่อยากจะยื่นมือไปเชคแฮนด์เลยให้ตาย...

     

     

    "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ... พี่นท"

    แต่เธอก็ทำไปแล้ว ยื่นมือไปให้อีกคนสัมผัสเบาๆ พร้อมกับที่พี่นทยกมันโยกไปมาอย่างจงใจจะแกล้งกันให้ขุ่นใจ ...

     

     

    ชาวาบอย่างที่คิดไว้...

     

     

    แต่ใจเธอไม่ได้ขุ่น ... กระแสไฟฟ้าอ่อนแล่นปรื๊ดจากฝ่ามือลามไปถึงหัวใจ มันช็อตเบาๆแต่เข้าลึกจนซาบซ่านไปทั้งร่างกาย...

     

     

     

     

     

     

    เข้าใจแล้วว่าทำไม ใครต่อใครถึงได้อยากจับมือดาราศิลปินที่ตัวเอง 'ปลาบปลื้ม' กันนัก...

     

     

     

     

    มันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง...

     

     

     

     

     

    “พี่ชื่อนท พนายางกูร อายุยี่สิบห้าหย่อนๆ เป็นคนเขียนหนังสือ  เอ่อะ... อันนี้แอปคงรู้แล้ว

     

    รอยยิ้มของเธอเลื่อนลอยไปตามเครื่องหน้าเหมาะเจาะนั้น ก่อนที่วัตถุบางอย่างในมืออีกคนที่เห็นได้ชัดเจน จะพาอารมณ์นักคิดสะดุด นทหรี่ตามองมือข้างนึงของแอปเปิ้ลที่จับหนังสือจากปลายปากกาเธอเอาไว้เสียจนแน่น ... พาให้ประโยคแนะนำตัวแบบกวนๆอย่างละเอียดที่กำลังลื่นไหล ต้องเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางหันผลักคำยาวๆที่เป็นไปในเชิงจะแซวกันให้คนฟังได้ยิ้มเขิน มือสองคนยังคงจับกันเบาๆ และเขย่าแรงๆจนแทบหลุดเหมือนเดิม ... แถมมันจะแรงขึ้นทุกที เมื่ออีกคน เริ่มจะแนะนำตัวแบบกวนประสาทคืนกลับมาบ้าง ... ให้ได้รู้จักกันพอสังเขป

     

     

    “แอปเปิ้ล อิษฏ์อาณิก อินทรสูต อายุย่างยี่สิบเอ็ดหยกๆ เป็นคนขายฝีมือการแสดง เชื้อชาติไทยแท้ค่ะ” 

     

    กวนอารมณ์...

     

    นทแอบค่อนแคะคำยาวๆนั่นอยู่ในใจ รอยยิ้มมุมปากกระตุกขึ้นวาบอย่างชอบพอในความคิดความอ่านและภาษาของเด็กคนนี้ ... แต่ละคำที่หลุดจากปากอย่างคล่องแคล่ว มันทำให้นทรู้สึกเอ็นดูความเป็นเธอคนนี้อย่างบอกไม่ถูก

     

    เธอก้มลงมองมือที่ยังคงเกี่ยวกันเอาไว้หลวมๆ มองเนิ่นนาน มองด้วยความสงสัย ทั้งที่ไม่ได้จับกันแน่นหนา ทั้งที่เขย่ากันแรงๆจนมันควรหลุดได้แล้ว แต่มันก็ยังติดอยู่แบบนั้น ราวกับทั้งสองมือมีอะไรที่เชื่อมกันอยู่ไม่ยอมปล่อยกันไป

     

    อีกแล้ว เรื่องไร้สาระกำลังทำนทยิ้มไม่หุบอีกแล้ว

     

     

     

     

     

    “ทำไมยังไม่นอนล่ะ

     

    คำถามของนท ถูกส่งออกไปอย่างผู้ใหญ่คนหนึ่ง มันข้นไปด้วยความเอ็นดูและห่วงใยในคนที่เธอมองยังไงก็ยังเป็นเด็กน้อย เด็กน้อยที่มีอาชีพนักแสดง ? นักแสดงเจ้าบทบาท นทคิดเอาเองในใจแต่ก็ไม่รู้ว่าฝีมืออีกคนน่ะแค่ไหน

     

    ทุกคนรู้ดี ทีวีเป็นออปชั่นสุดท้ายในชีวิต เธอไม่คิดเอาเวลาไปทิ้งอยู่หน้าจอสี่เหลี่ยมอยู่แล้ว

     

     

    “แล้ว พี่นทล่ะคะ ?

