คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : chapter 5 goodnight
“ตกลงให้พี่จริงๆนะจิวเวอรี่… ไม่เก็บไว้กอดไว้หอมสักคืนก่อนหรอ พรุ่งนี้พี่ค่อยมาเอาก็ได้นะ…”
เจนรบยืนตีคิ้วขมวด ในมือเขามีช่อกุหลาบเจ้าปัญหาที่ยังคงส่งกลิ่นหอมไม่จาง… แววตาอ่อนอกอ่อนใจจ้องมองน้องสาวคนสนิท เสียงเข้มส่งคำถามที่ไม่ว่าจะถูกถามออกไปกี่ครั้ง จิ๋วก็ยังคงยืนยันที่จะปฏิเสธและไม่มีวี่แววว่าจะเปลี่ยนใจ…
ทันทีที่สามชีวิตยัดร่างตัวเองขึ้นรถยนต์ส่วนตัวได้ จิ๋วก็ทำพิธีส่งมอบเครื่องหมายแทนความรักจากใจพี่เบลให้พี่เจนทันทีอย่างไม่ต้องคิด…จิ๋วรู้ว่าพี่เจนชอบดอกไม้ รู้ว่ากุหลาบช่อนี้เธอเก็บไว้ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร… และรู้ด้วยว่า หากเธอยังจะกล้าเก็บมันเอาไว้ในบ้าน คงจะต้องมีใครแถวนี้เอามาทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราวแน่ๆ
ตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมคงดีกว่า…. ทุกฝ่ายได้ประโยชน์นะ
ยกเว้นพี่เบล…
“เถอะน่ะค่ะพี่เจน เอากลับไปเถอะ จะให้จิ๋วเก็บไว้ทำไมล่ะ”
จิ๋วปฏิเสธเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมรอยยิ้มประจำตัวที่มีความหมายว่าให้ยุติการเซ้าซี้อันแสนน่ารำคาญนี้ลงเสียที
รอยยิ้มที่ทำเอาคนเซ้าซี้คอตก… พี่เจนพยักหน้ารับอย่างยอมจำนน โบกมืออำลาน้องสาวหัวแข็งที่โน้มน้าวยังไงก็ได้เท่านั้นเอง
“กลับบ้านดีดีนะพี่เจนนนนนน”
จิ๋วเขย่งเก็งกอยพร้อมป้องปากตะโกนไล่หลังพี่เจนที่ออกรถไปแล้ว ก่อนแขนเรียวจะเหนี่ยวประตูบ้านให้ปิดสนิทแล้วลงมือล็อคกลอนลงเพื่อความปลอดภัย… สองขาก้าวพาร่างบอบบางเข้าเขตตัวบ้าน… นาฬิกาที่ฝาผนังบอกเวลาตีสองครึ่ง…
เฮ้อ… กว่าจะล้างเนื้อล้างตัว เก็บข้าวของ ก็คงได้นอนเอาเกือบเช้าพอดี…
คนตัวเล็กหยิบหมอนอิงที่วางกระจัดกระจายด้วยฝีมือของตัวเองเมื่อเช้า… เหนื่อยจนอยากจะวางร่างลงไปบนโซฟาแล้วหลับตายาวๆเสียจริง… นานๆทีเธอจะขี้เกียจอาบน้ำ และวันนี้มันขี้เกียจซะจนอยากจะหลับตานอนเต็มที
ดูโอ้คนสวยของเธอพุ่งขึ้นห้องแบบไม่สนใจใครตั้งแต่วินาทีแรกที่เท้าแตะบ้าน นั่นก็เป็นเรื่องที่นานๆทีจะเกิดขึ้นเช่นกัน… เธอออกจะเคยชินกับการเป็นคนกระตือรือร้นอาบน้ำ ส่งเสียงโวยวายยามดึกดื่น คอยวุ่นวายถูลู่ถูกังลากดูโอ้จอมขี้เกียจให้กลับไปสลบสไลที่ห้องแทนที่จะมานอนเน่าอยู่ที่โซฟา… แต่ในเมื่อวันนี้ไม่มีนิวให้ต้องคะยั้นคะยอพาไปอาบน้ำ ความวุ่นวายที่เคยดูน่าเบื่อก็ทำให้เธอแอบใจหาย…
จิ๋วตัดใจลากตัวเองขึ้นข้างบนเพียงลำพัง… แต่ละก้าวบันไดรู้สึกเหมือนต้องใช้เรี่ยวแรงมากกว่าปกติอย่างไม่น่าเชื่อ… และพอถึงหน้าห้องนิว ร่างกายมันก็แกล้งหมดแรงเอาเสียดื้อดื้อ
จิ๋วหยุดยืนมองประตูห้องนั้นตาละห้อย… รู้สึกโหยหาคนในห้องอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ก็เพิ่งจะห่างกันไม่นานเท่าไร… ป่านนี้นิวคงอาบน้ำนอนไปแล้ว… ก็เห็นกันอยู่ว่าวันนี้นิวดูจะเหนื่อยมากกว่าปกติไปตั้งหลายเท่า…
เฮ้อ…
เสียงถอนหายใจบางๆดังขึ้น ยังดีที่มันได้ทุเลาความหนักหน่วงในหัวใจลงไปได้บ้าง…
“ฝันดีนะนิว…”
