คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : UNCONDITIONAL LOVE - 6 -
“พี่ พี่ถึงบ้านแล้วนะแอป”
“ค่ะ อาบน้ำนอนได้แล้วนะพี่นทอ้ะ”
“อ่าฮ้ะ”
“ฝันดีเน้อะ
”
“ฝันดีค่ะ”
แอปเปิ้ลโยนโทรศัพท์ไว้บนเตียงนอน จับผ้าขนหนูด้วยมือข้างนึงแล้วขยี้เส้นผมที่เปียกชุ่มบนศีรษะ ใบหน้าสวยระบายยิ้มอย่างมีความสุข
เป็นอย่างที่เธอคิด พอได้ยินคำนั้นแล้วหัวใจพองฟู มีความสุขบอกไม่ถูกจริงๆ
ไดร์เป่าผมไฟฟ้าทำหน้าที่ของมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทันที่รอยยิ้มนั้นจะจางหาย เส้นผมที่เปียกก็เริ่มแห้งลง และกลายเป็นเพียงอากาศชื้นๆที่เกาะปลายผมไปแทน
แอปเปิ้ลยกมือข้างนึงที่เย็นเฉียบ มาลูบแก้มเนียนใสของตัวเองไปมา
พลางหลับตานึกถึงภาพเมื่อสักครู่อย่างมีความสุข
กว่าเธอจะได้ลงจากรถพี่นทก็จวนเจียนจะเที่ยงคืนเต็มที
ตีหนึ่งกว่าเข้าไปแล้ว แม้ถนนในกรุงเทพจะโล่ง แต่บ้านเธอกับบ้านพี่นท ก็ไกลคนละฝั่งเมือง
คนที่อยู่ไกลกันคนละฝั่งเมืองอย่างพี่นท โทรมารายงานด้วยน้ำเสียงเขินๆ ว่าเลี้ยวรถเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องห่วง
พร้อมลงท้ายด้วยคำว่า ‘ฝันดี’ หวานๆ
หัวใจพองฟูและอบอุ่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะรอยยิ้มของแอปเปิ้ลได้ชะงัดนัก สายโทรศัพท์ในยามวิกาลไม่ค่อยเกิดขึ้นกับเธอเท่าไหร่นัก แอปเปิ้ลละเรื่องน้ำเสียงเขินๆของพี่นทไว้ก่อน แล้วโยกตัวไปใกล้ตำแหน่งที่โยนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ เพื่อดูเบอร์โทรเข้า
พี่นท ?
เป็นพี่นทเองเหรอเนี่ย
ความฉงนปนความสุข เกิดขึ้นเงียบๆ แอปเปิ้ลระบายมันออกมาทางรอยยิ้มกว้าง เธอกดรับสาย ก่อนจะกรอกเสียงหวานลงในหูโทรศัพท์
“คะ พี่นท ? ว่าไงเอ่ย
”
“แอปจะนอนหรือยังน่ะ”
“ค่ะ จะนอนแล้วค่ะ ผมแห้งแล้ว”
แอปเปิ้ลตอบไปตามตรง หลังจากใช้หลังมือแตะๆปลายผม แล้วก็สรุปกับตัวเองว่าคงทนกับความชื้นนิดๆหน่อยๆนี่ได้ แผ่นหลังเอนราบลงบนเตียงหนานุ่ม ศีรษะได้รูปซบกับหมอนจนยวบไปตามแรง
“เห็นแอปเคยบอกพี่ว่าแอปชอบเวลามีคน
ร้องเพลง กล่อมนอน”
“ค่ะ แอปชอบ”
“เพลงหลับตาใช่ไหม ?”
“รู้ได้ไงเนี่ย
”
“แอปเขียนให้พี่ในเฟรนด์ชิปน่ะ จำไม่ได้เหรอ ?”