     

     

    สุ้มเสียงที่นทคิดเอาเองว่าอีกคนไม่มั่นใจเลยที่จะเรียกเธอในแบบนั้น ดังถามย้อนขึ้นมาพร้อมกับมืออีกคนที่ค่อยเลื่อนออกไปจากเธออย่างเชื่องช้า ความอบอุ่นวูบวาบได้ลอยหายไป นทรู้สึกได้ และเธอก็รู้สึกได้อีกว่าในสายตาอีกคน มันมีวี่แววบางอย่างว่าไม่ปกติเอาเสียเลย

     

    แล้วพี่นทล่ะคะ ?

    คำถามย้อนนั้น มันเป็นคำตอบของเธอหรอกหรือ

     

    “พี่ไม่ง่วง

     

     

     

     

     

     

    คำตอบสั้นๆสองพยางค์ ที่นทเลือกตอบไปตามความเป็นจริง เลือกไม่กล่าวถึง เรื่องของคนถามที่วิ่งหวิวๆอยู่ในหัวมานานเพียงไร

     

     

    เกือบๆนาทีถัดมา อีกคนที่เหม่อมองฟ้าไปไกลแสนไกล ก็ตอบเธอกลับมาเป็นคำสั้นๆ สี่พยางค์ ที่เติมคำในดูเยิ่นเย้อแต่ความหมายก็ไม่ได้ต่างกัน

     





    “แอปก็ไม่ง่วง..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



     

    “คืนนี้ดาวสวยเนอะ”

     

     

     

     

     

     

    รู้ไหมว่าเธอเป็นคนน่ารักดี มีใครมาด้วยหรือเปล่า ?

    ถ้าไม่มี... ก็อยากจะชวนเธอพูดคุยกันยาวๆ

     

     

     

     

    “อากาศก็ดีค่ะ

     

     

     

     

     

     

    บทสนทนาเรื่อยเปื่อย ดังขึ้นเป็นระลอก ทำลายความเงียบเป็นระยะๆ แล้วก็จบไป ไม่มีประเด็นอะไรที่สลักสำคัญพอจะหยิบมันขึ้นมาเป็นคำสำคัญ

     

    นทสูดลมหายใจเข้าปอดเป็นครั้งที่ล้านในคืนนี้ ความรู้สึกสงบ สบายใจ กำลังแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูสมอง

     

     

     

    เธอชอบที่นี่ ชอบที่นี่มาตั้งนานแล้ว

     

    ชอบเพราะที่นี่สงบ เงียบงัน และไม่มีใครมารบกวน

     

    มันทำให้เธอได้ใช้เวลากับตัวเองอย่างเต็มที่ พูดคุยกับความรู้สึก รับฟังเสียงหัวใจ และเดินหน้าเพื่อทำตามมันอย่างที่ไม่ต้องสับสนกับอะไร

     

     

    “อืม

     

    นทตอบรับอีกคนสั้นๆ.. และเดาเอาไว้ว่ามันคือคำจบประโยคที่จะเลื่อนลอยไปตามอากาศ แต่ก็ไม่ได้ไร้ค่าไร้ความหมาย

     

     

     

    ประโยคเบาๆที่ได้พูดอย่างที่คิด คิดอย่างที่อยาก มันกำลังทำให้เธอชอบ ชอบที่นี่มากยิ่งขึ้นไปอีก

    ชอบเพราะที่นี่มีใครบางคนเข้ามา รบกวน

     

     

     

     

    รบกวนเธอให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว

    รบกวนความเหงาของเธอให้มันเลิกทำงานไปโดยปริยาย

    รบกวนความเงียบของธรรมชาติ ด้วยเสียงอากาศผ่านจมูก ทุกครั้งที่หายใจ

     

    รบกวนการคุยกับตัวเองของเธอ การคุยกับหัวใจตัวเองของเธอ

     

     

     

    และเปลี่ยนมันทั้งหมด ให้กลายเป็นหัวใจ ที่ใช้ความเงียบ คุยกัน

     

     


     

    เพราะวันนี้บรรยากาศก็ดี๊ดี มีเสียงเพลงและแสงดาว

    ถ้าไม่รีบไป ก็อยู่คุยกันจนเช้า ... จนดาวหมดฟ้า จนเธอง่วงนอน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตีสาม ให้ตาย !