จิ๋วส่งยิ้มบางๆให้ประตูบานนั้นราวกับนั่นคือเพื่อนรักของเธอ ทั้งที่มันก็ไม่อาจใช่เลย… พักหลังมานี้ นิวสร้างนิสัยไม่ดีให้เธอหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการต้องบอกฝันดีกันทุกคืน จนเธอแทบจะข่มตานอนไม่ลงหากไม่ได้ยินเสียงหวานๆนั่นสั่งให้เธอหลับฝันดี
คืนนี้… เธอคงต้องใช้ความพยายามนอนหลับมากกว่าคืนก่อนๆอีกสักหน่อย
คนตัวเล็กยังใช้เวลาอีกสักพัก นับลมหายใจเข้าออกอยู่หน้าห้องอีกคนต่อไปเรื่อยๆ แอบมีความหวังลึกๆว่าคนในห้องอาจจะโผล่ออกมาให้เธอได้เห็นหน้าบ้าง ได้ออกมาบอกฝันดีให้เธอเหมือนทุกๆคืน…
แต่ก็รู้ว่าหวังนั้นลมแล้งเกินไป… ความจริงก็คือนิวหลับไปแล้วโดยไม่ได้ต้องการคำว่าฝันดีจากเธอสักนิด
อ่า…
ทำไมนะ แค่อีกคนรีบวิ่งไปนอนโดยไม่บอกกันก่อน เธอถึงเอาคิดฟุ้งซ่านจนน้อยใจได้ขนาดนี้
ไม่ไหวแล้วมั้งเนี่ย ปิยนุช…
จิ๋วสะบัดหน้าไล่ความคิดในหัวให้แตกกระจายไปคนละทิศละทาง ก่อนจากเท้าเดินจากขึ้นห้องตัวเองไปอย่างอืดเอื่อย เมื่อมันสมควรแก่เวลาเต็มที…
เพลียแฮะ…
.
.
ก๊อกก๊อก…
เสียงเคาะประตูหน้าห้อง ทำคนตัวเล็กที่กำลังเริ่มต้นชั่วโมงประทินผิวถึงกับชะงัก… คิ้วคมตีขมวดเข้าหากันอย่างประหลาดใจ ดวงตากลมเหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาครึ่งชั่วโมงให้หลังจากเมื่อสักครู่… เธอไปยืนรีๆรอๆหน้าประตูห้องนิว จนค่อนข้างจะแน่ใจว่าหลับไปแล้ว… แล้วนี่ใครนะ ที่มาเคาะประตูห้องเธอเอาเสียป่านนี้
จิ๋วยักไหล่กับตัวเองอย่างไม่มีคำตอบ สองมือละจากการทาครีมมากระชับชายชุดคลุมอาบน้ำให้มิดชิดกับตัวอีกสักหน่อย อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องต้องเดาว่าใครจะมาหาเธอตอนนี้… นิวอยู่แล้วนั่นแหละ ที่เธอสงสัยคือนิวมาทำอะไรต่างหาก
ทั้งที่ยังไม่รู้จุดประสงค์ ยังไม่ได้เห็นหน้าด้วยซ้ำ… แต่นั่นก็ทำให้เธอแอบยิ้มกับตัวเองได้ไม่ยาก…
จิ๋วเปิดประตูห้องออก พร้อมกับปรับสีหน้าให้นิ่งสนิท… แถมยังตีคิ้วให้ขมวดใส่อีกคนที่ยืนยิ้มเผล่อยู่หน้าประตูห้องนั้น…
นิวยังไม่ได้สลัดอะไรออกจากร่างสักอย่าง กลับมายังไงก็อยู่ไปอย่างนั้น… หน้าใสใสก็ยังเต็มแน่นไปด้วยเครื่องสำอางค์หลายชั้นจนให้ความรู้สึกไม่สมควรแก่เวลาขึ้นมา…
“นิว… นึกว่าหลับแล้วเสียอีก”
เสียงทักทายนั้นดูเรียบเฉยเสียจนนิวแอบฝ่อ… จิ๋วจ้องตาอีกคนนิ่งๆ เก็บซ่อนความรู้สึกดีใจไว้ได้อย่างแนบเนียน
“อ้าว… แล้วไม่อาบน้ำหรือไง
คำถามจากความใส่ใจที่คนถูกถามได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆให้คนถามขมวดคิ้วอย่างฉุนๆ จิ๋วยังคงบ่นเรื่อยเปื่อยอยู่อีกสองสามคำ ในแววตากรุ่นร่องรอยความหงุดหงิดอยู่เจือจาง… ก่อนเสียงกระเง้ากระงอดจะสะบัดถามคนหน้าห้อง… ราวกับไม่อยากจะพูดด้วย
ทั้งที่มันออกจะตรงข้ามกับใจ…
“มีอะไรล่ะ มาซะป่านนี้… จิ๋วง่วงนะ”
ส่งคำถามที่เรียกรอยยิ้มจากหน้าเซียวๆของนิวได้เต็มสีหน้า… รอยยิ้มที่มาพร้อมกับความขัดเขินเพราะบางอย่าง
ดวงตาใสแจ๋วจับจ้องอีกคนราวกับจะพูดอะไรสักคำ… หากแต่ก็ยังถูกเก็บงำเอาไว้
“เค้าให้คุณจิ๋วนะ… ให้คุณจิ๋วเก็บไว้ เก็บไว้ให้ดีดี เค้าไม่ได้จะให้ใครบ่อยๆ ทุกคนไม่ได้มี”