สิ่งที่ปลายสายบอกต่อกัน กำลังทำให้เธอยิ้มไม่หุบ สิ่งที่พี่นททำกำลังหลอมละลายหัวใจเธอลงไปช้าๆ พี่นทผู้เอาใจใส่ พี่นทผู้จดจำในทุกรายละเอียดของเธอได้แม่นยำ แม้แต่เธอเองที่เขียนมันลงไปในเฟรนด์ชิปกับมือ เธอยังจำไม่ได้
เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน ว่าเพลง ‘หลับตา’ ของบิ๊กบอยแบนด์ชื่อดัง ออกัสนั้น จะติดใจเธอจนถึงปัจจุบันนี้
ตั้งแต่เฟรนด์ชิปพี่นทก็
สองปี จวนจะสามปีแล้วสินะ
“จริงๆแล้วเป็นพี่แกรนด์น่ะค่ะ ที่ชอบร้องเพลงนี้กล่อมแอป
” อะไรในใจบางอย่าง สั่งให้แอปเปิ้ลบอกนทไปแบบนั้น เธอรู้ดีว่าสถานการณ์นี้ไม่ควรพูดถึงบุคคลที่สาม ที่รังแต่จะสร้างความขุ่นข้องหมองใจให้ด้วยกันทั้งคู่ แต่แอปเปิ้ลก็เลือกที่จะพูด และรอคอยคำพูดถัดมาจากเจ้าของเสียงลมหายใจแผ่วๆนั้นด้วยจังหวะหัวใจที่สุขสงบ
แอปเปิ้ลไม่รู้ว่าเพราะอะไร
แต่เพราะอะไรบางอย่างนั่นแหล่ะ อะไรบางอย่างที่ฟักตัวขึ้นช้าๆ อะไรบางอย่างที่กำลังแอบทำปฏิกิริยาเงียบๆกับเธอขณะนี้ มันกำลังค่อยๆลุกลามชะล้างสิ่งเก่าๆไปทั้งหัวใจ
“งั้น ฝันดีนะแอป
ฝันดี พี่ไม่กวนแล้ว”
“แต่คืนนี้พี่นทช่วยร้องเพลงนั้นกล่อมแอปได้ไหมคะ แอปมั่นใจว่าถ้าพี่นทร้องเพลงนี้ให้แอปฟัง แอปจะต้องหลับฝันดี”
เธอเรียกร้องเอาแต่ใจกับพี่นทอีกแล้ว
จบน้ำเสียงเงียบหงอยของพี่นทไม่ทันวินาทีดี แอปเปิ้ลก็สวนคำขอร้องหวานฉ่ำใส่นทอย่างไม่ได้เกรงกลัวอีกคนจะไหวสะท้าน ใช่ ! เธอไม่กลัว เพราะนั่นคือความต้องการของเธอ เธอต้องการสะเทือนจิตใจพี่นท ต้องการทำอยู่อย่างนั้นไปจนนานเท่านาน เธอไม่อยากให้คำพูดของพี่นทที่ว่า ‘รักเธอ’ ต้องเปลี่ยนไป
ใครจะว่าแอปเปิ้ลคนนี้เห็นแก่ตัวก็ช่าง
แม้เธอจะไม่ได้พูดอะไรที่แสดงชัดเจนถึงความรู้สึกในตอนนี้ก็ตาม
แต่ในเมื่อพี่นทยกหัวใจให้เธอ มันก็เป็นสิทธิของเธอที่จะยึดของล้ำค่านั้นไว้ตลอดไป ไม่ใช่หรือ ? ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร เธอก็ไม่มีวันคืน
ทั้งหัวใจ ทั้งร่างกาย ทั้งแขน ทั้งขา ทั้งแก้มแดงๆ ทั้งตาเรียว ทั้งจมูกรั้นๆ ทั้งรอยยิ้มหวานฉ่ำใจนั้น เป็นของเธอ ของเธอคนเดียวทั้งหมดนั่นล่ะ
เธอไม่ยอมรับหรอกว่าหลงรักรุ่นพี่ที่มีแต่หัวใจคนนี้เพียงไร ไม่ยอมสยบต่อความหวั่นไหวนั่นหรอก
เธอยอมรับแต่ว่าเธอมีความสุขเหลือเกินกับความรักบริสุทธิ์ที่พี่นทมอบให้
มีความสุขเหลือเกินเพียงได้ยิ้มและมอง
“พี่ไม่อยากจะทำอะไรแทนใครนะแอป
”
“ลองดูหน่อยเป็นไร คิดเสียว่าร้องคาราโอเกะก็ได้ หรือพี่นทจะร้องแล้วไม่ให้แอปหลับแอปก็จะทำ แอปแค่อยากฟังเสียงพี่นท
เสียงพี่นทในเพลงหลับตา”
“สิคะ
จะให้แอปรอไปถึงไหน ตีสองตีสามแอปยังถ่างตาบวมๆรอได้หรอกนะ”
ยัยตัวแสบ ทำไมเธอร้ายกาจอย่างนี้นะ !
แอปเปิ้ลเอ็ดตัวเองเบาๆ พี่นทไม่เต็มใจอย่างยิ่งที่จะทำ มันบ่งชัดมาทางน้ำเสียงแข็งๆนั่นแล้ว
แต่เธอก็ยังดันทุรังเอาคำรั้นๆ ไปดื้อดึงเอาแต่ใจอยู่ได้
แอปรู้มันไม่ดี
แต่แอปอยากได้ยินเสียงพี่นทนี่คะ
ตัวแสบจอมพยศงอแงเบาๆในใจ
“โอเค ก็ได้
แต่พี่ขออะไรแอปไว้อย่างได้ไหม ?”
พออีกฝ่ายตกลงตามที่ขอ แม่ตัวแสบวัยสิบเก้า ก็ตาลุกวาวอย่างดีอกดีใจ
“ได้ทุกอย่างเลยค่ะพี่นท จะขออะไรคะ ?”
“ขอให้เป็นพี่และพี่แกรนด์แค่นั้นที่ได้มีโอกาสร้องเพลงกล่อมแอปเปิ้ล พี่ไม่อยากต้องแพ้ใครอีกแล้ว พี่ผ่านวันที่ไม่มีแม้ความหวัง ผ่านความผิดหวังสมหวังมาจนถึงวันนี้ พี่ไม่อยากต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีก
”
“ความรักลมแล้ง
มันเหนื่อยน่ะแอป”
“พี่ขอได้ไหม ?”