     

    แกรนด์พลิกตัวยืดแขนวาดพื้นที่ว่างข้างตัวเป็นครั้งที่ล้าน ด้วยความคาดหวังว่าที่ตรงนั้น จะมีร่างเล็กๆอันแสนอบอุ่นของใครมาจับจองและไล่อากาศเย็นที่เกาะเตียงให้ผ่อนคลาย แต่ตั้งแต่ห้าทุ่มจนบัดนี้ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยที่จะมาบรรเทาความหนาวให้หายไป

     

    เหงาและหนาว จนรู้สึก

     

    เธอไม่รู้เลยว่าเวลามันเดินผ่านไปนานเท่าไร

    จนเธอหันไปมองนาฬิกาโบราณที่ร้องดังเหง่งหง่างทุกชั่วโมงอยู่กลางห้อง จึงได้รู้

     

    “เฮ้อ..

     

    อีกคนหายไปนานกว่าสามชั่วโมง

    เกินเวลาปกติ ที่คนขี้เหงาจะเอาความงอแงของตัวเองไปทิ้ง ปกติ ครึ่งชั่วโฒงอีกคนก็แทบจะกลับมานอนออดอ้อนเธอไม่ทัน

     

    แต่นี่มันนานกว่าเดิมไปหลายชั่วโมง

     

    เธอถอนหายใจเป็นสิบครั้ง เพราะไม่รู้ว่าอีกคนจะคิดยังไงและเป็นอะไร

     

     

     

     

    แกรนด์ที่แปลกใจจนตาแทบสว่าง พลิกตัวจากตะแคงกอดหมอนข้างมาเป็นนอนหงายกอดหน้าผากอย่างรู้สึกกังวลเล็กๆ นททำเธอห่วงอีกแล้ว แม้จะรู้ว่าในฟาร์มแห่งนี้ไม่เคยมีอันตรายอะไร

     

    หากจะให้เธอลุกไปตาม แกรนด์ก็รู้ว่านั่นเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนตัวจนเกินไป

     

     

     

     

    เธอไม่เคยชอบให้นทวุ่นวายเมื่อเธอต้องการอยู่คนเดียว นทไม่เคยชอบให้เธอเป็นห่วงเมื่อนทต้องการใช้เวลาคุยกับตัวเองเงียบๆ

     

    หนึ่งนิสัยที่เธอและนทใช้เวลาเพื่อเรียนรู้กัน จากวันแรกจนวันนี้

     

     

     

     

    นั่นทำให้แกรนด์คิด ว่าบางที

    เธออาจทำอะไรไม่ได้ นอกจากหลับตา แล้วกล่อมตัวเองให้หลับไปในห้วงนิทรา ที่เงียบเหงา เพียงลำพังต่อไป








    ลูกไม้ชอบฟิคเรื่องนี้นะ เพราะมันไม่หวือหวา:)
    มันเรียบร้อยและค่อยเป็นค่อยไป ลูกไม้รักอารมณ์แบบนี้มาก

    เคยหรือเปล่าคะ ?
    รู้สึกคุ้นเคยกับใครที่ไม่เคยรู้จัก... อยากนั่งพัก อยากนั่งคุย และอยากฟัง
    อยากรู้ว่าเขาคิดอะไร ...

    หรือบางที ก็เข้าใจโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากอะไรกันสักคำ


    ถ้าเคย คุณจะเข้าใจที่ลูกไม้กำลังพูดถึงค่ะ
    รักtbcให้มากๆนะ เพราะลูกไม้รักเรื่องนี้มาก :)

    #โปรดติดตามตอนต่อไป

    ปล ฟังเพลงที่ลูกไม้แปะไว้หน้าแรกด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×