กระดาษแผ่นนึงในมือถูกยื่นให้คนตรงหน้า พร้อมกับคำกำชับกำชาที่นิวอยากจะบอกให้อีกคนรู้ถึงความพิเศษของมัน… นิวหน้าแดงระเรื่อ มือไม้แอบสั่นทั้งที่เธอก็ให้อะไรๆกับจิ๋วออกจะบ่อย
เพียงแต่ของเหล่านั้น เธอเคยให้ในวันพิเศษ… แต่นี่มันเป็นเพียงวันธรรมดา ที่เธออยากจะให้อะไรสักอย่างกับเพื่อนรักของเธอ
จิ๋วเอียงคอมองคนตรงหน้าอย่างฉงน คิ้วคมขมวดเข้าหากันน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆคลายเมื่อเห็นใบหน้าแดงระเรื่อของอีกคนที่ขึ้นสีจัดขึ้นทุกที รับกระดาษแผ่นนั้นมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ… ที่ฉาบขึ้นเพราะความน่ารักของอีกคนที่ดูจะรุนแรงขึ้นจนน่ารักน่าหยิก
ในกระดาษแผ่นนั้น…
มีดอกไม้
“ดอกไม้ของเค้านะคุณจิ๋ว”
น้ำเสียงขัดเขินเอ่ยบอกในสิ่งที่จิ๋วเพิ่งมันกับตา… เพียงแต่ยังไม่รู้และเข้าใจ
คนมอบให้ยังหน้าแดงไม่หาย คำพูดยืดยาวที่ตระเตรียมเอาไว้ค่อยๆเลือนหายไป
เหลือแต่ความรู้สึกจากใจจริง
“ไม่ต้องดูแล ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะตาย ไม่ต้องรอให้มันโต… มันโตเต็มที่แล้ว มันงอกงามที่สุดแล้ว…”
สรรพคุณของดอกไม้ช่อนั้นมันยืดยาว… และจิ๋วก็อดปลื้มกับมันไม่ได้เลย คนตัวเล็กพยักหน้ารับคำเหล่านั้นอย่างยินดี เธอรู้ว่าที่นิวมอบช่อดอกไม้นี่ให้กัน ส่วนนึงก็เป็นเพราะดอกกุหลาบจากพี่เบลที่ทำเอาเด็กตัวน้อยของเธองอแงอยู่นานสองนาน
ดวงตาเปี่ยมความหมายจ้องมองกัน… ก่อนสองมืออบอุ่นจะสอดประสานเข้ากุมกันแนบแน่น อุ่นวาบถึงหัวใจที่เต็มไปด้วยรัก…
นิวกำลังหลอมละลายเธอด้วยน้ำเสียงอบอุ่นจริงจัง… ความหมายในประโยคที่บีบคั้นหัวใจ
“วันไหนที่คุณจิ๋วรู้สึกเหนื่อยที่จะรอเค้า วันไหนที่คุณจิ๋วไม่อยากรอ… ก็ขอให้รู้ไว้ว่าเค้าก็กำลังพยายามทำให้ทุกๆวันนี้ดีที่สุด ถ้าเค้าจะพูดอะไรออกไป เค้าต้องดีพอที่จะรับผิดชอบมันได้… แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่มี… เค้ามีคำนั้นอยู่เต็มหัวใจเค้านะ”
“และมันจะไม่มากมายไปกว่านี้แล้ว มันงอกงามที่สุดแล้วล่ะ”
คำอธิบายยาวๆ… พร้อมรอยยิ้มจากหัวใจ กำลังทำให้จิ๋วรู้สึกเหมือนร่างกายหมดเรี่ยวแรงไปกับความอ่อนหวานที่แสนจะงดงาม…
รอยยิ้มของนิวประดับอยู่ข้างแก้ม ตรงนั้น…
และประทับอยู่ในหัวใจ ตรงนี้…
“ฝันดีนะคะคุณจิ๋ว…”
มือเรียวเลื่อนมาเกลี่ยเส้นผมที่ร่วงลงมาคลอเคลียใบหน้า… ก่อนความอบอุ่นจะเข้าครอบครองแก้มนวล ปลายนิ้วชี้เกลี่ยเนื้อนุ่มไปมาอย่างหลงใหล… ดวงตาสองคู่สานสบด้วยความรู้สึกลึกซึ้งที่รอวันเปิดเผย คนตัวเล็กน่ารักใจแทบขาด… น่ารักจนเธออยากฝังกอดให้ความบอบบางนี้จมหายไปในตัวเธอ เธอเพียงคนเดียว…
“ฝันดีนะนิว…”
เสียงแผ่วเบาเหมือนกระซิบ ดังถึงหัวใจ ให้คนได้รับฟังคำนั้น ได้แต่ยิ้มและพยักหน้าเบาๆ เป็นการตอบรับและบอกลาค่ำคืนนี้… เพื่อมีวันพรุ่งนี้ไปด้วยกัน
นิวใช้เวลาไม่นานนักกับการทำให้เธอหัวใจเต้นแรง… ต้นเหตุจากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงกระดาษปอนด์แผ่นเล็กที่มีค่ามากกว่าสิ่งไหน…
จิ๋วคลี่กระดาษแผ่นนั้น มองแล้วมองอีกอย่างหลงรัก ก่อนจะยกมันขึ้นแนบอกอย่างปลื้มใจ…
สุดท้าย…
คืนนี้เธอก็หลับฝันดี ยิ่งกว่าทุกๆคืน
.