ประโยคที่ถ่ายทอดด้วยน้ำเสียงผะแผ่วของพี่นท มันทำลายส่วนประกอบของหัวใจของแอปเปิ้ลไม่มีชิ้นดี
รอยยิ้มแบบเด็กเซี้ยวซนร่วงไประหว่างพลิกตัว น้ำเสียงของพี่นทบอกให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงกำลังร้าวรานอย่างบอกไม่ถูก
เด็กแสบไม่เคยรู้ว่าพี่นทต้องเจ็บหัวใจแค่ไหนที่ทำอย่างไรก็ไม่เคยได้หัวใจเธอ
ไม่เคยรู้สักนิดว่าแง่มุมความรักของพี่นทมันเร้นลึกไว้ซึ่งความเจ็บปวด
มันบริสุทธิ์ สว่างสดใจ กระจ่างหัวใจ แต่ลึกๆแล้วกลับหม่นหมอง ใจของคนที่รักเธอ
หม่นหมอง
“ได้สิคะ
ได้สิ”
แอปเปิ้ลรับปากมั่นคง
เธอจะอยากฟังเสียงใครอีกเล่า เพียงสองคนนี้ก็เพียงพอสำหรับเธอแล้วไม่ใช่หรือ ?
สองคน
มันมากมายเกินไปด้วยซ้ำ
ป่านนี้ไม่รู้พี่แกรนด์ไปอยู่ที่ไหน หลายชั่วขณะที่สมองมันนึกไปถึงแต่แอปเปิ้ลก็สะกดมันไว้ได้สนิท แต่ครั้งนี้ไม่เพียงชั่วขณะ มันลุกลามกินพื้นที่สมองเธอไปเรื่อย
บนเตียงนุ่มและหมอนนิ่มที่มีกลิ่นหอมแดดอุ่น ในยามราตรีที่เงียบสงัดไม่มีแม้เสียงลมพัด ไม่เคยมีใครที่จะทำสิ่งพิเศษนี้ให้แก่เธอ มีแต่พี่แกรนด์คนเดียวที่ได้รับสิทธินั้น ถ่ายทอดความอบอุ่นผ่านเสียงทุ้มหวานกล่อมเธอจนหลับใหล
ทั้งโกรธ เสียใจ
และน้อยใจ แต่ก็ยังนึกถึงอยู่ได้ , ไม่เข้าใจ
รู้ว่าโกรธ แต่ไม่รู้ว่าจะฝืนโกรธไปได้นานแค่ไหน กี่ครั้งที่พี่แกรนด์เบี้ยวนัดเธอจนต้องแข็งใจหลบหน้า แต่พอได้เห็นสภาพเหงื่อโทรมกาย ใบหน้าเหนื่อยล้าของอีกคน ไอ้ที่โกรธขึ้งก็พลัดเหือดไปง่ายดาย
กี่ทีที่โผเข้าไปหาร่างบอบบางนั่นในตอนเย็นหลังเลิกเรียน ทั้งๆที่ตอนเช้ายังหลบหน้ากันอยู่หยกๆ
หัวสมองตีกันวุ่นวาย แต่สาบานได้
แอปเปิ้ลตัวแสบไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยต้องว้าวุ่นที่จะต้องทำเมินพี่แกรนด์ ไม่เคยว้าวุ่นเพราะไม่เคยคิดเมินได้จริง ทำเพียงเพราะอยากได้เศษเสี้ยวเวลาเล็กๆน้อยๆ ทำเพียงเพื่อจะให้ทุกอย่างกลับไปอยู่ในวังวนเดินๆ ที่เดินเวียนเท่าไหร่ก็ไม่จบสิ้น
แต่คราวนี้ต่างออกไปสิ้นเชิง
แอปเปิ้ลคิดในสิ่งที่ไม่เคยคิด ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ยิ้มได้กับเรื่องง่ายๆที่ไร้เหตุผล
คิดจะเปิดใจให้ใครที่ไม่ใช่พี่แกรนด์ คิดจะยกมันให้ใครที่ไม่ใช่ผู้จัดการภาคคนเก่งที่ยืนเคียงข้างกันตลอดมา
กล้าคิด
ทั้งที่ตลอดชีวิต ไม่เคยคิด
“หลับตาลงนะ นะคนดี
ขอให้เวลานี้เธอหลับ และพักผ่อน กล่อมด้วยเพลงแห่งรัก ให้เธอนอน แค่เพียงก่อนที่ฟ้าจะสาง”
ก่อนเสียงนุ่มใสกระจ่างอารมณ์ จะดังขึ้นจากปลายสาย ช้าๆ แต่ชัดเจนจับใจ
ปลิดอารมณ์พร่าเลือนให้หลุดลอย หัวใจที่เต้นดังสงบลงไม่ต่างอะไรกับที่เคยเป็นมา ต่างเพียงแต่เสียงที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เสียงทุ้มหวานเหมือนทุกครั้ง
เพราะเพลง
หรือเพราะอะไรกันแน่ที่มีมนตร์เสน่ห์สะกดเธอให้หลับใหลง่ายดายเพียงนี้
“หลับตาลงนะ นะคนดี
ไม่มีอะไรที่ต้องห่วงแม้สักอย่าง สิ่งที่เคยแบกไว้ ให้เธอวาง ให้โลกผ่านดั่งเพียงฝันไป”
เสียงทุ้มหวานละมุนหูของใครบางคน ลอยซ้อนทับเข้ามาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ดวงตาซุกซนปิดลงสนิท พักผ่อนแล้วซึ่งทางกาย แต่ทางใจกลับยังคงมีบางอย่างค้างคา
มันหวานเหลือเกิน เสียงพี่นทที่ได้ฟัง
สดใส ละมุนละไม ขับกล่อมเธอให้ทิ้งความรู้สึกทั้งหมดไป แต่กลับไม่ยอมทิ้งเรื่องราวค้างคาสักที เสียงพี่นทยังคงเรื่อย ยังคงกล่อมเกลาราตรีเรื่อย หัวสมองเธอก็โลดแล่นล่องลอยไปเรื่อย
เสียงหวานทุ้ม นิ่งสงบอบอุ่น กับเสียงกังวานหวานใส พลิ้วไหวนุ่มนวล
เสียงไหนหนอ
ที่มีอิทธิพลต่อหัวใจนี้มากกว่ากัน
เสียงไหน ?