.
“พี่เจนจะตามมาไหมล่ะ… มาเถอะ บอกตรงๆ นิวอยากดริ๊งค์ว่ะ แต่จิ๋วไม่ยอม ไม่มีคนขับรถกลับ…”
“โธ่ พี่เจน พี่จะปล่อยให้น้องโดนแม่จิ๋วคุมพฤติกรรมแบบนี้น่ะหรอ… ทั้งๆที่เพื่อนทุกคนมาสนุกกัน แต่นิวห้ามกินสักหยด น่าสงสารจะตาย”
ออดอ้อนแต่คนในสายไม่พอ… นิวยังเผื่อแผ่ความออดอ้อนมาหาเธอที่นั่งอยู่ข้างกัน ผ่านทั้งสายตา และสัมผัสอ่อนโยนที่หลังมือ
จิ๋วเสหลบตาไปทางอื่น กระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆอย่างรู้ทัน… ไม่แคล้วคืนนี้ นิวต้องได้เมาแอ๋กลับบ้านแน่… เธอกับพี่เจน ต้องมีใครคนใดคนนึงใจอ่อน…
“พี่เจนอ่า… ใจร้าย ทำกับน้องรักได้ลงคอ…”
อ่า… พี่เจนท่าจะไม่อ่อนแฮะ…
จิ๋วเม้มปากแน่นอย่างตัดสินใจ เห็นแววตาผิดหวังของนภัสสรแล้วจิตใจที่เคยเข้มแข็งก็อ่อนฮวบฮาบอย่างน่ากลัว… สัมผัสแผ่วเบาที่หลังมือเริ่มกดหนักขึ้นตามระดับการร้องขอ ปลายนิ้วชี้เกลี่ยวนซ้ำไปมาชวนให้จั๊กจี้กว่าเก่า
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสอดมือทั้งมือมาเกาะกุมกันไว้แน่น… กระพริบตามองกันปริบๆทั้งที่ยังไม่ได้วางสายจากพี่เจน
อีกคนยิ่งเพิ่มระดับความออดอ้อนจนเธอใจเต้นรัว…
เอ่อ… นิวทำอย่างนี้ แล้วเธอจะทำอะไรได้เล่า…
“หา… ตกลงมาหรอพี่เจน !!!”
แต่เพียงแค่คำตอบจากปลายสายดูจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น อีกคนก็หูตาแวววาวราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน… นิวยิ้มกว้างจนแก้มนั่นแทบแตก คราบเด็กหญิงหงอๆขี้อ้อนหายไปปลิดทิ้ง…
นิวทำว่าดีใจเสียจนจิ๋วอดหัวเราะกับท่าทางโอเว่อร์นั่นไม่ได้… แต่กระนั้นก็เถอะ แม้พี่เจนดูว่าจะตอบตกลงแล้ว แต่มือเธอที่ถูกคนขี้อ้อนเกาะกุม ก็ใช่ว่าจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ…
มันยังอบอุ่นอยู่ในอุ้งมือของอีกคนแบบนั้น
“ค่า… รีบมานะพี่เจ๊นนน เยิ๊ฟยูนะ จุ๊ฟ มั๊วะๆ…”
สายสำคัญนั้นถูกตัดไปแล้ว… ทิ้งไว้เพียงความสมหวังของนิวเท่านั้นเอง
และเพียงห้าวินาทีให้หลัง…
“นิวววว ชนแก้วววว เฮ้…”
เพื่อนรักของเธอก็กลายเป็นปาร์ตี้เกิร์ลอย่างสมบูรณ์แบบ มีที่เกาะกุมกันไว้คลายออกจากกันเพื่อไปรับเอาเครื่องดื่มแอลกฮอลล์จากเพื่อนกลุ่มใหญ่มากระดกเข้าปากไม่ยั้ง… รอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังสนั่น เสียงพูดคุยเซ็งแซ่ บรรยากาศที่ว่าสนุกสนานอยู่แล้วกลับยิ่งคึกคักกว่าที่เคย
แสงไฟวูบวาบวิบวับทำให้เห็นอะไรได้ไม่ชัดนัก แต่รอยยิ้มของนิวปรากฎชัดเจน…
จิ๋วยังคงนั่งอยู่ข้างนิวเหมือนเดิม มองอีกคนมีความสุขขนาดนั้นแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้… เพื่อนๆที่มาวันนี้ก็เป็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ก่อนแล้ว ไม่ได้มีใครใหม่ๆให้ต้องฝืนเกร็งอะไร… นิวจึงเป็นตัวเองได้เต็มที่ และเธอก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดที่ต้องมานั่งอยู่ท่ามกลางกว่าสิบชีวิตที่มีแก้วเหล้าอยู่ในมือ…
เพียงแต่เธอสนุกไม่ออก…
ทั้งที่รู้ดี เข้าใจทุกอย่าง อยากสนุกเฮฮาเหมือนที่อีกคนทำ
แต่กลับรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกในวินาทีที่อีกคนปล่อยมือออกจากกัน…
อารมณ์ที่ไม่ได้จะคึกคักอะไรนักหนา จึงกลายเป็นเรียบนิ่งราวกับไม่ได้อยู่ในบรรยากาศปาร์ตี้… จิ๋วขยับแขนมากอดอกตัวเองเอาไว้หลวมๆ เอนตัวพิงเบาะนวมอันใหญ่… ปล่อยสองตาให้ล่องลอยไปไกลแสนไกล ไม่มีจุดโฟกัสอะไรเลย… เธอแค่รู้สึกอยากกลับบ้านขึ้นมา
อยากกลับไปอยู่ด้วยกัน แค่สองคน ที่บ้านของเรา…
ความสัมพันธ์ที่ต่างไปจากเดิมของเธอและนิว มันทำให้เธออ่อนไหวมากขึ้นทุกที
“แล้วเธอก็กลับมา แล้วเธอก็กลับมา… วู้วู้”
บรรยากาศปาร์ตี้กำลังคึกคักได้ที่ เข็มนาฬิกาวิ่งไวราวกับมีใครแอบโกงหมุนเข็มมันให้เดินเร็วขึ้น… นิวและพรรคพวกคงรู้สึกแบบนั้น ผิดกับเธอ ที่รู้สึกว่ากว่าแต่ละวินาทีผ่านไปมันช่างยาวนานเหลือเกิน…
จิ๋วนั่งเท้าคางมองคนบนเวทีตาปริบๆ คิดไม่ออกเลย ว่าหากคืนนี้พี่เจนเบี้ยว… เธอจะพาขี้เมาคนนี้กลับบ้านยังไง
นี่ก็เกือบสองชั่วโมงจากที่พี่เจนรับปากว่าจะมา แต่ป่านนี้ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา… นิวที่เคยเป็นที่พึ่งเดียว ก็ได้แปลงสภาพเป็นบุคคลไร้สมรรถภาพทางการพึ่งพาไปเสียแล้ว ตั้งแต่วางสายจากพี่เจน ก็สุมหัวอยู่แต่กับบรรดากลุ่มเพื่อน ซัดแก้วเหล้าเข้าปากโบ้มๆอย่างไม่เกรงใจใครสักนิด เอะอะมะเทิ่งแถมยังโวยวายเสียงดังอีกด้วยซ้ำ
พอโดนยุเข้าหน่อย ดูโอ้คนสวยของเธอคว้าไมค์ขึ้นไปโดดร้องเพลงเย้วๆอยู่บนเวทีเตี้ยๆนั่นอย่างไม่สนใจใคร ออกลีลาลวดลายร้ายกาจเสียจนน่ากลัวว่าจะมีใครมาหลงรัก หากทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่เพื่อนที่คุ้นเคยกันมาก่อน…
แล้วเวลานิวเมา มันร้ายกาจน้อยซะที่ไหนล่ะ…
เมาคราวที่แล้วก็…
“คุณจิ๋ววววววววววว…”
เสียงหว๊านหวานดังเรียกกันยืดยาวอยู่ข้างหู… ให้คนตัวเล็กได้สะดุ้งน้อยๆอย่างตกใจ และในทันทีที่สมองประมวลผลได้ถึงการมาของอีกคน เธอก็ต้องตั้งรับตัวบางที่โถมเข้าหากัน วงแขนเรียวกอดรัดเธอทั้งตัวจนแนบแน่น ฟัดกอดอย่างกับมันเขี้ยวกันอยู่มากมาย…
นิวทิ้งน้ำหนักใส่กันเต็มตัว แม้โซฟาตัวกว้างนี่หนานุ่มพอที่จะไม่ทำให้เธอเจ็บปวดอะไรนักเมื่อต้องรับน้ำหนักคนทั้งคน… แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะดีสักเท่าไร…
“นิว !”
จิ๋วเอ็ดอีกคนเสียงดัง กับอาการของอีกคนที่ดูจะล่อแหลมเหลือเกิน นิ่วหน้ากับท่าเอนตัวที่ไม่ได้จะสบายเท่าไรนัก… หัวใจที่เต้นสงบมาสักพักกลับเต้นโครมครามขึ้นมาอย่างน่าตกใจ
ลมหายใจกรุ่นกลิ่นแอลกฮอลล์รินรดอยู่ใกล้ๆกัน นิวเอนศีรษะซบไหล่บางอย่างสิ้นฤทธิ์ แขนซ้ายวางพาดอยู่กับเอวอีกคนเป็นอ้อมกอดหลวมๆที่ทำคนตัวเล็กตัวสั่นเทิ้มเพราะความขัดเขินที่พุ่งโจมตีจนตั้งตัวไม่ทัน หัวสมองมึนตื้อไปหมด นาทีนี้คนเมาไม่รับรู้อะไรอีกแล้วนอกจากกลิ่นหอมหวานที่ติดกายอีกคน มันหอมเสียจนอยากจะฝังจมูกลงไปสูดกลิ่นนั่นเสียให้ฉ่ำปอด…
นิวหลับตาพริ้มอย่างไร้ความกังวลใดใด หลังจากร้องเพลงสุดท้ายจบ เพื่อนๆก็พาเธอมาส่งเอาใกล้ๆ ให้เธอเดินมาหาจิ๋วได้อย่างไม่ลำบากนัก
“คุณจิ๋วหายไปไหนมาน่ะ คิดถึงจะแย่…”