“หากเพียงเธอได้รู้ ว่าเธอนั้นสำคัญแค่ไหน หากเพียงเธอได้รู้ว่ามีคนรักเธอมากมาย หากเพียงเธอได้รู้ว่าเขาพร้อมยอมทำสิ่งใด เพื่อให้เธอ ได้พบกับความสุขใจ”
“เธอคงไม่ต้องดิ้นรนไม่ต้องกังวลอะไรให้วุ่นวาย
คงไม่ต้องเหนื่อยใจหาใครต่อใครช่วยทำให้ทุกข์คลาย เพียงแค่คนหนึ่งคนที่ยอมหมด จนแม้ลมสุดท้าย”
“แค่เพียงเธอได้รู้
”
“ยาวเหรอคะ”
มันเป็นคำถามยียวนโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นคำถามกวนอารมณ์ที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์ ไม่ได้ปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อเขย่าอารมณ์ใครจนขุ่น
แอปเปิ้ลเอียงคอมองคนที่นั่งทำหน้าตาสับสนอยู่ข้างๆอย่างเอ็นดู
เอ็นดูในความ
น่ารัก ที่อีกคนแสดงออกมา
“ถ้าจะฟังตั้งแต่เริ่ม ก็ยาวพอตัว” สิ้นคำ นทก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เธอจนมุมจนใจกับสายตาซุกซนนั่นเหลือเกิน แผ่นหลังที่เกร็งเขม็งคลายตัวลงพิงเบาะหนังนิ่มๆเต็มแรง สิ่งที่แอปเปิ้ลแสดงออกมา คำพูดที่แอปเปิ้ลจงใจยียวนกัน สายตาซุกซนค้นหาความในใจ มันทำให้เธอรู้สึกว่าแอปเปิ้ลดูไม่จริงจังอะไรกับมันเลย
แต่กับเธอ มันจริงจังนัก
“สรุปสั้นๆก็พอค่ะ แค่รู้บทสรุปในตอนนี้ก็คงจะพอ”
ส่วนเวลาต่อจากนี้จะยืดยาว บทสรุปของพี่นท คงจะตอบมันเอง
แอปเปิ้ลอุบเงียบประโยคจบไว้ในใจ เธออยากฟังคำนั้นจากปากพี่นทนั่นเป็นเรื่องจริงจัง แต่เรื่องที่จะแบไต๋บอกไปบ้างนั่นไม่เคยอยู่ในหัวแม้เพียงนิดเดียว
ดวงตาสุกสกาว ใสสว่าง จับจ้องที่นทรอบทสรุปสั้นๆนั่นแทบกลั้นหายใจ
หากแต่ฝั่งนทได้แต่ร้าวลึกในใจ คนเอาแต่ใจข้างเธอยังคงยียวนไม่เลิก
แต่เพียงนทสังเกตให้ลึกลงไป ลองใช้เวลาจ้องตาคู่งามนั่นนานเสียหน่อย ลองพินิจน้ำเสียงกึ่งก่อกวนนั่นด้วยใจเป็นกลางสักนิด เธอจะค้นพบความหวานเร้นลึกที่ซ่อนบังไว้มากมาย แต่ใครเล่าจะรู้
ในเมื่อความยียวนตามประสาเด็กป่วนนั่นบังความรู้สึกยิ่งใหญ่นั่นไว้เสียมิดชิด
มิดชิด และคงไม่อาจเปิดเผยหากไม่ได้ยินคำสำคัญที่ต้องการ
บทสรุปสั้นๆ
คำเดียว
“รัก
”
“สรุปสั้นๆ
ทุกอย่างเพราะรัก ทั้งหมดเพราะรัก ไม่มีอะไรมากมายไปกว่านี้ ชัดเจนและพอใจไหม แอปเปิ้ล ?”