นิวพึมพำอยู่กับลาดไหล่เปลือยเปล่าของอีกคน ทั้งที่ดวงตาสองข้างยังปรือกึ่งหลับ เสียงแผ่วเบาที่ดังมาจากหัวใจ… คำไม่กี่คำที่ทำเอาคนฟังแทบละลายติดโซฟา… จิ๋วสูดลมหายใจเข้าปอดจนลึก พยายามรวบรวมสติ พลิกตัวน้อยๆ ขยับหนีอีกคนที่ไม่มีทีท่าว่าจะเอาตัวออกจากกัน
“บ้า… ตัวเองนั่นแหละไปไหนต่อไหนมา เค้านั่งอยู่ที่เดิมมาครบสองชั่วโมงแล้วหรอก”
จิ๋วเบี่ยงหน้าหลบจมูกคมที่คลอเคลียเข้าใกล้แก้มเนียนใสเข้าทุกที ส่งเสียงอุบอิบแผ่วเบาเถียงคนเมาทั้งที่หน้าแดงก่ำ… ตัวสั่นเทิ้ม ใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ… อยากจะขยับลุกออกเสียเดี๋ยวนี้ หากไม่ติดความดื้อของอีกคนที่ทับตัวเธอไว้มากกว่าครึ่งตัว ลักษณะการเอนกึ่งนั่งกึ่งนอนแถมยังชิดใกล้จนเรียกได้ว่าแนบกาย… หากมีคนมาเห็นเข้า… เธอคงไม่มีหน้าจะมองใครอีกแล้ว
แต่ผิดกับคนด้านบน… นิวยิ้มแป้น ในความแผ่วเบานั้นมีแววกระเง้ากระงอดซ่อนอยู่… ไม่รู้สิ เธอพอใจที่จะรู้สึกว่าคนตัวเล็กกำลังงอนกัน เพราะนั่นหมายความว่าเธอสำคัญ…
อ่า… อุ่นจัง
คุณจิ๋วของเธอ…
“นิว ลุกเร็ว… จิ๋วหนัก”
คนตัวเล็กสะกิดอีกคนยิกๆ… ทั้งยังสำทับด้วยคำพูด ให้คนเมาที่กำลังหลงใหลกลิ่นกายอีกคนเต็มกำลัง ต้องโงหัวที่หนักแสนหนักขึ้นมาส่งยิ้มหวานฉ่ำ ทั้งดวงตาก็ฉ่ำหวาน แถมยังสั่นศีรษะซ้ายทีขวาทีเบาๆอย่างดื้อดึง
รอยยิ้มที่สุดจะน่ารักแต่ก็น่าหยิกไปพร้อมกัน… ถูกส่งให้กันอย่างต่อเนื่อง
“ไม่เอาหรอก… ลุกไม่ไหว มึ๊นมึน…”
นิวตีรวนอย่างไม่ยอมแพ้ ให้คนใต้ร่างได้ตีหน้ายุ่งใส่ราวกับหงุดหงิดเต็มที… จิ๋วขยับตัวยุกยิกใหญ่โต ส่งเสียงจิ๊จ๊ะแสดงความขัดใจ… แม้มันก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรก็ตามที
เห็นก็แต่คนขี้แกล้งที่ดูจะเพลิดเพลินกับการเอนซบตัวเธอมากขึ้นทุกขณะ…
“นิว… ขยับนั่งดีดีเถอะนะ นี่ไม่ใช่ที่บ้าน ใครเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี…”
พยศจนเหนื่อย จิ๋วเลยได้แต่ให้เหตุผลด้วยน้ำเสียงอ่อนใจเต็มที ดวงตาคมทอดมองอีกคนที่ยังดูเพลิดเพลินกับการซุกกอดเธอให้สนใจกันบ้าง ตวัดสายตาซ้ายทีขวาที เห็นยังไม่มีใครคิดจะสนใจก็พอให้ได้โล่งใจ… แต่นั่นก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ถ้านิวยังดื้อดึงแบบนี้อยู่ อีกเดี๋ยวก็ต้องมีใครสักคนเห็น
นิวเกยคางกับต้นแขนนุ่ม เอียงคอจนแก้มชิดผิวกายเย็นเฉียบ… พยายามจะสบตา ถามเอาความรู้สึกจริงที่อีกคนมักจะปิดบังไว้เสมอ… เธออาจจะไม่มีสตินัก แต่ก็รู้ดีว่าสิ่งที่ทำไม่ได้เหมาะสมสักเท่าไร… หากแต่ความต้องการภายในมันเรียกร้องเหลือเกิน
แต่เมื่อเห็นจิ๋วเริ่มทำหน้าเครียด ก็ให้รู้ตัวว่าคงต้องถอยออกมาแล้วจริงๆ…
“คุณจิ๋ว…”
เสียงหวานฉ่ำทอดเอ่ยเป็นชื่ออีกคน คนตัวโตกว่าส่งสายตาออดอ้อน นิ้วเรียวเกลี่ยเรียวแขนขาวผ่องแผ่วเบา… ความวาบหวามกำลังจู่โจมหัวใจจนยากจะห้ามปราม…
เสียงกระซิบชิดหูแสดงความต้องการที่แอบแฝงไปด้วยอารมณ์รักมากมาย…
“คืนนี้ ขอเค้าไปนอนกับคุณจิ๋วที่ห้องนะ…”
น้ำเสียงผะแผ่วที่ฟังแล้วให้ใจละลาย… จิ๋วรู้สึกเหมือนควบคุมตัวเองไม่อยู่ สติที่เหลือติดตัวน้อยเต็มที เหมือนขาดหายไปเมื่อสัมผัสได้ถึงริมฝีปากอุ่นชื้นที่คลอเคลียข้างแก้มไม่ห่างหาย…
เพียงเสี้ยววินาทีแต่ก็ดูคล้ายว่าเนิ่นนาน…
เธอเผลอพยักหน้าตอบตกลงไปเมื่อไรก็ไม่รู้…
รู้สึกอีกที รอยยิ้มกระจ่างตาของอีกคนก็อยู่ไม่ห่างสายตา นิวกำลังยิ้มหวานหยาดเยิ้มแบบที่เธอหลงรักมาตลอด…
“ขอบคุณนะคะ…”
ก่อนความอบอุ่นนั้นจะจุมพิตหนักแน่นลงยังพวงแก้มใส… ให้หัวใจดวงน้อยได้หลุดลอยหายไป
เสียงขอบคุณนั้น ได้ยินแต่เธอก็จับใจความไม่ได้… รู้เพียงแต่นาทีนี้หัวใจเธอได้ถูกขโมยไปแล้วโดยไม่มีทางจะหวนกลับคืน…
“นี่ นั่งดีดีนะนภัสสร ไม่งั้นจิ๋วจะกลับเลยนะ…”
คนตัวเล็กขู่เสียงเข้ม สองมือไล่จับมือปลาหมึกพัลวัน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าคนที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่ข้างๆจะหยุดความพยายามโอบกอด… นิวนั่งตาเยิ้ม สติแม้จะมีเหลืออยู่ไม่มาก แต่ก็มากพอที่จะเจ้าเล่ห์ใส่คนข้างๆ ศีรษะเอนพิงไหล่บางอย่างเนียนๆ…
เธอละมือจากแก้วแอลกฮอลล์มาสักพักแล้ว… ได้เข้าห้องน้ำ เอาแอลกฮอลล์ออกจากร่างบ้างก็พอให้สร่างขึ้นมาสักหน่อย เพียงแต่อยากจะออดอ้อนให้คนตรงนี้ดูแล ก็เท่านั้น…
ดี… จะกลับก็ดี เธอก็อยากกลับบ้านเต็มแก่ อดใจรอวินาทีที่จะได้นอนกอดกันจนเช้าแทบไม่ไหวแล้ว…
ส่งยิ้มทะเล้นไปยียวนคนตัวเล็กที่ดูจะหน้ายุ่งจนคิ้วขมวดเป็นปม…
จิ๋วส่งเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอ… ดวงตาคมหรี่เล็กมองจอมรวนเสียจนเข้มข้น นิ้วชี้คาดตรงยังใบหน้าอีกคนอย่างคาดโทษ
“นิว ถ้าไม่เลิกรุ่มร่าม คืนนี้ก็ไม่ต้องมานอนกับจิ๋วนะ…”
เสียงเข้มระดับแม็กซิมั่มจากคนตัวเล็กดูจะได้ผลดี… เมื่อคนเมาที่ทำตัวเนียนถึงกับเด้งศีรษะออกจากไหล่บางนั่นฉับไว มือที่เคยพัวพันก็คลายออกมาสงบสเงี่ยม เป็นแค่การคล้องแขนอยู่หลวมๆเท่านั้น… นิวยู่หน้าน้อยๆอย่างแหยงๆ แถมยังขยับตัวออกห่างเล็กน้อยพอให้อากาศได้พัดผ่าน สร้างรอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้าคนตัวเล็กได้อย่างไม่ยากเย็น
ค่ำคืนนี้เป็นคืนฉลองวันเกิดของเพื่อนรุ่นพี่ร่วมค่ายที่สนิทสนมกันพอสมควร นิวและจิ๋วถูกเชิญมาเป็นแขกคนสำคัญ แถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีทำแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดในอีกเกือบๆสามชั่วโมงข้างหน้า… ความต้องการของคนสองคนที่อยากจะกลับบ้านเต็มแก่ จึงถูกชะลอรั้งไว้ด้วยภาระและหน้าที่ ไม่งั้นนิวก็คงจะงอแงกลับบ้านไปนานแล้ว…
“ไอ้นิวววว ไอ้นิว…”
เติมไอ้นำหน้านั่นหมายถึงระดับความสนิทสนมกลมเกลียวที่ไม่ธรรมดา แต่นั่นก็ทำเอาคนได้ยินก่อนต้องนิ่วหน้าอย่างไม่ใคร่จะพอใจนัก จิ๋วหันไปมองต้นเสียงด้วยแววตาขุ่น… ผิดกับเจ้าของชื่อที่ยังนั่งหลับตาพริ้มฟังเพลงบีทแน่นๆอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว…
เพื่อนที่มาใหม่ยังคงมีรอยยิ้มเปื้อนอยู่เต็มสีหน้า เพราะความมืดและแสงที่มีแค่วับแวมจึงทำให้เขาไม่ทันเห็นแววขุ่นในตาของจิ๋ว ปากก็เพื่อนนิวจึงยังตะโกนเรียกชื่อพยางค์เดียวที่มีไอ้นำหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน…