“ไม่หวานเลยบอกรักแอป แถมขมด้วย ขมสุดสุด” สิ้นคำบอกรักที่แสนไม่น่าประทับใจของนท แอปเปิ้ลก็แหวขึ้นมาทันควัน แน่ล่ะ คำว่ารักในฝันของเธอมันหวานกว่านี้เหลือเกิน เมื่อมันออกมาจากปากของคนที่รักเธอทั้งหัวใจ มันทั้งหวานล้ำ มันทั้งสูงส่ง มันทั้งมีค่าและน่าทนุถนอม
แต่คำว่ารักห้วนๆของพี่นททลายคุณค่าของมันเสียเฉยๆ ห้วน
สั้น ได้ใจความอย่างที่ขอไว้ แต่เหอะ มันไม่ได้ใจคนเลย
ไม่ได้ใจคนรอฟัง
“มันจะไปหวานได้ขนาดไหนแอป ในเมื่อมันไม่ใช่คำว่ารักที่แอปหวังจะฟัง ถ้าแอปไม่รู้ พี่ก็จะบอกให้นะว่าคำนี้ คำเดียวกันนี่แหล่ะ ออกจากปากคนไหนก็คนนั้น มันเป็นคำศักดิ์สิทธิที่ต้องรู้สึกตรงกันทั้งสองฝ่ายถึงจะซาบซึ้ง ซึ่งมันไม่ใช่แบบนี้ ไม่ใช่เอาพี่มาทดแทนอะไรในใจแบบนี้ !”
ประชดประชันอย่างสุดจะทน หมดมาดพี่นทแสนดีเพียงเพราะการบีบบังคับด้วยกิริยาน่ารักกระชากจิตวิญญาณ นทตัดพ้ออีกคนผ่านสายตา ต่อว่าอีกคนดังก้องหัวใจ
แววตาทะเล้นของแอปเปิ้ลยังติดตาติดใจจนถึงนาทีนี้ สายตาทะเล้นที่นทแปลเอาเองว่าแอปเปิ้ลเห็นคำว่ารักของเธอมันเป็นเพียงเรื่องล้อเล่น เป็นเพียงวลีร่ำไรที่ดังแล้วก็จบสิ้นไป หากจะมีค่า มันก็จะมีแต่เพียงในใจเธอเท่านั้น ไม่ได้แผ่ความซาบซึ้งไปถึงใจใครได้ทั้งนั้น
เช่นนี้แล้ว มันจะไปหวานได้อย่างไร
ต่อให้เธอต้องคุกเข่ากลางลานกว้างที่มีสวนดอกไม้ใหญ่ ฟุ้งกลิ่นหอมตลบอบอวล ในมือถือแหวนเพชรล้ำค่า บรรยากาศสถานการณ์เป็นใจสุดชีวิต มันก็ไม่อาจหวานไปได้กว่านี้อีกแล้ว
เพราะใจคนบอกมันขม
ขมเพราะรู้ว่าบอกแล้วมันไม่ได้มีผลอะไรกับใครทั้งนั้น
“ทำไมใจร้ายนัก ประเมินคุณค่าจิตใจกันต่ำไปแล้วพี่นท ! เห็นแอปเป็นคนยังไง ถึงแอปจะยังเด็กไม่ได้เรื่องได้ราวแต่ก็ไม่มีวันเอาเรื่องสำคัญมาล้อเล่นหรอกนะ”
แอปเปิ้ลวางมือสองข้างหมับ ! วางลงอย่างแรงลงบนไหล่สองข้างของพี่นทด้วยอารมณ์คุกกรุ่นพลุ่งพล่าน ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีหมุนร่างเล็กๆนั่นให้หันมาเผชิญหน้ากัน ดวงตาซุกซนที่เคยเป็นหายไปกับตา มันเปลี่ยนเป็นความจริงจังแรงกล้าอย่างที่นทไม่เคยเห็นมาก่อน
และหากพี่นทตั้งใจฟังกันสักนิด
พี่นทก็จะรู้ว่าหัวใจดวงนี้ เต้นดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เช่นกัน
“นาทีนี้มีแค่เราสองคน หัวสมองแอปว่างเปล่า สายตาแอปมีแต่พี่นท แอปละเรื่องราวภายนอก เพื่อใช้เวลานี้กับพี่นทเพียงสองคน เวลาที่จะไม่มีใครมารบกวนเรื่องราวในใจของเรา”
“แต่กลายเป็นว่าในหัวพี่นทมีอะไรเต็มไปหมด สายตาพี่นทสับสนไม่มีทางออก เก็บเรื่องราวมามุงรวมกันในสมอง ซะอย่างนั้น
เป็นแบบนี้แล้ว ใช่แอปหรือเปล่าคะที่ไม่เห็นความสำคัญของโมเม้นท์นี้ ?”