เป็นหวินนั่นเองที่ยืนส่งเสียงเรียกนิวอยู่ในตอนนี้… หวินเป็นเพื่อนสมัยมหาลัยของนิวที่ยังติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน เธอเองก็เคยเห็นหน้าค่าตาอยู่บ่อยแต่ก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรนัก อาจเป็นเพราะเจอกันทีไร หวินก็เอาแต่เฮฮากับนิวอยู่เสมอ เธอกับหวินจึงไม่ได้มีเวลาจะมาเสวนาภาษาคนด้วยกันสักเท่าไร
หนุ่มตี๋ยืนเขย่งเก็งกอยป้องปากเรียก ข้ามหัวจิ๋วที่ยังนั่งนิ่งไม่สนใจ…
“ไอ้นิว… ไอ้นิวโว้ยยย”
แต่เจ้าของชื่อก็ยังคงนั่งหลับตานิ่งในท่าเดิม พยายามระงับอาการมึนหัวที่ตีขึ้นมาไม่หยุดหย่อน
จิ๋วชายตามองคนข้างตัวอย่างไม่ใคร่จะอารมณ์ดีเท่าไรนัก เห็นอีกคนยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ยิน ก็ตวัดสายตามองนายหวินอย่างขุ่นมัว ถ้าปล่อยให้เรียกต่อไป ก็คงจะชาติหน้านั่นล่ะที่นิวจะรู้…
มือเรียวแตะสัมผัสที่เรียวแขนอีกคนเบาๆ ด้วยรู้ว่านิวคงมึนๆจนอยากจะอยู่นิ่งๆเฉยๆมากกว่า
“นิว เพื่อนเรียกอ่ะ…”
“หืมม… ใครเรียกนิว”
อาจเป็นเพราะสัมผัสนี้ช่างคุ้นเคย… นิวถึงได้ลืมตาขึ้นมาอย่างฉับไวแถมยังส่งเสียงถามโดยไม่ใช้เวลาต้องประมวลผลสักนิด… คนตัวเล็กบุ้ยหน้าไปทิศที่มีเพื่อนนิวยืนยิ้มคอยอยู่ ให้คนที่มีอาการมึนๆได้โงหัวมองตาม ก่อนคิ้วคมจะผูกกันแน่นเมื่อพบว่าเป็นเพื่อนที่เพิ่งจะแบกเธอกลับมาส่งเมื่อสักครู่
ที่จริง เธอบอกไอ้หวินไปแล้วว่า หากไม่มีอะไรก็อย่ามารบกวนกันสักพักจนกว่าจะถึงเวลาสำคัญ เธอออยากมีเวลาอยู่กับจิ๋วบ้าง หลังจากที่ปล่อยผีจนต้องทิ้งคนตัวเล็กให้นั่งเหงาคนเดียวหลายชั่วโมง
“เอ้า ไอ้หวิน ว่าไง มีไร…”
สิ้นคำถาม รอยยิ้มกรุ้มกริ่มก็ผุดขึ้นบนหน้าตี๋ๆนั่นอย่างมีลับลมคมใน เพื่อนชายคนสนิทพุ่งตัวข้ามจิ๋ว มาคว้าเอาข้อมือเธอฉุดขึ้นสุดแรง ให้คนสติเหลือน้อยได้ยืนโงนๆเงนๆอย่างลำบากลำบน…
จิ๋วมองภาพนั้นด้วยอารมณ์ขุ่นคลั่ก… แต่ก็เก็บสีหน้าได้อย่างไม่น่าเกลียดนัก หวินเอียงหน้าเข้าใกล้นิว แถมยังเอามือป้องปากกระซิบกระซาบอะไรกันสองคน…
คนตัวเล็กแกล้งเสหน้ามองไปทางอื่น ทั้งที่ความสนใจทั้งหมดจมอยู่ตรงนี้จนไม่อาจมองเห็นอะไร…
“โอ๊ยหวิน มึงพูดดังดังดิ้ ไม่ได้ยินโว้ย”
ชั่วอึดใจเดียว คนกำลังมึนก็สะบัดตัวออกจากเพื่อนแล้วโวยวายเสียงดัง ใบหน้าสวยคมยุ่งเหยิงราวกับดูหงุดหงิดเต็มที… มีหวินที่ยืนข้างๆคอยหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ…
“ไหนมึงพูดไรหวิน ไม่ต้องกระซิบดิ๊ พูดเมาเลยมึงเจอใคร ดังๆ”
นิวออกคำสั่งอีกคนเสียงดัง คำสั่งที่ได้ยิ้มกรุ้มกริ่มมาเป็นการตอบแทนอีกครั้ง
หนุ่มตี๋หรี่ตามองเพื่อนสาวอย่างต้องการความมั่นใจ ก่อนจะส่งเสียงทวนถามอีกรอบ
“แน่ใจนะนภัสสร ว่าชัชวินสามารถพูดเรื่องนี้เสียงดังได้น่ะ…”
“เออ! บอกว่าได้ก็ได้ดิ”
จิ๋วแทบกลั้นหายใจรอ… เมื่อเห็นชายหนุ่มทำท่าจะเปิดปากบอกเรื่องนั้นออกมาเต็มที….
“วันนี้นนท์มาด้วยว่ะ กูเจอเขานั่งชนอยู่กะพี่หมออยู่โต๊ะข้างหน้า…”
ชื่อของบุคคลที่สามทำเอาทั้งนิวทั้งจิ๋วหน้าเปลี่ยนสี…
บรรยากาศที่ดูสนุกสนานกลับเงียบกร่อยไปโดยปริยาย สำหรับจิ๋วที่นั่งกอดอกซึม
ตั้งแต่วินาทีนั้น… เป็นต้นมา
NONT
ความคิดเห็น