แอปเปิ้ลประท้วงด้วยสายตา มันทั้งจริงจัง ทั้งมั่นคง ทั้งอ่อนหวานและหลอมละลาย , ยากเหลือเกินที่จะฝืนใจหลบตา
แสงในตา แสงที่เป็นจุดเกิดแห่ความรู้สึกดีดี
นทใจหายวูบเมื่อพบบางสิ่งในดวงตาซุกซนนั้นเปลี่ยนไป มันมีความรัก มันมีความห่วงหาอาทร มีความรู้สึกดีดีอย่างที่เธอเป็น และดวงตาโกหกกันไม่ได้
ในความอ่อนล้าอ่อนแรงทั้งหมดที่มี นทนั่งนิ่งให้แอปเปิ้ลจ้องอยู่อย่างนั้น ให้แอปเปิ้ลถ่ายทอดพลังงานหัวใจให้อยู่แบบนั้น มีเพียงแอปเปิ้ลที่นั่งอยู่ตรงหน้า มีเพียงสัมผัสหนักแน่นที่ยึดตรึงหัวไหล่ มีเพียงหัวใจที่เต้นดังเป็นจังหวะหนึ่งเดียว มีเพียงเท่านี้
ทั้งในความจริง ความคิด และความฝัน
นทเข้าใจแล้วว่าความรัก
มันต้องมีกันเพียงเท่านี้
“พี่ไม่ใช่เจ้าชายมาจากไหน พี่ธรรมดา อยู่มาแบบธรรมดา การตกหลุมรักของพี่เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติ พี่ทุ่มเทให้ใครสักคนเป็นเรื่องปกติของความรัก ความสุขของพี่เกิดจากปัจจุบัน และพี่รู้พี่จะอยู่ไปแบบนี้แหล่ะ อยู่ไปแบบปกติ พี่คงเปลี่ยนมันไม่ได้”
“แต่การรักแอปมันทำให้พี่รู้สึกว่าพี่ต้องไม่ธรรมดาน่ะ พี่อยากพิเศษ
อยากพิเศษพอให้แอปรัก อยากพิเศษพอที่จะสร้างความสุขให้แอปได้ พี่พยายามมานาน แต่มันไม่เคยสำเร็จเลยแอป จนนาทีนี้พี่ก็ยังเป็น ไอ้นท
คนธรรมดาที่ไม่มีอะไรอยู่ดี”
อิริยาบถของสองคนเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ไม่อาจรู้
นทไล้นิ้วมือไปตามหลังมือของแอปเปิ้ล ราวกับจะถ่ายทอดความรักยิ่งใหญ่ให้เจ้าหญิงตรงหน้าได้ซาบซึ้ง สายตาเธอฉายชัดถึงความรักที่แสนพิเศษ ความรักพิเศษจากหัวใจธรรมดาๆ จากคนธรรมดาที่ไม่เคยมีอะไรเลย
“พี่นท
”
“ถ้าแอปอยากฟังคำว่ารักจากพี่
พี่ก็จะพูด”
“แอปรู้ไหม แอปเป็นสิ่งพิเศษที่สุดในชีวิตพี่
เป็นของมีค่าสิ่งเดียวที่ทำให้พี่รู้สึกพิเศษ”
“พี่รักแอปนะ”
.
.
“หลับตาลงนะ นะคนดี สิ้นสุดลงตรงนี้หนทางที่แสนไกล แค่เธอจับมือฉันและเชื่อใจ”
“รักยิ่งใหญ่จะไปถึงเธอ
”
บทเพลงแว่วหวานจบลงพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นของนท ที่ปลายสายคงไม่ได้เห็น
เชื่อเถอด ว่าหัวใจคนร้องอิ่มเอิบกว่าคนฟังเป็นล้านเท่า แอปเปิ้ลจะรู้หรือไม่ ทุกเสียงที่แอปเปิ้ลได้ยินมันกลั่นมาจากหัวใจ ไม่ใช่เพียงลมปากรำพึงรำพัน
ทุกถ้อยคำสื่อความหมายที่หัวใจนทรู้สึก การถ่ายทอดความอบอุ่นที่แสนจะธรรมดา แต่นทกลับรู้สึกว่ามันพิเศษและหวานซึ้งถึงใจอย่างไรก็ไม่รู้
ปลายสายเงียบไปนาน
จนนทต้องเอ่ยถาม
“แอปเปิ้ล
หลับหรือยังคะ ?”
สิ้นคำถาม ก็เงียบสนิท
ปลายสายคงนอนหลับตาไปแล้วเป็นแน่ นทหลุดยิ้มออกมาบางๆ เธอกำลังอิ่มเอิบหัวใจอย่างถึงที่สุด
“แอปเปิ้ล ถ้าหลับแล้ว พี่วางแล้วนะคะ” นทบอกอีกคนแผ่วเบา
“พี่รักแอปนะ”
บอก แม้รู้ว่าอีกคนคงไม่ได้ยิน
และเธอจะบอกคำนี้ตลอดไป บอกจนกว่าจะถึงวันที่แอปเปิ้ลบอกต่อกัน
“แอปรู้สึกดีที่มีพี่นทข้างแอปมาตลอด
แอปรู้สึกดีจริงๆนะคะ แต่แอปขอ ขอโอกาสให้ตัวเองได้ตัดสินใจ และแอปขอให้พี่นทรอแอปก่อนได้หรือเปล่า”
“รอได้ไหมคะ ?”
นทจำคำตอบของตัวเอง ได้ดี
เธอตอบว่ารอได้ รอได้ทุกๆวัน
เพราะเพียงได้รอ มันก็เกิดความฝัน เธอได้รอ ได้รอแม้จะไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่มันก็ยังก้าวมาไกลกว่าเดิมไม่ใช่หรือ ?
“โอกาสเดียวโอกาสนี้ แอปให้ตัวเองแค่โอกาสเดียว แต่แอปก็ไม่รู้ว่าหนึ่งโอกาสมันจะนานสักเท่าไหร่ ถ้ามันนานเกินไป พี่นทอยากมีใคร ก็ไม่ต้องห่วงแอปนะคะ แอปไม่รั้งพี่นทไว้”
“ถึงบ้านแล้วโทรหาแอปด้วยนะ ถ้าไม่โทรมา แอปคงนอนไม่หลับ”
นทยิ้มกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะกดวางโทรศัพท์แล้วเอนตัวลงบนเตียงอย่างมีความสุข
.
.
.
ตีสองกว่าแล้ว
เธอยังนั่งหน้าเครียดอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ณ โรงพยาบาลประจำจังหวัดอ่างทอง หลายต่อหลายครั้งที่มีพยาบาลวิ่งข้ามไปข้ามมา แต่เธอไม่รู้ ไม่รู้อะไรสักอย่าง ไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ ไม่มีความกล้าจะพูดอะไร ! กลัว สั่นสะท้าน หวาดระแวงไปหมดทั้งใจ
เธอกลัวคนในห้องนั้นจะเป็นอะไรมากกว่านี้
รู้อาการครั้งสุดท้าย เมื่อราวชั่วโมงที่แล้ว
หมอไม่พูดอะไรนอกจากคำว่าขอให้ทำใจ
คุณแม่คุณพงศธรนั่งสวดมนต์อยู่ไม่ไกล นับตั้งแต่วินาทีที่คุณหมอเปล่งคำทำร้ายจิตใจนั้นมา คุณแม่คงสวดมนต์ขอพร แต่เธอทำอะไรไม่ถูก ใจมันว้าวุ่น ไม่สงบนิ่งพอ
ไม่กล้าจะทำอะไรเลยแม้แต่ร้องไห้
แกรนด์ได้แต่ซบหน้าลงกับฝ่ามือ ซบแน่น ราวกับจะกดเก็บความเครียดนั้นไว้ในก้อนสมองทึบ
“หนูแกรนด์” เสียงพร่าของผู้อาวุโสกว่า ดังขึ้นเบาๆ พร้อมสัมผัสนุ่มนวลที่ไหล่ชื้นเหงื่อ
แกรนด์ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาช้า มันเหนื่อยมันล้าไปหมด ในสายตามีแต่ความสับสนวุ่นวาย มันเหมือนไม่ใช่คนนอกกำลังจะตาย เขาเหมือนเพื่อนของเธอ เพื่อนคนสำคัญ เพื่อนคนเดียวที่มีแต่ความจริงใจให้กัน
แค่คิดว่าต้องทำใจ แค่ต้องเริ่มทำใจ
มันก็ร้าวรานไปหมดแล้ว
“ค่ะคุณแม่” หญิงสาวขานรับเสียงคุณแม่อ่อนๆ
“หนูจะอยู่ดูไอ้เจ้าดิวมันทั้งคืน โทรบอกที่บ้านหรือยัง ?”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ
”
แกรนด์โทรบอกแม่ตั้งแต่ออกจากกรุงเทพว่าคืนนี้คงจะไม่กลับบ้าน หรือหากอาการคุณพงศธรไม่ไหวเลยก็อาจจะเป็นสองหรือสามคืน
แม่ของเธอรับรู้และทำความเข้าใจได้ดี แต่ก็โอดว่าเสียดายเพราะวันนี้คนในครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา
ขาดแต่เธอ
“บอกคนที่เป็นห่วงหนูครบแล้วแน่นะ
ทำอะไรที่ควรทำ คุยกับใครที่อยากคุยก่อนดีไหมลูก มานั่งเครียดแบบนี้ไม่ดีเลย”
ผู้อาวุโสเตือนพร้อมยิ้มซีดเซียว
เรื่องราวของหนูน้อยคนนี้ท่านได้ยินจากปากลูกชายมาหลายครั้ง ท่านรู้ว่าสาวน้อยคนเก่งมีคนพิเศษอยู่หนึ่งคน คนพิเศษที่สนิทสนมผูกพันกันมาแต่เล็กแต่น้อย แถมคนพิเศษคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิง หน้าตาน่าเอ็นดู
ลูกชายของท่านบ่นๆติดตลกว่าเขาคงไม่มีวันได้ความรักจากสาวสวยคนเก่งคนนี้เลย
อย่าหลับไปนานนักสิดิว
ตื่นขึ้นมาสิ ตื่นขึ้นมาแล้วจะได้รู้ว่าดิวมีเขายืนอยู่ข้างๆอีกหนึ่งคน เขาที่ดิวรัก ยืนรอลูกฟื้นอยู่ข้างๆแม่ เขามาเพื่อรอดิวฟื้นนะลูก
ผู้เป็นแม่ได้แต่ร่ำร้องในหัวใจ หวั่นไหว แต่ต้องฝืนเข้มแข็ง
“เอ่อ
แกรนด์ขอตัวสักครู่นะคะคุณแม่”
หากไม่มีคำเตือนที่แสนจะตรงใจของคุณแม่
แกรนด์ก็ไม่รู้เธอจะนึกได้เมื่อไหร่ วันนี้ 2 กันยายน ล่วงเลยมาแล้วหนึ่งวัน เธอลืม ลืมวันสำคัญของคนสำคัญไปแล้ว
พลาดไปแล้ว พลาดไปแล้วสองชั่วโมง
แกรนด์ค้อมตัวต่ำ เดินผ่านร่างผู้อาวุโสเพื่อออกไปนอกเขตรักษาความสงบอย่างร้อนใจ ตั้งแต่ได้รับความมั่นใจจากนทก็วางใจ วางใจจนลืม
ลืมไปเลยว่าเธอยังไม่ได้เอ่ยคำสำคัญกับปากตัวเองสักครั้ง
ทั้งที่ตั้งใจ หากมาถึงที่นี่เมื่อไหร่ จะยกหูโทรศัพท์กดโทรหาแอปเปิ้ลสักสี่ห้านาที คงจะช่วยบรรเทาความทุกข์ร้อนในใจได้บ้าง
แต่ก็ลืม
ร้อนรนจนลืม
เลขสิบตัวที่จำได้ขึ้นใจ แกรนด์กดมันเร็วๆ ก่อนที่นิ้วโป้งจะเลื่อนไปแตะยังปุ่มโทรออกสีเขียวสดใส แต่ก็ทำเพียงแตะ ยังไม่กด นาฬิกาบอกเวลาตีสองกว่าห้ามเธอเอาไว้
ตีสอง
ป่านนี้แอปเปิ้ลคงรอจนเลิกรอ ป่านนี้ตัวแสบคงหลับไปแล้ว คงโกรธเธอไปแล้วเป็นแน่
โถ่ พี่ขอโทษนะแอป พี่ขอโทษจริงๆ
“ช้าไปหน่อย พี่ขอโทษ
แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะตัวแสบ
เข้าใจพี่ อย่าโกรธพี่นะ
ของขวัญจากพี่ยังคงเหมือนเดิมทุกที พี่รักแอป ยังรักแอป และจะรักแอป
แอปจะเป็นที่หนึ่งของพี่ตลอดไปนะ
ฝันดีค่ะ”
แกรนด์ทำได้เพียงส่งข้อความสั้นๆ ข้อความสั้นๆที่มีของขวัญคือหัวใจ เหมือนเดิมทุกปี และจะเหมือนเดิมไปทุกปี จะเป็นอย่างที่เด็กหญิงผลไม้วัยหกขวบผู้แก่แดดแก่ลมของเธอ ขอเอาไว้
‘ไม่ต้องซื้ออะไรให้แอปร๊อกกก เอาคำว่ารักดังๆกับหัวใจก็พอ’
มันอาจช้าไป แต่มันยังเป็นของเธอเหมือนเดิมนะตัวแสบ
.
.
อะไรหลายอย่างรุมทำร้ายแกรนด์จนแทบพังทลาย กลัวและกลัดกลุ้ม
เธอไม่รู้พรุ่งนี้เช้าจะเป็นอย่างไร รู้เพียงแต่ว่า วันนี้ไม่ใช่วันของเธอ
แล้วเมื่อไหร่จะเป็นวันของเธอล่ะ
คุณพงศธร
ขอล่ะค่ะ ฟื้นเสียที
^__________________________^
จะบอกว่าจบตอนนี้ก็ขอเวลาเติมพลังงานสัก 2 อาทิตย์นะคะ
มันอาจจะค้างคานานมากก ... จนใครหลายคนอาจรอจนเบื่อ
ขอโทษจริงๆนะคะ , มันไม่สะดวกจริงๆ
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า*
ทิ้งปมเล็กเอาไว้ให้ขบคิดกันเล่นๆ
วันพรุ่งนี้แอปตื่นเช้ามาเมสเสจจะเป็นยังไง ?
ที่แอปขอ ให้ พี่นท ทนรอขอมากไปไหม ?
(แล้วชีวิตฉันที่เหลือให้ทำไง , ฮี๊ววว โปรโมทเพลงตลอดดด = =;)
แล้วพี่แกรนด์จะเป็นยังไงต่อไป ?
คุณพงศธรผู้แสนดีจะฟื้นหรือเปล่า ?
ยอดขายของพี่แกรนด์จะถึงเป้าไหม ?
โอ๊ยยย แยะ !!!!!
ปัญหาเยอะอย่างกะจะเขียนฟิคยาว = ='
จบจบจบจบ ฝันดีนะคะ >3<
.
ความคิดเห็น